"เฮียผมจัดเซตให้เรียบร้อยแล้วนะ" คริสผู้ช่วยตากล้องที่ทำงานในสตูดิโอของเจโรมเอ่ยขึ้น หลังจากที่จัดเซตและไฟที่จะต้องถ่ายงานในวันพรุ่งนี้เรียบร้อยเขาก็เตรียมแบกกระเป๋าเป้บนหลังพร้อมจะกลับบ้าน
"อืม…กลับบ้านดี ๆ" เจโรมที่เดินออกมาจากห้องนอนพยักหน้า เขาเองก็เตรียมจะกลับบ้านเหมือนกัน หลังจากที่ขลุกอยู่ในสตูดิโอมาทั้งวันแล้ว
"เออเฮีย…ครั้งนี้ก็อย่าเบี้ยวลูกค้าอีกล่ะ ผมไม่รู้จะตอบลูกค้ายังไงแล้ว" เจโรมทำงานตามอารมณ์ของตัวเอง อยากถ่ายก็ถ่าย แต่ถ้าไม่…ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ถ่าย หน้าที่ลำบากใจจึงตกไปอยู่ที่คริสแทน เพราะเขาเป็นคนดีลกับลูกค้าโดยตรง
"กูก็ไม่ได้ง้อให้ใครมาจ้างกู" เจโรมยักไหล่ตอบสบาย ๆ เขาทำงานนี้เพราะรู้สึกว่ามันผ่อนคลาย เรื่องเม็ดเงินไม่ใช่ปัญหาแต่ก็แปลกใจลูกค้าที่รู้แบบนี้แล้วกลับยอมจ้างทั้งที่ต้องมาเสี่ยงรองอารมณ์ของเขา
"เฮ้อ…เบื่อกับเฮียว่ะ ผมกลับก่อนนะ"
"มรืนนี้กูไม่รับงานนะ สองวัน"
"ทำไมอะ บริษัทงานยุ่งเหรอเฮีย"
"กูต้องไปทะเลกับไอดีแลน"
"ทะเลเหรอเฮีย งี้ก็ได้เห็นสาว ๆ ใส่บิกินี่ดิ ผมไปด้วยดิเฮีย"
"ไม่ได้ ไอดีแลนมันไปแบบไพรเวท ส่วนมึงเลิกหื่นแล้วกลับบ้านไปได้แล้ว พรุ่งนี้ตอนกูถ่ายงานก็ไม่ต้องมา กูอยากถ่ายเงียบ ๆ"
"ถ่ายเงียบ ๆ หรือกินเงียบ ๆ เอาดี ๆ เฮีย"
"จะไปไหนก็ไป กูชักรำคาญมึงแล้ว" เจโรมถอนหายใจใส่ลูกน้องที่เอาแต่ถามไม่หยุด ทั้งที่บอกว่าจะกลับตั้งแต่ห้านาทีที่แล้ว แต่ก็ยังอยู่กวนตีนจนน่ารำคาญ
"ค้าบ กลับแล้วก็ได้ ไปทะเลอย่าลืมถ่ายรูปสาว ๆ อกตู้ม ๆ ฝากผมด้วยนะเฮีย ไปละ…"
"สาวอกตู้มเฮี้ยไร มีแต่เมียเพื่อนกับยัยนมเล็กโคตรเซ็ง" ไล่หลังคริสที่เปิดประตูออกไปเจโรมก็บ่นโอดคนเดียว เขาไม่อยากจะเข้าร่วมทริปทะเลนี้ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าจะได้รับงานถ่ายสินค้าของดีแลนยาว ๆ เขาคงไม่ไปให้เสียเวลาและเสียอารมณ์ตัวเอง
คนตัวโตเปิดกระเป๋าหยิบกล้องถ่ายรูปของตัวเองออกมาบ้าง หลังเลิกงานทุกครั้งเขาจะมาที่นี่เพื่อเซตกล้องที่จะถ่ายงานในวันต่อไป ร่างสูงจึงเริ่มจัดก่อนที่จะชะงักเมื่อมีเสียงประตูที่เคาะดังขึ้น
แกร็ก!
เจโรมเปิดประตูออกจนเห็นคนที่ยืนยิ้มแป้นคือคริสที่วนกลับมาเคาะประตู
"อะไรของมึงอีก รหัสก็รู้อยู่แล้วจะเคาะเพื่อ?"
"ผมก็กลัวว่าเฮียทำธุระส่วนตัวอยู่ไง พอดีว่าผมลืมโทรศัพท์ขอไปเอาก่อนนะ" คริสยิ้มแห้ง ๆ แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องก่อนที่จะรีบกลับมาด้วยความรวดเร็ว
"กลับจริง ๆ แล้วค้าบ มาผมปิดประตูให้" ผู้ช่วยค่อย ๆ ดันประตูปิดลงเบา ๆ ทั้งรอยยิ้มกวนตีน ส่วนเจโรมนั้นก็ถอนหายใจออกเป็นรอบที่ร้อย เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนกวนตีนมากแล้ว แต่พอมาเจอกับคริสกลับกลายเป็นตัวเองเบาลงเสียเลย
คราวนี้ร่างสูงจึงเดินไปจัดกล้องต่อ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะหามุมถ่ายอยู่ ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกจนเขาเริ่มหงุดหงิด
"กูจะโบกหัวมึงให้เลือดอาบเลยไอคริส" ร่างสูงรีบเปิดประตูด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว มือหนาเตรียมจะง้างมือทุบหัวลูกน้องที่กวนตีนสักที แต่คราวนี้กลับไม่เห็นร่างของใครที่แสดงตัวสักคน
"ไอคริสมึงหยุดกวนตีนแล้วออกมา" เจโรมตวาดเรียกลูกน้องที่เขาคิดว่ากำลังแอบอยู่ตรงไหนสักที่ แต่แทนที่จะได้เห็นร่างของคริสที่ปรากฏตัว เขากลับได้ยินเสียงหวานที่ตะเบ่งขึ้นมาแทน
"อื้อ…ใครมาเสียงดังแถวนี้วะ คนจะนอน ~" เสียงนั้นดังขึ้นมาใกล้จากที่เขายืนอยู่มาก จนเจโรมหลุบตามองที่พื้นก็ต้องตกใจเพราะเห็นร่างเล็กที่นอนแผ่ราวกับคนหมดสติ
"เฮ้ย!!!" เจโรมสบถออกมาเสียงดัง รีบถอยหลังกรูเพราะอีกนิดเขาใกล้จะเหยียบเธอเข้าแล้ว
"บอกว่าอย่าเสียงดังไง ไม่เข้าใจไงวะ" คนนอนผงกหัวแล้วปรือตาตอบ ลักษณะเหมือนคนเมาที่ไร้สติจนเสียงยาน น้ำเสียงนี้เจโรมคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินที่ไหน จนเขาเริ่มก้าวเท้าออกมาจากห้องช้า ๆ เพื่อดูใบหน้าของคนที่คิดว่ารู้จัก
"ยัยนมเล็ก?" ใบหน้าเขาขึ้นรูปคำถามเต็มไปหมด การแต่งตัวของเธอเปลี่ยนไปจนเขาจำแทบไม่ได้ แล้วทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ ทั้งที่คอนโดชั้นนี้มีแค่ห้องเขาและห้อง…
"ไอ้ดีแลน!" เจโรมรู้ได้ในทันทีว่าเธอเป็นมายังไง คนที่จะขึ้นมาได้ต้องมีคีย์การ์ดส่วนตัวเท่านั้นจึงรู้ได้ทันทีว่าคงจะเป็นฝีมือดีแลนที่ส่งเธอมา
คนตัวโตจ้องมองเรือนร่างที่นอนหน้าห้องเขาเอาเป็นเอาตาย และความดีที่ยังมีอยู่น้อยนิดก็ทำให้เขาลงมานั่งยอง ๆ แล้วใช้นิ้วเขี่ย ๆ เพื่อพยายามเรียกให้เธอตื่น
"ยัยนมเล็กมานอนอะไรตรงนี้…ตื่น"
"…" ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่กำลังปลุก เธอนอนหลับตาพริ้มราวกับส่วนกลางหน้าห้องเขาเป็นห้องของตัวเอง
"เธอ…ตื่น!" เจโรมพยายามอีกครั้ง แต่คราวนี้ก็เหมือนเดิม จนเขาละความพยายามเพราะถือว่าช่วยแล้วแต่เธอดันไม่รู้สึกตัวเอง จึงปล่อยเธอไว้ตรงนั้นส่วนเขาก็กลับเข้าไปในห้องเพื่อจัดมุมถ่ายงานต่อ
ผ่านไปหลายนาทีทุกอย่างก็เข้าที่เตรียมพร้อมหมดแล้ว เจโรมใช้ผ้าคลุมกล้องและปิดไฟในสตูดิโอ ก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์และกุญแจรถหมายจะกลับบ้านแล้วรีบเปิดประตูห้อง
"เฮ้ย…เธอ!" เจโรมรีบประคองคนที่ไหลมาตามประตูที่เปิดออก คนเมาเริ่มพัฒนาจากนอนบนพื้นแล้วพิงประตูห้องเขาพอเปิดออกก็เกือบล้มหน้าคะมำแต่โชคดีที่เขาประคองไว้ทัน
"เมาหรือซ้อมตายวะเนี่ย…" ชายหนุ่มเริ่มหัวเสีย เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงเมาแล้วทิ้งตัวขนาดนี้มาก่อนเลย
ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อไปสายตาคู่คมก็บังเอิญเห็นสิ่งที่กำลังล่อตา เหมือนว่าเขาจะคิดผิดที่เคยเรียกเธอว่านมเล็ก เพราะจากเสื้อเกาะอกที่เธอใส่อยู่ตอนนี้แล้ว นมใหญ่กว่าสาวที่เขาเคยเจอมาแล้วเสียอีก วัดจากสายตาไม่ต่ำกว่าคัพอีแน่นอน
"อิงบอกว่าไม่กินแล้ว อึก…บังคับกันอยู่ได้ ~" คนเมาเสยคางเขาเต็มแรง จนร่างสูงที่เผลอมองเนินอกถึงกับเซจนเกือบล้มไปอีกคน
"อ่า…ขนาดเมาก็ยังทำร้ายร่างกายฉันได้ยัยบ้าเอ้ย!" เจโรมรวบแขนคนที่เพิ่งทำร้ายร่างกาย แล้วถือวิสาสะเปิดกระเป๋าที่เธอสะพายมาด้วยเพื่อหาคีย์การ์ดห้องของเธอ
"ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนน้องปลายฝน ฉันปล่อยเธอนอนให้ยุงกัดตรงนี้แน่" เจโรมหาเจอก็ช้อนร่างของคนเมาขึ้นมา เขาแตะคีย์การ์ดเปิดประตูห้องคนในอ้อมแขนก็เริ่มดิ้นเพราะอึดอัด
"อื้อ…จะนอน ~"
"อยากตกลงมาหัวแตกหรือไง!" เจโรมยังไม่ทันเดินพ้นขอบประตู พอเธอดิ้นเขาก็ชะงักเท้าเพราะกลัวเธอจะหลุดจากอ้อมแขนจริง ๆ
"ปล่อยจะนอน ~"
"ได้ อยากนอนมากใช่ไหม งั้นก็นอนตรงนี้แหละ" คนอุ้มค่อย ๆ วางร่างของเธอให้พิงผนังใกล้ประตู โซนนี้เป็นที่ถอดรองเท้าของห้องกว้างแต่เขาไม่สนใจอยากให้ปล่อยเขาก็จะตามใจความต้องการของเธอ
"ถ้าไม่ติดว่าขี้โวยวาย ป่านนี้เธอคงอ่อยฉันติดไปแล้วยัยนมโต"
"ยินดีด้วยนะคะ เป็นลูกสาวทั้งคู่เลยค่ะ" ฉันเผยยิ้มกว้างในตอนที่ได้ยินคุณหมอบอกเพศลูก ระหว่างที่เรากำลังอัลตราซาวด์ดูเจ้าก้อนในท้องพี่โรมก็จับมือไว้แน่น ใช่แล้ว…ฉันได้ลูกแฝดหญิงทั้งสองคน คราวนี้บ้านหลังใหญ่ก็จะไม่เหงาแล้วดังไปด้วยเสียงร้องไห้โวยวายหัวเราะกำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต อีกสี่เดือนเราก็จะได้เจอกันแล้วนะลูกรักของแม่…ฉันปรายมองพ่อของเขาที่กำมือฉันไว้แน่น เห็นลูกผ่านเครื่องหน้าจอเล็ก ๆ เขาก็พลอยบ่อน้ำตาตื้นอีกครั้ง ช่วงนี้คุณพ่อเขาอ่อนไหวง่ายมาก ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองฉันจะไม่มีทางเชื่อว่าเขาเคยเป็นเพลย์บอยมาก่อน"เจ้าหนูน้อยทั้งสองคนปกติมากเลยค่ะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หมอจะจ่ายวิตามินให้คุณแม่แทนนะคะ""ขอบคุณค่ะคุณหมอ" แล้วเราสองคนก็ออกมารอหน้าห้องตรวจ หลังจากรู้เพศคนตัวโตก็เงียบไม่ยอมพูดอะไร เพียงแต่จับมือฉันตลอดเวลาและรับรู้ถึงความเย็นจากฝ่ามือหนา"พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่พูดอะไรเลย" พอฉันถามจบพี่โรมก็หันมามอง นัยน์ตาคู่คมกำลังจริงจังเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจ"เหมือนเวรกรรมจะตามทันฉันแล้ว""คะ?" ฉันเลิกคิ้วขึ้น ไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะสื่อถึงอะไร"มีลูกสาวฉันต้องเป็นบ้าแน่น้ำอ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่างานแต่งงานถูกจัดขึ้นภายในเดือนเดียวหลังจากวันสู่ขอ โดยทางเจ้าบ่าวจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมเหลือเพียงแค่เจ้าสาวที่มาเข้าร่วมงานเท่านั้น"ส่วนใหญ่เสร็จหมดแล้วครับ" คืนสุดท้ายก่อนงานจะเริ่มขึ้นเจโรมเดินมาตรวจงานด้วยตัวเอง ทุกที่จะต้องไม่มีความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้นและจะต้องออกมาดีที่สุดสมฐานะเจ้าสาวคนสวยของเขาเท่านั้น"มีคนจะคุยกับนายครับ" เลขาส่วนตัวยื่นโทรศัพท์เครื่องตัวเองให้เจ้านายที่กำลังตรวจตรา แต่เขาทำท่าไม่สนเพราะงานแต่งงานถือว่าเป็นงานสำคัญที่เขาละสายตาไม่ได้"ไม่ว่าง ลงคิวไว้ถ้ารีบก็ยกเลิกไปซะ" เจโรมตอบแค่นั้น วันนี้เขาทำงานมาทั้งวันเพื่อจะจัดการงานที่บริษัทให้จบไม่รบกวนชีวิตหลังแต่งงานหนึ่งสัปดาห์ที่เขาจะใช้กับเมียทั้งวันทั้งคืน ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาค่ำมากแล้วถึงเวลาที่เขาจะให้เวลากับงานสำคัญในชีวิตบ้าง"ที่สั่งไว้ไม่ใช่ดอกนี้ เอาไปเปลี่ยน" เจโรมชี้นิ้วใส่ดอกไม้ริมทางเดินเข้างาน เขาขมวดคิ้วไม่พอใจ ก่อนที่ออแกไนซ์ของงานจะรีบวิ่งมาแก้ไขทันที"นายครับ…""บอกให้ลงคิวไว้ไง!" เจโรมหันไปเสียงดังใส่เลขาที่วอแวไม่เลิก"คุณน้ำอิงบอกว่าโทรหานายไม่ติดครับ ถ้าอย
ในวันหยุดสัปดาห์นี้ฉันเลือกที่จะกลับบ้านเกิดตัวเองเพราะวันนี้จะเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต นั้นคือวันที่พี่โรมจะเข้ามาสู่ขอฉันจากพ่อและแม่เพื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามขนบธรรมเนียม"น้ำอิงแต่งตัวเสร็จหรือยัง" เสียงดังจากนอกประตูทำให้ฉันเปิดออกมา เป็นคุณนายน้ำหวานที่แต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยเดินมาตามฉันที่เอาแต่กกตัวอยู่แต่ในห้อง"เป็นอะไรไป ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย""แม่…หนูกลัว" ฉันโน้มตัวกอดแม่ไว้แน่น ทั้งกลัวและตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบ"มีอะไรต้องกลัว ไม่เชื่อใจตาโรมอีกเหรอ?""เปล่าค่ะ หนูกลัวพ่อไม่ให้แต่ง" พ่อคาดเดาอารมณ์ยากมากแค่ไหนฉันรู้ดี ถึงจะออกปากอนุญาตให้คบกันแล้วฉันก็ยังวิตกอยู่ดี"นี่...ยัยลูกสาว จำไม่ได้หรือไงว่าพ่อแกน่ะเป็นคนบอกให้เขารีบมาขอเร็ว ๆ แบบนี้จะไม่ให้แต่งได้ยังไง""ก็จริง หนูลืมไปเลย" ฉันผละกอดแม่หลังจากคิดตามคำพูด ก่อนหน้าพ่อฉันก็พูดเองว่าเสร็จธุระก็รีบมาขอ และตอนนี้พี่โรมก็ดูจะจัดการปัญหาทุกอย่างได้แล้ว เป็นมาเฟีย เป็นประธานบริษัทรับช่วงต่อ บททดสอบจากคนเป็นพ่อฉันก็ผ่านแล้ว ไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องกลัวอีก"อยากมีผัวจนลืมเลยหรือไง...""แม่!!!" แล
น้ำอิงถูกคนของแม่เจโรมมารับใต้คอนโดแต่เช้า ล่วงหน้ามาก่อนงานจะเริ่ม ส่วนคนตัวโตจะตามมาทีหลังเมื่อใกล้เริ่มงาน"แม่พี่อิงออกมาแล้ว~" นอกจากจะมีเธอแล้วยังมีจีเซลและบีน่าที่มาทำสวยพร้อมกัน ณ ห้องที่ถูกเตรียมเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ทันทีที่น้ำอิงเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดสองสาวก็พากันตกตะลึงในความสง่าของเธอทั้งหน้าองค์ทรงเครื่องที่เพรียบพร้อมเมื่ออยู่บนใบหน้าที่สวยธรรมชาติก็ยิ่งทำให้สวยไปใหญ่"พี่สะใภ้สวยมาก~" จีเซลยิ้มชม"จริง เหมือนน้าสมัยสาว ๆ" เสริมด้วยบีน่าอีกคนที่อวยแฟนของลูกชายไม่หยุด"คุณน้ากับจีก็สวยเหมือนกันค่ะ""เอาเป็นว่าเราสวยกันทุกคน งั้นรีบลงไปกันเถอะ แม่ต้องลงไปรับแขกแล้ว""น้ำอิงมากับแม่นะ วันนี้แม่จะแนะนำลูกสะใภ้ให้ทุกคนรู้จัก" สรรพนามของบีน่าเริ่มเปลี่ยน จากคุณน้าอยู่ดี ๆ อยู่ ๆ เธอก็กลายเป็นคุณแม่อีกคนที่เห่อลูกสาวคนใหม่เอามาก"พี่อิงซ้อมยิ้มไว้เลยนะคะ วันนี้น่าจะต้องใช้ทั้งคืน""งานเล็ก ๆ ไม่ใช่เหรอ?" เจโรมบอกมาอย่างนั้น รู้กันแค่ในวงศ์ตระกูลคงจะไม่เท่าจีเซลพูดมาหรอก"งั้นเราลงไปดูกันค่ะ ว่างานเล็กจริงไหม" ว่าแล้วน้ำอิงก็ลงมาชั้นล่างพร้อมกับสองสาว จีเซลทำให้เธอเริ่มประหม่
"สรุปแล้วเรื่องที่บอกว่าจะเข้ารับตำแหน่งคือเรื่องจริงเหรอ…" ฉันนั่งมองคนที่ใส่เสื้อสูทเนี๊ยบกว่าทุกวัน ก่อนที่จะเดินเข้าไปช่วยเขาผูกเนกไทให้เพื่อความรวดเร็ว"อืม…วันนี้ประชุมแต่งตั้งประธานคนใหม่ของบริษัท""ว้าว…จะมีแฟนเป็นประธานบริษัทแล้วเหรอเนี่ย อิจฉาตัวเองสุด ๆ""ฉันในเสื้อสูทแบบนี้ยังได้อารมณ์เธออยู่อีกไหม" แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวยังไงคนขี้เล่นก็ยังคงกวนเหมือนเดิม แค่อยู่ในลุกที่แตกต่างออกไปเท่านั้นเอง"เสื้อก็ดูดีอยู่นะ แต่ดูหน้าแล้วเฉย ๆ" ฉันย่นจมูกใส่เขา ตอบกวนไปงั้นทั้งที่จริงแล้วก็แอบหวีดในความเท่ของแฟนตัวเองตั้งแต่แรก"หาเรื่องเสียตัวแต่เช้า" ความแววตาเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ฉันรีบถอยหลัง ทั้งที่จะเข้างานอยู่แล้วเขาก็ยังเล่นอยู่ได้"พอเลย ท่านประธานจะเข้างานสายตั้งแต่วันแรกไม่ได้นะคะ""งั้นเก็บไว้คืนนี้แล้วกัน อย่าลืมว่าเธอยังมีนัดชุดเมดอีกชุดนะ ขอเด็ดกว่าเมื่อคืนนะ ถือว่าเป็นของขวัญการเลื่อนตำแหน่งของฉันด้วย""พี่นี่มุ่งแต่เรื่องบนเตียงจริง ๆ" ฉันถึงกับส่ายหัว เอะอะก็พาลงต่ำตลอด"มีให้เลือกสองสีสีดำเปิดบนสีแดงเปิดล่าง" แต่ก็ไม่ได้บอกว่าฉันเองไม่ได้ชอบ เหมือนว่าจะเริ่มติดนิสัยหื่นไปจาก
ก็อก ๆ"อิงรีบตื่นเร็วเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!" ฉันงัวเงียขยี้ตาเพราะเสียงของคนเคาะประตูรัว ๆ เสียงนั้นคือเสียงแม่ฉันเองฉันจำได้ฟังดูร้อนรนแปลก ๆ จนฉันต้องรีบเดินไปเปิดประตู"มีอะไรคะแม่""ตาโรมจะถูกพ่อแกไล่ออกจากบ้านแล้ว""ฮะ ฮ้ะ!?" ฉันถึงกับเบิกตาโตได้สติขึ้นมาทันควัน ก่อนที่จะรีบวิ่งตามแม่ด้วยชุดนอนแล้วได้ยินเสียงของกระเป๋าที่ถูกโยนใส่พี่โรม"เกิดอะไรขึ้นคะพ่อ ทำไมพ่อต้องไล่พี่เขาด้วย" ฉันรีบยืนไปขวาง ไหนว่าความสัมพันธ์มันดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำไมถึงจบแบบนี้ได้"ฉันให้มันเก็บของตั้งแต่เมื่อคืน มันก็ไม่ยอมทำจนต้องใช้ให้ไอโป่งทำให้""ลุงให้ผมอยู่นะครับ ถ้าผมทำอะไรผิดไปผมขอโทษครับ""นั้นสิคุณ ที่ผ่านมาตาโรมก็ทำดีมาตลอดไม่ใช่เหรอ""เพราะมันทำดีมาตลอดนี่แหละถึงต้องให้มันกลับไป""ฮ้ะ!?" ทั้งฉันแม่และพี่โรมเลิกคิ้วงุนงงพร้อมกัน ตกลงมันหมายความว่ายังไงกันแน่"ฉันอนุญาตให้แกคบกับลูกสาวฉันต่อได้" "ลุง!/พ่อ!/คุณ!" เราสามคนเบิกตาโตเรียกพ่อคนละสรรพนามอย่างไม่ต้องนัดหมาย ให้ตายเถอะนี่มันเป็นข่าวดีในรอบสัปดาห์เลย ในที่สุดก็มีวันที่เขาเอาชนะใจพ่อฉันได้สักที"แต่ก็ไม่ได้แปลว่าแกจะทำอะไรก็ได้ ถ้าอยากอยู่ด้วยก