ลมโชยโบยแก้มเจฟเฟอร์บึ่ง Gravitybike ทะยานฟ้าจนหนังหน้าชาไปเป็นแถบ ริมฝีปากเผยอตีนผมโบกพัดวือกระพือเสียทรง ให้ตายสิเขาทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นบอร์ดี้การ์ดของเธอยังไงยังงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วดวงหน้าขององค์หญิงนาตาชาแบบใกล้ ๆ เขายังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง เจฟเฟอร์รู้แต่เพียงว่าเธอคือภารกิจ ขืนปล่อยให้รัชทายาทแห่งอลาลัสองค์นี้เป็นอะไรไป ข้อมูลการประชุมที่บอสอยากได้ก็คงจะล้มเหลว
.
มองไปตรง ๆ เห็นแต่ความสยดสยองบนท้องฟ้า ก้มลงด้านล่างก็เห็นแต่ตึกรามบ้านช่องที่เล็กเท่ากับจิ๋มมดในเมืองยอร์คชิน กระทั่งลองมองที่หน้าปัดยานความซวยจึงบังเกิด
.
"เชี้ยแล้ว! ไอ้สัดเอ๊ย! นี่จะขับพ้นขอบชายแดนแล้วเหรอวะเนี่ยะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน"
"ตาย ๆ ๆ แคทเธอรีนไม่ได้เตรียมอาวุธใส่ Gravitybike มาซะด้วย ไหนจะพิกัดขององค์หญิงที่หายไปจากหน้าจออีก เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยงานงอกแล้วไงกู!"
.
โปรดอย่าสงสัยว่าทำไมเจฟเฟอร์ถึงออกอาการลนลานแปลก ๆ เพราะแม้ว่าในตัวเขานั้นจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำลายล้างมากมาย แต่ก็ยังเทียบไม่ได้อยู่ดีกับไอ้พวกที่อยู่ด้านล่าง เราพูดมาตลอดว่ายอร์คชินคือเมืองที่เปรียบเสมือนฐานที่มั่นสุดท้ายของโลก หลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 4 เมืองแห่งนี้ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีและวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่ากับสถานที่ ๆ อยู่รอบนอกยอร์คชินล่ะ? มีใครบ้างไหมที่เคยเห็นมัน?
.
"เมเดย์! เมเดย์! แคทเธอรีนตอบด้วย! เรียกศูนย์แคทตอบพี่ด้วย สถานการณ์ฉุกเฉินทราบแล้วเปลี่ยน! "
"ดาวน์โหลดใบอนุญาตผ่านเส้นทางธรรมชาติด่วน นี่ไม่ใช่การขอลี้ภัยทางการเมืองช่วยเคลียร์กับตม. ชายแดนให้หน่อย~ ได้ยินไหม~? แคท? แคทเธอรีน? , เฮ้! , แคท! , อีแคท! , อีเวรรรร!"
.
"ครืดดด! , ครืดดด! , ครืดดด!"
.
เงียบเป็นเป่าสาก แม้แต่สัญญาณจากระบบตอบรับอัตโนมัติก็ไม่มีสักแอะ ซึ่งจะไม่ให้เป็นอย่างงั้นได้ไง เพราะในขณะนี้แม้แต่หน้าจอบนคอนโซลสำหรับดูแผนที่บนยานก็ยังกะพริบวูบวาบติด ๆ ดับ ๆ คลับคล้ายคลับคลาว่ายานจะถูกแฮ็ก แล้วก็กำลังจะตกอยู่รอมร่อ
.
"อย่าบอกนะว่าโดนเล่นงานเข้าให้แล้ว! ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! อาวุธประจำยานก็ไม่มีสักชิ้น รายงานสถานการณ์เรียกกำลังเสริมก็ไม่ได้ เอาตัวเองมาตายแท้ ๆ ไอ้เจฟเอ๊ย! โอ๊ยกูน้อกู! , ฮึบ!"
.
"โป๊ก! , โป๊ก! , โป๊ก!"
.
"ติดสิโว๊ย! ติดสิ! ขอให้กูได้เห็นพิกัดสุดท้ายขององค์หญิงก่อนก็ยังดี มึงจะดับทำไมไอ้จอบ้า!"
.
"โป๊ก! , โป๊ก! , โป๊ก! "
.
ดูดู้ดู..ดูสิ่งที่เขาทำ ช่างเป็นวิธีแก้ปัญหาที่โบราณย้อนแย้งกับยุคสมัยซะเหลือเกิน แล้วก็เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นแล้วว่าความรุนแรงไม่ได้ช่วยอะไร กำกำปั้นทุบคอนโซลจนหน้าจอแตกเป็นเสี่ยงภาพก็ไม่ฟื้น เลวร้ายลงไปอีกขั้นเมื่อเสี้ยววินาทีต่อมา ลูกกระสุนปืนใหญ่จากภาคพื้นพสุธาก็ได้พุ่งแหวกอากาศปรี่ตรงเข้ามาใส่
.
เจฟเฟอร์เบิกตาโพลงแสงสว่างสีส้มเปล่งประกายเจิดจ้า สะท้อนอยู่ในแก้วตาเขา ซ้ำร้ายทีี่ทำห่าอะไรไม่ได้สักอย่าง เขาทำได้เพียงรวบรวมสติกำหนดลมหายใจ พลันแหกปากตะโกนลั่นอย่างกับตุ๊ดโดนตัดกระจู๋
.
"สละเรือ! อร๊ายยย~!"
.
"ตูมมมมม!!!"
.
กระสุนเข้าเป้าแบบตรงเผง มันพุ่งเข้าใส่กึ่งกลาง Gravitybike ด้วยความแม่นยำระดับสูงสุด ด้วยความสัตย์จริงปกติแล้วยานของ Parallel ทุกลำจะมีระบบป้องกันตอบโต้อากาศยานอยู่ ชื่อของมันคือ "TRADD" รูปร่างหน้าตาแบบเดียวกับที่อเมริกาใช้ต่อสู้กับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือนั่นแหละ แต่ถูกย่อส่วนลงมาให้เบาและติดตั้งง่ายขึ้น
.
ซึ่งก็อย่างที่เห็นว่าเจฟเฟอร์นั้นไม่ได้ต้ังใจจะเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ เขาไม่ได้ต้องการจะมาสู้ เขาแค่จะมาช่วยองค์หญิง แคทเธอรีนก็เลยไม่ได้เตรียมการเอาไว้ให้ ภาพที่ออกมาจึงเป็นการร่วงหล่นโรยราในสภาพสุดแสนจะเวทนาของสายลับอันดับหนึ่ง
.
โหมดสั่งการในมุมมองบุคคลที่ 1 กระพริบแดงเถือก มันแจ้งเตือนสถานการณ์ปัจจุบันด้วยข้อความ "warning! , warning! , warning!" ตอนที่ร่างใกล้จะตกกระทบพื้น เจฟเฟอร์จึงต้องรีบตัดสินใจด้วยการเหวี่ยงแผ่น jumper board ออกมาจากแก้มก้น เขาเพิ่มขนาดของมันให้กว้างขึ้นกว่าเดิม พลางเขวี้ยงมันออกไปด้วยรัศมีความกว้างที่เกินกว่า 1 เมตร จังหวะที่แผ่น jumper board ยักษ์คลุมทับพื้นดินด้านล่างเสร็จ ตัวของเขาก็หล่นลงมาใส่พอดี
.
"อร๊ากกก~ จะถึงแล้ววว~!"
.
"ฮึบ!"
.
"ดึ๋ง!.. ดึ๋ง!.. ดึ๋ง!.. ดึ๋ง!.. ดึ๋ง!.. ดึ๋ง!.."
"ดึ๋ง!.. เด้ง!.. ดึ๋ง!.. เด้ง!.. ดึ๋ง.. ดึ๋ง.."
.
ประดุจกลับไปเป็นหนูน้อยที่กระโดดตีลังกาอยู่ในบ้านลมสวนสนุก เจฟเฟอร์หมุนเคว้งกลางอากาศพลิกตัวอยู่บนพื้น board อยู่สักพัก ก่อนจะสปริงตัวออกมานั่งท่าชันเข่าท่ีเขาถนัด พลางคิดกับตัวเองในใจว่า "กูนี่เท่ห์โคตร ๆ " ซึ่งก็จริง! เพราะชั่วพริบตาต่อมา Gravitybike ก็ร่วงตามลงมาติด ๆ มันระเบิดโครมขึ้นที่ด้านหลัง กลายเป็นแบล็คกราวน์ที่แสนจะอลังการ ล้นฟ้า ดาวล้านดวง
.
ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็รู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องสนุก เขากำลังตกอยู่ในวงล้อมของศัตรูที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่มีนิยายเรื่องนี้มา ขึ้นชื่อว่าเป็นชายแดนแล้วไซร้ ลืมไปได้เลยสำหรับความไฮเทค เจฟเฟอร์เป็นมนุษย์กึ่งไซบอร์กก็จริง แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่นั้นยิ่งกว่า "สก็อตรังนกแท้" เพราะมันคือไซบอร์กแท้ ๆ แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่เขาไม่มีวันสู้ได้
.
สัญชาตญาณการหนีตายบ่งชี้ว่าต้องเป็นพวกมันแน่นอน ที่สอยยานของเขาร่วง หลังจากใช้ออปติคอลซูมในม่านตาควานหาต้นตอดู เจฟเฟอร์ก็เจอเข้าจริง ๆ กับป้อมปืนต่อสู้อากาศยานขนาดพกพาที่ติดตั้งไว้บนหลังคารถบรรทุก ให้ตายเถอะ! มันอยู่ห่างจากจุดที่เขาตกเกือบ 3 กิโลเมตร
.
"ชิ! ไอ้พวกสารเลว! นี่กูตกลงกลางดงของพวกมึงเลยสินะ"
"ไอ้พวกขยะ ไอ้หุ่นกระป๋องที่ไม่มีใครเอา"
"กูต้องออกไปจากที่น่ีให้ได้ กูมีความสามารถมากกว่าจะเป็นแค่หุ่นกรรมกรดักชิงวิ่งราวอย่างพวกมึงโว๊ย! ไอ้จักรกลโสโครก!"
.
ความโกรธไม่สบอารมณ์ ทำให้ถึงกับต้องพ่นคารมที่เหมือนกับการแบ่งแยกชนชั้นออกมา ไม่มีใครอยากยุ่งกับดินแดนส่วนนี้ สภาเมืองเคยจัดมนุษย์จริง ๆ มาทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตม. เพื่อควบคุม คน , สัตว์ , สิ่งของ ในการเดินทางเข้าออก แต่ทำไปก็เท่านั้นในเมื่อก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าผ่านพรมแดนตรงนี้ไป หันไปทางไหนก็มีแต่ซากปรักหักพังกับอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษ ที่ตรงนี้จึงมีสภาพไม่ต่างจากกองขยะอิเล็คทรอนิค เป็นสถานที่ ๆ คนในเมืองมักจะเอาของเสียมาทิ้งจนกองเป็นภูเขา
.
เราจึงมีโอกาสได้เห็น หุ่นบางตัว สิ่งของบางอย่าง ที่ยังไม่พังสนิทดีกำลังซ่อมแซมตัวเอง พวกมันใช้อะไหล่ตรงนั้น ดัดแปลงตรงนี้ สลับสับเปลี่ยนชิ้นส่วนกันให้กลับมาใช้การได้ จนค่อย ๆ สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นเป็นสังคมแห่งของเก่า ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงสลัมในประเทศอินเดีย ชายแดนของยอร์คชินซิตี้เป็นแบบนั้นเป๊ะเลย มันเต็มไปด้วยซากหุ่นบุโรทั่งสนิมเขรอะ อยู่กันอย่างอดอยากแร้นแค้นไร้คนเหลียวแล กิจวัตรประจำวันมีเพียงการ ฉุด , ฆ่า , ชิง , ปล้น เพื่อแย่งชิงอะไหล่ หวังเพียงมีชีวิตรอดไปวัน ๆ
.
ที่นี่จึงเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับมนุษย์ ไม่มีใครอยากมาขนาดผ่านยังยากที่จะไม่โดนทำร้าย ดูได้จากยานพาหนะของเจฟเฟอร์เป็นตัวอย่าง ขนาดบินมาบนฟ้าแท้ ๆ ยังไม่รอด
.
จนช่วงหลังมานี้ได้มีข่าวลือหลุดออกมาว่า เจ้าหน้าที่ ๆ สภาเมืองจัดตั้งน่ะเป็นแค่ร่างทรงหุ่นเชิด คน ๆ นั้นถูกฆ่าตายตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ฉะนั้นระบบวีซ่าพาสสปอร์ตต่าง ๆ จึงเป็นเพียงแค่เรื่องอำกันเล่น มันไม่เคยมีอยู่จริงตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ในขณะที่บางแหล่งข่าวก็อ้างอิงออกมาอีกแบบ ว่าแท้จริงแล้วเจ้าหน้าที่รายนั้นเป็นแค่หุ่นยนต์! ภายใต้เนื้อหนังมังสาของเขาเป็นไทเทเนียมอัลลอยทั้งหมด สภาเมืองจำเป็นต้องสร้างเขาขึ้นมาเพื่อต้องการจะลดแรงต้านจากสังคม เพราะยังไงซะชายแดนตรงนี้ก็ยังถือเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองยอร์คชินอยู่ หากฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายของโลกเว้าแหว่งไปผู้คนในเมืองย่อมไม่สบายใจ แม้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาทั้งหลายจะไม่เคยเฉียดกายเข้ามาใกล้ที่นี่เลยก็ตามที
.
.
และนี่คือทั้งหมดที่เจฟเฟอร์รู้ เขาไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติมได้ เนื่องจากจุดที่ยานตกเป็นจุดอับสัญญาณ อย่างที่บอกว่าอุปกรณ์ไฮเทคของเขาชิบหายวายวอดหมดแล้วนับตั้งแต่ที่ยานถูกโจมตี เจ้าตัวก็เลยกลายเป็นคนติดเกาะ แถมยังเป็นเกาะอิเล็คทรอนิคที่เต็มไปด้วยเศษซากสายไฟกับแผ่นตะกั่วที่สุมกองพะเนิน
.
ทว่า!
.
"เดี๋ยว ๆ ทำไมพื้นมันสั่น ๆ วะ อย่าบอกนะว่า?"
.
ด้วยความระวังตัวกึ่งตกใจชายหนุ่มจึงค่อย ๆ สืบเท้าถอยหลัง ร่นตัวลงมาจากเศษภูเขากองขยะ ระหว่างนั้นก็หักนิ้วมือเตรียมปลายกระบอกปืนเลเซอร์ให้พร้อมไว้
.
ทีละก้าวสองก้าวค่อย ๆ ย่องค่อย ๆ ถอยอย่างระมัดระวัง กระทั่งกลุ่มของพวกมันโผล่พรวดกันขึ้นมา! ดวงตามันแดงก่ำ สนิมเขรอะเต็มตัว เศษอะไหล่เชื่อมต่อกันอย่างอุบาทว์แต่ก็ยังพอเดินได้ กลุ่มจักรกลเชียงกงมือ 2 กระแทกตัวเองขึ้นมาจากใต้กองขยะดิจิตอล! พวกมันมีกันเป็นสิบ ๆ ตัว สะบัดศีรษะระริกถี่รัว พร้อมกันกับการกระพริบตาเปิดปิดถี่ ๆ ราวกับกำลังรับส่งข้อมูลถึงกันและกันอยู่
.
ตัดภาพไปที่เจฟเฟอร์ผู้ซ่ึงตอนนี้กำลังหมอบกลิ้งอยู่หลังเนินปฏิกูลของเสีย หน้าตาเขาซีดเซียวเหรอหรา เหงื่อออกเต็มมือเเปื้อนหน้าขาสั่นพับ ๆ ๆ เขาก็ยังเป็นเขาเป็นพระเอกผู้งี่เง่าขลาดเขลาเก่งแต่ตอนเอา แถมยังได้เอาแต่โฮโลแกรม
.
"ชู่ววว.. นิ่งไว้ก่อนอย่าส่งเสียงดังไป รู้ถึงไหนอายถึงนั่น อย่าไปสู้กับมัน เดี๋ยวจะตายก่อนได้เย็ดกับผู้หญิงตัวเป็น ๆ "
.
"นั่นไงเห็นไหม! มันมองไปที่ป้อมปืนแล้ว ไปสิ! ไป! ไปทางโน้น! ไปกันให้หมดทุกตัวเลย"
เจฟเฟอร์กระซิบกระซาบ พลางกวักมือป่ายปัดขับไล่
.
ท่วงท่าการเดินละม้ายคล้ายกับซอมบี้ที่ใส่ชุดเกราะ ฟันเฟืองตามข้อต่อหมุนเวียนเปลี่ยนสลับเอี๊ยดอ๊าด สายไฟห้อยระโยงระยางขาดวิ่น พวกมันค่อย ๆ เยื้อย่างตามกันไปเป็นพรวน เพื่อไปสมทบกับอีกบางส่วนที่อยู่่บริเวณป้อมปืน
.
สายลับหนุ่มคิดถูกแล้วที่ไม่ยอมแลก เพราะเห็นก๊อก ๆ แก๊ก ๆ กะโหลกกะลาอย่างงั้นนะ ลองแว๊บไปดูที่รอยเท้าของพวกมันดูสิแม่งเอ๊ยลึกบุ๋มลงเป็นฟุต! นี่จึงน่าจะเป็นจักรกลรีไซเคิลที่ล้มลงได้ยากที่สุดในประวัติศาสตร์ มิหนำซ้ำยังมีสมองเป็น Ai ที่ชาญฉลาดอีก สายลับกาก ๆ อย่างเจฟเฟอร์จะเอาอะไรไปสู้
.
"กูมีแค่แขนกับขาที่เป็นเครื่องกล แต่พวกมึงมีกันทั้งตัวแถมยังมีกันเป็นโขยง ถ้ากูสู้กูก็ปัญญาอ่อนแล้วล่ะ"
"ไปซะไป! รีบไป! จะไปไหนก็ไป! กูยังมีเรื่องต้องเครียดกับการตามหาองค์หญิงอีกนะ"
"นาตาชาป่านนี้ท่านจะเป็นยังไงบ้าง พวกมันคงปู้ยี่ปู้ยำท่านจนเละเทะไปถึงไหนต่อไหนแล้ว"
.
ผ่านไปพักใหญ่ จนมั่นใจว่าซอมบี้บุโรทั่งพากันพาเหรดหายไปจากจุดนี้หมดแล้ว เจฟเฟอร์ถึงได้ชันกายขึ้น เขาเฝ้าแต่ภาวนาไม่ให้องค์หญิงเป็นอะไร ก่อนจะตัดสินใจปีนขึ้นไปบนยอดของกองขยะอิเล็กทรอนิคอีกครั้ง หวังจะเห็นภาพมุมสูง เพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าสลัมของพวกหุ่นยนต์นั้นเป็นยังไง แหล่งเสื่อมโทรมสุดโสโครกประจำเมืองจะแย่แค่ไหน แล้วคนจะอยู่ได้บ้างรึเปล่า
.
"ฮึบ.. อ่า.. โอเคตรงนี้น่าจะเหมาะ วู้วเห็นชัดดีเหมือนกันแฮะ เราควรจะเริ่มสำรวจจากตรงนี้แหละเหมาะที่สุดเลย เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนซิ!"
.
"พวกหุ่นมัน?"
.
"นั่นมัน.. มันคือ.. ยานบินพาณิชย์! หรือจะเป็นยานที่ลักพาตัวองค์หญิงนาตาชามา!?"
.
"ต้องใช้แน่ ๆ ยังใหม่อยู่เลยด้วย! แถมยังโดนสอยร่วงเหมือนกับเรา ผนวกกับสัญญาณ GPS ที่หายไปจากหน้าจอโดยไม่ทราบสาเหตุ โป๊ะเช๊ะ! , ไอ้หย่ะใช่ ๆ !"
.
เจฟเฟอร์รีบแตะนิ้วเข้าที่ขอบตาโดยเร็ว ออปติคอลซูมแหวกผ่านกองขยะที่สุมทับเป็นชั้น ๆ ซูมผ่านผู้คนที่ผิวหนังฉีกขาดเผยให้เห็นชิ้นส่วนเหล็กและสายไฟระยางที่เคยอำพรางไว้ จากตรงนี้ไป 700 เมตร เจฟเฟอร์ซูมภาพผ่านหัวไหล่ของกองกำลังซอมบี้จักรกลราว ๆ 60 -70 ตัว พวกมันยืนเรียงกันเป็นแถวตอน เดินต้วมเตี้ยมแก่งแย่งชิงดีกันเพื่อจะขึ้นเป็นคนหน้าสุด
.
ด้วยความสัตย์จริง เจฟเฟอร์ไม่อยากให้ภาพจัญไรที่เขาคิดอยู่ในหัว เกิดขึ้นกับองค์หญิงนาตาชาเลย เขาทนไม่ไหวหรอกที่ผู้หญิงสวย ๆ จะต้องมาถ่างขาให้หุ่นยนต์เสพสมบ่มีสม มันวิตถารเกินไป ก็เลยออกคำสั่งใช้งานฟังก์ชั่นส่วนขา! ขาข้างใหม่ที่อุตส่าห์ได้มาจากโรงงานของหมอยูมิโกะ ซึ่งเป็นขาข้างเดียวกับตอนที่ใช้ทำลายบานประตูระหว่างที่บอสกำลังมี sex แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทำไมใช้ขาข้างนี้ทีไรต้องมีเหตุให้เห็นการเย็ดกันไปซะทุกที
.
"Swith On! บินไปเลย จรวดขาโทมาฮอร์ก!"
.
ควันขึ้นโขมงโฉงเฉง! จากจะไม่เด่นกลายเป็นเห็นกันทั้งสลัม เจฟเฟอร์ย่อตัวลงแช่ค้าง กลไกใต้ขาเคลื่อนไหวคืบคลาน โชคอัพสูบฉีดฉึกฉัก ๆ ๆ แล้วก็มีีแต่จะไวขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 3 วินาทีกางเกงผ้ายืดสุดฟิตจากชุดยูนิฟอร์ก็ขาดสะบั้น อะไหล่นับล้านชิ้นโผล่ออกมาพลันเคลื่อนไหวไปมาอย่างมีนัยะ จากนั้นก็..!
.
"ฟิ้ววว~!"
.
ฟงหวินขี่พายุทะลุฟ้า อัสนีบาตฟาดฟ้านาคาล่องกษิณ! พระเดชพระคุณหลวงพ่อร้องขอชีวิต! ให้ตายเหอะบุรุษหนุ่มพุ่งไปทางไหนชาวบ้านฉิบหายวายป่วงหมด ขนาดเจ้าตัวเองยังไม่คิดว่ามันจะวินาศสันตะโรขนาดนี้ ด้วยความที่มันเป็นขาข้างใหม่ แล้วเจฟเฟอร์เองก็ไม่เคยใช้ฟังก์ชั่นบินแปดแสนนี้มาก่อน ร่างหนาของเขาก็เลยพุ่งเร็วยิ่งกว่ากระสุนปืนใหญ่ ที่สอย Gravitybike ตก
.
จากจุดสตาร์ทบนกองภูเขาดิจิตอล ถีบตัวเปรี้ยงเดียวกองขยะทั้งกองก็เผาไหม้มอดม้วยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ตึกหรือเพิงพักชั่วคราวที่บินผ่าน หลอมเหลวกลายเป็นลาวาเศษขี้เถ้า ขยะต่าง ๆ ลุกโชนดั่งไฟจากขุมนรก และถ้าหากจะมีเพลงประกอบตามภาพ ก็ต้องเป็นเพลงเซนต์เซย่าที่ขับร้องท่อนวาร์กด้วย พี่โป่ง หิน เหล็ก ไฟ คนเดียวเท่านั้น
.
เว้นก็แต่พวกหุ่นยนต์ เศษเสี้ยวของมิลลิวินาทีีที่เจฟเฟอร์ระเบิดพลังบินผ่าน พวกซอมบี้โรบอร์ทที่รุมทึ้งแย่งชิงการเป็นหัวแถว ต่างก็ล้มระเนระนาดไม่เป็นท่า บางตัวก็ปลิวกระเด็น ในขณะที่บางตัวก็ล้มลงหัวปักพื้น ทว่าพวกมันกลับไม่เป็นอะไรเลยนี่สิ! อย่างที่บอกว่าเจฟเฟอร์น่ะมีแค่แขนกับขาที่เป็นเครื่องจักร ตรงข้ามกับเจ้าพวกน้ีที่เป็นไซบอร์กทั้งตัว เพราะฉะนั้นแค่นี้จึงไม่ระคายผิวพวกมัน ล้มลงได้ก็ลุกยืนขึ้นใหม่ได้ โดยไม่ต้องกระเสือกกระสนอะไรเลย
.
"เฮ้อ! ว่าแล้วว่าต้องงานเข้า นี่กูเล่นใหญ่เกินไปแล้วสินะ"
.
ผ่อนไอพ่นร่อนลงจอดกับภาคพื้น โดยมีฝูงซอมบี้โรบอร์ทเป็นโขยงยืนเอียงกระเท่เร่เด่นหลาอยู่เบื้องหน้า ด้านหลังเป็นซากยานพาณิชย์สุดไฮโซของไอ้คนใช้มีดกับลูกน้อง ใช่แล้ว ณ เวลานี้ในตอนนี้แม้ไม่ได้ตั้งใจ แต่เจฟเฟอร์ก็ต้องผนึกกำลังร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับไอ้ฆาตกรร้อยศพจอมโหดนี่ไปพลางก่อน
.
"รู้ว่าสงสัยแต่อย่าเพิ่งถาม ผมมาช่วยก็จริง แต่พวกคุณก็ต้องช่วยผมด้วย"
เจฟเฟอร์พูดพลางชำเลืองสายตามองข้างหลัง
.
"....?!"
ชายชุดดำร่างสันทัดงงในงง เขากระชับมีดคู่ใจให้แน่นขึ้น ไม่รู้ว่าใครเป็นใครแต่เทียบกับสิ่งที่เห็นเมื่อตอนเปิดตัวแล้ว ก็นับว่าดีกว่าลูกสมุนตัวเองที่ยิงเป็นแต่ปืนอยู่มากโข
.
"ได้! งั้นมาลุยกัน! อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง"
กัดฟันกรอดภายใต้หน้ากากไหมพรม แต่ก็ยังอุตส่าห์พยักหน้าให้
.
ฝูงซอมบี้ผู้หิวโหยอะไหล่ลงมือจู่โจมก่อน พวกมันกระโจนเข้าใส่จากทุกทิศทุกทาง ในขณะที่พวกเจฟเฟอร์กับคนแปลกหน้านั้นมีเพียงซากยานลำเขื่องที่ใช้เป็นบังเกอร์ที่ซ่อน ทว่าต่อให้สถานการณ์จะตกอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแค่ไหน สิ่งที่เจฟเฟอร์ต้องโฟกัสเป็นอันดับแรกก็คือองค์หญิงนาตาชา เขาขยับหน้ากวาดสายตามองหาเธออยู่หลายครั้ง จนกระทั่งชำเลืองไปเห็นเธอเข้าที่บริเวณใต้ปีก
.
เสื้อเชิ้ตด้านในขาดวิ่นคว้านลึกลงไปถึงร่องอก เสื้อสูทไม่รู้หลุดหายไปตอนไหน รู้แต่ว่ากางเกงสแล็คขายาวบัดนี้เหลืออยู่แต่ชั้นในสีพาสเทล หล่อนอยู่ในสภาพกึ่งโป๊กึ่งเปลือย เนื้อตัวสั่นเทาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เจฟเฟอร์ไม่สามารถอนุมานได้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิงบ้าง รู้แต่ว่าชั่วโมงก่อนเธอปลอมตัวมาเป็นชาย แล้วก็ให้ตายเถอะ! โผเข้ากอดกันในมุมอับเช่นนี้ อวัยวะแห่งความเป็นชายของเขาดันเริ่มแข็งตัวขึ้นซะงั้น!
ลมโชยโบยแก้มเจฟเฟอร์บึ่ง Gravitybike ทะยานฟ้าจนหนังหน้าชาไปเป็นแถบ ริมฝีปากเผยอตีนผมโบกพัดวือกระพือเสียทรง ให้ตายสิเขาทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นบอร์ดี้การ์ดของเธอยังไงยังงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วดวงหน้าขององค์หญิงนาตาชาแบบใกล้ ๆ เขายังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง เจฟเฟอร์รู้แต่เพียงว่าเธอคือภารกิจ ขืนปล่อยให้รัชทายาทแห่งอลาลัสองค์นี้เป็นอะไรไป ข้อมูลการประชุมที่บอสอยากได้ก็คงจะล้มเหลว.มองไปตรง ๆ เห็นแต่ความสยดสยองบนท้องฟ้า ก้มลงด้านล่างก็เห็นแต่ตึกรามบ้านช่องที่เล็กเท่ากับจิ๋มมดในเมืองยอร์คชิน กระทั่งลองมองที่หน้าปัดยานความซวยจึงบังเกิด."เชี้ยแล้ว! ไอ้สัดเอ๊ย! นี่จะขับพ้นขอบชายแดนแล้วเหรอวะเนี่ยะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน""ตาย ๆ ๆ แคทเธอรีนไม่ได้เตรียมอาวุธใส่ Gravitybike มาซะด้วย ไหนจะพิกัดขององค์หญิงที่หายไปจากหน้าจออีก เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยงานงอกแล้วไงกู!".โปรดอย่าสงสัยว่าทำไมเจฟเฟอร์ถึงออกอาการลนลานแปลก ๆ เพราะแม้ว่าในตัวเขานั้นจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำลายล้างมากมาย แต่ก็ยังเทียบไม่ได้อยู่ดีกับไอ้พวกที่อยู่ด้านล่าง เราพูดมาตลอดว่ายอร์คชินคือเมืองที่เปรียบเสมือนฐานที่มั่นสุดท้ายของโลก หลังเกิดส
แสงสว่างสองหย่อมเปล่งประกายออกมาตรงบริเวณแก้มก้น ภายใต้ชุดหนังรัดรูปอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมงาน Parallel เจฟเฟอร์รับรู้ได้ถึงพลังงานความร้อนที่กำลังโรมรันผิวตูดของเขา มันอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ จนค่อนไปทางร้อน กระทั่งเจ้าตัวย่อขาลงแล้วเอื้อมมือทั้งสองข้างลงไปตะปบไว้นั่นแหละมันถึงได้หยุด! ก่อนจะได้ออกมาเป็นแผ่นกระดานบางใส 2 แผ่นที่เรียกว่า "Jumper board".ขนาดกับรูปร่างเหมือนกับจานร่อนพลาสติกที่คนรักหมาใช้ปาให้เจ้าตูบกระโดดงับ ต่างกันนิดตรงที่ "Jumper board" นั้นอยู่ในรูปของคลื่นพลังงานมากกว่า มันเรืองแสงตลอดเวลา บางเบาแต่แข็งแกร่ง มิหนำซ้ำบริเวณด้านล่างยังมองเห็นประกายไฟสปาร์คเป็นเส้น ๆ ราวกับสายฟ้าจากค้อนโยเนียร์ของธอร์เทพเจ้า."เอาล่ะพอถือไว้ในมือแล้วจากนั้นก็.. , ฮึบ!"."พลั๊ว! , พลั๊ว! , พลั๊ว!""ฟิ้ววววว~!".ประหนึ่งเคยได้เสียกับจาพนมมาก่อน เจฟเฟอร์ตีลังกาใส่เกลียวพลันปาเจ้าแผ่น jumper board ออกไปกลางอากาศ! ม้วนตัวทีก็ปาไปอันนึง หกคะเมนหกรอบก็ปาออกไปหกแผ่น มันแทบจะวาร์ปขึ้นมาบนก้นได้เองในทุก ๆ ครั้งที่เขาไพล่มือไปสัมผัสโดนเข้า แผ่นบอร์ดพุ่งแหวกอากากาศฟึบฟับ ๆ ๆ ! คล้ายกับดาวกระจาย ก่อ
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านสยายไกลมาถึงคนนอก เบอร์แบโต้กับเจฟเฟอร์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ รับรู้ได้เลยว่าปิเก้กำลังแบกรับความกดดันอยู่มากแค่ไหน พวกเขาเหงื่อแตกซิก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่อยากจะคิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงแล้วถ้าเขาไม่มัวเถลไถลหาแขนข้างใหม่อยู่ เหตุการณ์สุดสยองทำนองนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับปิเก้เป็นแน่."เชี้ยเอ๊ย! ถ้ากูใส่เกียร์หมาเร่งกระเด้าเย็ดผู้หญิงให้แตกเร็วกว่านี้นะมึงเอ๊ย ไอ้ปิเก้มึงคงไม่ตายกูพูดจริง ๆ กูขอโทษเพื่อน"ส่ายหน้าไปมาปลดปลง จนเจฟเฟอร์ลืมไปเลยว่าทุกอย่างที่ฉายอยู่นั้นพุ่งออกมาจากตาของเขา."เฮ๊ย! พี่เจฟ! ใจเย็นก่อนพี่! เส้นโฮโลแกรมมันแตกกระจายหมดแล้ว ผมเวียนหัวดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วพี่ก็อย่าโทษตัวเองไปเลย ความเสียใจของพี่ผมสิต้องเป็นคนแบกรับเอาไว้ ผมน่ะรับงานโดยตรงมาจากบอสเลยนะ"เบอร์แบโต้พยายามพูดปลอบใจ แล้วทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์จากเครื่องฉายในม่านตาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เส้นลำแสงวูบไหวไปจังหวะหนึ่ง ตัดกลับมาหนนี้เจฟเฟอร์สังเกตเห็นเลยว่า ขณะนั่งคุกเข่าอยู่และกำลังจะถูกบ่วงเชือกไนล่อนกระชากคอขึ้นไป ปลายนิ้วชี้ของปิเก้ได้หักมุมลงมาแล้ว เขาเตร
"พี่ปิเก้กำลังบอกใบ้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากบนนั้นใช่ไหมครับ? พี่เขาต้องการให้เราขึ้นไปสืบข้างบนใช่ไหมพี่เจฟ?"เบอร์แบโต้ตวาดเสียงดุดัน ท่าทางเขาดูจริงจังจนออกนอกหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับสีหน้าสีตาของสายลับรุ่นพี่เป็นที่สุด."โอ่ย! โอ่ย! โอ่ย! ๆ ไอ้โต้เอ๊ย! ไอ้โต้! นี่ตอนเด็ก ๆ แม่มึงบดแกลบให้แดกกับกาบมะพร้าวเหรอ สมองมึงถึงอุ้มน้ำได้ถึงเพียงนี้! มันใช่ซะที่ไหนล่ะเจ้าทึ่ม! ตอนนั้นปิเก้มันนอนแหงนหน้าอยู่ใช่ไหม?"."ใช่ครับ.. พี่เขาหนุนตักผมอยู่?"."ถ้างั้นก็ไม่ผิดหรอก! เพราะที่มันชี้น่ะไม่ใช่รูแหว่งโบ๋บนหลังคา หากแต่เป็นของที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างหน้าผากแกต่างหากล่ะเจ้างั่ง!".ได้ยินเช่นนั้นมือหนาหยาบกร้านของเบอร์แบโต้ ก็รีบตะปบวนไปวนมาบนหน้าผากตัวเองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต."หน้าผากผมมันมีอะไรเหรอครับพี่เจฟ ผมไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย?"."เฮ้อ..! คืออย่างงี้สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ธรรมชาติของหน่วยภาคสนามอย่างเราน่ะ มันต้องพร้อมที่จะตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างลับ ๆ ผ่านทางชิบที่ฝังไว้ในส
สะบัดลำตัวสะดีดสะดิ้งหวิดหวิวเสียวสะท้าน ทันทีที่ภาพเสมือนโดนตัดสัญญาณ เจฟเฟอร์ก็รีบดึงสติกลับมาที่ตัวเอง เดชะบุญที่เขาไม่ได้ไปไหนไกลจากเบอร์แบโต้นัก จากตรงนี้ในชุดรัดรูปที่ใช้สำหรับทำภารกิจโดยเฉพาะ เจฟเฟอร์ยังคงมองเห็นเจ้าหน้าที่รุ่นน้องได้อย่างชัดเจน."โถ่เอ๊ย! ไอ้โต้ ดูสิดูมันทำ! ทำอย่างกับคนไม่เคยฝึกมา รื้อสถานที่เกิดเหตุกระจุยกระจาย ถุงมือก็ไม่ใส่ หลักฐานสำคัญหายหมดแล้วมั้งน่ะ! "."น่าเสียดายที่บอสรู้ตัวเร็วไปหน่อย ไม่งั้นเราคงได้ข้อมูลมามากกว่านี้ ดอกลาเวนเดอร์สดดอกหนึ่งราคาเฉียด 500 เหรียญ ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะกล้าปาเข้าใส่เราได้! ชูู่ววววว! ถึงที่ส่งไปจะเป็นแค่ภาพ visual ระบบ wireless ก็เถอะ แต่มันก็เสียวท้องน้อยดีเหมือนกันแฮะ.. วู้วววว!".วนมือเป็นวงบนพุงตัวเองวูบวาบ สายลับหนุ่มเป่าปากพ่นลมหายใจพรู อย่างที่เราทราบว่านวัตกรรมของ Parallel นั้นมีมากมายหลายชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้านี่ "เครื่องฉายภาพระยะไกลระบบ wireless " มันเป็นอุปกรณ์ย่อยที่ถูกติดตั้งเข้ามาใหม่ เพียงแค่กลับด้านหัวเข็มขัดนิดเดียว จากอุปกรณ์แปลงร่างก็จะกลายเป็นเครื่องส่งสัญญาณในทันที เดชะบุญที่โลกยุคนี้เป็น
บรรยากาศมาคุแผ่สยายปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ เงียบจนได้ยินเสียงเข็มหล่น เงียบซะจนได้ยินเสียงแอร์ดังครือ ๆ ครือ ๆ เจฟเฟอร์หน้าซีดเป็นไก่ต้ม เขาทำได้เพียงคุกเข่่าแล้วก็ก้มหน้าลงปลดปลงกับบานประตูอันเว้าแหว่ง กูไม่น่าพังมึงเข้ามาเลย!."ว่าไงล่ะ! จะเงียบทำไมมิทราบไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันถามเหรอ ว่าคุณเสียมารยาทเข้ามาที่นี่ทำไม!"บอสสาวแห่งองค์กรตวาดเสียงเข้มดุดัน และระหว่างที่เจฟเฟอร์กำลังจะอ้าปากตอบ."อ่ะ.. เอิ่ม คือผมจะเอา.. า.. า.."."หยุด! อย่าเพิ่งพูดอะไร ส่งหัวเข็มขัดคุณมาก่อน!"."หัวเข็มขัด! บอสจะเอาคืนเหรอครับ งั้นก็หมายความว่า.. ห๊ะ! นี่อย่าบอกนะว่า! บอสจะไล่ผมออก! ด้วยเรื่องแค่นี้เนี่ยะนะ! ไม่ครับบอสไม่ ไม่ ไม่ ๆ ๆ ไม่มีทาง! ยังไงผมก็ไม่ออก ออกไปผมจะเอาไรแดก!"."ใครอนุญาตให้เงยหน้ามิทราบคุณเจ้าหน้าที่ ฉันบอกว่าส่งมาก็คือส่งมาไง! ทำไมต้องให้ย้ำ!".กัดกรามกรอด ๆ ฝืนใจเจ็บทน ต้องก้มหัวให้ผู้หญิงแล้วยังต้องมาโดนปลดออกจากตำแหน่ง เพราะความจังไรของตัวเองอีก รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั้น ถึงจะไม่อยากทำแต่สุดท้ายก็ต้องยอมปลดหัวเข็มขัด ที่มีตราสัญลักษณ์เครื่องหมายเท่ากับ (=) แห่งองค์กร Parallel ค