ログインเมื่อว่าที่เจ้าสาวเฮงซวยบังอาจหนีไปในวันก่อนแต่งงาน วูล์ฟ แอนเดอร์ตัน อภิมหาเศรษฐีรูปงาม ผู้แสนเย่อหยิ่ง ทระนงตน ดุดัน ถึงลูกถึงคน และเฉียบขาดสุดขั้ว จึงคลุ้มคลั่งประหนึ่งพญามัจจุราชที่หลุดออกมาจากขุมอเวจี เเละเลือกที่จะเเก้หน้าด้วยการคว้า ‘นางซินก้นครัว’ ผู้แสนอาภัพอย่าง มะลิร้อย สร้อยมาลา เด็กสาววัยกำดัดที่ดูท่าว่าจะทั้งหัวอ่อนเเละนุ่มนิ่ม ซึ่งลูกหนี้ของเขายัดเยียดให้มาเข้าพิธีวิวาห์เเทน เมื่อไม่รักเขาจึงปฏิบัติกับ ‘เจ้าสาวสำรอง’ เยี่ยงขยะไร้ค่า เเละจำกัดสถานะให้เธอเป็นเเค่เมียบำเรอ! ที่มีหน้าที่ดีดเด้ง ดิ้นพล่าน และร้องครวญครางรองรับการขยี้สวาทด้วยลีลารักอันเร่าร้อน ดุดัน เเละดิบเถื่อน ทุกที่! ทุกเวลา! หากเเต่พ่อหนุ่มจอมยโสกลับไม่ได้เตรียมรับมือกับความน่ารัก ความไร้เดียงสา เเละความพยศเหลือร้ายของ ‘เมียเด็ก’ ผู้ดื้อเงียบ ที่เขาคิดเสมอมาว่าเธอนั้นหน่อมเเน้มไม่ทันคน เเถมพอรู้ตัวอีกทีเขาก็เกิดอาการน้ำลายสอ 'อยากกินเด็ก’ ตลอดเวลาจนน่าโมโห! “จะมัวยืนกระมิดกระเมี้ยนอีกนานไหม แก้ผ้าแล้วมาขึ้นเตียง!” “อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำนะมะลิร้อย” “อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ได้โปรดเถอะ” “แค่ผัวจะ ‘เอา’ ทำไมต้องทำท่าบีบน้ำตาด้วย”
もっと見る‘และแล้ว…เจ้าชายกับเจ้าหญิงก็ครองคู่กันอย่างมีความสุขตราบชั่วนิรันดร์’
นั่นเป็นบทสรุปของเทพนิยายที่สาวน้อยชอบอ่านและจำได้ขึ้นใจ เพราะอ่านมันซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบจนหนังสือที่รบเร้าให้แม่ซื้อให้สมัยเด็กๆ มีสภาพเยินแทบดูไม่ได้
ดึกสงัดเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลายๆ คน หลังจากที่ต้องตรากตรำทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำมาทั้งวัน ทว่ามันกลับเป็นเสมือนห้วงเวลาชวนฝันสำหรับเจ้าของร่างอรชรอ้อนแอ้น แสงจากโคมไฟเก่าๆ ที่บางวันก็ออกอาการเกเรติดๆ ดับๆ ยังคงเล็ดลอดผ่านช่องลมของห้องโกโรโกโสอันแสนคับแคบเท่าแมวดิ้นตาย ซึ่งตั้งอยู่ท้ายสุดในบริเวณบ้านพักคนงานของฟาร์มพอร์ตแมน ฟาร์มปศุสัตว์ขนาดกลางในเมืองเล็กๆ ของประเทศออสเตรเลีย
‘มะลิร้อย สร้อยมาลา’ เด็กสาวกำพร้าผู้แสนอาภัพ วัยสิบเก้าปี ชื่นชอบการอ่านเทพนิยายก่อนนอนเป็นชีวิตจิตใจจนติดเป็นนิสัยจากเด็กสู่วัยสาว เพราะมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ และลืมความทุกข์ไปชั่วขณะ บางคราเธอนั้นก็นึกอยากจะลองอ่านนิยายที่สาวๆ ในสมัยนี้นิยมกัน แต่ก็ต้องตัดใจ เพราะไม่มีเงินมากพอที่จะกระเบียดกระเสียรให้ได้มันมาเป็นเจ้าของ จึงได้แต่หยิบเทพนิยายเล่มเก่าที่แม่ซื้อให้ขึ้นมาเป็นเพื่อนคลายเหงาและปลดปล่อยความทุกข์เศร้าที่กัดกินหัวใจดวงน้อย
ชะตาชีวิตของมะลิร้อยเลวร้ายตั้งแต่เล็กจนโต เริ่มจากตอนแปดขวบพ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตทั้งคู่ ฉะนั้นจากคุณหนูตัวน้อยๆ ที่มีแต่คนคอยพะเน้าพะนอเอาใจ จึงต้องมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายกับผู้เป็นยายในไร่ส้มเล็กๆ ทางตอนเหนือของจังหวัดเชียงราย ทว่าต่อมาไม่นานยายซึ่งเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรเพียงหนึ่งเดียวก็มาล้มป่วยและจากไปอย่างกะทันหัน
เมื่อไร้ที่พึ่งสาวน้อยจึงต้องระเห็จจากไทยมาอาศัยอยู่กับผู้เป็นป้าที่ออสเตรเลีย ตามคำร้องขอสุดท้ายของยายก่อนจะสิ้นใจ ถึงแม้ป้าของเธอจะเป็นถึงภรรยาเจ้าของฟาร์มซึ่งในเวลานั้นมั่งคั่งอยู่มากโข ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้นึกเอื้อเอ็นดูหลานสาวในไส้ แต่กลับโขกสับเยี่ยงทาส มะลิร้อยถูกบังคับให้เรียนถึงแค่มัธยมปลาย เพื่อที่จะได้มาคอยรับใช้รองมือรองเท้าทุกคนในบ้านอย่างเต็มที่ เธอถูกจำกัดสถานะให้เป็นเพียง ‘นางซินก้นครัว’ ที่โดนคนในครอบครัวพอร์ตแมนกดให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน และไม่เคยเห็นความสำคัญอะไรเลย
เรื่องราวของมะลิร้อยไม่ใช่เทพนิยาย เพราะมันไม่ได้ขึ้นต้นด้วยคำว่า ‘กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว’ และมันก็ยังไม่ได้มีทีท่าว่าจะลงท้ายด้วยคำว่า ‘แฮปปี้เอ็นดิ้ง’ แถมมันยังอาจจะเลวร้ายกว่าในเทพนิยายก็เป็นได้ เพราะเธอไม่มีสิทธิ์กำหนดเส้นทางชีวิตของตัวเองเลย อนาคตช่างมืดมนนัก…มืดเหมือนตกลงไปในหลุมดำ
“นางฟ้าแม่ทูนหัวจ๋า…อยู่ไหนกันนะ ทำไมถึงไม่เห็นออกมาช่วยมะลิเลย” แม่สาวช่างฝันเอ่ยอย่างเศร้าๆ ไปถึงหนึ่งในตัวละครของเทพนิยายที่เธอชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจเรื่อง ‘ซินเดอเรลลา’ เพราะมันช่างเข้ากับชีวิตของเธอยิ่งนัก ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เฮ้อ…ถ้าชีวิตเราลงเอยอย่างมีความสุขเช่นในเทพนิยายก็คงจะดี” ดวงหน้าสวยหวานเกลื่อนไปด้วยร่องรอยความหม่นเศร้า ท้ายประโยคเธอขยับกลีบปากสีชมพูระเรื่อเอ่ยออกมาด้วยความท้อแท้แต่ก็ไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว ขณะปิดหนังสือลงอย่างเบามือ จากนั้นก็นำเทพนิยายเล่มโปรดไปซุกไว้ในกล่องใบเล็กๆ ข้างเตียงหลังน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดโคมไฟ แล้วล้มตัวลงนอน
“ฉันจะรอคุณ ‘เจ้าชายของฉัน’ และหวังว่าพรุ่งนี้เราจะได้พบกัน” เสียงหวานพึมพำท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล ก่อนที่สาวน้อยจะคว้าตุ๊กตาตัวเก่งมากอดแนบอก แล้วหลับตาลงด้วยความหวังว่าพรุ่งนี้เธอจะได้พบกับเจ้าชายในฝันของตน แม้ว่า ‘ใครคนนั้น’ จะเป็นฝันไกลเกินเอื้อม แต่เธอก็มีความสุขเล็กๆ…สุขที่ได้ฝัน
รถลีมูซีนสีดำมันปลาบหรูหราอลังการแล่นเอื่อยๆ มาตามถนนแคบๆ เรียกความสนใจจากคนในชุมชนเล็กๆ ห่างจากเมืองซิดนีย์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือได้เป็นอย่างดี พวกเขาต่างพากันชะเง้อชะแง้มองตามอย่างนึกอิจฉาจุดมุ่งหมายที่ราชรถคันงามจะไปเกย…
วูล์ฟ แอนเดอร์ตัน อภิมหาเศรษฐีรูปงาม ผู้แสนเย่อหยิ่ง ทระนงตน ดุดัน ถึงลูกถึงคน และเฉียบขาดสุดขั้ว เจ้าของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของอเมริกา วัยสามสิบสามปี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่หายใจเข้าออกเป็นตัวเลขและผลกำไรคงไม่มาเยือนชุมชนเล็กๆ ที่ห่างไกลจากความเจริญในแถบชนบทของออสเตรเลียแห่งนี้ หากเมื่อสามเดือนที่แล้วเขาไม่ได้พบกับอิซาเบลล่า พอร์ตแมน สาวสวยเซ็กซี่ นางแบบโนเนม ซึ่งช่วยชีวิตเขาจากการเป็นตะคริวจนเกือบจะจมน้ำตายในระหว่างที่กำลังโต้คลื่น ณ ชายหาดซานตา เทเรซ่า ประเทศคอสตาริกา
ความประทับใจในน้ำใจงามของสาวเจ้าทำให้วูล์ฟนึกอยากผูกสัมพันธ์ ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ โปรดปรานการควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า และเปลี่ยนคู่ขามาระเริงสวาทบนเตียงจนนับไม่ถ้วน ประจวบเหมาะกับที่ผู้เป็นยายรบเร้าว่าอยากให้เขาแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาและมีเหลนตัวน้อยๆ ให้ท่านได้เชยชม ถึงแม้จะมั่นใจว่าความรู้สึกที่เกิดกับสาวเจ้าไม่ใช่ความรักอย่างแน่นอน เพราะคนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน มองว่าความรักนั้นไร้สาระสิ้นดี และเขาก็ไม่คิดจะเอาหัวใจอันเย็นชาแข็งกระด้างไปสยบอยู่แทบเท้าของผู้หญิงหน้าไหนทั้งสิ้น ต่อให้สวยหยาดฟ้ามาดินแค่ไหนอิสตรีเหล่านั้นก็เป็นได้แค่เครื่องปลดเปลื้องความใคร่เพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น แต่พ่อหนุ่มจอมยโสก็เล็งเห็นว่าอิซาเบลล่า พอร์ตแมน คือคนที่ ‘เหมาะสม’ ในฐานะภรรยาและแม่ของลูก ที่สำคัญเขาไม่แคร์ด้วยว่าตนจะต้องมีความสัมพันธ์ทางกายในแบบลึกซึ้งกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักเช่นหล่อน เพราะอย่างน้อยจิตใจอันแสนประเสริฐของอิซาเบลล่าก็เป็นตัวการันตีได้ว่าหล่อนจะเป็นแม่ที่ดีของลูกเขา และมันก็เป็นคุณสมบัติคู่ควรที่จะมีส่วนร่วมในการผลิตทายาทแอนเดอร์ตันให้สมใจปรารถนาคุณยายอันเป็นที่รัก ผู้มีพระคุณเพียงหนึ่งเดียวที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กจนโต
หลังจากนั้นวูล์ฟก็หมั่นนัดอิซาเบลล่าออกไปดินเนอร์บ่อยครั้ง ยิ่งได้ใกล้ชิดกับอีกฝ่ายอภิมหาเศรษฐีหนุ่มก็ยิ่งมั่นใจว่าหล่อน
‘เหมาะ’ ที่จะเป็นภรรยาของตนมากกว่าใครอื่น เพราะทุกครั้งที่อยู่กับสาวเจ้าเขารู้สึกสบายใจ หล่อนรู้จักดูแลตัวเองให้ดูสวยสง่าอยู่ตลอดเวลา ช่างเอาอกเอาใจ ไม่เรื่องมากจู้จี้ขี้บ่นจนน่ารำคาญ และรู้จักวางตัวเมื่อเข้าสังคมสามารถเชิดหน้าชูตาเขาได้อย่างไม่อายใคร จนเมื่อเดือนที่แล้ววูล์ฟจึงได้ตัดสินใจขอหล่อนแต่งงาน ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบตกลงอย่างไม่เกี่ยงงอน เขาเลือกหล่อนมาเป็นคู่ชีวิตโดยไม่สนว่าสาวเจ้าจะเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ซึ่งไม่มีอะไรเทียบเทียมกับเขาได้เลยสักนิด ไม่ว่าจะเป็นฐานะทางสังคมหรือความร่ำรวย
“พอๆ หยุดดราม่าเสียที มันน่ารำคาญ!”“แสดงว่าคุณยอมแต่งงานกับนังมะลิแล้วใช่ไหมคะ” น้ำเสียงของนางเดือนแขฟังดูลิงโลดอย่างออกนอกหน้า การตีความหมายเข้าข้างตัวเอง ทำให้ชายหนุ่มอยากจะหัวเราะให้กับความโง่เขลาเบาปัญญาของอีกฝ่ายยิ่งนัก “ผมไม่สนผู้หญิงหน้าไหนทั้งสิ้น โดยเฉพาะยัยเด็กกะโปโลแสนสกปรกนี่ และคนที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับผมในวันพรุ่งนี้จะต้องเป็นอิซาเบลล่า เจ้าสาวของผมจะต้องเป็นอิซาเบลล่าเท่านั้น เข้าใจไหม!” เสียงห้าวกระด้างเอ่ยอย่างเฉียบขาดถึงแก่น “แต่ยัยเบลล่าหนีไปแล้วนะคะ คุณปล่อยให้เธอไปมีความสุขกับคนที่เธอเลือกเถอะค่ะ อีกอย่างงานแต่งก็จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว ยังไงก็ตามตัวยัยเบลล่าไม่ทันหรอกค่ะ เอานังมะลิไปเป็นเจ้าสาวแทนเถอะนะคะ” นางเดือนแขพยายามโน้มน้าวจิตใจอีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถ ความจริงที่วิ่งเข้ามากระแทกใจโครมใหญ่ทำให้วูล์ฟตัวแข็งทื่อ กรามแกร่งที่ประดับอยู่ตรงโหนกแก้มขบกันจนเป็นสันนูน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสามารถจัดการกับชีวิตของตัวเองได้อย่างง่ายดายเพียงแค่พลิกฝ่ามือ แต่ตอนนี้เขากลับกำลังจนปัญญาอย่างน่าโมโห เพราะไม่สามารถไปตามลากคอว่าที่เจ้าสาวเฮงซวยมาเข้าพิธีวิวา
“โสโครกสิ้นดี!” วูล์ฟเริ่มสวมวิญญาณมัจจุราชในชั่วพริบตา วาจาร้ายกาจที่หลุดออกมาจากปากหยักของเจ้าชายในฝันทำให้มะลิร้อยต้องกัดปากแน่น น้ำตาคลอเบ้า นึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาครามครัน เขาทั้งหยิ่งยโส ถือตัว ปากจัด ขี้หงุดหงิด และโมโหร้าย แถมพ่อเจ้าประคุณยังตั้งแง่รังเกียจเธอตั้งแต่แรกจนน่าเศร้าใจ จากที่ได้ประจักษ์มาถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้สาวน้อยเริ่มแน่ใจแล้วว่าวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน คงไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างที่เธอวาดภาพไว้ในวิมาน และมันก็อาจจะถึงเวลาที่เธอต้องเลิกหลงรูปจูบเงาพ่อเทพบุตรจำแลงเสียที ทว่าเสียงหนึ่งในใจกลับแย้งขึ้นอย่างฉับไวว่า…ถ้ามันทำได้ง่ายๆ แบบนั้นก็ดีน่ะสิ แต่หัวใจเจ้ากรรมหลงรักเขาไปแล้วนี่ให้ทำไงได้ “เอาไปขัดสีฉวีวรรณสักหน่อยก็สะอาดแล้วค่ะ” นางเดือนแขเอ่ยแทรกขึ้น หากแต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ นัยน์ตาดุดันยังคงจ้องหน้านางซินตัวน้อยเขม็ง “นังหนู…เธออายุเท่าไหร่แล้ว หย่านมแม่หรือยังถึงคิดจะมีผัวตั้งแต่เด็ก” ในเวลาที่กำลังเดือดจัดเช่นนี้เขาดูพาลพาโลไปหมด แม่สาวน้อยเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินวาจาหยามหมิ่น อีกทั้งเจ็บปวดและอดสูระคนกัน “โอ๊ย! นังมะลิมันไม่
ทว่าหากเป็นผู้ใหญ่สาวน้อยจะเลือกสงบปากสงบคำเสียมากกว่า จะมีบ้างในกรณีที่อดใจไม่ไหวจริงๆ ซึ่งคนที่เธอไม่สมควรจะไปต่อกรด้วยมากที่สุด คือเเขกคนสำคัญของบ้านพอร์ตเเมนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ทว่าวันนี้เขากลับทำให้ความอดทนของเธอขาดสะบั้น เพราะน้ำคำว่าร้ายทำลายจิตใจ จนพลั้งปากย้อนกลับด้วยความลืมตัว และในวินาทีถัดมาสาวน้อยก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงกัมปนาทที่สาดเข้าใส่อย่างอำมหิต “นี่เธอ!...มันจะมากไปแล้วนะแม่ตัวดี! ยัยหนูสกปรก!” เจ้าของร่างทรงพลังตวาดกร้าว นัยน์ตาวาวโรจน์ ใบหน้าคร้ามคมพลันถมึงทึง “ถ้าคุณจะพูดแค่นี้ ฉันขอตัวนะคะ” หลังจากพยายามข่มกลั้นความหวาดกลัว หญิงสาวก็เชิดหน้าเอ่ยตัดบทเสียงแข็งๆ เพราะถึงแม้จะตื่นตระหนกในความกราดเกรี้ยวของเขาจนทำอะไรแทบไม่ถูก แต่มะลิร้อยก็ยังรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด จากนั้นนางซินตัวน้อยก็ตั้งท่าจะก้าวจากไป ด้วยเกรงว่าหากอยู่นานกว่านั้นเธออาจจะหมดศรัทธาในตัวเขาก็เป็นได้ ถึงอย่างไรแม่สาวช่างฝันก็ยังอยากยกย่องให้อีกฝ่ายเป็นเทพบุตรในดวงใจของตนอยู่ และถ้ามันจะมีอะไ
“อย่าห้ามผมเลยนะทูนหัว พรุ่งนี้เราสองคนก็จะเเต่งงานกันเเล้ว” กลิ่นสาบสาวทำให้พ่อหนุ่มคลั่งรักโยนความเป็นสุภาพบุรุษลงนรกไปทันควัน วูล์ฟเหมือนต้องมนตร์สะกดในชั่วเสี้ยวนาที ประหนึ่งมีแรงดึงดูดบางอย่างระหว่างสาวเจ้ากับเขาในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขายังไม่ ‘ได้’ อิซาเบลล่า เพราะยิ่งได้สัมผัสแตะต้องเรือนกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่นมือไม้ของเขาก็ยิ่งอยู่ไม่สุข ความรู้สึกในครั้งนี้มันต่างออกไปจากทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้อิซาเบลล่าพยายามยั่วให้เขาชิงสุกก่อนห่ามอยู่หลายหน ทว่าวูล์ฟก็ยังอดใจไหว แต่แล้ววันนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น เขาเป็นบ้าอะไร! ถึงได้กระหายอยาก ‘ร่วมรัก’ กับอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้ อภิมหาเศรษฐีหนุ่มได้แต่ฉงนในความปรารถนาที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน โดยไม่นึกเอะใจเลยว่าคนที่ตนกำลังลวนลามและอยาก ‘ร่วมรัก’ ด้วยจนแทบคลั่งนั้น ที่จริงแล้วหาใช่อิซาเบลล่า พอร์ตแมน แต่อย่างใด “เเต่ฉันไม่ใช่พี่เบลล่านะคะ ได้โปรดปล่อยฉันเถอะค่ะ” วาจาที่ได้สดับตรับฟังทำให้ความปรารถนาอันร้อนรุ่มพลันอันตรธานไปในชั่วพริบตา พ่อตัวโตผละจากร่างแน่งน้อยอย่างฉับไว แล้วรีบถอยห่างออกม





