ในร้านคาเฟ่ที่เงียบและปลอดภัย เสียงสิงโตดังก้องผู้คนเริ่มหันมามองแต่กระทิงกลับยืนบังหน้ากวางโดยอัตโนมัติดวงตาสงบนิ่ง แต่น้ำเสียงเด็ดขาด
“พี่ไม่มีสิทธิ์พูดกับกวางแบบนั้น” “และยิ่งไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายจิตใจเธอต่อหน้าคนอื่นแบบนี้” สิงโตกัดฟันแน่นมือกำหมัดแววตาเดือด…แต่หัวใจมันสั่นมากกว่า “กูมีสิทธิ์ทุกอย่าง เพราะกูดูแลมันมาตลอด!!” เขาตอบตวาดลั่นร้าน “แค่ดูแลแบบนั้น อย่าทำเลยจะดีกว่า…” “ถ้ามันมีแต่ความร้ายกาจกับการควบคุมคนอื่น กวางไม่ต้องการมันหรอก!” กวางลุกขึ้นเสียงสั่น เสียงแข็ง และแววตาที่เต็มไปด้วยแผล ......สิงโตคลั่งออกจากร้าน..... . . . บ้านเกียรติภูมิ ประตูบ้านถูกถีบเปิดเสียงข้าวของหล่นระเนระนาด สิงโตไม่พูด ไม่ร้อง แค่…ทุบกำแพงด้วยมือเปล่าจนเลือดซึม เขายืนพิงกำแพง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ “แม่งเอ้ย…กูเป็นเหี้ยอะไรวะ” “แค่มึงจะอยู่กับมัน กูก็จะเป็นบ้าอยู่แล้ว” โทรศัพท์ตกลงพื้นแต่เขายังพูดอยู่กับตัวเอง “แล้วกู…กูจะโกรธทำไมวะ ในเมื่อมึงก็ไม่ใช่ของกู…” วันถัดไป วันซ้อมดาวเดือน เสียงดนตรีคลอเบาๆ เวทีมีแต่คนฝึกพูด เดินโพสท่า แต่บรรยากาศกลับเย็นเฉียบเมื่อสิงโตเดินเข้ามา พระพายหันขวับ ปลาเบิกตา กวางกำลังนั่งซ้อมบทอยู่กับกระทิงก่อนที่เสียงสิงโตจะดังขึ้น “เป็นแค่บทแนะนำตัว…หรือมึงจะออดอ้อนมันให้ได้แฟน?” ทั้งงานเงียบ คนทั้งคณะหันมอง “พี่พอได้แล้ว!” กวางลุกขึ้นทันที “ถ้าจะมาก่อกวนกันแบบนี้ ก็กลับไปเลย!” “ไม่ต้องมาแสดงความเป็นห่วงตอนที่พี่เป็นคนพูดให้หนูเจ็บที่สุด!” แต่สิงโตกลับแสยะยิ้ม “กูก็ไม่ได้แคร์อยู่แล้ว ว่ามึงจะรักกับใคร จะชอบกับใคร!” “แค่มึงอย่าให้มันดูน่าสมเพชแบบนี้ก็พอ!!” ทั้งคณะเริ่มซุบซิบ ชื่อ “สิงโต” และ “กวาง” กระจายไปทั่วบรรยากาศ . . . ร้านเหล้าราชสีห์ คืนเดียวกัน โทรศัพท์ในมือสิงโตโชว์โลเคชันของกระทิงเขาส่งข้อความถึงลูกน้องที่ผับ “ถ้ามันอยู่กับใคร นั่งกับใคร คุยกับใคร แจ้งกูทันที” “ถ้ามันเมา ลากมันออกมานอกผับ แล้วส่งโลเคชันมา กูจะไปจัดการเอง” เสียงกดปุ่ม “ส่ง” ดังกริ๊ก เขาทรุดลงนั่งบนโซฟามองรูปกวางในเฟซบุ๊กที่เพิ่งอัปสตอรี่คู่กับกระทิงใจมันเต้นจนหายใจแทบไม่ทันแต่เขาไม่ยอมรับความรู้สึกนั้น “ก็แค่มึงอยากชนะใช่ไหมสิงโต?” “กูแค่ไม่อยากให้มันได้คนที่นอนอยู่บ้านกูเท่านั้นแหละ…” . . . คืนนี้มีงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองทีมดาวเดือนคนแน่นไปหมด เสียงเบสสั่นสะเทือนกระดูก แสงไฟกระพริบฉาบทุกใบหน้าให้ดูบิดเบี้ยวจากความเมา กวางมากับเพื่อนๆพร้อมกระทิง สิงโตยืนอยู่ชั้นสอง มองลงมาจากกระจกขุ่นที่เบลอแสงไฟมือกำแก้ววิสกี้แน่นจนเส้นเลือดขึ้น “ทำไมต้องมายิ้มแบบนั้นวะ…กับมัน…” เวลาผ่านไปสักพัก กระทิงเดินไปเข้าห้องน้ำคนเดียวเส้นทางกลับไปหาโต๊ะต้องผ่านทางเดินหน้าบาร์ และนั่นแหละ… สิงโตยืนรออยู่ตรงนั้น…ตั้งใจ เสียงเพลง EDM เปลี่ยนจังหวะเป็นหนักขึ้นไฟสีแดงกะพริบและในเสี้ยววินาทีที่กระทิงเดินเฉียด… ปั่ก! ไหล่กระทิงถูกกระแทกเต็มแรง “โอ๊ย” “พี่มีปัญหาอะไรกับผม?” สิงโตเหยียดยิ้มดวงตาแดงๆจากแอลกอฮอล์ผสมความคุกรุ่น “ไม่มีปัญหา…แค่อยากดูหน้าคนที่ ‘เก่งนัก’ เรื่องทำให้คนอื่นหวั่นไหว” กระทิงยังคุมสติ “ผมไม่ได้ตั้งใจจะแย่งอะไรจากพี่เลยนะครับ” “แต่ถ้าพี่จะพูดแบบนี้ก็ถามตัวเองก่อนเถอะ ว่าตัวพี่…รู้สึกอะไรกับกวางกันแน่” เงียบ แววตาสิงโตเปลี่ยน เจ็บ…โกรธ…และ กลัวจะเสีย “มึงมันก็แค่ไอ้ตัวแทนเวลาที่เขาเจ็บ” “อย่าทำตัวเหมือนเป็นพระเอกเลยกระทิง…มึงเป็นแค่ ‘หมอนข้าง’ ที่เขาเอาไว้ซุกน้ำตาเวลาไม่มีใคร!” คนเริ่มหันมามอง เสียงเริ่มซุบซิบ บาร์เทนเดอร์หยุดผสมเหล้า แม้แต่คนเมาก็ยังเงียบเพื่อฟัง กระทิงนิ่ง…ไม่ต่อปาก ไม่ถอยแต่พูดเสียงนิ่งกว่าที่เคย “แต่หมอนข้างอย่างผม…จะไม่มีวันทำให้กวางร้องไห้” “แล้วพี่ล่ะ? ทำได้ไหม” สิงโตกัดฟันแน่นเงื้อมือเหมือนจะต่อย แต่… “พอ!!” “หนูไม่อยากให้คนสองคนที่หนูรัก…มาทะเลาะกันเพราะหนูอีกแล้ว” “หยุดได้ไหม…” เสียงผู้หญิงตะโกนแทรกขึ้นกวางวิ่งเข้ามาตรงกลางจับแขนทั้งสองคนไว้น้ำตาคลอในแววตา สิงโตเดินออกจากผับคนเดียวในมือมีโทรศัพท์เปิดแชทที่เคยทักกวางไว้ แล้วไม่ได้รับคำตอบข้อความล่าสุดถูกพิมพ์ไว้แล้วแต่ยังไม่กดส่ง: “มึงจะรู้สึกกับใครก็ได้ทั้งนั้นแหละ…แต่ถ้าให้กูเลือก กูขอให้ไม่ใช่มัน” เขาลบทิ้ง…แล้วเดินลับหายไปในความมืด . . . สวนหลังคณะนิติศาสตร์ หลังเหตุการณ์ในผับผ่านไปได้หนึ่งชั่วโมงบรรยากาศกลางคืนเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟจากเสาเล็กๆ ริมทางเดินและเสียงลมที่พัดใบไม้กระทบกันเบาๆ กระทิงนั่งอยู่ข้างกวางบนม้านั่งไม้ยาวใต้ต้นกัลปพฤกษา เขาไม่พูดอะไร ไม่ถาม ไม่เร่ง แค่ส่งขวดน้ำให้เธอเงียบๆ และปล่อยให้เธอนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น …นานพอจนกวางถอนหายใจออกมา เสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “กระทิง…” “เราไม่ควรเป็นเหตุให้พี่เขาเป็นแบบนั้นใช่ไหม?” กระทิงมองหน้าเธอแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน “พี่เขาเป็นแบบนั้นเอง กวางไม่ผิดหรอก” “กวางแค่มีสิทธิ์รู้สึก มีสิทธิ์เลือกคนที่ทำให้ใจไม่เจ็บ…ก็แค่นั้นเอง” กวางเงียบ หลุบตาลงมองปลายเท้าตัวเองแล้วเม้มปากแน่น “กระทิง…ทำไมถึงดีกับเราขนาดนี้…” กระทิงยิ้มมุมปาก “ไม่รู้สิ บางทีอาจเพราะตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เราก็ไม่อยากเห็นกวางร้องไห้แล้ว” “แล้วตอนนี้…ก็ยังเหมือนเดิม” เงียบอีกครั้ง หัวใจของกวางเต้นดังขึ้นอย่างไม่มีเหตุผลเหมือนเสียงลมหายใจของกระทิงดังชัดกว่าปกติแค่เขานั่งเฉยๆ ข้างๆ เธอก็เริ่มรู้สึกว่า… กระทิงขยับมือช้าๆ วางมือเบาๆ บนหลังมือของเธอ ไม่รุกล้ำ แค่ให้รับรู้ว่า…เขาอยู่ตรงนี้ “แค่รู้ไว้ว่าถ้ากวางเหนื่อย…ผมจะเป็นที่ให้พักเสมอ”บ้านเกียรติภูมิช่วงค่ำเสียงออดดังขึ้นกวางเดินลงไปเปิดประตู“ไง กวาง~” เบอร์รี่ยืนถือร่มส่งยิ้มหวานที่ดูจริงใจเกินไป“ขอโทษนะ พอดีฝนตกแล้วฉันมีนัดแถวนี้แต่โดนเทเลยคิดว่า…ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหม?”กวางชะงักหันไปมองสิงโตที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว สิงโตหยุดเดินไปทันทีที่เห็นเบอร์รี่บรรยากาศเงียบชั่วขณะ กวางเหลือบมองไปที่สิงโต ดวงตาอ่านไม่ออก แต่ในอกกลับเต้นผิดจังหวะไปหมด“จะนอนก็เอาสิ ห้องว่างเยอะแยะ” สิงโตพูดโดยไม่หันมากลางดึกบรรยากาศบ้านที่เย็นยะเยือกกวางนอนพลิกตัวไปมาเสียงฝนยังตกใจเธอไม่สงบเลยสักวินาทีห้องฝั่งตรงข้ามมีแสงลอดออกมาจากใต้ประตูเสียงเบอร์รี่หัวเราะเบาๆกับสิงโตดังลอดออกมา…หรือมันดังขึ้นในหัวเธอเอง?เสียงบางอย่างในใจของกวางกำลังถามว่า“…ถ้าไม่รู้สึกกับเขาแล้วจริงๆจะหวงขนาดนี้ทำไม?”...เวลาเช้าบ้านเงียบๆ มีเพียงเสียงจานกระทบกันเบาๆในครัว กวางเดินลงมาในชุดลำลองธรรมดาแต่ภาพที่เห็นตรงหน้า…ทำให้เธอชะงักเบอร์รี่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่หน้าผากของสิงโตขณะที่สิงโตนั่งพิงโต๊ะอาหารหน้าตาไม่แสดงความรำคาญใดๆ“ก็แค่เช็ดเหงื่อ แกจะทำท่าจะฆ่าฉันทำไมอะ สิงโต~” เบอร์รี่หัว
มหาวิทยาลัยกวางเดินถือแฟ้มเอกสารอยู่ที่โถงคณะนิติศาสตร์ แสงไฟสีขาวนวลส่องลงบนพื้นเงาสะท้อน เสียงรองเท้าส้นสูงดังกังวานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เบอร์รี่หยุดตรงหน้าเธอยิ้มบางๆ ในมือของเธอมีดอกกุหลาบสีดำช่อเดียวกับที่เคยถือวันแรกที่กลับมา“เธอคือ…กวาง ใช่ไหม? ฉันชื่อเบอร์รี่นะ… ยินดีที่ได้เจอกันสักที”“ฉันรู้จักคุณค่ะ… คุณเป็นเพื่อนเก่าสิงโต” กวางยิ้มตอบด้วยมารยาทแต่แววตาสงสัย“แค่เพื่อนเก่าเหรอ… ถ้าเธอหมายถึงช่วงที่เรานอนห้องเดียวกัน แชร์ทุกเรื่องในชีวิต กอดกันทุกคืนเวลาฝันร้าย…เธออาจต้องใช้คำอื่นแล้วล่ะ” เบอร์รี่หัวเราะเบาๆ“พี่สิงโตไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟังเลยค่ะ” กวางนิ่ง เธอเริ่มรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทันแต่ยังพยายามเก็บอารมณ์“นั่นสินะ คนที่พยายามลืม บางทีมันอาจไม่ใช่เพราะลืมได้…แต่อาจเป็นเพราะลืมไม่ได้ต่างหากล่ะ” เบอร์รี่ตอบเรียบๆเบอร์รี่เดินจากไปทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆไว้ในอากาศกวางยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมมือกำเอกสารแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทแต่สายตาเธอ…เริ่มสั่นไหวอย่างปิดไม่มิดลานเปลี่ยวหลังคณะนิติศาสตร์ เวลาหัวค่ำฝนเพิ่งหยุดตกหยดน้ำยังเกาะตามใบไม้ไฟริมทางสลัวสะท้อนแสงสีทองบนใบหน้าของกวางที
ห้องทำงานของ “ภาคภูมิ” พ่อของสิงโต เวลาประมาณ 10 โมงเช้า สิงโตในเสื้อเชิ้ตตัวเก่า กางเกงยีนส์ขาดเข่านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของพ่อมือหนึ่งจับบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดอีกมือถือโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน“ฮัลโหล… พ่ออยู่มั้ย กูจะคุย” เสียงปลายสายเงียบไปนิดก่อนตอบรับภาคภูมิอยู่ในห้องอ่านหนังสือเก่าๆติดกับห้องทำงานทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชายเขาก็เดินออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“มีอะไร ไอ้ราชสีห์? ปกติไม่โทรหาพ่อเลยนี่”สิงโตเงียบ… ก่อนพูดเสียงนิ่งๆ“พ่อ… ถ้ากูบอกว่า กูทำให้กวางย้ายออกไปเอง…มึงจะเกลียดกูปะ”ภาคภูมิชะงัก สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างจับจ้อง เขาเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามลูกชาย โดยไม่พูดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว“พ่อ… กูไม่รู้ว่าทำไมกูต้องทำตัวเหี้ยๆแบบนั้นกับเขา แต่กูแค่… กลับบ้านแล้วมันเงียบจนทนไม่ไหว” เสียงของสิงโตเริ่มแผ่วลงแต่ไม่ได้สั่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บ แต่เพราะเขา “ไม่ยอมให้เสียงสั่น”“กูไม่อยากให้เขาอยู่กับกูเพราะความรักหรืออะไรไร้สาระทั้งนั้น…กูแค่…อยากให้เขากลับบ้าน…”ภาคภูมิมองลูกชายที่มักหยิ่งทะนงในทุกเรื่องวันนี้กลับนั่งตรงหน้าในสภาพเหมือนคนพ่ายแพ้และพู
เสียงของเสือฟังดูเหนื่อยและหนัก“กวาง… ไอ้สิงโตโตมัน… รถชนเมื่อคืน”“ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล BMC ห้องฉุกเฉิน…”“ยังไม่ฟื้น แต่ปลอดภัยแล้ว… แค่… เขาไม่ได้บอกใครเลยนอกจากพวกพี่”กวางเงียบไป“เขาเมาหนักมากเลยนะ… ก่อนจะขับรถออกไปคนเดียว เมื่อคืนมันเรียกชื่อเธอตอนเมา… ทั้งคืนเลยว่ะ”กวางยังคงเงียบ น้ำตาคลอ… แต่ยังไม่หล่น“ขอบคุณที่บอกนะคะพี่เสือ…แต่กวาง… คงไม่ไปค่ะ”เสือเงียบ“แน่ใจนะกวาง…มันไม่มีใครเลยตอนนี้นะ”“เขาเคยมีค่ะ…แต่เขาเป็นคนผลักทุกคนออกไปเอง… โดยเฉพาะกวาง กวาง… ไม่ใช่น้องสาวเขา ไม่ใช่ใครในชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเองก็พูดไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ…”เสียงในสายเงียบก่อนที่กวางจะพูดเบาๆจบสายด้วยน้ำเสียงสั่นไหวที่สุด“ขอให้เขาหายดีค่ะ… เท่านี้”ติ๊ดกวางวางสาย หันหน้าไปทางหน้าต่าง แสงเช้าอ่อนๆสาดเข้ามาทางม่านบาง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกช้าๆเหมือนคนที่กำลังฝืนเดินต่อทั้งที่หัวใจยังบอบช้ำ“พอแล้ว… กวางต้องหยุดเจ็บเองให้ได้…”โรงพยาบาลเสียงเครื่องวัดชีพจรยังดังเป็นจังหวะสิงโตนอนอยู่บนเตียงริมฝีปากขยับเบาๆเหมือนละเมอ“…กวาง… อย่าไปนะ…”แต่ไม่มีใครได้ยินและไม่มีใครตอบกลับเขา…...ช่วงบ่ายวันอ
บนดาดฟ้าบ้านสิงโตกลับมาถึงบ้านที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขาขึ้นไปบนดาดฟ้า จุดบุหรี่ สูดลมกลางคืนแรงๆ มือหนึ่งสั่น มือหนึ่งถือมือถือที่ไม่กดโทรหาใครแต่เปิดรูปถ่ายกวางตอนที่แอบถ่ายไว้ในมือถือตัวเองรูปเธอนั่งกินข้าว ยิ้มเงียบๆข้างเตาในครัว“มึงมีคนดูแลแล้วใช่มั้ย…ดีแล้ว… ดีแล้วเว้ย…”แต่เสียงที่พูดออกมามันสั่นจนไม่เหลือความแน่ใจน้ำตาหนึ่งหยดไหลลงบนมุมปากก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะฝืนๆ“มึงแม่งเก่งว่ะกวาง…ไปจากกูได้จริงๆ…”…“แต่กูแม่ง… ไปจากมึงไม่ได้เลย…”วันถัดไปข่าวลือกระฉ่อนในกลุ่มไลน์คณะมีคนแอบถ่ายรูปกระทิงซื้อดอกไม้ให้กวาง โพสต์พร้อมแคปชัน “หวานจนแสบตา”คอมเมนต์ถล่มว่า “รักวัยมหาวิทยาลัยคู่ใหม่กำลังมา”สิงโตนั่งในรถมองโพสต์นั้นผ่านมือถือเงียบๆ มือเขาสั่นเล็กน้อยก่อนจะโยนมือถือกระแทกเบาะข้างแล้วทุบพวงมาลัยรถเต็มแรง!“กูแม่ง… มึงจะไปจริงๆใช่มั้ยวะ…” เสียงคำรามจากในอกเหมือนสัตว์ที่รู้ตัวว่า มันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้...ผับราชสีห์ในค่ำคืนที่ฝนตกสิงโตนั่งอยู่ในผับของตัวเอง โต๊ะ VIP ชั้นล่างที่ไม่เคยนั่ง รอบกายไม่มีใคร มีแค่เสียงฝนข้างนอก กับเหล้าเข้มในมือเขาไม่ชวนใคร ไม่ให้
ผับราชสีห์ห้อง VIP หลังผับปิดเสือ มิกซ์ และเม้าท์มานั่งกินเหล้าด้วยกัน เสียงเพลงเบาลงเหล้าเข้าขวดที่สามแล้ว สิงโตนั่งพิงโซฟา หน้าตาไม่ไหว เสื้อยับ แววตาแดงเหมือนอดนอนมาเป็นวันๆ“มึงเงียบเป็นบ้าเลยช่วงนี้นะไอ้ราชสีห์ หรือเพราะน้อง…” เสือเอ่ยขึ้นอย่างห่วงๆ“กวาง…” ชื่อหลุดจากปากสิงโตเอง เบาแผ่ว แต่ชัดเจนพอให้ทั้งโต๊ะเงียบ“เหี้ยอะไร กูแค่พูดชื่อคน…แม่งมีคนชื่อกวางเยอะจะตาย” เขาชะงักตัวเองไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวางแก้วดังปังแล้วหัวเราะในลำคอแต่เพื่อนทั้งโต๊ะมองหน้ากันเงียบ มิกซ์กับเม้าท์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าชัดว่ารู้แล้วเสือถามอีกคำ… “แล้วมันเกี่ยวมั้ยวะ กับที่หายหัวไปสามวันก่อนหน้านั้น?”“กูไปนอนกับผู้หญิงมาเว้ย! มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดี!” สิงโตตะคอกแต่แววตากลับเปล่าเปลี่ยวจนเจ็บแทนจากนั้นเขาก็ก้มหน้าเงียบแล้วพูดเบาๆเหมือนพูดกับใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนั้น“มึงจะหายไปนานแค่ไหนวะกวาง…หายไปจากบ้านก็พอแล้ว อย่าหายจากตรงนี้อีกเลย…”ไม่มีใครตอบ.....มีแค่เสียงเหล้าไหลลงแก้วต่ออีกคืนคืนฝนตก หอพักของกวางกวางนั่งกอดหมอนอยู่ริมหน้าต่าง ข้างนอกฝนโปรย กวางเผลอเปิดแชตเก่าของตัวเองกับสิงโต… แต่เขาไ