Share

บทที่ 6 "ขอจีบ"

Author: Duck.bell
last update Last Updated: 2025-11-28 15:23:16

"ส่งแค่ตรงนี้ก็พอค่ะ ที่เหลือฉันเดินไปเอง" หลังจากที่ไทเกอร์เดินมาส่งน้ำตาลได้ครึ่งทางแล้ว น้ำตาลก็บอกไทเกอร์พร้อมเม้มปากฉีกยิ้มบางๆ กลับไป แต่คนที่ยังไม่ค่อยพอใจกับการเดินมาส่งได้แค่ครึ่งทางอย่างไทเกอร์กลับยืนเงียบไม่ตอบ เอาแต่จ้องใบหน้าสวยของน้ำตาลก่อนจะสลับมองไกลไปยังภาพตรงหน้าที่เป็นหน้าตึกคณะแพทย์ของคนที่เขาเดินมาส่งในภายหลัง

"ทำไมคุณถึงไม่ให้ผมเดินไปส่งให้ถึงหน้าคณะ" ทันทีที่ถามจบไทเกอร์ก็เรียกสายตากลับมาจ้องใบหน้าของน้ำตาลอีกครั้ง ทำเอาน้ำตาลที่ถูกมองแบบนั้นถึงกับทำหน้าไม่ถูกได้แต่ยืนเลิ่กลั่กไปมาเพราะการที่ถูกเพ่งมองพร้อมถามแบบนั้นมันทำให้เธอคิดคำตอบไม่ทันแถมเธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปแบบไหนด้วย 

"คือว่า..."

"คุณกลัวพี่ชายคุณเห็น?"

"คุณรู้ได้ไง"

"ก็คุณเคยบอกผมเองว่าพี่ชายหวงคุณมาก" จริงด้วยเธอลืมไปแล้วว่าเคยบอกกับเขาแบบนั้น

"ค่ะ ฉันกลัวเขาเห็นว่าคุณเดินมาส่งฉัน แล้วทำให้คุณลำบาก" น้ำตาลบอกไปตามที่เธอได้คิด เพราะที่ไม่อยากให้มาส่งก็เพราะว่ากลัวจะทำให้ไทเกอร์ลำบากถ้าเผลอเจอพี่ชายแถวนี้ เนื่องจากถัดไปอีกนิดเดียวก็เป็นตึกคณะของพี่สะใภ้อย่างลูกพีชด้วย เช้าๆ เกรงว่าจะเจอพี่ชายของเธอป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้

"ผมลำบากยังไง" แต่ด้านไทเกอร์กลับขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ เมื่อคนตัวเล็กกว่าตรงหน้าบอกว่าจะทำให้เขาลำบาก 

"ก็...ฉันกลัวว่าคุณจะโดนพี่ชายฉันเล่นงานอะ"

"หึ คุณดูเหมือนผมอ่อนแอและขี้ขลาดขนาดนั้นเลย?" พอได้รับคำตอบที่ทำให้หายสงสัย มุมปากบนใบหน้าหล่อเหลาก็ถึงกับยกโค้งขึ้นพร้อมกับเสียงทุ้มในลำคอดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะตามด้วยประโยคที่ทำให้น้ำตาลต้องรีบปฏิเสธ

"ไม่ใช่นะคะ คือ..."

"โอเค คุณไม่ต้องอธิบายแล้ว คุณฟังผมอย่างเดียวนะ ผมไม่กลัวพี่ชายคุณเพราะผมกำลังจีบคุณอยู่ เพราะฉะนั้นผมไม่สนถ้าพี่คุณจะเปิดกับผม" 

ตุบตุบ! ตุบตุบ! ตุบตุบ! 

แต่หลังจากที่ได้ยินคำว่าจีบออกมาจากปากของคนตัวสูงตรงหน้าที่กำลังทำหน้าจริงจังอยู่ตอนนี้ หัวใจดวงน้อยๆ ห้องบนซ้ายก็พากันเต้นรัวแรงอย่างบ้าคลั่งทันที รวมไปถึงอาการตรงส่วนอื่นอย่างแก้มทั้งสองข้างของเธอที่เห่อร้อนขึ้นมาและตรงบริเวณท้องน้อยที่รู้สึกวูบวาบขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ให้ตายเถอะ นี่เธอกำลังโดนจีบจริงๆ เหรอเนี่ย

"คุณอนุญาตให้ผมจีบคุณไหม" เมื่อตัดสินใจพูดออกไปว่าตัวเองกำลังจีบอีกฝ่ายอยู่ ไทเกอร์ก็ไม่รอช้าทวงถามน้ำตาลทันทีว่าอนุญาตให้ตัวเองจีบหรือไม่ แต่ตัดภาพไปที่น้ำตาลที่ยืนอึ้งพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงตอนนี้นั้น ก็ทำไทเกอร์แอบยิ้มบางๆ ออกมา เนื่องจากอีกฝ่ายกำลังเขินหน้าแดงตัวแดงจนน่าเอ็นดูมากไงล่ะ

ขณะที่น้ำตาลที่ยังคงสบตาไทเกอร์ไม่วางตาได้แต่บ่นในใจคนเดียวว่า 

'ให้ตายเถอะแล้วนี่เธอต้องอนุญาตก่อนใช่ไหม แล้วถ้าอนุญาตต้องตอบว่ายังไงล่ะ โอ้ย อยากจะบ้าตาย เขินจนอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินอยู่แล้วเนี่ย แต่เอาเถอะ ตอบเสร็จวิ่งเลยละกัน'

"อืม ฉันอนุญาตค่ะ"

 กรี๊ดดดดด เธอขอวิ่งก่อนละกัน ไม่ไหวแล้วอยู่ต่อตรงนี้ไม่ได้จริงๆ เพราะมันทำให้ร่างกายเธอแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะอาการเขินอยู่แล้ว

.

.

.

หลังจากที่น้ำตาลตอบเสร็จก็วิ่งหนีไทเกอร์เข้าคณะไปทันที คนที่ได้เห็นอาการนั้นที่แสดงออกมาอย่างน่ารักจากน้ำตาลอย่างไทเกอร์ก็ได้แต่ยืนยิ้มเอ็นดูอยู่ที่เดิมก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับไปที่คณะของตัวเองในภายหลัง ส่วนคนที่เขินจนแก้มแดงเป็นไร่มะเขือเทศอย่างน้ำตาลก็เอาแต่นั่งหายใจหอบแต่สีหน้ายิ้มไม่หุบอยู่ที่โต๊ะใต้คณะคนเดียว

ซึ่งเธอนั่งยิ้มอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวว่าหนึ่งในเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างเพอร์ลี่กำลังเดินเข้ามาหา จนกระทั่งที่...

ปัง!

เฮือก!

"ฮันแหน่ แกยิ้มเขินอะไรอะ ฉันเห็นนะ" เพอร์ลี่ที่เพิ่งมาถึงได้ตบโต๊ะเสียงดังจนสะดุ้งตัวโยนก่อนจะเอ่ยแซวน้ำตาลอย่างจับผิด เพราะเมื่อกี้เธอทันเห็นตอนที่เพื่อนวิ่งเร็วๆ มาจากลานจอดรถคณะวิศวะแล้วมานั่งอมยิ้มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขวยเขินอยู่ตรงนี้อย่างที่เห็นตอนนี้

"ยัยเพอร์แกจะตบโต๊ะทำไมเนี่ย ตกใจหมด" น้ำตาลที่ตกใจเสียงตบโต๊ะของเพอร์ลี่เพราะดังจนทำให้หัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ จึงตวัดสายตาดุใส่เพื่อนตาเขียว ก่อนจะนั่งเงียบทำเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นกลบอาการก่อนหน้านี้ที่เพื่อนแซวไปด้วย

"แหนะ ตกใจจริงอ่อ นึกว่ามัวแต่นั่งเขิน"

"เขินอะไร" ปากถามแต่มือทำเป็นเล่นโทรศัพท์ไปขณะที่สายตาก็ล่อกแล่กไปมาพยายามเก็บอาการและความลับที่เพื่อนสงสัยสุดๆ เนื่องจากเธอยังไม่พร้อมที่จะโดนเพื่อนแซวในตอนนี้ถ้าบอกความจริงออกไป

"แล้วแกเขินอะไรล่ะ"

"ไม่มี๊ ไม่ได้เขินสักหน่อย" น้ำตาลตอบปฏิเสธเสียงสูง พร้อมแอบเหลือบมองเพื่อนไปด้วยก่อนที่จะเรียกสายตากลับมาจ้องหน้าจอโทรศัพท์ต่อ

"ไม่ได้เขินแต่แกนั่งอมยิ้มแก้มแดงเนี่ยนะ หรือว่า...มีคนมาจีบเหรอ หนุ่มคณะไหนอะ วิศวะหรือเปล่า"

"แค่กๆ"

แต่พอโดนเพื่อนจี้ถามและสาวไปถึงคำว่ามีคนมาจีบและเป็นหนุ่มวิศวะที่ตรงตามเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อกี้ด้วยแล้วละก็ น้ำตาลถึงกับสำลักน้ำลายตัวเองไอหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว เพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะพูดได้ตรงขนาดนี้อย่างกับตาเห็น

"แหนะ สำลักด้วย แสดงว่ามีหนุ่มวิศวะมาจีบจริง"

"อะฮึ่ม! ไม่มี ไม่มีจริงๆ นะ" น้ำตาลเอามือที่ป้องปากก่อนหน้านี้ออกแล้วกระแอมไอรีบปฏิเสธสิ่งที่เพื่อนกล่าวออกมาอย่างร้อนรน ก่อนจะนั่งมองหน้าเพื่อนที่กำลังจ้องตาเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสาสุดๆ

"แต่ฉันเชื่อว่ามี เพราะสายตาแกมันปิดฉันไม่ได้ค่ะเพื่อนรัก" เพอร์ลี่ว่าจบก็ยิ้มกริ้มอย่างผู้ชนะ เมื่อลองเพ่งมองลงไปในดวงตาใสๆ ของเพื่อนแล้วพบว่าเพื่อนซ่อนความจริงเต็มไปหมด

หึ เอาละซี้ ยัยน้ำตาลเพื่อนสุดสวยสุดโก๊ะของเธอไปมัดใจใครให้มาจีบได้ละนี่

"เฮียรบรู้ยังว่ามีคนมาจีบแก" เมื่อปิดยังไงก็ปิดไม่มิดและถูกเพื่อนจับได้ไปแล้ว น้ำตาลก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธไปอีกทำไม สุดท้ายก็เลยยอมรับด้วยการส่ายหน้ารัวๆ ต่อคำถามของเพื่อนที่เอ่ยถามตัวเองเมื่อกี้ ซึ่งทำให้เพอร์ลี่ที่พอจะรู้จักนิสัยการหวงน้องสาวของนักรบผู้ซึ่งเป็นพี่ชายของเพื่อนในระดับหนึ่ง เอ่ยออกไปสีหน้ากังวลเล็กน้อย

"แกหาเรื่องใส่ตัวแล้วตาล ถ้าเฮียแกรู้นะได้องค์ลงไปกระทืบผู้ชายคนนั้นแน่ๆ อะ" เพราะความหวงน้องสาวของนักรบนั้นไม่มีใครเกินคนอย่างเขาแล้ว ไม่งั้นเพื่อนของเธอคงไม่โสดมาจนถึงป่านนี้

"เพราะฉะนั้นแล้ว แกก็อย่าให้ยัยแพรวารู้โอเคไหม เพราะฉันกลัวแพรวาจะหลุดปากพูดกับเฮียไคแล้วเฮียไคเอาไปฟ้องเฮียรบต่อ" น้ำตาลบอกพร้อมทำตาแป๋ววิ้งค์ๆ อย่างน่าเอ็นดูใส่เพื่อนกลับ ให้เพื่อนช่วยเก็บเป็นความลับไปก่อน

"เฮ้อ~ มีพี่ชายหวงน้องเกินไปก็ลำบากเหมือนกันเนอะ จะมีผัวก็ไม่ได้" เพอร์ลี่ถอนหายใจพร้อมกับพูดประชดประชันออกไปแบบไม่จริงจังนัก ก่อนที่จะรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มกริ้มเมื่อนึกถึงคำถามที่อยากถามเพื่อน

"ว่าแต่พ่อหนุ่มคนนั้นหล่อไหมอะ"

"หึ หล่อมากกก หล่อกว่าพี่ชายฉันอีก" เมื่อถูกเพื่อนถามถึงความหล่อของไทเกอร์ น้ำตาลก็ไม่รอช้าเค้นเสียงในลำคอเบาๆ แล้วตอบเสียงลากยาวออกไปพร้อมสีหน้าที่บ่งบอกว่าไทเกอร์หล่อมากแค่ไหน ทำเอาเพอร์ลี่ที่เห็นถึงกับตาลุกวาวอยากเห็นหน้าไทเกอร์ตัวจริงเลยทีเดียว

"เขาชื่อไรอะ"

"เขาบอกฉันว่าชื่อไทเกอร์"

"ไทเกอร์? อือหืมถ้าใช่คนเดียวกันกับที่ฉันคิดไว้นะ แกได้ตัวซีเครตอีกของคณะวิศวะเลยยัยตาล เพราะคนนี้เขาหล่อแพรวพราวมาก แถมรวยมากด้วยแล้วก็ไม่เคยมีข่าวว่าคบใครมาก่อนด้วย สิบสิบสิบไปเลย"

"จริงดิเพอร์"

"จริงค่ะมึง"

ทันทีที่ได้ยินที่เพื่อนเล่าแล้ว น้ำตาลก็ได้แต่นั่งอมยิ้มเขินเบาๆ เพราะถ้าเป็นอย่างที่เพื่อนว่าก็มีบางข้อที่ตรงกับบุคลิกของอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน อีกอย่างที่ว่าได้ตัวซีเครตจู่ๆ คำนี้ก็ทำให้เธอเขินหน้าร้อนผะผ่าวขึ้นมาดื้อๆ เพราะเหมือนเป็นตัวการันตีว่าอีกฝ่ายไร้มลทินแปดเปื้อน หายห่วงเรื่องเจ้าชู้ได้แน่นอน ซึ่งเธอขอมาโดยตลอดว่าถ้ามีแฟนคนแรกเมื่อไหร่ขออย่างเดียว ขออย่าเจอคนเจ้าชู้ก่อนก็พอ ไม่งั้นพี่ชายของเธอได้ตามติดเป็นเงาแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Love Trick กลรักนายวิศวะตัวร้าย   บทที่ 17 "เมียตัวแสบ"

    สองชั่วโมงผ่านไป...Tiger part...หลังจากที่ผมนอนพักเอาแรงจากการเสียแรงไปกับเรื่องก่อนหน้านี้ ผมก็ลุกออกจากเตียงของน้ำตาลยืนบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยออกจากร่างกาย ก่อนที่จะหันไปดูเจ้าของเตียงที่กำลังนอนตะแคงไปอีกฝั่งหลับไม่รู้เรื่องราวด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มบางๆผมไม่รู้ว่าหลังจากตื่นมาแล้วน้ำตาลจะเป็นยังไง เธอจะโกรธผมไหมที่ทำให้เนินอกของเธอเป็นรอยหลายจุด เธอจะโกรธผมไหมที่บางจังหวะผมก็เผลอรุนแรงกับเธอทั้งๆ ที่บอกไปว่าจะทะนุถนอมเธอและสาเหตุที่ผมเผลอรุนแรงผมก็ขอสารภาพว่า เธอน่ากินมากและร่างกายของเธอก็ยั่วยวนผมไปทุกส่วน ไม่พอแค่นั้นไหนจะกลิ่นกายที่หอมรัญจวนใจผมซะเหลือเกิน ผิวขาวหิมะที่นุ่มมืออย่างกับผิวเด็กแรกเกิด ใบหน้าสะสวยที่ผมมองกี่ครั้งก็แทบจะตบะแตกอยากกระแทกแรงๆ ทุกครั้งคือน้ำตาลเธอไม่รู้ตัวไงว่าบางมุมของตัวเองมันเซ็กซี่ขยี้ใจผมแค่ไหน ผมที่ไม่อยากผิดคำพูดก็เลยได้แต่อดใจไว้ไม่อยากปล่อยธาตุแท้ออกไปมากจนเกินไป คือผมไม่ได้เลวนะ แต่เข้าใจไหมว่าเวลาที่ผู้ชายอยู่บนเตียง มันจะมีมุมหนึ่งที่เป็นด้านมืดของตัวเองแล้วอีกเรื่องที่ผมอดยิ้มไม่ได้คือตอนที่ผมผ่านเยื่อบางๆ แล้วมีของเหลวสีแดงสดไหลออกมา

  • Love Trick กลรักนายวิศวะตัวร้าย   บทที่ 16 "บทลงโทษของเด็กดื้อ"

    "เธอรู้ไหมว่าเมื่อวานเธอทำให้พี่โกรธมากแค่ไหนที่เห็นเธอลงรูปแบบนั้น"หลังจากที่พี่ไทเกอร์ถอนริมฝีปากออกแล้วสบตากับฉัน เขาก็พูดถึงเรื่องเมื่อวานทันที ซึ่งทันทีที่ฉันได้ยินเรื่องเมื่อวานดังออกมาจากริมฝีปากที่เพิ่งบดจูบริมฝีปากของฉันไปเมื่อกี้นี้และยังไม่หายรู้สึกเห่อร้อน จู่ๆ หัวใจของฉันก็เต้นแรงขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ขณะที่สมองก็นึกถึงเรื่องที่ได้คุยกับแพรวาเมื่อวานไปด้วย...เตรียมขาสั่น...ใช่ ตอนนี้สมองของฉันมันนึกถึงแต่ประโยคนี้ประโยคเดียวจริงๆ นี่ฉันกำลังจะโดนทำโทษแล้วใช่ไหม ก่อนหน้านี้ที่เขาจูบฉัน ฉันยังรู้สึกว่าเขาโหยหาฉันอยู่เลย แบบว่าเขาทั้งกอดทั้งจูบฉันแบบดูดดื่มขนาดนั้น แต่ตอนนี้เขากำลังจะลงโทษฉันแล้วใช่ไหม?"ตาลขอโทษที่ทำให้พี่โกรธ""หึ" ทันทีที่ฉันพูดว่าขอโทษด้วยสีหน้ารู้สึกผิดออกไป คนที่กำลังคร่อมร่างกายของฉันก็ขำออกมา ก่อนที่จะกัดริมฝีปากล่างของตัวเองแล้วเสมองทางอื่นแทน เขาแสดงออกแบบนี้หมายความว่ายังไง?เขาโกรธฉันมากถึงขั้นไม่อยากมองหน้าเลยเหรอหมับ!"พี่กำลังโกรธ?" ฉันจับใบหน้าหล่อเหลาของพี่ไทเกอร์ให้หันมาสบตากับฉัน จ้องตาของเขาแววตาเศร้า คือฉันก็ไม่คิดว่าการลงรูปแค่นั้นมัน

  • Love Trick กลรักนายวิศวะตัวร้าย   บทที่ 15 "คิดถึง"

    Namtan part…“เป็นอะไรของแกว่ะตาล ทำหน้างงเหมือนโดนใครตัดสายไปดื้อๆ อะ”หลังจากที่พี่ไทเกอร์โทรหาฉันเรื่องรูปอะไรสักอย่างกับฉัน แล้วตัดสายไปดื้อๆ โดยที่ก่อนจะตัดสายเขาได้คาดโทษบางอย่างเสียงติดเข้มมากด้วยเหมือนกำลังข่มอารมณ์โกรธอะ ยัยแพรวาที่เดินไปหยิบน้ำโค้กในถังน้ำแข็งก็เดินกลับมาพร้อมกับเอ่ยถามฉันสีหน้าสงสัยคือตอนนี้พวกเรากำลังปาร์ตี้กันที่สระว่ายน้ำ ฉันที่ไม่มีคู่กับใครเขาก็เลยแอบมานั่งดื่มน้ำผลไม้ชิวๆ อยู่คนเดียวตรงมุมสระ ส่วนแพรวาที่ยังงอนเฮียไคไม่เลิกก็เลยมานั่งอยู่กับฉันด้วยแต่เรื่องที่พี่ไทเกอร์โทรมาเมื่อกี้นี้สิ มันหมายความว่าไงอะ?"คือว่าเมื่อกี้พี่ไทเกอร์เขาโทรหาฉัน แล้วถามว่าฉันลงรูปอะไรไว้ในไอจี ฉันก็งงๆ อยู่ก็เลยถามเขาว่ารูปอะไร แต่เขากลับตอบมาว่ากลับไปพรุ่งนี้เตรียมโดนบทลงโทษได้เลย แบบนี้อะ มันหมายความว่าไงวะแพร"ฉันเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ให้แพรวาฟังโดยที่บนสีหน้าของฉันตอนนี้มันก็มีแต่ความงงงวยและสงสัยเต็มไปหมด จนยัยแพรวาที่เห็นสีหน้าของฉันต้องวางกระป๋องน้ำโค้กในมือลงแล้วแบมือขอโทรศัพท์กับฉันแทน"ฉันขอดูโทรศัพท์แกหน่อย""โทรศัพท์เหรอ?" ฉันเลิกคิ้วถาม"อื้ม

  • Love Trick กลรักนายวิศวะตัวร้าย   บทที่ 14 "รูปเที่ยวทะเลเป็นเหตุ"

    "ไปเที่ยวพรุ่งนี้ ห้ามยิ้มให้ใครนะ" หลังจากที่พี่ไทเกอร์ถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากของฉันแล้ว จู่ๆ เขาก็พูดสั่งห้ามไม่ให้ฉันยิ้มให้ใคร ตอนแรกฉันก็เลิกคิ้วขึ้นไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อยว่าทำไมต้องสั่งไม่ให้ฉันยิ้มให้ใครด้วย แต่พอสายตาของฉันปะทะเข้ากับสีหน้าบึ้งตึงเบาๆ ปนความงอแงของเขาที่แสดงออกให้ฉันเห็นตอนนี้เท่านั้นแหละ ฉันก็ถึงกับกลั้นยิ้มขำทันทีและลืมประโยคก่อนหน้านี้ที่เขาพูดแล้วด้วยหึ ให้ตายเถอะตัวโตเท่าตู้เย็นแต่กลับทำหน้างอแงเป็นเด็กสองขวบไปได้ "ขำอะไร" พี่ไทเกอร์คงจะเห็นว่าฉันกำลังกลั้นขำเขา ก็เลยขมวดคิ้วเข้มถามฉัน"หึ ขำพี่ไง ทำไมต้องทำหน้างอแงแบบนั้นด้วย""เหอะ ขำเหรอ ดีดหน้าผากสักทีดีไหม" เสียงทุ้มเค้นเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนจะใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มทำหน้าเข้มใส่ฉันที่แอบขำเขาเมื่อกี้ แถมยังทำท่าจะดีดหน้าผากของฉันด้วยก่อนจะยืนเท้าเอวข้างหนึ่งยันโต๊ะข้างหนึ่งแล้วทำหน้าบึ้งตึงเสมองทางอื่นต่อ ฉันที่เห็นเขาทำหน้าแบบนั้น ก็เลยใช้มือตัวเองจับบริเวณมุมปากทั้งสองข้างของเขาหันหน้ามาหาตัวเอง จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงมุมปากของพี่ไทเกอร์ออกเป็นรอยยิ้มแทน ก่อนที่จะเอียงคอยิ้มตามด้วยอีกคน"เห็นไหมเวลาพี่

  • Love Trick กลรักนายวิศวะตัวร้าย   บทที่ 13 "ออดอ้อน"

    หลายนาทีผ่านไป...หลังจากที่ฉันยืนรอพี่ไทเกอร์พูดคุยกับสตาฟที่ดูแลเรื่องรถที่เขาได้ดูก่อนหน้านี้เสร็จ เราสองคนก็เดินทางกลับคอนโดกันต่อ แต่ระหว่างทางกลับคอนโด เขาก็ถามฉันว่าต้องการแวะที่ไหนไหม ฉันเห็นร้านข้าวต้มข้างทางแล้วจู่ๆ ท้องก็ร้องขึ้นมา ก็เลยบอกให้พี่ไทเกอร์แวะกินข้าวต้มก่อนกลับตอนนี้เราสองคนก็เลยนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกที่ทางร้านกางโต๊ะไว้บนฟุตบาท โดยบนโต๊ะมีข้าวต้มร้อนๆ หอมฉุยสองถ้วยวางตรงหน้าเราสองคน ถามว่าที่ผ่านมาฉันเคยนั่งกินอะไรแบบนี้กับใครไหม ตอบเลยว่าไม่เคยเลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกของฉันที่ได้กินข้าวต้มอร่อยๆ ข้างทาง และเป็นครั้งแรกที่ได้กินกับคนที่เพิ่งตกลงกันว่าเราจะเป็นแฟนกัน "อร่อยไหม" ฉันถามพี่ไทเกอร์ที่นั่งกินข้าวต้มอยู่ตรงหน้าฉัน เขาดูเป็นคนที่ไม่ซับซ้อนอย่างที่เขาบอกว่าไม่ชอบอะไรที่มันซับซ้อน เพราะเขาเป็นคนที่ง่ายๆ มาก ฉันบอกอะไรไปเขาก็พร้อมซัพพอร์ตทันที ไม่มีถามไม่มีสงสัยว่าร้านมันจะโอเคไหม สะอาดไหม ถ้าฉันกินเขาก็ไม่เกี่ยง ตรงไหนก็ได้ขอแค่ฉันอยากกินก็พอ เราก็เลยได้นั่งกินข้าวต้มร้านนี้ไง"เกินคำว่าอร่อยเลย""ดีใจจังที่พี่ไม่รังเกียจร้านแบบนี้""จะรังเกียจท

  • Love Trick กลรักนายวิศวะตัวร้าย   บทที่ 12 "สถานะที่ชัดเจน"

    ไม่ทันและไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันได้พูดหรือได้ทักท้วงอะไรประโยคก่อนหน้านี้ที่เขาพูดออกมา ก็เล่นดึงฉันให้เดินตามลงไปที่ลานจอดรถกับเขาซะแล้ว สิ่งที่ทันในตอนนี้ก็มีอยู่อย่างเดียวคือฉันใจเต้นแรงกับประโยคแบบนั้นของเขาอีกแล้ว และมันก็ทวีความเต้นแรงขึ้นกว่าตอนที่อยู่ในร้านไอติมอีกด้วย รอบนี้มันรุนแรงกับหัวใจของฉันมากเพราะเขาพูดว่า 'เลี้ยงแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งควรทำกับแฟนตัวเองไง'ใช่ มันมีคำว่าแฟนโผล่ออกมาอีกแล้ว ก่อนหน้านี้เขาพูดคำว่าแฟนบ่อยมาก บ่อยจนฉันเริ่มสับสนแล้วว่าตกลงตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วเหรอ?"นั่งคิดอะไรอยู่หรือเปล่า นั่งเงียบเชียว"หลังจากที่เราสองคนนั่งรถออกมาจากห้างสรรพสินค้าได้สักพักและรถก็แล่นอยู่บนถนนใหญ่มุ่งหน้าออกนอกเมืองเล็กน้อย พี่ไทเกอร์ที่กำลังขับรถอยู่ก็เอ่ยพูดกับฉัน ทำให้ฉันที่อยู่กับความคิดของตัวเองก่อนหน้าชะงักชั่วขณะก่อนที่จะหันไปมองเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลาของเขาในเวลาต่อมาฉันจะถามเขาดีไหมนะ ฉันจะพูดเรื่องที่เขาทำให้ฉันสงสัยและคิดมากก่อนหน้านี้ดีไหมนะคือฉันเองก็ไม่ได้ไร้เดียงสาอะไรขนาดนั้นที่จะต้องทำเป็นเฉยไม่รู้สึกอะไรกับการกระทำแบบนั้นของเขาและคำพูดชวนคิดชวนใจเต้นแรงบ่อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status