LOGINหลายอาทิตย์ต่อมา
“พี่รหัสมึงมาอีกละ”
เสียงของปอนด์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามมารีนเอ่ยขึ้น พลางพยักเพยิดใบหน้าไปทางด้านหลังของเธอ ขณะนี้พวกเขาทั้งสามคนกำลังกินมื้อเที่ยงที่โรงอาหารของคณะ ทว่าหนุ่มรุ่นพี่ก็มักจะแวะเวียนมานั่งร่วมโต๊ะด้วยทุกครั้งที่มีโอกาส
“กำลังนั่งกินกันใช่ไหมครับ พี่ขอนั่งด้วยนะ”
นอร์ทเอ่ยด้วยรอยยิ้ม และไม่ต้องให้คนที่เขาเอ่ยปากถามอนุญาต ชายหนุ่มก็หย่อนก้นลงนั่งข้างมารีนทันทีที่พูดจบ
“มาทุกวันไม่เบื่อบ้างเหรอพี่” คูเปอร์เอ่ยถามรุ่นพี่
“ไม่หรอก” นอร์ทเอ่ยตอบ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับสาวข้างกาย
มารีนเห็นแล้วก็ลอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่สายรหัสคงได้โดนเธอไล่ตะเพิดเหมือนกับคนอื่น ๆ ทั้งที่เธอก็ไม่เคยให้โอกาส แถมยังปฏิเสธทุกครั้งที่เขาชวนไปเลี้ยงข้าว ทว่านอร์ทก็ยังไม่ถือสาและเข้าหาเธอทุกครั้งที่พบเจอกัน
“พี่ได้ยินพวกชมรมจิตอาสาจะไปออกค่ายกัน น้องมารีนไปด้วยกันไหมครับ”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้ใจบุญขนาดนั้น” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน
“ลองดูก็ได้นะครับ เผื่อจะติดใจปีหน้าอยากไปอีก พี่เคยออกค่ายปีละสองสามครั้ง ถือว่าได้ไปเที่ยวด้วย” นอร์ทยังคงพูดต่อ
“ถ้าพี่อยากไปก็ไปสิคะ ฉันไม่ได้อยากไปเที่ยวสักหน่อย”
“โอเคครับ พี่ไม่เซ้าซี้แล้วก็ได้ เอาไว้เราค่อยนัดกันวันหลัง”
“แล้วแต่พี่เถอะค่ะ”
ปอนด์และคูเปอร์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เงยหน้าขึ้นมองสองคนนี้พูดคุยกัน พร้อมกับตักข้าวใส่ปากไปด้วย คนหนึ่งก็พยายามเข้าหา อีกคนก็ปิดกั้นทุกทางเพราะไม่อยากให้ความหวัง เห็นแล้วก็ไม่รู้ว่าควรเห็นใจใครดี
ทางด้านวายุ
“ไปออกค่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับพี่ไหม”
กอหญ้า รุ่นพี่สาวสวยดีกรีดาวคณะปีสอง เรียนสาขาเดียวกันกับวายุ หลังจากเรียนเสร็จเธอก็เจอเขาที่ลานจอดรถด้านหลังตึกคณะจึงได้เดินเข้าไปหา
เมื่อไม่กี่วันก่อนทางชมรมจิตอาสาได้มีการประกาศรับสมัครนักศึกษาไปร่วมออกค่ายที่จังหวัดหนึ่ง เพื่อช่วยกันเก็บขยะริมชายหาด และยังมีกิจกรรมสานสัมพันธ์อื่น ๆ ให้ร่วมสนุกกันแบบสองวันหนึ่งคืน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยที่พวกเธอเรียนก็ได้รณรงค์ให้พี่น้องสายรหัสชวนกันทำความดี เธอเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ชวนวายุไปออกค่าย และยังถือโอกาสไปเที่ยวทะเลด้วยกันจึงได้ลองมาชวนดู
“ก็ได้ครับ”
กิจกรรมที่ว่านี้จัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า วายุเห็นว่าสอบเสร็จพอดีและเขาเองก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน นอกจากหมกตัวอยู่เพนท์เฮาส์ ไม่ก็กลับไปนอนที่คฤหาสน์ของครอบครัวจึงได้ตอบตกลง
“น่ารักมาก ให้มันได้แบบนี้สิน้องรหัสของพี่ เอาไว้เราค่อยคุยรายละเอียดกันนะ พี่ขอตัวก่อน”
“ครับ”
กอหญ้าโบกมือล่ำลาให้หนุ่มรุ่นน้องพร้อมกับรอยยิ้มหวาน คราแรกก็คิดว่าวายุจะปฏิเสธเสียอีก เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวเงียบ ถ้าไม่สนิทกันจริง ๆ ก็แทบจะนับคำพูดได้เลย แต่นี่เขากลับยินยอมไปทำกิจกรรมร่วมกับเธอ ทำให้สาวรุ่นพี่ดีใจเป็นอย่างมาก
“ไอ้วา เมื่อกี้มึงคุยกับใคร”
มารีนที่เพิ่งเดินมาถึง และเห็นแผ่นหลังของผู้หญิงรูปร่างสมส่วน เพิ่งคุยกับเขาเสร็จแล้วเดินออกไป เธอเลยไม่ได้เห็นหน้าว่าเป็นใครกันที่ยืนคุยกับเพื่อนชายอยู่นาน
“นั่นพี่กอหญ้า”
“รู้จักกันได้ไง หรือว่ามาจีบมึงเหรอ”
“ป่าว เป็นพี่สายรหัสน่ะ มาชวนไปออกค่ายอาสา”
“แล้วมึงตอบว่าไง”
“ก็ตอบตกลง”
“ทำไมมึงใจง่ายแบบนี้วะ ใครมาชวนก็ไปด้วยหมดเลยเหรอ”
มารีนเผลอทำหน้าแง่งอน คำตอบของเขานั้นไม่ถูกใจเธอเลย ทำไมเขาถึงไม่ปฏิเสธ แต่จะว่าไปเพื่อนก็ไม่ได้ไปทำอะไรเสียหาย แค่ไปออกค่ายอาสาด้วยกันเท่านั้น
เอ๊ะ! ค่ายอาสา
ขณะที่ในหัวกำลังใช้ความคิดทั้งต่อว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า และพยายามทำความเข้าใจ มารีนก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนกลางวันพี่สายรหัสของเธอก็มาชวนไปออกค่ายเหมือนกัน แสดงว่าใครก็ไปได้ทั้งนั้น
“ถ้างั้นกูจะไปด้วย”
วายุมองเพื่อนสาวอย่างเป็นคำถาม แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป แล้วเธอก็เป็นฝ่ายพูดต่อ
“กูก็แค่อยากไปทำความดีบ้างไม่ได้หรือไง หรือว่ามีแค่มึงกับพี่รหัสของมึงที่ไปกันได้แค่สองคน”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากไปก็ไปดิ”
“รีบกลับได้แล้ว อย่าลืมแวะร้านเบเกอรีก่อนถึงคอนโดให้ด้วย กูอยากกินบราวนี่ แล้วก็เค้กนมสด”
มารีนเอ่ยพลางคว้าข้อมือของเพื่อนตัวสูงเข้ามากอบกุม ออกแรงรั้งให้เดินตามกันไปที่รถของวายุ พร้อมเอ่ยถึงสิ่งที่ต้องการออกมา
*****
มาถึงวันออกค่ายอาสา
วายุเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้จำเป็น ก่อนจะคว้ากุญแจรถเฟอร์รารีคันสีเหลือง เดินทางออกจากเพนท์เฮาส์แต่เช้าเพราะต้องไปแวะรับเพื่อนสาวก่อนจะออกเดินทาง
“เปลี่ยนรถคันใหม่อีกละ”
มารีนเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถก็หันไปเอ่ยถามเพื่อนสุดหล่อที่วันนี้แต่งตัวด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีน ดูเหมือนจะเป็นชุดธรรมดา แต่ทว่าราคาเสื้อผ้าแต่ละชิ้นนั้นหลักหมื่นขึ้นทั้งนั้น แถมยังเซตผมเป็นทรงพร้อมกระชากใจสาว ๆ เมื่อได้พบเจอ รวมถึงเรียกสายตาของเธอให้เผลอมองจนตาค้างอย่างลืมตัว
“คาดเข็มขัดด้วย”
“...”
วายุจ้องเข้าไปในดวงตาของเพื่อนสาวที่มองเขาตาไม่กระพริบ จึงถือวิสาสะเอื้อมมือเข้าไปดึงเข็มขัดนิรภัยแล้วคาดให้กับเธอ และเมื่อดวงตาคู่หวานเห็นใบหน้าหล่อเลื่อนผ่านในระยะใกล้ก็แทบลืมหายใจ เบิกตากว้าง ใบหน้าร้อนผ่าว พลันทำให้อกข้างซ้ายเต้นแรงขึ้นมา พอเขากลับไปนั่งที่เดิมเธอถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมา
“เป็นอะไร พูดด้วยก็ไม่ตอบ หน้าดูแดง ๆ นะ มึงไม่สบายเหรอ”
“ปะ เปล่า เรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวพวกรุ่นพี่จะรอ”
“ไม่ต้องรีบหรอก กูขับรถไปเอง”
เนื่องจากไม่ได้มีข้อบังคับว่าจะต้องเดินทางด้วยรถบัสที่ทางชมรมจัดเตรียมเอาไว้ให้ เขาจึงตั้งใจจะขับรถพาเพื่อนสาวเดินทางไปกันเอง แล้วไปเจอกับกลุ่มจิตอาสาที่นั่นเลย
รถหรูเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็ว เวลาผ่านไปสองชั่วโมงครึ่งก็ทำให้ทั้งสองเดินทางไปถึงทะเลก่อน และคำนวณจากเวลาที่รสบัสของกลุ่มจิตอาสาจะมาถึง ก็คงไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง จึงได้มองหาร้านอาหารแถวนั้นและพามารีนไปนั่งกินข้าวกันก่อน
“อื้ม อร่อย แต่น้อยกว่าร้านของคุณยายนิดนึง”
คุณยายที่ว่าก็คือมารดาของคุณแม่ของเธอ และหลานสาวเจ้าของร้านอาหารริมชายหาดภาคใต้ ได้มาชิมอาหารของร้านริมทะเลแถบภาคกลางตอนล่างก็รับรู้ได้ถึงรสชาติของอาหารที่ถูกปาก และทำให้คิดถึงรสมือของผู้เป็นยายอยู่ไม่น้อย
“ไปกินร้านไหนบ้างแล้วบอกไม่อร่อย” เสียงทุ้มเอ่ยแซว
แม้มารีนจะถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีไม่ต่างจากเขา แต่เธอก็เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย และทุกร้านทุกเมนูที่ทั้งสองได้ไปนั่งกินด้วยกัน เพื่อนสาวก็บอกว่าอร่อยทั้งนั้น ไม่แปลกที่จะมีรูปร่างแบบมีน้ำมีนวล ไม่ผอมแห้งหรืออวบอั๋นจนเกินไป
“ไอ้นี่ก็แซวอยู่ได้ กินข้าวไปเลยไป”
เธอว่าพลางตักอาหารที่อยู่ตรงหน้าวางลงในจานของวายุ เพื่อให้เขาก้มหน้ากินข้าวแทนการโต้แย้งเธอ หลังจากกินอิ่มก็ได้เวลาไปรวมกลุ่มกับนักศึกษาคนอื่น ๆ ที่คงใกล้จะเดินทางมาถึงกันแล้ว
เก้าเดือนต่อมาหลังเรียนจบวายุก็ได้ปรึกษาผู้เป็นพ่อและแม่เรื่องขอหมั้นหมายกับแฟนสาว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างก็รับรู้ว่าทั้งคู่นั้นอยู่ด้วยกันมาแล้วประมาณสองปีกว่า ทว่ายังไม่ถึงวันรับปริญญาซึ่งก็คงอีกแรมปีกว่าสภาจะอนุมัติจบการศึกษา เขาจึงไม่อยากรอฤกษ์แต่งงานที่ยังไม่มีกำหนดพิธีหมั้นได้ถูกจัดขึ้นที่รีสอร์ตของครอบครัวหญิงสาว มีเพียงญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาร่วมเป็นสักขีพยานรักและความซื่อตรงที่วายุมีให้ต่อมารีน ในงานหมั้นตลบอบอวนไปด้วยความอบอุ่น ทุกคนต่างมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าด้วยความยินดีแม้จะเป็นเพียงพิธีเล็ก ๆ ที่ฝ่ายชายอยากมอบความมั่นคงและอยากให้ทางฝ่ายหญิงเชื่อมั่นเชื่อใจ ว่าเขาจะมีเพียงเธอคนเดียวตลอดไป แต่ทว่ากลับเต็มไปด้วยความสุขของคู่หมั้นหมายและผู้มาร่วมงาน“ลูกชายของดิฉันใจร้อนอีกแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะ เพิ่งจะเรียนจบกันได้ไม่ถึงอาทิตย์เลย”นับดาวเอ่ยขอโทษปลาดาวแม่ของว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงเอ็นดูเด็กทั้งสอง ริมฝีปากเผยรอยยิ้มขึ้นจ้องอีกฝ่ายที่ตอบรับงานนี้อย่างไม่ขัดข้อง“เด็กทั้งสองรักกัน ดิฉันก็ไม่ขัดหรอกค่ะ ลูก ๆ มีความสุข พวกเราก็มีความสุขไปด้วย” ปลาดาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่น
ความรักที่เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนเลื่อนสถานะมาเป็นแฟนยังคงดำเนินมาอย่างราบรื่น ทั้งสองต่างเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่วัยเด็ก แม้จะเจอกันแค่ช่วงปิดเทอมแต่ก็สนิทกันมากจนกระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้เข้าอกเข้าใจ ไม่ต้องปรับตัวกันมาก เพราะต่างก็รู้จักนิสัยใจคอกันดีอยู่แล้ว ที่เหลือก็แค่ปรับจูนในบางเรื่องให้มาอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งสอง ก็ทำให้ความรักของวายุและมารีนนั้นหวานฉ่ำ จนหลายคนต่างก็พากันอิจฉาไม่ต่างจากวันแรกที่เปิดตัวคบกันและแม้จะคบกันในวัยเรียน ทว่าทั้งสองก็ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนไม่เป็นสองรองจากความรัก พอจบปีสามวายุก็ได้เข้าไปฝึกงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของผู้เป็นพ่อ ส่วนมารีนนั้นฝึกงานที่บริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่ง แต่ดีที่ว่าอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน วายุจึงไปส่งมารีนที่ทำงานและรอรับกลับพร้อมกันในช่วงเย็นจุ๊บ!หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเฟอร์รารีคันโปรดของแฟนหนุ่ม ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายโน้มตัวเข้ามาคาดเข็มขัดให้อย่างทุกครั้ง และเธอก็จะมอบรอยลิปสติกไว้ที่แก้มของเขาเพื่อเป็นการขอบคุณเช่นเดียวกันมารีนเผยรอยยิ้มหวานส่งไปให้เขาด้วยแววตาที่เปล่งประกายไปด้วยความรัก ก่อนจะเอ่ย
เหล้าหมดลงทุกคนก็แยกย้ายกันกลับคอนโด โดยที่เมษาเดินทางกลับพร้อมเพื่อนสนิทอย่างมารีนและวายุและเมื่อคู่รักที่หลายคนต่างอิจฉาได้เข้าไปในห้อง วายุก็อุ้มร่างของแฟนสาวขึ้นคีบเอว บดจูบริมฝีปากของกันและกันอย่างดูดดื่ม ในขณะที่ขาของเขาก็ก้าวเดินเข้าไปในห้องนอน แล้วอุ้มเธอวางลงปลายเตียง มารีนก็เลื่อนมือเล็กไปปลดเข็มขัดของแฟนหนุ่มแล้วตามด้วยกางเกงยีนราคาแพงของเขาต่อแก่นกายขนาดใหญ่ผงาดอยู่ตรงหน้า เธอก็ใช้ปากครอบครองพร้อมกับมือที่จับรูดขึ้นลง วายุเลื่อนมือไปสอดใต้กลุ่มผมของแฟนสาวสุดที่รัก เชิดหน้าสูดปากคราง และพอเธอทำให้น้ำสีขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมาที่ปลายหัวบาน ก็ถึงคราวที่วายุจะปรนเปรอความสุขให้เธอบ้างหลังจากผลัดกันมอบความสุขให้กันด้วยปาก หญิงสาวก็นอนราบกับพื้นที่นอน เพื่อให้แฟนหนุ่มส่งตัวตนความเป็นชายเข้ามาในร่องอ่อนนุ่มโดยไร้เครื่องป้องกันอย่างที่เธอชอบ ออกแรงกระแทกร่องสาวของเธออย่างหนักหน่วง จากนั้นก็ผลัดเปลี่ยนให้เธอขึ้นไปนั่งขย่มอยู่ด้านบนเสียงครวญครางดังลั่นห้องนอน ไม่ต่างจากเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังเป็นเวลานานนับชั่วโมง ก็แตะขอบสวรรค์กันอีกคราปลดปล่อยน้ำแห่งความสุขจนเปรอะเปื้อนหว่างขาและ
ช่วงบ่ายของวันนี้ได้มีการออกหมายเรียกให้โยเกิร์ตเข้าพบตำรวจ หลังจากสอบปากคำโยเกิร์ตได้แต่โยนความผิดไปให้พี่สายรหัสของวายุ“ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ฉันถูกใส่ร้าย นังกอหญ้าต่างหากที่เป็นคนจ้างตัดต่อคลิป ฉันมีหลักฐานที่มันโอนเงินให้ไอ้หมอนั่นด้วย”“นี่น่ะเหรอหลักฐานที่คุณว่า”ตำรวจนายหนึ่งปริ้นรูปภาพข้อความที่ทั้งสองคนคุยกัน เนื่องจากโทรศัพท์ของโยเกิร์ตได้ถูกยึดเป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ เลื่อนไปวางตรงหน้านักศึกษาสาวที่ใส่เสื้อคลุมเพื่อปกปิดสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย“เห็นได้ชัดว่าคุณหลอกให้อีกฝ่ายโอนเงินไปให้กับบัญชีนั้น ซึ่งทางเราได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นบัญชีของลูกจ้างร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ ตอนนี้กำลังออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน”โยเกิร์ตเริ่มนั่งไม่ติด ดวงตาของเธอเลิ่กลั่กไม่กล้าสบตานายตำรวจ มือทั้งสองข้างที่อยู่ใต้โต๊ะบีบเข้าหากันแน่น แต่พอนึกย้อนไปถึงวันว่าจ้าง เธอได้ปกปิดใบหน้าไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีทางที่ลูกจ้างคนนั้นจะจำได้ว่าเป็นเธอแน่แต่ทว่าเธอกลับคิดผิด หลังจากเจ้าพนักงานสืบสวนได้มีการเรียกสอบปากคำทั้งกอหญ้าและคนตัดต่อคลิป ก็ได้ข้อสรุปว่ากอหญ้าเป็นเพียงบุคคลที่โยเกิร์ตจะใช้เป็นแพะรับบา
นาฬิกาปลุกของเช้าวันใหม่ดังขึ้น เนื่องจากวันนี้มารีนมีเรียนในช่วงเก้าโมง ทำให้ทั้งสองสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกันหลังจากทั้งสองจบบทรักกันเมื่อคืน วายุก็แต่งตัวแล้วลงไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าของเขา พอกลับขึ้นมาก็อาบน้ำแล้วเข้านอนด้วยกัน“ที่รักจะอาบก่อนไหม” มารีนเอ่ย“อือ อาบเสร็จเดี๋ยวลงไปซื้อข้าวให้”“วานี่น่ารักที่สุดเลย”สาวสวยส่งน้ำเสียงออดอ้อนแต่เช้า ทำเอาคนฟังอยากจับแฟนสาวกดลงเตียงอีกสักรอบ แต่ก็ต้องอดใจไว้ เพราะแค่สองคืนแรกน้องสาวของเธอก็แทบไม่ได้พักแล้วเขาอาบน้ำเสร็จ มารีนก็เข้าไปอาบน้ำต่อ วายุจึงลงไปซื้อมื้อเช้าที่ร้านหน้าคอนโด หลังจากกลับมาแฟนสาวก็แต่งตัวเสร็จพอดี เหลือแค่รอแต่งหน้า“จะแต่งสวยไปไหน”เสียงทุ้มเอ่ยขณะเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังคนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขานำอาหารที่ซื้อมาเทใส่จานเสร็จแล้ว แต่มารีนก็ยังแต่งหน้าไม่เสร็จ“ไปเรียนไง ก็แต่งแบบนี้ทุกวันอยู่แล้วปะ ทำไมวันนี้หึงเหรอ”“อืม หึง อย่าลืมล่ะว่าเธอเป็นของฉันแล้ว” เขาว่าพลางเลื่อนมือไปเชยปลายคางของแฟนสาวให้หันมาสบตากัน“แค่รอตอกบนเตียงก็พอ ไม่ต้องมาตอกย้ำ ยังไงมารีนก็เป็นของวายุแค่คนเดียว คิกคิก”หญิงสาวส่งเสียงหั
ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นในทันที แล้วเขาก็จับเธอลุกขึ้นยืน ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างปิดดวงตาของเธอไว้ราวกับกำลังจะเซอร์ไพรส์อะไรบางอย่าง วายุพาแฟนสาวเดินไปที่โต๊ะข้างหัวเตียง แล้วผละมือหนาออกไปข้างหนึ่ง ทว่าแม้ดวงตาทั้งสองข้างจะถูกปิด แต่หูของเธอก็ได้ยินเสียงคล้ายกับเลื่อนลิ้นชัก“สุขสันต์วันเกิด”เสียงละมุนดังขึ้นทำให้หญิงสาวจับมืออีกข้างของเจ้าของน้ำเสียงที่ปิดตาของเธอออก แล้วหมุนตัวกลับมาหาคนตัวสูงที่มองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน ในมือมีกล่องสี่เหลี่ยมผูกด้วยริบบิ้นสีแดงยื่นออกมาด้านหน้า“จำวันเกิดได้ด้วยเหรอ”“จำได้สิ เสียดายที่ไม่มีเค้ก”“ขอบคุณนะ ไม่มีก็ไม่เป็นไร แค่จำวันเกิดฉันได้ ฉันก็ดีใจแล้ว”วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เดิมทีคิดจะชวนพวกเพื่อนไปกินเลี้ยงกันเสียหน่อย ทว่าดันเกิดเรื่องคลิปหลุดขึ้นมาก่อนเธอจึงไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ และไม่คิดว่าวายุจะจำวันเกิดของเธอได้ แถมยังแอบเตรียมของขวัญเอาไว้ได้อย่างแนบเนียนมากหญิงสาวยื่นมือออกไปรับกล่องของขวัญด้วยรอยยิ้มอันปลาบปลื้ม ก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วแกะออกมาดูว่าเขาซื้ออะไรให้ แล้วพบว่าเป็นนาฬิกาแบรนด์หรูจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งราคานั้นก็



![friend zone รักร้ายนายเพื่อนสนิท [ 3P ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


![3P เมื่อเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ [ซันxโมนาxแอลเจ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
