เข้าสู่ระบบบทที่ 32 สัมฤทธิ์ผลไท่ฉางจวินพาครอบครัวล่องเรือกลับเมืองหลวง ไท่อวี้หลินกับไท่ฉางชุนดูตื่นเต้นและมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาชี้ชมทิวทัศน์รอบตัวที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ น้ำใสสะท้อนแสงแดดระยิบระยับราวกับภาพวาด ขณะที่ภูเขาและท้องฟ้ากว้างใหญ่โอบล้อมพวกเขาไว้“ท่านพ่อ! ท่านแม่! พวกเราชอบมาเที่ยวแบบนี้มากเลย!” ไท่อวี้หลินกับไท่ฉางชุนพูดอย่างตื่นเต้น ยิ้มแย้มพร้อมเสียงหัวเราะสดใสไท่ฉางจวินหันมามองลูกๆ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ถ้าพวกเจ้าชอบ พ่อจะพามาเที่ยวแบบนี้บ่อย ๆ” เขาสัญญาด้วยน้ำเสียงอบอุ่น หลี่อวี้เหิงยืนมองเด็ก ๆ ทั้งสองด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุข เขายิ้มบาง ๆ สายลมเย็นพัดผ่าน เสียงน้ำกระทบเรือเบา ๆ ขณะที่พวกเขาล่องเรือผ่านผืนน้ำไหลเอื่อย เหมือนเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สงบและงดงามเมื่อเรือลอยลำเข้าใกล้เมืองท่าเรือ บ้านเดิมของหลี่อวี้เหิงปรากฏอยู่ในสายตา ริมชายฝั่งมีบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งอยู่เรียงราย สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและคุ้นเคย ทำให้หลี่อวี้เหิงรู้สึกทั้งตื่นเต้นและวิตกกังวลในเวลาเดียวกัน“ท่านพี่ ทำไมเราถึงแวะที่นี่หรือ”หลี่อวี้เหิ
บทที่ 31 ไม่ลดละเวลาผ่านไปสองปี ไท่ฉางจวินยังคงพยายามตามง้อภรรยาอย่างไม่ลดละ หลี่อวี้เหิงเองก็เริ่มเปิดใจให้เขามาอยู่ใกล้ลูก ๆ ได้มากขึ้น ทุกครั้งที่ร่างบางเห็นไท่ฉางจวินเล่นกับลูกน้อย หลี่อวี้เหิงก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความสุขที่มีในครอบครัว แต่ถึงอย่างนั้นในใจก็จะยังมีความวิตกกังวลแอบแฝงอยู่บ้างหลี่อวี้เหิงยืนอยู่ห่าง ๆ มองดูฉากตรงหน้า ด้วยแววตาที่มีความสุขปนเศร้า เขารู้สึกดีใจที่ไท่ฉางจวินกลับมารักลูก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกถึงความหวั่นไหวในหัวใจด้วยเช่นกัน ยังไม่กล้าเปิดใจแม้จะเห็นถึงความพยายามของอีกฝ่าย เพราะกลัวว่าความรู้สึกดี ๆ นี้อาจจะกลับกลายเป็นความเจ็บปวดอีกครั้ง“เขาจะเปลี่ยนไปได้จริง ๆ นะหรือ?”หลี่อวี้เหิงคิดในใจ ขณะที่แอบมองไท่ฉางจวินที่กำลังเล่นกับลูก ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยนวันหนึ่งขณะที่ไท่ฉางชุนและไท่อวี้หลินกำลังนั่งฟังไท่ฉางจวินเล่านิทานใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน เสียงหัวเราะใส ๆ ของพวกเขาก็ดังขึ้นไม่หยุด ชายหนุ่มมักเล่าเรื่องสนุก ๆ แต่แฝงไปด้วยข้อคิดดี ๆ “ท่านพ่อ พวกเราชอบฟังเรื่องของท่านมาก!” ลูกคนโตพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “จริงหรือ?” ไท่ฉางจวินยิ้มบาง “พ่อดีใจที่พว
บทที่ 30 เฝ้าบุปผางามหลังจากที่ทุกอย่างคลี่คลาย ไท่ฉางจวินถูกเฮ่อหลานซีเรียกตัวไปเข้าเฝ้า พระสนมซีมองบุตรชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย แต่ก็เต็มไปด้วยความหวัง“ไท่ฉางจวิน.... เจ้ารู้ตัวหรือไม่ ว่าสิ่งที่เจ้าทำกับหลี่อวี้เหิงและลูก ๆ นั้นสร้างบาดแผลใหญ่หลวงเพียงใด?”ไท่ฉางจวินโขลกศีรษะอย่างสำนึกผิด “กระหม่อมรู้ตัวแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม... หน้ามืดตามัว เข้าข้างเว่ยหนิงจื่อมากเกินไป จนทำให้พระชายาและลูก ๆ ต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่แปลกที่หลี่อวี้เหิงจะเกลียดกระหม่อม...”เฮ่อหลานซีถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยว่า “เจ้าได้ทำผิดพลาดไปแล้ว แต่หากยังต้องการใช้ชีวิตคู่กับหลี่อวี้เหิงและลูก ๆ เจ้าต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจ พยายามง้อขอคืนดี หากเจ้ายังรักเขาและลูกอยู่ จงใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้พวกเขากลับมา”ไท่ฉางจวินเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาฉายแววความมุ่งมั่น “กระหม่อมจะทำเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ยอมแพ้อย่างเ็ดขาด จะตามไปคืนดีให้จงได้”เฮ่อหลานซีพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติม “เช่นนั้นเจ้าจงไปตามเมียและลูกกลับมาให้จงได้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าได้ไปตามตอแยเขาอีก”ร่างสูงคุกเข่า
บทที่ 29 ความอัปยศที่รออยู่ไท่ฉางจวินพักรักษาตัวอยู่ที่ชายแดนเหนือ หลังจากที่เขาฟื้นตัว ก็พบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในจวนของเซียวอี้หรานอีกต่อไป แต่กลับถูกย้ายออกมาอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างออกมาจากตัวจวน แม้เขาจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับหลี่อวี้เหิงเหมือนก่อน แต่ไท่ฉางจวินก็ไม่คิดจะถอดใจ อีกฝ่ายอยากจะหย่าก็หย่าไปแต่เขาจะไม่หย่า แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร ข่าวที่ให้องครักษ์ไปสืบมาเมื่อคราวก่อนก็ส่งมยังเขาอย่างเงียบเชียบ “ท่านอ๋อง ข้ามีข่าวมาแจ้ง” องครักษ์กล่าวพร้อมก้มศีรษะอย่างนอบน้อม “หลังจากสืบสวนและติดตามเบาะแส เราพบว่ามีกลุ่มคนลึกลับที่เกี่ยวข้องกับการลอบทำร้ายลูก ๆ ของพระองค์ พวกเขาเชื่อมโยงกับพระสนมเว่ยและรับคำสั่งจากนางโดยตรง”ไท่ฉางจวินได้ยินเช่นนั้นก็เกิดความโกรธเกรี้ยว “เว่ยหนิงจื่อเป็นคนสั่งการจริงหรือ?”“ขอรับ หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่นาง พวกเราพบว่ามีการว่าจ้างนักฆ่าและการวางแผนอย่างละเอียดจากนางเพื่อจัดการกับลูก ๆ ของพระองค์”ไท่ฉางจวินกัดฟันแน่น เขารู้สึกทั้งโกรธและเสียใจที่คนที่เขาเคยเชื่อใจกล้าทำเรื่องเช่นนี้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่าเขาต้องเผชิญกับความจริง“ข้าจะไม่ยอมให้เร
บทที่ 28 เงาของความเจ็บปวดหลี่อวี้เหิงเดินทางไปหาลูก ๆ ที่ชายแดน แต่ระหว่างทางที่เขาผ่านเข้าไปในป่าเขียวขจี ความสงบที่ควรจะมีกลับถูกทำลายด้วยเสียงคำรามของคนร้ายที่ซุ่มอยู่ในเงามืด ทันใดนั้นเองมีเสียงขยับจากพุ่มไม้ข้างทาง ตามด้วยเสียงตะโกนจากองครักษ์ที่เซียวอี้หรานส่งมาคุ้มกัน “ระวัง!” เสียงตะโกนจากองครักษ์ดังขึ้น ขณะที่คนร้ายพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว หลี่อวี้เหิงรู้สึกตื่นตระหนก แต่ก็พยายามตั้งสติให้ดี เขาไม่ใช่ผู้ที่มีทักษะด้านการต่อสู้ จึงพยายามหลบเลี่ยงการโจมตีอย่างเต็มที่“ปกป้องคุณชาย!” องครักษ์ที่เหลืออยู่พยายามพุ่งเข้ามาขวาง เพื่อปกป้องหลี่อวี้เหิง แต่จำนวนของคนร้ายมากกว่าจึงทำให้การต่อสู้เต็มไปด้วยความโกลาหล องครักษ์หลายคนถูกทำร้ายจนบาดเจ็บเสียงดาบกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณ ความวุ่นวายเกิดขึ้นข้างกาย ขณะที่หลี่อวี้เหิงได้แต่แอบยืนอยู่ข้างหลังองครักษ์คนหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกรงกลัวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “อย่าห่วงข้า!” เขาร้องบอกองครักษ์ที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด “ไปจัดการพวกเขา!”องครักษ์ยังคงตอบโต้อย่างเต็มที่ ทว่าคนร้ายกลับมีจำนวนมากกว่า พวกเขาจึงไม่สามารถทำให้คนร้ายถ
บทที่ 27 ถึงเวลาแก้แค้นหลายวันต่อมา ไท่ฉางจิ้งมีราชโองการส่งถึงไท่ฉางจวิน ให้เขาเดินทางไปแคว้นโจวในฐานะทูตเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นแทนพระองค์ เมื่อไท่ฉางจวินทราบข่าว ก็รู้สึกไม่สบายใจนักที่จะต้องละทิ้งเรื่องราวในจวน แต่นี่เป็นภารกิจสำคัญที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้จะมีเรื่องราววุ่นวายมากล้นก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างหลี่อวี้เหิงกับเว่ยหนิงจื่อ ซึ่งสถานการณ์ยังคงคาราคาซัง ก่อนออกเดินทาง ไท่ฉางจวินพยายามพูดคุยกับหลี่อวี้เหิงอีกครั้ง แม้รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังไม่ดีขึ้นนัก“ข้าต้องเดินทางไปแคว้นโจวตามพระประสงค์ของเสด็จพ่อ” ไท่ฉางจวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความจริงจัง“เจ้าต้องรอข้ากลับมา อย่าได้ทำอะไรเกินไปกว่านี้”หลี่อวี้เหิงฟังด้วยสายตาเย็นชา ไม่แม้แต่จะตอบกลับ เขามองไท่ฉางจวินด้วยความไม่ไว้วางใจเหมือนเดิม“ท่านขังข้าเช่นนี้จะยังทำอะไรได้อีกหรือ”“เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าออกมานอกเรือนได้ แต่ห้ามออกจากจวน ดีหรือไม่”ไท่ฉางจวินกล่าวอย่างประณีประนอมเพราะหลายวันที่ถูกขังหลี่อวี้เหิงไม่ได้พยายามหนีหลังจากที่ไท่ฉางจวินออกเดินทางไปแคว้นโจว หลี่อวี้เหิงตัดสินใจเด็ดขาดที่จะจัดการ




![พี่ติวเตอร์ครับ...ช่วยสอนผมหน่อยนะครับ[PWP]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


