LOGIN“ร้อง ร้องอีก ร้องให้ดังนะมึง ไม่ดังกูทุบ!”
เสียงห้วนห้าวเพิ่งแตกสาวของเพื่อนทำตะวันสะอื้นฮัก จากร้องไห้ไม่ลืมหูลืมตา หญิงสาวหน้าเหลอหลารีบหันมองซ้ายขวา
ตอนนี้พวกหล่อนนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ข้างลานกิจกรรมของคณะศิลปกรรมศาสตร์ โต๊ะที่นั่งก็เป็นที่ประจำของพวกเธอเด็กสาขาแฟชั่นดิไซน์ชั้นปีที่สาม
“สะ เสียงดังทำไมอีบ้า อายเขา” ตะวันเสียงแผ่วพลางสะอึกสะอื้น เมื่อสายตาหลายคู่หันมองอย่างสนใจ พยายามกัดปากกลั้นเสียงร้องเต็มที่ กะจะร้องไห้เงียบ ๆ เหมือนนางเอกในนิยาย ไม่ให้ใครรู้เห็นนอกจากเพื่อน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะอีเพื่อนตัวดีกำลังประจานเธอต่อหน้าสาธารณชน!
“อายห่าอะไร ทีวิ่งตามผู้ชายไม่รู้จักอายนะมึงอะ!” จูลี่ เพื่อนกระเทยแต่งหญิงร่างยักษ์ไว้หนวดเคราชี้หน้าด่าต่อ ก่อนจะหันไปหาเหล่าประชาชีที่รอกินเผือกแล้วแหวใส่
“หูผึ่งอะไรกันขนาดนั้น มานั่งฟังบนตักนี่เลยไหม มาไหมค้า...” พูดไม่ทันจบคำสายตาเหล่านั้นก็หันกลับ เลิกสนใจ จูลี่จึงหันมาทั้งบ่นทั้งก่นด่าตะวันต่ออีกยกใหญ่
“เพื่อนเสียใจอยู่นะจูลี่ อย่าตะคอกเพื่อนแบบนี้สิ” แจ็กกี้จีบปากจีบคอเอ่ยปรามเสียงหวาน พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้หินอ่อน ปืนขึ้นโต๊ะแล้วคว้ากิ่งไม้ที่พอจะเอื้อมถึง หักมาสด ๆ แล้วรูดใบออกจนเกลี้ยงก่อนจะยื่นให้จูลี่
“อะ เอาไป ไม่ต้องด่าให้เปลืองน้ำลายแต่ตีมันให้ตายห่าไปเลยค่ะ!” แจ็กกี้เท้าสะเอวด่าอย่างเช่นทุกครั้งที่ตะวันร้องไห้เพราะผู้ชายคนเดิมซ้ำ ๆ
“ทนได้ทนดี ทนเจ็บกีฟรีอยู่นั่นแหละทั้งปีทั้งชาติ เจ็บซ้ำเจ็บซาก ไม่เจ็บกีเปล่าแต่เจ็บใจอีกต่างหาก น่าเบื่อมากอิดกทง!” พูดจบก็ทำท่าเกี่ยวผมทัดหูแล้วทิ้งตัวลงนั่งประหนึ่งผมยาวถึงกลางหลัง
“เลิกคบเลยไหมมึง กูก็เบื่อหน้าแม่งแล้วเหมือนกัน” จูลี่สะกิดถาม แจ็กกี้พยักหน้ารับทั้งที่หางตายังค้อนมองตะวัน แล้วทั้งคู่ก็แปะมือกัน ร่วมผสมโรงทั้งตอกย้ำและกระทืบซ้ำจนคนเจ็บช้ำรักแทบกระอักเลือด
“ฮือ... พวกมึงอะ! ให้ช่วยปลอบใจไม่ใช่ให้มาด่าซ้ำ!” เห็นท่าทางเพื่อนสาวมีงูทั้งคู่แล้วก็ไม่รู้จะร้องไห้หรือจะขำก่อนดี เธอไม่โกรธเพราะโดนแบบนี้ประจำเวลาช้ำรัก
ด่าก่อนค่อยปลอบทีหลัง เพื่อนรักเพื่อนชั่ว เพื่อนสนิทเท่านั้นถึงจะทำกันได้
ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาในรั้วมหาวิทยาลัยก็ไม่เคยเห็นตะวันจะสนใจผู้ชายคนไหนหรือจะเปิดใจให้โอกาสตัวเองหรือใครเลยสักครั้ง คุณหนูตะวัน หยาง ทายาทคุณเจสัน หยาง อภิมหาเศรษฐีชาวฮ่องกงและนักธุรกิจสาวชื่อดังอย่างประธานรวี[1]
ตะวันเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวย ฉลาด การศึกษาดี มีเพียบพร้อมทุกอย่างไม่เคยขาดตกบกพร่อง มีแต่ผู้คนรายล้อม ผู้ชายดี ๆ พร้อมจะเข้าหา ทว่าตะวันเองไม่เอาใครทั้งนั้น ไม่เคยสนใจหรือมองใครแม้แต่หางตา เพราะดันปักใจรักแค่ไอ้ปลื้ม ผู้ชายที่ทำหญิงสาวเจ็บช้ำและเสียใจไม่เว้นวัน
นี่สินะตัวอย่างของคนที่ฉลาดทุกเรื่องเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ยกเว้นเรื่องความรัก โง่ชะมัดเลยตะวัน!
“กูไม่เข้าใจว่ามึงจะรักอะไรมันขนาดนั้น” คำถามนี้ถูกถามเป็นครั้งที่ล้านแต่ตะวันก็พูดอยู่เพียงคำตอบเดียวว่า...
“หล่อ...”
[1] จากเรื่อง ผัวลับท่านประธาน โดย หญิงเพียว
ผู้หญิงเหมือนกัน อายุใกล้กันที่สุด อย่างน้อยก็จะอยู่เป็นเพื่อนกันได้ ถึงตอนที่ลูก ๆ โตเป็นผู้ใหญ่ เธอและปรมะไม่รู้จะอายุยืนถึงตอนนั้นไหม อนาคตไม่แน่ไม่นอน“พี่น้องกัน รักกันไว้นะลูก”หนูโรสที่เมื่อได้ตั้งชื่อให้น้องและได้อุ้มน้อง จิตวิญญาณความเป็นพี่สาวก็แรงกล้าขึ้นมาทันใด“รักค่ะ หม่ามี้สบายใจได้ ต่อไปหนูจะดูแลน้องเอง”..@สามปีผ่านไป...“ถ้ามีคนมาแกล้งน้องต้องทำยังไง” แจ็คสันที่ตอนนี้โตเป็นหนุ่มวัยย่างเข้ามหาวิทยาลัยเอ่ยถามวาดตะวัน ที่ตอนนี้นั่งเล่นอยู่ในสวนข้างบ้าน มีหมาสีขาวตัวโตขนปุยให้นมลูกอยู่ข้าง ๆ“นั่นสิ ที่พวกพี่สอนจำได้บ้างไหม” มาร์กถามอีกคนจนโรสที่หายไปหยิบขนมให้น้องสาวเดินเข้ามาขมวดคิ้วถามพี่ ๆ กลับบ้าง“สอนอะไรน้องน่ะเฮีย” โรสไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น โดยเฉพาะพวกพี่ชาย ที่มักจะสอนเรื่องประหลาด ๆ ให้วาดตะวันอยู่เสมอ ตัวเธอเองจิตแข็งพอที่จะไม่คล้อยตาม หากทว่าน้องสาวยังเด็กมาก อายุเพิ่งสองขวบเมื่อวานเอง“สอนให้น้องสู้คนไง” มาร์กตอบโรส “พี่สอนว่าไง ถ้าเจอผู้ชายเข้ามาชวนคุยต้องพูดยังไง ไหนลองพูดให้ฟังหน่อยสิ”“ไอ้กาก” ปากพูดคำว่ากาก หากแต่ดวงตากลมโตบ้องแบ๊ว ปากนิดจมูกหน่อย เสียงอ้
สี่เดือนกว่าต่อจากนั้นตะวันก็ให้กำเนิดบุตรสาวที่น่ารักอีกหนึ่งคน ชื่อว่าเด็กหญิง...“วาดตะวัน โชติภิวรรธ”“ขออีกครั้ง” เสียงนิ่งเรียบและเย็นยะเยือกของตะวันทำเอาคนเป็นพ่อที่เพิ่งไปแจ้งเกิดลูกมือสั่น ปรมะยื่นสูติบัตรของลูกให้ตะวันที่ยังนอนอยู่บนเตียงคนไข้คุณแม่หลังคลอดที่อารมณ์ยังไม่คงที่นักดึงกระดาษแทบจะเป็นการกระชากเพราะโกรธผัวตัวดีที่บังอาจขัดใจเธอโดยการเปลี่ยนชื่อลูกโดยพลการ“นายอยากจะมีปัญหากับฉันใช่ไหม!” ตะวันกัดฟันถาม ปรมะถลามากอดเมียรัก หาวิธีเอาตัวรอดฉับพลัน“ก็วาดตะวันมันเพราะกว่า”ตะวันตั้งชื่อลูกคนนี้ว่าเจนนี่ตามไอดอลเกาหลีวงดัง เช่นเดียวกันกับชื่อลูกทุกคนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะแจ็คสัน มาร์ก และโรเซ่หรือน้องโรส ตะวันตั้งตามความชอบของตัวเองทั้งนั้น ลูกคนที่สี่ปรมะจึงอยากตั้งด้วยตัวเองบ้าง“ฉันตั้งชื่อลูกเพราะความรักที่มีต่อเธอทั้งนั้นเลยนะตะวัน” เขารักตะวัน และอยากให้ลูกชื่อคล้ายแม่ก็แค่นั้น วาดตะวันเป็นชื่อที่เพราะมาก ฟังแล้วรู้สึกสวยในความคิดของคนเป็นพ่อสุดท้ายตะวันก็ใจอ่อนยวบยาบเพราะเหตุผลที่ปรมะให้ คือรักเธอ อยากให้ลูกเหมือนเธอ“อืม งั้นก็ตามใจ”“หูย ยอมง่ายมากเลยมี้” มาร์กส
“ท้องได้ยังไงเนี่ย...” เสียงหวานเอ่ยอย่างเลื่อนลอยเมื่อได้มองที่ตรวจครรภ์ที่ขึ้นสีแดงสองขีด“หมันหลุดมั้ง” ปรมะลูบหลังปลอบภรรยารักอย่างหน้าชื่นตาบาน แม้จะแปลกใจแต่ก็ไม่ได้เกินคาดนัก ก็เขาเอาเธอทุกวัน มันก็ต้องมีเปอร์เซ็นต์ติดบ้างแม้จะน้อยนิดก็ตาม คนเป็นพ่อดูภูมิใจกับน้ำเชื้อที่แข็งแรงของตัวเองมากจนตะวันอดเบะปากใส่ไม่ได้“ไม่กลัวฉันไปท้องกับคนอื่นบ้างรึไง” หากคนอื่นคงคิดเป็นสิ่งแรกว่าเธอกำลังนอกใจ เพราะโอกาสที่หมันจะหลุดมันน้อยมากกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ“หึ ไม่” ไม่มีข้อกังขาสักนิดว่าตะวันจะไปท้องกับใครมาหรือเปล่า เขารักเธอ เธอรักเขา และเราก็เชื่อใจกันมาก ผ่านอะไรด้วยกันมาเท่าไหร่ จนตอนนี้ทั้งคู่อายุสามสิบหกปีแล้วใช่ ตะวันท้องลูกหลงตอนสามสิบหกปี เท่ากับว่าลูกคนนี้ต้องอายุห่างจากพี่คนโตพอสมควร แจ็คสันอายุสิบหกแล้ว กำลังโตเป็นหนุ่ม มาร์กสิบขวบ ส่วนโรสแปดขวบถ้วน“งั้นเราไปฝากครรภ์กันวันนี้เลยไหม” ปรมะรู้ดีว่าตะวันกำลังกังวลใจเรื่องสุขภาพของลูกหากท้องในวัยเกินสามสิบห้าปีมาแล้ว เขาเองก็เป็นห่วงทั้งคู่ และจะได้ไปตรวจเช่นกันว่าหมันมันหลุดไปแล้วจริง ๆ จะได้ทำหมันใหม่อีกรอบสองสามีภรรยาไปโ
“ปลื้ม! ไอ้บ้า อยากตายรึไงฮะ!” ตะวันระอิดระอาเมื่อได้เห็นว่าสิ่งที่ชายหนุ่มส่งมาคือถุงยางอนามัย มิหนำซ้ำยังมีรอยฉีกออกแบบพร้อมใช้“เอ้า.. ด่าเฉย ก็เธอขอดูเร็กซ์ไม่ใช่เหรอ ฉันผิดตรงไหน” ปรมะหน้ามึน มุมปากยกยิ้มร้าย ดวงตาที่เคยคมดุลึกล้ำตอนนี้วาววับเป็นประกายไม่เพียงเท่านั้น เขากำลังปลดหัวเข็มขัดออกจากกางเกงช้า ๆ พลางขยับร่างสูงใหญ่มาประชิดคนตัวเล็กที่มองเขาอย่างระอิดระอา หากทว่าสองแก้มนวลกลับแต้มด้วยสีชมพูระเรื่อ น่ารักน่าชังเสียจนเขาอดโน้มหน้าลงไปประกบจุมพิตกับเรียวปากอิ่มสีแดงดุจเชอรี่ไม่ไหว“ตะวันหมายถึงผ้าลูเร็กซ์ อื้อ! ปลื้ม ไม่เอา ตะวันทำงานอยู่นะ!” หญิงสาวรีบปรามก่อนที่ปรมะจะทำอะไรบ้า ๆ ที่นี่บริษัทไม่ใช่บ้านที่เขาจะจับเธอกดตรงมุมไหนก็ได้อย่างที่ชอบทำ“ก็ไหนบ่นอยากมีลูกเพิ่ม ลองทำดูเผื่อหมันหลุดแล้วติดไง” ทำบ่อย ๆ อาจมีโอกาสหมันหลุดก็ได้“จะทำลูกเพิ่มแล้วแกะถุงยางมาทำหอกอะไรเล่า! แต่เอ๊ะ... เดี๋ยวนะ นายเอาถุงยางนี่มาจากไหน” ตะวันขมวดคิ้วมุ่นถามเสียงเย็น เธอและเขาไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องป้องกันนานแล้ว“ก่อนหน้านี้นับดาวเข้ามาในห้องไหม” ปรมะถามกลับ ตะวันพยักหน้ารับเพราะเมื่อเช้าเธ
อีกอย่างคือปรมะอยากประกาศความเป็นเจ้าของ ใครหันมามองต้องรู้ทันทีว่าตะวันท้อง แล้วคนท้องก็ต้องมีผัวจะได้เลิกหันมามองแล้วส่งสายตาเจ้าชู้หน้าหม้อใส่เมียเขาสักทีเขาเปิดตัวลงโซเชียล ออกสื่อขนาดนี้แล้วยังมีคนเข้ามาจีบตะวันไม่ขาดสาย ยิ่งท้องก็ยิ่งสวย ยิ่งอายุเยอะก็ยิ่งออร่ามาก ยิ่งหญิงสาวมีชื่อเสียงโด่งดังกว่าเก่า มีฉายาอายุน้อยร้อยล้านห้อยท้ายเหมือนมารดาเธอ ยิ่งเธอเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงใคร ๆ ก็อยากได้ อยากจับจองตะวันกันทั้งนั้นมีช่วงหลังแต่งงานนี่แหละที่เพลา ๆ ลงบ้าง เธอทั้งสวยและเก่งยิ่งกว่าใคร“สองท้องก่อนไม่เห็นเคยใช้” บ่นกระปอดกระแปดแต่ในหัวกำลังร่างแบบเครื่องประดับชิ้นใหม่ ไอเดียเจิดจรัสขึ้นมาทันใดว่าแบรนด์ PATAWAN มันต้องมีเข็มกลัดติดท้องไว้ให้เหล่าคุณแม่ที่มีกำลังทรัพย์มาก ๆ ติดอวดชาวโลกเช่นกัน“คิดงานอีกแล้ว” ปรมะบ่นเมียรักยิ้ม ๆ แล้วโอบไหล่ อีกมือลูบท้องน้อย ๆ อย่างรักใคร่เอ็นดูทั้งคู่ไปเดินด้วยกัน ปรมะทำทุกอย่างที่ไม่เคยทำกับตะวันในช่วงเวลาเรียนมหาวิทยาลัย กินข้าวดูหนังก็เคยบ้าง แต่ตอนนั้นไม่ได้รักและดูแลตะวันเหมือนอย่างตอนนี้ เขาอยากทำทุกช่วงเวลาที่มีกันและกันให้เต็มที่ ชี
ปฏิบัติการปั๊มลูกคนที่สามของตะวันและปรมะสำเร็จทันใจ เพราะหลังแต่งงานเพียงสามเดือนตะวันก็พบว่าตั้งครรภ์สมใจเพราะมีแต่ลูกชายสองแสบที่โคตรจะซน ที่ปู่ย่าตายายแย่งกันเลี้ยงจนเธอแทบไม่ใช่แม่อยู่แล้ว เธอจึงอยากมีลูกสาวน่ารัก ๆ สักคนไว้ฮีลหัวใจการมีลูกเร็วก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะในวันที่ลูกประสบความสำเร็จพ่อกับแม่อาจจะยังไม่แก่มาก ยังอยู่ทันทุกช่วงเวลาดี ๆ ของชีวิตลูก หากปล่อยนานกว่านี้ก็เกรงว่าลูกคนเล็กจะอายุห่างกับแจ็คสันเกินไปแล้วก็เป็นดั่งปรารถนา เพราะเมื่ออายุครรภ์ได้สิบเจ็ดสัปดาห์เจ้าถั่วน้อยในท้องก็เปิดขาอ้าซ่าให้คุณหมอและพ่อแม่เห็นชัดเจนว่าเป็นเพศอะไรตอนนั้นปรมะแทบกุมขมับ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กนี่คลอดออกมาจะแสบขนาดไหน เขานี่อยากล้วงมือเข้าช่องคลอดเมียไปจับขาลูกมัดไว้ให้อยู่ในท่ากุลสตรีปิดหวอมิดชิด ในขณะที่ตะวันดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรสักนิดวันนี้ทั้งคู่หยุดงานปรมะจึงชวนตะวันไปเดินห้าง เนื่องจากเมื่อวานหญิงสาวบ่นว่าอยากกินขนมทิมเบอริงเจ้าดังที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขณะนี้“อร่อยอะ ร้านนี้ไม่หวานมาก ลองดูสิ” คนที่กัดขนมเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ นัยน์ตาวาวเมื่อได้กินของหวาน ตะวันยื่นมาป้อนปรมะ







