LOGINณ ห้องสมุดในช่วงบ่ายของวัน
หลังมาถึงห้องสมุดทุกคนก็แบ่งหน้าที่แยกย้ายกันไปหาข้อมูล บางส่วนจะต้องหาจากอินเตอร์เน็ตและบางส่วนจะต้องไปหาหนังสือภายในห้องสมุดหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าขาที่กำลังไล่สายตาหาหนังสือที่ต้องการอยู่ "อยู่ไหนนะ" เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไม่พบหนังสือที่ต้องการเสียทีหลังหาอยู่นาน "ตรงนั้น" เสียงทุ้มที่ดังขึ้นของผู้มาใหม่นั้นทำให้เจ้าขาหันไปมองยังทางต้นเสียงก่อนจะพบเข้ากับเคลวินที่เขาเองก็ได้รับหน้าที่ในการมาหาหนังสือเหมือนกันกับเธอ นัยน์ตากลมโตคู่นั้นมองไปยังจุดที่เขาชี้บอกก่อนจะพบเข้ากับหนังสือเล่มที่เธอกำลังตามหา ฉับพลันนัยน์ตาคู่นั้นก็เป็นประกายวิบวับทันทีด้วยความดีใจ "อยู่ตรงนั้นจริงด้วย" "ทำไมมันอยู่สูงจัง" เจ้าขาบ่นออกมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบมันทว่าก็เพียงแตะโดนนิดหน่อยเท่านั้นจนไม่สามารถที่จะหยิบได้และในช่วงจังหวะนั้นเอง... "เดี๋ยวฉันหยิบเอง" ร่างสูงที่เข้ามาประชิดร่างของเธอจากทางด้านหลังทันทีที่พูดจบนั้นทำให้เจ้าขาชะงักไปในทันที กลิ่นน้ำหอมหรูหราที่ลอยออกมาจากตัวของเขานั้นส่งผลให้ใบหน้าใสแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่หน้าอกข้างซ้ายกลับสั่นไหวขึ้นมาเพราะความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น มุมปากหยักลอบยิ้มออกมาหลังสังเกตุเห็นถึงปฏิกิริยาบางอย่างของเธอก่อนที่เขาจะผละตัวออกไปเล็กน้อยเมื่อหยิบหนังสือที่อยู่ด้านบนได้สำเร็จ ก่อนจะยื่นมันไปตรงหน้าของเธอ "ขะ ขอบคุณนะ" มือบางเอื้อมเข้าไปรับหนังสือจากเขาก่อนจะก้มหน้าเอ่ยบอกโดยที่ไม่ได้สบสายตาคมคู่นั้น "คะ เคลวินช่วยถอยออกไปหน่อยได้ไหม" เจ้าขาเอ่ยบอกอย่างกระท่อนกระแท่นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำเพราะแม้ว่าเขาจะถอยออกไปนิดหน่อยแล้วแต่เพราะช่องแคบระหว่างล็อคของหนังสือนั้นก็ไม่ได้มีพื้นที่มากเท่าที่ควร "โทษที" พูดจบร่างสูงก็ถอยออกเพื่อหลบทางให้เธอ คนตัวเล็กที่เห็นแบบนั้นก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งโดยที่ไม่ได้สบสายตากับเขาเลยด้วยซ้ำ "งะ งั้น เดี๋ยวเราเอาหนังสือไปให้เพื่อนก่อนนะ" สิ้นประโยคนั้นร่างกายที่ดูนุ่มนิ่มก็เดินออกไปจากตรงนี้ทันทีด้วยท่าทีเร่งรีบและแน่นอนว่าปฏิกิริยาที่มองออกง่ายของเธอนั้นกำลังทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของคนตัวสูงแสดงสีหน้าแห่งความพึงพอใจออกมาในทันที "ได้หนังสือแล้วหรอ" เสียงของลีน่าเอ่ยทักขึ้นหลังเห็นร่างของเพื่อนสนิทอย่างเจ้าขากำลังเดินเข้ามาที่โต๊ะนั่งอ่านหนังสือภายในห้องสมุดที่มีผู้คนเบาบาง "อื้ม ได้มาแล้ว นี่ไง" เจ้าขายิ้มบอกพลางชูหนังสือที่อยู่ในมือให้เพื่อนดู ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ลีน่าที่ยังว่างอยู่ "ไหนเอามาดูสิ" ลีน่าพูดขึ้นก่อนจะคว้าหนังสือจากเจ้าขาไปเปิดดูเนื้อหาภายในว่าจะมีข้อมูลที่ต้องการหาอยู่หรือเปล่า "เจอข้อมูลในอินเตอร์เน็ตบ้างหรือเปล่า" เสียงใสของเจ้าขาหันไปถามกับแม็คนัสที่กำลังค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอีกทาง "เจอเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่จะต้องเอาข้อมูลมากรองอีกที" "เข้าใจแล้ว งั้นเดี๋ยวเราช่วยตรวจสอบจากในหนังสือไปด้วยนะ" สิ้นคำนั้นเธอก็เริ่มหาข้อมูลในหนังสือช่วยเพื่อนอีกแรงในทันที และในขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันหาข้อมูลอยู่นั้นสายตาของลีน่ากลับจ้องมองไปยังลูคัสที่กำลังแอบเล่นโซเชียลในโทรศัพท์ เพราะโต๊ะที่เธอนั่งนั้นเป็นโต๊ะริมสุดที่อยู่ติดกับกระจกทำให้สามารถมองเห็นเงาสะท้อนได้ "นายกำลังทำอะไรอยู่" ลีน่ากอดอกถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาเอาเรื่อง "ก็กำลังทำงานอยู่นี่ไง" ลูคัสพูดพร้อมกับหันหน้าจอโทรศัพท์มาให้ลีน่าดูว่าเขากำลังทำงานอย่างที่พูดอยู่จริงๆ แต่มีหรือที่คนอย่างเธอจะรู้ไม่ทันเขา "อย่าโกหก" "เออๆ รู้แล้วน่า" ลูคัสตอบรับแบบส่งๆ ด้วยความไม่เต็มใจนัก แต่เพียงไม่นานเขาก็กลับมาตั้งใจหาข้อมูลช่วยเพื่อนคนอื่นๆ อีกคนเหมือนกัน นั่นจึงทำให้เจ้าขาได้แต่ยิ้มออกมาให้กับคนทั้งคู่ที่ถึงแม้จะชอบทะเลาะมีปากเสียงกันแต่เธอก็คิดว่าลูคัสไม่ได้นิสัยแย่อะไร เวลาผ่านไปเพียงไม่นานเคลวินก็เดินกลับเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับหนังสือที่อยู่ในมือสองสามเล่มก่อนร่างสูงจะเดินเข้ามานั่งข้างคนตัวเล็กที่ยังคงว่างอยู่ นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที "มาพอดี มึงช่วยเจ้าขาตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก็แล้วกัน" แม็คนัสเอ่ยสั่งงานเสร็จก็หันมาทำงานของตัวเองต่อทันที ในขณะที่เคลวินทำเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นก่อนร่างสูงจะขยับเข้ามาใกล้ร่างกายนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้นจนแทบจะติดกันส่งผลให้กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ราวกับแป้งเด็กนั้นลอยมาแตะจมูกเขา เวลาล่วงเลยผ่านไปจนฟ้าเริ่มจะมืดครึ้มเพราะอยู่ในช่วงพลบค่ำของวัน ทำให้ทุกคนตัดสินใจที่จะพักงานเอาไว้ก่อน เพราะหากจะทำต่อให้เสร็จก็คงจะใช้เวลานานพอสมควรและมันก็คงจะดึกจนเกินไป "ที่เหลือเดี๋ยวนัดมาทำวันหลังก็แล้วกันนะ" แม็คนัสเอ่ยบอกกับทุกคนหลังจากสร้างกลุ่มและดึงสมาชิกทุกคนเข้าหมดแล้ว เพราะงานชิ้นนี้ไม่ใช่แค่การหาข้อมูลแต่ยังต้องทำสไลด์สำหรับนำเสนอภายในอาทิตย์หน้าด้วย "โอเค" เจ้าขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย "ตกลงตามนี้ งั้นก็แยกย้ายกันกลับได้" สิ้นเสียงของแม็คนัสทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไป รวมถึงเจ้าขาที่เตรียมจะเดินออกไปขึ้นรถประจำทางที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่ทว่ายังไม่ทันจะได้เดินออกไปกลับมีเสียงของลีน่าเรียกไว้เสียก่อน "เธอกลับยังไง" "เรานั่งรถประจำทางกลับน่ะ" "กลับกับฉัน" "แต่ว่าหอพักเราอยู่ไกลนะ" เพราะหอพักระแวกนี้มีแต่ราคาแพงๆ ทั้งนั้น ลำพังเด็กพาร์ทไทม์แบบเธอจะไปมีเงินเช่าได้ยังไง และหอพักที่เธอพอจะสู้ราคาไหวก็ดันอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยพอสมควรนั่นจึงทำให้เธอต้องเผื่อเวลาในการเดินทางตลอด "ไม่เป็นไร" สิ้นประโยคนั้นใบหน้าหวานใสก็แสดงออกถึงความลังเลในทันทีเพราะว่าเกรงใจเพื่อนที่ต้องขับรถกลับไปกลับมาเพราะลีน่าพักอาศัยอยู่คอนโดระแวกนี้ แต่เพียงไม่นานเธอก็เลือกที่จะพยักหน้าเป็นการตอบตกลง "งั้นเรารบกวนลีน่าด้วยนะ" เจ้าขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มหวานตาหยีอย่างที่ชอบทำ นั่นจึงทำให้ลีน่าพยักหน้าเป็นการตอบรับก่อนจะจูงมือเพื่อนตัวเล็กให้เดินไปยังลานจอดรถด้วยกันทันที "น่ารักเนาะ" เสียงของลูคัสดังขึ้นหลังหญิงสาวสองคนเดินออกไปนั่นจึงทำให้เคลวินและแม็คนัสจ้องมองมาที่เขาเป็นตาเดียวด้วยสายตาที่แตกต่างกัน "อะไรของมึง" เป็นแม็คนัสที่เอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่รู้ว่าลูคัสกำลังพูดถึงเรื่องอะไร "เด็กใหม่ น่ารักชิบหายเลย" ประโยคนั้นทำให้สายตาเรียบนิ่งคู่นั้นของเคลวินจ้องมองไปยังลูคัสทันที และนั่นเองก็ทำให้ลูคัสกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ติดจะกวนประสาทไม่น้อย "มองกูทำไม แค่พูดถึงก็ไม่ได้หรือไง?" เคลวินไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะเดินออกไปจากวงสนทนาทันทีอย่างไม่ได้สนใจเพราะรู้ดีว่าลูคัสต้องการจะปั่นประสาทเขาเล่นก็เท่านั้น และนั่นเองที่ทำให้ลูคัสและแม็คนัสต่างมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไปก่อนจะเป็นลูคัสที่เอ่ยถามแม็คนัสที่ยืนอยู่ข้างๆ กันขึ้น "แม่งมันเอาจริงหรอวะ?" ที่พูดเมื่อครู่เขาเพียงต้องการที่จะรู้ว่าเคลวินนั้นสนใจอยากได้เด็กใหม่จริงๆ หรือเปล่าก็เท่านั้น เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาเขายังไม่เคยเห็นมันเข้าหาผู้หญิงคนไหนก่อนเลยสักครั้ง "แล้วมึงเคยเห็นคนแบบมันทำอะไรเล่นๆ ด้วยหรือไง?" แม็คนัสถามกลับนั่นจึงทำให้ลูคัสส่ายหน้าตอบ "ไม่เคย" "รู้แล้วยังเสือกถาม" พูดจบก็เดินออกไปอีกคน ทิ้งไว้เพียงลูคัสที่ยืนหน้าเหวออยู่กับที่ก่อนประโยคก่นด่าจะดังไล่หลังของแม็คนัสไปด้วยความโมโห "ไอสัสแม็ค! แม่ง หลอกด่ากูอีกแล้วไอ้เพื่อนเวร"ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศเยอรมณี หญิงสาวใบหน้าสวยหวานน่ารักเจ้าของนัยน์ตากลมโตราวกับตุ๊กตามีชีวิตกำลังจ้องมองไปยังตึกที่ตั้งตระหง่านตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัดก่อนเปลือกตาบางนั้นปิดลงครู่หนึ่งแล้วเปิดขึ้นมาอีกครั้งราวกับกำลังเรียกความกล้าให้กับตัวเองทว่า... "ฮืออ! ไม่กล้าอ่ะ" เสียงใสบ่นออกมากับตัวเองที่ยืนลังเลอยู่นานในขณะที่ใบหน้าน่ารักนั้นก็มุ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจที่ไม่กล้าเดินเข้าไปสักที วันนี้เป็นวันแรกที่เธอย้ายเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลังจากผ่านการอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงจนในที่สุดเธอก็สามารถสอบชิงทุนเข้ามาเรียนต่อที่นี่ได้ในขณะที่เรียนอยู่ปีสามคณะบริหารธุรกิจสาขาการสื่อสารธุรกิจระหว่างประเทศ "เอาน่า วันแรกใครๆก็ประหม่าแบบนี้นั่นแหละ" เสียงของ เจ้าขา พยายามพูดให้กำลังใจตัวเองในขณะที่ฝ่ามือทั้งสองข้างนั้นก็ประสานเข้าหากันแน่นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง "เราทำได้ เราทำได้" คนตัวเล็กพยายามพูดเพื่อเรียกความกล้าให้กับตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังกำลัง
หลายวันถัดมาภายในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ณ กรุงเบอร์ลินกำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาเหล่าคนมีเงินที่กำลังนั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุขท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆเพื่อสร้างบรรยากาศทว่าจู่ๆ เสียงพูดคุยเมื่อครู่นั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงซุบซิบในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมีการปรากฏตัวของชายหนุ่มทายาทตระกูลดังที่กำลังเดินเข้ามาภายในสถานที่แห่งนี้แม้ใบหน้าจะราบเรียบทว่ากลับไม่สามารถปกปิดความหล่อเหลาไร้ที่ติตามฉบับชายชาวยุโรปของเขาได้เลย แต่สิ่งที่ตราตรึงสายตาของผู้คนมากที่สุดคงจะเป็นนัยน์ตาสีเทาเข้มที่ดูเรียบนิ่งคู่นั้นไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเท่านั้นที่ดึงความสนใจของผู้คนทว่าด้วยเพราะเขาคือทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลไฮน์ริชที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่เป็นที่จับตามองของคนในสังคมอยู่ในขณะนี้"เคลวินมาแล้วหรอลูก"เสียงสดใสของหญิงวัยกลางคนอย่างเอมิเลียเอ่ยทักทายลูกชายเพียงคนเดียวของเธออย่างเคลวินที่เดินเข้ามาภายในห้องอาหารที่มีความเป็นไพรเวทแยกออกจากโซนด้านนอก"ครับ"เสียงทุ้มตอบรับมารดาของตนก่อนจะหันไปทักทายชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเอ็ดวินผู้นำตระกูลแวร์เนอร์ คนปัจจุบัน"คุณล
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เจ้าขาพยายามที่จะเข้ามาตีสนิทกับลีน่าอยู่หลายวันเพราะเธอเองก็ไม่รู้จักกับใครเลยและเพื่อนคนอื่นๆในเซคก็มีกลุ่มกันหมดแล้วเว้นเสียแต่ลีน่าไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนคบแต่หลังจากที่ได้พูดคุยมาหลายวันเธอก็พอจะรู้ว่าเพื่อนนั้นเป็นคนรักความสันโดษและชอบอยู่คนเดียวเสียมากกว่าการอยู่กับผู้อื่นและถึงแม้จะรู้แต่เธอก็ยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกับลีน่าอยู่ดีTTแต่ถึงอย่างนั้นอีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีผลักไสเธอแต่อย่างใดนั่นจึงทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่พัฒนาไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้นจนสามารถพูดคุยกันได้หลายๆเรื่องแม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน"ลีน่าวันนี้เรากินอะไรกันดี"เสียงใสของเจ้าขาเอ่ยถามยังหญิงสาวผมบลอนด์ที่ยืนอยู่ข้างๆกันภายในโรงอาหารของคณะหลังบคิดอยู่นานแต่ก็ยังไม่สามารถเลือกเมนูที่จะทานได้"พิชซ่าไหม?"ลีน่าเสนอขึ้นมาเพราะพิซซ่าคือเมนูสิ้นคิดที่สุดสำหรับเธอแล้ว"โอเค งั้นเดี๋ยวลีน่าไปซื้อน้ำนะ ส่วนเราไปซื้อพิซซ่าเอง"หลังแบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพสองสาวก็แยกย้ายกันไปซื้อของตามหน้าที่ของตนทุกๆวันเธอและลีน่าจะแยกกันไปซื้ออาหารและน้ำเพราะจะได้ไม่เ
ณ ห้องสมุดในช่วงบ่ายของวันหลังมาถึงห้องสมุดทุกคนก็แบ่งหน้าที่แยกย้ายกันไปหาข้อมูล บางส่วนจะต้องหาจากอินเตอร์เน็ตและบางส่วนจะต้องไปหาหนังสือภายในห้องสมุดหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าขาที่กำลังไล่สายตาหาหนังสือที่ต้องการอยู่"อยู่ไหนนะ" เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไม่พบหนังสือที่ต้องการเสียทีหลังหาอยู่นาน"ตรงนั้น"เสียงทุ้มที่ดังขึ้นของผู้มาใหม่นั้นทำให้เจ้าขาหันไปมองยังทางต้นเสียงก่อนจะพบเข้ากับเคลวินที่เขาเองก็ได้รับหน้าที่ในการมาหาหนังสือเหมือนกันกับเธอนัยน์ตากลมโตคู่นั้นมองไปยังจุดที่เขาชี้บอกก่อนจะพบเข้ากับหนังสือเล่มที่เธอกำลังตามหา ฉับพลันนัยน์ตาคู่นั้นก็เป็นประกายวิบวับทันทีด้วยความดีใจ"อยู่ตรงนั้นจริงด้วย""ทำไมมันอยู่สูงจัง" เจ้าขาบ่นออกมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบมันทว่าก็เพียงแตะโดนนิดหน่อยเท่านั้นจนไม่สามารถที่จะหยิบได้และในช่วงจังหวะนั้นเอง..."เดี๋ยวฉันหยิบเอง"ร่างสูงที่เข้ามาประชิดร่างของเธอจากทางด้านหลังทันทีที่พูดจบนั้นทำให้เจ้าขาชะงักไปในทันที กลิ่นน้ำหอมหรูหราที่ลอยออกมาจากตัวของเขานั้นส่งผลให้ใบหน้าใสแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่หน้าอกข้างซ้ายกลับสั่นไ
@MIDNIGHT CLUBในช่วงดึกของวันหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานในชุดพนักงานเสิร์ฟประจำคลับดังแห่งหนึ่งอย่างเจ้าขากำลังยกถาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ทีด้วยความกระตือรือล้นเพราะยิ่งดึกมากเท่าไรเหล่านักท่องราตรีก็เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"วีไอพีห้า"เสียงของหญิงสาวผมบลอนด์อายุราวๆ สามสิบถึงสี่สิบปีเอ่ยบอกกับเด็กสาวชาวเอเชียอย่างเจ้าขาที่เพิ่งจะเดินถือถาดกลับเข้ามาได้ไม่นาน ก่อนใบหน้าน่ารักนั้นจะยิ้มตอบรับทันทีและเพียงไม่นานเครื่องดื่มถาดดังกล่าวก็ถูกยกออกไปพร้อมกับหญิงสาวเรือนร่างอรชรสถานที่แห่งนี้เป็นคลับชื่อดังย่านใจกลางกรุงที่เธอเพิ่งจะสมัครเข้ามาทำได้เพียงเดือนเศษๆ เพราะหลังย้ายมาจากประเทศไทยเธอก็เริ่มที่จะหาสมัครงานพาร์ทไทม์ทันทีเพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ร่ำรวยทำให้เธอไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้แม้ว่าจะได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัยก็ตามทีแต่เพราะเธอเองก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยและนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เธอต้องมาเช่าหอพักราคาถูกข้างนอกอยู่แทนที่จะอยู่หอในที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาไว้ให้สำหรับนักศึกษาทุนโดยเฉพาะแต่กว่าจะออกมาได้เธอก็จำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาตอยู่นาน"
"เพิ่งจะรู้ว่ากูมีเพื่อนจิตใจดีขนาดนี้"ประโยคนั้นดังขึ้นจากแม็คนัสทันทีที่เห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหรูฝั่งตรงข้าม"รู้จักเด็กคนนั้นหรอ"ประโยคคำถามดังขึ้นจาก โคลน์ รุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ที่พวกเขามักจะมาสุมหัวกันบ่อยๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดมันมาถึงหูของเพื่อนสนิทเร็วขนาดนี้"เด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามา"ประโยคดังกล่าวดังขึ้นจากลูคัสที่กำลังนัวเนียกับหญิงสาวหน้าอกบึ้มสองคนข้างกาย แม้สายตาจะกำลังชมสิ่งสวยๆ งามๆ ข้างกายแต่หูกลับกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสามเป็นอย่างดีไม่มีพลาด"นี่มึงคิดจะทำอะไรเคลวิน"น้ำเสียงจริงจังดังขึ้นจากโคลน์อีกครั้ง สายตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าเคลวินไม่ได้มีนิสัยชอบช่วยเหลือใครนอกเสียจากมันจะมีจุดประสงค์บางอย่าง"สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ"เคลวินไม่ได้ตอบคำถามทว่ากลับเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายร่างกายไปตามทำนองดนตรีอยู่กั







