แชร์

3

ผู้เขียน: smith
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-04 14:20:06

          “ขอบคุณมากค่ะ งั้นวันนี้คงเท่านี้ใช่ไหมคะ” คุณเบลยิ้มแล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ ลินดาลุกขึ้นยืน หยิบข้าวของที่วางไว้ข้างตัวเตรียมจะกลับบ้าน คุณเบลเปิดประตูรอให้เธอเดินนำออกมาก่อน เธอไม่ได้หันกลับไปมองทางโฟล์คเลย วินาทีนี้เธอได้แต่พยายามสำรวมอาการให้มากที่สุดขณะที่ออกมาใส่รองเท้า

          “ฉันลาแล้วนะคะ หวังว่าจะได้ยินข่าวดี” ลินดาพยายามสังเกตสีหน้าท่าทางของคุณเบลให้ละเอียดที่สุด เผื่อว่าคำตอบของเขาจะเผยออกมาด้วยภาษากายทางใดบ้าง แต่ก็ไม่มีเลย เขายังตอบสั้นๆ เพียงว่า ครับ แล้วก็อมยิ้มน้อยๆ เหมือนอย่างเดิม

          เขาเดินมาส่งเธอจนพ้นประตูรั้วแล้วจึงกลับเข้าไป ลินดาเดินย้อนกลับมาทางเดิมที่เธอนั่งแท็กซี่เข้ามาจนถึงริมถนนใหญ่ ใจของเธอเหี่ยวแห้งไปหมด พรุ่งนี้คงต้องกลับไปเข้ากะสินะ เธอพ้อกับตัวเองอยู่ในใจ

          ระหว่างรอรถแท็กซี่ เธอหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าขึ้นมาแล้วเปิดเครื่อง ตามคาด มีข้อความจากเจสซีเข้ามา เมื่อเรียกรถได้ บอกที่หมายปลายทางกับโชเฟอร์เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วเธอจึงโทรกลับไปหาเพื่อนสนิท

          “ฮัลโหล เป็นไงบ้าง ข่าวดีไหมยะหล่อน” เจสซีรับสายเธอด้วยน้ำเสียงเริงร่า ลินดาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจใส่โทรศัพท์มือถือเป็นคำตอบ

          “อ้าว ไหงงั้นล่ะ”

          “รู้เหรอว่าฉันจะพูดอะไร”

          “แหม ถอนใจยาวดังเฮือกขนาดนั้น จะให้ฉันเข้าใจว่าอะไรได้ ให้ฉันไปหาไหม” เจสซีเสนอตัวมาปลอบใจเพื่อน

          “ฉันเกรงใจน่ะ แต่มาเถอะ” ลินดายิ้มแห้งอยู่ในรถ เจสซีหัวเราะเข้ามาในสาย

          “ได้ๆ ฉันว่าง เดี๋ยวเจอกันที่ห้องเธอเลยแล้วกันนะ อีกนานไหม ฉันจะได้กะเวลาถูก”

          “สัก 20 นาทีแล้วกันนะ ถ้ามาถึงก่อนเธอไปรอร้านควินัวส์ก็ได้ นั่งกินนั่งคุยกันไป ดีไหม” ลินดาลองถามเจสซี

          “ได้จ้ะ สบายมาก งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ อย่าทำหน้าบูดให้มากนักล่ะ เผื่อระหว่างทางเจอชายในฝัน เดี๋ยวไม่เข้าตาเขาไม่รู้ด้วยนา” เจสซีหยอกลินดา

          “ย่ะหล่อน เดี๋ยวเจอกันนะ ฉันจะวางละ”

          “จ้ะ บาย”

          ลินดาวางสายจากเจสซี ยังไม่ทันได้พูดอะไรเจสซีก็รู้เสียแล้วว่าเธอผิดหวังมา แม้ว่าคุณเบลจะไม่ได้บอกออกมาตรงๆ แต่คำว่า แล้วจะติดต่อไป มันก็คือการปฏิเสธที่ใครๆ ต่างก็เข้าใจกันเป็นสากล คงจะเหมือนเสียงถอนหายใจที่ทำให้เจสซีเข้าใจเรื่องราวในทันทีเช่นกัน

          ลินดานั่งมองข้างทางที่รถแล่นผ่านไปในแต่ละแยกถนน ย่านนี้ค่อนข้างคึกคักทีเดียว ร้านรวงต่างๆ มากมายเปิดเรียงรายกันแทบไม่ได้เว้นช่องว่าง แผงลอยขายอาหารมีให้เลือกเหลือเฟือแทบไม่ซ้ำ ถ้าได้ทำงานที่นี่ก็คงจะดี แต่ก็คงจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้ว ไม่เป็นไร เธอบอกกับตัวเอง

          ราว 20 นาทีแท็กซี่ก็มาส่งเธอถึงหน้าที่พักตามที่กะเวลาเอาไว้เป๊ะๆ เธอจ่ายเงินแล้วลงจากรถ

          “ลินดา” เธอหันกลับมามองตามเสียงเรียก เจสซีกำลังวิ่งเหยาะๆ เข้ามาหา

          “อ้าว เจสซี เพิ่งมาถึงเหมือนกันเหรอ”

          “ใช่ จอดรถไว้ที่เก่าแล้วเดินมาเนี่ย” เจสซีเดินเข้ามาใกล้แล้วกอดลินดาโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว

          “อะไรๆ” ลินดาหัวเราะแก้เขิน

          “กอดปลอบใจไง ขึ้นข้างบนเลยไหม หรือจะแวะกินข้าวกันก่อน”

          “เธอหิวไหมล่ะ”

          “ไม่หิว แต่อยากกินสลัดอะโวคาโด”

          “เอ้า งั้นก็ตามนั้นเลย”

          สองสาวเดินไปด้วยกันอย่างสนิทสนม เจสซีเป็นเพื่อนลินดามาตั้งแต่สมัยเรียน เธอยังจำได้แม่นถึงวันแรกที่ได้เริ่มรู้จักกันจริงจัง มากไปกว่าการได้รู้จักแค่หน้าตาและชื่อเสียงเรียงนามในฐานะเพื่อนร่วมห้อง เธอนั่งฟังเพลงจากเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทท์พกพายี่ห้อโซนีที่เรียกกันด้วยคำแสลงติดปากในยุคนั้นว่าซาวด์อะเบาท์ ลินดานั่งโยกศีรษะเบาๆ ไปตามจังหวะเพลงที่เล่นอยู่ในเครื่องเล่น แล้วจู่ๆ เจสซีก็โผล่เข้ามาตรงหน้า ยกหูฟังข้างหนึ่งออกจากหูของลินดา แล้วถามเธอด้วยสีหน้าทะเล้นน่ารักว่า ฟังอะไรอยู่จ๊ะ ลินดามองเห็นเจสซีอยู่ตลอด เธอเป็นคนร่าเริงและเรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นคนหนึ่งในห้อง คงเพราะอัธยาศัยและความเป็นมิตรของเธอทำให้เจสซีเข้ามาทักลินดาได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ

          “พลาซีโบ” ลินดาตอบเจสซี

          “ที่ร้องเพลง เอฟเวอรี ยู เอฟเวอรี มี น่ะเหรอ ฉันชอบเหมือนเธอเลย” แล้วเจสซีก็ต่อบทสนทนากับลินดาเหมือนคนสนิทกันมานานอย่างสนุกสนาน

          เจสซีขอเป็นคนเลือกโต๊ะที่นั่งในร้านควินัวส์วันนี้ ลินดาเดินตามเธอเข้าไปแล้ววางกระเป๋าลงบนโต๊ะกลมสีส้มซึ่งเป็นธีมสีหลักของร้าน

          “ดีจังเลยที่แถวนี้มีร้านแบบนี้ด้วย ของกินก็ดี อยากเอาโน้ตบุคมากางทำงานทั้งวันเลย ฉันช้อบชอบ” เจสซีหยิบเมนูที่วางอยู่บนโต๊ะมาพลิกดู “สลัด สลัด สลัด เอาสลัดอะไรดีนะวันนี้” เธอเปรยออกมาระหว่างเลือกของกินธรรมดาๆ อย่างมีชีวิตชีวาที่สุด ลินดามองดูเพื่อนสนิทแล้วก็อดจะอมยิ้มออกมาไม่ได้ สุดท้ายเจสซีก็เลือกสลัดอะโวคาโดตามที่บอกไว้ว่าอยากกิน แล้วจะพลิกหน้าเลือกโน่นนี่ทำไมให้มันเหนื่อยล่ะน้า แม่เจ้าประคุณ

          “เธอล่ะ กินอะไรดี” เจสซีส่งเมนูให้ลินดาเลือกบ้าง ลินดาส่ายหน้าแล้วรับเมนูมาพลิกดูสองสามหน้า

          “ไม่กินได้ไหมนะ” ลินดาตอบอย่างหมดอาลัยตายอยาก แต่สายตาก็ยังกวาดดูแต่ละเมนูไปเรื่อยๆ

          “ไม่ได้ๆ ต้องกิน กินสลัดเหมือนฉันไง ไม่อ้วน” เจสซีคะยั้นคะยอ ลินดายังไม่ตัดสินใจ เธอไม่รู้สึกหิวหรืออยากกินอะไรสักนิดเลยตอนนี้

          “ก็ได้ งั้นเอาเหมือนเธอแล้วกัน ขี้เกียจคิด” ลินดาปิดเล่มเมนู

          “โอเค เอ้อนี่...” เจสซีพูดขึ้นมาเหมือนคิดอะไรออกแล้วอยากบอกกับเพื่อน

          “ว่า”

          “เราใส่ห่อขึ้นไปกินข้างบนได้ไหม”

          “ทำไมล่ะ ไหนบอกชอบร้านนี้”

          “ก็ใช่ แต่ขึ้นไปก่อนแล้วเดี๋ยวฉันจะบอกนะ”

          “เอ้า โอเคๆ ตามใจ ขอเลือกที่นั่งเอง พอได้นั่งแล้วก็อยากขึ้นไปกินข้างบนห้อง อะไรของเธอก็ไม่รู้เนี่ย” ลินดาทำท่าจะหยิบกระเป๋า

          “ยังไม่ต้องหยิบสิ เดี๋ยวได้ของกิน จ่ายเงินเสร็จค่อยไปทีเดียว”

          “มันใช่ที่นั่งรอไหมล่ะตรงนี้ เผื่อคนอื่นเขาอยากจะมานั่ง”

          “ไม่เห็นจะมีใครเลย เธอนี่ขี้เกรงใจคนอื่นตลอดเลยนะ หยวนๆ บ้างก็ได้ ใจดีกับตัวเองก่อน รอนี่ล่ะ เดี๋ยวฉันไปสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ ให้เขาแพ็คกลับบ้านให้ ตกลงเอาเหมือนฉันนะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเองเลยมื้อนี้” ลินดาทำท่าจะปฏิเสธ แต่เจสซีก็ชูนิ้วชี้ขึ้นมาพร้อมทั้งลุกขึ้นเป็นการยืนยันว่าเธอจะต้องได้เป็นเจ้ามือ ลินดายิ้มแล้วพยักเพยิดบอกกับเพื่อนด้วยสีหน้าว่ายอมแล้ว

          เธอมองดูเพื่อนเดินไปคุยกับพนักงานขายที่เคาน์เตอร์อย่างเริงร่าไร้ความกังวล ทำไมเจสซีถึงได้อารมณ์ดีตลอดเวลาอย่างนี้นะ เธออยากจะเป็นให้ได้อย่างนั้นบ้างจัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   81

    “ตกลงไหม” เบนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของลินดา แล้วขยับเข้ามาใกล้จนเธอสังเกตเห็นได้กระทั่งไรขนตาของเขา “เป็นฟรีแลนซ์แล้วฉันจะเสียโอกาสอย่างอื่นไหมคะ” เธอยังพะวงอยู่กับเรื่องงาน ทั้งที่ใจก็สะท้านแค่เพียงเพราะสายตาของเขา “ไม่เลย เหมือนเดิมทุกอย่าง แค่คุณจะมีเวลาว่างมากขึ้น หรืออยู่บ้านแล้วกลัวจะเหงาล่ะ” “ไม่หรอกค่ะ ฉันเป็นคนติดบ้าน ถึงจะไม่ใช่บ้านจริงๆ ก็เถอะ อยู่มาจนชินแล้ว” ลินดาตอบเขา “งั้นตกลงนะ” ลินดายังทำหน้าตาเหมือนครุ่นคิด “คุณเบลว่ายังไงบ้างเหรอคะ” “ก็เขาเป็นคนเสนอเอง แล้วจะว่าอะไรได้ล่ะ” ลินดาดีใจที่เรื่องมันออกมาเป็นแบบนี้ เธอชอบเบนมาก และชอบงานที่ทำมากด้วย เบนยังรอให้เธอยืนยันคำตอบ เขารอให้เธอไตร่ตรองทุกอย่างในใจให้เสร็จสิ้น “ก็ได้ค่ะ ฉันจะเป็นฟรีแลนซ์” เบนยิ้มแล้วพยักหน้า “แล้วอีกเรื่องล่ะ” “อีกเรื่อง...” ลินดาทำทีเป็นข้องใจ ทั้งที่ก็รู้เต็มอกว่าเขาหมายถึงอะไรกัน “ให้ผมลองคบกับคุณได้ไหม” เบนไม่ปล่อยมือเธอเลยตั้งแต่เขาเอื้อมมือมากุมมันเอาไว้ เขาเริ่มบีบมือเธอเบาๆ คล้ายว่า

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   80

    “ขอบใจมากนะหนู ฉันก็กลัวหนูจะตกใจที่ฉันทำเสียงดัง” คุณป้าชั้นสี่ยังไม่วายจะเกรงใจลินดา “ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณป้า” “ว่าแต่หนูชื่ออะไรล่ะ” คุณป้าพยายามชวนลินดาคุย “ชื่อลินดาค่ะ คุณป้าล่ะคะ” “ชื่อป้ากานต์” “คุณไม่เคยคุยกันเลยเหรอครับ” เบนถามออกมาด้วยความสงสัย เขาดูไม่รีบเร่งแม้แต่น้อยเลยเมื่ออยู่หลังพวงมาลัยรถ ทั้งที่ก่อนนี้เขาแทบจะตะเบ็งเสียงใส่ลินดาเมื่อเธอทำทีลังเลใจที่ต้องล้วงกระเป๋ากางเกงของเขาเพื่อเอากุญแจรถออกมาสตาร์ท “ก็แค่ทักทายกันตามประสาค่ะ เราอยู่กันเงียบๆ เลยที่อะพาร์ตเมนต์นี้” “แปลกดีแฮะ” เบนออกความเห็นตามความรู้สึก “ไม่แปลกหรอก ถ้าคนแบบเดียวกันบังเอิญมาอยู่ที่เดียวกันน่ะ” คุณป้ายังทำหน้าตาเหยเกเล็กน้อย เบนคอยสลับมองดูเธอจากกระจกมองหลัง “เจ็บมากไหมครับ อีกเดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้มันเลยช่วงเวลาเร่งรีบบนท้องถนนมาแล้ว รถก็เลยไม่ติด” “โชคดีที่คุณมาพอดี ฉันวิ่งลงมาหาคนช่วย เจ้าของอะพาร์ตเมนต์ก็ไม่อยู่อีก ไม่งั้นก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน ขอบคุณมากนะคะคุณเบน” ลินดาขอบคุณ

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   79

    “โฟล์ค” เขาหันไปมองตามเสียงเรียก “ครับพี่ เอ้ยคุณเบล” เบลส่ายหน้า เขาไม่ได้หน่ายใจเลยที่โฟล์คเผลอเรียกเขาว่าพี่ แต่มันเป็นเพราะโฟล์คไม่ยอมเรียกเขาว่าพี่เสียทีนี่ล่ะที่เบลชักจะรำคาญใจ “เมื่อวานเป็นไงบ้าง” “ผมน่ะเหรอ ก็ดีนี่ครับ ก็กลับบ้านไปอยู่กับน้องตามปกติ” “คุณก็รู้ว่าผมหมายถึงเรื่องอะไรนะ” โฟล์คยิ้มแห้งๆ เมื่อเบลถามจี้อย่างนั้น “พอผมพาคุณเบนไปบ้านลินดาแล้วผมก็กลับเลยครับ คงไม่ใช่ธุระกงการอะไรจะอยู่ต่อ” “ไปถึงบ้านเลยเหรอ” “ครับ ที่อะพาร์ตเมนต์เธอน่ะ” เบลนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวที่ว่างอยู่ข้างโฟล์ค “เราคุยกันแบบพี่น้องเลยได้ไหม ยังไงผมก็มองคุณแบบนั้นมานานแล้ว” “ได้ครับพี่” โฟล์ครอฟัง “ถ้านายเป็นฉัน นายจะทำยังไง” เบลเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้คุยกับโฟล์คทันที เขาสะดวกแบบนี้อยู่แล้ว “ถ้าผมเป็นพี่น่ะเหรอ ผมก็คงทำอย่างที่พี่ทำเมื่อวานนั่นล่ะ ไปไล่ลินดาออกได้ยังไง ตลก ผมไม่เคยเจอ” “ลินดาก็ยังไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังใช่ไหม” เบลถามต่อ “ยังเลยครับ” “นายอยากใ

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   78

    ลินดาจัดการความรู้สึกของตัวเองได้ดีเยี่ยม เธอเลิกคิดเรื่องเบนไปแล้ว แม้ว่าบางครั้งยังต้องใช้การเลี่ยง ใช้การหลบหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ความรู้สึกเดิมๆ เริ่มกลับมาอีก ประกอบกับช่วงตัดต่องานที่เธออาจจะต้องช่วยโฟล์คดูรายละเอียด เธอจึงไม่ค่อยว่างให้เขาเรียกไปคุยเพื่อล้อเล่นกับความรู้สึกอีก ยังไงแล้วเจ้านายสายตรงของเธอก็คือคุณเบล เธอแคร์แค่เขาก็คงจะพอ “พรุ่งนี้เงินเดือนออกแล้วนะ” โฟล์คเอ่ยขึ้น “อ้อ ใช่ จริงด้วย ฉันต้องเลี้ยงข้าวคุณแล้วสิ จะกินอะไร คิดไว้เลยนะ” “อยากกินร้านเดิมนั่นล่ะ” “ร้านอาหารเวียดนามเหรอ” “ใช่เลย” “ไม่มีปัญหา”สองสามสัปดาห์มานี้ ลินดาปรับตัวได้ดีมากๆ ทั้งที่เธอกลัวใจตัวเองแทบแย่ หลังจากได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น จากช่วงแรกที่เธอต้องเขินอายเวลาที่เจอคุณเบน มันก็เปลี่ยนเป็นความอับอายในความโง่เง่าของตัวเองแทน ลินดาเลือกที่จะแก้ไขสถานการณ์อย่างคนที่เป็นผู้ใหญ่ เธอบอกตัวเองบ่อยๆ ว่ามันเรื่องเล็กนิดเดียว แค่เข้าใจผิดกันไป คุณเบล คือเจ้านายที่มีสิทธิ์ชี้ขาดในตัวเธอ ดูเขาก็พอใจการทำงานของเธอออกจะตายไปลินดาช่วยโ

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   77

    ลินดาพยายามรวบรวมสติ พูดย้ำกับตัวเองในใจว่าเธอมาที่นี่เพื่อทำงานหาเงิน อยู่ที่นี่ดีออกจะตายไป ทั้งได้ทำงานที่ไม่น่าเบื่อ ไม่ต้องเข้ากะเข้าเวร ไม่ต้องเจอลูกค้าหยิ่งผยองมารยาทแย่ เพื่อนร่วมงานก็ดี ทั้งโฟล์คและทุกๆ คนแม้แต่แม่เจ้านาย แต่เธอเองต่างหาก ที่ปล่อยใจให้คิดอะไรที่ไม่ควรคิด คุณเบนก็คงเป็นของเขาอย่างนั้น เผลอๆ เขาอาจจะทำอย่างนี้กับทุกคนโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยมากไปกว่าความเป็นเจ้านายและลูกน้อง ดูสิ แฟนเขาสวยหุ่นดีอย่างกับนางแบบนางละคร เหมือนนางฟ้านางสวรรค์ที่ลอยลงมารับคุณเบนกลับจากสนามบิน ป่านนี้พวกเขาคงหยอกเย้ากันหวานชื่น เธอกล้าดียังไงไปคิดว่าคุณเบนจะมีใจด้วย เธอมันใคร ลินดา ลินดาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุค แล้วโปรแกรมเอ็มเอสเอ็นก็ลงชื่อเข้าใช้ให้เธอโดยอัตโนมัติตามที่ได้ตั้งค่าเอาไว้ มีหน้าต่างกระพริบขึ้นมา เธออมยิ้มน้อยๆ ออกมาแม้ในใจจะกำลังเหี่ยวแห้ง โฟล์คทักมาแล้ว เธอดีใจจริงๆ “กลับมาแล้วเหรอ” โฟล์คถาม “หมาดๆ เลย พอดีวางแผนผิดพลาดนิดหน่อย” “โดนดุรึเปล่า” โฟล์คถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่โดนตรงๆ แต่โดนอ้อมๆ หลายรอบอยู

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   76

    ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่อง ลินดานอนแทบไม่หลับ แม้จะอ่อนล้าสักแค่ไหนทั้งจากการทำงานและการต้องนอนในท่านั่ง แต่ใจของเธอก็ไม่สงบพอจะหลับลงได้เลย จนเมื่อเครื่องลงจอด ทุกคนรอกระเป๋าสัมภาระจนครบ เบนจึงได้พูดกับเธอเป็นประโยคแรก “เดี๋ยวกลับไปบ้านผมก่อนนะ แล้วคุณค่อยเรียกแท็กซี่กลับบ้านคุณ” “ผมไปส่งได้นะพี่” เบลเสนอจะขับรถไปส่งลินดาที่บ้าน เธอมองหน้าทุกคนรวมทั้งอาร์ทด้วยความไม่แน่ใจ “ฉันว่าก็ดี สงสารน้องมัน ดูหน้าดิ คงจะเหนื่อย หงอยเป็นแมวเซาเลย” อาร์ทพูด “แมวเซานั่นมันงูแล้วพี่” “อ้าวเหรอ” อาร์ทกับเบลหัวเราะ “เดี๋ยวผมไปส่งลินดาเอง พี่อาร์ทด้วย” “อุ๊ย ขอขอบพระคุณยิ่ง” อาร์ทตอบตกลงด้วยมุกตลกตามสไตล์ของเขา ทุกคนเดินไปยังอาคารจอดรถด้วยกัน แล้วโลกของลินดาก็เหมือนจะทลายลงมาทั้งใบ เมื่อมีผู้หญิงสาวสวยสูงโปร่งขายาวราวกับนางแบบเดินตรงเข้ามาหาเบน ทั้งสองคนทักทายกันอย่างสนิทสนม “งั้นฉันฝากส่งน้องด้วยนะ” เบนมองมาที่ลินดาเพียงเสี้ยววินาทีหนึ่งแล้วเขาก็เดินออกไปกับผู้หญิงคนนั้น ลินดาทำอะไรไม่ถูก เธอพูดอะไรไม่ออก ตลอดทริป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status