แช่น้ำจนได้ที่เบอร์แบโต้ก็ลุกพรวดขึ้นจากอ่างเป็นคนแรก ผิวสีแทนอมน้ำตาลของเขาแดงระรื่อมัดกลามดีดเปรี๊ยะ ๆ เด้งดึ๋ง ๆ ควันขโมง
.
"วู้วววว.. เรียบร้อย สบายตัวดีจังเลยโว๊ย!"
เหลือบสายตาไปมามองหาผ้าเช็ดตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแล้วขมวดเข้าที่เอวแบบหลวม ๆ
.
"ผมไปก่อนนะพี่ ๆ ไว้ค่อยว่ากันต่อวันหลัง"
.
"เอ้อ..โชคดีไอ้น้องรัก ถ้ามีแบบนี้มาอีกก็อย่าลืมเรียกพวกฉันอีกล่ะ เดี๋ยวเลี้ยงเหล้าตอบแทนโว่ย"
.
"ไม่ต้องหรอกพี่เฟอร์นันโด ลำพังแค่พวกพี่ ๆ สอนงานให้ผม ๆ ก็สำนึกบุญคุณจะแย่อยู่แล้วเรื่องแค่นี้สบายมากครับ นี่เดี๋ยวเสร็จจากตรงนี้ผมก็ต้องขึ้นไปรับเช็คจากคุณเอ็มม่าฝ่ายบัญชีอีก ถ้าไม่ได้ทำงานที่ Parallel ก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมากมายขนาดนี้ได้รึเปล่า"
เบอร์แบโต้ร่ายยาวพลางส่งยิ้มแหย ๆ กลับไปให้รุ่นพี่ทั้งสองที่ยังคงแช่น้ำอยู่ เขาตรงไปที่ห้องแต่งตัวที่อยู่อีกฟาก จัดแจงเช็ดตัวหวีผมหยิบเอาชุดลำลองที่แลดูเรียบร้อยมาสวมใส่ แล้วก็จวนจะเดินออกมาจากห้องอาบน้ำออนเซ็นบนชั้น 2 นี้อยู่แล้ว ถ้าไม่ติดอะไรบางอย่างเข้า!
.
"เหี้ยไรวะน่ะ? เงาอะไรมาก้ม ๆ เงย ๆ อยู่หน้าห้องน้ำ"
.
เด็กหนุ่มผิวสีสัญชาติอเมริกันค่อย ๆ ย่องเข้าไปดูใกล้ ๆ ด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบา อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่าบานประตูห้องอาบน้ำนั้นทำจากกระดาษสาบาง ๆ ถ้าเจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์ สามารถแอบดูพฤติกรรมของเพื่อน ๆ ได้แล้วล่ะก็ นับประสาอะไรที่เบอร์แบโต้จะทำแบบเดียวกันบ้างไม่ได้ เขาค่อย ๆ เลื่อนบานประตูกั้นออกช้า ๆ ก่อนจะพบว่าเงาปริศนาดำทะมึนดังกล่าว ก็คือเจฟเฟอร์ที่กำลังนั่งหันหลังอยู่
.
"ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. ฉึก"
.
"พี่เจฟ.. พี่ทำอะไรอ่ะ?"
เบอร์แบโต้ถามแกมกระซิบกระซาบ
.
"ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. อื้อ.. อืมม.. ม.. ม"
"อือ.. อ่าาา~! ฉึกฉัก ๆ ๆ ๆ !"
.
ได้ยินก็แต่เสียงครือครางแสนกระเส่าดังแว่วออกมา เบอร์แบโต้ก็เลยเดาเอาว่าพี่เจฟของเขาคงจะไม่ได้ยิน ก็เลยเลื่อนบานประตูกระดาษให้กว้างขึ้นเปิดช่องให้แสงไฟจากภายในลอดผ่านออกมาเยอะ ๆ พี่แกจะได้รู้ว่ามีเขายืนตัวดำอยู่ด้านหลัง
.
แล้วภาพที่เจ้าตัวเห็นอยู่ตรงหน้าก็คือ เข็มขัดกับกางเกงสแล็คที่กองอยู่กับพื้น กางเกงในที่ล่นต่ำลงมาห้อยต่องแต่งอยู่ที่ตาตุ่ม เจฟเฟอร์หรี่ตาแหงนหน้าขึ้นมองเบอร์แบโต้เป็นภาพย้อนแสง แล้วก็ด้วยแสงลำเดียวกันนั้นเอง ที่ทำให้น้องเล็กในทีมถึงกับต้องร้องอุทานออกมาซะดังลั่น
.
" พี่เจฟชักว่าว!!!"
.
"ตรงนี้เนียะนะพี่! โคตรเหี้ย! โคตรอุบาทว์อ่ะ! ออฟฟิศเรายิ่งมีแต่ผู้หญิงพี่ไม่อายฟ้าอายดินบ้างรึไง มือวางอันดับหนึ่งแห่ง Parallel บอกตรง ๆ นะโคตรเสียศักดิ์ศรีอ่ะพี่"
.
"อ่าว! ไอ้สัดโต้มึงหลอกด่ากูเหรอ! ก็ใครใช้ให้พวกมึงเอากระหรี่มารุมเย็ดในนี้วะ กูเห็นเข้ากูก็อดไม่ไหวสิ แล้วอีกอย่างมึงดูนี่! แหกตาดูสิว่าควยกูแม่งแข็งโด่เป็นเสาไฟฟ้าอย่างงี้ ถ้ากูไม่ชักว่าวออกให้อ่อนลงพวกผู้หญิงมาเห็นเข้ากูจะเอาหน้าไปไว้ไหน ถ้าแม่งจะพลาดก็เพราะไอ้ไก่อ่อนอย่างมึงนี่แหละ มึงจะตะโกนให้ชาวบ้านเขารู้ทำพระแสงของ้าวอะไรวะเฮ่ย!"
เจฟเฟอร์สวนกลับ เขาตะกุยตะกายลุกขึ้นยืนแต่ก็ทำไม่ถนัดนักเพราะแขนซ้ายที่ขาดไป กางกงกางเกงนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันก้มเก็บไม่ได้หรอกถ้าขนาดของลำควยจะใหญ่ย้ำค้ำฟ้าขนาดนั้น
.
"ไม่ใช่น่ะพี่.. พี่เข้าใจผิดแล้ว ผู้หญิงที่พวกเราเอาไม่ใช่กระหรี่ แต่นั่นคือก้อนความทรงจำที่ผม Drain มาจากเหยื่อ แคทเธอรีนร้านดอกไม้ใช้เครื่องแปรสภาพมวลสารแล้วก็ได้เป็นเธอออกมา!"
"ว่าแต่.. ช่อดอกลาเวนเดอร์บนพื้นนั่นฝีมือพี่ใช่ไหม?"
.
"เออของกูเอง ถามทำไม?"
.
"เปล่าพี่ผมแค่จะเปรียบเทียบให้ฟังว่ากว่าพวกเรา Parallel จะแปรสภาพได้ของที่เป็นธรรมชาติแท้ ๆ ออกมาน่ะ มันยากมาก ๆ แล้วกับการที่ผมแปรสสารแล้วได้ผู้หญิงตัวเป็น ๆ ออกมา เป็นพี่ ๆ ไม่เอาเหรอ? เอาฟรีนะพี่! เย็ดได้ทุกที่เต็มที่ทุกท่วงท่า เสียดายที่ขาดท่าหมาไป!"
.
"พอ ๆ มึงหยุดพูดเดี๋ยวนี้ไอ้เบอร์แบร์โต้ ยิ่งมึงพูดควยกูยิ่งแข็ง แม่งเอ๊ยกูระบมไปหมดแล้ว~"
.
เจฟเฟอร์รีบโบกมือไหว ๆ เป็นสัญญาณให้รุ่นน้องหยุด สีหน้าเขาเจ็บปวดโอดโอยอย่างเห็นได้ชัด ณ ตอนนี้เรื่องเครื่องเพศตรงหว่างขา เหมือนจะมีวาระมากกว่าแขนที่ขาดไปเสียด้วยซ้ำ แล้วไม่กี่วินาทีให้หลังสองเพื่อนซี้อย่างเฟอร์นันโดกับปิเก้ก็ว่ิงหยอย ๆ นุ่งผ้าเช็ดตัวตามออกมา
.
"ไอ้หย๋า! โคตรพ่องมึง! ไอ้เจฟแขนมึง?"
ปิเก้ทักขึ้น
.
"ส้นตีนเอ๊ย! กูเคยเตือนมึงแล้วว่าอย่าประมาท ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นเพราะเครื่องแปรมวลสารรุ่นพกพาบน Gravity bike ใช่ไหมล่ะที่ขย้ำแขนมึง? หยึยย!!! "
เฟอร์นันโดสำทับโดยไม่ได้ดูตาม้าตาเรือเลยว่า ท่อนเอ็นของเพื่อนนั้นโด่ยื่นออกมาจนแทบจะชี้หน้าคนถามได้อยู่แล้ว
.
"พวกมึงสองคนห่วงกูผิดจุดแล้ว แขนกูไม่เป็นไรหรอกกูรู้ว่าหมอยูมิโกะเขาช่วยกูได้ แต่ควยกูนี่สิถ้ามันไม่ได้จิ๋มผู้หญิงจริง ๆ กูตายแน่ พวกมึงช่วยกูหน่อยเถอะวะ อย่างน้อยก็ช่วยรับผิดชอบกูทีเพราะการลงแขกเย็ดในหม้อสุกี้ของพวกมึง 3 ตัวเชียว ที่ทำให้กูเป็นแบบนี้!"
.
หนุ่มลูกครึ่งอิตาลีเสยผมทองครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่เฟอร์นันโดจะโพล่งคำพูดที่แสนอุบาทว์ออกมาในเสี้ยววินาที
.
"แบกแม่งลงไปข้างล่าง ไปหานังหนูแคทเธอรีน! เด็กไปหน่อยแต่หลับหูหลับตาเอาแก้ขัดไปก่อนได้อยู่ มึงเชื่อกูรับรองเวิร์ค!"
.
"ไอ้ระยำซั่มแม่ง มึงคิดได้ไงเนียะ!?"
.
"อ่าว! นี่อาการมึงหนักมากจนถึงขนาดยกควยตัวเองไม่ไหวเลยหรอ ถ้างั้นไอ้เบอร์แบโต้! มึงอ่ะไปลากตัวแคทเธอรีนขึ้นมาบนนี้เลย บอกไปว่าพี่เจฟเฟอร์อยากพบ"
.
"ไม่ได้เว๊ย! นี่พวกมึงจะกวนตีนกูไปถึงไหน น้องเขายังไร้เดียงสาอย่าเอาความคิดสกปรกชั่วช้าของเรา ไปทำให้เขามัวหมองเป็นอันขาด!"
.
ส่ายหัวเหนื่อยหน่ายสุดแสนจะทน ปิเก้ที่ยืนกอดอกฟังอยู่นานนมเลยขอมีบทบาทบ้าง เริ่มจากการเดินลากขาเอื่อย ๆ มาหยุดลงตรงหน้าเจฟเฟอร์ ก่อนจะคุกเข่าลงชนิดที่ปลายควยนั้นจรดอยู่กับสันจมูก
.
"นี่มึงคิดจะทำอะไรของมึงปิเก้.. กูไม่เล่่นด้วยนะเว่ย"
เจฟเฟอร์ถามแบบกล้า ๆ กลัว ๆ เขาถอยล่นออกห่างเรื่อย ๆ ขณะที่เพื่อนอีกสองคนก็ลุ้นตามเป็นระยะ
.
"กูก็คิดที่จะช่วยมึงด้วยการทำอย่างงี้ไง.. อ้าาาาาาา!!!"
สองมือจับกระชับหมับ! ขากรรไกรฉีกกว้างถึงใบหู จวนจะอมควยเข้าปากอยู่รอมร่อ แต่ถ้ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ ให้เจฟเฟอร์ตายเสียยังดีกว่า!
.
"ไปอมให้พ่องมึงเถอะ ไอ้เช็ดครก!!!"
.
"พลั๊ววววว!"
.
"โอ๊ยยยย! ไอ้สัดเจฟนี่ กูกำลังช่วยชีวิตมึงอยู่นะไอ้เนรคุณ!"
.
"เนรคุณพ่องมึงสิ! โดนปิเก้โมคควยเนียะนะรู้ถึงไหนอายเข้าถึงนั่น มึงแหกตาดูซิ! มึงฟัง! มึงได้ยินไหม! ไอ้โต้กับไอ้เฟอร์นันโดมันขำกลิ้งตัวโยนอยู่โน่น"
.
"บัดโถ่เอ๊ย! ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ไม่เห็นต้องเอาควยฟาดปากกันนี่หว่า มึงคิดว่ามึงอายเป็นคนเดียวรึไง? แล้วกูล่ะ! มึงไม่คิดเหรอว่ากูจะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไง?! เวรแท้ ๆ "
ปิเก้ตัดพ้อพลางเอามืออังแก้ม อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
.
"พวกมึงพอเลยมึงหยุดกันแค่นี้แหละ กูว่ากูหาทางออกของกูเองดีกว่า ไม่ต้องรับผิดชอบห่าอะไรแล้ว กูให้อภัยพวกมึงเสมอเพื่อน จะไปไหนก็ไป! ไปไกล ๆ ตีนกู ไม่สิ! ถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่าไปให้ไกลควยกูต่างหาก!"
.
"ห่ะ ๆ ๆ ใจเย็น ๆ พ่อหนุ่มอยู่ด้วยกันก่อน เลือดมึงเริ่มไหลออกมาเยอะแล้ว หน้ามึงก็ซีดเป็นไก่ต้มแล้วด้วย มึงอาจจะไม่รู้ตัวแต่พวกกูมองเข้าไปมันเห็นชัดนะเฟ้ยไอ้เจฟ"
เฟอร์นันโดทักท้วงผสมเกลี่ยกล่อม แต่เจฟเฟอร์ก็เลือกที่จะปฏิเสธเสียงแข็งอยู่เช่นเดิม
.
"เออน่ะกูรู้ตัวกูดี กูจะขึ้นไปหาหมอยูมิโกะมันทั้ง ๆ แบบนี้แหละ แค่เจ้าเบอร์แบโต้คนเดียวก็พอ"
.
.
"ไอ้น้องเดี๋ยวเอ็งช่วยเก็บช่อดอกลาเวนเดอร์ , แขนซ้ายที่ขาด , กับกางเกงให้พี่ที แล้วตามพี่ขึ้นไปบนชั้น 4 นะ"
.
"แต่ถ้าหมอยูมิโกะเขาฆ่ากูตาย! กูก็รบกวนมึงเก็บศพให้กูด้วยล่ะกัน"
"หยุดตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วางกำลังล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว!".เห็นจะจริงถ้าหากว่านี่เป็นหนังไทยสมัย "จารุณี" แสดงเป็นพจมาน ตรงกันข้ามเมื่อประโยคแสนเชยดังกล่าวคงจะใช้กับสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ไม่ได้ ตำรวจห่าเหวอะไรล่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่ซอมบี้เชียงกงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เต็มไปหมด เจฟเฟอร์กับกลุ่มคนใช้่มีดคงสุดจะต้านทานแล้ว สังเกตได้จากการถอยร่นเอาหลังพิงกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มิหนำซ้ำกางเกงผ้ายืดเจ้ากรรมก็ดันมาพันควยพันหำจนเกือบจะล้มคะมำเสียหลัก."โอ๊ย! เอ๊ย! อุ๊ย! เดี๋ยวก่อนเซ้! อย่าเพิ่งกูยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งบุกเข้ามาตอนนี้ไอ้พวกหุ่นสารเลว!"สายลับหนุ่มขึ้นเสียงพลางกระโดดเหยง ๆ เซถลาออกจากตำแหน่ง สีข้างเขาครูดเข้ากับเศษตัวถังยานที่ลักพาตัวองค์หญิงนาตาชามา โดยสันนิษฐานคร่าว ๆ ได้ว่า ยานลำนี้น่าจะโดนยิงร่วงก่อนหน้า Gravitybike ของเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะไอร้อนจากเครื่องยนต์ยังคงอุ่น ๆ อยู่ ทำให้เจฟเฟอร์เกิดปิ้งไอเดียบางอย่างขึ้นมา ก่อนจะหลุบสายตาลงมามองลำควยกับลำขาทีี่พันกันอิรุงตุงนังของตนเอง แล้วก็บ่นขมุบขมิบ."ชิ! ไอ้ควยระยำนี่ก็ช่างแข็งถึกแข็งทนเหลือเ
สอดท่อนแขนอันกำยำเข้าโอบเอว ตวัดดึงเอาร่างอันผอมเพรียวเข้ามาแนบไว้ในวงแขน พลันกระโดดม้วนตัวเอาส่วนหนารับกงเล็บของเครื่องจักรสังหาร!."เอือกกก!"เจฟเฟอร์ร้องอุทานลั่น เขากัดฟันเม้มมุมปากในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อพบว่าองค์หญิงนาตาชากำลังจ้องมองอยู่ หน้าตาเธอบิดเบี้ยวขยะแขยง หัวคิ้วลู่เข้าหากันก่อนจะกลั้นใจซุกหน้าคมสวยที่คล้ายกับเทรเลอร์สวิฟ ลงมาซบเข้าที่ซอกคอของเจฟเฟอร์."ไม่ต้องกลัวนะครับผมมาช่วย ผมเป็นสุภาพบุรุษ ผมเกิดมาเพื่อคุณ""เอื้อกกก! อื้อหือ! อื้อออ! อ๊าาา!".แม่งแสบหลังก็แสบแต่แสบหูมากกว่าที่ต้องมาฟังอะไรแบบนี้ ระหว่างที่เจฟเฟอร์ได้ใช้ความพยายามในการปกป้ององค์หญิงอย่างเต็มความสามารถ พวกจักรกลซอมบี้ก็ทำอะไรองค์หญิงไม่ได้เลย มันทำได้เพียงตะปบกรงเล็บใส่หลังเขาแบบโหมกระหน่ำ และช่่วงเวลาที่เกร็งตัวป้องกันอยู่นั้น จู่ ๆ ริมฝีปากของนาตาชาก็ได้เผยอขึ้นเครือครางขมุบขมิบ เข้าใจว่าเธอคงจะกลัวมาก ยิ่งเป็นตอนที่เธอเผลอซีดปากและพ่นลมหายใจออกมา ยิ่งทำให้อารมณ์กำหนัดของเจฟเฟอร์พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น."กอดผมเอาไว้ครับ ผมจะไม่ให้องค์หญิงเป็นอะไรผมสัญญา"."อือ.. อืม.. แต่คุณคะ! ขืนเป็นแบบนี้".
ลมโชยโบยแก้มเจฟเฟอร์บึ่ง Gravitybike ทะยานฟ้าจนหนังหน้าชาไปเป็นแถบ ริมฝีปากเผยอตีนผมโบกพัดวือกระพือเสียทรง ให้ตายสิเขาทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นบอร์ดี้การ์ดของเธอยังไงยังงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วดวงหน้าขององค์หญิงนาตาชาแบบใกล้ ๆ เขายังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง เจฟเฟอร์รู้แต่เพียงว่าเธอคือภารกิจ ขืนปล่อยให้รัชทายาทแห่งอลาลัสองค์นี้เป็นอะไรไป ข้อมูลการประชุมที่บอสอยากได้ก็คงจะล้มเหลว.มองไปตรง ๆ เห็นแต่ความสยดสยองบนท้องฟ้า ก้มลงด้านล่างก็เห็นแต่ตึกรามบ้านช่องที่เล็กเท่ากับจิ๋มมดในเมืองยอร์คชิน กระทั่งลองมองที่หน้าปัดยานความซวยจึงบังเกิด."เชี้ยแล้ว! ไอ้สัดเอ๊ย! นี่จะขับพ้นขอบชายแดนแล้วเหรอวะเนี่ยะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน""ตาย ๆ ๆ แคทเธอรีนไม่ได้เตรียมอาวุธใส่ Gravitybike มาซะด้วย ไหนจะพิกัดขององค์หญิงที่หายไปจากหน้าจออีก เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยงานงอกแล้วไงกู!".โปรดอย่าสงสัยว่าทำไมเจฟเฟอร์ถึงออกอาการลนลานแปลก ๆ เพราะแม้ว่าในตัวเขานั้นจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำลายล้างมากมาย แต่ก็ยังเทียบไม่ได้อยู่ดีกับไอ้พวกที่อยู่ด้านล่าง เราพูดมาตลอดว่ายอร์คชินคือเมืองที่เปรียบเสมือนฐานที่มั่นสุดท้ายของโลก หลังเกิดส
แสงสว่างสองหย่อมเปล่งประกายออกมาตรงบริเวณแก้มก้น ภายใต้ชุดหนังรัดรูปอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมงาน Parallel เจฟเฟอร์รับรู้ได้ถึงพลังงานความร้อนที่กำลังโรมรันผิวตูดของเขา มันอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ จนค่อนไปทางร้อน กระทั่งเจ้าตัวย่อขาลงแล้วเอื้อมมือทั้งสองข้างลงไปตะปบไว้นั่นแหละมันถึงได้หยุด! ก่อนจะได้ออกมาเป็นแผ่นกระดานบางใส 2 แผ่นที่เรียกว่า "Jumper board".ขนาดกับรูปร่างเหมือนกับจานร่อนพลาสติกที่คนรักหมาใช้ปาให้เจ้าตูบกระโดดงับ ต่างกันนิดตรงที่ "Jumper board" นั้นอยู่ในรูปของคลื่นพลังงานมากกว่า มันเรืองแสงตลอดเวลา บางเบาแต่แข็งแกร่ง มิหนำซ้ำบริเวณด้านล่างยังมองเห็นประกายไฟสปาร์คเป็นเส้น ๆ ราวกับสายฟ้าจากค้อนโยเนียร์ของธอร์เทพเจ้า."เอาล่ะพอถือไว้ในมือแล้วจากนั้นก็.. , ฮึบ!"."พลั๊ว! , พลั๊ว! , พลั๊ว!""ฟิ้ววววว~!".ประหนึ่งเคยได้เสียกับจาพนมมาก่อน เจฟเฟอร์ตีลังกาใส่เกลียวพลันปาเจ้าแผ่น jumper board ออกไปกลางอากาศ! ม้วนตัวทีก็ปาไปอันนึง หกคะเมนหกรอบก็ปาออกไปหกแผ่น มันแทบจะวาร์ปขึ้นมาบนก้นได้เองในทุก ๆ ครั้งที่เขาไพล่มือไปสัมผัสโดนเข้า แผ่นบอร์ดพุ่งแหวกอากากาศฟึบฟับ ๆ ๆ ! คล้ายกับดาวกระจาย ก่อ
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านสยายไกลมาถึงคนนอก เบอร์แบโต้กับเจฟเฟอร์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ รับรู้ได้เลยว่าปิเก้กำลังแบกรับความกดดันอยู่มากแค่ไหน พวกเขาเหงื่อแตกซิก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่อยากจะคิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงแล้วถ้าเขาไม่มัวเถลไถลหาแขนข้างใหม่อยู่ เหตุการณ์สุดสยองทำนองนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับปิเก้เป็นแน่."เชี้ยเอ๊ย! ถ้ากูใส่เกียร์หมาเร่งกระเด้าเย็ดผู้หญิงให้แตกเร็วกว่านี้นะมึงเอ๊ย ไอ้ปิเก้มึงคงไม่ตายกูพูดจริง ๆ กูขอโทษเพื่อน"ส่ายหน้าไปมาปลดปลง จนเจฟเฟอร์ลืมไปเลยว่าทุกอย่างที่ฉายอยู่นั้นพุ่งออกมาจากตาของเขา."เฮ๊ย! พี่เจฟ! ใจเย็นก่อนพี่! เส้นโฮโลแกรมมันแตกกระจายหมดแล้ว ผมเวียนหัวดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วพี่ก็อย่าโทษตัวเองไปเลย ความเสียใจของพี่ผมสิต้องเป็นคนแบกรับเอาไว้ ผมน่ะรับงานโดยตรงมาจากบอสเลยนะ"เบอร์แบโต้พยายามพูดปลอบใจ แล้วทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์จากเครื่องฉายในม่านตาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เส้นลำแสงวูบไหวไปจังหวะหนึ่ง ตัดกลับมาหนนี้เจฟเฟอร์สังเกตเห็นเลยว่า ขณะนั่งคุกเข่าอยู่และกำลังจะถูกบ่วงเชือกไนล่อนกระชากคอขึ้นไป ปลายนิ้วชี้ของปิเก้ได้หักมุมลงมาแล้ว เขาเตร
"พี่ปิเก้กำลังบอกใบ้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากบนนั้นใช่ไหมครับ? พี่เขาต้องการให้เราขึ้นไปสืบข้างบนใช่ไหมพี่เจฟ?"เบอร์แบโต้ตวาดเสียงดุดัน ท่าทางเขาดูจริงจังจนออกนอกหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับสีหน้าสีตาของสายลับรุ่นพี่เป็นที่สุด."โอ่ย! โอ่ย! โอ่ย! ๆ ไอ้โต้เอ๊ย! ไอ้โต้! นี่ตอนเด็ก ๆ แม่มึงบดแกลบให้แดกกับกาบมะพร้าวเหรอ สมองมึงถึงอุ้มน้ำได้ถึงเพียงนี้! มันใช่ซะที่ไหนล่ะเจ้าทึ่ม! ตอนนั้นปิเก้มันนอนแหงนหน้าอยู่ใช่ไหม?"."ใช่ครับ.. พี่เขาหนุนตักผมอยู่?"."ถ้างั้นก็ไม่ผิดหรอก! เพราะที่มันชี้น่ะไม่ใช่รูแหว่งโบ๋บนหลังคา หากแต่เป็นของที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างหน้าผากแกต่างหากล่ะเจ้างั่ง!".ได้ยินเช่นนั้นมือหนาหยาบกร้านของเบอร์แบโต้ ก็รีบตะปบวนไปวนมาบนหน้าผากตัวเองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต."หน้าผากผมมันมีอะไรเหรอครับพี่เจฟ ผมไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย?"."เฮ้อ..! คืออย่างงี้สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ธรรมชาติของหน่วยภาคสนามอย่างเราน่ะ มันต้องพร้อมที่จะตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างลับ ๆ ผ่านทางชิบที่ฝังไว้ในส