"ไม่ทันแล้วหมอ มันฟาดลงมาแล้ว อร๊ากกกกก!!!"
.
เจฟเฟอร์ร้องลั่นเขายกมือขึ้นค้ำแม้จะรู้ดีว่าเป็นดั่งไม้ซีกงัดไม้ซุง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเพราะท่วงท่าแต๋วแตกดังกล่าวนั่นเองที่ทำให้เจ้าตัวยังคงมีชีวิตรอด เมื่อหมอยูมิโกะที่อยู่อีกฟากหนึ่งของปลายสายได้ใช้ปฏิิภาณไหวพริบตะโกนสวนออกไปว่า
.
"Drain!!!"
มันดังซะจนเจฟเฟอร์คิดว่าแก้วหูตัวเองคงแตก มันดังจนลอดผ่านหูฟังออกมาแล้วก็ไปรันเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ภายในของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม
.
เพียงเสี้ยวอึดใจวินาทีที่ฝ่ามือทรายใหญ่เบิ้มกำลังจะบดขยี้ร่างอยู่รอมร่อ ฝ่ามือของเจฟเฟอร์ก็จมบุ๋มลงไปเป็นหลุม แล้วพลังลมดูดอันเชี่ยวกราดก็เริ่มทำงาน มันดูดเอาเม็ดทรายมากมายเข้ามาเก็บไว้ในตัว กระบวนการทุกอย่างเหมือนกับตอนที่เจฟเฟอร์ทำกับก้อนความคิดผู้คนเป๊ะ ๆ ฝ่ามือเขาดูดด๊วบ ๆ สูบเอาทรายเป็นตัน ๆ เข้ามา ส่งผลให้อวัยวะของเจ้าปีศาจยักษ์เริ่มจะมีสภาพเว้าแหว่งเจียนอยู่เจียนไป ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่มือแต่รวมไปถึงขาด้วย การ Drain อันยอดเยื่ยมทำให้ขาของมันเสียการทรงตัว พลันล้มตรึงลงหงายท้องหงายไส้
.
"ตรึมมมมมมมม!"
.
แต่ทว่ากับแขนขวาของเจฟเฟอร์นี่สิ ที่ลักษณะดูไม่ดีเอาซะเลย เจ้าตัวเจ็บปวดทรมานมากจนต้องออกปากบอกให้หมอยูมิโกะหยุด
.
"อูยยยยย~ หมอ แขนผมจะไม่ไหวแล้ว ควันขึ้นใหญ่แล้ว อูยยยยย~! พอก่อน ๆ !"
.
เจฟเฟอร์ร้องโอดโอยเจ็บปวดแสนสาหัส และทันทีที่เครื่องหยุดเจ้าตัวก็รับรู้ได้เลยว่าร่างกายตัวเองนั้นไม่ปกติอีกต่อไปแล้ว
.
"แม่มโอ๊ย! ตัวหนักอึ้งเลยอ่ะขากถุ๊ย..!!!"
"ในปากก็มีแต่ทราย.. ถุ๊ยยยย!"
"ขอบคุณมากนะหมอที่ช่วยไว้ทัน ยังไงก็คุ้มแหละดีกว่าตายฟรี ทำไมผมถึงคิดไม่ถึงนะว่ามีวิธีนี้อยู่ไอ้เราก็เสียเวลายิงกระสุนเลเซอร์ใส่มันอยู่ตั้งนาน แค๊ก ๆ ๆ แค๊ก ๆ ๆ โอยทรายเต็มคอเลย"
.
"ยังค่ะยังไม่จบแซนดี้จังเขายังไม่ตายหรอกนะ ถ้าจะพูดกันตรง ๆ ต้องบอกว่าเขาเป็นอมตะ"
.
"ห๊ะ! นี่หมอล้อผมเล่่นป่าวเนี่ยะ?"
.
เจฟเฟอร์ตกใจสะดุ้งโหยง เขารีบหันไปหาปีศาจทรายท่ีเพิ่งจะรู้ชื่อจริงสุดน่ารักว่าแซนดี้ ก่อนจะพบว่ามันกำลังค่อย ๆ ซ่อมแซมร่างกายตัวเองขึ้นมาใหม่อีกครั้ง มิหนำซ้ำยังพยายามที่จะชันกายลุกขึ้นยืนด้วย
.
"ถะ.. ถอยก่อนดีกว่า ต้องรีบหนีไปจากที่นี่! ดะ.. เดี๋ยวนี้เลย!"
ทรายเต็มคอทำให้เปล่งเสียงไม่ถนัด ซะเมื่อไหร่เพราะที่ถูกคือเจฟเฟอร์แม่งกลัวจนพูดอะไรไม่ออกต่างหาก ในหัวเขามีเพียงการหลบหนีจึงรวบรวมเรี่ยวแรงพยุงตัวเองเซแถด ๆ ลัดเลาะไปตามสันทรายเจตนาจะไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่ค่อยถนัดนักเพราะน้ำหนักตัวในตอนนี้ที่น่าจะมากขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า ดูได้จากรอยเท้าที่จมลึกลงไปในทรายมากกว่าปกติ
.
"ครืดดดด , ครืดดดด"
.
"ฮัลโหล ๆ ฮัลโหลหมอได้ยินไหม หมอจะสร้างของพรรค์นี้ขึ้นมาทำไมเนี่ยะ มันอันตรายมากเลยนะรู้ตัวรึเปล่า!"
.
"ก็ไม่ทำไมหรอกค่ะ แซนดี้เขาเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตทดลองแล้วก็ผิดพลาดเหมือนกันกับพวกนาริตะกับยูมิ เพียงแต่เขาไม่มีร่างกายก็เลยใช้ทรายที่มีอยู่เยอะแยะในนี้เป็นร่างกายแทน บางทีเขาอาจจะอยากได้ตัวคุณล่ะมั้งเขาเลยดักทำร้ายเอา ไม่รู้สิ! เพราะหมอเองก็ควบคุมเขาไม่ได้"
.
"ไม่ค่อยได้ยินเลยหมอเอาไว้เล่าวันหลังดีกว่า เอาเป็นว่าตอนนี้รบกวนหมอช่วยผมที ต่อจากนี้ไปให้ผมทำยังไงต่อ ผมวิ่งไม่ไหวแน่ ๆ ผมไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้ว แขนขวาผมก็ควันขึ้นโขมงเลย! คงใช้การอะไรไม่ได้อีกแล้วไม่ว่าจะยิงกระสุน หรือ Drain"
"ฮู่ววว~! เหนือยจังแฮะ แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ "
.
จ้วงเท้าย่ำต๊อกถอยห่างออกมาจากจุดเกิดเหตุได้แค่ประมาณ 200 เมตร เจฟเฟอร์ก็ลิ้นห้อยซะแล้วซึ่งระยะทางแค่นี้เอาตรง ๆ นะเจ้าแซนดี้มันกระโจนพรวดทีเดียวก็เกินพอ
.
"ครืดดดดด , ครืดดดดด"
.
"นั่นสิหมอก็ไม่ค่อยได้ยิน เอางี้หมอจะสรุปสั้น ๆ นะตั้งใจฟังให้ดี"
.
"ครับ.. ว่ามาเลย"
.
"แซนดี้เขาไม่มีวันตายก็จริง แต่คุณสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยการใช้น้ำ สสารเหลวจะทำให้ทรายจับตัวเป็นก้อนและไม่รวมตัวกันอีก"
.
"เหมือนค็อกโคไดซ์ในการ์ตูนวันพีชน่ะเหรอครับ?"
.
"ไม่รู้สิ! การ์ตูนเก่าตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกหมอไม่รู้จักหรอก เอาเป็นว่ายังไงก็แล้วแต่วิธีนี้แหละเวิร์ค หลังจากนั้นคุณก็ต้องช่วยตัวเองอีกที หมอไม่รู้ว่าทางนั้นเป็นยังไง? คุณลงโบกี้ด้วยสาเหตุใดหมอก็ไม่รู้ แต่น่าจะพอมีร่องรอยของรางรถไฟหลงเหลืออยู่บ้าง ตามรางไปมุ่งลงใต้โรงงานจะอยู่ ณ จุดสิ้นสุด Map"
.
"ครืดดดดด , ครืดดดดด , ครืดดดดด"
.
"หมออย่าเพิ่งหมอ แล้วผมจะหาน้ำได้จากไหน หมอยูมิโกะ เฮ้! เชี้ยเอ๊ยคลื่นแทรกนี่น่ารำคาญจังวะ! หมอ.. หมอยูมิโกะ! ทราบแล้วเปล่ียนตอบกลับหน่อยเซ้!!!"
.
"ครืดดดดด , ครืดดดดด , ครืดดดดด""
.
ก่อนที่สัญญาณจะตัดไปเจฟเฟอร์ได้ยินเพียงคำพูดสุดท้ายของแพทย์หญิงหน้าหมวย ที่กำชับกับเขาว่าให้กลับด้านหูฟังไร้สายซะ ซึ่งเจ้าหน้าที่หนุ่มก็ทำตามแต่โดยดี ทั้งที่ก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะช่วยอะไรเขาได้
.
เคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อด้วยความเร็วที่ช้ากว่าเต่าเมาสารระเหย นี่เขาถูกเจ้าปีศาจแซนดี้กลืนกินไปแล้วรึเปล่านะทำไมถึงได้รู้สึกอ่อนแอขนาดนี้ แล้วดูสิ! แม้แต่เหง่่ือยังผุดออกมาเป็นเม็ดทรายเลย นั่นย่อมแสดงว่าในตัวของเจฟเฟอร์ในตอนนี้คงมีแต่ทรายอัดแน่นอยู่ น้ำในตัวคงระเหยแห้งไปหมดแล้ว แล้วอีหรอบนี้สายลับมือหนึ่งอย่างเขาจะไปหาน้ำจากไหนมาใช้ต่อกรกับจอมปีศาจแซนดี้ได้อีกเล่า
.
ครั้นจะหนีไปเฉย ๆ ก็คงไม่รอดอยู่ดี เพราะ ณ เวลาปัจจุบันไอ้ยักษ์ตัวเขื่องก็ได้จัดแจงซ่อมแซมตัวเองจนแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน มันลุกขึ้นยืนเนิบนาบพลางชะโงกหน้าไปมามองหาเหยื่อตัวเท่ามดซึ่งก็คือเขา! หมอบสิครับจะรออะไร! เจ้าหน้าที่ภาคสนามผู้ถูกฝึกยุทธวิธีการรบมาอย่างโชกโชนไม่สนใจหรอกว่าพื้นจะสกปรกแค่ไหน เจฟเฟอร์ทิ่มหน้าแนบกับทรายทั้งยังตะกุยตะกายเอาทรายมากลบสุมทับตัวเองเอาไว้ไม่ให้มันเห็น แต่ก็ดันลืมไปซะสนิทว่าทรายทุกเม็ดในผืนแผ่นดินนี้ ล้วนแต่มีแซนดี้เป็นผู้ควบคุมอยู่ทั้งหมด!
.
"เอาสิเจ้าแซนดี้จังหน้าโง่ แน่จริงก็หาฉันให้เจอสิ.. หึ ๆ "
.
ทำเป็นยิ้มมุมปากทั้งที่ตัวเองกำลังจะชะตาขาดยังไม่รู้ตัว โถ.. พ่อเจฟเฟอร์ผู้น่าสงสาร!
ร่างเปลือยนอนชูขาอ่อนล้าเรี่ยวแรง นาตาชาไม่เหลือแม้แต่กำลังจะดีดดิ้นพลิกตัวหลบหนีจากการย่ำยีทางเพศ เอาจริง ๆ แล้วหล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันเป็นตัวอะไร เพราะเสื้อเกาะอกที่เคยอำพรางพวงเต้าให้อูมกระชับได้รูปนั้น บัดนี้ก็ได้ถูกถลกขึ้นมาปิดตาเอาไว้จนมองอะไรไม่เห็นซะแล้ว สิ่งเดียวที่สาวเจ้ารับรู้จึงมีเพียงสัมผัสอันแปลกประหลาด ที่สากราวกับกระดาษทราย.อย่าเรียกว่าไซ้เพราะแม่งคือการแสครชเห็น ๆ นาตาชาแสบซอกคอไปหมด หลังจากโดนโรบอทตัวหนึ่งดอมดมด้วยความรุนแรง เสียงอืดดด.. อ๊าดดด กึกกัก ๆ ๆ ที่มันเปล่งออกมา ประดุจว่าแม่เทพธิดากำลังจะได้ผัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร รับประกันได้เลยมันจะไม่แค่ "ก็อป" เพราะมันจะ "ปี้" เธอแน่ ๆ หากยังยอมนอนให้กดอยู่เช่นนี้."อ๊อย! เจ็บจังเลย.. อื้อ! อื้อ! ขยับตัวก็ไม่ได้! อย่านะ อย่าทำแบบนั้นตรงหูมัน.. อร๊อยยย~!".ธิดาแห่งอลาลัสผู้โฉมหน้าคร่าตาคล้ายกับเทย์เลอร์ สวิฟต์ เบี่ยงหน้าหลบแบบสุดแรงเกิด แม้จะทำได้เพียงน้อยนิดแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้จุดที่เสียวที่สุดถูกไอ้หุ่นสนิมเขรอะตัวนี้ล่วงล้ำเอาชัย แพรผมสีบลอนด์ทองถึงกับแตกกระพือ มันคลี่ตัวออกคลุกกับเศษดินขุยขยะจนไม่เหลือเค้า
"หยุดตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วางกำลังล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว!".เห็นจะจริงถ้าหากว่านี่เป็นหนังไทยสมัย "จารุณี" แสดงเป็นพจมาน ตรงกันข้ามเมื่อประโยคแสนเชยดังกล่าวคงจะใช้กับสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ไม่ได้ ตำรวจห่าเหวอะไรล่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่ซอมบี้เชียงกงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เต็มไปหมด เจฟเฟอร์กับกลุ่มคนใช้่มีดคงสุดจะต้านทานแล้ว สังเกตได้จากการถอยร่นเอาหลังพิงกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มิหนำซ้ำกางเกงผ้ายืดเจ้ากรรมก็ดันมาพันควยพันหำจนเกือบจะล้มคะมำเสียหลัก."โอ๊ย! เอ๊ย! อุ๊ย! เดี๋ยวก่อนเซ้! อย่าเพิ่งกูยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งบุกเข้ามาตอนนี้ไอ้พวกหุ่นสารเลว!"สายลับหนุ่มขึ้นเสียงพลางกระโดดเหยง ๆ เซถลาออกจากตำแหน่ง สีข้างเขาครูดเข้ากับเศษตัวถังยานที่ลักพาตัวองค์หญิงนาตาชามา โดยสันนิษฐานคร่าว ๆ ได้ว่า ยานลำนี้น่าจะโดนยิงร่วงก่อนหน้า Gravitybike ของเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะไอร้อนจากเครื่องยนต์ยังคงอุ่น ๆ อยู่ ทำให้เจฟเฟอร์เกิดปิ้งไอเดียบางอย่างขึ้นมา ก่อนจะหลุบสายตาลงมามองลำควยกับลำขาทีี่พันกันอิรุงตุงนังของตนเอง แล้วก็บ่นขมุบขมิบ."ชิ! ไอ้ควยระยำนี่ก็ช่างแข็งถึกแข็งทนเหลือเ
สอดท่อนแขนอันกำยำเข้าโอบเอว ตวัดดึงเอาร่างอันผอมเพรียวเข้ามาแนบไว้ในวงแขน พลันกระโดดม้วนตัวเอาส่วนหนารับกงเล็บของเครื่องจักรสังหาร!."เอือกกก!"เจฟเฟอร์ร้องอุทานลั่น เขากัดฟันเม้มมุมปากในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อพบว่าองค์หญิงนาตาชากำลังจ้องมองอยู่ หน้าตาเธอบิดเบี้ยวขยะแขยง หัวคิ้วลู่เข้าหากันก่อนจะกลั้นใจซุกหน้าคมสวยที่คล้ายกับเทรเลอร์สวิฟ ลงมาซบเข้าที่ซอกคอของเจฟเฟอร์."ไม่ต้องกลัวนะครับผมมาช่วย ผมเป็นสุภาพบุรุษ ผมเกิดมาเพื่อคุณ""เอื้อกกก! อื้อหือ! อื้อออ! อ๊าาา!".แม่งแสบหลังก็แสบแต่แสบหูมากกว่าที่ต้องมาฟังอะไรแบบนี้ ระหว่างที่เจฟเฟอร์ได้ใช้ความพยายามในการปกป้ององค์หญิงอย่างเต็มความสามารถ พวกจักรกลซอมบี้ก็ทำอะไรองค์หญิงไม่ได้เลย มันทำได้เพียงตะปบกรงเล็บใส่หลังเขาแบบโหมกระหน่ำ และช่่วงเวลาที่เกร็งตัวป้องกันอยู่นั้น จู่ ๆ ริมฝีปากของนาตาชาก็ได้เผยอขึ้นเครือครางขมุบขมิบ เข้าใจว่าเธอคงจะกลัวมาก ยิ่งเป็นตอนที่เธอเผลอซีดปากและพ่นลมหายใจออกมา ยิ่งทำให้อารมณ์กำหนัดของเจฟเฟอร์พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น."กอดผมเอาไว้ครับ ผมจะไม่ให้องค์หญิงเป็นอะไรผมสัญญา"."อือ.. อืม.. แต่คุณคะ! ขืนเป็นแบบนี้".
ลมโชยโบยแก้มเจฟเฟอร์บึ่ง Gravitybike ทะยานฟ้าจนหนังหน้าชาไปเป็นแถบ ริมฝีปากเผยอตีนผมโบกพัดวือกระพือเสียทรง ให้ตายสิเขาทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นบอร์ดี้การ์ดของเธอยังไงยังงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วดวงหน้าขององค์หญิงนาตาชาแบบใกล้ ๆ เขายังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง เจฟเฟอร์รู้แต่เพียงว่าเธอคือภารกิจ ขืนปล่อยให้รัชทายาทแห่งอลาลัสองค์นี้เป็นอะไรไป ข้อมูลการประชุมที่บอสอยากได้ก็คงจะล้มเหลว.มองไปตรง ๆ เห็นแต่ความสยดสยองบนท้องฟ้า ก้มลงด้านล่างก็เห็นแต่ตึกรามบ้านช่องที่เล็กเท่ากับจิ๋มมดในเมืองยอร์คชิน กระทั่งลองมองที่หน้าปัดยานความซวยจึงบังเกิด."เชี้ยแล้ว! ไอ้สัดเอ๊ย! นี่จะขับพ้นขอบชายแดนแล้วเหรอวะเนี่ยะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน""ตาย ๆ ๆ แคทเธอรีนไม่ได้เตรียมอาวุธใส่ Gravitybike มาซะด้วย ไหนจะพิกัดขององค์หญิงที่หายไปจากหน้าจออีก เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยงานงอกแล้วไงกู!".โปรดอย่าสงสัยว่าทำไมเจฟเฟอร์ถึงออกอาการลนลานแปลก ๆ เพราะแม้ว่าในตัวเขานั้นจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำลายล้างมากมาย แต่ก็ยังเทียบไม่ได้อยู่ดีกับไอ้พวกที่อยู่ด้านล่าง เราพูดมาตลอดว่ายอร์คชินคือเมืองที่เปรียบเสมือนฐานที่มั่นสุดท้ายของโลก หลังเกิดส
แสงสว่างสองหย่อมเปล่งประกายออกมาตรงบริเวณแก้มก้น ภายใต้ชุดหนังรัดรูปอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมงาน Parallel เจฟเฟอร์รับรู้ได้ถึงพลังงานความร้อนที่กำลังโรมรันผิวตูดของเขา มันอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ จนค่อนไปทางร้อน กระทั่งเจ้าตัวย่อขาลงแล้วเอื้อมมือทั้งสองข้างลงไปตะปบไว้นั่นแหละมันถึงได้หยุด! ก่อนจะได้ออกมาเป็นแผ่นกระดานบางใส 2 แผ่นที่เรียกว่า "Jumper board".ขนาดกับรูปร่างเหมือนกับจานร่อนพลาสติกที่คนรักหมาใช้ปาให้เจ้าตูบกระโดดงับ ต่างกันนิดตรงที่ "Jumper board" นั้นอยู่ในรูปของคลื่นพลังงานมากกว่า มันเรืองแสงตลอดเวลา บางเบาแต่แข็งแกร่ง มิหนำซ้ำบริเวณด้านล่างยังมองเห็นประกายไฟสปาร์คเป็นเส้น ๆ ราวกับสายฟ้าจากค้อนโยเนียร์ของธอร์เทพเจ้า."เอาล่ะพอถือไว้ในมือแล้วจากนั้นก็.. , ฮึบ!"."พลั๊ว! , พลั๊ว! , พลั๊ว!""ฟิ้ววววว~!".ประหนึ่งเคยได้เสียกับจาพนมมาก่อน เจฟเฟอร์ตีลังกาใส่เกลียวพลันปาเจ้าแผ่น jumper board ออกไปกลางอากาศ! ม้วนตัวทีก็ปาไปอันนึง หกคะเมนหกรอบก็ปาออกไปหกแผ่น มันแทบจะวาร์ปขึ้นมาบนก้นได้เองในทุก ๆ ครั้งที่เขาไพล่มือไปสัมผัสโดนเข้า แผ่นบอร์ดพุ่งแหวกอากากาศฟึบฟับ ๆ ๆ ! คล้ายกับดาวกระจาย ก่อ
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านสยายไกลมาถึงคนนอก เบอร์แบโต้กับเจฟเฟอร์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ รับรู้ได้เลยว่าปิเก้กำลังแบกรับความกดดันอยู่มากแค่ไหน พวกเขาเหงื่อแตกซิก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่อยากจะคิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงแล้วถ้าเขาไม่มัวเถลไถลหาแขนข้างใหม่อยู่ เหตุการณ์สุดสยองทำนองนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับปิเก้เป็นแน่."เชี้ยเอ๊ย! ถ้ากูใส่เกียร์หมาเร่งกระเด้าเย็ดผู้หญิงให้แตกเร็วกว่านี้นะมึงเอ๊ย ไอ้ปิเก้มึงคงไม่ตายกูพูดจริง ๆ กูขอโทษเพื่อน"ส่ายหน้าไปมาปลดปลง จนเจฟเฟอร์ลืมไปเลยว่าทุกอย่างที่ฉายอยู่นั้นพุ่งออกมาจากตาของเขา."เฮ๊ย! พี่เจฟ! ใจเย็นก่อนพี่! เส้นโฮโลแกรมมันแตกกระจายหมดแล้ว ผมเวียนหัวดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วพี่ก็อย่าโทษตัวเองไปเลย ความเสียใจของพี่ผมสิต้องเป็นคนแบกรับเอาไว้ ผมน่ะรับงานโดยตรงมาจากบอสเลยนะ"เบอร์แบโต้พยายามพูดปลอบใจ แล้วทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์จากเครื่องฉายในม่านตาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เส้นลำแสงวูบไหวไปจังหวะหนึ่ง ตัดกลับมาหนนี้เจฟเฟอร์สังเกตเห็นเลยว่า ขณะนั่งคุกเข่าอยู่และกำลังจะถูกบ่วงเชือกไนล่อนกระชากคอขึ้นไป ปลายนิ้วชี้ของปิเก้ได้หักมุมลงมาแล้ว เขาเตร