“เธอผอมลงไปรึเปล่าชมพู” เมื่อลูกสะใภ้เข้ามานั่งลงฝั่งตรงข้ามและวางแก้วน้ำให้เธอเรียบร้อย นินันท์ก็ขมวดคิ้วมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า“ฉันก็กินอาหารปกตินะคะคุณแม่”“แล้วนี่พอจะมีวี่แววว่าจะท้องบ้างรึเปล่าล่ะ”“เอ่อ...” ได้ยินคำถามนี้ทีไร มนตรามัจฉาเป็นต้องหน้าเจื่อนลงทุกทีไป“ทำหน้าแบบนี้ก็แปลว่ายังสินะ นี่ถ้าทำวิธีธรรมชาติแล้วยังไม่ท้องฉันว่าไปให้หมอช่วยดีไหม”มนตรามัจฉาได้แต่นั่งก้มหน้างุด เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องนี้ยังไง หรือเธอควรจะตัดสินใจพูดความจริงออกไป“อย่าว่าฉันกดดันเธอเลยนะ ฉันเองก็อายุมากขึ้นทุกวัน ยังอยากเลี้ยงหลานในตอนที่ยังมีกำลัง ถือว่าฉันขอเถอะนะ” นินันท์ดึงมือลูกสะใภ้มากุมเอาไว้ ทั้งยังออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน“ฉันจะพยายามนะคะคุณแม่” และแล้วสาวเจ้าก็ต้องตอบรับแม่สามีตามน้ำ ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวังของนินันท์นั้นทำให้เธอตัดความหวังและพูดความจริงไม่ออก“ดีแล้วล่ะ อีกอย่างนะ ถ้าจะเตรียมตัวท้องก็อย่าปล่อยให้ตัวเองผอมลงแบบนี้ เข้าใจรึเปล่า”“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะกินให้เยอะกว่าเดิม คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ”“นี่...อย่าคิดว่าฉันละลาบละล้วงเลยนะ ตาอัคทำการบ้านบ่อยหรื
“ทำไมคุณจะต้องสนใจมันออกหน้าออกตาขนาดนั้น”“ฉันไม่ได้ห่วงใครมากกว่าใครทั้งนั้นค่ะ ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณจะต้องพูดไม่ดีกับหมอภพทั้งที่เขาช่วยฉัน แล้วที่ฉันไม่ได้บอกคุณก่อนว่ารถเสียเพราะเห็นว่าทุกอย่างจัดการได้”“ทีหลังถ้าคุณจะให้คนช่วยต้องเป็นผมเท่านั้นเข้าใจไหม”“คุณไม่มีเหตุผล” สีหน้าของมนตรามัจฉาตอนนี่แสดงออกถึงความผิดหวังในตัวอัคคีเป็นที่สุด รู้ได้เลยว่าหากเธอยังคงต่อปากต่อคำกับคนที่กำลังเมาคงคุยกันไม่รู้เรื่อง เลยเลือกที่จะเดินหนี ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ปล่อยให้เธอได้หนีไปไหนไกลอัคคีคว้าหญิงสาวเข้ามากอด จากนั้นก็โน้มตัวไปจูบปากของมนตรามัจฉา “อื้อ...” ปึก พลั่ก มือเรียวทั้งทุบทั้งผลักคนตัวโตจนหนีออกมาจากอ้อมกอดและพันธนาการจูบของเขาได้“ทำอะไรของคุณ”“ก็คุณเป็นเมียผม ทำไมผมจะทำแบบนี้ไม่ได้”“ถ้าเมาแล้วเป็นแบบนี้คราวหน้าคราวหลังก็อย่าดื่มเลยค่ะ ลืมไปแล้วเหรอคะว่าเราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วร่างที่ฉันอยู่ตอนนี้ก็เป็นร่างของชมพู คุณไม่ควรล่วงเกินเธอ”“แต่ตอนนี้ผมรักคุณ! ผมรักคุณมนตรามัจฉา” เขารู้ทุกอย่างที่เธอพูด แต่ก็ทนที่จะทำเช่นเมื่อครู่ไม่ได้จริงๆ“คุณอัคคี...” มนตรามัจฉาพูดอะ
หลังมื้อเย็นที่พบปะกับพี่น้องเรียบร้อยแล้วมนตรามัจฉาก็ตรงไปยังห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองเพื่อหาของขวัญและอุปกรณ์ห่อของขวัญให้กับลออในวันเกิดที่จะถึง สาวเจ้าเดินไปยังโซนDIY เพราะรู้มาจากกรรณิกาว่าแม่ของเธอทำงานฝีมือเก่ง หากมีของให้ได้นั่งทำอะไรเพลินๆ ก็คงไม่ต้องไปยุ่งกับงานในร้านอาหารมากมายนัก“สวยๆ ทั้งนั้นเลย” สาวเจ้ามองเหล่าลูกปัดหลากสีด้วยแววตาเป็นประกายก่อนจะหยิบลงตะกร้า“คุณชมพู”สาวเจ้ารีบหันหลังกลับไปมองตามเสียงที่คุ้นหู “อ้าวหมอภพ ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ”“ผมมาหาซื้อไหมพรมไปให้คุณย่าครับ ไม่รู้ว่าคุณชมพูชอบของพวกนี้ด้วย”“ฉันมาหาซื้อเป็นของขวัญให้แม่กระถินค่ะ วันอาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดแม่กระถิน”“กระถินไม่เห็นบอกผมบ้างเลย”“กระถินบอกว่าจะโทรหาทุกคนช่วงใกล้วันค่ะ ฉันรู้จากกระถินว่าน้าลออชอบทำงสานฝีมือเหมือนกัน ฉันก็เลยหาซื้อของพวกนี้เป็นของขวัญ เผื่อว่าน้าลออจะนั่งทำของพวกนี้แทนไปออกแรงทำงานในร้านอาหารค่ะ”“คุณนี่ห่วงใยแล้วก็ใส่ใจคนอื่นที่หนึ่งเลยนะครับ” ดวงตาคมมองสาวเจ้าด้วยแววตาชื่นชมเป็นที่สุด“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณหมอมาซื้อไหมพรมให้คุณย่า แสดงว่าคุณย่าก็ชอบทำงานฝีมือเหมือนกันเห
สองสาวพากันมาที่วัดที่กันต์พลนั้นบวชอยู่ ทว่ามาถึงกรรณิกาก็ต้องผิดหวังเพราะไม่ได้เจอหลวงพี่ดั่งใจหมาย ด้วยเพราะพระหลวงพี่นั้นมีกิจนิมนต์ในหมู่บ้านอื่น ทั้งสองจึงได้แต่เข้าไปไหว้พระในโบสถ์ เสร็จแล้วจึงมานั่งให้อาหารปลาที่ศาลาริมคลอง“ฉันก็เพิ่งรู้เองนะพี่ชมพูว่าลุงบุญแกมีปมในใจเรื่องครอบครัว” กรรณิกาเปิดประเด็นพูดถึงบุญมีในขณะที่กำลังนั่งโปรยอาหารปลาข้างกับชมชีวัน“แกมีเรื่องอะไรในใจเหรอ”“ฉันคะยั้นคะยอถามแกว่าอะไรทำให้แกมั่นใจนักหนาว่าถ้าพี่กล้าเห็นฉันกับแม่ตายแล้วจะกลับตัวได้ แกก็เลยยอมเล่าให้ฟังว่าตอนที่เสียลูกกับเมียไปเพราะอยู่วงการการพนัน วินาทีนั้นแหละที่แกอยากจะย้อนเวลากลับไปเสียเหลือเกิน ถ้าแกย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ยุ่งกับการพนันแม้แต่อย่างเดียว ตอนนี้แม้กระทั่งหวยแกก็ยังไม่ซื้อเลยนะ แกบอกหาเงินด้วยหยาดเหงื่อแรงกายน่าภูมิใจกว่า”“อย่างนี้นี่เองแกถึงได้พูดนักหนาว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา” แม้นจะรู้ว่าชายสูงวัยเคยผ่านเรื่องราวอะไรมา ทว่ามนตรามัจฉาก็ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางถึงการกลับใจของบุญมี ที่แท้ชายสูงวัยอยากช่วยให้กันต์พลกลับใจได้เพราะกลัวว่าทุกอย่างมันจะสายเกินไปเหมือนเรื่องร
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนกว่าที่ทุกคนได้ทำหน้าที่ตามแผนเพื่อทำให้กันต์พลได้กลับตัว กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ทุกคนก็เสียน้ำตากันมาไม่น้อย โดยเฉพาะกรรณิกา ตอนที่แม่ของเธอเพิ่งจะกลับไปพักฟื้นที่บ้านก็มีพวกเจ้าหนี้ของกันต์พลที่ตามมาทวงหนี้ถึงบ้าน จนสุดท้ายกรรณิกาก็ต้องจำใจเล่าความลับที่ปกปิดกับคนเป็นแม่เอาไว้ให้แม่ของเธอได้ฟังจากสภาพร่างกายที่กำลังจะดีเป็นปกติและสภาพจิตใจที่ดีมากอยู่แล้ว เรื่องราววีรกรรมของกันต์พลก็ทำให้ลออต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ ยังดีที่ครั้งนี้กรรณิกามีเงินพอที่จะดูแลคนเป็นแม่ได้ ไม่เช่นนั้นเธอก็อาจจะต้องลำบากใจในการพาแม่เข้าโรงพยาบาลของอัคคีเมื่อลออเริ่มมีสภาพจิตใจที่เข้าแข็งขึ้นแล้ว เธอก็เป็นคนเอ่ยปากเองว่าอยากจะช่วยทุกคนทำให้ลูกของเธอกลับใจ คำพูดของลออเสมือนทางสว่างที่ทำให้บุญมีได้เอ่ยแผนสุดท้ายออกมา เพราะเขาคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องการให้ลออและกรรณิกาเป็นตัวละครสุดท้ายที่จะทำให้กันต์พลกลับใจหลังจากที่บุญมีทำให้กันต์พลหมดตัวได้อีกครั้ง และเขาก็เฉลยความจริงให้กันต์พลได้รู้ว่าบ่อนการพนันมีกลโกงมากมายที่จะทำให้นักพนันเสียเงินจนหมดตัว จากนั้นเขาก็ให้โรมทำหน้
“ดูเหมือนของตลาดนัด มันมีดีอะไรที่แพทริคจะยอมจ่ายไม่อั้น” ศาสตรากำลังคิดว่าของชิ้นนี้มันน่าจะไม่ธรรมดาเหมือนกับรูปร่างของมันเสียแล้ว“คุณพ่อกำลังคิดอะไรอยู่ครับ” เมฆินหรือจะมองไม่ออกว่าคนเป็นพ่อต้องการรู้ความลับของของในรูปมากกว่านี้“ถ้ามันมีมูลค่าจนแพทริคอยากจ่ายไม่อั้น มันมีสรรพคุณอะไรกันแน่”“ผมเองก็คิดเหมือนคุณพ่อครับ”ขณะที่สองคนพ่อลูกกำลังง่วนกับการมองภาพในกระดาษ อาจารย์สินพร้อมกับลูกชายและเอี้ยงก็ได้เข้ามาในห้อง“นายครับ ของที่นายอยากได้ผมหามาให้แล้วครับ”“ไวดีนี่” ศาสตราวางกระดาษในมือและรับเครื่องประดับโบราณที่สั่งให้สมุนของเขาไปขุดตาเป็นประกาย เพราะของชิ้นนี้จะทำให้เขาได้เงินเข้ากระเป๋าอีกหลายล้าน เขาคิดไม่ผิดจริงๆ ที่เสี่ยงเลี้ยงหมอผีเอาไว้“ตอบแทนที่นายให้ที่พวกผมอยู่ครับ ไม่ว่าจะงานยากงานง่ายพวกผมพร้อมทำให้นายได้ทุกอย่าง” อาจารย์สินพร้อมทำทุกอย่างเพื่อศาสตรา เพราะเขาและลูกชายพร้อมกับเอี้ยงรอดจากเงื้อมมือตำรวจได้ก็เพราะบารมีของศาสตรา อีกทั้งอยู่ที่นี่เขาก็ยังสุขสบาย เพียงแค่ต้องทำหน้าที่ให้โหงพรายไปตามหาของโบราณเอามาขายในตลาดมืดเท่านั้น“นั่นมัน” สายตาของเสือตอนนี้ไปบรรจบอย