Beranda / วัยรุ่น / LOVE LIE รักลวงหลอก / บทที่ 6 สิ่งตอบแทนที่ว่า...

Share

บทที่ 6 สิ่งตอบแทนที่ว่า...

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-30 07:00:57

"เพิ่งจะรู้ว่ากูมีเพื่อนจิตใจดีขนาดนี้"

ประโยคนั้นดังขึ้นจากแม็คนัสทันทีที่เห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหรูฝั่งตรงข้าม

"รู้จักเด็กคนนั้นหรอ"

ประโยคคำถามดังขึ้นจาก โคลน์ รุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ที่พวกเขามักจะมาสุมหัวกันบ่อยๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดมันมาถึงหูของเพื่อนสนิทเร็วขนาดนี้

"เด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามา"

ประโยคดังกล่าวดังขึ้นจากลูคัสที่กำลังนัวเนียกับหญิงสาวหน้าอกบึ้มสองคนข้างกาย แม้สายตาจะกำลังชมสิ่งสวยๆ งามๆ ข้างกายแต่หูกลับกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสามเป็นอย่างดีไม่มีพลาด

"นี่มึงคิดจะทำอะไรเคลวิน"

น้ำเสียงจริงจังดังขึ้นจากโคลน์อีกครั้ง สายตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าเคลวินไม่ได้มีนิสัยชอบช่วยเหลือใครนอกเสียจากมันจะมีจุดประสงค์บางอย่าง

"สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ"

เคลวินไม่ได้ตอบคำถามทว่ากลับเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายร่างกายไปตามทำนองดนตรีอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ด้านล่างของคลับเพราะห้องที่เขาอยู่เป็นกระจกที่สามารถมองเห็นทุกอย่างด้านนอกได้แต่ทว่าคนด้านนอกนั้นไม่สามารถมองเข้ามาภายในห้องนี้ได้

"ไอริส..แม่งเอ้ย!"

โคลน์สถบออกมาอย่างหัวเสียเมื่อเห็นแฟนสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจกำลังใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่นอยู่ ก่อนร่างสูงจะผลุดลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินลงไปยังชั้นล่างทันทีด้วยใบหน้าโกรธจัด

"หึ กูว่าวันนี้มีคนเลือดตกยางออกแน่"

ลูคัสพูดราวกับกำลังเจอเรื่องขบขันเสียอย่างไรอย่างนั้น ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับสองสาวข้างกายของตัวเองต่ออย่างอารมณ์ดี

ผิดกับแม็คนัสและเคลวินที่ทำเพียงเบนสายตามองไปยังด้านล่างเท่านั้นก่อนน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงจังของแม็คนัสจะเอ่ยถามขึ้นมาอีกคน

"อย่าบอกนะว่ามึงจริงจังกับเธอ?"

"ก็แค่อยากลอง"

มือหนายกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาแพงขึ้นจิบด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาแต่ทว่าเพียงแค่คิดถึงใบหน้าหวานใสดวงตาใสซื่อของใครบางคนขึ้นมามุมปากหยักก็เหยียดยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกบางอย่าง

"ไม่กลัวมีปัญหาตามมาทีหลังหรือไง" ลูคัสเอ่ยเตือนสติเพื่อนขึ้นมาเพราะเด็กใหม่คนนั้นดันเป็นเด็กทุนของย่าเคลวิน

"ทำไมต้องกลัว" เสียงเรียบตอบกลับพลางยกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับไม่ได้สนใจ

"ครับพ่อคนเก่ง กูจะรอดู"

ลูคัสพูดออกมาอย่างหมันไส้ในความปากดีของเพื่อนสนิท ผิดกับแม็คนัสที่ทำเพียงนั่งฟังอย่างเงียบๆ เพราะรู้ดีว่าถึงห้ามไปยังไงมันก็ไม่คิดจะสนใจอยู่แล้วเพราะเคลวินเป็นประเภทที่อยากได้อะไรต้องได้

มหาวิทยาลัยเอกชน ณ กรุงเบอร์ลิน

ช่วงสายของวันเจ้าขาเดินเข้ามาภายในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังใจกลางกรุงเบอร์ลินด้วยใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มเครื่องสำอางไว้บางเบาเป็นธรรมชาติแต่นั่นกลับส่งให้ดวงหน้าใสนั้นสวยหวานมากขึ้นราวกับตุ๊กตามีชีวิตก็ไม่ปาน ทำให้ใครต่อใครที่เดินผ่านต่างก็มองมาอย่างให้ความสนใจ

ใช้เวลาไม่นานเธอก็เดินมาถึงหน้าตึกของคณะบริหารฯที่ตัวเองเรียนอยู่ก่อนจะเดินไปยังลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกลทันทีและเมื่อเห็นว่าประตูลิฟต์กำลังจะปิดลงเสียงใสก็รีบตะโกนออกไปทันทีด้วยความเร่งรีบเพราะกลัวจะไม่ทันการ

"โอ๊ะ! รอด้วยค่ะ!"

โชคดีที่คนด้านในได้ยินและกันประตูลิฟต์ไว้ไม่ให้ปิดนั่นจึงทำให้เจ้าขารีบเคลื่อนย้ายร่างกายของตัวเองเข้าไปยังด้านในทันที

"ขอบคุณ..." ยังไม่ทันจะได้เอ่ยจบประโยคดี ใบหน้าใสก็ต้องชะงักไปเมื่อเผลอไปสบตากับสายตาเรียบนิ่งของใครบางคนที่คุ้นคุยอีกทั้งใบหน้าหล่อเหลาระดับนี้เธอเองก็จำได้ดี

"อะ อ้าว เคลวินเองหรอ" เจ้าขาเอ่ยทักขึ้นมาอย่างเก้ๆ กังๆ เมื่อเจอเพื่อนร่วมเซคของตนอีกทั้งยังเป็นคนที่ช่วยเหลือเธอไว้เมื่อคืน

"อืม"

เขาเพียงพยักหน้าลงเล็กน้อยเป็นการทักทายเท่านั้น ทว่าสายตาคมนั้นกลับจ้องมองไปยังใบหน้าหวานใสของคนตัวเล็กนิ่ง นั่นจึงทำให้เจ้าขารู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที ก่อนที่เธอจะพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมา

"เจอพอดีเลย เราทำขนมมาให้น่ะ"

กล่องขนมลูกชุบถูกยื่นไปตรงหน้าของชายหนุ่มตัวสูงที่กำลังจ้องมองมาที่เธอก่อนสายตาคู่นั้นจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังสิ่งที่เธอยื่นออกไปแทน

เขาทำเพียงจ้องมองมันนิ่งๆ เท่านั้นทว่ากลับไม่ได้รับไปนั่นจึงทำให้เจ้าขาจำต้องเอ่ยขึ้นมาอีกรอบ

"รับไปสิ เป็นสิ่งตอบแทนที่เคลวินช่วยเราไว้ไง"

"สิ่งตอบแทนที่ว่า...คือเจ้านี่งั้นหรอ?"

"อื้ม ถึงมันจะหน้าตาประหลาดนิดหน่อยแต่ว่าทานได้นะ" เสียงใสเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มอย่างคนที่ไม่รู้อะไร

"งั้นหรอ"

เสียงทุ้มพึมพำออกมาก่อนนัยน์ตาคมคู่นั้นจะจ้องมองไปยังสิ่งที่เธอเรียกว่าขนมตรงหน้านิ่งงัน

'แบบนี้คงจะไม่นิดแล้วมั้ง...'

เขาลอบคิดออกมาในใจเมื่อเห็นสิ่งที่รูปร่างคล้ายจะเลียนแบบผักผลไม้ทว่าแค่จะใช้คำว่าคล้ายก็ยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำเพราะรูปลักษณ์ของมันนั้น....

ติ๊ง!

ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เสียงลิฟต์ก็ดังขึ้นมาก่อนประตูจะค่อยๆ เปิดออกนั่นจึงทำให้คนที่อยู่ด้านหน้าอย่างเจ้าขาหันมาเอ่ยลาก่อนจะเดินออกไป ทว่าทันทีที่ออกจากลิฟต์ก็ได้ยินเสียงของคนที่รออยู่ด้านหน้าเอ่ยทักคนที่เดินตามหลังเธอมาพอดี

"สัสเคล! กูโทรไปทำไมไม่รับวะ"

เคลวินไม่ได้ตอบอะไรกลับไป และนั่นเป็นจังหวะที่สายตาของลูคัสมองไปเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเพื่อนตัวสูงพอดี

"แล้วนี่อะไร หน้าตาประหลาดชะมัด"

ลูคัสพูดออกมาเสียงดังฟังชัดกับสิ่งที่เห็นพร้อมกับทำหน้าตาขยะแขยงทว่าเจ้าขาที่เดินอยู่ด้านหน้านั้นกลับได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ นั่นจึงทำให้เธอรีบเดินเข้าห้องเรียนไปทันทีด้วยความรู้สึกอับอาย

'มันก็ไม่ได้ประหลาดขนาดนั้นสักหน่อย....'

หลายวันถัดมา

คอนโดมิเนียมหรูย่านใจกลางกรุงเบอร์ลิน

ช่วงสายของวันหยุดเจ้าขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆ หนึ่งบนชั้นสูงสุดของตึกที่ดูหรูหราแห่งนี้ก่อนมือเรียวจะยกขึ้นเคาะประตูสองสามครั้งตามมารยาท

รอเพียงไม่นานคนด้านในก็ออกมาเปิดประตูเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเคลวินที่อยู่ในชุดลำลองอีกทั้งผมที่ยังเปียกอยู่นั้นทำให้สามารถรับรู้ได้ในทันทีว่าเขาเพิ่งจะอาบน้ำมาเมื่อไม่นาน

เพราะวันนี้เป็นวันที่ทุกคนในกลุ่มนัดกันมาทำงานเมื่อคราวที่แล้วต่อให้เสร็จและสถานที่ที่นัดหมายนั่นก็คือเพนเฮาส์ชั้นสูงสุดของคนตรงหน้า

"เข้ามาก่อนสิ"

เสียงทุ้มที่ดังขึ้นมานั้นทำให้สติของเจ้าขากลับมาก่อนที่เธอจะเดินตามหลังร่างสูงเข้าไปในห้องนอนขนาดกว้างขวางที่ดูหรูหราทันที

นัยน์ตากลมโตคู่นั้นกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณห้องกว้างขวางที่ถูกแต่งแต่งไปด้วยโทนสีเทาดำที่ดูเรียบหรูสามารถบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี ก่อนที่เธอจะเลิกสนใจสิ่งนั้นแล้วหันมาถามคนที่นั่งลงบนโซฟากลางห้องรับแขก

"ยะ ยังไม่มีใครมาเลยหรอ"

เพราะทั้งห้องมีเพียงเขาและเธอเท่านั้นไร้เงาของเพื่อนคนอื่นๆ อย่างที่ควรจะเป็น

"อืม"

สิ้นคำตอบนั้นเจ้าขาก็ได้แต่ยืนเก้ๆ กังๆ อย่างไม่รู้จะทำตัวยังไงเพราะเธอเองก็ไม่ได้สนิทกับเขามากขนาดนั้นอีกทั้งยังไม่มีเพื่อนคนอื่นอยู่ด้วย

"นั่งก่อนสิ"

เคลวินที่จ้องมองเธออยู่ตั้งแต่แรกเอ่ยบอกขึ้นอย่างรู้ทันในความคิดของเธอ นั่นจึงทำให้เจ้าขาพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งยังโซฟาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา

แม้จะมีเสียงจากทีวีดังขึ้นมาแต่ทว่าก็ไม่สามารถปกปิดบรรยากาศรอบตัวที่ดูอึดอัดของเธอได้เลยแม้แต่น้อย ไหนจะสายตาคมคู่นั้นที่จ้องมองมายังเธออยู่ตลอดนั่นยิ่งเพิ่มความเกร็งทำตัวไม่ถูกให้เธออีกเป็นเท่าตัว ก่อนที่เสียงทุ้มจะดังขึ้นจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"กินข้าวมาหรือยัง"

"เราทานมาเรียบร้อยแล้ว"

เจ้าขาเอ่ยตอบตามปกติ ในขณะที่นัยน์ตากลมโตคู่นั้นก็พยายามมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยๆ อย่างต้องการที่จะหลีกเลี่ยงสายตาคมที่มองมาอย่างเรียบนิ่งจนเธอรู้สึกประหม่า

ปฏิกิริยาที่มองออกง่ายของเธอนั้นทำให้เคลวินลอบยิ้มมุมปากออกมา ในขณะที่ในหัวของเขานั้นก็กำลังคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมา

"เธอ..เป่าผมเป็นหรือเปล่า?"

เสียงทุ้มดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบระหว่างเขาและเธอ นั่นจึงทำให้ใบหน้าหวานใสที่กำลังมองออกไปทางหน้าต่างนั้นหันกลับมาจ้องที่ใบหน้าหล่อเหลาด้วยความงุนงง ก่อนที่เธอจะตอบออกมา

"ห๊ะ? อ๋อ เป็นสิ เป็น"

"ช่วยเป่าให้หน่อยได้ไหม...พอดีฉันไม่ถนัด"

สิ้นประโยคขอร้องนั้นเจ้าขาก็เงียบไปครู่หนึ่งนัยน์ตากลมโตคู่นั้นจ้องมองไปยังเส้นผมหนานุ่มที่ยังแห้งไม่สนิทของเขาและเพียงไม่นานเธอก็พยักหน้าเป็นการตอบตกลง

"อะ เอ่อ..ได้สิ"

สิ้นคำตอบนั้นของเขาร่างสูงก็ผลุดลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินนำเธอไปยังห้องนอนหรูที่อยู่ไม่ไกลทันที

ในขณะที่เจ้าขาเองก็ได้แต่เดินตามเขาไปเงียบๆ พลันสายตาก็มองสำรวจบริเวณห้องของเขาไปด้วย เพราะทุกอย่างภายในห้องนั้นมันดูหรูหราไปหมดเสียทุกอย่างจริงๆ อีกทั้งยังมีขนาดกว้างขวางกว่าห้องของเธอเป็นหลายเท่าตัว

เมื่อเดินมาถึงห้องนอนร่างสูงกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเคลวินก็นั่งลงที่เก้าอี้หน้ากระจก ก่อนจะยื่นไดรฟ์เป่าผมให้กับเธอ เจ้าขาเริ่มใช้ไดร์ฟเป่าเส้นผมนุ่มสีดำแกมเทาที่ผ่านการดูแลมาอย่างดีนั้นด้วยความเบามือและชาญชำนาญ

"...ว่าแต่ขนมที่เราให้ไปเมื่อวันก่อนเคลวินทานได้หรือเปล่า"

เสียงใสเอ่ยถามขึ้นมาอย่างต้องการที่จะชวนคุย ในขณะที่สายตาก็พยายามจะไม่มองไปยังกระจกที่สะท้อนร่างของเธอและเขาอยู่ตลอดเวลา เพราะทันทีที่เผลอไปมองเธอมักจะเจอเข้ากับสายตาเรียบนิ่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดคู่นั้น...ราวกับว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา

"ได้"

ถึงแม้ว่าหน้าตาของมันของแปลกมากเกินไปสักหน่อย แต่รสชาติก็ไม่ได้แย่อะไร

"ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย เราคิดอยู่ตั้งนานว่าจะทำอะไรเป็นสิ่งตอบแทนให้เคลวิน แต่คิดไม่ออกเราเลยตัดสินใจทำขนมไทยไปให้"

เจ้าขาร่ายยาวด้วยน้ำเสียงสดใสในขณะที่ใบหน้าหวานก็ปรากฏรอยยิ้มชวนมองราวกับลืมความประหม่าไปชั่วขณะ

"มันชื่ออะไร"

"ขนมลูกชุบ"

"ขนมลูกชุบ?"

เคลวินทวนชื่อนั้นอีกครั้ง นั่นจึงทำให้ริมฝีปากบางของเจ้าขาเม้มเข้าหากันแน่นอย่างพยายามที่จะกลั้นรอยยิ้มเพราะสำเนียงที่แปลกๆ ของเขา...

"อะ อื้ม" ใบหน้าหวานใสพยักหน้าเป็นการตอบรับอีกคน

"ขำอะไร"

เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นมาเพราะสายตาที่จับจ้องอยู่ที่เธอตลอดเวลา ทำให้ปฏิกิริยาของเธอไม่สามารถรอดพ้นสายตาของเขาไปได้ ทว่าคนตัวเล็กนั้นกลับไม่ยอมรับ

"ปะ เปล่า"

สิ้นประโยคนั้นเจ้าขาก็ทำเป็นเมินเฉยต่อสายตาที่จ้องมองมาทันที ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยความดื้อดึง ก่อนที่เธอจะวางไดร์ฟเป่าผมลงเมื่อเส้นผมนุ่มของเขานั้นแห้งสนิท

"แต่เมื่อกี้..."

"สัสเคล! ออกมาเปิดประตู"

เสียงของเคลวินนั้นขาดหายไปเมื่อได้ยินเสียงของลูคัสที่พูดผ่านกล้องหน้าห้องบ่งบอกว่าเพื่อนทั้งหมดคงจะมาถึงกันแล้ว และนั่นจึงทำให้เจ้าขารีบเอ่ยออกมาทันทีราวกับสวรรค์มาโปรด

"โอ๊ะ! เหมือนเพื่อนคนอื่นๆจะมาแล้ว เดี๋ยวเราไปเปิดประตูให้นะ"

สิ้นเสียงใสนั้นเธอก็รีบเดินออกจากห้องนี้ไปในทันที ทิ้งให้คนที่นั่งอยู่ได้แต่มองตามไปด้วยสายตาเรียบนิ่ง เพียงไม่นานร่างสูงใหญ่ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปอีกคนเหมือนกัน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 1 กรุงเบอร์ลิน

    ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศเยอรมณี หญิงสาวใบหน้าสวยหวานน่ารักเจ้าของนัยน์ตากลมโตราวกับตุ๊กตามีชีวิตกำลังจ้องมองไปยังตึกที่ตั้งตระหง่านตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัดก่อนเปลือกตาบางนั้นปิดลงครู่หนึ่งแล้วเปิดขึ้นมาอีกครั้งราวกับกำลังเรียกความกล้าให้กับตัวเองทว่า... "ฮืออ! ไม่กล้าอ่ะ" เสียงใสบ่นออกมากับตัวเองที่ยืนลังเลอยู่นานในขณะที่ใบหน้าน่ารักนั้นก็มุ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจที่ไม่กล้าเดินเข้าไปสักที วันนี้เป็นวันแรกที่เธอย้ายเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลังจากผ่านการอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงจนในที่สุดเธอก็สามารถสอบชิงทุนเข้ามาเรียนต่อที่นี่ได้ในขณะที่เรียนอยู่ปีสามคณะบริหารธุรกิจสาขาการสื่อสารธุรกิจระหว่างประเทศ "เอาน่า วันแรกใครๆก็ประหม่าแบบนี้นั่นแหละ" เสียงของ เจ้าขา พยายามพูดให้กำลังใจตัวเองในขณะที่ฝ่ามือทั้งสองข้างนั้นก็ประสานเข้าหากันแน่นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง "เราทำได้ เราทำได้" คนตัวเล็กพยายามพูดเพื่อเรียกความกล้าให้กับตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังกำลัง

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 2 ทายาทตระกูลดัง

    หลายวันถัดมาภายในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ณ กรุงเบอร์ลินกำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาเหล่าคนมีเงินที่กำลังนั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุขท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆเพื่อสร้างบรรยากาศทว่าจู่ๆ เสียงพูดคุยเมื่อครู่นั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงซุบซิบในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมีการปรากฏตัวของชายหนุ่มทายาทตระกูลดังที่กำลังเดินเข้ามาภายในสถานที่แห่งนี้แม้ใบหน้าจะราบเรียบทว่ากลับไม่สามารถปกปิดความหล่อเหลาไร้ที่ติตามฉบับชายชาวยุโรปของเขาได้เลย แต่สิ่งที่ตราตรึงสายตาของผู้คนมากที่สุดคงจะเป็นนัยน์ตาสีเทาเข้มที่ดูเรียบนิ่งคู่นั้นไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเท่านั้นที่ดึงความสนใจของผู้คนทว่าด้วยเพราะเขาคือทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลไฮน์ริชที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่เป็นที่จับตามองของคนในสังคมอยู่ในขณะนี้"เคลวินมาแล้วหรอลูก"เสียงสดใสของหญิงวัยกลางคนอย่างเอมิเลียเอ่ยทักทายลูกชายเพียงคนเดียวของเธออย่างเคลวินที่เดินเข้ามาภายในห้องอาหารที่มีความเป็นไพรเวทแยกออกจากโซนด้านนอก"ครับ"เสียงทุ้มตอบรับมารดาของตนก่อนจะหันไปทักทายชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเอ็ดวินผู้นำตระกูลแวร์เนอร์ คนปัจจุบัน"คุณล

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 3 สมภารกินไก่วัด

    หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เจ้าขาพยายามที่จะเข้ามาตีสนิทกับลีน่าอยู่หลายวันเพราะเธอเองก็ไม่รู้จักกับใครเลยและเพื่อนคนอื่นๆในเซคก็มีกลุ่มกันหมดแล้วเว้นเสียแต่ลีน่าไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนคบแต่หลังจากที่ได้พูดคุยมาหลายวันเธอก็พอจะรู้ว่าเพื่อนนั้นเป็นคนรักความสันโดษและชอบอยู่คนเดียวเสียมากกว่าการอยู่กับผู้อื่นและถึงแม้จะรู้แต่เธอก็ยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกับลีน่าอยู่ดีTTแต่ถึงอย่างนั้นอีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีผลักไสเธอแต่อย่างใดนั่นจึงทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่พัฒนาไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้นจนสามารถพูดคุยกันได้หลายๆเรื่องแม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน"ลีน่าวันนี้เรากินอะไรกันดี"เสียงใสของเจ้าขาเอ่ยถามยังหญิงสาวผมบลอนด์ที่ยืนอยู่ข้างๆกันภายในโรงอาหารของคณะหลังบคิดอยู่นานแต่ก็ยังไม่สามารถเลือกเมนูที่จะทานได้"พิชซ่าไหม?"ลีน่าเสนอขึ้นมาเพราะพิซซ่าคือเมนูสิ้นคิดที่สุดสำหรับเธอแล้ว"โอเค งั้นเดี๋ยวลีน่าไปซื้อน้ำนะ ส่วนเราไปซื้อพิซซ่าเอง"หลังแบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพสองสาวก็แยกย้ายกันไปซื้อของตามหน้าที่ของตนทุกๆวันเธอและลีน่าจะแยกกันไปซื้ออาหารและน้ำเพราะจะได้ไม่เ

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 4 ความใกล้ชิด

    ณ ห้องสมุดในช่วงบ่ายของวันหลังมาถึงห้องสมุดทุกคนก็แบ่งหน้าที่แยกย้ายกันไปหาข้อมูล บางส่วนจะต้องหาจากอินเตอร์เน็ตและบางส่วนจะต้องไปหาหนังสือภายในห้องสมุดหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าขาที่กำลังไล่สายตาหาหนังสือที่ต้องการอยู่"อยู่ไหนนะ" เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไม่พบหนังสือที่ต้องการเสียทีหลังหาอยู่นาน"ตรงนั้น"เสียงทุ้มที่ดังขึ้นของผู้มาใหม่นั้นทำให้เจ้าขาหันไปมองยังทางต้นเสียงก่อนจะพบเข้ากับเคลวินที่เขาเองก็ได้รับหน้าที่ในการมาหาหนังสือเหมือนกันกับเธอนัยน์ตากลมโตคู่นั้นมองไปยังจุดที่เขาชี้บอกก่อนจะพบเข้ากับหนังสือเล่มที่เธอกำลังตามหา ฉับพลันนัยน์ตาคู่นั้นก็เป็นประกายวิบวับทันทีด้วยความดีใจ"อยู่ตรงนั้นจริงด้วย""ทำไมมันอยู่สูงจัง" เจ้าขาบ่นออกมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบมันทว่าก็เพียงแตะโดนนิดหน่อยเท่านั้นจนไม่สามารถที่จะหยิบได้และในช่วงจังหวะนั้นเอง..."เดี๋ยวฉันหยิบเอง"ร่างสูงที่เข้ามาประชิดร่างของเธอจากทางด้านหลังทันทีที่พูดจบนั้นทำให้เจ้าขาชะงักไปในทันที กลิ่นน้ำหอมหรูหราที่ลอยออกมาจากตัวของเขานั้นส่งผลให้ใบหน้าใสแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่หน้าอกข้างซ้ายกลับสั่นไ

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 5 ความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมเซค

    @MIDNIGHT CLUBในช่วงดึกของวันหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานในชุดพนักงานเสิร์ฟประจำคลับดังแห่งหนึ่งอย่างเจ้าขากำลังยกถาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ทีด้วยความกระตือรือล้นเพราะยิ่งดึกมากเท่าไรเหล่านักท่องราตรีก็เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"วีไอพีห้า"เสียงของหญิงสาวผมบลอนด์อายุราวๆ สามสิบถึงสี่สิบปีเอ่ยบอกกับเด็กสาวชาวเอเชียอย่างเจ้าขาที่เพิ่งจะเดินถือถาดกลับเข้ามาได้ไม่นาน ก่อนใบหน้าน่ารักนั้นจะยิ้มตอบรับทันทีและเพียงไม่นานเครื่องดื่มถาดดังกล่าวก็ถูกยกออกไปพร้อมกับหญิงสาวเรือนร่างอรชรสถานที่แห่งนี้เป็นคลับชื่อดังย่านใจกลางกรุงที่เธอเพิ่งจะสมัครเข้ามาทำได้เพียงเดือนเศษๆ เพราะหลังย้ายมาจากประเทศไทยเธอก็เริ่มที่จะหาสมัครงานพาร์ทไทม์ทันทีเพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ร่ำรวยทำให้เธอไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้แม้ว่าจะได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัยก็ตามทีแต่เพราะเธอเองก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยและนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เธอต้องมาเช่าหอพักราคาถูกข้างนอกอยู่แทนที่จะอยู่หอในที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาไว้ให้สำหรับนักศึกษาทุนโดยเฉพาะแต่กว่าจะออกมาได้เธอก็จำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาตอยู่นาน"

  • LOVE LIE รักลวงหลอก   บทที่ 6 สิ่งตอบแทนที่ว่า...

    "เพิ่งจะรู้ว่ากูมีเพื่อนจิตใจดีขนาดนี้"ประโยคนั้นดังขึ้นจากแม็คนัสทันทีที่เห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหรูฝั่งตรงข้าม"รู้จักเด็กคนนั้นหรอ"ประโยคคำถามดังขึ้นจาก โคลน์ รุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ที่พวกเขามักจะมาสุมหัวกันบ่อยๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดมันมาถึงหูของเพื่อนสนิทเร็วขนาดนี้"เด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามา"ประโยคดังกล่าวดังขึ้นจากลูคัสที่กำลังนัวเนียกับหญิงสาวหน้าอกบึ้มสองคนข้างกาย แม้สายตาจะกำลังชมสิ่งสวยๆ งามๆ ข้างกายแต่หูกลับกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสามเป็นอย่างดีไม่มีพลาด"นี่มึงคิดจะทำอะไรเคลวิน"น้ำเสียงจริงจังดังขึ้นจากโคลน์อีกครั้ง สายตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าเคลวินไม่ได้มีนิสัยชอบช่วยเหลือใครนอกเสียจากมันจะมีจุดประสงค์บางอย่าง"สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ"เคลวินไม่ได้ตอบคำถามทว่ากลับเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายร่างกายไปตามทำนองดนตรีอยู่กั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status