Mag-log inแช่น้ำจนได้ที่เบอร์แบโต้ก็ลุกพรวดขึ้นจากอ่างเป็นคนแรก ผิวสีแทนอมน้ำตาลของเขาแดงระรื่อมัดกลามดีดเปรี๊ยะ ๆ เด้งดึ๋ง ๆ ควันขโมง
.
"วู้วววว.. เรียบร้อย สบายตัวดีจังเลยโว๊ย!"
เหลือบสายตาไปมามองหาผ้าเช็ดตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแล้วขมวดเข้าที่เอวแบบหลวม ๆ
.
"ผมไปก่อนนะพี่ ๆ ไว้ค่อยว่ากันต่อวันหลัง"
.
"เอ้อ..โชคดีไอ้น้องรัก ถ้ามีแบบนี้มาอีกก็อย่าลืมเรียกพวกฉันอีกล่ะ เดี๋ยวเลี้ยงเหล้าตอบแทนโว่ย"
.
"ไม่ต้องหรอกพี่เฟอร์นันโด ลำพังแค่พวกพี่ ๆ สอนงานให้ผม ๆ ก็สำนึกบุญคุณจะแย่อยู่แล้วเรื่องแค่นี้สบายมากครับ นี่เดี๋ยวเสร็จจากตรงนี้ผมก็ต้องขึ้นไปรับเช็คจากคุณเอ็มม่าฝ่ายบัญชีอีก ถ้าไม่ได้ทำงานที่ Parallel ก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมากมายขนาดนี้ได้รึเปล่า"
เบอร์แบโต้ร่ายยาวพลางส่งยิ้มแหย ๆ กลับไปให้รุ่นพี่ทั้งสองที่ยังคงแช่น้ำอยู่ เขาตรงไปที่ห้องแต่งตัวที่อยู่อีกฟาก จัดแจงเช็ดตัวหวีผมหยิบเอาชุดลำลองที่แลดูเรียบร้อยมาสวมใส่ แล้วก็จวนจะเดินออกมาจากห้องอาบน้ำออนเซ็นบนชั้น 2 นี้อยู่แล้ว ถ้าไม่ติดอะไรบางอย่างเข้า!
.
"เหี้ยไรวะน่ะ? เงาอะไรมาก้ม ๆ เงย ๆ อยู่หน้าห้องน้ำ"
.
เด็กหนุ่มผิวสีสัญชาติอเมริกันค่อย ๆ ย่องเข้าไปดูใกล้ ๆ ด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบา อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่าบานประตูห้องอาบน้ำนั้นทำจากกระดาษสาบาง ๆ ถ้าเจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์ สามารถแอบดูพฤติกรรมของเพื่อน ๆ ได้แล้วล่ะก็ นับประสาอะไรที่เบอร์แบโต้จะทำแบบเดียวกันบ้างไม่ได้ เขาค่อย ๆ เลื่อนบานประตูกั้นออกช้า ๆ ก่อนจะพบว่าเงาปริศนาดำทะมึนดังกล่าว ก็คือเจฟเฟอร์ที่กำลังนั่งหันหลังอยู่
.
"ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. ฉึก"
.
"พี่เจฟ.. พี่ทำอะไรอ่ะ?"
เบอร์แบโต้ถามแกมกระซิบกระซาบ
.
"ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. ฉึก.. ฉัก.. อื้อ.. อืมม.. ม.. ม"
"อือ.. อ่าาา~! ฉึกฉัก ๆ ๆ ๆ !"
.
ได้ยินก็แต่เสียงครือครางแสนกระเส่าดังแว่วออกมา เบอร์แบโต้ก็เลยเดาเอาว่าพี่เจฟของเขาคงจะไม่ได้ยิน ก็เลยเลื่อนบานประตูกระดาษให้กว้างขึ้นเปิดช่องให้แสงไฟจากภายในลอดผ่านออกมาเยอะ ๆ พี่แกจะได้รู้ว่ามีเขายืนตัวดำอยู่ด้านหลัง
.
แล้วภาพที่เจ้าตัวเห็นอยู่ตรงหน้าก็คือ เข็มขัดกับกางเกงสแล็คที่กองอยู่กับพื้น กางเกงในที่ล่นต่ำลงมาห้อยต่องแต่งอยู่ที่ตาตุ่ม เจฟเฟอร์หรี่ตาแหงนหน้าขึ้นมองเบอร์แบโต้เป็นภาพย้อนแสง แล้วก็ด้วยแสงลำเดียวกันนั้นเอง ที่ทำให้น้องเล็กในทีมถึงกับต้องร้องอุทานออกมาซะดังลั่น
.
" พี่เจฟชักว่าว!!!"
.
"ตรงนี้เนียะนะพี่! โคตรเหี้ย! โคตรอุบาทว์อ่ะ! ออฟฟิศเรายิ่งมีแต่ผู้หญิงพี่ไม่อายฟ้าอายดินบ้างรึไง มือวางอันดับหนึ่งแห่ง Parallel บอกตรง ๆ นะโคตรเสียศักดิ์ศรีอ่ะพี่"
.
"อ่าว! ไอ้สัดโต้มึงหลอกด่ากูเหรอ! ก็ใครใช้ให้พวกมึงเอากระหรี่มารุมเย็ดในนี้วะ กูเห็นเข้ากูก็อดไม่ไหวสิ แล้วอีกอย่างมึงดูนี่! แหกตาดูสิว่าควยกูแม่งแข็งโด่เป็นเสาไฟฟ้าอย่างงี้ ถ้ากูไม่ชักว่าวออกให้อ่อนลงพวกผู้หญิงมาเห็นเข้ากูจะเอาหน้าไปไว้ไหน ถ้าแม่งจะพลาดก็เพราะไอ้ไก่อ่อนอย่างมึงนี่แหละ มึงจะตะโกนให้ชาวบ้านเขารู้ทำพระแสงของ้าวอะไรวะเฮ่ย!"
เจฟเฟอร์สวนกลับ เขาตะกุยตะกายลุกขึ้นยืนแต่ก็ทำไม่ถนัดนักเพราะแขนซ้ายที่ขาดไป กางกงกางเกงนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันก้มเก็บไม่ได้หรอกถ้าขนาดของลำควยจะใหญ่ย้ำค้ำฟ้าขนาดนั้น
.
"ไม่ใช่น่ะพี่.. พี่เข้าใจผิดแล้ว ผู้หญิงที่พวกเราเอาไม่ใช่กระหรี่ แต่นั่นคือก้อนความทรงจำที่ผม Drain มาจากเหยื่อ แคทเธอรีนร้านดอกไม้ใช้เครื่องแปรสภาพมวลสารแล้วก็ได้เป็นเธอออกมา!"
"ว่าแต่.. ช่อดอกลาเวนเดอร์บนพื้นนั่นฝีมือพี่ใช่ไหม?"
.
"เออของกูเอง ถามทำไม?"
.
"เปล่าพี่ผมแค่จะเปรียบเทียบให้ฟังว่ากว่าพวกเรา Parallel จะแปรสภาพได้ของที่เป็นธรรมชาติแท้ ๆ ออกมาน่ะ มันยากมาก ๆ แล้วกับการที่ผมแปรสสารแล้วได้ผู้หญิงตัวเป็น ๆ ออกมา เป็นพี่ ๆ ไม่เอาเหรอ? เอาฟรีนะพี่! เย็ดได้ทุกที่เต็มที่ทุกท่วงท่า เสียดายที่ขาดท่าหมาไป!"
.
"พอ ๆ มึงหยุดพูดเดี๋ยวนี้ไอ้เบอร์แบร์โต้ ยิ่งมึงพูดควยกูยิ่งแข็ง แม่งเอ๊ยกูระบมไปหมดแล้ว~"
.
เจฟเฟอร์รีบโบกมือไหว ๆ เป็นสัญญาณให้รุ่นน้องหยุด สีหน้าเขาเจ็บปวดโอดโอยอย่างเห็นได้ชัด ณ ตอนนี้เรื่องเครื่องเพศตรงหว่างขา เหมือนจะมีวาระมากกว่าแขนที่ขาดไปเสียด้วยซ้ำ แล้วไม่กี่วินาทีให้หลังสองเพื่อนซี้อย่างเฟอร์นันโดกับปิเก้ก็ว่ิงหยอย ๆ นุ่งผ้าเช็ดตัวตามออกมา
.
"ไอ้หย๋า! โคตรพ่องมึง! ไอ้เจฟแขนมึง?"
ปิเก้ทักขึ้น
.
"ส้นตีนเอ๊ย! กูเคยเตือนมึงแล้วว่าอย่าประมาท ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นเพราะเครื่องแปรมวลสารรุ่นพกพาบน Gravity bike ใช่ไหมล่ะที่ขย้ำแขนมึง? หยึยย!!! "
เฟอร์นันโดสำทับโดยไม่ได้ดูตาม้าตาเรือเลยว่า ท่อนเอ็นของเพื่อนนั้นโด่ยื่นออกมาจนแทบจะชี้หน้าคนถามได้อยู่แล้ว
.
"พวกมึงสองคนห่วงกูผิดจุดแล้ว แขนกูไม่เป็นไรหรอกกูรู้ว่าหมอยูมิโกะเขาช่วยกูได้ แต่ควยกูนี่สิถ้ามันไม่ได้จิ๋มผู้หญิงจริง ๆ กูตายแน่ พวกมึงช่วยกูหน่อยเถอะวะ อย่างน้อยก็ช่วยรับผิดชอบกูทีเพราะการลงแขกเย็ดในหม้อสุกี้ของพวกมึง 3 ตัวเชียว ที่ทำให้กูเป็นแบบนี้!"
.
หนุ่มลูกครึ่งอิตาลีเสยผมทองครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่เฟอร์นันโดจะโพล่งคำพูดที่แสนอุบาทว์ออกมาในเสี้ยววินาที
.
"แบกแม่งลงไปข้างล่าง ไปหานังหนูแคทเธอรีน! เด็กไปหน่อยแต่หลับหูหลับตาเอาแก้ขัดไปก่อนได้อยู่ มึงเชื่อกูรับรองเวิร์ค!"
.
"ไอ้ระยำซั่มแม่ง มึงคิดได้ไงเนียะ!?"
.
"อ่าว! นี่อาการมึงหนักมากจนถึงขนาดยกควยตัวเองไม่ไหวเลยหรอ ถ้างั้นไอ้เบอร์แบโต้! มึงอ่ะไปลากตัวแคทเธอรีนขึ้นมาบนนี้เลย บอกไปว่าพี่เจฟเฟอร์อยากพบ"
.
"ไม่ได้เว๊ย! นี่พวกมึงจะกวนตีนกูไปถึงไหน น้องเขายังไร้เดียงสาอย่าเอาความคิดสกปรกชั่วช้าของเรา ไปทำให้เขามัวหมองเป็นอันขาด!"
.
ส่ายหัวเหนื่อยหน่ายสุดแสนจะทน ปิเก้ที่ยืนกอดอกฟังอยู่นานนมเลยขอมีบทบาทบ้าง เริ่มจากการเดินลากขาเอื่อย ๆ มาหยุดลงตรงหน้าเจฟเฟอร์ ก่อนจะคุกเข่าลงชนิดที่ปลายควยนั้นจรดอยู่กับสันจมูก
.
"นี่มึงคิดจะทำอะไรของมึงปิเก้.. กูไม่เล่่นด้วยนะเว่ย"
เจฟเฟอร์ถามแบบกล้า ๆ กลัว ๆ เขาถอยล่นออกห่างเรื่อย ๆ ขณะที่เพื่อนอีกสองคนก็ลุ้นตามเป็นระยะ
.
"กูก็คิดที่จะช่วยมึงด้วยการทำอย่างงี้ไง.. อ้าาาาาาา!!!"
สองมือจับกระชับหมับ! ขากรรไกรฉีกกว้างถึงใบหู จวนจะอมควยเข้าปากอยู่รอมร่อ แต่ถ้ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ ให้เจฟเฟอร์ตายเสียยังดีกว่า!
.
"ไปอมให้พ่องมึงเถอะ ไอ้เช็ดครก!!!"
.
"พลั๊ววววว!"
.
"โอ๊ยยยย! ไอ้สัดเจฟนี่ กูกำลังช่วยชีวิตมึงอยู่นะไอ้เนรคุณ!"
.
"เนรคุณพ่องมึงสิ! โดนปิเก้โมคควยเนียะนะรู้ถึงไหนอายเข้าถึงนั่น มึงแหกตาดูซิ! มึงฟัง! มึงได้ยินไหม! ไอ้โต้กับไอ้เฟอร์นันโดมันขำกลิ้งตัวโยนอยู่โน่น"
.
"บัดโถ่เอ๊ย! ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ไม่เห็นต้องเอาควยฟาดปากกันนี่หว่า มึงคิดว่ามึงอายเป็นคนเดียวรึไง? แล้วกูล่ะ! มึงไม่คิดเหรอว่ากูจะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไง?! เวรแท้ ๆ "
ปิเก้ตัดพ้อพลางเอามืออังแก้ม อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
.
"พวกมึงพอเลยมึงหยุดกันแค่นี้แหละ กูว่ากูหาทางออกของกูเองดีกว่า ไม่ต้องรับผิดชอบห่าอะไรแล้ว กูให้อภัยพวกมึงเสมอเพื่อน จะไปไหนก็ไป! ไปไกล ๆ ตีนกู ไม่สิ! ถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่าไปให้ไกลควยกูต่างหาก!"
.
"ห่ะ ๆ ๆ ใจเย็น ๆ พ่อหนุ่มอยู่ด้วยกันก่อน เลือดมึงเริ่มไหลออกมาเยอะแล้ว หน้ามึงก็ซีดเป็นไก่ต้มแล้วด้วย มึงอาจจะไม่รู้ตัวแต่พวกกูมองเข้าไปมันเห็นชัดนะเฟ้ยไอ้เจฟ"
เฟอร์นันโดทักท้วงผสมเกลี่ยกล่อม แต่เจฟเฟอร์ก็เลือกที่จะปฏิเสธเสียงแข็งอยู่เช่นเดิม
.
"เออน่ะกูรู้ตัวกูดี กูจะขึ้นไปหาหมอยูมิโกะมันทั้ง ๆ แบบนี้แหละ แค่เจ้าเบอร์แบโต้คนเดียวก็พอ"
.
.
"ไอ้น้องเดี๋ยวเอ็งช่วยเก็บช่อดอกลาเวนเดอร์ , แขนซ้ายที่ขาด , กับกางเกงให้พี่ที แล้วตามพี่ขึ้นไปบนชั้น 4 นะ"
.
"แต่ถ้าหมอยูมิโกะเขาฆ่ากูตาย! กูก็รบกวนมึงเก็บศพให้กูด้วยล่ะกัน"
แก้มก้นอันเป็นส่วนผสมระหว่างกล้ามเนื้อกับชั้นไขมันประกบนาบเข้ากับพื้นปูนซีเมนต์ของห้อง ผิวสัมผัสอันแห้งผากยังไม่สู้ความหอบเหนื่อยที่คนเป็นครูแบกรับเอาไว้ เบอร์แบโต้หายใจแรง หนักหน่วงแห่งอารมณ์พ่นลมออกจากปากพะงาบ ๆ ราวกับปลาขาดน้ำที่จวนจะขาดใจ.เด็กสามคนสลบไสลนอนเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน แต่ละคนผิวสีน้ำตาลอมถ่านแม่งไม่ต่างจากศพที่ถูกไฟคลอก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะให้ทำยังไง ปล่อยนอนไว้เฉย ๆ ก็ทำใจลำบาก สายลับหนุ่มผู้ปลอมเป็นครูก็เลยต้องรับผิดชอบด้วยการบรรจงอุ้มร่าง 3 ร่างมานอนเรียงกันไว้ ณ จุด ๆ นี้."วู่ววว~! ให้ตายเถอะหนักใช้ได้เลยแฮะ ห้องเวรนี่แม่งก็ร้อนชิบเป๋ง สถาบันก็ออกจะใหญ่โตไม่คิดจะติดแอร์ปรับอากาศบ้างเลยรึไงฟะ หรือเพราะเห็นเราเป็นชั้นเรียนปลายแถว เป็นพวกที่โหล่หลังห้องงั้นใช่ไหม"เบอร์แบโต้บ่นอุบ ในขณะเดียวกันก็ใช้มือข้างหนึ่งพัดเป็นระวิงระบายหยาดเหงื่อออกจากใบหน้าตนเอง.กว่าจะผ่านพ้นไปได้ก็หมดเวลาไปสักพัก จนกระทั่งสบตาเข้ากับมืออีกข้างที่ยังคงถือลูกแก้วเอาไว้ มันเป็นลูกแก้วสีน้ำตาลเข้มจำนวน 3 ลูก ส่งแสงวิบวับ ๆ ซึ่งเป็นตัวแทนของเด็กทั้ง 3 คนที่มีพลังจากยีนแบบเดียวกัน จะว่าพลาดก็ค
ผนังนุ่มยืดหยุ่นสูงสีขาวโพลนสะอาดตา พื้นเป็นเบาะรองรับน้ำหนักได้มากเด้งดึ๋งดั๋ง ก่อนมันจะถูกจำลองเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ห้องเรียนของสถาบัน BPI ถูกกำหนดให้เป็นแบบนี้ทั้งหมด ครูแต่ละคนมีสิทธิ์เลือกวิชาที่ตัวเองถนัดเพื่อใช้สอน แล้วหลังจากนั้นสภาพห้องจึงค่อย ๆ ผันแปรไปเป็นสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เฉกเช่นกรณีของเฟอร์นันโดที่เป็นวิหารสอนศิลปะ.แล้วนี่คืออะไรกัน?! สารภาพบาปมาซะดี ๆ ใครตอบได้บ้าง?! เหตุไฉนห้องของครูเบอร์แบโต้ผิวหมึกถึงได้กระจอกงอกง่อยเช่นนี้ เขายังไม่ได้กดเลือกวิชาที่จะสอนเลยด้วยซ้ำ ผลบาปแห่งเวรกรรมก็ได้จัดพื้นซีเมนต์แข็ง ๆ ปูนหยาบ ๆ กับฝาผนังที่เป็นซี่ ๆ คล้ายตะแกรงลูกกรงมาให้ซะงั้น ขนาดกว้าง x ยาวของมันก็เท่ากับห้องของครูคนอื่น แต่สิ่งแวดล้อมภายในนี่สิเรียกได้ว่าต่างกันลิบลับ.ภาพเหตุการณ์ตัดข้ามมาฝั่งนี้แล้วโดยสมบูรณ์แบบ เบอร์แบโต้กำลังเผชิญอยู่กับทุกขเวทนาอย่างหาที่เปรียบมิได้ เมื่อจู่ ๆ ก็โดนลูกทีมตัวเองที่คัดสรรเองกับมือจ้องจะเอาชีวิต พวกเขาวิ่งปรื๋อประหนึ่งมีพี่วินมอไซต์เป็นไอดอล สเต็ปการจ้วงเท้าถี่รัวยิ่งกว่าการออกตัวของฮอนด้าเวป.โดยไม่ต้องง้อกระจกหลัง เพียงเบอร์แบโต้หัน
การเรียนการสอนวิชาศิลปะศึกษาดำเนินไปอย่างเข้มข้น สรีระความเป็นมนุษย์ถูกถ่ายทอดผ่านฝีแปรงและการบอกเล่าอันเร้าใจ เฟอร์นันโดสอนเด็กแม้กระทั่งระบบอวัยวะภายใน เขาสอนให้อันธการ , เรนโบว์ , และสกายด์ รู้ด้วยว่าสิ่งใดคือ "หัวใจ" สิ่งใดคือ "สมอง" ปอดรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน วัณโรคเกิดขึ้นที่ใดและเหตุไฉนมันถึงพรากชีวิตตลกดังแห่งยุคอย่างโรเบิร์ตสายควันไปจากสังคมสารขัณฑ์.เขาสอนหมดแบบละเอียดยิบ ผ่านการใช้จานสีและพู่กันที่เด้งออกมาจากออนิวแทร็ปของตนเอง ป่ายปัดมันกลางอากาศไม่กี่ 10 ครั้ง พลังแห่งห้องจำลองนี้ก็ได้สร้างวัตถุเสมือนจริงออกมาให้เด็ก ๆ ได้เห็น แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพากันอ้วกแตกอ้วกแตนไปกับความน่าสะอิดสะเอียนสังเวชของตับม้ามเครื่องใน ที่ถักทอกันขึ้นมาเป็นระบบกายวิภาคในร่างกายมนุษย์ก็ตามที.กระทั่งเวลาผ่านไปจนพลบค่ำเวลาแห่งการพักผ่อนก็มาถึง ณ จุดกึ่งกลางวิหารซึ่งมีรูปปั้นเทพกรีกโบราณองค์ต่าง ๆ ยืนเรียงรายเป็นฉากหลัง ที่ตรงนี้เตรียมจะกลายเป็นที่ซุกหัวนอนอ้ันเวิ้งว้างสุดหยั่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพดานสูงโปร่งกว้างกังวาน ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดมิดชิดกันคนนอกเข้า เศษเถาวัลย์ดอกไม้ใบหญ้าที่ขึ้นปก
สารพัดอาหารเสริมที่สวาปามเข้าไปพุ่งลงมาเปรอะเปื้อน จิตสัมผัสแรกแทบไม่ต้องคิดอะไรมาก เฟอร์นันโดสลัดลูกศิษย์ตัวจิ๋วลงจากบ่าในทันที เขาสะบัดข้อมือพรึบพรับโก่งตัวงอทำปากจู๋พลางแค่นสายตาจ้องเขม็งมาที่เรนโบว์แบบไม่ไว้หน้า ทำเอาสาวเจ้าถึงกับต้องก้มหน้าหลบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่."หนูเขอโทษค่ะครู.. หนูขอโทษ.. หนูผิดไปแล้ว..ว..ว..ว".พูดไม่พูดเปล่าด้วยความที่ตัวเองมีพลังฟรุ้งฟริ้งเป็นทุนเดิม หล่อนก็เลยจดจ้องกลับไปที่เนื้อตัวอันแปดเปื้อนไปด้วยอาหารเหลวของครู ก่อนจะกระพริบตาปิ๊ง ๆ กลับไปให้สองสามที."ปิ๊งงง! , ปิ๊งงง!"."ฟ้าววว~!".โคตรแม่มเอ๊ยนึกว่ายกพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ มาประดิษฐานจากท้องสนามหลวง พืชพรรณทักษาหารนี่เรียกได้ว่าถักทอขึ้นมายึกยือเต็มร่างกาย ผสานรวมเข้ากับสีสันซาวด์เอ็ฟเฟคที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน แป๊บเดียวครูเฟอร์์นันโดของเราก็ได้เสื้อคลุมตัวใหม่ ที่มีลักษณะเป็นชุดเดรสยาวคลุมเข่าคล้ายกับชุดคลุมท้องสีชมพูหวานแหวว แซมด้วยลายดอกไม้นานาพันธุ์กับดวงตะวันใส่แว่น.ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ชอบใจนัก."อืม.. เรนโบว์! ครูจะพูดยังไงกับเธอดี!"."สกุนาหวานอื่นมีหมื่นแสน.. ไม่เหมือนแม้นพจม
เหมือนเอาผีในหนัง conjuring มาขี่ไม้กวาด เป็นการสมาสเอาความ horror มารวมเข้ากับแฟนตาซีได้อย่างพิลึกพิลั่น ด้วยความสัตย์จริงว่าคงไม่มีผู้กำกับคนไหนทำหนังแนวนี้ออกมาเป็นแน่ มันย้อนแย้งเกินไป คนบ้าอะไรร้องไห้ออกมาเป็นสีน้ำเงิน ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาได้ด้วย.เด็กน้อยยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลลงพื้นต่อไปอีกกว่าครึ่งนาที เขาหยุดมันไม่ได้และเท่าที่รู้คือสิ่งนี้น่าจะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้บาเรียสลายตัวออกไป บาเรียของเรนโบว์ยังคงอยู่ บางเรียของเฟอร์นันโดก็เช่นกัน แล้วบาเรียอันไหนล่ะที่คลายพันธนาการออกไป คำตอบก็คืออันตรงกลาง!.รถเข็นเด็กทั้งคันที่เฟอร์นันโดเคยขย่มโครม ๆ นั่นแหละคืออาณาเขตอีกอันที่มันครอบคลุมอยู่ มันกักขังเงาสะท้อนของรถทั้งคันเอาไว้ ทั้งที่ความจริงแล้วในห้องนี้มีรถเข็นอยู่แค่คันเดียว ซึ่งเป็นคันที่จอดอยู่ห่างจากจุดตรงนี้ไปไกลกว่า 10 เมตร."แกร๊ก ๆ ๆ , แกร๊ก.. ก.. ก.. ก.. ก , แกร๊ก ๆ ๆ ".เสียงม่านบาเรียขยับเขยื้อน พวกมันทั้งหกด้านสั่นครือพลางยุบตัวลงจมหายไปใต้พื้น เช่นเดียวกันกับรถเข็นที่จอดอยู่ภายในที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนสีสันเป็นสีดำสนิท พลันยุบตัวลงมาเป็นเงาแบน ๆ แน
"หยุดนะครู.. อย่าทำแบบนั้น.. เขาจะเวียนหัวนะ!"เสียงใสแจ๋วของเรนโบว์ตะโกนดังลั่น เธอพยายามห้ามปรามมิให้เฟอร์นันโดขย่มตู้ เพราะพละกำลังช้างสารของเขาอาจจะทำร้ายเพื่อนของเธอได้.มวลน้ำวิตามินสีเหลืองยังคงกระเพื่อม มันกระฉอกซ้ายทีขวาทีราวกับถังซักผ้าพลังปั่นสูงที่ต้องหยอดเหรียญสิบถึง 4 เหรียญ แต่ครานั้นเด็กที่อยู่ภายในก็ยังไม่มีปฏิกิริยา ฟองอากาศเงียบสนิท อนุมานว่าอีกไม่นานหมอนี่คงต้องตายจริง ๆ ครูหนุ่มก็เลยต้องโต้ตอบกลับไป."ไม่ได้หรอกเรนโบว์! เราต้องเติมออกซิเจนให้แก่เขาแบบเดียวกับที่เกษตรกรทำกับฟาร์มกุ้ง หรือไม่ก็กังหันน้ำชัยพัฒนาที่เขาเอาไว้ใช้บำบัดน้ำเสีย ขอเวลาฉันหน่อยเถอะ! ฉันเป็นครูนะ! ฉันต้องรับผิดชอบชีวิตลูกศิษย์ทุกคนอยู่แล้ว!"."แต่ครูคะ.. ไม่ได้ค่ะ.. ยังไงก็ไม่ได้!".ความดื้อแพ่งเกาะกินหัวใจเหมือนเรนโบว์จะโชว์อารยะขัดขืน โดยการป้ายคำสั่งครูด้วยน้ำยาลบคำผิด เธอคิดว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง ประชาชนต้องมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากันทุกคน ครั้นจะยอมให้ผู้ใหญ่ใช้ความรุนแรงโครม ๆ โตมาจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง "ให้มันจบที่รุ่นเรา" คือสิ่งที่เธอคิด แล้วชั่วขณะจิตหลังจากนั้นเด็กหญิงก็ลงมือ.เธ







