ขาเหลียวตามก็เห็นว่าเจ้าหล่อนกําลังขึ้นไปรอในรถ ส่วนคนขับกําลังยกกระเป๋าเดินทางใส่ท้ายรถ
“วิ่ง! เจ้าลูกชาย” เขายกลูกชายขึ้นอุ้มแล้ววิ่งตรงไปยังรถแท็กซี่ พลางตะโกนเสียงดัง “แท็กซี่! อย่าเพิ่งออกรถ หยุด!”
พริมานั่งรออยู่ในรถตกใจกับเสียงเรียกที่ดังลั่น หญิงสาวมองผ่านกระจกก็เห็นสองพ่อลูกปีศาจวิ่งตรงมา
“บ้าเอ๊ย...หรือเขาจะรู้แล้วว่าเราคือคนที่เขาต้องมารับ” เธอรีบหันไปบอกคนขับ “ออกรถเลยค่ะ”
คนขับแท็กซี่คล้ายลังเล ขณะที่กําลังสตาร์ตรถ แองเจโล่ก็มาถึง เขาทุบกระจกรถ ก่อนจะเอ่ยเสียงเหี้ยมกับคนขับ “คิดดี ๆ คุณแท็กซี่...ถ้าคุณออกรถ คุณจะไม่ได้วิ่งรถทำมาหากินอีกเลย”
คนขับแท็กซี่ใบหน้าซีดเผือดเมื่อโดนข่มขู่ รีบทำไม้ทำมือบอกให้เธอลงจากรถ
“คะ คุณผู้หญิง ผมคงออกรถให้คุณไม่ได้...สามีกับลูกคุณมาตามแล้ว ผมไม่อยากมีเรื่องกับมาเฟีย”
“ดะ...เดี๋ยวสิ” เธออ้าปากเหวอ เมื่อจู่ ๆ ก็โดนไล่ลงจากรถ “ฉันไม่รู้จักสองคนนี้...”
“ผมไม่สน ผมไม่อยากมีเรื่อง ลงไปเถอะครับ” คนขับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เอาแต่พร่ำบอกให้พริมาลงจากรถไปเสียที
หญิงสาวก้าวลงจากรถอย่างหงุดหงิด มองคนขับที่รีบวิ่งไปเปิดท้ายรถแล้วเอากระเป๋ามาคืนให้ เขาโค้งตัวหนึ่งครั้งก่อนจะรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
เธอมองนายยักษ์ปีศาจที่ยืนกระดิกเท้ารออย่างกวนอารมณ์ ใบหน้าหล่อเหลาจ้องเขม็ง ส่วนเจ้าเด็กตัวป้อมที่โดนอุ้มอยู่ยิ้มยิงฟันแล้วร้องถามเสียงดัง “พี่สาว ทำไมถึงไม่ยอมบอกว่าเป็นเพื่อนน้าจีด้า คิดจะแอบหนีไปเองล่ะสิ”
นึกอยากจะเขกหัวเจ้าหนูตัวกลมที่รู้ทัน แต่อีกฝ่ายทายถูกแค่ครึ่งเดียว พริมาคิดจะบอกพวกเขาอยู่หรอกว่าคือคนที่กําลังตามหา ถ้าอีตายักษ์นั่นไม่พูดจาหยาบคายกับเธอก่อน
“ว่ายังไง คุณ...” เขาถามเสียงเข้ม ตาวาวเหมือนราชสีห์เตรียมตะปบหนู “ริจะเล่นบทโจรหนีตํารวจหรือยังไง”
โจรหนีมาเฟียมากกว่าย่ะ เธอแอบแย้งในใจ
“อะไร คุณนั่นแหละจะมาหาเรื่องอะไรฉันอีก” เธอโวยวายกลบเกลื่อน “บอกให้คนขับแท็กซี่ไล่ฉันลงจากรถ พูดจาข่มขู่ชาวบ้าน คุณมันมาเฟียชัด ๆ”
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้!” เขาตะคอก “คิดว่าโมโหกลบเกลื่อนแล้วผมจะปล่อยไปเหรอ คุณรู้ว่าพวกเรามารับคุณ แต่ยังมีหน้ามาเดินหนีไม่บอกกันว่าเป็นใครอีก คิดจะกวนโมโหกันหรือยังไง”
“ฉันเปล่านะ!” เธอเถียงกลับ “ฉันก็เพิ่งรู้ว่าเป็นพวกคุณก็ตอนที่เจ้าตัวกลมเข้ามาถามต่างหาก พอจะบอกว่าคนที่พวกคุณตามหาน่ะเป็นฉันเอง คุณก็ดันมาพูดจาหยาบคายหาเรื่องฉัน”
“อ้อ แสดงว่าผมผิด” เขาชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง หน้าตาถมึงทึง “แต่พอผมเดินออกมาคุณยังตะโกนไล่ตามหลังอยู่เลย คิดจะนั่งแท็กซี่ไปก่อนแล้วปล่อยให้ผมกับลูกชายเดินหาจนทั่วล่ะสิ?” เขาพูดอย่างรู้ทัน
“เอ่อ...” เธอชะงัก เมื่อถูกจี้ใจดํา
“เฮอะ ไม่รู้ว่าจีด้ามีเพื่อนแบบนี้ได้ยังไง” เขาส่ายหน้า เอ่ยตําหนิลอย ๆ “นิสัยแย่เหมือนเด็กสามขวบ...”
“นี่คุณ!” เธอยกมือเท้าเอวอย่างเหลืออด อีตายักษ์นี่ยังไง พูดจาตําหนิเหมือนเธอเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ
“หยุดพูด ผมจะไม่ใส่ใจกับนิสัยแย่ ๆ ของคุณอีก ผมมีหน้าที่มารับคุณ รีบเดินตามผมไปขึ้นรถได้แล้ว” เขาบอกอย่างเฉยชา หันหลังเดินดุ่ม ๆ โดยที่ยังอุ้มเจ้าตัวกลมอยู่
เธอรีบลากกระเป๋าเดินทางตามไป บ่นพึมพําด่าตามหลัง
อีตามาเฟียหน้ายักษ์! คนบ้า! ปีศาจ!
เกลียดขี้หน้าเขาจริง ๆ ให้ตาย ผู้ชายอะไร ปากจัด เผด็จการที่สุด!
หลังจากดึงเจ้าหนูเซโล่ออกมาจากใต้โต๊ะ ก็พาไปยังห้องนั่งเล่น ก่อนหาน้ำแข็งมาประคบเย็นให้ข้อมือที่เริ่มบวมแดง มือที่ขาวจัดจนเห็นรอยบวมแดงชัดเจน พอถูกประคบเย็นได้สักพักก็เริ่มจะเป็นสีเขียวช้ำวงไม่ใหญ่มาก“เจ็บมากไหมน่ะเรา” พริมาถามเบา ๆ“อูยยยย” เจ้าหนูสูดปากด้วยความเจ็บ “เจ็บสิฮะ พี่สาวสะบัดมาเต็มแรงแบบนั้น”“ก็ใครบอกให้เราเล่นพิเรนณ์ทำไมเล่า พี่ก็นึกว่า...” ผีน่ะสิก็เลยสะบัดเสียเต็มแรงขนาดนั้น หญิงสาวบ่นต่อท้ายในใจ“นึกว่าอะไรฮะ” เจ้าหนูเงยหน้าขึ้นมองตาแป๋ว“ไม่มีอะไรหรอกน่า หยุดพูดมากแล้วอยู่นิ่ง ๆ สิ” เธอแสร้งดุกลบเกลื่อน ก่อนเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย “แล้วเราไปอยู่ทำไมใต้โต๊ะกัน ไม่ได้ไปร้านกับน้าเราหรือยังไง”“ไม่ฮะ...” เจ้าหนูส่ายหน้าจนหัวสั่นหัวคลอน “เซโล่ไม่อยากไป ก็เลยขอน้าจีด้าอยู่ที่บ้าน เซโล่ไม่อยากไปนั่งเฝ้าร้าน เบื่อ”“เบื่อ?” เธอมองใบหน้ากลม ๆ ที่เม้มริมฝีปาก ท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยดี “เป็นอะไรน่ะเรา ถ้าทางเคร่งเครียด ตัวแค่นี้รู้จักเบื่อเหมือนผู้ใหญ่แล้วเหรอ”“ก็มันเบื่อจริง ๆ นี่ฮะ” เจ้าตัวเล็กทำหน้ายู่ยี่ แล้วบ่น “น้าจีด้าก็เอาแต่ทำงานให้เซโล่นั่งเล่นอยู่แต่ในร้าน เซโล่เ
จ๋อม...เสียงวัตถุที่ตกกระทบผืนน้ำ ทำให้พริมายืนตัวแข็งและอ้าปากค้างอย่างนึกไม่ถึง ส่วนคนโยนมีสีหน้าไม่ยินดียินร้ายจีด้ายกมือขึ้นตบหน้าผากเบา ๆ ก่อนจะต่อว่าญาติผู้พี่ด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ “แองจี้! พี่ทำเกินไปแล้วนะ”แองเจโล่ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ก็แค่ซื้อใหม่ จะเอาตัวที่ดีที่สุดเลยก็ได้ พี่ไม่ต้องการให้ลบเพราะถ้าตุกติกทีหลังจะทำยังไง ทำลายไปเลยง่ายกว่า จีด้าถามเพื่อนตัวเองก็แล้วกันว่าต้องการเท่าไร จะเพิ่มค่าเสียเวลาสักนิดพี่ก็ไม่มีปัญหา...”“พี่นี่มัน...” จีด้าเหลือทนตั้งท่าจะต่อว่าชุดใหญ่ ทว่าเจ้าของกล้องที่ยืนช็อกตัวแข็งบัดนี้เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะ จับข้อมือเธอบอกเป็นเชิงให้หยุดต่อเถียงกัน“ไม่เป็นไรจีด้า”“เห็นไหม เจ้าตัวเขายังบอกว่าไม่เป็นไร” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ ก่อนจะหันไปเอ่ยถามผู้หญิงปากจัดที่ตอนนี้ยืนหน้าซีด สีหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ข้างญาติสาว “แล้วจะเอาค่าเสียหายเท่าไรก็รีบบอกมา...”“ฉันไม่ต้องการเงิน” เธอบอกใบหน้าที่ซีดขาวเพราะตกใจและเสียใจที่กล้องแสนรักถูกโยนไปต่อหน้าต่อตาเชิดขึ้น สองมือกําหมัดแน่นเพราะอารมณ์คุกกรุ่นที่อยู่ในอก“ไม่เอาเงิน?” เขาเลิกคิ้วอย่างสงสัย
เขาไม่ใส่ใจท่าทางฉุนเฉียวของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตภรรยา โน้มตัวลงแล้วอุ้มลูกชายขึ้นแนบอก เซโล่มองเขาสลับกับวาเลนเซียด้วยแววตาสับสน เพราะไม่อยากมีปากเสียงกับอดีตภรรยาต่อหน้าลูกชาย แองเจโล่จึงเรียกโซอี้ เลขาคนสนิทที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ไม่ห่าง ให้มารับตัวลูกชายไปพักผ่อนรอในเรือส่วนตัว ก่อนจะหันกลับมาบอกหญิงสาวเจ้าของเรือนร่างเซ็กซี่ที่ยืนตัวสั่นเพราะความโกรธเสียงเย็น“คุณได้เที่ยวกับลูกชายอย่างที่อ้างสมใจมาทั้งวันแล้วนี่ หมดเวลาแล้วก็ไปซะ แล้วอย่ามาทำท่ากระแซะยั่วยวนอะไรผมอีก ถึงไม่อายตัวเองก็ควรจะอายพวกนักข่าวที่แอบตามมา อ้อ ไม่ใช่แอบตามสิ” เขายิ้มเยาะ “อายพวกนักข่าวที่คุณเชิญมาทำข่าวบ้าง มันน่าเกลียด...เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณไม่ใช่ภรรยาของผม ก็แค่อดีตที่ผมไม่มีวันหันหลังกลับไป มีแต่จะผลักใสให้ไปไกล ๆ เพราะขยะแขยงเท่านั้น”“แอล! คุณมัน…”เขาทำท่าจะเดินหนีเสียงกรีดร้องอย่างขัดใจของนางแบบชื่อดัง แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามีคนแอบมอง สัญชาตญาณบอกให้หันไปยังทิศทางตรงกันข้าม เขาเห็นผู้หญิงสองคนยืนจ้องมองเขาอยู่ไกล ๆ ใกล้ท่าเรือที่รอรับผู้โดยสาร ดวงตาคมกล้าเห็นว่าเป็นญาติผ
เมืองโคโมนั้นเป็นเมืองที่งดงาม บ้านเรือนปลูกสร้างในสไตล์วิลล่าและบ้านพักตากอากาศของผู้มีอันจะกิน สิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้มาเที่ยวยังสถานที่นี้ก็คือ อากาศที่บริสุทธิ์และตัวทะเลสาบที่เรียกว่าเป็นหนึ่งในทะเทสาบที่งดงามของยุโรปและใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลีเมื่อเรือจอดเทียบท่า เมืองที่สองสาวแวะหลังจากล่องเรือก็คือเมืองเบลลาโจ้ (Bellajo) เบลลาโจ้เป็นเมืองเล็ก ๆ อีกเมืองหนึ่งที่อยู่ติดทะเลสาบโคโม ไม่ไกลจากพรมแดนสวิตเซอร์แลนด์พริมาเก็บภาพเมืองฝั่งตรงข้ามที่ถูกขวางกั้นด้วยทะเลสาบสีสวย ริมฝั่งแม่น้ำมีหมู่บ้านเล็ก ๆ บ้านเรือนสีสันสดใสที่ปลูกสร้างเรียงรายแต่กลับดูเข้ากันและกลมกลืนกับทะเทสาบสีน้ำเงินเข้ม ป่าสีเขียวได้อย่างประหลาดทัศนียภาพที่เธอเพิ่งเคยเห็นทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ จึงไม่แปลกใจที่เพื่อนสาวอย่างจีด้าถึงมีบ้านพักตากอากาศที่โคโม ด้วยบรรยากาศดี เงียบสงบ ไหนจะความสวยงามของเทือกเขาสลับซับซ้อนที่โอบล้อมทะเลสาบเอาไว้ เมืองนี้ถือเป็นเมืองสําหรับพักผ่อน เพราะแค่เดินเล่นรอบเมือง ถ่ายรูปริมทะเลสาบก็ถือว่าเป็นการท่องเที่ยวอย่างหนึ่งเบลลาโจ้เป็นเมืองที่ต้องเดินขึ้นไปตามถนนเล็ก ๆ ที่สองฝั่งเป็นตึก
พริมาล้มตัวนอนหงายอยู่บนเตียงใหญ่ บิดขี้เกียจไปมาด้วยความเมื่อยขบเพราะนั่งเครื่องยาวติดกันหลายชั่วโมง และกว่าจะถึงวิลล่าก็ต้องนั่งรถอีกชั่วโมงกว่า ๆห้องที่จีด้าจัดให้เธอพักผ่อนอยู่ชั้นสาม บ้าน ไม่สิ คฤหาสน์หลังนี้มีห้องหับเกือบยี่สิบห้อง แต่เธอไม่ทันได้เยี่ยมชมบ้านหลังใหญ่ตามคําเชิญของเพื่อนหรอก เพราะเหนื่อยและเพิ่งหงุดหงิดกับผู้ชายปากสุนัขจนเกือบจะมีเรื่องกันในรถ ถ้าหากเพื่อนเธอไม่เปิดประตูรถมาเจอเข้าเสียก่อน พออีกฝ่ายเห็นจีด้าก็รีบปล่อยคอเสื้อที่ดึงกระชากไว้ทันควันก่อนจะอุ้มลูกตัวเองแล้วหนีไปดุ่ม ๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นห้องที่เธออยู่ดูเก่าแก่ เตียงหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ผ้าม่านสีทึบ เครื่องเรือนโบราณ บรรยากาศที่เงียบสงัด ให้ความรู้สึกเหมือนคฤหาสน์ในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง ที่มีวิญญาณลึกลับคอยอาฆาต หลอกหลอนคนในบ้าน จินตนาการเริ่มฟุ้งซ่านอย่าให้มีอะไรโผล่มาใต้เตียงนะ พี่ขอร้อง!ก๊อก ๆเสียงเคาะประตูทำให้เธอสะดุ้งสุดตัวหลุดจากจินตนาการอันล้ำเลิศ หญิงสาวรีบเดินไปเปิดประตูห้องก็เห็นว่าเป็นจีด้าจีด้าก้าวเข้ามาในห้อง ทิ้งตัว
วิลล่าส่วนตัวของเซซาโน่อยู่ติดกับริมทะเลสาบโคโม ดูภายนอกใหญ่โตอลังการ คฤหาสน์หลังงามตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ดูงดงามและหรูหรา ตัวคฤหาสน์มีพื้นที่กว้างขวาง สองข้างทางล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เรียงราย ให้บรรยากาศถึงความเป็นธรรมชาติ แม้ยังไม่ได้ลงจากรถไปสัมผัสก็รู้ว่าอากาศดี วิวทิวทัศน์เยี่ยมขนาดไหนพริมานั่งตัวลีบอยู่ในรถลีมูซีนที่กําลังเคลื่อนตัวเข้าในบริเวณวิลล่า หญิงสาวเผลออ้าปากค้างและนึกอยู่ในใจ เธอไม่นึกว่าเพื่อนจะรวยขนาดนี้ ด้วยรู้แต่เพียงว่าจีด้าเป็นลูกสาวเจ้าของร้านเครื่องประดับในอิตาลี และที่มาเรียนต่อด้านการออกแบบอัญมณีก็เพราะจะกลับมาบริหารกิจการของครอบครัว แต่เมื่อได้ฟังจากเจ้าเด็กตัวกลมช่างพูด จีด้า เซซาโน่ คือทายาทคนเดียวของ เจราล เซซาโน่ นักธุรกิจอัญมณีที่มีร้านเครื่องประดับหลายสาขาทั่วยุโรปตลอดเวลาที่คบกัน จีด้าเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอเสมอมา เพื่อนสาวไม่เคยโอ้อวดว่ามีฐานะร่ำรวยขนาดไหน ถึงแม้นิสัยจะแตกต่างกันสุดขั้วแต่จีด้าคือเพื่อนที่พริมาคบได้นานที่สุด เพราะเธอเป็นคนที่ทำอะไรตามอารมณ์และความรู้สึกตัวเอง ไม่ค่อยจะแคร์คนรอบข้างเท่าไรจนเพื่อนสาวบอกบ่อย ๆ ว่าเป็นผู้หญิง