LOGINคำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้า
New meeting and new relationship. – III
2/4
“คุณเตบอกว่าอยากคุยจริง ๆ นะคะ เค้าบอกจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณณินจะยอมคุยด้วย” ฉันกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย เขานี่พูดไม่รู้เรื่องเลยหรือไงนะ
“งั้นบอกเขาไปค่ะว่าณินจะนอน ณินตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยคุย” แม่บ้านทำท่าทางเลิ่กลั่กเมื่อฉันบอกแบบนั้น และฉันก็คิดอะไรบางอย่างออก “พี่ตาไปบอกเขานะคะว่าถ้าอยากคุยก็รอณินตื่นก่อน แต่ถ้ารอไม่ไหวก็ไสหัวกลับไป บอกเขาตามนี้เลยนะคะ”
“กะ ก็ได้ค่ะคุณณิน” แม่บ้านตอบรับและฉันก็กลับเข้าไปนอนต่อ คือฉันง่วงนอนมาก ๆ แล้วก็ไม่ชอบใจเวลาที่ฉันถูกรบกวนจากการนอน แม่บ้านที่บ้านจะรู้ดีว่าฉันไม่ชอบและจะไม่เคยปลุกฉันหากไม่มีอะไรเร่งด่วน และไม่มีอะไรสำคัญ
ฉันหลับไปนานจนนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งน่าจะถึงเวลาเที่ยงของวันนี้แล้ว แม้ฉันจะนอนดึกแค่ไหนฉันจะไม่ตื่นเกินเที่ยงเลย หลังจากนอนตื่นแล้วฉันก็อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวอย่างอารมณ์ดีเพราะคิดว่าเตคงรอไม่ไหวและกลับไปแล้วล่ะมั้ง
พออาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งชั่วโมงเสร็จฉันก็เดินนวยนาดลงมาจากห้องด้วยอารมณ์ดีพลางคิดว่าวันนี้จะมีอะไรกินเป็นมื้อเที่ยง หรือจะสั่งอะไรมาทานหากอาหารเที่ยงที่แม่บ้านทำไว้ไม่ถูกปาก
แต่พอลงมาถึงด้านล่างของบ้านฉันก็พบว่าเตยังคงรออยู่ และที่สำคัญพ่อของฉันนั่งอยู่ด้วย
“ญาณิน” เมื่อพ่อหันมาเห็นฉัน ก็เรียกฉันพร้อมทำหน้าดุดันมาใส่ “เตเขามารอตั้งนานแล้ว ทำไมถึงปล่อยให้เขานั่งรอแบบนี้ล่ะ ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย”
“ไม่เป็นไรครับคุณพ่อ...” นี่เป็นเสียงเต แต่ว่าเลิกเรียกพ่อฉันว่าลุงตั้งแต่เมื่อไหร่ “อย่าไปดุณินเขาเลยครับ ผมเองต่างหากที่ตั้งใจนั่งรอเขา”
“แต่รอตั้งแต่เก้าโมง มันใช้ได้ที่ไหนกัน” พ่อยังคงดุฉัน ส่วนฉันก็รอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ “แม่บ้านขึ้นไปบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเตมา แกทำอะไรอยู่”
“ก็....” ฉันเผยอปากเตรียมพูด
“ช่างมันเถอะครับคุณพ่อ” ฉันอยากจะว้ากเตจริง ๆ นะ “ตอนนี้ณินก็มาแล้วนี่ครับ”
แล้วยังมาเรียกฉันด้วยท่าทางสนิทสนมเกินเบอร์นั่นอีก ฉันแอบกลอกตามองบนตอนพ่อหันไปมองเขา แล้วก็ทำหน้ายักษ์หน้ามารใส่เตด้านหลังพ่อด้วย
“พ่อมาทำอะไรที่นี่คะ” ฉันถามตอนเดินไปนั่งที่โซฟาอีกตัว
“พ่อมาจัดการธุระแถวนี้ แล้วก็เลยแวะมาหาเอกสารที่เก็บไว้ด้วย” พ่อตอบฉันโดยที่ไม่ได้มองหน้าฉันด้วยซ้ำ “แล้วถ้าพ่อไม่มาพ่อจะรู้มั้ยว่าแกทำแบบนี้กับเต”
“ผมไม่เป็นไรจริง ๆ ครับ คุณพ่อ” ย้ำนักนะคำว่าคุณพ่อเนี้ย
“อาหารพร้อมแล้วค่ะคุณผู้ชาย” พี่ตาเดินมาบอก
“ไปเต ไปทานข้าวก่อนจะคุยอะไรก็ค่อยคุยหลังจากนี้” นี่ฉันจำใจจะต้องกินข้าวอีกมื้อแล้วก็ต้องเจอหน้าเขาอีกใช่มั้ย ให้ตายเถอะ คิดว่ายังไงกันเนี้ย
สาบานได้เลยว่าวันนี้เป็นมื้อที่ฉันไม่เจริญอาหารมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ แม้ว่าอาหารมื้อนี้จะเป็นเมนูโปรดของฉันก็เถอะ แต่บอกเลยว่าพอมีเตมาอยู่ด้วยในวันนี้การรับประทานอาหารของฉันก็น้อยลงถนัดตา ฉันว่าเตน่าจะเอาดีทางด้านเปิดคอร์สช่วยลดน้ำหนักนะ
เพราะแค่ฉันทานข้าวกับเขาแค่สองครั้งฉันก็รู้สึกเหมือนน้ำหนักจะลดฮวบฮาบเป็นสิบกิโล นี่ถ้าต้องแต่งงานแล้วอยู่ร่วมบ้านกันจริง ๆ ขึ้นมา ฉันคงไม่ผอมหนังติดกระดูกเลยหรือไง
“อย่าให้พ่อเห็นเราทำตัวอย่างนี้อีกนะยัยณิน” ฉันเริ่มโดนดุอีกครั้ง
“ค่ะ” แต่ฉันจะไม่ทำให้พ่อเห็นน่ะสิ ไม่ก็พ่อคงไม่เห็นอีกหรอกเพราะฉันจะไม่มีวันเจอหน้าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว แล้วพ่อก็จะกลับไปอยู่ออสเตรเลียตามเดิมด้วย
“คุณพ่อไม่มีแพลนจะกลับมาอยู่ไทยเลยเหรอครับ” เตชวนพ่อฉันคุยและเขากับพ่อฉันก็ดูสนิทสนมกันง่ายดายมากกว่าฉันที่เป็นลูกแท้ ๆ เสียอีก น่าตลกดีนะที่พ่อสามารถเข้ากับทุกคนบนโลกใบนี้ได้ดียกเว้นลูกสาวคนเล็กของเขาน่ะ
“อาจจะกลับมา แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หรอก พ่อชินแล้วกับการอยู่ที่โน่น” พ่อตอบเตไป “แล้วงานของเราเป็นยังไงบ้างล่ะเต”
“ก็ดีครับ แต่บางทีก็ทำงานหนักไปบ้าง แล้วแต่ช่วงด้วยครับ” เขาอธิบายให้พ่อฉันฟังและรอบมองฉันเล็กน้อยด้วย แต่ฉันสบตาเขาไม่ถึงสองวิก็หันหนี ดูจากรูปการณ์แล้วพ่อน่าจะชอบเตมากพอสมควรเลยนะ แล้วก็ดูเข้ากันได้ดีมากด้วย
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้วเตก็ขอพ่อบอกว่าอยากจะขอคุยธุระเรื่องการแต่งงานกับฉัน ซึ่งพ่อก็อนุญาต ฉันก็เลยพาเขามาคุยที่ห้องขับแรกที่ติดกับสระว่ายน้ำซึ่งเป็นห้องที่ไม่น่าจะมีใครเข้ามารบกวน และฉันก็จะได้คุยกับเตให้รู้เรื่องเสียที
“ฉันว่าฉันบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่แต่งงาน คุณไม่เข้าใจหรือไง” ฉันเริ่มพูดก่อนทันทีแม้ว่าวันนี้เตจะมาหาฉันเพราะเขามีเรื่องอยากคุยก็ตาม เป็นครั้งแรกที่ฉันไม่ให้เกียรติแขกพูดก่อน
“ผมเข้าใจดีครับ คุณญาณิน”
“เข้าใจดีแล้วมาทำไมไม่ทราบ”
“แต่ผมอยากมาคุยกับคุณให้เข้าใจกันกว่าวันนั้น” เขาบอกมาด้วยท่าทางใจเย็นและฉันก็เสตาไปทางอื่นอย่างไม่อยากมองหน้าเขา “แล้วก็มีข้อเสมอมาให้คุณด้วย”
“.....” ฉันไม่ตอบแต่เลิกคิ้วมองเขา
“ผมอยากให้คุณกับผมแต่งงานกันแค่ในระยะเวลาที่แม่ผมรักษาตัวจนถึงแม่ผมหาย หรือไม่ก็จนถึงวาระสุดท้ายของแม่ผม” เขาพูดมาและสรุปง่ายๆ คือเขาอยากให้ฉันแต่งงานกับเขาจนกว่าแม่เขาจะตายนั่นล่ะ แต่ฉันรู้ว่าการที่เขาพูดว่าหาดีมันอาจจะเป็นความหวังของเขา
“แล้วฉันดูใจดีใจขนาดนั้นเลย?” ฉันเลิกคิ้วทำหน้ากวนตีนใส่เขา “ถ้าเป็นคนอื่นน่ะฉันยอมได้นะ แต่มันเป็นคุณไงฉันเลยไม่ได้ใจดีพอจะได้ไปรับผิดชอบความรู้สึกของพ่อแม่ใคร”
“ณินครับ” ฉันอยากจะบ้าเมื่อเขาเริ่มพูดประโยคนี้อีกแล้ว ตอนนี้เราทั้งคู่ยังยืนอยู่ ไม่มีใครนั่งกันที่โซฟาเลยสักคนเดียว “เตรู้ว่าตอนนั้นทำผิดกับเธอมากจริง ๆ เตไม่มีอะไรจะแก้ตัว”
“แน่สิ แก้ตัวไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น” ฉันย้ำกับเขา ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าทำสันดานยังไงไว้ ควรจะสำเหนียกตัวเองบ้างนะไม่ใช่มาขอร้องให้ฉันทำตาม ลองคิดในมุมกลับกันดูสิ คิดว่าตัวเองเป็นฉันดู
เตเงียบอยู่และมองหน้าฉันพลางกำลังขบคิด
“คุณบอกเลิกฉันเพราะว่าอยู่กับฉันแล้วอึดอัด นอกใจไปคุยกับคนอื่น ไปเอากับเขาแล้วก็ให้ผู้หญิงคนนั้นมาบอกฉันให้เลิกยุ่งกับคุณเอง” ฉันจ้องเตไม่วางตาและฉันก็ยังจำคำพูดที่ผู้หญิงคนนั้นพูดมาได้ดีเลย “คุณไม่เคยสนใจด้วยซ้ำว่าฉันจะอ้อนวอนขอร้องคุณยังไง แล้ววันนี้เข้าใจความรู้สึกยัง?”
“แต่ผมอยากแต่งงานกับคุณจริง ๆ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เค้าจะทำให้แม่ได้ก่อนท่านจะตาย” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ๆ เอาจริง ๆ ฉันก็สงสารนะที่เขาต้องเสียแม่ไปเพราะเขามีแม่มาทั้งชีวิตของเขา แต่ฉันไม่มีทางเข้าใจความสูญเสียของเขาได้หรอก
เพราะฉันไม่เคยสัมผัสคำว่าแม่มาก่อนในชีวิต แล้วฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะต้องมารับผิดชอบความรู้สึกของแม่เขา รับผิดชอบคำสัญญาของพ่อแม่เราด้วย
“ฉันไม่ได้มีหน้าที่มารับผิดชอบความรู้สึกของพ่อแม่ใคร ฉันบอกแล้วไง”
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III4/4“ณินรู้ว่าพ่อเกลียดณิน ไม่รักณิน แต่ไม่ต้องแสดงออกให้เห็นมากขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” ฉันให้หลังมือปาดน้ำตาออก และฉันก็เจ็บจนชาไปเลยล่ะ “เพราะแค่ที่ผ่านมาพ่อก็แสดงออกมันมากพอแล้ว”“เพราะแกเกิดมาแล้วก็ทำให้ผู้หญิงที่ฉันรักที่สุดในชีวิตต้องจากโลกนี้ไป” ฉันหลับตาลงอย่างข่มกลั้นอารมณ์ “แกไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกถึงคุณค่าที่แกเกิดมาเลยสักครั้ง แกเคยไหมที่จะทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่า มีประโยชน์ที่แกเกิดมา มีสักครั้งไหมที่ทำให้ฉันภูมิใจ”น่าแปลกจริงเชียวที่ฉันเจอคำพูดรุนแรงขนาดนี้ใจฉันกลับรู้สึกไม่สะทกสะท้านอะไรขึ้นมาเลยสักนิด ไม่ได้รู้สึกว่าน้ำตาจะไหลออกมาเพิ่มได้อีก มันจุก ตื้อตันในคออย่างบอกไม่ถูกเลย“เกิดมาแกเคยมีอะไรดีไหม ถ้าแกอยากให้ฉันยอมรับแกในฐานะลูก แกก็ควรจะทำตัวให้เป็นประโยชน์โดยการแต่งงานกับเขาซะ”“พ่อไม่เคยภูมิใจ ไม่เคยเห็นคุณค่า ไม่เคยเห็นประโยชน์ในตัวณินเพราะพ่อไม่เคยมองเลยต่างหาก” ฉันจ้องหน้าพ่อและรู้สึกว่านี่ก็เห็นครั้งแ
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III3/4เพราะฉันไม่เคยสัมผัสคำว่าแม่มาก่อนในชีวิต แล้วฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะต้องมารับผิดชอบความรู้สึกของแม่เขา รับผิดชอบคำสัญญาของพ่อแม่เราด้วย“ฉันไม่ได้มีหน้าที่มารับผิดชอบความรู้สึกของพ่อแม่ใคร ฉันบอกแล้วไง” ฉันพูดกับด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและเรียบเฉย คุณเป็นแฟนที่ดีให้ฉันไม่ได้ แล้วฉันจะไปเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะเป็นสามีที่ดีฉันกอดอก จ้องมองเขา และคิดว่าฉันเคยรักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหน และตอนนั้นฉันรักเขาลงไปได้ยังไง แต่ตอนนั้นฉันจำได้ว่าฉันรักเตมากแค่ไหน แต่มีคนสอบฉันว่าให้เปลี่ยนความรักที่มีเป็นความโกรธ ถ้าทำได้เราจะเกลียดชังเขามากกว่าที่เคยรักเป็นพันเท่า ๆ“ผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คุณเชื่อดี แต่ขอโอกาสให้ผมได้ทำให้ดูสักครั้งได้ไหม” ฉันไม่เคยเห็นเตพูดด้วยความจริงใจขนาดนี้มาก่อน มันเหมือนตอนที่เตอยากเป็นแฟนกับฉัน และเหมือนตอนที่เขาอยากไปจากฉันด้วย พอคิดถึงความเก่าหนหลังมันก็ทำให้ฉัน...เบ้ปากเส
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III2/4“คุณเตบอกว่าอยากคุยจริง ๆ นะคะ เค้าบอกจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณณินจะยอมคุยด้วย” ฉันกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย เขานี่พูดไม่รู้เรื่องเลยหรือไงนะ“งั้นบอกเขาไปค่ะว่าณินจะนอน ณินตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยคุย” แม่บ้านทำท่าทางเลิ่กลั่กเมื่อฉันบอกแบบนั้น และฉันก็คิดอะไรบางอย่างออก “พี่ตาไปบอกเขานะคะว่าถ้าอยากคุยก็รอณินตื่นก่อน แต่ถ้ารอไม่ไหวก็ไสหัวกลับไป บอกเขาตามนี้เลยนะคะ”“กะ ก็ได้ค่ะคุณณิน” แม่บ้านตอบรับและฉันก็กลับเข้าไปนอนต่อ คือฉันง่วงนอนมาก ๆ แล้วก็ไม่ชอบใจเวลาที่ฉันถูกรบกวนจากการนอน แม่บ้านที่บ้านจะรู้ดีว่าฉันไม่ชอบและจะไม่เคยปลุกฉันหากไม่มีอะไรเร่งด่วน และไม่มีอะไรสำคัญฉันหลับไปนานจนนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งน่าจะถึงเวลาเที่ยงของวันนี้แล้ว แม้ฉันจะนอนดึกแค่ไหนฉันจะไม่ตื่นเกินเที่ยงเลย หลังจากนอนตื่นแล้วฉันก็อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวอย่างอารมณ์ดีเพราะคิดว่าเตคงรอไม่ไหวและกลับไปแล้วล่ะมั้งพออาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งชั่วโมงเสร็จฉันก็เดินนวยนาดลงมาจากห้องด้วยอารมณ์ดีพลางคิดว่าวันนี้จะมีอะไรกินเป็นมื้อเที่ยง หรือจะสั่งอะไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III1/4“ทำหน้าอย่างกับโลกจะแตกเลยณิน” ระหว่างมื้อค่ำที่ฉันนั่งทานข้าวอยู่กับพี่ชายคนโตของฉัน ซึ่งวันนี้เขานอนที่บ้าน ไม่ได้กลับไปนอนที่อพาร์ทเม้นท์ของเขา ส่วนใหญ่แล้วพี่วินจะอยู่ห้องชุดของโครงการหนึ่งซึ่งห้องนั้นก็ค่อนข้างจะหรูหราอยู่มาก ฉันไปหาพี่ชายบ่อยครั้งนะบอกเลยว่าห้องเขาค่อนข้างที่จะไฮเทคฯ สมกับเป็นผู้นำด้านไอที“พี่วินพูดกับพ่อให้หน่อยได้ไหม ณินไม่อยากแต่งงาน” ฉันเริ่มเปิดประเด็นเพราะวันนี้ฉันกะจะพูดกับพ่อแล้วแต่ว่าพอส่งฉันกับพี่วินลงที่บ้านพ่อก็ไปทำงานต่อทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ชีวิตพ่อมีแต่งาน“พี่ก็เห็นว่าณินก็ชอบคุณอาทั้งสองคนนี่นา” พี่ชายถามมา“ณินชอบคุณอาค่ะ แต่ณินไม่ชอบลูกชายเขา” ฉันบอกไปก่อนจะใช้ซ่อมหมุนเส้นพาสตาอย่างเซ็ง ๆ “ณินพูดจริงนะเรื่องที่บอกว่าไม่อยากแต่งงานแล้วน่ะ”“พี่เข้าใจ” พี่ชายเอื้อมมือมาจับมือฉัน แต่พ่อดูจริงจังมากนะ“พ่อเกรงใจพี่มากนะพี่วิน ถ้าเกิดว่าพี่วินพูดพ่อจะต้องยอมใจอ่อนแน่ ๆ” ฉันร้องขออย่างมีหวัง พี่ชายก็ทำหน้าคิดหนักพอดูเราทุกคนในบ้านรู้ว่าพ่อเป็นคนยังไง เป็นคนคำไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II4/4ฉันได้แต่อดทนและคิดว่าฉันเองจะอดทนเอาไว้แล้วค่อยกลับไปคุยกันพ่อที่บ้านก็ได้ ฉันอยากจะรักษาหน้า รักษาความรู้สึกของคนป่วยอย่างคุณอาไว้ เพราะฉันไม่สามารถที่จะแต่งงานกับเตได้จริง ๆ อันที่จริงก็คงไม่ต้องพูดถึงขั้นแต่งงานหรอก แค่มองหน้ายังไม่อยากจะมองเลยที่ทนกลืนข้าวลงได้ทั้งที่นั่งข้างเขาฉันก็แทบจะใช้พลังทั้งหมดชีวิตที่มีแล้ว“เต พาญาณินไปเดินเล่นหน่อยสิ เดินคุยกันจะได้ทำความรู้จักกันไว้” หลังจากทานผลไม้เป็นของหวานกันไปแล้วพ่อก็เป็นฝ่ายบอกกับเตไปเอาตรง ๆ วันนี้แทบจะไม่ให้ฉันได้มีโอกาสออกบากเรื่องแต่งงานเลยสักครั้งเดียว ฉันจะได้แค่ตอบคำถามที่ผู้ใหญ่ถามหรือพูดเรื่องอื่นเท่านั้น“ได้ครับลุง” เตรับคำราวกับว่ารอโอกาสนี้อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากใช้เวลาร่วมกับเตมากเกินไปกว่านี้ได้ฉันก็จำใจ เพราะฉันอยากจะบอกเตว่าฉันไม่มีวันนที่จะแต่งงานกับเขาเตพาฉันเดินมาที่สวนหลังบ้านซึ่งเป็นสระน้ำและมีดอกบัวอยู่หลายกอ ลายล้อมไปสวนพืชผักนานาพันธุ์ และสวนดอกไม้ด้วย อีกฝากฝั่งของสระน่าจะเป็นสวนผลไม้ซึ่งมองด้วยสายตาฉันก็เห็
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II3/4“คือหนู....” ฉันอยากบอกว่าฉันไม่อยากแต่งงาน ถ้าพูดออกไปตอนนี้เลยก็น่าจะดีแต่ว่าในตอนนั้นเองก็มีคนใหม่เดินเข้าประตูมาฉันก็ตกใจมากที่เห็นว่าคนนั้น ๆ คือเต เขายืนอยู่หน้าประตูและฉันเห็นว่าทุกคนหันไปมองเขาคนเดียว เขาเองก็มองมายังฉันด้วยสีหน้าที่แปลกใจแต่ฉันตั้งสติและรู้ตัวได้ว่าฉันไม่อยากจะให้ใครตรงนี้รู้เรื่องอดีตของฉันกับเตจึงได้พยายามส่งสายตาให้เขารู้เป็นนัย ๆ ว่าฉันนั้นไม่อยากให้ใครรู้“มาแล้วเหรอเจ้าเต “คุณอาไตรทักลูกชายที่อยู่ในชุดวอร์มซึ่งน่าจะเป็นของหน่วยงาน “ลุงกับพี่ ๆ เขามารออยู่นานแล้วนะ ทำไมถึงพึ่งมา”“พึ่งจัดการงานเสร็จนะครับ” เขาพูดและรอบมองมายังฉันอยู่อีกหน แต่วันนี้ฉันรู้สึกใจเต้นแรงอีกครั้งเพราะความรู้สึกตื่นตะลึง และเกลียดขี้หน้า “ขอโทษทีที่ให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องงาน มา ๆ นั่งก่อน” พ่อฉันพูดแล้วก็บอกให้เขามานั่ง ซึ่งที่ว่างที่เหลือตอนนี้ก็คือโซฟาตัวเดียวกันกับฉัน และที่ว่างคือข้างแม่เขากลายเป็นว่าแม่ของเขาคั่นกลางระหว่างฉันกับเขาอยู่ ฉันควบคุมสีหน้าและอารมณ์เอาไว้แม้ว่าจะ







