หลังจากดึงเจ้าหนูเซโล่ออกมาจากใต้โต๊ะ ก็พาไปยังห้องนั่งเล่น ก่อนหาน้ำแข็งมาประคบเย็นให้ข้อมือที่เริ่มบวมแดง มือที่ขาวจัดจนเห็นรอยบวมแดงชัดเจน พอถูกประคบเย็นได้สักพักก็เริ่มจะเป็นสีเขียวช้ำวงไม่ใหญ่มาก
“เจ็บมากไหมน่ะเรา” พริมาถามเบา ๆ
“อูยยยย” เจ้าหนูสูดปากด้วยความเจ็บ “เจ็บสิฮะ พี่สาวสะบัดมาเต็มแรงแบบนั้น”
“ก็ใครบอกให้เราเล่นพิเรนณ์ทำไมเล่า พี่ก็นึกว่า...” ผีน่ะสิก็เลยสะบัดเสียเต็มแรงขนาดนั้น หญิงสาวบ่นต่อท้ายในใจ
“นึกว่าอะไรฮะ” เจ้าหนูเงยหน้าขึ้นมองตาแป๋ว
“ไม่มีอะไรหรอกน่า หยุดพูดมากแล้วอยู่นิ่ง ๆ สิ” เธอแสร้งดุกลบเกลื่อน ก่อนเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย “แล้วเราไปอยู่ทำไมใต้โต๊ะกัน ไม่ได้ไปร้านกับน้าเราหรือยังไง”
“ไม่ฮะ...” เจ้าหนูส่ายหน้าจนหัวสั่นหัวคลอน “เซโล่ไม่อยากไป ก็เลยขอน้าจีด้าอยู่ที่บ้าน เซโล่ไม่อยากไปนั่งเฝ้าร้าน เบื่อ”
“เบื่อ?” เธอมองใบหน้ากลม ๆ ที่เม้มริมฝีปาก ท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยดี “เป็นอะไรน่ะเรา ถ้าทางเคร่งเครียด ตัวแค่นี้รู้จักเบื่อเหมือนผู้ใหญ่แล้วเหรอ”
“ก็มันเบื่อจริง ๆ นี่ฮะ” เจ้าตัวเล็กทำหน้ายู่ยี่ แล้วบ่น “น้าจีด้าก็เอาแต่ทำงานให้เซโล่นั่งเล่นอยู่แต่ในร้าน เซโล่เบื่อ แล้วก็คิดถึงแด๊ดดี้ด้วย แด๊ดดี้ทิ้งเซโล่ ฮือ ๆ”
จากบ่นกลายเป็นร้องไห้โฮจนเธอถึงกับอ้าปากเหวอ เธอยิ่งปลอบเด็กไม่เก่งเสียด้วย เลี้ยงเด็กก็ไม่เป็น จึงตัดสินใจจะโทรเรียกเพื่อนให้มารับตัวไปดีกว่า
“นี่ อย่าร้องสิ พี่ไม่ชอบเด็กขี้แย พี่ปลอบไม่เป็นรู้ไหม เอางี้ เดี๋ยวจะโทรเรียกจีด้าให้มารับนะ ถ้าเซโล่บอกว่าเบื่อเดี๋ยวน้าเราก็คงพาเที่ยวเองแหละ...”
“ไม่เอา! ฮือ เซโล่จะหาแด๊ด เซโล่คิดถึงแด๊ดดี้ ฮือ ๆ เซโล่ไม่ไป ฮือ ๆ”
“โอ๊ย จะบ้าตาย...” พริมายกมือขึ้นตบหน้าผากเมื่ออีกฝ่ายดูท่าจะไม่ยอมฟังที่เธอพูด เอาแต่ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลจนแก้มแดงไปหมด “โอเค ๆ พี่จะไม่โทรบอกให้จีด้ากลับมารับก็ได้ แต่อยู่กับพี่อย่าทำตัววุ่นวาย จะดูการ์ตูนเล่นของเล่นก็เล่นไป เข้าใจไหม”
ดวงตากลมโตที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาเงยขึ้นมาทันทีทันใด เจ้าตัวกลมสูดน้ำมูกเสียงดังแล้วตอบเสียงเครือ
“จะ... จริงเหรอฮะ”
“จริงสิ ถ้าไม่อยากไปก็หยุดร้อง ไหน ๆ พี่ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว บ้านนี้ก็ไม่มีคนอยู่นอกจากเราสองคนกับแม่บ้าน” เธอบอกอย่างตัดสินใจได้ “รู้แบบนี้ก็เลิกร้องไห้เสียที จะยอมเป็นพี่เลี้ยงให้วันหนึ่งก็แล้วกัน ดูสิ... หน้าตาไม่หล่อมาร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลแบบนี้ยิ่งแย่ไปใหญ่”
“ใครบอกฮะ เซโล่หล่อจะตาย คุณพ่อก็หล่อนะฮะ” เจ้าตัวป้อมแทรกขึ้นทันควัน ท่าทางงอแงหายเป็นปลิดทิ้ง “เซโล่เหมือนพ่อ เพราะฉะนั้นเซโล่หล่อม้ากมาก...นะฮะ”
เธอเผลอกลอกตา พอพูดแซวผิดไปนิดเถียงจนลืมร้องไห้ สุดท้ายก็ไม่อยากปลอบเจ้าขี้แยจนเหนื่อยอีกจึงตอบอย่างเอาใจ
“จ้า พ่อรูปหล่อ เอาที่สบายใจเลยจ้ะ”
ท้องฟ้าในช่วงบ่ายอากาศดูปลอดโปร่ง ไม่ร้อนไม่หนาว เห็นก้อนเมฆรูปร่างแปลกประหลาดชวนให้จินตนาการ ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่หญิงสาวรูปร่างผอมบางกับเด็กชายรูปร่างกลมหุ่นน่าฟัดพากันนอนหงายบนทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ชักชวนกันมองท้องฟ้า แล้วถกเถียงเรื่องรูปร่างของก้อนเมฆ
“พี่สาว ดูนู้นสิฮะ” เจ้าตัวกลมชี้ให้ดูก้อนเมฆที่เคลื่อนผ่านช้า ๆ “เหมือนคุกกี้ช็อกโกแลตชิปด้วย”
เธอมองเจ้าเมฆกลม ๆ มีเพ่งมองยังไงก็จินตนาการไม่ออกว่าจะเหมือนอะไร “คุกกี้?”
“ใช่ฮะ ก้อนข้าง ๆ นั่นก็อมยิ้มลูกกวาดแท่งใหญ่!” เซโล่ยกมือขึ้นแล้ววาดแขนแสดงให้เห็นว่าใหญ่แค่ไหน
“อืม...” เธอมองเจ้าก้อนเมฆ ที่คล้าย คุกกี้ และ อมยิ้มลูกกวาด ก่อนจะเลยตามเลย “จ้ะ เหมือน”
“ใช่ม้า” เจ้าตัวกลมทำเสียงดีใจที่มีคนเห็นด้วย “เห็นขนมก้อนเมฆแล้วเซโล่หิวจังฮะพี่สาว”
พูดจบเจ้าตัวกลมที่นอนราบอยู่ข้าง ๆ ก็ยกมือขึ้นลูบพุงน้อย ๆ
“งั้นเราไปดูในครัวกันว่ามีอะไรทานบ้าง” เธอบอก ก่อนจะมองเมฆที่จับตัวเป็นก้อน ๆ แล้วนึกขึ้น เพราะเมื่อช่วงกลางวันเจ้าตัวก็เพิ่งกินพาสต้าไปหยก ๆ มานอนเล่นไม่ทันไรหิวอีกแล้ว “น้าเราคงซื้อขนมติดตู้ไว้บ้างล่ะ หลานชายกินเก่งแบบนี้”
“เย้” เซโล่ร้องลั่นอย่างดีใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งปร๋อเข้าไปในบ้าน พริมามองตามแผ่นหลังเล็ก ๆ ด้วยความเอ็นดู
ไม่แปลกใจที่แก้มยุ้ย พุงป่องเสียขนาดนั้น เพราะแค่เธอชวนนอนเล่นมองท้องฟ้า พ่อคุณก็เอาแต่จินตนาการก้อนเมฆเป็นของกิน เป็นขนมบ้างล่ะ จินตนาการช่างล้ำเลิศเสียจริง
ดูเมฆเพลิน ๆ ยังหิว...
เชื่อเขาเลย!
หลังจากดึงเจ้าหนูเซโล่ออกมาจากใต้โต๊ะ ก็พาไปยังห้องนั่งเล่น ก่อนหาน้ำแข็งมาประคบเย็นให้ข้อมือที่เริ่มบวมแดง มือที่ขาวจัดจนเห็นรอยบวมแดงชัดเจน พอถูกประคบเย็นได้สักพักก็เริ่มจะเป็นสีเขียวช้ำวงไม่ใหญ่มาก“เจ็บมากไหมน่ะเรา” พริมาถามเบา ๆ“อูยยยย” เจ้าหนูสูดปากด้วยความเจ็บ “เจ็บสิฮะ พี่สาวสะบัดมาเต็มแรงแบบนั้น”“ก็ใครบอกให้เราเล่นพิเรนณ์ทำไมเล่า พี่ก็นึกว่า...” ผีน่ะสิก็เลยสะบัดเสียเต็มแรงขนาดนั้น หญิงสาวบ่นต่อท้ายในใจ“นึกว่าอะไรฮะ” เจ้าหนูเงยหน้าขึ้นมองตาแป๋ว“ไม่มีอะไรหรอกน่า หยุดพูดมากแล้วอยู่นิ่ง ๆ สิ” เธอแสร้งดุกลบเกลื่อน ก่อนเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย “แล้วเราไปอยู่ทำไมใต้โต๊ะกัน ไม่ได้ไปร้านกับน้าเราหรือยังไง”“ไม่ฮะ...” เจ้าหนูส่ายหน้าจนหัวสั่นหัวคลอน “เซโล่ไม่อยากไป ก็เลยขอน้าจีด้าอยู่ที่บ้าน เซโล่ไม่อยากไปนั่งเฝ้าร้าน เบื่อ”“เบื่อ?” เธอมองใบหน้ากลม ๆ ที่เม้มริมฝีปาก ท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยดี “เป็นอะไรน่ะเรา ถ้าทางเคร่งเครียด ตัวแค่นี้รู้จักเบื่อเหมือนผู้ใหญ่แล้วเหรอ”“ก็มันเบื่อจริง ๆ นี่ฮะ” เจ้าตัวเล็กทำหน้ายู่ยี่ แล้วบ่น “น้าจีด้าก็เอาแต่ทำงานให้เซโล่นั่งเล่นอยู่แต่ในร้าน เซโล่เ
จ๋อม...เสียงวัตถุที่ตกกระทบผืนน้ำ ทำให้พริมายืนตัวแข็งและอ้าปากค้างอย่างนึกไม่ถึง ส่วนคนโยนมีสีหน้าไม่ยินดียินร้ายจีด้ายกมือขึ้นตบหน้าผากเบา ๆ ก่อนจะต่อว่าญาติผู้พี่ด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ “แองจี้! พี่ทำเกินไปแล้วนะ”แองเจโล่ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ก็แค่ซื้อใหม่ จะเอาตัวที่ดีที่สุดเลยก็ได้ พี่ไม่ต้องการให้ลบเพราะถ้าตุกติกทีหลังจะทำยังไง ทำลายไปเลยง่ายกว่า จีด้าถามเพื่อนตัวเองก็แล้วกันว่าต้องการเท่าไร จะเพิ่มค่าเสียเวลาสักนิดพี่ก็ไม่มีปัญหา...”“พี่นี่มัน...” จีด้าเหลือทนตั้งท่าจะต่อว่าชุดใหญ่ ทว่าเจ้าของกล้องที่ยืนช็อกตัวแข็งบัดนี้เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะ จับข้อมือเธอบอกเป็นเชิงให้หยุดต่อเถียงกัน“ไม่เป็นไรจีด้า”“เห็นไหม เจ้าตัวเขายังบอกว่าไม่เป็นไร” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ ก่อนจะหันไปเอ่ยถามผู้หญิงปากจัดที่ตอนนี้ยืนหน้าซีด สีหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ข้างญาติสาว “แล้วจะเอาค่าเสียหายเท่าไรก็รีบบอกมา...”“ฉันไม่ต้องการเงิน” เธอบอกใบหน้าที่ซีดขาวเพราะตกใจและเสียใจที่กล้องแสนรักถูกโยนไปต่อหน้าต่อตาเชิดขึ้น สองมือกําหมัดแน่นเพราะอารมณ์คุกกรุ่นที่อยู่ในอก“ไม่เอาเงิน?” เขาเลิกคิ้วอย่างสงสัย
เขาไม่ใส่ใจท่าทางฉุนเฉียวของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตภรรยา โน้มตัวลงแล้วอุ้มลูกชายขึ้นแนบอก เซโล่มองเขาสลับกับวาเลนเซียด้วยแววตาสับสน เพราะไม่อยากมีปากเสียงกับอดีตภรรยาต่อหน้าลูกชาย แองเจโล่จึงเรียกโซอี้ เลขาคนสนิทที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ไม่ห่าง ให้มารับตัวลูกชายไปพักผ่อนรอในเรือส่วนตัว ก่อนจะหันกลับมาบอกหญิงสาวเจ้าของเรือนร่างเซ็กซี่ที่ยืนตัวสั่นเพราะความโกรธเสียงเย็น“คุณได้เที่ยวกับลูกชายอย่างที่อ้างสมใจมาทั้งวันแล้วนี่ หมดเวลาแล้วก็ไปซะ แล้วอย่ามาทำท่ากระแซะยั่วยวนอะไรผมอีก ถึงไม่อายตัวเองก็ควรจะอายพวกนักข่าวที่แอบตามมา อ้อ ไม่ใช่แอบตามสิ” เขายิ้มเยาะ “อายพวกนักข่าวที่คุณเชิญมาทำข่าวบ้าง มันน่าเกลียด...เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณไม่ใช่ภรรยาของผม ก็แค่อดีตที่ผมไม่มีวันหันหลังกลับไป มีแต่จะผลักใสให้ไปไกล ๆ เพราะขยะแขยงเท่านั้น”“แอล! คุณมัน…”เขาทำท่าจะเดินหนีเสียงกรีดร้องอย่างขัดใจของนางแบบชื่อดัง แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามีคนแอบมอง สัญชาตญาณบอกให้หันไปยังทิศทางตรงกันข้าม เขาเห็นผู้หญิงสองคนยืนจ้องมองเขาอยู่ไกล ๆ ใกล้ท่าเรือที่รอรับผู้โดยสาร ดวงตาคมกล้าเห็นว่าเป็นญาติผ
เมืองโคโมนั้นเป็นเมืองที่งดงาม บ้านเรือนปลูกสร้างในสไตล์วิลล่าและบ้านพักตากอากาศของผู้มีอันจะกิน สิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้มาเที่ยวยังสถานที่นี้ก็คือ อากาศที่บริสุทธิ์และตัวทะเลสาบที่เรียกว่าเป็นหนึ่งในทะเทสาบที่งดงามของยุโรปและใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลีเมื่อเรือจอดเทียบท่า เมืองที่สองสาวแวะหลังจากล่องเรือก็คือเมืองเบลลาโจ้ (Bellajo) เบลลาโจ้เป็นเมืองเล็ก ๆ อีกเมืองหนึ่งที่อยู่ติดทะเลสาบโคโม ไม่ไกลจากพรมแดนสวิตเซอร์แลนด์พริมาเก็บภาพเมืองฝั่งตรงข้ามที่ถูกขวางกั้นด้วยทะเลสาบสีสวย ริมฝั่งแม่น้ำมีหมู่บ้านเล็ก ๆ บ้านเรือนสีสันสดใสที่ปลูกสร้างเรียงรายแต่กลับดูเข้ากันและกลมกลืนกับทะเทสาบสีน้ำเงินเข้ม ป่าสีเขียวได้อย่างประหลาดทัศนียภาพที่เธอเพิ่งเคยเห็นทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ จึงไม่แปลกใจที่เพื่อนสาวอย่างจีด้าถึงมีบ้านพักตากอากาศที่โคโม ด้วยบรรยากาศดี เงียบสงบ ไหนจะความสวยงามของเทือกเขาสลับซับซ้อนที่โอบล้อมทะเลสาบเอาไว้ เมืองนี้ถือเป็นเมืองสําหรับพักผ่อน เพราะแค่เดินเล่นรอบเมือง ถ่ายรูปริมทะเลสาบก็ถือว่าเป็นการท่องเที่ยวอย่างหนึ่งเบลลาโจ้เป็นเมืองที่ต้องเดินขึ้นไปตามถนนเล็ก ๆ ที่สองฝั่งเป็นตึก
พริมาล้มตัวนอนหงายอยู่บนเตียงใหญ่ บิดขี้เกียจไปมาด้วยความเมื่อยขบเพราะนั่งเครื่องยาวติดกันหลายชั่วโมง และกว่าจะถึงวิลล่าก็ต้องนั่งรถอีกชั่วโมงกว่า ๆห้องที่จีด้าจัดให้เธอพักผ่อนอยู่ชั้นสาม บ้าน ไม่สิ คฤหาสน์หลังนี้มีห้องหับเกือบยี่สิบห้อง แต่เธอไม่ทันได้เยี่ยมชมบ้านหลังใหญ่ตามคําเชิญของเพื่อนหรอก เพราะเหนื่อยและเพิ่งหงุดหงิดกับผู้ชายปากสุนัขจนเกือบจะมีเรื่องกันในรถ ถ้าหากเพื่อนเธอไม่เปิดประตูรถมาเจอเข้าเสียก่อน พออีกฝ่ายเห็นจีด้าก็รีบปล่อยคอเสื้อที่ดึงกระชากไว้ทันควันก่อนจะอุ้มลูกตัวเองแล้วหนีไปดุ่ม ๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นห้องที่เธออยู่ดูเก่าแก่ เตียงหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ผ้าม่านสีทึบ เครื่องเรือนโบราณ บรรยากาศที่เงียบสงัด ให้ความรู้สึกเหมือนคฤหาสน์ในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง ที่มีวิญญาณลึกลับคอยอาฆาต หลอกหลอนคนในบ้าน จินตนาการเริ่มฟุ้งซ่านอย่าให้มีอะไรโผล่มาใต้เตียงนะ พี่ขอร้อง!ก๊อก ๆเสียงเคาะประตูทำให้เธอสะดุ้งสุดตัวหลุดจากจินตนาการอันล้ำเลิศ หญิงสาวรีบเดินไปเปิดประตูห้องก็เห็นว่าเป็นจีด้าจีด้าก้าวเข้ามาในห้อง ทิ้งตัว
วิลล่าส่วนตัวของเซซาโน่อยู่ติดกับริมทะเลสาบโคโม ดูภายนอกใหญ่โตอลังการ คฤหาสน์หลังงามตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ดูงดงามและหรูหรา ตัวคฤหาสน์มีพื้นที่กว้างขวาง สองข้างทางล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เรียงราย ให้บรรยากาศถึงความเป็นธรรมชาติ แม้ยังไม่ได้ลงจากรถไปสัมผัสก็รู้ว่าอากาศดี วิวทิวทัศน์เยี่ยมขนาดไหนพริมานั่งตัวลีบอยู่ในรถลีมูซีนที่กําลังเคลื่อนตัวเข้าในบริเวณวิลล่า หญิงสาวเผลออ้าปากค้างและนึกอยู่ในใจ เธอไม่นึกว่าเพื่อนจะรวยขนาดนี้ ด้วยรู้แต่เพียงว่าจีด้าเป็นลูกสาวเจ้าของร้านเครื่องประดับในอิตาลี และที่มาเรียนต่อด้านการออกแบบอัญมณีก็เพราะจะกลับมาบริหารกิจการของครอบครัว แต่เมื่อได้ฟังจากเจ้าเด็กตัวกลมช่างพูด จีด้า เซซาโน่ คือทายาทคนเดียวของ เจราล เซซาโน่ นักธุรกิจอัญมณีที่มีร้านเครื่องประดับหลายสาขาทั่วยุโรปตลอดเวลาที่คบกัน จีด้าเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอเสมอมา เพื่อนสาวไม่เคยโอ้อวดว่ามีฐานะร่ำรวยขนาดไหน ถึงแม้นิสัยจะแตกต่างกันสุดขั้วแต่จีด้าคือเพื่อนที่พริมาคบได้นานที่สุด เพราะเธอเป็นคนที่ทำอะไรตามอารมณ์และความรู้สึกตัวเอง ไม่ค่อยจะแคร์คนรอบข้างเท่าไรจนเพื่อนสาวบอกบ่อย ๆ ว่าเป็นผู้หญิง