ปรมะไม่เคยแผ่วเรื่องทำให้เธอเจ็บช้ำซ้ำ ๆ ไม่เว้นวันก็จริงอยู่ แต่การหิ้วผู้หญิงมาเอากันถึงห้อง ห้องที่เธอเคยนอนอยู่เกือบทุกคืน มันมากเกินไป!
“ไปกินกันข้างนอกยังไม่พอใช่ไหม”
เปิดประตูเข้ามาก็พบว่าเขากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง มีอีผู้หญิงหน้าด้านนั่นคุกเข่าคร่อม นัวกันกลางวันแสก ๆ ทั้งที่เพื่อนก็นั่งเล่นเกมกันอยู่เต็มคอนโด ประตูห้องนอนก็ไม่ได้ล็อก ต้องอดอยากมากขนาดไหน ทนหน่อยจะลงแดงตายเหรอ ถ้าเธอมาช้ากว่านี้ไม่เสียบกันไปแล้วหรือยังไง
“ชินได้แล้วมั้ง” ชายหนุ่มไหวไหล่เสียงไม่ยี่หระ แล้วเปิดประตูออกมานั่งทิ้งตัวบนโซฟากลางห้องอย่างหน่ายใจ
“ไอ้สัด ไปทะเลาะกันให้เสร็จก่อนไป มานั่งเหี้ยอะไรตรงนี้วะ” ป้อม หรือปราการ เพื่อนสนิทของปรมะที่นั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟารับแขกกระแทกไหล่ไล่เจ้าของห้องให้ลุกออกไป
ทะเลาะกับตะวันแล้วคิดจะกระโดดมานั่งแทรกกลางวงเพื่อนเพื่อจะหนีปัญหาสิท่า แต่อย่าหวัง เพราะคนอย่างคุณหนูตะวันไม่มีทางปล่อยมันให้เดินหนีง่าย ๆ และพวกเขาก็ไม่ได้อยากโดนลูกหลง
“เพราะมึงนั่นแหละไอ้เหี้ย เสือกเรียกยายนั่นขึ้นมาที่ห้องกูทำห่าอะไร” ปลื้มกัดฟันด่าเพื่อนกลับ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันเรียกสาวไซด์ไลน์ในคราบนักศึกษาต่างมหาวิทยาลัยมารุมกินหม้อไฟก็คงไม่มีปัญหา
“ไอ้อ้อนตีนโน่นเรียก อย่ามาโยนขี้ใส่กู” ป้อมรีบโบ้ยความผิดให้ออสตินหนุ่มลูกครึ่งเชื้อสายลาติน หรือที่เพื่อน ๆ รวมหัวกันตั้งฉายาให้ว่าไอ้อ้อนตีน เพื่อนสนิทตัวดีที่นั่งเล่นเกมเงียบกริบไม่สะทกสะท้านว่าเป็นต้นเหตุให้ชาวบ้านครอบครัวร้าวฉานแค่ไหน
“ใครจะไปรู้ว่าตะวันกลับมา ไหนมึงบอกตะวันไม่ว่าง” ออสตินยิ้มมุมปาก เอ่ยเสียงราบเรียบแล้วสนใจเกมต่อ
ตอนพวกเขากินกันตะวันก็ไม่ยักจะมาเจอ แต่พอถึงคิวไอ้ปลื้มตะวันดันมาเซอร์ไพรส์ จังหวะนรกแบบนี้ก็คงได้แต่โทษเวรโทษกรรมเอาแล้วกัน ช่วยไม่ได้
ฉับพลันสมาชิกทุกคนก็ต้องสงบปาก ทำตัวเป็นอากาศธาตุเมื่อเสียงบานประตูห้องนอนเปิดออกกว้าง ตามด้วยเสียงหวานแหวลั่นของหญิงสาวดังขึ้น
“ปลื้ม!” ตะวันที่ทนกับการเมินเฉยไม่สะทกสะท้านต่อความผิดของเขาไม่ไหว จนเธอต้องลุกเดินตามมาเอาเรื่อง
“อะไร!” คนโดนเรียกขมวดคิ้วมุ่น ตะคอกกลับ “จู้จี้จังวะ ทำตัวเป็นเมียฉันไปได้”
เขาเบื่อมาก! ตะวันโคตรงี่เง่า น่ารำคาญ
หญิงสาวหน้าชา จากที่หมายจะด่ากลับความสารเลวที่เขาทำไว้ก็ต้องชะงักกึก
“เอากันอยู่ทุกวัน ไม่เมียรึไง...” ตะวันพึมพำเสียงเบา มองแผ่นหลังกว้างที่นั่งอยู่กลางกลุ่มเพื่อนแล้วนึกอยากเข้าไปคว้าผมเขาลากมาคุยกันต่อหน้า
เมื่อคืนยังนอนกับเธออยู่เลย ไม่ใช่เมียแล้วจะเป็นอะไรได้ เพื่อนเขาก็นั่งหัวโด่กันอยู่ กล้าพูดหักหน้าเธอแบบนี้ได้ยังไงกัน
“แค่ขอ... ขอว่าอย่าพามาที่ห้องได้ไหม” หญิงสาวพึมพำขอเหมือนทุกครั้ง ขอเป็นครั้งที่ล้าน
ที่ผ่านมาแกล้งปิดหูปิดตาข้างหนึ่งเสมอ ไม่ว่าเขาจะไปคั่วไปมั่วกับใครที่ไหน เพราะไม่เคยจะห้ามหรือหยุดเขาได้สักครั้ง แต่เธอขอแค่นี้ไม่ได้เลยรึไง แค่อย่าทำให้เห็น อย่าให้จับได้คาตาแบบนี้
“เรื่องมากจังวะ ทนไม่ไหวก็ไปไหมละ ไม่รั้งนะ” คำพูดแสนเย็นชาออกจากปากร่างสูงใหญ่ที่หยัดกายลุกยืน เขาใส่กระดุมที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่ คว้ากุญแจรถแล้วเตรียมจะเดินออกจากห้อง
“จะไปไหน!” ตะวันรั้งแขนแกร่งของคนตัวสูงที่เดินผ่านหน้าเธอไป หากเขาก็สะบัดออกอย่างรำคาญ ไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น ปล่อยทั้งหญิงสาวทั้งเพื่อนทิ้งไว้ ไม่มีอารมณ์จะสนใจใครอีก
“ทำไม อยากให้กลับไปว่างั้น” ตะวันถาม สีหน้าหญิงสาวราบเรียบเหมือนกับน้ำเสียง“แค่ถาม... กูสงสารหลาน”“สงสารอะไร แจ็คไม่เคยถามถึงพ่อเลยสักครั้ง” เธอเลี้ยงแจ็คสันมาอย่างดี คิดว่าให้ความรักความอบอุ่นกับลูกได้เต็มที่ และเพราะตอนนี้แจ็คสันอาจจะยังเด็กเกินกว่าจะถามถึงบิดาผู้ให้กำเนิด หรืออาจเพราะความไม่ขาด มีคนรักมากมาย อบอุ่นจนล้นแจ็คสันเลยไม่เคยถามอะไร ส่วนโตไปจะถามไหมค่อยว่ากันอีกที“เออ กูก็ลืมว่าทุกวันนี้ลูกมึงมีแดดดี้เยอะมาก...” แจ็กกี้ปล่อยขำเมื่อคิดถึงบรรดาผู้ชายที่เข้ามาขายขนมจีบให้ตะวัน รูปหล่อ ฐานะรวยมาก และโพรไฟล์ดี ๆ ทั้งนั้นแล้วพวกนั้นก็ยังอยู่เป็น ส่วนใหญ่จะเข้าทางแจ็คสันอีกต่างหาก คนไหนเอาใจเก่งถูกใจแจ็คสันเรียกแดดดี้หมดไม่สนว่าแม่อย่างตะวันจะชอบไหม ล่าสุดของเล่นเต็มบ้านจนต้องมีโกดังเก็บไม่รู้ว่าหากปรมะรับรู้จะทำสีหน้าอย่างไร ตะวันที่เคยให้ความสำคัญกับมันเพียงคนเดียว ไม่เคยมองใคร ตอนนี้เป็นดวงตะวันที่เฉิดฉาย ส่วนตัวมันเอง แม้จะหันมองตะวันให้เต็มตายังทำไม่ได้ กับลูกชายก็ยังไม่เคยได้เห็นหน้า ถ้าตะวันเกิดมีคนรักใหม่ไม่รู้ปรมะจะยอมถอดใจหรือจะกัดลิ้นหนีตายไปเสียก่อนสี่สาวช็อปปิ
“เอ้อ ว่าจะถามอยู่ เรื่องที่จะฟ้องเป็นไงบ้าง ได้ทนายรึยัง” ตะวันหันมาสนใจเรื่องทองแก้บนเส้นนั้นที่มีเรื่องมีราวกันเธอเคยเตือนแล้วว่าให้เอาทองปลอมไปใส่ให้ย่านาคเพราะตอนบนก็ไม่ได้ระบุเสียหน่อยว่าแก้บนด้วยทองอะไรแบบไหน น้ำหนักเท่าไหร่ แล้วดูสิ จูลี่มันคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ซื้อทองคำแท้หนักตั้งสิบบาทไปแก้บน ฝ่ายนั้นก็หัวหมอไม่ยอมคืน สุดท้ายก็มีเรื่องกันจนได้ ได้ยินว่าวันก่อนเพื่อนบอกจะไปคุยกับทนายไม่รู้ว่าของสำนักงานไหนตะวันรอคำตอบอยู่นานแต่ทั้งจูลี่และแจ็กกี้กลับชะงักนิ่งไปจนผิดสังเกต“เป็นอะไรกัน มีปัญหาอะไรกัน อย่าบอกนะว่าฟ้องเอาคืนไม่ได้ เฮ้ย มันต้องได้สิแก มันยังเป็นสิทธิ์ของคนแก้บนนะ เรายังไม่ได้ยกให้เขาเลย ยอมได้ยังไง” ตะวันเริ่มตีโพยตีพายเมื่อเพื่อนไม่ตอบ จนสุดท้ายเป็นแจ็กกี้ที่ทนไม่ไหวตัดสินใจเปิดปากเล่า“ตะวัน กูมีเรื่องจะเม้า” แจ็กกี้ตั้งท่าจะเม้าจริงจังให้หายคันปาก อยากโทรมาเล่าตั้งแต่ก่อนบินมาฮ่องกงแล้วด้วยซ้ำแต่จูลี่สั่งห้ามไว้ และตอนนี้ก็เช่นกันที่กำลังโดนจูลี่ตะครุบปิดปากอย่างไว“มึงหยุด!”“อื้อ! อีออก” แจ็กกี้ที่โดนอุดปากดิ้นรน เรียกเพื่อนด้วยภาษาดอกไม้“มีอะไร” ตะวันหรี่
“โอ้ย กัดกันไม่พัก!” ตะวันส่ายหน้าแล้วบ่นยิ้ม ๆ เวลาผ่านไปหลายปี เหล่าเพื่อนสนิทก็ยังกัดกันไม่เว้นแต่ละวัน มีเปลี่ยนไปบ้างก็เรื่องการใช้คำที่ไม่หยาบคายกันมาก ยิ่งในตอนที่อยู่ต่อหน้าหลาน กลัวเด็กมันจะจำจูลี่ แจ็กกี้ และต้าเหนิงบินมาหาเพื่อนกับหลานที่ฮ่องกงบ่อยมาก ซื้อของเล่นมาฝากหลานทุกครั้ง สนิทกับคนตระกูลหยาง โดยเฉพาะปู่และย่าของตะวันที่เอ็นดูทุกคนเหมือนลูกเหมือนหลาน พวกท่านเคยขอบคุณทั้งสามคนที่คอยมาสร้างรอยยิ้มให้ตะวันและแจ็คสันเหลนรักบ่อย ๆ รวมถึงคนในบ้านด้วยจนคุณอาโจชัวสุดหล่อสายเปย์ของตะวันถึงขั้นมอบสิทธิพิเศษให้บรรดาเพื่อนทั้งสามสามารถบินฟรีไทยฮ่องกงแบบไม่จำกัดครั้ง จัดชั้นที่นั่งบิสซิเนสคลาสให้ เพื่อที่ตะวันหลานรักจะได้เจอเพื่อนบ่อย ๆ ไม่เหงามาก จนทุกวันนี้ตะวันอยู่ดีมีความสุข กินได้นอนหลับ หน้าตาสดใสขึ้นในทุก ๆ วัน สิ่งนี้ต่างหากที่มันประเมินค่าไม่ได้สิ่งที่คนตระกูลหยางเชื่อเหมือนกันคือ ‘แม่ที่มีความสุขเท่านั้น ถึงจะสามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุขได้’แจ็คสัน หยาง ทายาทของตระกูลหยางจะได้เติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี และมีความสุขอย่างไรล่ะ“แล้วของขวัญของฉันล่ะ?” ตะ
ได้ยินจากปากเพื่อนสนิทของหญิงสาวก็ยังอดดีใจไม่ได้ ดีใจที่ตะวันสดใส แม้ส่วนลึกก็แอบเจ็บปวดใจเมื่อเขาไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ตะวันยิ้มได้อีกแล้วก็เท่านั้นเรื่องตะวันพอได้รู้บ้าง ตอนนี้เธอไว้ผมสั้นประบ่า หน้าตามัธยมแต่นมมหาลัย ยิ่งผมสั้นยิ่งเหมือนเด็ก เป็นเด็กที่โคตรน่าเอาเธอน่ารัก ผิวขาวจัด เวลามือเขาบีบหรือสัมผัสจะขึ้นสีชมพูชัดมาก เมื่อก่อนเขามักชอบให้เธอไว้ผมยาว ปล่อยสยาย เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะหวงต้นคอขาว ๆ ของเธอ ไม่ชอบให้ใครมอง กลัวจะมีใครหลงเวลาได้เข้าใกล้ กลิ่นตัวตะวันหอมจะตายชักคิดถึงเรื่องตะวันวนเวียนอยู่ในหัวตลอด แต่เรื่องลูกเขาไม่เคยรับรู้อะไรทั้งนั้นนอกจากเพศว่าเป็นเด็กผู้ชายตะวันเคยอัปรูปลูกชายอยู่บ้างสองสามครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้เห็นหน้า เป็นเพราะการรักษาความปลอดภัยในฐานะทายาทตระกูลหยาง ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งต้องระมัดระวังแต่หญิงสาวกลับโดนวิจารณ์ มีชาวเน็ตคอมเมนต์ถามเหตุผล ตะวันก็ให้เหตุผลว่าเพราะอยากรักษาสิทธิ์ของลูก และนั่นทำให้เธอโดนด่ายับว่ากระแดะและคำด่าทอเสียดสีสารพัดทั้งที่จริงการจะเปิดหรือไม่เปิดหน้าลูกเป็นสิทธิ์ของตะวัน ไม่ได้เกี่ยวห่าเหวอะไรกับพวกมันเลยด้วยซ้ำค
ปรมะเดินทางไปยังร้านอาหารสุดหรูที่มีความเป็นส่วนตัวตั้งอยู่ใจกลางเมืองเพื่อเจอกับลูกความคดีย่านาคที่นัดไว้ ทันทีที่ร่างสูงเข้าไปทักทาย อีกฝ่ายถึงกับเบิกตากว้างสีหน้าประหลาดใจ“ไอ้ปลื้ม” จูลี่แทบทุบโต๊ะ ไม่ต่างจากแจ็กกี้ที่มาเป็นเพื่อนด้วย ทั้งคู่มองอดีตเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยด้วยสีหน้าไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่หากทว่าอีกฝ่ายกลับมีสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่แปลกใจเพราะรู้มาก่อนแล้วในวันที่ตกลงรับทำคดีว่าลูกความที่จะเจอกันวันนี้เป็นใคร“สวัสดีครับคุณจักรพงษ์ ผมปรมะ โชติภิวรรธ เป็นทนายที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีของคุณครับ" ชายหนุ่มทักทายตามมารยาท แนะนำตัวอย่างเป็นทางการและให้เกียรติลูกความเช่นปกติ มีความเป็นมืออาชีพหากนับเรื่องหน้าที่การงาน ทว่าเป็นอีกฝ่ายที่ผุดลุกฉับพลันด้วยไม่อยากปราศรัยให้เมื่อยปาก“มึง กลับ!” ทั้งแจ็กกี้และจูลี่พยักหน้าพร้อมใจกันอุตส่าห์หนีจากสำนักกฎหมายโชติภิวรรธที่เป็นที่กล่าวขานว่าเก่งนักเก่งหนาและชื่อเสียงโด่งดังมาแล้วเชียว ก็ยังเจอปรมะอีกจนได้ ไม่อยากทราบเหตุผลว่าปรมะมาเป็นทนายในคดีของตนได้อย่างไร ตอนนี้จูลี่คิดแค่เรื่องอยากเปลี่ยนทนาย“อะไรกัน ยังไม่ทันได้คุยรายละเอียดก
ใช่ มันเคาะประตูแล้ว แต่เคาะแค่สองครั้งแล้วพรวดพราดเข้ามาทำหน้าราวกับจะแดกหัวเขาที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงและเจ้าของสำนักงาน ปรมะเดินเข้ามาพร้อมเอกสารชุดหนึ่ง ยื่นตรงหน้าภวิศความจริงอยากปาใส่หน้าแม่งด้วยซ้ำถ้าทำได้“นี่คดีห่าอะไร”“อ่านดิ” รายละเอียดมีครบแล้วยังโง่มาถามอีก“ไม่รับ!”“รับไป มึงอย่าเรื่องมากครับ”“ผมอยากรับเคสข้อพิพาทเรื่องที่ดินบนเกาะภูเก็ต ได้ไหม” ใครบอกไม่เลือกงานไม่ยากจนก็ช่างหัวมันเถอะ เขาจะเลือกเคสที่ต้องว่าความไว้ประดับโพรไฟล์ด้วยตัวเองปรมะอยากได้คดีใหญ่ ๆ เขาอยากท้าทายความสามารถตัวเอง ได้ทำงานกับภวิศมาปีกว่า เขาเริ่มจากเคสว่าความที่ไม่ยากนัก ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นงานใหญ่งานช้าง แล้วอยู่ ๆ งานสุดท้ายที่จะโดนระบุในโพรไฟล์ก่อนจะกลับไปทำงานที่โชติภิวรรธได้ ต้องมาเป็นเคสแบบนี้เนี่ยนะเคสที่ว่าคือลูกความที่ติดต่อมาบอกว่าตนไปบนย่านาคพระโขนงวัดดัง แล้วได้บนไว้ว่าจะเอาทองคำไปใส่ให้ย่านาค แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้ขาดหรือให้ยืมใส่ เลยไปซื้อทองแท้มีใบเซอร์มาใส่ให้ย่านาคแก้บน เมื่อหลังจากใส่เสร็จแล้วจะขอคืน แต่ทางศาลบอกว่าไม่คืนให้เพราะถือว่าถวายให้ย่านาคแล้วเป็นเงินทำบุญขอคืน