"โอเคมาเริ่มกันเลยดีกว่า ขอแค่เซลล์เดียวแค่กระพี้เนื้อชิ้นเดียวที่ยังมีชีวิต"
.
เช่นกันกับกรณีของเจฟเฟอร์ เมื่อม่านตาของเบอร์แบโต้เริ่มคลี่ตัวออกเป็นใบพัด เขากำลังซูมภาพเข้าไปยังเรือนร่างของเอ็มม่าในระยะที่ใกล้กว่าปกติ กล่าวคือไม่ใช่การซูมโดยใช้ระบบม่านตาออปติคอลแบบธรรมดา หากแต่เป็นการซูมลึกเข้าไปถึง DNA
.
"แกร็ก ๆ ๆ"
.
"แสกน!"
ชายหนุ่มออกคำสั่ง
.
เสี้ยววินาทีหลังจากนั้นในมุมมองบุคคลที่หนึ่งบนหน้าจอของเขา ก็เห็นเป็นภาพของเสื้อผ้าเอ็มม่าที่ขยายใหญ่โตขึ้น มีไรฝุ่นวิ่งยึกยืออยู่บนเส้นใยสังเคราะห์ ทอดสายตาไปทางไหนอะไร ๆ ก็ใหญ่โตอล่างฉ่างไปหมด สักพักเลนส์ก็หมุนแกร็ก ๆ ซูมภาพเข้าไปอีก สเต็ปนี้เบอร์แบร์โต้ได้เห็นลึกเข้าไปถึงชั้นผิวของหญิงสาว เขาได้เห็นเนื้อเยื่อ เห็นเส้นประสาทที่ถักทอไปตามอวัยวะต่าง ๆ อย่างซับซ้อน แต่ก็นะ! จะมีความหมายอะไรในเมื่อทุกอย่างหยุดทำงานไปหมด ความดันโลหิตกลายเป็นศูนย์ เส้นเลือดมีเป็นล้าน ๆ เส้นแต่ไม่มีสักเส้นที่มีเลือดวิ่งพล่านอยู่ภายใน พวกมันนอนแน่นิ่งค้างเติ่ง จากสีแดงสดฉาดฉานบัดนี้กลับเริ่มคล้ำและจับตัวแข็งเป็นก้อน ๆ
.
เบอร์แบโต้กัดฟันส่ายหน้า ไม่สบอารมณ์ผสมผิดหวัง
.
"ชิ! ซูมต่อ!"
"ต้องมีบ้างสิเซลล์ที่ยังไม่ตาย สัญญาณชีพแห่งการดำรงชีวิต!"
.
ใบพัดในม่านตาคลี่ตัวกว้างออกอีกหนึ่งสเต็ป คราวนี้มันซูมเข้าไปลึกซะจนตัวมันเองแทบจะเป็นกล้องจุลทรรศน์อยู่รอมร่อ เพราะภาพที่ดึงขึ้นมาให้เบอร์แบโต้เห็นนั้นก็คือภาพของโครงสร้างสาย DNA ที่ขดเกลียวกันเป็นลูกคลื่น เขาพยายามปาดสายตาเคลื่อนไปตามส่วนต่าง ๆ บนร่างกายเอ็มม่า เพื่อดูปฏิกิริยาตอบสนองไล่ไปตั้งแต่ศรีษะแต่ก็เงียบ ลดลงมาแถวลำตัวและหน้าอกก็ไม่ต่างกัน สาย DNA ไม่มีการสั่นไหวใด ๆ ทั้งสิ้น หรือนี่จะตีความได้ว่าเอ็มม่าแผนกการเงินนั้น ได้ตายจากโลกนี้ไปอย่างสมบูรณ์แบบ
.
"บะ.. บ้าน่า! ไม่น่าจะเร็วขนาดนี้นี่นา เราเพิ่งเอากันเสร็จไปไม่ถึง 20 นาทีเอง ขนาดพี่เจฟเฟอร์แกแขนขาด แกยังกุลีกุจอรีบไปให้หมอยูมิโกะช่วยเลย เซลล์ในสิ่งมีชีวิตไม่น่าจะตายหมดเกลี้ยงได้เร็วขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้!"
.
"ช่่วยผมหน่อยสิเจ๊ อยากมีชีวิตต่อไปไหมเล่าขยับหน่อยสิ! ขยับให้ผมเห็น!"
.
หนุ่มผิวสีรำพึงกับตนเองในใจ เหงื่อไหลย้อยจากหน้าผากจรดปลายคาง เขายังคงยืนตัวเกร็งเพ่งสายตาไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของเอ็มม่าราวกับผู้ป่วยโรคจิต ประกอบกับเสียงเลนส์บนม่านตาที่เริ่มร้อง ติ๊ก ๆ ๆ ออกมาถี่รัว ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูวิกฤตมากขึ้น!
.
"ไม่ไหว! ได้แค่แป๊บเดียวเอง ระบบร้องเตือนแล้วสิ ถ้าไม่หยุดตอนนี้เราตาบอดแน่ เชี้ยเอ๊ย! อยู่ไหนวะ! เซลล์สัญญาณชีพมึงอยู่ไหน?"
.
ดวงหน้าสะบัดไปมาพึบพับ จ้วงเท้าเข้าไปใกล้ ๆ ศพพลันย่อตัวลงใกล้ ๆ เพื่อแบ่งเบาซอฟแวร์การประมวลผล แต่จนแล้วจนรอดเบอร์แบโต้ก็เหมือนจะเจอทางตัน ขด DNA ในร่างกายเอ็มม่าไม่มีการสั่นไหวอะไรเลย ความผิดหวังทำให้หนุ่มอเมริกันผิวสีจุ่มก้นลงกับพื้นในทิศตรงข้ามเธอ ปลายเท้าพวกเขาชนกัน หันหน้าเข้าหากันหลับตาปุ๋ย แล้วก็เป็นความบังเอิญในจังหวะถอดใจนั้นเองที่ทำให้เจ้าตัวสะดุ้งโหยง! ในองศาที่ก้มต่ำ คอตกและถดถอย ใครจะไปเชื่อว่าพอเหลือบตาขึ้น ระยะสายตาของเบอร์แบโต้จะไปตรงกับตำแหน่งเนินจิ๊มิ๊ของเอ็มม่าเข้าพอดี
.
"เฮ๊ย! สั่นแล้ว! ใช่จริง ๆ ด้วยมันยังสั่นอยู่ ขด DNA เจ๊ยังมีปฏิกิริยา เจ๊ยังไม่ตาย! ไชโย! ไชโย!"
.
ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา เบอร์แบโต้รีบสปริงตัวขึ้นด้วยความรวดเร็ว ใช้มือทั้งสองข้างป้องประคองเลนส์เรติน่าของตัวเองสุดฤทธิ์ พลางส่องเข้าไปบนโหนกผสมพันธุ์เพื่อยืนยันความถูกต้อง
.
"ซูมเข้า!"
.
"แกร็ก ๆ หวืดดด!"
.
"เข้าอีก!"
.
"แกร็ก ๆ ๆ หวืดดดด!"
.
"พอ!"
.
"อื้อหือ! เป็นอย่างงี้นี่เองเพราะหีเจ๊แม่งฉีกมากอ่ะ คงเจ็บมากสินะตอนที่เย็ดกัน ดูดิเนื้อตรงติ่งยังเต้นอยู่เบา ๆ ด้วยซ้ำ ขนาดตัวตายไปแล้วจิ๋มก็ยังคงเสียวอยู่สินะ แม่งสุด ๆ เซลล์ตรงนี้แหละที่เป็นเครื่องการันตีว่าเจ๊ควรจะต้องมีชีวิตรอด"
.
"ซูมออก!"
.
"แกร๊ก ๆ ๆ หวืดดดด!"
.
จากกล้องจุลทรรศน์เหมือนจะกลายเป็นกล้องตรวจภายใน ของหมอสูตินารีแพทย์ในเซ็ตสุดท้าย เบอร์แบโต้มองเห็นภาพของร่องหีถอยร่นฝ่าม่านหมอยออกไป ทะลุผ่านเส้นใยสังเคราะห์บนเสื้อผ้ากับบรรดาฝูงตัวไรฝุ่น จนสุดท้ายก็เข้าสู่โหมดการมองเห็นเวอร์ชั่นปกติ
.
ลมหายใจยาวแบบโล่งอก เพิ่งจะถูกพ่นออกมาเมื่อครู่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเรื่อง เขาเดินวนดูร่างอันแน่นิ่งของเธอผู้ซึ่งนั่งหันหลังพิงอยู่กับฝาประตูเซฟพร้อมกับรอยยิ้ม เหมือนกับตลกร้าย! มันคล้ายกับชะตาฟ้าลิขิตที่ถูกเขียนขึ้นจากอารมณ์ขันของพระผู้เป็นเจ้า
.
ใครจะว่าบังเอิญหรือฟลุ๊คยังไงก็ตามแต่ แต่ในเมื่อลำควยของเขาคือสาเหตุที่ทำให้เธอตาย ดุ้นอันเดียวกันนี้ก็เลยกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เธอรอดไปพร้อม ๆ กันด้วย เบอร์แบโต้หยุดฝีเท้าลงตรงหน้าเธอ พลางทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ก่อนจะยื่นริมฝีปากเข้าไปจุมพิตกับศพราวกับจะเป็นการสั่งลา
.
"ผมจ้องเจ๊จนปวดตาไปหมดแล้วอ่ะ ขอผมจูบลาหน่อยล่ะกันเน๊าะ , จุ๊บ! "
.
"เพราะหลังจากกระบวนการนี้เสร็จสิ้น เจ๊จะจำเรื่องราวระหว่างเราไม่ได้อีกเลย.."
.
มือหนากร้านงานลูบไล้ไปตามไรผมเธอ พลางร่นเลื้อยลงมาตามโครงหน้า กับรสสัมผัสที่ชายหนุ่มจะไม่มีวันลืม แม้แต่นี้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นเบอร์แบโต้ก็สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่า นี่น่าจะเป็นการมีเซ็กส์ที่เวิร์ลคลาสที่สุดในโลก และเขาก็จะไม่มีวันไปทำแบบนี้กับใครอีก
.
"ลาก่อนครับเจ๊เอ็มม่า แม่มดน้อยเฮอร์ไบรโอนี่ของผม"
.
ยืดขาลุกขึ้นยืนก่อนจะตัดสินใจยื่นมือซ้ายซึ่งพับหักปลายเป็นกระบอกปืนไว้แล้ว ออกไปจ่อตรงหน้าผากพลันออกคำสั่ง
.
"ยิง!!!"
.
"จิ้วววววว~!"
.
ศีรษะเอ็มม่าสะบัดไปกระแทกกับประตูเซฟอย่างจัง! แต่เบอร์แบโต้แม่งไม่สน! เพราะสิ่งที่เจ้าตัวสนใจกลับเป็นก้อนความคิดที่ผุดขึ้นมาเป็นยวง ๆ พร้อมกับออร่าที่ห่อหุ้มไว้มากกว่า ใช่แล้ว! เจ้านี่คือ "ก้อนความตาย" DNA บริเวณติ่งเสียวบ่งบอกชัดเจนว่าเซลล์ของเอ็มม่ายังมีชีวิตอยู่ ทว่ากลับเป็นตัวเจ้าหล่อนเองที่คิดว่าตัวเองตายไปแล้ว ร่างกายก็เลยตอบสนองเป็นความแน่นิ่งแล้วก็ไม่หายใจอย่างที่เป็นอยู่
.
"Drain!"
.
"ฟู่!!!"
.
"ฮึบ! เวรเอ๊ย! หนักชิบเป๋งเลยวะแต่ไม่เป็นไรแค่นี้ยังไหว! แลกกับการให้เจ๊ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งผมยอม! ฮึ๊ย! ย๊ากกกกก! "
.
เพราะฉะนั้นการที่เบอร์แบโต้พยายามกัดฟันใช้แขนขวา Drain เจ้าก้อนความตายสีดำ ๆ คล้ำ ๆ นี้เข้ามาเก็บไว้กับตัว จึงเหมือนเป็นการดูดจิตใต้สำนึกในด้านนี้ของเธอออกไป แล้วก็จะทำให้เธอลืมตาขึ้นอีกครั้งในท้ายที่สุด เพียงแต่เอ็มม่าก็จะพาลจำเขาไม่ได้ไปด้วย
.
หนุ่มอเมริกันผิวสีรีบหันหลังให้เอ็มม่าในทันทีหลังกระบวนการแล้วเสร็จ เพราะนี่ก็แค่เรื่องเดิม ๆ เป็นภารกิจเดิม ๆ ที่เจ้าหน้าที่ภาคสนามต้องทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ถึงกระนั้นทำไมกันทำไมภายในใจกลับรู้สึกเหวง ๆ
.
.
ตัดภาพมาที่เอ็มม่าที่ค่อย ๆ เผยอเปลือกตาขึ้นเชื่องช้า เธอเห็นทุกอย่างไม่ชัดนักแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าอะไรเป็นอะไร เธอไม่เข้าใจว่าตัวเองมานั่งจมแหมะอยู่บนพื้นหน้าตู้เซฟตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหนจะสภาพเละเป็นโจ๊กของห้องทำงานนี้อีกล่ะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่! พอปรับโฟกัสได้และสังเกตเห็นหลังไว ๆ ของเบอร์แบโต้เข้า เธอก็เลยร้องตะโกนถามขึ้น
.
"คุณคะ.. คุณ ที่นี่เกิดอะไรขึ้น คนอื่นหายไปไหนกันหมด!?"
.
".........!"
เบอร์แบโต้ไม่ตอบ ไม่ได้หยิ่งหรืออะไรหรอก แต่เป็นเพราะเขาดีใจจนน้ำตาไหลที่รู้ว่าเธอฟื้นขึ้นมาแล้วต่างหาก สุดท้ายก็เลยแก้เกล้อด้วยการง้างหมัดแมน ๆ ต่อยเปรี้ยง! ใส่ก้อนหินที่หล่นลงมาโชว์มันซะดื้อ ๆ
"ว๊ายยยย! นี่มันอะไรกัน หินพวกนี้หล่นลงมาจากห้องหมอยูมิโกะใช่ไหม? นี่คุณอย่าเพิ่งเดินไปสิหันมาบอกฉันก่อน! ทำไมถึงเหลือแค่คุณกับฉัน ฉันสั่งคุณอยู่นะ! อร๊ายยยย! กล้าขัดใจฉันเหรอ!!!"
เธอก็ยังเป็นเธอเอ็มม่าบ่นฉอด ๆ พลันออกคำสั่งให้ทุกคนทำตามเป็นชุด แต่ครั้นจะลุกขึ้นแล้ววิ่งตามเบอร์แบโต้ไปเอาความจริงกลับทำไม่ได้
.
"อุ๊ย! เจ็บจังช่องคลอดเรา! อะไรกันเนี่ยะ! เจ็บมากอ่ะก้าวขาไม่ได้เลย , โอ๊ย! "
สาวเจ้าเปล่งเสียงออกมาเบา ๆ ในลำคอ เธอย่อตัวนั่งลงอีกครั้งแล้วก็ทำได้เพียงจ้องมองแผ่นหลังอันแผ่กว้างของชายหนุ่ม ที่เดินลับสายตาออกบานประตูไปอย่างเงียบ ๆ
.
.
ประตูหน้าห้องแผนกการเงินชั้น 3 งับปิดเบอร์โต้ก็เลยโล่งใจ เขาหันหลังพิงมันไว้หลับตาพริ้มนึกถึงแม่มดน้อยเฮอร์ไบรโอนี่ของเขาก่อนเล็กน้อย พลางล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เพื่อควักเอาของที่ได้ติดไม้ติดมือมาออกมานับ
.
"นิดหน่อยคงไม่เป็นไรนะเจ๊เอ็มม่า ก็ผมยังไม่ได้ค่าแรงเลยนี่หว่า"
"หนึ่ง!.. สอง!.. สาม!.. สี่!.. ห้า!.. หก!.."
"กรุ๊งกริ๊ง ๆ ๆ กรุ๊กกริ๊ง ๆ ๆ"
.
แต่ทว่าระหว่างที่เจ้าตัวกำลังไล่นับบรรดาแบงค์น้อยแบงค์ใหญ่ กับเหรียญทองมากมายที่แอบฉวยเอามาอยู่นั้น งานก็เข้าอีกจนได้เมื่อจู่ ๆ โทรศัพท์สายหนึ่งก็ดังขึ้นมา!
.
และปลายสาย.. แม่งดันกลายเป็นบอส!
สืบเท้ากระท่อนกระแท่นเดินเข้าเมืองไปได้หน่อยเดียว องค์หญิงนาตาชาก็สัมผัสได้ถึงน้ำหนักของฝ่ามือขนาดใหญ่ที่วางลงบนหัวไหล่ตนเอง เรี่ยวแรงดังกล่าวรั้งตัวเธอไว้จนต้องไพล่หน้ากลับหลังมองหาต้นตอ."คุณ! คุณมาได้ไงอ่ะ! ทั้งที่เจ็บปางตายขนาดนั้น"เผลอแผดเสียงซะดังลั่นก่อนจะใช้นัยน์ตาเฉี่ยวชำเลืองมองกลับไปยังจุดที่เจฟเฟอร์ตกลงมา ตัวเขายืนอยู่ตรงนี้ก็จริงในขณะที่ ณ จุดเกิดเหตุดันมีร่างไหม้ ๆ ของพลเมืองอลาลัสคนหนึ่งนอนอยู่ทดแทน."ผมถ่ายทอดความเจ็บปวดให้คนอื่นได้น่ะครับ แต่ช่างมันเถอะ! องค์หญิงบอกผมมาก่อนดีกว่าว่าท่านกำลังจะไปไหน เรื่องราวเป็นมายังไงกันแน่ ทำไมท่านถึงถูกตามล่า?"."ฉันจะกลับไปที่วังพรบ.ฟรีเซ็กส์ได้ข้อสรุปแล้ว พวกฉันทำพลาดการปลอมตัวไปเจรจาล้มเหลว พวกมันถึงจะจับฉันไปเป็นเครื่องต่อรองในการปฏิวัติ การกลับวังจะทำให้ฉันปลอดภัย"."อืม.. ไม่ค่อยเข้าใจแฮะ แต่ผมว่าอย่าเพิ่งดีกว่า ดูทรงแล้วท่านพ่อของท่านคงจะไม่ปลื้มในส่ิงที่ท่านทำลงไปนะครับ ถึงได้ตั้งรางวัลนำจับลูกตัวเองเอาไว้! โน่นลองดูสิ!".เบื้องหลังม่านพลังทรงโค้งขนาดใหญ่ที่ปิดบังอาคารสถานของอลาลัสอันสาปสูญ ภายในนี้หากพูดไปคงยากที่จะเ
พุ่งตรงดิ่งทะยานจากความสูงประมาณภูเขา 2 ลูกขี่คอกัน ด้วยความสูงที่ไม่มากเท่าไหร่เจฟเฟอร์เลยเหลือเวลาอยู่น้อยนิด แผ่นหลังองค์หญิงสยายกว้าง ในชุดหมีที่ห่อหุ้มเนื้อตัวไว้เพียงหลวม ๆ การสะบัดพือของมันรีบรัดจนเห็นสัดส่วนโค้งรัดตวัดร่องตูด อกเป็นอกเอวเป็นเอว ครั้นมีแต่จะลอยลับตาฉีกหนีทิ้งห่างออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งเจฟเฟอร์ไม่มีวันยอม.เป็นห่วงเธอจับใจเหมือนร่างกายมีแรงดึงดูด สายลับหนุ่มถวิลหาองค์หญิงนาตาชาโดยไม่ทราบสาเหตุ เขารีบม้วนตัวงอเข่าทำตัวเป็นก้อนกลม ก่อนจะพลิกเอาปมเชือกที่มัดแขนไว้ตวัดมาอยู่ด้านหน้า เจตนาใช้ฟันแก้ปมกลางอากาศแล้วก็ทำให้ร่างกายต้านลมให้น้อยที่สุด!."ฟู่~! , ฟิ้ววว~! , ฟู่~ ฟิ้ววว~!"สายลมเกรี้ยวกราดตรงเข้าเล่นงานจากทั่วทุกสารทิศ แต่เขาก็หาได้ใส่ใจ สายลับหนุ่มยังคงผงกหัวงึก ๆ ก้มปากลงกัดแทะเชือกออกจากข้อมือ ด้วยท่าทางละม้ายคล้ายกับคนป่วยโรคจิตที่คิดจะโม๊คควยตัวเองแต่เสือกหำสั้น.แล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจหรือเพราะแพ้ฝุ่นผง PM 2.5 บนชั้นบรรยากาศก็มิอาจทราบ สมองถึงสั่งให้ฮัมเพลงขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ฮัมไม่ฮัมเปล่าจาก "ฮัม" แปลงเป็น "หำ" แถมยังใส่ทำนองเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้อันเป็
บนยานฟาลคอน ดีเซ็มเบอร์ (ลำสำรอง) ที่ไอ้มือมีดหัวไหมพรมเรียกมา องค์หญิงนาตาชาอกภูเขาไฟกับเจฟเฟอร์ถูกควบคุมตัวอยู่บนนั้น ทั้งสองถูกจับมัดมือหันหลังพิงกันบั้นท้ายแนบชิดสนิทพื้น ดีอย่างที่เชือกมันหมดก็เลยไม่เหลืออะไรเอาไว้มัดปาก เปิดโอกาสให้เจฟเฟอร์พร่ำเพ้อถึงโลกที่เจ้าตัวรู้ออกมา."โลกมีเนื้อที่ 510,100,000 ตร.กม. เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่สามจากดวงอาทิตย์ กำเนิดเมื่อ 4,500 ล้านปีก่อน มีอันตรกิริยาเชิงโน้มถ่วงกับวัตถุอื่นในอวกาศโดยเฉพาะดวงจันทร์ ซึ่งเป็นดาวบริวารถาวรเพียงหนึ่งเดียว ปฏิกิรยาฟิชชั่นจากกัมมันตรังสีแผ้วถางทุกสรรพสิ่ง อันเป็นจุดจบของสงครามไปพร้อมกับวงศ์ทนงพงเผ่าชีวิต เพราะงั้นสิ่งที่หมอนั่นพูดถึง? อลาลัสอันเดอร์กราวน์? นอกจากยอร์คชินแล้ว.. หรือว่าโลกจะยังมีพื้นที่ให้มีชีวิตอยู่อีก! ตกลงมันไม่ใช่แค่ข่าวลือใช่ไหม? ".จัดเป็นการกระแอมกระซิบกระซาบที่ยืดยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ สายลับหนุุ่มนั่งบ่นด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นลุกลี้ลุกลนต่างจากทุกครั้ง เขาตื่นเต้นจริงจังซะยิ่งกว่าตอนโดนโรบ็อทซอมบี้บนกองขยะรุมทึ้งชิงอะไหล่ซะอีก พลางกระทุ้งข้อศอกตุบ ๆ ใส่เอวองค์หญิงไปสองสามทีให้เธอตอบกลับ.แต
แล้วเขาก็เร่ิมเล่าออกไม้ออกมือราวกับจราจรตำรวจ ผู้โบกรถหน้าโรงเรียนกลางแดดรุมร้อน ทุกถ้อยคำที่สื่อสารนำพาความสนใจให้ก่อเกิดในหมู่ผู้ฟังได้อย่างเหลือเชื่อ ทุกคนต่างนิ่งงัน สงบ และตกใจหน้าถอดสี ขนมเค้กที่แบ่งไว้ในจานถึงกับร่วงหล่นออกจากมือเอ็มม่า แคทเธอรีนต้องเดินกลับเข้าไปเปิดไฟให้สว่างโพลง พลางปิดเพลงจิงเกอร์เบลลงด้วยเหตุผลที่ว่า แต่นี้ต่อไปคงไม่มีใครเหลืออารมณ์พอจะปาร์ตี้อีกแล้ว แม้กระทั่งบอสประมุขสาวแห่งองค์กรผู้อยู่ในจุดสูงสุด."คุณอย่าพูดเป็นเล่นน่ะ! เหตุการณ์ไม่น่าจะบานปลายขนาดนั้น แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์รึเปล่าเบอร์แบโต้ แหล่งข่าวอาจจะบิดเบือนก็ได้นะ?"บอสทำเสียงเข้มใส่ พลางยกตัวเองขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะจ้องเขม็งเข้าไปถึงลูกนัยน์ตาของสายลับฝึกหัด."ไม่ผิดแน่ครับผมจะโกหกทำไม! ป่านนี้พี่เจฟเฟอร์จะเป็นไงบ้างไม่รู้! แกเป็นคนกำชับให้รีบเอาเรื่องนี้มาบอกกับบอสก่อน แล้วผมก็ติดต่อพี่แกไม่ได้อีกเลยตั้งแต่นั้น คือยังไม่เข้าใจหรอกครับว่าพวกมันจับองค์หญิงแห่งอลาลัสไปทำไม แต่ดูจากที่พวกมันฆ่าพี่ปิเก้กับทุกคนในงานจนเกลี้ยงแล้ว บางทีการที่ท่านนายกจัสตินหนีรอดมาได้ อาจจะเป็นความตั้งใจของมัน!"."เ
ก้อนความคิดถูก Drain ด้วยฝ่ามือฉันใด ครั้นจะพุ่งกลับคืนเข้าไปย่อมทำได้ฉันนั้น ท่ามกลางมวลมหาประชากรอสุจินับพันล้าน เบอร์แบโต้แฝงตัวรวมอยู่ในนั้นอย่างแนบเนียน มันถึงเวลาแล้วที่ดวงจิตของเขาจะกลับเข้าร่าง ช่วงจังหวะที่ซอยยิกปู้ยี่ปู้ยำกลีบผงาของชะเอมซะจนขาดกระเจิง น้ำรักของเธอไหลเยิ้ม น้ำตาไหลพับพรากสิโรราบให้กับความเสียว สาวเจ้าไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียว ว่าเบอร์แบโต้ได้ฉวยโอกาสพุ่งออกจากร่างพี่แฟรงค์ผ่านทางปลายควย!.โคตรอุบาทว์แต่แม่งเป็นเรื่องจริง! ในทิศบูรพา 32 องศา 70 ลิบดาตะวันออก ลำควยใหญ่โค้งชักออกจากร่องเสียวเด็กสาวอย่างรวดเร็ว พลันหักหัวไปทางหน้าต่างที่มีผ้าม่านโบกไสว ใช่แล้ว! นี่คือสิ่งที่เบอร์แบโต้วางแผนเอาไว้ทั้งหมด เขาใช้สองมือกระชับลำควย กัดฟันถลึงตามองไปที่เป้าหมาย แล้วก็.. ชัก ๆ ๆ ชัก ๆ ๆ ชัก ๆ ๆ ชัก! ชัก! จนน้ำกามปริมาณ 1.25 ลิตรพุ่งเป็นสายสะบัดจากฟูกเตียงโผทะยานแหวกผ่านผ้าม่าน ไปเปรอะแหมะ! เข้ากับร่างเปล่าของตัวเอง ที่พาดคางไว้กับวงกบหน้าต่างหน้าห้องได้เป็นผลสำเร็จ.ในมุมมองที่เล็กพอ ๆ กับจุลินทรีย์ หากส่องกล้องลงไปจะเห็นเลยว่าในมวลอสุจิเหล่านั้น เบอร์แบโต้กำลังออกแรงจ้
ความสงสัยใคร่รู้ทำให้เด็กสาวไฮสคูลเยื้องย่างลงจากเตียง แม้จะเขินอายอยู่บ้างแต่ก็ได้ฝ่ามือทั้งสองข้างปิดบังจุดสงวนทั้งส่วนบนและส่วนล่างเอาไว้ ชะเอมค่อย ๆ ย่องตามรอยอสุจิที่แห้งกรังอยู่กับพื้นไป จวบจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ตำแหน่งใกล้กันกับประตูทางออก ข้างกันคือหน้าต่างบานเกร็ดที่กระจกแตกละเอียด! ผ้าม่านกระพือ! มิหนำซ้ำบนพื้นก็ยังมีเศษกระจกแหลมคมหล่นอยู่เกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ใจเธอถึงไพร่คิด."เอ๋.. เราลืมความรู้สึกแบบนี้ไปได้ยังไง? ความเคลือบแคงในใจนี้เคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อนแล้วนี่ อย่างน้อยก็ก่อนที่พี่แฟรงค์จะอุ้มเราไปปล้ำ?".ว่าแล้วก็ผินหน้าหันกลับไปเช็คฝ่ายชายดูซะหน่อย เธอพบว่าพี่เขายังคงนอนตะแคงข้างหันหลังให้เธอ แล้วก็นิ่งอยู่แบบนั้นมานานมากแล้ว."ขออย่าให้เกิดเรื่องแย่ ๆ หรือมีคนเห็นเลย เราพลาดเองแหละที่กระสันเกินงาม หึ! พี่แฟรงค์นะพี่แฟรงค์ พี่เองก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับเรื่องนี้เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ใช้กำลังกระชากตัวเอมไปที่เตียงแล้วล่ะก็?"."แล้วดูสิ! ยังทำเป็นนอนนิ่งแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกนะ! ได้เอมเป็นเมียแล้วแท้ ๆ ".แววตาสวยหรี่เล็กลงยู่ยี่ภาพลาง ๆ ของเขาจากระยะ