กว่าจะรู้ว่าสำคัญ ก็คงหากันไม่เจอแล้ว ...... ช่วยรักตัวเองหน่อยได้ไหม เป็นประโยคที่หลายคนชอบพูดกับฉัน ใช่... ก็เพราะรักตัวเองอยู่นี่ไง ถึงได้กลัวตัวเองเจ็บ กลัวตัวเองจะเสียใจ จนไม่กล้าปล่อยเขาไปเสียที ----------- ust Friends ให้เป็นแค่เพื่อน หนึ่งในซีรี่ส์ โชติภิวรรธ (รุ่นลูก ๆ ของ ซีรี่ส์ สามหมอ) เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ปลื้ม ปรมะ โชติภิวรรธ (ลูกชายคนโตของทนายวิศรุต) และ ตะวัน หยาง (ลูกสาวคนโตของประธานรวี) งานนี้บอกเลยว่ามีแตกหัก! เพราะไอ้ปลื้มมันปากสุนัขไม่รับประทาน และตะวันก็ยอมมันไปซะหมด เอ๊ะ! แล้วจุดแตกหักล่ะจะอยู่ตรงไหน ฝากติดตามไปพร้อม ๆ กันด้วยนะคะ
Lihat lebih banyak“มานี่!”
“กรี๊ดดด! โอ้ย ปล่อยนะอีบ้า!”
เสียงกรีดร้องดังก้องด้วยความเจ็บปวดทรมานแผ่ซ่านไปทั่วทั้งหนังหัว เพราะโดนใครบางคนกระชากผมจนหน้าหงาย
มือจิกกำกลุ่มผมยาวไว้แน่นแล้วลากร่างเล็กบอบบางถูไถไปกับพื้นห้อง ชุดนักศึกษารัดรูปที่ติดกระดุมไม่เรียบร้อยเป็นทุนแหวกกว้าง กระดุมเม็ดล่างดีดผึงหลุดจากรางจนเนินเต้าขาวกับบราสีแดงทะลักออก กระโปรงทรงเอสั้นเพียงคืบร่นขึ้นเปิดหวอเผยให้เห็นเส้นจีสตริงสีแดงสดออกมาโชว์หราอล่างฉ่างไม่ต่างจากแก้มก้นอวบขาว
เพียะ!
“กรี๊ด! ปลื้มช่วยด้วย อ๊าย!”
“ช่วยงั้นเหรอ รู้รึเปล่าว่าคนที่แกเรียกร้องให้ช่วยอยู่นั่นผัวใคร!” เสียงหญิงสาวเจ้าของฝ่ามือด่ากราดพลางฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าหวานที่ทั้งกรีดร้องทั้งดิ้นรนจนน้ำตาไหลพรากปะปนกับเลือดสีแดงฉานที่มุมปากไม่ยั้ง
มือบางเรียวสวยขยุ้มกลุ่มผมหญิงสาวใต้ร่างแน่นแล้วกระชากรั้งใบหน้าหวานขึ้นมาตบซ้ำ ๆ สลับจิกทึ้งจนกลุ่มผมสวยหลุดติดมือมาเป็นกำ กว่าจะหยุดได้ก็ตอนที่แขนเรียวโดนชายหนุ่มเจ้าของห้องกระชากออกจนร่างบางลอยหวือมาตามแรง
“พอทีเถอะ ตะวัน!”
“ปล่อย!” ตะวันตะคอกกลับเสียงดัง พลางสองเท้ายกถีบสะเปะสะปะอย่างไม่ยอมแพ้
“หยุดบ้า!” ปรมะกัดฟันกรอด ตาคมมองสบดวงตาคู่สวยที่เดือดดาลไม่แพ้กันอย่างเอาเรื่อง แล้วลากรั้งร่างของตะวันออกจากห้องนอนตน แต่ก็ไม่วายเอ่ยเสียงเรียบกับหญิงสาวหน้าหวานที่นั่งเลือดกบปากอยู่บนพื้นห้องว่า...
“จัดการตัวเองแล้วออกไปก่อน เดี๋ยวไว้โทรหา”
“อะไรนะปลื้ม ยังจะไปโทรหามันอีกทำไม” ตะวันสะบัดมือแกร่งที่กำแขนตัวเองจนแดงเป็นรอยมือทิ้งหมายจะถลาไปคว้าผมผู้หญิงคนนั้นมาตบอีกรอบ หากก็ไม่ทันไปถึงตัวเพราะโดนปรมะคว้าเอวไว้
“ไม่อยากตายก็รีบลุกออกไปสิวะ!” เสียงทุ้มตวาดหญิงสาวที่เอาแต่ร้องไห้เพราะกลัวตะวันแต่ก็ไม่ยอมขยับไปไหนสักทีให้ออกไปอีกครั้ง
เขาช่วยได้เท่านี้ หากยังลีลาจะปล่อยตะวันให้ทำตามอำเภอใจ ไม่ห้ามอีกแล้วนะ ทำอะไรอิดออดชักช้า น่าหงุดหงิด ปรมะถอนหายใจแรง ๆ อย่างคนหัวเสียแล้วหันมามองคนในอ้อมแขนอีกครั้งก่อนจะกระแทกลมหายใจแรงกว่าเก่า
นี่ก็ด้วยอีกคน น่าหงุดหงิดฉิบหาย!
ชายหนุ่มอุ้มกระเตงร่างบอบบางของตะวันเดินผ่านส่วนโถงกว้างที่มีสมาชิกอีกหลายชีวิตนั่งเสนอหน้ากันอยู่ตรงโซฟาเข้ามาในห้องนอนอีกห้องที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ก่อนจะผลักร่างตะวันให้หงายหลังล้มบนเตียง
“เธอทำบ้าอะไร!” ปรมะกัดฟันถามอย่างหงุดหงิด ตัวก็เล็กเท่าลูกหมาทว่าอาละวาดทีพากันบรรลัย แรงก็เยอะ โกรธทีเหมือนหมาบ้าน่ารำคาญ แผลงฤทธิ์และสำแดงเดชไม่เว้นแต่ละวันจนเขาปวดกบาลแทบบ้าตายอยู่แล้ว
ปรมะขยี้ผมตัวเองลวก ๆ แล้วยืนพิงหลังกับประตูกันตะวันออกไปทึ้งหัวผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง จนกว่าจะได้ยินเสียงประตูห้องคอนโดปิดกระแทกเสียงดังบ่งบอกว่าหญิงสาวคนนั้นหอบสังขารออกไปแล้วเขาถึงพรูลมหายใจโล่งอก ต่างกับตะวันที่มองค้อนเขาอย่างเอาเรื่อง
“ปลื้มนั่นแหละทำบ้าอะไร! ช่วยไว้หน้าตะวันบ้างได้ไหม!” ตะวันที่กึ่งนั่งกึ่งนอนหอบหายใจอยู่บนเตียงเพราะความเหนื่อยจากการใช้พลังงานในการอาละวาดไปเยอะตะคอกปรมะกลับ
“แค่เอาขำ ๆ ปะวะ” เจ้าของห้องกลอกตา
“แต่ตะวันไม่ขำ!” ดวงตาคู่สวยที่แข็งกร้าวไหวระริกด้วยความเจ็บช้ำ
ไม่ใช่ไม่เจ็บไม่เสียใจ แต่ไม่รู้ว่าชิน ชา หรือเพราะอะไรน้ำตาเธอถึงไม่ไหลออกมาให้เขาเห็นสักหยด เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำ!
“ทำไม อยากให้กลับไปว่างั้น” ตะวันถาม สีหน้าหญิงสาวราบเรียบเหมือนกับน้ำเสียง“แค่ถาม... กูสงสารหลาน”“สงสารอะไร แจ็คไม่เคยถามถึงพ่อเลยสักครั้ง” เธอเลี้ยงแจ็คสันมาอย่างดี คิดว่าให้ความรักความอบอุ่นกับลูกได้เต็มที่ และเพราะตอนนี้แจ็คสันอาจจะยังเด็กเกินกว่าจะถามถึงบิดาผู้ให้กำเนิด หรืออาจเพราะความไม่ขาด มีคนรักมากมาย อบอุ่นจนล้นแจ็คสันเลยไม่เคยถามอะไร ส่วนโตไปจะถามไหมค่อยว่ากันอีกที“เออ กูก็ลืมว่าทุกวันนี้ลูกมึงมีแดดดี้เยอะมาก...” แจ็กกี้ปล่อยขำเมื่อคิดถึงบรรดาผู้ชายที่เข้ามาขายขนมจีบให้ตะวัน รูปหล่อ ฐานะรวยมาก และโพรไฟล์ดี ๆ ทั้งนั้นแล้วพวกนั้นก็ยังอยู่เป็น ส่วนใหญ่จะเข้าทางแจ็คสันอีกต่างหาก คนไหนเอาใจเก่งถูกใจแจ็คสันเรียกแดดดี้หมดไม่สนว่าแม่อย่างตะวันจะชอบไหม ล่าสุดของเล่นเต็มบ้านจนต้องมีโกดังเก็บไม่รู้ว่าหากปรมะรับรู้จะทำสีหน้าอย่างไร ตะวันที่เคยให้ความสำคัญกับมันเพียงคนเดียว ไม่เคยมองใคร ตอนนี้เป็นดวงตะวันที่เฉิดฉาย ส่วนตัวมันเอง แม้จะหันมองตะวันให้เต็มตายังทำไม่ได้ กับลูกชายก็ยังไม่เคยได้เห็นหน้า ถ้าตะวันเกิดมีคนรักใหม่ไม่รู้ปรมะจะยอมถอดใจหรือจะกัดลิ้นหนีตายไปเสียก่อนสี่สาวช็อปปิ
“เอ้อ ว่าจะถามอยู่ เรื่องที่จะฟ้องเป็นไงบ้าง ได้ทนายรึยัง” ตะวันหันมาสนใจเรื่องทองแก้บนเส้นนั้นที่มีเรื่องมีราวกันเธอเคยเตือนแล้วว่าให้เอาทองปลอมไปใส่ให้ย่านาคเพราะตอนบนก็ไม่ได้ระบุเสียหน่อยว่าแก้บนด้วยทองอะไรแบบไหน น้ำหนักเท่าไหร่ แล้วดูสิ จูลี่มันคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ซื้อทองคำแท้หนักตั้งสิบบาทไปแก้บน ฝ่ายนั้นก็หัวหมอไม่ยอมคืน สุดท้ายก็มีเรื่องกันจนได้ ได้ยินว่าวันก่อนเพื่อนบอกจะไปคุยกับทนายไม่รู้ว่าของสำนักงานไหนตะวันรอคำตอบอยู่นานแต่ทั้งจูลี่และแจ็กกี้กลับชะงักนิ่งไปจนผิดสังเกต“เป็นอะไรกัน มีปัญหาอะไรกัน อย่าบอกนะว่าฟ้องเอาคืนไม่ได้ เฮ้ย มันต้องได้สิแก มันยังเป็นสิทธิ์ของคนแก้บนนะ เรายังไม่ได้ยกให้เขาเลย ยอมได้ยังไง” ตะวันเริ่มตีโพยตีพายเมื่อเพื่อนไม่ตอบ จนสุดท้ายเป็นแจ็กกี้ที่ทนไม่ไหวตัดสินใจเปิดปากเล่า“ตะวัน กูมีเรื่องจะเม้า” แจ็กกี้ตั้งท่าจะเม้าจริงจังให้หายคันปาก อยากโทรมาเล่าตั้งแต่ก่อนบินมาฮ่องกงแล้วด้วยซ้ำแต่จูลี่สั่งห้ามไว้ และตอนนี้ก็เช่นกันที่กำลังโดนจูลี่ตะครุบปิดปากอย่างไว“มึงหยุด!”“อื้อ! อีออก” แจ็กกี้ที่โดนอุดปากดิ้นรน เรียกเพื่อนด้วยภาษาดอกไม้“มีอะไร” ตะวันหรี่
“โอ้ย กัดกันไม่พัก!” ตะวันส่ายหน้าแล้วบ่นยิ้ม ๆ เวลาผ่านไปหลายปี เหล่าเพื่อนสนิทก็ยังกัดกันไม่เว้นแต่ละวัน มีเปลี่ยนไปบ้างก็เรื่องการใช้คำที่ไม่หยาบคายกันมาก ยิ่งในตอนที่อยู่ต่อหน้าหลาน กลัวเด็กมันจะจำจูลี่ แจ็กกี้ และต้าเหนิงบินมาหาเพื่อนกับหลานที่ฮ่องกงบ่อยมาก ซื้อของเล่นมาฝากหลานทุกครั้ง สนิทกับคนตระกูลหยาง โดยเฉพาะปู่และย่าของตะวันที่เอ็นดูทุกคนเหมือนลูกเหมือนหลาน พวกท่านเคยขอบคุณทั้งสามคนที่คอยมาสร้างรอยยิ้มให้ตะวันและแจ็คสันเหลนรักบ่อย ๆ รวมถึงคนในบ้านด้วยจนคุณอาโจชัวสุดหล่อสายเปย์ของตะวันถึงขั้นมอบสิทธิพิเศษให้บรรดาเพื่อนทั้งสามสามารถบินฟรีไทยฮ่องกงแบบไม่จำกัดครั้ง จัดชั้นที่นั่งบิสซิเนสคลาสให้ เพื่อที่ตะวันหลานรักจะได้เจอเพื่อนบ่อย ๆ ไม่เหงามาก จนทุกวันนี้ตะวันอยู่ดีมีความสุข กินได้นอนหลับ หน้าตาสดใสขึ้นในทุก ๆ วัน สิ่งนี้ต่างหากที่มันประเมินค่าไม่ได้สิ่งที่คนตระกูลหยางเชื่อเหมือนกันคือ ‘แม่ที่มีความสุขเท่านั้น ถึงจะสามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุขได้’แจ็คสัน หยาง ทายาทของตระกูลหยางจะได้เติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี และมีความสุขอย่างไรล่ะ“แล้วของขวัญของฉันล่ะ?” ตะ
ได้ยินจากปากเพื่อนสนิทของหญิงสาวก็ยังอดดีใจไม่ได้ ดีใจที่ตะวันสดใส แม้ส่วนลึกก็แอบเจ็บปวดใจเมื่อเขาไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ตะวันยิ้มได้อีกแล้วก็เท่านั้นเรื่องตะวันพอได้รู้บ้าง ตอนนี้เธอไว้ผมสั้นประบ่า หน้าตามัธยมแต่นมมหาลัย ยิ่งผมสั้นยิ่งเหมือนเด็ก เป็นเด็กที่โคตรน่าเอาเธอน่ารัก ผิวขาวจัด เวลามือเขาบีบหรือสัมผัสจะขึ้นสีชมพูชัดมาก เมื่อก่อนเขามักชอบให้เธอไว้ผมยาว ปล่อยสยาย เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะหวงต้นคอขาว ๆ ของเธอ ไม่ชอบให้ใครมอง กลัวจะมีใครหลงเวลาได้เข้าใกล้ กลิ่นตัวตะวันหอมจะตายชักคิดถึงเรื่องตะวันวนเวียนอยู่ในหัวตลอด แต่เรื่องลูกเขาไม่เคยรับรู้อะไรทั้งนั้นนอกจากเพศว่าเป็นเด็กผู้ชายตะวันเคยอัปรูปลูกชายอยู่บ้างสองสามครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้เห็นหน้า เป็นเพราะการรักษาความปลอดภัยในฐานะทายาทตระกูลหยาง ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งต้องระมัดระวังแต่หญิงสาวกลับโดนวิจารณ์ มีชาวเน็ตคอมเมนต์ถามเหตุผล ตะวันก็ให้เหตุผลว่าเพราะอยากรักษาสิทธิ์ของลูก และนั่นทำให้เธอโดนด่ายับว่ากระแดะและคำด่าทอเสียดสีสารพัดทั้งที่จริงการจะเปิดหรือไม่เปิดหน้าลูกเป็นสิทธิ์ของตะวัน ไม่ได้เกี่ยวห่าเหวอะไรกับพวกมันเลยด้วยซ้ำค
ปรมะเดินทางไปยังร้านอาหารสุดหรูที่มีความเป็นส่วนตัวตั้งอยู่ใจกลางเมืองเพื่อเจอกับลูกความคดีย่านาคที่นัดไว้ ทันทีที่ร่างสูงเข้าไปทักทาย อีกฝ่ายถึงกับเบิกตากว้างสีหน้าประหลาดใจ“ไอ้ปลื้ม” จูลี่แทบทุบโต๊ะ ไม่ต่างจากแจ็กกี้ที่มาเป็นเพื่อนด้วย ทั้งคู่มองอดีตเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยด้วยสีหน้าไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่หากทว่าอีกฝ่ายกลับมีสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่แปลกใจเพราะรู้มาก่อนแล้วในวันที่ตกลงรับทำคดีว่าลูกความที่จะเจอกันวันนี้เป็นใคร“สวัสดีครับคุณจักรพงษ์ ผมปรมะ โชติภิวรรธ เป็นทนายที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีของคุณครับ" ชายหนุ่มทักทายตามมารยาท แนะนำตัวอย่างเป็นทางการและให้เกียรติลูกความเช่นปกติ มีความเป็นมืออาชีพหากนับเรื่องหน้าที่การงาน ทว่าเป็นอีกฝ่ายที่ผุดลุกฉับพลันด้วยไม่อยากปราศรัยให้เมื่อยปาก“มึง กลับ!” ทั้งแจ็กกี้และจูลี่พยักหน้าพร้อมใจกันอุตส่าห์หนีจากสำนักกฎหมายโชติภิวรรธที่เป็นที่กล่าวขานว่าเก่งนักเก่งหนาและชื่อเสียงโด่งดังมาแล้วเชียว ก็ยังเจอปรมะอีกจนได้ ไม่อยากทราบเหตุผลว่าปรมะมาเป็นทนายในคดีของตนได้อย่างไร ตอนนี้จูลี่คิดแค่เรื่องอยากเปลี่ยนทนาย“อะไรกัน ยังไม่ทันได้คุยรายละเอียดก
ใช่ มันเคาะประตูแล้ว แต่เคาะแค่สองครั้งแล้วพรวดพราดเข้ามาทำหน้าราวกับจะแดกหัวเขาที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงและเจ้าของสำนักงาน ปรมะเดินเข้ามาพร้อมเอกสารชุดหนึ่ง ยื่นตรงหน้าภวิศความจริงอยากปาใส่หน้าแม่งด้วยซ้ำถ้าทำได้“นี่คดีห่าอะไร”“อ่านดิ” รายละเอียดมีครบแล้วยังโง่มาถามอีก“ไม่รับ!”“รับไป มึงอย่าเรื่องมากครับ”“ผมอยากรับเคสข้อพิพาทเรื่องที่ดินบนเกาะภูเก็ต ได้ไหม” ใครบอกไม่เลือกงานไม่ยากจนก็ช่างหัวมันเถอะ เขาจะเลือกเคสที่ต้องว่าความไว้ประดับโพรไฟล์ด้วยตัวเองปรมะอยากได้คดีใหญ่ ๆ เขาอยากท้าทายความสามารถตัวเอง ได้ทำงานกับภวิศมาปีกว่า เขาเริ่มจากเคสว่าความที่ไม่ยากนัก ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นงานใหญ่งานช้าง แล้วอยู่ ๆ งานสุดท้ายที่จะโดนระบุในโพรไฟล์ก่อนจะกลับไปทำงานที่โชติภิวรรธได้ ต้องมาเป็นเคสแบบนี้เนี่ยนะเคสที่ว่าคือลูกความที่ติดต่อมาบอกว่าตนไปบนย่านาคพระโขนงวัดดัง แล้วได้บนไว้ว่าจะเอาทองคำไปใส่ให้ย่านาค แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้ขาดหรือให้ยืมใส่ เลยไปซื้อทองแท้มีใบเซอร์มาใส่ให้ย่านาคแก้บน เมื่อหลังจากใส่เสร็จแล้วจะขอคืน แต่ทางศาลบอกว่าไม่คืนให้เพราะถือว่าถวายให้ย่านาคแล้วเป็นเงินทำบุญขอคืน
Komen