Beranda / วัยรุ่น / LOVE LIE รักลวงหลอก / บทที่ 7 อยากครอบครอง

Share

บทที่ 7 อยากครอบครอง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-31 04:31:45

"เจ้าขา?"

เสียงของลูคัสเอ่ยทักขึ้นด้วยความแปลกใจหลังเห็นหญิงสาวเป็นคนออกมาเปิดประตู เพราะไม่คิดว่าเธอจะมาถึงก่อนคนอื่นๆ

"ทำไมถึงออกมาเปิดประตูล่ะ"

ลีน่าที่ยืนอยู่อีกคนก็ถามขึ้นมาด้วยเหมือนกัน นั่นจึงทำให้เจ้าขาต้องรีบอธิบายออกมาในทันมี

"อะ เอ่อ พอดีว่าเรามาถึงก่อนน่ะ"

"อ๋อออ งี้นี่เอง"

ลูคัสแกล้งลากเสียงยาวในทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินออกมาอีกคนเหมือนกัน ในขณะสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายบางอย่างคู่นั้นก็จ้องมองไปยังใบหน้าเรียบนิ่งของเพื่อนสนิทอย่างต้องการล้อเลียน

"ถ้าไม่เข้า ก็กลับไป"

เสียงเรียบนิ่งของเคลวินเอ่ยไล่ทันทีด้วยความรำคาญ เมื่อเห็นว่าคนทั้งสามไม่ยอมเดินเข้ามาภายในห้องเสียที

"เออๆ รู้แล้ว จะรีบไปตายที่ไหน"

ลูคัสบ่นเสียงดังอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะเดินเข้ามาภายในห้องเป็นคนแรกตามด้วยแม็คนัสและลีน่าที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย

 

"ลีน่ามากับเพื่อนหรอ"

เสียงใสเอ่ยถามขึ้นมาอยู่บริเวณหน้าประตูห้องเพราะคนทั้งคู่ยังไม่ได้เดินตามชายหนุ่มทั้งสามเข้าไป

"เปล่า บังเอิญเจอข้างล่าง"

สิ้นประโยคนั้นเจ้าขาก็พยักหน้าลงด้วยความเข้าใจในทันที ก่อนที่เสียงของลีน่าจะเอ่ยถามขึ้นมา

"ทำไมไม่ให้ฉันไปรับ"

"เราเกรงใจน่ะ คอนโดของลีน่าอยู่ไกลกับหอพักเราจะตาย"

เพราะเมื่อเช้าคนตรงหน้าส่งข้อความบอกว่าจะมารับเธอแต่เพราะระยะทางที่ไม่ได้ใกล้นั้นทำให้เจ้าขาเกิดความเกรงใจเพื่อนขึ้นมาหากจะต้องเป็นภาระของคนอื่น

"จะเกรงใจทำไม เราเป็นเพื่อนกันนะ"

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงจังดังขึ้น พลางจ้องมองไปยังใบหน้าหวานใสของคนที่ตัวเล็กกว่าเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเธอไม่ควรที่จะเกรงใจกันมากจนเกินไป

"อย่าโกรธสิ ไว้คราวหน้าเราจะให้ลีน่าไปรับไปส่งเลย โอเคไหม?"

เจ้าขาเอ่ยบอกด้วยใบหน้าออดอ้อนพลางเดินเข้าไปกอดแขนของเพื่อนสนิทไว้และซบใบหน้าลงกับไหล่ของอีกคนอย่างพยายามง้อ นั่นจึงทำให้ลีน่าหลุดยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกเอ็นดูก่อนที่คนทั้งคู่จะพากันเดินเข้าไปหาเพื่อนคนอื่นๆ

 

"สัสเคล! นี่มึงเล่นเกมไม่ชวนกูหรอ?"

เสียงโวยวายของลูคัสดังขึ้นมาเมื่อเห็นหลักฐานชัดคาตาว่าเคลวินเพิ่งจะเล่นเกมไปเมื่อไม่นานแต่กลับไม่ได้ชวนเขาด้วยนั่นจึงทำให้ทั้งเคลวินและแม็คนัสต่างแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายเป็นสิ่งตอบกลับในนิสัยที่พวกเขาคิดว่า'ปัญญาอ่อน'ของลูคัส

และเพราะเสียงที่แผดดังไปทั่วทั้งห้องของเขานั้นทำให้หญิงสาวสองคนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาชะงักไปด้วยความงุนงงอย่างประติดประต่อกับสถานณการณ์ไม่ได้

"เอ่อ..โทษทีพอดีมันชินปากไปหน่อย"

เจ้าตัวที่เห็นท่าทีของคนทั้งสองก็เอ่ยออกมาเพราะคิดไปว่าเธอคงจะตกใจเพราะคำหยาบที่เขาพ่นออกมา

"ไม่เป็นไร เราไม่ถือ"

เสียงใสเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรอย่างไม่คิดมากอะไร เพราะเธอเองก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ

"นั่นสิเนาะ ถือทำไมหนักจะตาย"

ลูคัสตอบกลับเจ้าขาด้วยความขี้เล่นนั่นจึงทำให้คนตัวเล็กหัวเราะร่าออกมาในความเฟรนลี่ของลูคัส ในขณะที่สายตาคมของใครบางคนก็จ้องมองไปยังรอยยิ้มสดใสนั้นอยู่เงียบๆ

"จะเริ่มทำงานกันได้หรือยัง" เสียงของลีน่าที่ดังขึ้นนั้นทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของลูคัสเลือนหายไปในชั่วพริบตา ก่อนเขาจะเอ่ยออกมาด้วยความประชดประชัน

"คร้าบ จะเริ่มเดี๋ยวนี้แหละคร้าบ"

ท่าทางของคนทั้งคู่ที่ดูเหมือนจะทะเลาะกันตลอดเวลานั้นทำให้เจ้าขาได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม เพราะดูท่าว่าลีน่ากับลูคัสนี่จะเป็นคู่ปรับที่ไม่ลงรอยกันจริงๆ

เพียงไม่นานแม็คนัสก็เริ่มแบ่งหน้าที่ในการทำงานของเพื่อนแต่ละคนอย่างชัดเจนด้วยนิสัยความเป็นผู้นำของเขาก่อนที่ทุกคนจะเริ่มทำงานในส่วนของตัวเองทันที

"แม็คนัส ช่วยดูสรุปหัวข้อนี้ให้เราได้หรือเปล่า"

เจ้าขาเดินเข้าไปถามแม็คนัสที่กำลังนั่งทำงานอยู่ตรงส่วนหนึ่งของห้อง เพราะไม่มั่นใจว่าตัวเองนั้นสรุปหัวข้อที่ได้รับมอบหมายดีพอหรือเปล่า

"เธอเอาไปให้เคลวินดูก่อนนะ ฉันขอเคลียร์ตรงนี้อีกหน่อย"

"อ่อ โอเค"

เจ้าขาพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินไปหาเคลวินที่นั่งทำงานอยู่อีกมุมทันที และทันทีที่เธอเดินไปถึงใบหน้าหล่อเหลาที่สวมแว่นตาอยู่นั้นก็หันมามองเธอในทันทีนั่นจึงทำให้เจ้าขาเกิดอาการประหม่าขึ้นมา

"ค เคลวิน ช่วยดูให้เราหน่อยว่าที่เราสรุปมันได้หรือเปล่า"

มือเรียวยื่นหน้าจอไอแพดไปตรงหน้าของชายหนุ่มก่อนที่เขาจะรับมันไปและเพียงไม่นานเสียงทุ้มก็ดังขึ้นมา

"ยังไม่ได้...เนื้อหาตรงส่วนนี้ต้องสรุปให้กระชับมากกว่านี้"

"โอเค เข้าใจแล้ว"

ใบหน้าน่ารักพยักหน้าลงเป็นการตอบรับและเตรียมจะเดินกลับทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้เดินออกไปเสียงทุ้มจากคนด้านหลังก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

"นั่งตรงนี้"

เคลวินพูดพร้อมกับชี้ไปยังเก้าอี้อีกตัวที่ว่างข้างๆ เขา นั่นจึงทำให้เจ้าขาจ้องมองมันสลับกับใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าด้วยความงุนงงไม่เข้าใจ เคลวินที่เห็นแบบนั้นก็เอ่ยอธิบายออกมาอีกรอบ

"นั่งทำตรงนี้...แล้วฉันจะช่วยดูอีกที"

"อะ โอเค"

เจ้าขารับคำอย่างเข้าใจก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้างๆ กันและเพียงไม่นานเก้าอี้อีกตัวที่มีคนตัวสูงนั่งอยู่ก็ขยับเข้ามาใกล้เธอมากยิ่งขึ้น นั่นจึงทำให้เธอเกิดความรู้สึกเกร็งขึ้นมาในทันทีทว่าก็พยายามที่จะไม่สนใจแล้วหันกลับมาตั้งใจทำงานตรงหน้าของตัวเองต่อ

ความใกล้ชิดที่มากขึ้นนั้นส่งผลให้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากคนตัวเล็กข้างกายลอยเข้ามาแตะจมูกโด่งของเขาอยู่ตลอด ในขณะที่นัยน์ตาคมคู่นั้นก็ลอบมองไปยังใบหน้าหวานใสที่ดูน่ารักน่าถะนุถนอมมากกว่าใครๆ ที่เขาเคยเจอ นัยน์ตากลมโตที่มักจะมองมาที่เขาด้วยแววตาใสซื่อของเธอนั้นมันทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากครอบครองทุกครั้งที่ได้มอง

.

.

"เสร็จงานกลุ่มนี้เมื่อไร ฉันจะไม่อยู่กลุ่มเดียวกับหมอนั่นอีกแน่"

เสียงของลีน่าบ่นขึ้นมาในช่วงเย็นของวันในขณะที่กำลังขับรถไปส่งเจ้าขาที่หอพัก หลังขลุกตัวทำงานอยู่ในห้องของเคลวินมาทั้งวัน

"ลีน่าไม่ชอบลูคัสขนาดนั้นเลยหรอ"

เจ้าขาที่นั่งอยู่ข้างๆ กันเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัยอย่างไม่รู้ว่าเพื่อนสองคนเคยทะเลาะกันมาก่อนหรือเปล่าเพราะเธอก็เพิ่งจะย้ายเข้ามาได้ไม่นาน

"ใช่"

"ทำไมล่ะ? ลูคัสทำอะไรให้ลีน่าไม่ชอบใจหรือเปล่า"

"เปล่าหรอก ก็แค่ชอบทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วน่ะ"

"หือ? ตั้งแต่เด็กๆ เลยหรอ แสดงว่าก็ต้องรู้จักกันมาก่อนน่ะสิ"

"อืม ตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ"

ความจริงแล้วเธอรู้จักหมอนั่นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วเพราะเรียนอยู่ที่เดียวกันและห้องเดียวกันตั้งแต่ประฐมจนถึงช่วงเทอมสุดท้ายของมัธยมต้น เธอก็เผลอดีใจที่หมอนั่นย้ายออกไปแต่ทว่ากลับมาเรียนอยู่สาขาเดียวกันซะได้

"งี้นี่เอง" เจ้าขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนเสียงของคนข้างๆ จะดังขึ้นมาอีกครั้ง

"ส่วนหมอนั่นน่ะ"

"หมอนั่น? ลีน่าหมายถึงใครหรอ" นัยน์ตากลมโตที่เต็มไปด้วยความสงสัยคู่นั้นจ้องมองไปยังเพื่อนสนิทตาใสแป๋วอย่างที่ชอบทำ

"เคลวิน...อย่าไปยุ่งกับเขามาก"

ลีน่าเอ่ยเตือนขึ้นมาด้วยความจริงจัง เพราะเธอกำลังรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง แต่ก็ขอให้เป็นเธอที่คิดมากไปเองก็แล้วกัน

"แต่...เคลวินเคยช่วยเราไว้นะ"

เสียงใสเอ่ยแย้งขึ้นมาตั้งแต่ที่เขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในวันนั้นมันทำให้เธอคิดว่าเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร....

"ช่วย? ช่วยอะไร" ลีน่าเอ่ยถามขึ้นมาทันทีอย่างไม่เคยคิดมาก่อนและไม่อยากจะคิดด้วยว่าหมอนั่นจะช่วยเหลือคนอื่นเป็น

"เมื่อไม่กี่วันก่อน...เราโดนลูกค้าที่ร้านลวนลาม แต่เคลวินเข้ามาช่วยเราไว้"

"เราว่าเคลวินก็เป็นคนดีนะ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ช่วยเราหรอก"

เจ้าขาพยายามอธิบายออกมาให้ลีน่าได้มองเห็นในด้านดีๆ ของเขา เพราะนั่นอาจจะทำให้เพื่อนเปลี่ยนความคิดที่ว่าเขาเป็นคนไม่ดีก็ได้ ทว่าลีน่ากลับไม่ได้คิดแบบนั้น

"ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าหมอนั่นคิดจะทำอะไร..แต่ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเข้าไปยุ่งกับกลุ่มนั้นมาก"

"แต่..."

"เขาอันตรายกว่าที่เธอคิด" เสียงเรียบและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจังของเพื่อนสนิทข้างกายนั้นทำให้เจ้าขาจำต้องพยักหน้าอย่างเข้าใจในทันที

"กะ ก็ได้เราจะพยายามไม่ยุ่งกับเขาก็แล้วกัน..."

 

 

 

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 1 กรุงเบอร์ลิน

    ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศเยอรมณี หญิงสาวใบหน้าสวยหวานน่ารักเจ้าของนัยน์ตากลมโตราวกับตุ๊กตามีชีวิตกำลังจ้องมองไปยังตึกที่ตั้งตระหง่านตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัดก่อนเปลือกตาบางนั้นปิดลงครู่หนึ่งแล้วเปิดขึ้นมาอีกครั้งราวกับกำลังเรียกความกล้าให้กับตัวเองทว่า... "ฮืออ! ไม่กล้าอ่ะ" เสียงใสบ่นออกมากับตัวเองที่ยืนลังเลอยู่นานในขณะที่ใบหน้าน่ารักนั้นก็มุ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจที่ไม่กล้าเดินเข้าไปสักที วันนี้เป็นวันแรกที่เธอย้ายเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลังจากผ่านการอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงจนในที่สุดเธอก็สามารถสอบชิงทุนเข้ามาเรียนต่อที่นี่ได้ในขณะที่เรียนอยู่ปีสามคณะบริหารธุรกิจสาขาการสื่อสารธุรกิจระหว่างประเทศ "เอาน่า วันแรกใครๆก็ประหม่าแบบนี้นั่นแหละ" เสียงของ เจ้าขา พยายามพูดให้กำลังใจตัวเองในขณะที่ฝ่ามือทั้งสองข้างนั้นก็ประสานเข้าหากันแน่นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง "เราทำได้ เราทำได้" คนตัวเล็กพยายามพูดเพื่อเรียกความกล้าให้กับตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังกำลัง

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 2 ทายาทตระกูลดัง

    หลายวันถัดมาภายในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ณ กรุงเบอร์ลินกำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาเหล่าคนมีเงินที่กำลังนั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุขท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆเพื่อสร้างบรรยากาศทว่าจู่ๆ เสียงพูดคุยเมื่อครู่นั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงซุบซิบในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมีการปรากฏตัวของชายหนุ่มทายาทตระกูลดังที่กำลังเดินเข้ามาภายในสถานที่แห่งนี้แม้ใบหน้าจะราบเรียบทว่ากลับไม่สามารถปกปิดความหล่อเหลาไร้ที่ติตามฉบับชายชาวยุโรปของเขาได้เลย แต่สิ่งที่ตราตรึงสายตาของผู้คนมากที่สุดคงจะเป็นนัยน์ตาสีเทาเข้มที่ดูเรียบนิ่งคู่นั้นไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเท่านั้นที่ดึงความสนใจของผู้คนทว่าด้วยเพราะเขาคือทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลไฮน์ริชที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่เป็นที่จับตามองของคนในสังคมอยู่ในขณะนี้"เคลวินมาแล้วหรอลูก"เสียงสดใสของหญิงวัยกลางคนอย่างเอมิเลียเอ่ยทักทายลูกชายเพียงคนเดียวของเธออย่างเคลวินที่เดินเข้ามาภายในห้องอาหารที่มีความเป็นไพรเวทแยกออกจากโซนด้านนอก"ครับ"เสียงทุ้มตอบรับมารดาของตนก่อนจะหันไปทักทายชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเอ็ดวินผู้นำตระกูลแวร์เนอร์ คนปัจจุบัน"คุณล

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 3 สมภารกินไก่วัด

    หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เจ้าขาพยายามที่จะเข้ามาตีสนิทกับลีน่าอยู่หลายวันเพราะเธอเองก็ไม่รู้จักกับใครเลยและเพื่อนคนอื่นๆในเซคก็มีกลุ่มกันหมดแล้วเว้นเสียแต่ลีน่าไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนคบแต่หลังจากที่ได้พูดคุยมาหลายวันเธอก็พอจะรู้ว่าเพื่อนนั้นเป็นคนรักความสันโดษและชอบอยู่คนเดียวเสียมากกว่าการอยู่กับผู้อื่นและถึงแม้จะรู้แต่เธอก็ยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกับลีน่าอยู่ดีTTแต่ถึงอย่างนั้นอีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีผลักไสเธอแต่อย่างใดนั่นจึงทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่พัฒนาไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้นจนสามารถพูดคุยกันได้หลายๆเรื่องแม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน"ลีน่าวันนี้เรากินอะไรกันดี"เสียงใสของเจ้าขาเอ่ยถามยังหญิงสาวผมบลอนด์ที่ยืนอยู่ข้างๆกันภายในโรงอาหารของคณะหลังบคิดอยู่นานแต่ก็ยังไม่สามารถเลือกเมนูที่จะทานได้"พิชซ่าไหม?"ลีน่าเสนอขึ้นมาเพราะพิซซ่าคือเมนูสิ้นคิดที่สุดสำหรับเธอแล้ว"โอเค งั้นเดี๋ยวลีน่าไปซื้อน้ำนะ ส่วนเราไปซื้อพิซซ่าเอง"หลังแบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพสองสาวก็แยกย้ายกันไปซื้อของตามหน้าที่ของตนทุกๆวันเธอและลีน่าจะแยกกันไปซื้ออาหารและน้ำเพราะจะได้ไม่เ

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 4 ความใกล้ชิด

    ณ ห้องสมุดในช่วงบ่ายของวันหลังมาถึงห้องสมุดทุกคนก็แบ่งหน้าที่แยกย้ายกันไปหาข้อมูล บางส่วนจะต้องหาจากอินเตอร์เน็ตและบางส่วนจะต้องไปหาหนังสือภายในห้องสมุดหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าขาที่กำลังไล่สายตาหาหนังสือที่ต้องการอยู่"อยู่ไหนนะ" เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไม่พบหนังสือที่ต้องการเสียทีหลังหาอยู่นาน"ตรงนั้น"เสียงทุ้มที่ดังขึ้นของผู้มาใหม่นั้นทำให้เจ้าขาหันไปมองยังทางต้นเสียงก่อนจะพบเข้ากับเคลวินที่เขาเองก็ได้รับหน้าที่ในการมาหาหนังสือเหมือนกันกับเธอนัยน์ตากลมโตคู่นั้นมองไปยังจุดที่เขาชี้บอกก่อนจะพบเข้ากับหนังสือเล่มที่เธอกำลังตามหา ฉับพลันนัยน์ตาคู่นั้นก็เป็นประกายวิบวับทันทีด้วยความดีใจ"อยู่ตรงนั้นจริงด้วย""ทำไมมันอยู่สูงจัง" เจ้าขาบ่นออกมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบมันทว่าก็เพียงแตะโดนนิดหน่อยเท่านั้นจนไม่สามารถที่จะหยิบได้และในช่วงจังหวะนั้นเอง..."เดี๋ยวฉันหยิบเอง"ร่างสูงที่เข้ามาประชิดร่างของเธอจากทางด้านหลังทันทีที่พูดจบนั้นทำให้เจ้าขาชะงักไปในทันที กลิ่นน้ำหอมหรูหราที่ลอยออกมาจากตัวของเขานั้นส่งผลให้ใบหน้าใสแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่หน้าอกข้างซ้ายกลับสั่นไ

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 5 ความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมเซค

    @MIDNIGHT CLUBในช่วงดึกของวันหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานในชุดพนักงานเสิร์ฟประจำคลับดังแห่งหนึ่งอย่างเจ้าขากำลังยกถาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ทีด้วยความกระตือรือล้นเพราะยิ่งดึกมากเท่าไรเหล่านักท่องราตรีก็เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"วีไอพีห้า"เสียงของหญิงสาวผมบลอนด์อายุราวๆ สามสิบถึงสี่สิบปีเอ่ยบอกกับเด็กสาวชาวเอเชียอย่างเจ้าขาที่เพิ่งจะเดินถือถาดกลับเข้ามาได้ไม่นาน ก่อนใบหน้าน่ารักนั้นจะยิ้มตอบรับทันทีและเพียงไม่นานเครื่องดื่มถาดดังกล่าวก็ถูกยกออกไปพร้อมกับหญิงสาวเรือนร่างอรชรสถานที่แห่งนี้เป็นคลับชื่อดังย่านใจกลางกรุงที่เธอเพิ่งจะสมัครเข้ามาทำได้เพียงเดือนเศษๆ เพราะหลังย้ายมาจากประเทศไทยเธอก็เริ่มที่จะหาสมัครงานพาร์ทไทม์ทันทีเพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ร่ำรวยทำให้เธอไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้แม้ว่าจะได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัยก็ตามทีแต่เพราะเธอเองก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยและนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เธอต้องมาเช่าหอพักราคาถูกข้างนอกอยู่แทนที่จะอยู่หอในที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาไว้ให้สำหรับนักศึกษาทุนโดยเฉพาะแต่กว่าจะออกมาได้เธอก็จำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาตอยู่นาน"

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 6 สิ่งตอบแทนที่ว่า...

    "เพิ่งจะรู้ว่ากูมีเพื่อนจิตใจดีขนาดนี้"ประโยคนั้นดังขึ้นจากแม็คนัสทันทีที่เห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหรูฝั่งตรงข้าม"รู้จักเด็กคนนั้นหรอ"ประโยคคำถามดังขึ้นจาก โคลน์ รุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ที่พวกเขามักจะมาสุมหัวกันบ่อยๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดมันมาถึงหูของเพื่อนสนิทเร็วขนาดนี้"เด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามา"ประโยคดังกล่าวดังขึ้นจากลูคัสที่กำลังนัวเนียกับหญิงสาวหน้าอกบึ้มสองคนข้างกาย แม้สายตาจะกำลังชมสิ่งสวยๆ งามๆ ข้างกายแต่หูกลับกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสามเป็นอย่างดีไม่มีพลาด"นี่มึงคิดจะทำอะไรเคลวิน"น้ำเสียงจริงจังดังขึ้นจากโคลน์อีกครั้ง สายตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าเคลวินไม่ได้มีนิสัยชอบช่วยเหลือใครนอกเสียจากมันจะมีจุดประสงค์บางอย่าง"สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ"เคลวินไม่ได้ตอบคำถามทว่ากลับเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายร่างกายไปตามทำนองดนตรีอยู่กั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status