LOGIN
หญิงสาวในชุดมินิเดรสเกาะอกสีดำ ด้านหลังเป็นสายสลับไคว้กันไปมา ขับผิวขาวได้อย่างมีออรา แววตาอันเศร้าแต่พยายามฝืนยิ้มอย่างไม่คิดอะไร สะท้อนกับประกายของนีออนหลากสีที่ทอแสงระยิบระยับในผับดังแห่งหนึ่ง
ขณะที่กำลังก้าวลงจากเก้าอี้เพื่อไปเข้าห้องน้ำ สายตาก็ปะทะเข้ากับอดีตแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกลากันไปเมื่อช่วงบ่าย เขาควงผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นมือที่สาม เข้ามานั่งที่โต๊ะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเคาน์เตอร์บาร์ที่เธอนั่งอยู่
หึ ตลกดีใช่ไหม
วันนี้ควรจะเป็นวันที่ทั้งสองพากันไปกินมื้อค่ำอย่างมีความสุข เนื่องจากครบรอบสองปีของการคบกัน แต่ทว่าพอไปหาเขาที่คอนโดโดยไม่ได้บอกเวลาล่วงหน้า เปิดประตูเข้าไปในห้องโถงกลับว่างเปล่า แต่สองหูนั้นได้ยินเสียงกระเส่าดังออกมาจากในห้องนอนไม่ผิดแน่
อกข้างซ้ายพลันเต้นเร็วด้วยความลุ้นระทึกพร้อมกับมือที่สั่นเทาเปิดประตูเข้าไป ก็จับได้คาตาว่าเขากำลังนอนเอากับผู้หญิงอีกคนอยู่ ทว่ากลับเป็นเธอที่ถูกบอกเลิกก่อน เพียงเพราะไม่ยินยอมให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการสักที
คำว่าเล่นตัวยังดังกึกก้องอยู่ในโสตประสาทราวกับเขามายืนพูดซ้ำ ๆ อยู่ข้างหู
ภาพบัดสีที่ทำลายหัวใจจนแหลกสลาย ความรักที่ทุ่มเทไปกลับกลายเป็นศูนย์ คนรักที่วาดฝันว่าจะจับมือกันเรียนจนจบ แล้วเขาจะให้พ่อแม่ไปสู่ขอได้พังทลายลง
ทำให้ปลายฟ้าเลือกจะพึ่งพาน้ำสีอำพัน เผื่อจะทำให้ลืมช่วงเวลาอันเจ็บปวดนี้ไปได้บ้าง
ในขณะดวงตาไหววูบที่เต็มไปด้วยร่องรอยของคราบน้ำตาที่ร้องไห้มาอย่างหนักก่อนจะออกมาดื่ม ลอบมองไปยังคนที่นั่งอยู่ไม่ไกล แต่ทว่าเขากลับยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบบางอย่างกับสาวข้างกาย หอมแก้มหล่อนไปฟอดหนึ่งให้เธอช้ำใจ แล้วเขาก็ลุกออกจากโต๊ะเดินตรงเข้ามา
“เธอสวยขึ้นนะ ถ้าอยู่กับพี่แต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้และยอมให้พี่หน่อย เราก็คงไม่เลิกกัน”
แฟนเก่าของเธอมีชื่อว่าเอเดน ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนหลงผู้ชายคนนี้เข้าไปได้อย่างไร แต่ละคำที่ได้ฟังวันนี้มันทำให้รู้ว่าเขามันเห็นแก่ตัว น่ารังเกียจ และน่าขยะแขยงมากแค่ไหน
“เข้ามาหาคนรักเก่าแบบนี้ เมียพี่ไม่ว่าเหรอ”
เรียกว่าเมียก็คงไม่ผิดอะไร ขนาดเธอเปิดประตูเข้าไปเจอว่ากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่ก็ยังไม่สนใจ เอากันต่อได้หน้าตาเฉยไม่ต่างจากสัตว์ที่กำลังผสมพันธ์กันกลางถนนอย่างไม่แคร์สายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมา
“ไม่ว่าหรอก เบลล์ไม่ได้เป็นคนใจแคบ ถ้าเธอเปิดใจจะกลับมาหาพี่ก็ได้นะ ลองนอนกับพี่ดูสักครั้ง ไม่แน่ว่าอาจจะติดใจจนลืมไม่ลง”
“นี่ถึงฤดูผสมพันธุ์แล้วเหรอ เมื่อเช้ายังเอากับอีกตัวอยู่เลย”
เธอเอ่ยกับอดีตคนรักด้วยน้ำเสียงไม่เกรี้ยวกราด แต่ทว่าเต็มไปด้วยความหยาบกระด้าง ต่อว่าและเปรียบเปรย ริมฝีปากสีแดงยกยิ้มเหยียดคนคุ้นเคยราวกับเป็นเกราะป้องกันความรู้สึกที่แท้จริง
“มากไปแล้วนะปลายฟ้า”
เขาไม่ว่าเปล่า ยังคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ในกำมือแน่น กัดกรามจ้องอดีตแฟนสาวปากดีอย่างไม่วางตา เมื่อก่อนเธอเป็นคนอ่อนหวาน ช่างเอาอกเอาใจ ทว่าคืนนี้กลับกล้าด่าทอเขาเหมือนหมาตัวหนึ่ง
“เลิกกันแล้วก็อย่ามายุ่งกับฉันอีก ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ปล่อย”
“เธอบอกให้ปล่อยไม่ได้ยินหรือไงวะ”
ผัวะ! ผัวะ!
น้ำเสียงทุ้มแฝงไปด้วยความเยือกเย็นดังขึ้น แล้วชายคนหนึ่งที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ก็กระชากคอเสื้อของเอเดน ต่อยเข้าที่ข้างแก้มไปสองหมัดจนล้มลงไปกองกับพื้น
เอเดนใช้หัวแม่มือปาดคราบเลือดตรงมุมปาก เงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามาแส่เรื่องชาวบ้าน แถมยังทำร้ายเขาจนเลือดตกยางออก แล้วผู้หญิงที่เขาควงมาก็รีบวิ่งเข้ามาประคองลุกขึ้น
คืนนี้ไอดินนัดกับกลุ่มเพื่อนออกมาดื่ม ทว่าโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ดันติดกับโต๊ะของเอเดน ทำให้ได้ยินและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ประจวบเหมาะกับวันนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี อยากหาที่ระบายอยู่พอดี จึงเป็นอย่างที่เห็น
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา ทว่ากลับมีแววตาที่แฝงไปด้วยความเย็นชา คว้าข้อมือของปลายฟ้า รั้งให้เธอเข้ามาหลบอยู่ด้านหลังราวกับต้องการปกป้อง หญิงสาวก็ขยับตามการชี้นำอย่างว่าง่ายแม้จะอยู่ในอาการตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“มึงกล้าต่อยกูเหรอ อยากมีเรื่องนักใช่ไหม” เอเดนชี้หน้าหาเรื่อง
“หึ ก่อนมึงจะหาเรื่องใคร หัดนับดูก่อนว่ามีกี่ตีน ไอ้กากเดน”
น้ำเสียงน่าเกรงขามของไอดินดังขึ้น ในขณะที่มือหนายังไม่คลายออกจากข้อมือของหญิงสาว เขาได้ยินชื่อของคนโดนต่อยอย่างชัดเจน แต่กลับตั้งใจเรียกว่ากากเดนให้อีกฝ่ายคับแค้นใจ
เอเดนสอดสายตามองผ่านไปทางด้านหลัง เห็นชายฉกรรจ์ที่อยู่ในชุดสูตสีดำสองสามคนยืนจ้องมายังกลุ่มของพวกเขา อีกทั้งพวกเพื่อนของไอ้คนสาระแนก็กรูกันเข้ามา บ้างก็ยืนกอดอก บ้างก็ยกแขนพาดไหล่ แสยะยิ้มให้อย่างไม่เกรงกลัว แล้วก็ดันมีกันหลายคน ถ้ามีเรื่องไปคนที่ซวยก็คงจะเป็นเขา เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วจึงเลือกจากไปเสียดีกว่า
“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เด็กเมื่อวานซืน” เอ่ยจบเอเดนก็โอบไหล่สาวมือที่สามเดินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
“แค่โดนผู้ชายทิ้ง มันอาจจะเจ็บ แต่คงไม่ถึงตายหรอก”
ถ้อยคำหลอกด่าทว่าแฝงไปด้วยความนัยคล้ายกับกำลังเตือนสติดังขึ้น เขาเห็นเธอตั้งแต่เข้ามานั่งดื่มตามลำพัง จนกระทั่งเกิดเรื่อง ถึงได้รู้ว่าทำไมเธอถึงมีแววตาเศร้าโศกดั่งคนหมดอาลัยตายอยาก อีกทั้งรอบดวงตายังบวมช้ำราวกับผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
หญิงสาวยืนนิ่งไม่ตอบอะไร เมื่อครู่เธอเข้มแข็งโต้กลับอดีตแฟนหนุ่มไปอย่างนั้น ทว่าในใจกับเจ็บปวดรวดร้าวไม่ต่างจากโดนหนามแหลมทิ่มแทง ปลายฟ้าช้อนดวงตาที่ไหววูบขึ้นมองใบหน้าของหนุ่มหล่อด้วยอาการจุกที่หน้าอก ตอนนี้เธออยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก จะให้ทำตัวเข้มแข็งก็ฝืนทำไม่ได้
และไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจให้เธอเอ่ยความต้องการบางอย่างออกไปราวกับคนสิ้นคิด
“วันไนต์กันไหม”
ในเมื่อความรักดี ๆ ดันมอบให้ผิดคน และสิ่งที่ได้รับกลับมานั้นก็คือความชอกช้ำ จากนี้ไปเธอจะไม่ขอมอบหัวใจให้ใครอีก
แค่เอากันเล่น ๆ อย่านึกว่าผู้หญิงทำไม่เป็น
“ห้ามจูบ ห้ามกอด ห้ามนอนค้าง จะไปกับฉันไหม”
และนี่ก็คือกฎที่เธอตั้งขึ้นมาให้กับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่กำลังจะเกิดขึ้น
หลังเรียนจบไอดินก็ได้ควงแฟนสาวที่เขารักมากเข้าร้านตัดชุดแต่งงาน และถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ทั้งสองเลือกวิวริมทะเล พร้อมกับรถคู่ใจของชายหนุ่มรถหรูเปิดประทุนสีแดงได้จอดอยู่บนถนนริมชายหาดซึ่งเป็นบ้านของคุณปู่คุณย่าของปลายฟ้า วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่ก็ยังมีสายลมพัดให้ความเย็นตลอดเวลาว่าที่เจ้าสาวอยู่ในชุดกระโปรงคอกว้างลายลูกไม้สีขาว แหวกช่วงล่างขึ้นมาถึงกลางหน้าขา สวมรองเท้าส้นสูงสีขาวเข้ากับชุด นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับที่มีว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อของเธอสวมชุดสูตสีดำ เสื้อเชิ้ตด้านในสีขาว เซ็ตผมเป็นทรงอย่างดูดี“เจ้าบ่าวโอบไหล่เจ้าสาวหน่อยครับ แล้วก็หันมองหน้ากัน”เสียงช่างภาพบอกให้ทั้งคู่ปรับเปลี่ยนท่วงท่า ก่อนจะกดชัตเตอร์เก็บภาพคู่รักหวานแหววหลายภาพ เพื่อเป็นหลักฐานว่าพวกเขานั้นรักกันมากแค่ไหน ผ่านท่าทางและแววตาที่ฉายออกมามองกันและกันแม่ของไอดินได้หาฤกษ์แต่งงานเอาไว้ ก็คืออีกสองเดือนข้างหน้า เนื่องจากลูกชายแสดงเจตนารมณ์มานานว่าถ้าเรียนจบแล้ว ให้ผู้เป็นแม่ไปสู่ขอว่าที่ลูกสะใภ้ทันทีพอใกล้จะถึงวันงาน ไอดินและปลายฟ้าก็ได้ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ เพื่อเป็นการดื่มสละโสดที่เลานจ์แห่งหนึ่ง โดยจองห้องวี
ในช่วงปิดภาคเรียนชั้นปีที่สาม ไอดินและปลายฟ้าก็ได้พากันมาพักผ่อนที่บ้านสวนผู้เป็นแม่ สถานที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมากในช่วงเย็นของวันปลายฟ้าก็ได้เข้าไปช่วยงานในครัว โดยที่แม่ของ แฟนหนุ่มรับหน้าที่ทำอาหาร ส่วนเธอก็คอยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่างกับข้าวที่ทำเสร็จก็ถูกนำไปจัดเรียงไว้บนโต๊ะอาหาร มีทั้งอาหารคาวหวานหลากหลายเมนู เพื่อต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้ที่เปิดใจคบกับลูกชายอันเป็นที่รัก และดูเหมือนความรักของหนุ่มสาวยังคงหวานไม่เคยเปลี่ยน“ไอดินตักน้ำชุบหยำให้หนูปลายฟ้าลองชิมดูสิลูก” กานดาเอ่ยกับลูกชายน้ำชุบหยำก็คือน้ำพริกกะปิที่ใส่กุ้งสด แม่ของชายหนุ่มตั้งใจทำสุดฝีมือ จึงอยากให้ไอดินใช้โอกาสนี้เอาใจด้วยการตักอาหารให้แฟนสาว“ครับแม่” เขาทำตามที่ผู้เป็นแม่บอกด้วยความเต็มใจ“แซ่บมากเลยค่ะคุณแม่”ปลายฟ้าตักอาหารเข้าปากพร้อมกับข้าวสวย รสชาติเผ็ดพอดี กุ้งก็หวานลงตัว เธอชอบรสชาติอาหารของแม่แฟนหนุ่มทุกเมนูเลยก็ว่าได้หนุ่มสาวต่างอมยิ้มหันจ้องมองกันสลับกับอาหารตรงหน้า โดยอยู่ในสายตาของกานดาตลอดเวลาโชคดีที่มีปลายฟ้าเข้ามาในชีวิตของไอดิน ลูกชายของเธอจึงแลดู
หลังจากสอบเสร็จและปิดภาคเรียน ไอดินกับปลายฟ้าที่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วก็ต้องแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเองสองอาทิตย์ต่อมาหลังจากที่ไอดินกลับมานอนที่คฤหาสน์กานดาเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของสามี ยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะทำงานหลังใหญ่ อิทธิกรที่นั่งอยู่เก้าอี้ล้อเลื่อนสีดำขลับก็หยิบขึ้นมาเปิดดูสิ่งที่อยู่ในซอง แต่ก็ต้องขมวดคิ้วรีบเงยหน้ามองภรรยา“นี่มันอะไรกัน คุณจ้างนักสืบตามผมเหรอ”สิ่งที่อยู่ในซองคือภาพถ่ายของอิทธิกรกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า คงจะเป็นคนที่เขาอ้างว่าจ้างมาเอนเตอร์เทน แต่หารู้ไม่ว่าเธอไม่เคยเชื่อ นับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลครั้งล่าสุด กานดาก็ได้มีการติดต่อทนาย จ้างนักสืบ เพื่อหาหลักฐานเหล่านี้มาเป็นข้อต่อรอง“ฉันต้องการหย่า”“ไม่ ผมไม่หย่า ถ้าหย่ากันแล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”“ก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ ผู้หญิงพวกนั้นคงเฝ้ารอวันนี้อยู่ คุณจะได้พาเข้าบ้านหลังนี้ได้อย่างสบายใจ จะพามากี่คนก็แล้วแต่ ฉันไม่สนเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าคุณไม่ยอมฉันก็จะฟ้องหย่า รวมถึงฟ้องชู้ด้วย”“คุณกล้าทำแบบนี้กับผมได้ยังไงกานดา เมื่อก่อนครอบครัวคุณเป็นหนี้ตั้งกี่ล้าน พ่อแม่ผมสงสารถึงได้ยอมให้
ดูเหมือนว่าปลายฟ้าจะรับรู้สิ่งที่ไอดินกำลังคิด จึงเอ่ยอธิบาย“เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าจะทำให้ใครสักคนรัก เอาอกเอาใจ ดูแล และไม่จากฉันไปไหน แต่ฉันจะไม่ให้ความรักกลับคืนไปเด็ดขาด แต่แล้วพอนายเข้ามาก็ทำลายกฎที่ตั้งไว้ทุกข้อ นายเป็นของตายที่ฉันขาดไม่ได้ ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้วล่ะ ฉันอยากเปิดใจอีกสักครั้งแล้วลองคบกับนาย เรามาเป็นแฟนกันนะ”ปลายฟ้าเผยรอยยิ้มอย่างมีความหวังว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ หัวใจดวงน้อยก็เต้นตึกตักรอฟังคำตอบ“ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม”“อื้ม เรื่องแบบนี้ใครจะล้อเล่นกัน”ไอดินโผเข้าสวมกอดสาวรุ่นพี่ ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มดีอกดีใจ ก่อนจะผละอ้อมกอดออกจากกัน เลื่อนมือหนาขึ้นไปลูบพวงแก้มอมชมพูของเธอ“เป็นแฟนกันแล้วนะครับ งั้นผมเปิดตัวกับคนอื่นได้แล้วใช่ไหม”“อือ” เธอขานรับในลำคอพร้อมกับพยักหน้าด้วยรอยยิ้มหวานไอดินเชยปลายคางของเธอขึ้น ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบกับริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รีอย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการขอบคุณที่เธอยอมเปิดใจคบกัน เพียงชั่วครู่เขาก็ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง“ไม่เจอกันนาน คิดถึงผมไหม”“คิดถึงสิ อย่าหายไปแบบนี้อีกนะ”“ต่อไปจะไม่หายไปไหนแล้วครับ”ปลายฟ้ารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
สุดสัปดาห์ของอาทิตย์ต่อมาคืนนี้สามสาวชวนกันไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง จึงนัดกันใส่ชุดกระโปรงทรงสั้นแบบเซ็กซีไว้อวดผิวขาว ๆ ปลายฟ้าจึงหยิบเสื้อหนังสายเดี่ยว มีสายห้อยคอ แต่งดีเทลผูกสายด้านหน้าขึ้นไปมัดตรงหน้าอก สวมคู่กระโปรงยีนส์สีสนิม และรองเท้าส้นสูงสีดำรถของเธอขับเข้าไปจอดที่ลานจอดรถ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอันนาเพื่อบอกว่ามาถึงแล้ว“ฮัลโหล พวกแกอยู่ไหนกัน”(เดินเข้าประตูมาแล้วเลี้ยวซ้าย พวกฉันนั่งอยู่โต๊ะริมผนัง ถ้านับจากที่แกเดินมาก็ประมาณโต๊ะที่เจ็ด)“ฮะ อะไรนะ”ปลายฟ้าถามย้ำอีกครั้งขณะก้าวเดินไปยังทางเข้า เนื่องจากด้านในเสียงเพลงค่อนข้างดัง ทำให้ได้ยินไม่ค่อยถนัด(เดินเข้ามาเลี้ยวซ้าย นับมาโต๊ะที่เจ็ด)“โต๊ะที่เจ็ด โอเค”หญิงสาวเข้าประตูไปก็เลี้ยวไปยังทางเดินด้านซ้ายมือ ก่อนจะนับจำนวนโต๊ะตามที่เพื่อนบอก ก็เจอกับเพื่อนรักทั้งสองที่สั่งเหล้าเอาไว้รอแล้ว“เซ็กซีมากจ้า หนุ่ม ๆ มองตอนแกเดินเข้ามากันเป็นแถว”ซัมเมอร์เอ่ยแซวเพื่อนรัก ไม่ว่าจะเป็นชุดแบบไหน ปลายฟ้าก็เอาอยู่ทั้งนั้น“มาถึงกันนานรึยัง”“ก็ถึงก่อนหน้าแกสักสิบนาทีนี่เอง” อันนาตอบระหว่างนั่งอยู่ก็มีหนุ่มหล่อทั้งวัยเรียนและว
ปลายฟ้าสะดุ้งตื่นก่อนนาฬิกาปลุกจะดังประมาณสิบห้านาที ในขณะที่ดวงตายังคงปิดอยู่ ริมฝีปากสวยก็เผยรอยยิ้มเล็กน้อยต้อนรับเช้าวันใหม่ มือเล็กกระชับผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเนื่องจากยังอยู่ในสภาพเปลือยกาย พอตะแคงข้างวาดวงแขนคล้ายจะกอดคนที่นอนด้วยกัน ทว่ากลับพบแต่ความว่างเปล่าจึงลืมตาขึ้นแต่ก็ไม่พบใครหญิงสาวไม่ได้ร้องเรียก เขาเป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร อยากมาก็มา จะไปก็ไป ผิดแต่ครั้งนี้เธอแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะนอนด้วยกันจนถึงเช้าอาบน้ำเสร็จ เธอก็ออกมาแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา ก่อนจะมาหาอะไรในครัวทำแบบง่าย ๆ สำหรับมื้อเช้า หลังจากนั้นก็ออกจากคอนโดเพื่อไปเรียน“เป็นอะไร ดูเหม่อ ๆ”ซัมเมอร์เอ่ยขึ้นขณะที่กำลังฟังอาจารย์สอน แต่ว่าเพื่อนรักดูใจลอยเหมือนไม่มีสมาธิเรียน“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”แม้ปากจะปฏิเสธ ทว่าในสมองที่ไม่สามารถเปิดรับสิ่งที่อาจารย์อธิบาย กลับเผลอคิดเรื่องอย่างอื่นเขาเป็นอะไรหรือเปล่า คิดมากเรื่องทางบ้านเหรอ ถึงได้ออกจากห้องไปโดยไม่บอกเธอสักคำ และไม่รู้ว่าวันนี้มาเรียนไหมทางด้านไอดินหลังจากเขาตื่นอยู่บนโซฟาที่ห้องเพื่อน ก็ขอตัวกลับคอนโดตนเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าประมาณสิบโมงก็ไ







