LOGINคำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้า
New meeting and new relationship. – III
1/4
“ทำหน้าอย่างกับโลกจะแตกเลยณิน” ระหว่างมื้อค่ำที่ฉันนั่งทานข้าวอยู่กับพี่ชายคนโตของฉัน ซึ่งวันนี้เขานอนที่บ้าน ไม่ได้กลับไปนอนที่อพาร์ทเม้นท์ของเขา ส่วนใหญ่แล้วพี่วินจะอยู่ห้องชุดของโครงการหนึ่งซึ่งห้องนั้นก็ค่อนข้างจะหรูหราอยู่มาก ฉันไปหาพี่ชายบ่อยครั้งนะ
บอกเลยว่าห้องเขาค่อนข้างที่จะไฮเทคฯ สมกับเป็นผู้นำด้านไอที
“พี่วินพูดกับพ่อให้หน่อยได้ไหม ณินไม่อยากแต่งงาน” ฉันเริ่มเปิดประเด็นเพราะวันนี้ฉันกะจะพูดกับพ่อแล้วแต่ว่าพอส่งฉันกับพี่วินลงที่บ้านพ่อก็ไปทำงานต่อทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ชีวิตพ่อมีแต่งาน
“พี่ก็เห็นว่าณินก็ชอบคุณอาทั้งสองคนนี่นา” พี่ชายถามมา
“ณินชอบคุณอาค่ะ แต่ณินไม่ชอบลูกชายเขา” ฉันบอกไปก่อนจะใช้ซ่อมหมุนเส้นพาสตาอย่างเซ็ง ๆ “ณินพูดจริงนะเรื่องที่บอกว่าไม่อยากแต่งงานแล้วน่ะ”
“พี่เข้าใจ” พี่ชายเอื้อมมือมาจับมือฉัน แต่พ่อดูจริงจังมากนะ
“พ่อเกรงใจพี่มากนะพี่วิน ถ้าเกิดว่าพี่วินพูดพ่อจะต้องยอมใจอ่อนแน่ ๆ” ฉันร้องขออย่างมีหวัง พี่ชายก็ทำหน้าคิดหนักพอดู
เราทุกคนในบ้านรู้ว่าพ่อเป็นคนยังไง เป็นคนคำไหนคำนั้นและไม่ค่อยฟังคนอื่นหากเขาจะตัดสินใจอะไรสักอย่างลงไปน่ะ เพราะงั้นฉันจึงเกรงและกลัวพ่อมาก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อยากได้ความรักอยู่ดี
ฉันอิจฉาพี่พาลินที่สนิทสนมกับพ่อ เธอสามารถหยอกล้อกับพ่อได้โดยไม่ต้องกังวล ส่วนพี่วิน ด้วยความที่เขาเป็นคนมีวุฒิภาวะและความเป็นผู้นำสูง หัวธุรกิจเขาเหมือนกับพ่อ และเขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยพ่อจึงวางใจและไม่วุ่นวายกับเขามาก
พี่ ๆ ทั้งสองไม่ต้องทำอะไรเลยพวกเขาก็ถูกยอมรับจากพ่อ ในขณะที่ฉันไม่ใช่
ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนฉลาดและเรียนเก่ง ฉันใช้มันสมองตรงนั้นรักษาผลการเรียนของฉันดีเยี่ยม
ตั้งแต่เข้าโรงเรียนจนถึงมหาลัยฉันเรียนดีมาตลอด ตอนมัธยมฉันก็ได้ที่หนึ่ง กิจกรรมฉันก็เด่น ฉันพูดได้สามภาษาตั้งแต่สิบขวบ เรื่องกีฬาฉันก็ทำมันออกมาได้ดี พี่พาชอบพูดว่าฉันเก่งกว่าเธอทุกอย่างเพราะเธอเรียนกลาง ๆ ทำอะไรก็ไม่สุดสักทาง
แต่เธอก็รู้ว่าภายใต้ความเก่งของฉันคือการที่ฉันต้องการเป็นที่ยอมรับ ฉันอยากให้พ่อยอมรับว่าฉันเป็นลูกที่น่าภูมิใจของท่าน แต่ดูเหมือนว่าพอโตขึ้น เข้าใจอะไรมากขึ้นฉันก็รับรู้ได้ว่า
ต่อให้เป็นคนเพอร์เฟกต์และโดดเด่นทุกด้านแค่ไหน ถ้าจะไม่ถูกยอมรับ ก็ไม่มีทางถูกยอมรับหรอก
ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองมาตลอดเลย
“ธาวินมาคุยกับพ่อว่าแกจะไม่แต่งงาน พี่ชายแกมาขอร้องให้พ่อพิจารณาเรื่องนี้ใหม่” ตอนนั้นพ่อส่งรังสีความเยือกเย็นมาให้ฉันเสียจนเต็มที่
“ค่ะ” ฉันตอบแล้วก็ก้มหน้าก้มตา
ฉันไม่เหมือนพี่ชายพี่สาว เพราะฉันถูกทรีตมาแตกต่างจากพวกเขา พี่ชายกับพี่สาวฉันกล้าที่จะสู้กับพ่อ กล้าเถียง กล้าเผชิญหน้า แต่ฉันกลัวพ่อ และในขณะเดียวกันก็กระหายที่จะถูกยอมรับด้วย ฉันไม่ต้องการอะไรเลยนอกจากความรัก ความอบอุ่นจากท่าน
ไม่ว่าสิ่งไหนที่พ่ออยากให้ฉันทำ อยากให้ฉันเป็นฉันสามารถทำได้หมดเลย ยกเว้นเรื่องนี้ เรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะมันไม่ต่างอะไรจากการถีบฉันลงปากเหวเลย
“เพราะอะไร” พ่อถามด้วยน้ำเสียงเข้ม ๆ
“เพราะว่าณินไม่ได้อยากแต่งงานค่ะ ณินบอกพ่อแล้ว” ฉันยังสงบเสงี่ยมเพราะกังวลและเคร่งเครียดจากการพยายามรวบรวมความกล้า แต่ฉันก็กลัว “ณิน.....ณินว่าณินไม่เหมาะกับเตค่ะ เรายังรู้จักกันได้ไม่ดีพอ เรียกได้ว่าไม่รู้จักกันเลยคงดีกว่า”
แม้ฉันจะเคยคบกับเตมาก่อน แล้วช่วงที่เขาจีบฉัน เริ่มคุยกัน มันก็สี่เดือนก่อนคบแล้ว พอคบกันก็หกเดือนกว่า แม้มันจะเป็นเวลาที่นานแต่ตั้งแต่วันที่เตเลือกจะทิ้งฉันไป ฉันก็รู้สึกว่าเตเป็นผู้ชายที่ฉันแทบไม่เคยรู้จักเลย เขาใจร้ายแบบที่ฉันคาดไม่ถึงด้วยซ้ำ
ส่วนที่ว่าทำไมฉันถึงไม่บอกพ่อเรื่องนั้น ก็เพราะฉันไม่อยากพูดถึงมัน ไม่อยากกล่าวถึง เป็นไปได้ต้องการลบมันไปด้วยซ้ำ เพราะถ้าพูดถึง ฉันก็ต้องนึกถึงเรื่องพวกนั้น มันทำให้ฉัน....จมดิ่ง
“แกอยากได้เวลาทำความรู้จักกับเตเหรอ” ดูเหมือนพ่อจะเข้าใจแบบนี้
“ไม่ได้อยากทำความรู้จักค่ะ ไม่อยากแต่งงาน” ฉันยืนยันคำเดิม และก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม แม้ตอนนี้ฉันจะอายุยี่สิบหกย่างยี่สิบเจ็ดแล้ว แต่ใช่ว่าความหวาดกลัวต่อพ่อ ความไม่กล้าเผชิญหน้ามันจะหายไป ฉันยังกลัวท่าน และมันแก้ไม่หายหรอก
ฉันกลัวที่จะเข้าหาพ่อ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ต้องการความรัก ทั้งหมดมันขัดแย้งอยู่ในตัวฉัน
“ณินถูกเสนองานจากแบรนด์ XXX มันเป็นโอกาสที่ดีของณิน ณินอยากกลับฝรั่งเศส” ฉันอ้อนวอนขอ แม้ว่าจริง ๆ แล้วฉันเองก็อยากอยู่ไทยต่อ แต่ว่าถ้าต้องแลกกันฉันจะยอมกลับไปทำงานที่โน่น ดีกว่าจะต้องแต่งงานกับผู้ชายแบบนั้น
“แล้วแกไม่คิดจะกลับมาช่วยพี่เขาทำงานบ้างเหรอ พาลินทำงานของที่บ้านคนเดียว พ่อเองก็ใกล้เกษียณแล้วนะ” มันก็ถูกของพ่อนั่นล่ะ ตอนนี้พี่พาลินทำงานที่บริษัทประกันภัยเต็มตัวอยู่คนเดียวด้วย “เงินที่แกเรียนหนังสือ ที่แกใช้ไปเดือนละกี่บาทญาณิน แกสบายกว่าพี่เขามานานหลายปีแล้วนะ”
“ณินจะทำงานก็ได้ แต่ณินไม่อยากแต่งงาน” ฉันมองพ่อแวบหนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้ง
“แกนี่มัน.....” พ่อไม่ได้พูดต่อ ในขณะที่ฉันก็มีน้ำตาไหลออกมา ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าประโยคถัดไปจะคืออะไร แต่ฉันก็หวังเหลือเกินว่าพ่อจะไม่พูดมันออกมา แต่ในนาทีนั้นน้ำตาฉันก็ไหลออกมาจากการพยายามฝืนกลั้นจนสุดแรง แต่มันไม่ไหวแล้วล่ะ
“พ่อคะ ณินขอโทษ.... แต่ณินทำไม่ได้” ฉันจิกมือเข้าหากันแน่น ฉันสูดหายใจเข้าปอดได้ไม่ลึกเท่าไหร่ก่อนจะเม้มปากแล้วเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะยกมือไหว้ “ได้โปรดนะคะ ณินไม่อยากแต่งงาน”
ฉันร้องไห้ และฉันอ้อนวอนอย่างมีหวัง พ่อมองฉันก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วลุกขึ้นยืน
เขาเดินออกไปโดยไม่มีปริปากออกมาเลยสักคำเดียว
ฉันนึกโกรธตัวเองที่ไม่สามารถก้าวออกจากความขลาดเขลาทั้งหมดได้ ฉันเหมือนคนมีชนักติดหลัง แต่ยี่สิบหกปี ยี่สิบหกปีที่ฉันอยู่กับพ่อคนนี้มา อยู่กับการปฏิบัติของเขา มันทำให้ฉันยังคงกลัวที่จะก้าวข้ามออกมา และห้าปีที่ฉันต้องจมอยู่กับสิ่งที่เตทำ
ฉันเกลียดเขา แต่เรื่องของคืนหนึ่งหลังจากเลิกกันกับเขา คืนที่เกือบจะพรากชีวิตฉันไปมันย้อนกลับมา ขากรรไกรฉันแข็งและไม่ยอมขยับยามจะปริปาก ตัวฉันสั่นยามคิดจะเอ่ยถึงมัน
นั่นคือ Lowed point ที่สุดในชีวิตฉันเลย
คืนวันนั้นฉันตบยานอนหลับลงไป แล้วก็ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราที่ทำให้ฉันหลีกหนีจากความทุกข์ยากลำบากทั้งหมด ตอนหลับน่ะมันดีจะตายที่ไม่ต้องรับรู้อะไร ถ้าได้หลับตลอดกาลก็คงดี....
“คุณณินคะ มีคนมาหาค่ะ” หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปประมาณสักเก้าโมงเช้าได้ฉันถูกแม่บ้านมาเคาะประตูหน้าห้อง พอฉันออกมาเปิดก็เห็นแม่บ้านมาบอกแบบนี้
“ใครเหรอคะ” ฉันขยี้ตาพลางถามเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของฉัน และฉันจะไม่ได้นัดใคร ไม่ได้ออกไปทำธุระเกี่ยวกับงานที่ไหนเลยในวันนี้น่ะนะ
“เขาบอกว่าชื่อคุณเตค่ะ อยากจะมาขอเจอคุณณิน” ฉันถอนหายใจออกไปอย่างเหนื่อยหน่าย
“บอกไปค่ะว่าณินไม่อยากเจอ แล้วก็ไม่มีเรื่องที่จะต้องคุยกับเขาอีก” ฉันบอกไปแล้วก็ปิดประตูห้องแล้วก็ไปล้มตัวลงนอนอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อคืนนี้ฉันวาดแบบชุดเอาไว้ แล้วก็คุยกับเพื่อนที่เมกาฯด้วย ฉันก็เลยกะว่าจะตื่นสักเที่ยงเลยวันนี้
แต่ไม่ทันที่จะข่มตาหลับด้วยซ้ำแม่บ้านก็กลับขึ้นมาเคาะประตูอีกในห้านาทีถัดมา ทำเอาฉันครางงึมงำอย่างไม่สบอารมณ์
“คุณเตบอกว่าอยากคุยจริง ๆ นะคะ เค้าบอกจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณณินจะยอมคุยด้วย” ฉันกลอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย เขานี่พูดไม่รู้เรื่องเลยหรือไงนะ
“งั้นบอกเขาไปค่ะว่าณินจะนอน ณินตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยคุย” แม่บ้านทำท่าทางเลิ่กลั่กเมื่อฉันบอกแบบนั้น และฉันก็คิดอะไรบางอย่างออก “พี่ตาไปบอกเขานะคะว่าถ้าอยากคุยก็รอณินตื่นก่อน แต่ถ้ารอไม่ไหวก็ไสหัวกลับไป บอกเขาตามนี้เลยนะคะ”
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III4/4“ณินรู้ว่าพ่อเกลียดณิน ไม่รักณิน แต่ไม่ต้องแสดงออกให้เห็นมากขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” ฉันให้หลังมือปาดน้ำตาออก และฉันก็เจ็บจนชาไปเลยล่ะ “เพราะแค่ที่ผ่านมาพ่อก็แสดงออกมันมากพอแล้ว”“เพราะแกเกิดมาแล้วก็ทำให้ผู้หญิงที่ฉันรักที่สุดในชีวิตต้องจากโลกนี้ไป” ฉันหลับตาลงอย่างข่มกลั้นอารมณ์ “แกไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกถึงคุณค่าที่แกเกิดมาเลยสักครั้ง แกเคยไหมที่จะทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่า มีประโยชน์ที่แกเกิดมา มีสักครั้งไหมที่ทำให้ฉันภูมิใจ”น่าแปลกจริงเชียวที่ฉันเจอคำพูดรุนแรงขนาดนี้ใจฉันกลับรู้สึกไม่สะทกสะท้านอะไรขึ้นมาเลยสักนิด ไม่ได้รู้สึกว่าน้ำตาจะไหลออกมาเพิ่มได้อีก มันจุก ตื้อตันในคออย่างบอกไม่ถูกเลย“เกิดมาแกเคยมีอะไรดีไหม ถ้าแกอยากให้ฉันยอมรับแกในฐานะลูก แกก็ควรจะทำตัวให้เป็นประโยชน์โดยการแต่งงานกับเขาซะ”“พ่อไม่เคยภูมิใจ ไม่เคยเห็นคุณค่า ไม่เคยเห็นประโยชน์ในตัวณินเพราะพ่อไม่เคยมองเลยต่างหาก” ฉันจ้องหน้าพ่อและรู้สึกว่านี่ก็เห็นครั้งแ
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III3/4เพราะฉันไม่เคยสัมผัสคำว่าแม่มาก่อนในชีวิต แล้วฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะต้องมารับผิดชอบความรู้สึกของแม่เขา รับผิดชอบคำสัญญาของพ่อแม่เราด้วย“ฉันไม่ได้มีหน้าที่มารับผิดชอบความรู้สึกของพ่อแม่ใคร ฉันบอกแล้วไง” ฉันพูดกับด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและเรียบเฉย คุณเป็นแฟนที่ดีให้ฉันไม่ได้ แล้วฉันจะไปเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะเป็นสามีที่ดีฉันกอดอก จ้องมองเขา และคิดว่าฉันเคยรักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหน และตอนนั้นฉันรักเขาลงไปได้ยังไง แต่ตอนนั้นฉันจำได้ว่าฉันรักเตมากแค่ไหน แต่มีคนสอบฉันว่าให้เปลี่ยนความรักที่มีเป็นความโกรธ ถ้าทำได้เราจะเกลียดชังเขามากกว่าที่เคยรักเป็นพันเท่า ๆ“ผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คุณเชื่อดี แต่ขอโอกาสให้ผมได้ทำให้ดูสักครั้งได้ไหม” ฉันไม่เคยเห็นเตพูดด้วยความจริงใจขนาดนี้มาก่อน มันเหมือนตอนที่เตอยากเป็นแฟนกับฉัน และเหมือนตอนที่เขาอยากไปจากฉันด้วย พอคิดถึงความเก่าหนหลังมันก็ทำให้ฉัน...เบ้ปากเส
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III2/4“คุณเตบอกว่าอยากคุยจริง ๆ นะคะ เค้าบอกจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณณินจะยอมคุยด้วย” ฉันกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย เขานี่พูดไม่รู้เรื่องเลยหรือไงนะ“งั้นบอกเขาไปค่ะว่าณินจะนอน ณินตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยคุย” แม่บ้านทำท่าทางเลิ่กลั่กเมื่อฉันบอกแบบนั้น และฉันก็คิดอะไรบางอย่างออก “พี่ตาไปบอกเขานะคะว่าถ้าอยากคุยก็รอณินตื่นก่อน แต่ถ้ารอไม่ไหวก็ไสหัวกลับไป บอกเขาตามนี้เลยนะคะ”“กะ ก็ได้ค่ะคุณณิน” แม่บ้านตอบรับและฉันก็กลับเข้าไปนอนต่อ คือฉันง่วงนอนมาก ๆ แล้วก็ไม่ชอบใจเวลาที่ฉันถูกรบกวนจากการนอน แม่บ้านที่บ้านจะรู้ดีว่าฉันไม่ชอบและจะไม่เคยปลุกฉันหากไม่มีอะไรเร่งด่วน และไม่มีอะไรสำคัญฉันหลับไปนานจนนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งน่าจะถึงเวลาเที่ยงของวันนี้แล้ว แม้ฉันจะนอนดึกแค่ไหนฉันจะไม่ตื่นเกินเที่ยงเลย หลังจากนอนตื่นแล้วฉันก็อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวอย่างอารมณ์ดีเพราะคิดว่าเตคงรอไม่ไหวและกลับไปแล้วล่ะมั้งพออาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งชั่วโมงเสร็จฉันก็เดินนวยนาดลงมาจากห้องด้วยอารมณ์ดีพลางคิดว่าวันนี้จะมีอะไรกินเป็นมื้อเที่ยง หรือจะสั่งอะไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III1/4“ทำหน้าอย่างกับโลกจะแตกเลยณิน” ระหว่างมื้อค่ำที่ฉันนั่งทานข้าวอยู่กับพี่ชายคนโตของฉัน ซึ่งวันนี้เขานอนที่บ้าน ไม่ได้กลับไปนอนที่อพาร์ทเม้นท์ของเขา ส่วนใหญ่แล้วพี่วินจะอยู่ห้องชุดของโครงการหนึ่งซึ่งห้องนั้นก็ค่อนข้างจะหรูหราอยู่มาก ฉันไปหาพี่ชายบ่อยครั้งนะบอกเลยว่าห้องเขาค่อนข้างที่จะไฮเทคฯ สมกับเป็นผู้นำด้านไอที“พี่วินพูดกับพ่อให้หน่อยได้ไหม ณินไม่อยากแต่งงาน” ฉันเริ่มเปิดประเด็นเพราะวันนี้ฉันกะจะพูดกับพ่อแล้วแต่ว่าพอส่งฉันกับพี่วินลงที่บ้านพ่อก็ไปทำงานต่อทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ชีวิตพ่อมีแต่งาน“พี่ก็เห็นว่าณินก็ชอบคุณอาทั้งสองคนนี่นา” พี่ชายถามมา“ณินชอบคุณอาค่ะ แต่ณินไม่ชอบลูกชายเขา” ฉันบอกไปก่อนจะใช้ซ่อมหมุนเส้นพาสตาอย่างเซ็ง ๆ “ณินพูดจริงนะเรื่องที่บอกว่าไม่อยากแต่งงานแล้วน่ะ”“พี่เข้าใจ” พี่ชายเอื้อมมือมาจับมือฉัน แต่พ่อดูจริงจังมากนะ“พ่อเกรงใจพี่มากนะพี่วิน ถ้าเกิดว่าพี่วินพูดพ่อจะต้องยอมใจอ่อนแน่ ๆ” ฉันร้องขออย่างมีหวัง พี่ชายก็ทำหน้าคิดหนักพอดูเราทุกคนในบ้านรู้ว่าพ่อเป็นคนยังไง เป็นคนคำไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II4/4ฉันได้แต่อดทนและคิดว่าฉันเองจะอดทนเอาไว้แล้วค่อยกลับไปคุยกันพ่อที่บ้านก็ได้ ฉันอยากจะรักษาหน้า รักษาความรู้สึกของคนป่วยอย่างคุณอาไว้ เพราะฉันไม่สามารถที่จะแต่งงานกับเตได้จริง ๆ อันที่จริงก็คงไม่ต้องพูดถึงขั้นแต่งงานหรอก แค่มองหน้ายังไม่อยากจะมองเลยที่ทนกลืนข้าวลงได้ทั้งที่นั่งข้างเขาฉันก็แทบจะใช้พลังทั้งหมดชีวิตที่มีแล้ว“เต พาญาณินไปเดินเล่นหน่อยสิ เดินคุยกันจะได้ทำความรู้จักกันไว้” หลังจากทานผลไม้เป็นของหวานกันไปแล้วพ่อก็เป็นฝ่ายบอกกับเตไปเอาตรง ๆ วันนี้แทบจะไม่ให้ฉันได้มีโอกาสออกบากเรื่องแต่งงานเลยสักครั้งเดียว ฉันจะได้แค่ตอบคำถามที่ผู้ใหญ่ถามหรือพูดเรื่องอื่นเท่านั้น“ได้ครับลุง” เตรับคำราวกับว่ารอโอกาสนี้อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากใช้เวลาร่วมกับเตมากเกินไปกว่านี้ได้ฉันก็จำใจ เพราะฉันอยากจะบอกเตว่าฉันไม่มีวันนที่จะแต่งงานกับเขาเตพาฉันเดินมาที่สวนหลังบ้านซึ่งเป็นสระน้ำและมีดอกบัวอยู่หลายกอ ลายล้อมไปสวนพืชผักนานาพันธุ์ และสวนดอกไม้ด้วย อีกฝากฝั่งของสระน่าจะเป็นสวนผลไม้ซึ่งมองด้วยสายตาฉันก็เห็
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II3/4“คือหนู....” ฉันอยากบอกว่าฉันไม่อยากแต่งงาน ถ้าพูดออกไปตอนนี้เลยก็น่าจะดีแต่ว่าในตอนนั้นเองก็มีคนใหม่เดินเข้าประตูมาฉันก็ตกใจมากที่เห็นว่าคนนั้น ๆ คือเต เขายืนอยู่หน้าประตูและฉันเห็นว่าทุกคนหันไปมองเขาคนเดียว เขาเองก็มองมายังฉันด้วยสีหน้าที่แปลกใจแต่ฉันตั้งสติและรู้ตัวได้ว่าฉันไม่อยากจะให้ใครตรงนี้รู้เรื่องอดีตของฉันกับเตจึงได้พยายามส่งสายตาให้เขารู้เป็นนัย ๆ ว่าฉันนั้นไม่อยากให้ใครรู้“มาแล้วเหรอเจ้าเต “คุณอาไตรทักลูกชายที่อยู่ในชุดวอร์มซึ่งน่าจะเป็นของหน่วยงาน “ลุงกับพี่ ๆ เขามารออยู่นานแล้วนะ ทำไมถึงพึ่งมา”“พึ่งจัดการงานเสร็จนะครับ” เขาพูดและรอบมองมายังฉันอยู่อีกหน แต่วันนี้ฉันรู้สึกใจเต้นแรงอีกครั้งเพราะความรู้สึกตื่นตะลึง และเกลียดขี้หน้า “ขอโทษทีที่ให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องงาน มา ๆ นั่งก่อน” พ่อฉันพูดแล้วก็บอกให้เขามานั่ง ซึ่งที่ว่างที่เหลือตอนนี้ก็คือโซฟาตัวเดียวกันกับฉัน และที่ว่างคือข้างแม่เขากลายเป็นว่าแม่ของเขาคั่นกลางระหว่างฉันกับเขาอยู่ ฉันควบคุมสีหน้าและอารมณ์เอาไว้แม้ว่าจะ







