Share

4

Author: smith
last update Huling Na-update: 2025-11-04 14:20:56

          ลินดาและเจสซีเดินขึ้นบันไดมาด้วยกัน อพาร์ทเมนต์ที่ลินดาเช่าอยู่ตั้งแต่สมัยเรียนนั้นเป็นตึกสี่ชั้น มีชั้นล่างสุดเป็นร้านหนังสือตกแต่งภายในร้านด้วยไม้สังเคราะห์ มีดวงไฟแบบฝังเข้าไปในฝ้าสีวอร์มไวท์ พอเริ่มค่ำแสงไฟในร้านจะเริ่มโดดเด่นชัดเจนขึ้นเมื่อไม่มีแสงแดดมาแย่งความสว่างไป

          ทางเข้าอพาร์ทเมนต์เป็นทางเข้าคนละทางกันกับที่ใช้เข้าร้านหนังสือ เจ้าของทำทางเดินแคบๆ พอเดินสวนกันได้สำหรับผู้เช่าอาศัยให้เดินผ่านขึ้นตึกไปโดยไม่ต้องทะลุเข้าไปในตัวร้าน มีกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยคอยจับภาพทุกมุมไว้โดยไม่มีมุมอับสายตา เจสซีหัวเราะหึๆ เบาๆ ในลำคอขณะกำลังเดินขึ้นมา

          “ขำอะไรเหรอ” ลินดาถาม

          “ไม่เหงากันหรือไงนะ”

          “เหงายังไง”

          “อ้าว ก็ดูสิ อพาร์ทเมนต์ให้เช่า มีสี่ชั้น ชั้นล่างเป็นร้านหนังสือ ชั้นสองถึงชั้นสี่เป็นห้องพัก ชั้นละห้อง! มีผู้เช่าทั้งตึกเบ็ดเสร็จสามคน! ฉันจะบ้าตาย” ลินดาหัวเราะตามในลำคอ เมื่อถึงชั้นสามเธอจึงไขเปิดประตูห้อง

          “ไม่ต้องเคาะเหรอ”

          “ไม่ต้อง เมื่อเช้าเคาะไปแล้ว ไม่เห็นจะเฮงเลย” เจสซีมองดูสีหน้าที่ผิดหวังของเพื่อนแล้วบีบแขนเธอด้วยมือข้างที่หิ้วสลัดมาด้วยสองห่อ ทั้งคู่เดินเข้าไปในห้อง ถอดรองเท้าเก็บที่ชั้นวาง ล้างไม้ล้างมือแล้วจึงกางโต๊ะญี่ปุ่นนั่งกินสลัดด้วยกัน

          “ฉันขอตะเกียบ” ลินดาหยิบตะเกียบมาให้เจสซีตามคำขอ ส่วนของเธอหยิบช้อนส้อมมาใช้ตามปกติ

          “เล่าเลยไหม” เจสซีถามขณะคีบผักร็อคเก็ตส่งเข้าปากทันทีที่สำรับสลัดอะโวคาโดลงเสิร์ฟบนโต๊ะตัวน้อยทั้งสองชาม ลินดานั่งลงบนเบาะที่วางสะเปะสะปะอยู่ในห้อง หยิบเอาชามสลัดมาถือไว้แล้วใช้ส้อมจิ้มกิน เธอนั่งห่างจากเจสซีไปราวสองเมตร

          “ก็ไม่มีไรมาก แค่รู้สึกว่าฉันทำได้ไม่ดีเลยตอนสัมภาษณ์ คือมันเฟลตั้งแต่ตอนไปถึงแล้ว มันไม่ใช่ออฟฟิศน่ะ มันเป็นบ้านคนแล้วเอาข้าวของในสำนักงานเข้ามาวาง กั้นกระจก กั้นประตูอะไรหน่อยนึง”

          “อ๋อ แบบโฮมออฟฟิศน่ะสิ”

          “ประมาณนั้น แต่ในใจฉันก็ไม่ได้ปลื้มแต่แรกแล้วแค่เรื่องสถานที่ มันดูไม่เป็นทางการเลย ห้องข้างในมีคอมจอใหญ่ๆ เรียงกัน สองจอ ต่อสายซีพียูตัวเดียว เป็นแบบนี้สองชุด แล้วก็นอกห้องนั้นมีโต๊ะทำงานอีกสองตัว แต่แบบมันดูยังไงก็บ้านคน แต่ฉันก็ยังไม่ปิดใจซะทีเดียวนะ ใครจะไปรู้ อยู่ๆ ไปมันอาจจะดีก็ได้” ลินดาจิ้มอะโวคาโดส่วนที่ยังไม่ถูกคลุกจนเละเข้าปาก

          “ช่างสังเกตดีจริงเพื่อนฉัน แล้วไงต่อ เรื่องสัมภาษณ์ ที่ว่าทำได้ไม่ดีน่ะ ยังไง” เจสซีกินไปฟังไป แต่ลินดาก็รู้สึกได้ว่าเจสซีตั้งใจฟังเธอเล่าแม้จะไม่ได้กอดอกนั่งฟังเหมือนเด็กกำลังเรียนหนังสือ ทุกคำที่เธอพูดไป เจสซีจับประเด็นได้ทั้งหมด

          “เขาก็ถามว่าชอบทำงานเจอผู้คน หรือชอบทำงานคนเดียว ฉันบอกได้ทั้งคู่ แล้วเขาก็บอกว่าฉันคงเป็นแอมบิเวิร์ท ขอโทษเถอะ ฉันไม่เคยได้ยินคำนั้นมาก่อนก็เลยย้อนถามเขาว่าอะไรนะ แล้วเขาก็บอกว่าช่างมัน มันไม่สำคัญ ฉันฟังแล้วมันแปลกๆ น่ะ ถามไปถามมา พอสัมภาษณ์เสร็จ เขาบอกแล้วจะติดต่อมา คำนี้ไงเธอ คีย์เวิร์ดสำคัญ ฉันว่าไม่ต้องหวังแล้วล่ะ ก็คงต้องทำงานที่ไอ้โรงพยาบาลบ้านั่นต่อไป”  

          “พูดให้มันชัดหน่อยเธอ เดี๋ยวใครมาได้ยินก็นึกว่าเธอทำงานโรงพยาบาลบ้าจริงๆ หรอก แล้วพรุ่งนี้จะเอาไง กลับไปทำที่เก่าก่อนเหรอ”

          “ก็ต้องแบบนั้นแหละ วันนี้วันหยุดฉัน ก็เลยแว้บไปสัมภาษณ์ได้ ฉันยังไม่ได้บอกอะไรใครที่ทำงาน คงจะบอกได้หรอก มีหวังโดนเพ่งเล็ง ก็ว่าจะหาที่ใหม่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยไปลาออก”

          “ทำถูกต้องแล้วเพื่อน” เจสซีทำนิ้วเป็นเครื่องหมายถูกแล้วสับข้อมือมาทางลินดา ลินดาวางชามสลัดพร้อมช้อนส้อมลงบนโต๊ะที่เจสซีนั่งกินอยู่ แล้วลุกขึ้นไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ เปิดลิ้นชักชั้นบนซึ่งเป็นคนละลิ้นชักกับที่เธอเก็บไดอารีเอาไว้ หยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งแผ่น

          “อะไรเหรอ” เจสซีถาม

          “ตารางเวรเดือนนี้ จะดูว่าพรุ่งนี้ต้องเข้ากี่โมงน่ะ” ลินดาใช้นิ้วไล่ไปตามวันที่จนถึงวันที่ต้องการ

          “กี่โมง” เจสซีถาม

          “หกโมงเช้า” ลินดาตอบพร้อมทำหน้าตาเบื่อหน่ายสุดชีวิต

          “ต้องตื่นกี่โมงล่ะแบบนี้”

          “ตีสี่น่ะสิ กว่าจะไปถึงอีก หกโมงที่ว่านี่คือต้องพร้อมทำงานแล้ว ไม่ใช่แค่ตอกบัตรแล้วไปนั่งกินข้าวได้เหมือนที่อื่นนะ” ลินดาเก็บใบตารางเวรกลับเข้าลิ้นชักไป

          “แล้วเวรมันก็ไม่แน่ไม่นอน ถ้าเวลาเดียวกันทั้งเดือน แล้วค่อยเปลี่ยนอีกทีตอนเริ่มเดือนใหม่ก็ว่าไปอย่าง นี่สลับไปเรื่อยแทบจะรายวัน เครียดทั้งร่างกายทั้งความรู้สึกเลย” ลินดายังบ่นต่อ

          “ความรู้สึกด้วยเหรอ”

          “ใช่ บางทีคนไข้เขาสูงศักดิ์ใหญ่โตจากไหนมาก็ไม่รู้ แล้วพอป่วยมาก็ยิ่งไม่อยากจะใจดีกับใครล่ะมั้ง เขาก็มองเราเป็นแค่เจ้าหน้าที่ แค่พนักงาน ไม่ได้ต้องเกรงใจเหมือนอย่างหมอหรือพยาบาลหรอก จะพูดจาแย่ใส่เรายังไง หรือทำกิริยาไม่ให้เกียรติเรายังไงก็ได้”

          “ฉันว่าถ้าคนมันนิสัยไม่ดี จะหมอหรือพยาบาลก็โดนเหมือนกันแหละ อย่าน้อยใจตัวเองเลย” เจสซีพยายามปลอบเพื่อน

          “แต่แปลกนะ หลายคนที่สุภาพๆ และให้เกียรติฉันหรือเจ้าหน้าที่คนอื่นมากๆ น่ะ พอเอาชื่อหน้าแฟ้มมาดู โอ้โห เป็นเจ้า เป็นหม่อม เป็นคนนามสกุลดังๆ ทั้งนั้นเลย ผิดกับพวกไฮโซเก๊ ใครก็ไม่รู้ สงสัยเพิ่งรวยเมื่อวาน เลยทำตัวไม่ถูก” เจสซีหัวเราะเมื่อเห็นลินดายังมีแก่ใจจะตบมุกบ้าง

          “ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ กล้าลาออกไปตายเอาดาบหน้าเลยไหมล่ะ มันจะได้มีแรงหางานใหม่”

          “แล้วค่าเช่า ค่ากินล่ะยะ”

          “ก็ถึงบอกไง ว่ามันจะเป็นแรงขับเคลื่อนชั้นดี จะได้ขยันหางาน พอไปสัมภาษณ์แล้วไม่ชอบสถานที่ หรือพูดอะไรผิดนิดผิดหน่อยจะได้ไม่นอยด์ จะได้ลุยๆ เข้าไว้” ลินดาชะงักไปเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่าเจสซีกำลังตำหนิเธออยู่รึเปล่า

          “หมายความว่าไงเนี่ย”

          “หมายความตามนั้นล่ะ เขาบอกจะติดต่อมา ก็รอให้เขาติดต่อมา ถ้าเขาเงียบไปก็ไม่ต้องสนใจ สมัครที่ใหม่โลด ส่วนที่นี่ก็ทนๆ ทำไป ไม่ไหวก็ลาบ้าง”

          “ถ้าจะลาต้องหาคนมาขึ้นเวรแทนให้ได้ก่อน”

          “หา! มีงี้ด้วยเหรอ”

          “ก็ฉันถึงเบื่อไง เกิดป่วยกะทันหันหาใครมาแทนไม่ได้ก็ต้องลากสังขารมาทำงาน ฉันเคยนะไม่ใช่ไม่เคย วันนั้นปวดประจำเดือนสุดๆ เลยโทรลาหัวหน้า สรุปว่าวันนั้นหัวหน้าให้พี่อีกคนมาทำแทน ถึงวันเจอหน้ากันเท่านั้นล่ะ แม่นางด่าเปิง บอกว่านั่นมันวันหยุดเขา ต้องโดนหัวหน้าโทรตามมาทำงาน ทั้งที่ก็ได้ค่าตอบแทนเท่าครึ่งแน่ะ ถ้ามันตรงวันหยุด” เจสซีทำหน้างงๆ

          “เท่าครึ่งคืออะไรเหรอ” เป็นคำถามที่ลินดากะเอาไว้แล้วว่าเจสซีต้องถามแน่

          “ไม่เป็นไร ช่างมันก่อน ว่างๆ ค่อยอธิบายนะ”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   13

    ราวห้านาทีต่อมาลินดาจึงรู้สึกได้ว่าคุณเบนกำลังลุกขึ้น แม้แต่ชายเสื้อของเขาก็ยังอยู่ในความสนใจของเธอตอนนี้ หน้าตาของเบนก็ละม้ายคล้ายกับเบลอยู่มาก วันก่อนตอนสัมภาษณ์งานกับเบล เธอยังจับจ้องทุกอย่างของเบลได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเขาจะรู้ตัว ลินดายังจำได้ว่าเธอสังเกตเห็นนิ้วมือของเบลที่เรียวยาวสวย ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเบนด้วยความเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน แต่มันมีอะไรสักอย่างในตัวเบนที่ต่างออกไป ใจเธอจึงได้เต้นแรงอย่างนี้เมื่อได้อยู่ใกล้เขา แม้แต่เสียงลมหายใจของเขาก็ยังทำให้เธอว้าวุ่น ตอนนี้เบนลุกออกจากห้องไปแล้ว แล้วเมื่อห้านาทีก่อนหน้านี้ล่ะ เขายังนั่งทำอะไรต่อหลังจากคุยกับเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลินดาไม่กล้าหันกลับไปมองในระหว่างนั้นเพราะกลัวว่าจะต้องสบตากัน เธอกลัวว่าเจ้านายจะรู้ว่าใจเธอคิดอะไรอยู่ ห้านาทีก่อนหน้านี้ที่เธอกลับมาดูรายละเอียดในหนังสือเล่มเดิมนั้น มันยังไม่มีอะไรผ่านหัวสมองของเธอเลย นอกจากเสียงของคุณเบนเวลาที่เขาขยับตัวอยู่บนโซฟาแม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ลินดากลับมาตั้งสติและมีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้อีกครั้ง เธอนำเอารายละเอียดที่โน้ตไว้ในสมุดมาเริ่มเรียบเร

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   12

    ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ลินดาใช้ช้อนตักน้ำซุปที่เหลือในชามซดเข้าปากจดหมด โฟล์คยิ้มกว้างเมื่อเห็นลินดากินก๋วยเตี๋ยวร้านที่เขาแนะนำอย่างเอร็ดอร่อยจนไม่เหลืออะไรเลยนอกจากตะเกียบและช้อนในชาม “บอกแล้ว อร่อยเด็ด” โฟล์คพูดพลางดูดน้ำจากแก้วที่จวนจะเหลือแต่น้ำแข็งแล้ว “เด็ดจริง ฉันยอมเลย” ลินดาดูนาฬิกาที่ข้อมือ “กลับเลยไหม ไว้ว่างๆ หลังเลิกงาน คุณค่อยมาเซอร์เวย์ดูของกินอย่างอื่น นี่วันแรก อย่าให้เลยเวลาพักเที่ยงเลย” “ก็ไหนคุณบอกว่าไม่ซีเรียสเรื่องเวลาเพราะเป็นโฮมออฟฟิศไง” ลินดาท้วง “ผมหมายถึงผม แต่ถ้าคุณจะทำเหมือนที่ผมทำ ผมไม่รับรองนะว่าจะไม่โดนใครดุว่าอะไร” “โอเค งั้นกลับกันเลยดีกว่า โธ่ แล้วมาหลอกให้ดีใจ” ลินดาลุกขึ้นไปจ่ายเงิน “ก็บอกแล้วว่าตำแหน่งคุณมันต้องรับโทรศัพท์” โฟล์คบ่นพึมพำระหว่างที่เดินตามมาจ่ายเงินพร้อมกัน ลินดาหันมาเห็นสีหน้ารู้สึกผิดจากโฟล์คแล้วก็ต้องรีบอธิบาย “เฮ้ย ฉันไม่ได้ว่าอะไร แค่เข้าใจผิดไปเองน่ะ” “อื้อ” โฟล์คตอบเธอด้วยการส่งเสียงออกมาสั้นๆ ลินดาคิดอยู่ในใจว่าโฟล์คดูเป็นคนจ

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   11

    “หวัดดีครับ เป็นไงบ้าง น้องใหม่ โดนโฟล์คแกล้งรึเปล่า” เบนโผล่หน้าเข้ามาถามไถ่ทั้งคู่อย่างเป็นกันเอง โฟล์คทักทายคุณเบนกลับไปอย่างอ่อนน้อม ลินดาได้แต่พนมมือไหว้เขา “แคปฟุตที่มาเลย์อยู่ใช่ไหม” คุณเบนเดินเข้ามาในห้องโดยเปิดประตูคาไว้ เป็นสัญญาณบอกว่าเขาคงจะไม่อยู่ในห้องนี้นานนัก เขายืนดูฟุตเทจปัจจุบันจากเทปเบต้าม้วนที่กำลังเล่นอยู่โดยใช้สองฝ่ามือเท้าลงบนโต๊ะตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ ลินดามองดูเขาจากด้านหลัง “ครับคุณเบน อีกไม่กี่ม้วนก็หมดแล้ว” โฟล์คตอบ “อื้ม ดีละ” คุณเบนยืดตัวขึ้นยืนตรง แล้วหันหน้ามาทางลินดา “เบลบอกรายละเอียดงานให้บ้างแล้วใช่ไหมครับ เช่นว่าบริษัทเราทำอะไร แล้วหน้าที่คุณคืออะไร” เบนถามกับลินดา “เอ่อ... บอกแล้วค่ะ” ลินดาไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ เบนก็เล่นหันมาหาเธออย่างกะทันหันในระหว่างที่เธอกำลังมองดูไรจอนผมของเขา เนื้อเสียงคุณเบนนุ่ม หวาน และน่าฟังมาก ถึงแม้โทนเสียงจะฟังดูจริงจังอยู่ในทีแต่ลินดาฟังแล้วก็ไม่รู้สึกไม่ติดขัดตรงไหนเลย “ดีครับ แล้วนั่นอ่านอะไรอยู่” “หนังสือเกี่ยวกับประเภทจอร์แดนค่ะ คุณเบลให้ทำส

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   10

    ลินดานิ่งไปเล็กน้อยเมื่อเบลอธิบายถึงเนื้องานที่เธอต้องรับผิดชอบ ทำเอกสารอะไรน่ะไม่มีปัญหา แต่ต้องไปต่างประเทศเนี่ยสิ ไปประสานงานกองเชียวเหรอ มันฟังดูสลักสำคัญเกินไปไหมสำหรับเด็กใหม่อย่างเธอ “ได้ค่ะ” เธอตอบไปอย่างมั่นใจแม้ข้างในจะเป็นตรงกันข้าม “ไม่ทราบมีพาสปอร์ตรึยังครับ” เบลถามต่อ “ยังเลยค่ะ” “งั้นวันสองวันนี้ไปทำไว้เลยนะ” ลินดาพยักหน้า เธอเริ่มหวั่นๆ อยู่ในใจ แม้จะเชื่อมั่นว่าตัวเธอมีศักยภาพเพียงพอ แต่ดูอะไรๆ มันดำเนินไปไวเหลือเกินสำหรับวันแรกในที่ทำงาน นี่ก็ต้องไปทำพาสปอร์ตรอไว้แล้ว “ได้ค่ะ ไปในเวลางานเลยเหรอคะ” ลินดาถามเบล “ใช่ครับ ไปได้ ไม่มีปัญหา ผมเป็นคนอนุญาต” “ค่ะ” “วันนั้นตอนเห็นหน้าผม คุณดูชะงักไป มีอะไรรึเปล่า” เบลถามเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เปล่าหรอกค่ะ พอดีวันนั้นโฟล์คบอกว่าคุณเบลจะเป็นคนสัมภาษณ์ เห็นว่าชื่อเบลฉันก็นึกว่าคุณจะเป็นผู้หญิง พอเจอตัวจริงก็เลยแปลกใจนิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ ค่ะ” ลินดากางนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ให้อยู่ห่างกันให้น้อยที่สุดเพื่อประกอบการอธิบาย “ชื่

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   9

    “จริงๆ ชั้นสองนี้เราไม่ค่อยได้ขึ้นมาใช้งานเท่าไรหรอก แต่ผมพามาดูจะได้รู้เผื่อเจ้านายให้ขึ้นมาหยิบอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้ บางทีเขาลืมเอกสารไว้บนโต๊ะแล้วเผอิญติดสายอยู่อะไรทำนองนั้น” โฟล์คอธิบายระหว่างที่ทั้งคู่เดินขึ้นบันไดมาชั้นสองด้วยกัน “แล้วปกติคุณเบนกับคุณเบลเขาไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอ” ลินดาถามเมื่อเห็นว่าคราวก่อนคุณเบลมาถึงทีหลังเธอและยังต้องเอารถไปจอด ส่วนคุณเบน โฟล์คก็บอกว่าวันนี้เขายังไม่มา “ครับ พอเริ่มโต เริ่มทำงาน เขาก็ออกไปอยู่คอนโดกัน สไตล์คนหนุ่มน่ะ ต้นตระกูลคุณพ่อของเจ้านายเราเป็นมหาดเล็กเก่าในวังตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่รู้ คงมีเงินทุนเตรียมไว้ให้ลูกๆ ทำธุรกิจตอนเรียนจบ อันนี้คุณยายเคยเล่าให้ฟังตอนทานข้าวด้วยกัน แต่ผมก็จำรายละเอียดไม่ค่อยได้” ลินดาฟังเขาเล่าเรื่องราวของบ้านเจ้านายเหมือนกำลังฟังเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ โฟล์คอมยิ้มเมื่อเห็นเธอยืนฟังตาแป๋ว เขาพาเธอเดินไปดูห้องทำงานของคุณเบนซึ่งอยู่ด้านในสุด ถัดมาจึงเป็นห้องของคุณเบล “มันเคยเป็นห้องนอนเขานั่นล่ะครับ พอย้ายไปอยู่คอนโด ก็ใช้ห้องนอนเป็นห้องทำงานแทน” โฟล์คเปิดประตูให้เธอได้เห็นข้าง

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   8

    ฟ้ายังคงมืดสนิทแม้ใกล้จะหกโมงเช้าแล้ว ตามธรรมดาของฤดูหนาวที่ช่วงเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าเวลากลางวัน พระอาทิตย์วันนี้คงจะโผล่พ้นขอบฟ้าในอีกไม่ช้า ผิดกับลินดาที่ตื่นขึ้นพร้อมรับวันใหม่ตั้งแต่ตีห้าเศษๆ เพื่อจะเริ่มงานวันแรกในที่ทำงานใหม่ซึ่งเธอดีใจเหลือเกิน ลินดาเปิดตู้เย็นเพื่อจะหาอะไรเบาๆ กินรองท้องก่อนออกจากบ้าน ถุงบะหมี่ที่ซื้อมาเมื่อวานซืนยังอยู่ดีไม่มีทีท่าว่าจะเน่าบูด แต่ลินดาก็เลือกที่จะทิ้งมันไป แล้วหยิบถ้วยโยเกิร์ตมาเปิดกินแทน เมื่อฟ้าข้างนอกเริ่มสว่างได้ที่ ลินดาจึงปิดไฟในห้องเมื่อเห็นว่าแสงเทียมๆ จากหลอดไฟนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป เธอเดินไปที่ริมหน้าต่างพร้อมถ้วยโยเกิร์ตในมือแล้วนั่งลงที่ขอบหน้าต่าง มองลงมาที่ถนนในซอยห้องพักแล้วกินโยเกิร์ตต่อจนหมดถ้วยอย่างสบายใจ ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้ชอบที่นี่นัก มันเงียบสงบแบบไม่รู้จักเหงา ผู้คนบางตาแต่ก็มากพอให้รู้สึกถึงความเป็นชุมชน เธออยู่ที่นี่มาตั้งแต่สมัยเรียน รู้จักคุณเชอร์รีเจ้าของที่พักมาได้ก็หลายปีตั้งแต่เริ่มเข้ามาอยู่ แต่ก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอมากไปกว่าชื่อและหน้าตาของเธอ ส่วนคุณเชอร์รีก็ไม่เคยถามอะไรซอกแซกเกี่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status