"พี่มาร์คกลับไปทำงานเถอะค่ะเดี๋ยวหวานจะเก็บของแล้ว" น้ำหวานเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมกับวางกระเป๋าสะพายตัวเองไว้ที่โต๊ะกลางก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อไปเก็บของแต่โดนมือใหญ่รวบกอดจากทางด้านหลังแล้วรั้งร่างบางเข้าไปแนบอก "จะไปไหน?"
"ก็กลับไทยไงคะ น้องขวัญไม่อยู่หวานจะอยู่ยังไง แล้วประธานศิลาคงไม่ให้หวานอยู่ต่อแน่ถ้าน้องขวัญไม่อยู่" เสียงเศร้าปนสะอื้นเบา ๆ ดังออกมาอย่างน่าสงสาร
"ฟังพี่นะ (ว่าพลางจับคนตัวเล็กหันมาสบตา) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหวานต้องได้ฝึกงานอยู่ที่นี่จนจบ เรื่องที่เกิดขึ้นหวานกับน้องขวัญไม่ผิด พี่จะไม่ยอมให้การตัดสินใจของมันทำลายอนาคตของหวานได้ พี่สัญญานะ" ชายหนุ่มว่าเสียงทุ้มพลางเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วรั้งร่างบางเข้ามากอดแนบอก
"แล้วพี่มาร์คจะค้านประธานศิลาได้หรือคะ ถ้าเขาไม่ให้หวานฝึกต่อ..."
"หวานเป็นเด็กทุนของคุณปู่นี่ไม่ใช่เด็กทุนของไอ้ศิมันซักหน่อย แล้วถ้าฝึกจบมันไม่ให้ทำงานต่อ พี่ฝากหวานเข้าทำงานในมหาลัยได้" ชายหนุ่มปลอบใจเสียงทุ้ม
"แล้วหวานต้องทำไงต่อคะ หวาน..." "หวานก็ไปทำกับข้าวมากินกันไง นี่บ่ายแล้วนะ
"เอ่อ ..." "หืม? มีอะไร" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม เด็กที่กำลังนั่งอ้าปากหวออยู่ข้างหน้า"ไม่มีอะไรค่ะ หวานง่วง..." ว่าพลางปิดปากหาวหวอดขึ้นมาทันที"ง่วงก็ไปนอนก่อนไป" ชายหนุ่มสั่งในขณะที่ตายังอ่านเอกสารในมือ"แล้วพี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ หวานจะได้ปิดไฟ""พี่นอนนี่" คนตัวโตพูดเสียงนิ่งทำเอาเจ้าของห้องอ้าปากหวอ กระพริบตาปริบ ๆ "ฮะ!""ก็บอกว่าไปนอนก่อนเลยหรือจะให้พี่พาไปนอน งั้น ปะ" ว่าแล้วปิดแฟ้มในมือทำท่าจะลุกขึ้น"เดี๊ยว... พี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ" คนตัวเล็กเบรกยาวถามประโยคเดิมอีกรอบ"ก็บอกว่า พี่นอนนี่" มาร์คตอบเสียงนิ่งเหมือนปกติแต่แอบกลั้นขำเด็กงงอย่างสุดฤทธิ์"ไม่ได้หวานไม่ให้พี่มาร์คนอน" หญิงสาวว่าขึ้นเตรียมจะลุกหนีเข้าห้อง แต่ไม่ไวเท่าคนตัวโตที่คว้าแขนเอาไว้แล้วดึงลงมานั่งที่ตักตัวเองแบบง่าย ๆ"จะไปไหน" "ไปนอนค่ะ หวานง่วง" น้ำหวานตอบหน้าบึ้ง *ห้องตัวเองก็มีมั้ยวะ จะมานอนเพื่อ*"งั้นไปนอนกันพี่ก็ง่วง" พูดจบลุกขึ้นช้อนร่างบางเดินเข้าห้องหญิงสาวทันที"พี่มาร์ค ปล่อยหวานก่อน" น้ำหวานโวยวายทุบอกแกร่งไม
"โอ๊ย!! เคยเจอที่ไหนล่ะคะ บอสกับโปรเฟสเซอร์ไม่เคยควงใครค่ะ เคยแต่ควงกันเองไปไหนมาไหนกัน 2 คน เวลาประชุมที ถ้าโปรเฟสเซอร์ว่ายังไงบอสก็เออออ หรือบอสว่าอะไรโปรเฟสเซอร์ก็เออออกะหนุงกะหนิงยิ่งกว่าอะไรซะอีก แล้วผู้หญิงหนึ่งเดียวที่ใกล้บอสก็คุณโรซี่นั่นแหละจนคนในออฟฟิศคิดว่านางเป็นแฟนบอสเลยไม่มีใครกล้าฉะกับนาง คิดจะไล่ใครออกก็ไล่ บางคนนางไล่ออกโปรเฟสเซอร์ก็ให้คนไปตามกลับมาทำงานก็มีนางนี่วี้ด ๆๆ เป็นหมาโดนน้ำมันเลยจ้า" โอปอล์ได้เพื่อนคุยก็ร่ายยาวอย่างคันปากคันคอทันที"แล้วบอสไม่ว่าอะไรเธอเลยหรือคะ เธอทำแบบนั้น" หญิงสาวเท้าคางถามอย่างสงสัย"จะว่าอะไรล่ะเห็นมีคนเคยพูดว่านางเคยช่วยบอสตอนที่บอสมาจากไทยใหม่ ๆ เลยถือเป็นบุญคุณกันล่ะมั้ง ทีแรกนางก็ทำฝ่ายการตลาดนี่แหละแต่นางไม่เอาใคร บอสเลยสั่งให้ย้ายเก็บเข้ากรุไปเป็นเลขาเหมือนต่อขาให้นางน่ะ ยืดคอสูงไปใหญ่ คิดจะชี้ใช้ใครก็ชี้จะไม่กล้าก็แค่กับโปรเฟสเซอร์เท่านั้นแหละ""แล้ว พิ...เอ้อ โปรเฟสเซอร์เค้าใจดีมั้ยคะ""มาก... ค่ะหนู คุณมาร์คคือนักสันถวไมตรีผู้สยบทุกอย่างบนโลกเคเอสของเราจ่ะ ใจดี ใจเย็น อ่อนน้อม น่
มือหนาสอดเข้าในผ้าห่มแล้วยกชายเสื้อนอนแขนยาวตัวใหญ่ของหญิงสาวขึ้นค่อย ๆ ยกถอดออกทางหัว ดึงออกจากแขนโยนลงพื้นลุกขึ้นนั่งมองคนหลับที่ขยับเปลี่ยนท่านอนขำ ๆ "เรื่องซ้อมตายไว้ใจหวานเลยจริง ๆ" ชายหนุ่มพึมพำแล้วล้มตัวลงนอนก่อนจะสอดมือไปจับที่ขอบกางเกงนอนของหญิงสาวค่อย ๆ ดึงลงเบา ๆ แล้วใช้เท้าช่วยเลื่อนกางเกงนอนตัวใหญ่ออกไปจนพ้นตัวพร้อมกับชั้นในตัวจิ๋วของเธอหลุดติดไปด้วย แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นมาหาผ้าขนหนูของหญิงสาวมาพันรอบเอวตัวเองถอดเกงกางวอร์มของตัวเองออกแล้วกลับไปนอนลงที่เดิม ก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอดจนแนบชิด"เฮ้อ... ใครแกล้งใครวะเนี่ย กูทำกูเองอีกแล้วนะไอ้มาร์ค เป็นคนอื่นกูใส่จนพรุนไปแล้วแต่ไอ้ตัวเล็กนี่กลับเริ่มไม่ได้ซะงั้น" ชายหนุ่มพึมพำมองคนที่รั้งเข้ามากอดอย่างใช้ความคิด ก่อนจะค่อย ๆ ก้มลงประกบจูบปากบางเบา ๆ แล้วเลื่อนตัวขึ้นมากดหัวเธอซุกอกแกร่งของตัวเอง จับมือบางมาวางพาดที่เอวของตัวเองลูบหลังคนในอ้อมกอดเบา ๆ "เฮ้อ... ทำไม่ได้ว่ะ แม่ง..." ชายหนุ่มถอนหายใจพลางก้มลงจูบที่เรือนผมสวยแล้วข่มตานอนอย่างยากลำบาก "กู๊ดไนท์ นะตัวเล็ก"……….//……&he
ลิ้นอุ่น ๆ ลากเลื้อยฝากรอยจูบประทับเป็นทางยาวจากซอกคอหอมกรุ่นของหญิงลงหาร่องอกตีตราความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน แล้วเงยหน้าสบตาคนตัวเล็กหยาดเยิ้มจนหญิงสาวต้องอึ้งราวกับต้องมนต์สะกด ปากหนาก้มลงครอบครองจุกสวยสีระเรื่อดูดเม้มเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้ง มือหนาอีกข้างลูบไล้ทั่วแผ่นหลังจนร่างบางสยิวขนลุกซู่อย่างประหลาด "อือ.. พิ พี่มาร์ค อูย อย่าเม้ม" หญิงสาวพูดตะกุกตะกักขาดห้วงพลางสูดปากยาว เมื่อจุกสวยถูกปากสีเข้มเม้มดูดแรง ๆแล้วเลื่อนมาอีกข้างอย่างเสมอภาค "หวานดีจัง ถ้ามีลูก ลูกต้องชอบ 2 เต้านี้แน่ ๆ" ชายหนุ่มว่าพลางสบตาหวานเยิ้ม "บ้า... พี่พูดอะไร ใครจะมีลูก โอ๊ะ!" หญิงสาวถามอาย ๆ แล้วต้องอุทานตกใจ เมื่อจู่ ๆ คนที่นอนอยู่ลุกขึ้นจับเธอพลิกนอนหงายตั้งแขนทั้ง 2 คร่อมร่างเธอเอาไว้ แล้วสบตายิ้มกรุ้มกริ่ม"ก็หนูไง พี่ท้องเองไม่ได้หรอก" เสียงทุ้มว่าพลางส่งสายตาหวานเยิ้มจนคนตัวเล็กหน้าแดงตัวแดงขึ้นต้องหลบตา"บ้า... ปล่อยหวานเลยพี่มาร์คจะเกินเส้นมากไปแล้วนะ สว่างแล้วด้วยอีกเดี๋ยวน้องขวัญก็มา" คนตัวเล็กหาข้ออ้างพลางเอามือทาบที่อกแกร่งแล้วดันออกห่างตัวเบา ๆ *รู้หรอกเว้ยว่าไม่ใ
"ครั้งก่อน? ครั้งไหน" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามยิ้ม ๆ"ก็ครั้งหวานเมาไง หวานไม่เห็นเหนื่อยเลย ไม่เจ็บเลยด้วย" คนตัวเล็กเริ่มออกอาการงอแงอย่างน่ามันเขี้ยว*เออ...ถึงว่าถึงยอมกูง่าย ๆ เพราะคิดว่าครั้งก่อนไม่เจ็บนี่เอง เฮ้อ...ครับ ต้องหาคำอธิฐานบทไหนมาสวดให้น้องคิดแล้วถามมากกว่าเออออเองบ้างเนี่ย โรคนี้มันติดทางอากาศจากน้องขวัญหรือไงวะ ...* ชายหนุ่มคิดในใจพลางถอนหายใจเบา ๆ"หวานเมา หวานจะเหนื่อยได้ไง พี่ไม่ได้ทำอะไรหวานนี่ครับ" คนตัวโตว่ายิ้ม ๆ "ฮะ!" หญิงสาวอุทานตาโตพร้อมทั้งลุกขึ้นเอามือค้ำหน้าอกแกร่งมองหน้าชายหนุ่มอึ้ง ๆ"ซี้ด...ลุกเบา ๆ เดี๋ยวก็หักใช้งานไม่ได้พอดี" ชายหนุ่มว่าพลางสูดปากเบา ๆ เมื่อคนคิดจะลุกก็ลุกแล้วอาจจะลืมไปว่าตอนนี้ทั้งคู่ยังประสานกันอยู่"พี่พูดแบบนี้ แล้ว ๆ คืนนั้นเลือดบนผ้าปูมันมาจากไหน พี่รู้มั้ยหวานเครียดมากเลยนะ แล้วพี่ไปโผล่ที่มหาลัยด้วยหวานทำหน้าไม่ถูกเลย หวานเครียดตั้งหลายวัน แล้วยังขู่หวานเรื่อย ๆ อีก ทำไมพี่แกล้งหวานแบบนี้ล่ะ พี่มาร์คใจร้าย อิยักษ์โหด..." คนตัวเล็กโวยวายทุบอกแกร่งรัว ๆ จนชายหนุ่มต้องรวบมือเธอไว้แล
"ฮะ! ท้องเหรอ"(เออ...ท้อง เพราะเอายาคุมฉุกเฉินให้แกกินน่ะแหละ ฉันเลยลืมกินกว่าจะนึกได้ ท้องเลยเนี่ย)"กรี๊ด ฉันจะมีหลาน หวานจะมีไข่น้อยแล้ว ฮ่า ๆ พี่หมอสุดยอดเลย เก่งกว่าพี่โรมอีกว่ะ แล้วคลอดเมื่อไหร่ ผู้หญิงผู้ชาย แล้ว...แล้วมุกแพ้มั้ยอะ แล้ว...แล้ว"(โอ๋ย... พรสิตา มีใครบอกเธอมั้ยว่าพูดมากเนี่ย แล้วฉันชื่อไข่มุก ลูกต้องชื่อมุกน้อย ไม่ใช่ไข่น้อย โวะ! ชื่ออะไรน่าเกลียด) เสียงไข่มุกโวยมาตามสาย"แฮ่ ก็หวานดีใจอะ หวานจะมีหลาน หวานอยากเล่น ลูกเฮียเทนก็โดนอากงอาม่าพาไปเลี้ยงที่เชียงใหม่นู่น... รอลูกพี่โรมก็ไม่รู้จะมีน้ำยาหรือเปล่า" คนตัวเล็กว่าพลางทำหน้าย่น น้ำหวานเป็นคนที่ชอบเด็กมากเมื่อตอนที่ลูกของเทนคลอดใหม่ ๆ ทั้งน้ำหวานและของขวัญเห่อกันมาก ไปหาทุกสัปดาห์แต่พอหย่านมแล้วคุณปู่คุณย่ามารับไปเลี้ยงที่เชียงใหม่พวกเธอจึงไม่ได้ไปเล่นด้วย ตอนนี้ก็รอลูกของโรมซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีอีกนั่นแหละ(ดีใจขนาดนี้ไม่ท้องเองเลยล่ะคะ ผัวก็มีจริง ๆ แล้วนี่) คนปลายสายดักขึ้นทำเอาน้ำหวานตาโตอย่างนึกได้"เออ...ใช่ มัวแต่แช่น
ตลอดทั้งสัปดาห์มาร์คต้องลงเตรียมจัดงานประมูลให้กับคุณอันทิกาด้วยตัวเอง ประจวบกับการเตรียมการสอบของนักศึกษาเขาต้องตรวจงานของนักศึกษาที่ส่งมาเก็บคะแนนก่อนสอบและงานออฟฟิศ ซึ่งกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปวันใหม่ของอีกวันหรือบางวันก็แทบจะไม่ได้นอน เลยทำให้ชายหนุ่มแทบจะไม่มีเวลาได้จับโทรศัพท์ทั้งยังไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเกรงว่าถ้าพูดออกไปแล้วคนตัวเล็กจะโกรธ เลยคิดว่าน่าจะหาเวลาคุยกันจริงจังแค่ 2 คนกับเธอก่อน แล้วเขาก็ไม่ได้เข้ามานอนที่ห้องของเธออีกเลย แต่ละวันเขาก็ได้แต่แอบมองเธอทางกล้องวงจรปิดของห้องทำงานเพื่อดูว่าหญิงสาวเป็นอย่างไรบ้างแต่ตอนเช้าต้องฝืนร่างกายมาทานข้าวอย่างปกติเพื่อไม่อยากให้หญิงสาวเป็นห่วงครืด....ครืด....เสียงเรียกเข้ามือถือเครื่องบาง ทำให้เจ้าของเครื่องคว้ามากดรับสายแบบไม่ได้ดูสายเรียกเข้า"ฮัลโหล"(ตัวเล็ก)"ค่ะพี่มาร์ค"(นอนหรือยังครับ)"ค่ะ หวานนอนแล้ว" คนตัวเล็กตอบทั้งที่นั่งพิงหัวเตียงดูซีรีส์เรื่องโปรดอยู่(พรุ่งนี้วันเสาร์ตอนเช้าเราไปหอศิลป์กันดีมั้ย) เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางหลับตา
"หันมากอดพี่หน่อย" ชายหนุ่มเอ่ยขอเสียงเหนื่อยอ่อนจนเธอสงสารยอมหันมานอนหนุนแขนแกร่งแบบที่เขาเคยให้นอนประจำ มือบางโอบกอดเอวหนาไว้หลวม ๆ แล้วซุกหน้าลงที่ซอกคอแกร่งอย่างว่าง่าย"ขอบคุณครับ" เสียงทุ้มเอ่ยเบา ๆ พร้อมกับกระชับท่อนแขนแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเร็วด้วยความเหนื่อยล้า จนหญิงสาวขมวดคิ้วแต่ก็ไม่กล้าขยับก่อนจะหลับตาลงแล้วหลับตามชายหนุ่มไปท่ามกลางเสียงฝนและเสียงฟ้าร้องด้านนอกอย่างน่ากลัว..........//..........กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นในตอนเช้าปลุกชายหนุ่มให้ลืมตาตื่นพลางควานหาคนที่นอนกอดอยู่เมื่อคืนจนทั่วที่นอน"ตัวเล็ก..." "คะ พี่มาร์คจะเอาอะไรคะ" คนตัวเล็กขานรับพลางเดินเข้ามาในห้องพร้อมแก้วกาแฟในมือ"พี่นึกว่าไปไหน" เสียงทุ้มว่าพลางลุกขึ้นนั่งตบที่ท้ายทอยตัวเองเบา ๆ"กาแฟค่ะ" ยื่นแก้วกาแฟให้แล้วทำท่าจะเดินออกจากห้อง"ตัวเล็ก" "คะ?" น้ำหวานหันมาเลิกคิ้วถามแต่ไม่ได้เดินเข้ามาใกล้"มาหาพี่หน่อย" ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบก่อนจะหันเอาไปวางบนหัวเตียงแล้วยื่นมือมาดึงแขนหญิงสาวให้เดินเข้าไปหา"พี่มาร์คจะเอาอะไรคะ เดี๋ยวหวานจะไ
3 ปีต่อมามหาบัณฑิตสาวสวยเดินหอบดอกไม้ช่อโตยิ้มร่าเข้ามาหาชายสูงวัยวันนี้ลุงปกรณ์มาตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับหญิงสาวเมื่อ 3 ปีก่อนเพื่อแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตคนใหม่และเพื่อนรักอย่างของขวัญ ซึ่งการมาของลุงกรณ์ในครั้งนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่เป็นการมาครอบครัวใหญ่ประกอบไปด้วยครอบครัวของมาร์คที่มากันครบและพาคุณย่าวัย80 กว่ามาด้วยและที่เซอร์ไพรส์คืออามนตรีที่บินตรงจากอเมริกาเช่นกัน และยังมีครอบครัวของศิลาและของขวัญที่มีประมุขของบ้านมาแสดงความยินดีกับหลานสาวทั้ง 2 และที่ขาดไม่ได้คือพี่ชายทั้ง 2 ของ 2 สาวและครอบครัว และเพื่อนรักไข่มุกที่มาพร้อมสามีและลูกสาวตัวน้อยวัยกำลังพูดคุยที่มาร์คค่อนข้างจะหลงมากตั้งแต่แรกเห็น ทั้งขออุ้มขอหอมดูหวงและโอ๋สุดพลังจนพ่อเด็กกลัวว่าจะไม่ได้ลูกคืนโดยการมาครั้งนี้เป็นการจัดการ2 สามีของ 2 สาวที่เช่าเครื่องบินเหมาลำทั้งมาและกลับไทยเพื่อไปฉลองปริญญาที่บ้านเกิดอีกรอบ"ที่รัก เป็นอะไรครับทำไมหน้าซีด ๆ หนูนอนไม่พอรึป่าว" มาร์คเอ่ยข้างหูภรรยาคนสวยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่เครื่องบินกำลังเหินฟ้ามุ่งสู่ประเทศบ้านเกิด"หวานเวียนหัว
"ตายแล้ว นี่อะไรกันเนี่ย" น้ำหวานอุทานตาโตเมื่อเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเองแล้วเห็นถุงสินค้าแบรนด์ดังเกือบ 20 ถุงวางอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น หญิงสาวรีบวางกระเป๋าแล้วเดินไปหยิบถุงที่เล็กที่สุดมาเปิดแล้วต้องขมวดคิ้วเมื่อตรวจแล้วสินค้าทุกถุงถูกตัดป้ายราคาออกทั้งหมด ทำให้หญิงสาวต้องหอบของทุกถุงลงวางกับพื้นแล้วเปิดทีละถุงออกมากดดูราคาสินค้าทางช็อป"แปดแสน!" หญิงสาวอุทานตาโตกับราคากระเป๋าสะพายหนังอะไรซักอย่างสีดำใบกระทัดรัดที่เพียงพอแค่ใส่กระเป๋าสตางค์ใบสั้นของเธอกับมือถือหน้าจอ 6.7 นิ้ว ได้เท่านั้น"ตาย...ทำไมมันแพงขนาดนี้เนี่ย" หญิงสาวบ่นพึมพำแล้วเปิดกล่องรองเท้าผ้าใบที่คล้ายกันอยู่ 2 คู่เป็นของผู้ชายและของผู้หญิงแล้วเมื่อเช็คราคาและคำนวณเป็นเงินบาทไทยอย่างรวดเร็วก็ถึงกับหน้ามืด "คู่ละ 6 หมื่น! พี่มาร์คเป็นบ้าอะไรทำไมใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้เนี่ย" แล้วหยิบกล่องที่บรรจุสูทตัวแพงที่มีรุ่นติดอยู่ที่ฝากล่องออกมาเสิร์ชหาราคาพร้อมกับคำนวณเป็นเงินไทยแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดกล่องอย่างเบามือ"ตัวละ สะ สะ สี่แสนเลยเหรอ แล้ว ๆ ๆ มี 3 กล่อง คุณพระ! อิหวานจะเป็นลม ใส่แล้วมั
เคเอส กรุ๊ป สาขาอังกฤษร่างบางเดินหน้างอเข้ามากระแทกก้นสวยลงที่เก้าอี้ด้านหลังของโต๊ะทำงานในห้องผู้ช่วยท่านประธานสาขา แล้วชำเลืองมองคนที่กำลังทำท่าอ่านเอกสารอย่างขมักขเม้นเหมือนไม่ได้รู้สึกว่าเธอเดินเข้ามาในห้อง"โปรเฟสเซอร์คะ หวานขอลางานครึ่งวันค่ะ" เสียงหวานว่าขึ้นอย่างแง่งอน"ไม่อนุญาตครับ วันนี้คุณน้ำหวานยังไม่ช่วยผมทำงานซักบรรทัดเลยนะครับ" เจ้าของห้องว่าขึ้นนิ่ง ๆ"งั้นเอางานมาค่ะหวานจะทำ ไม่ใช่ให้มานั่งเป็นตุ๊กตาเสียกบาลอยู่แบบนี้""จะทำตอนนี้เลยหรือครับ" ชายหนุ่มหันมามองหน้าสายตากรุ้มกริ่ม แล้วจ้องหน้าอกคู่สวยที่ดันเชิ้ตผ้าลื่นสีหวานอย่างเปิดเผย"หันไปเดี๋ยวนี้โปรเฟสเซอร์ ตามข้อตกลงของเราคือหวานจะลงไปอยู่กับพวกพี่ข้างล่างได้วันที่โปรเฟสเซอร์มีสอนนะคะ" คนสวยออกคำสั่งแล้วพูดถึงข้อตกลงร่วมกันหน้าบึ้ง ๆ"แต่ตามข้อตกลงของเรา คุณผู้ช่วยจะต้องขึ้นมาถ้าผมอยู่ที่ห้องนี่ครับ" ชายหนุ่มหันมาพูดยิ้ม ๆ แล้ววางปากกาในมือก่อนจะหันเก้าอี้ทั้งตัวมามองหน้าหญิงสาว"พี่มาร์ค... หวานอยากฝึกการตลาดน่ะ นะ...นะ นะ..." คนตัวเล็กลุกขึ้
"เอ่อ...อาตรีมาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือคะ พี่มีนาไปตามหาที่บ้านแม่นารถหลายรอบเลยค่ะ ไปตามที่ร้านพี่โรมถามหนูตั้งหลายรอบ" หญิงสาวเอ่ยถามในขณะที่แม่บ้านตักข้าวใส่จานให้และเธอก็เผลอยกมือไหว้อย่างไทยจนแม่บ้านแอบยิ้มกับความน่ารักแรกเห็น"ก็มาตั้งแต่มาร์คให้มานั่นแหละ อามาอยู่ที่นี่ได้ 3 ปีกว่าแล้วล่ะ" อามนตรีตอบหญิงสาวยิ้ม ๆ"พี่มาร์คให้มา?" หญิงสาวทวนคำพลางมองหน้ามาร์คอึ้ง ๆ"เผอิญว่าไร่องุ่นของพ่อเพื่อนพี่ที่นี่ อยากแบ่งขายพี่เลยซื้อให้อาตรีดูแลต่อ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พลางตักอาหารวางใส่จานให้หญิงสาว"ซื้อไร่องุ่นที่นี่หรือคะ""ใช่ลูก มาร์คสร้างชีวิตใหม่ให้อาได้หลุดพ้นจากครอบครัวนั้น ตอนนี้อามีความสุขมากจนไม่อยากกลับไทยเลยล่ะ" อามนตรีตอบยิ้ม ๆ "แล้วพี่มีนอาเดือนล่ะคะ" "ก็ช่างเขาสิลูก 2 แม่ลูกนั่นไม่ได้เกี่ยวกับอาหรอก ลูกของอาจริง ๆ เป็นผู้ชายชื่อต้นกับตามเขาเสียตอนอนุบาลทั้งคู่ ส่วนมีนาเป็นลูกที่ติดท้องมาของเดือนแรม อามันก็แค่เด็กในไร่การศึกษาสูงที่สุดในตอนนั้นที่เจ้าของไร่บังคับให้แต่งงานกับลูกสาวเพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองแล้วสวมหัวโขนให้อาทำงานเป็นลูกเขยทั้ง ๆ ที่จริง ๆ อามันก็แค่ลูกจ้างนั่
ช่วงบ่ายเกิดความโกลาหลกันขึ้น เพราะ 2 หลานสาวของคุณหญิงหายออกไปจากออฟฟิศ โดยไม่ได้ออกไปทานข้าวพร้อมกับคุณหญิง มาร์คไล่ดูกล้งวงจรปิดที่ออฟฟิศและของอพาร์ตเมนต์อย่างละเอียดเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าช่วงที่ตนไม่อยู่แล้วสั่งให้เลขาเพื่อนเช็คทะเบียนรถแท็กซี่ที่ 2 สาวขึ้นไปอย่างร้อนรน ช่วงบ่ายหลังจากที่รู้ว่าคนทั้ง 2 เดินทางไปที่ไหน ศิลาได้เรียกพนักงานที่อยู่ไหนเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุให้ของขวัญตัดสินใจกลับบ้านขึ้นมาพบทุกคน ชายหนุ่มสั่งให้เอ็ดเวิร์ดจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาไฟล์ตที่ด่วนที่สุด เพราะคนทั้งคู่ไม่ได้นำเอาสิ่งของอะไรติดตัวไปนอกจากกระเป๋าสตางค์และเอกสารการเดินทางทั้งมือถือยังถูกทิ้งไว้ที่โซฟาในห้องของน้ำหวานอย่างไม่ใยดี..........//..........เช้าตรู่ของประเทศสหรัฐอเมริการถลีมูซีนสนามบินวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านสีขาวหลังเล็กน่ารักที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ไม่มากนัก2 คนก้าวลงจากรถแล้วเดินอาด ๆ เข้าบ้านอย่างคุ้นเคยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินตรงมาที่ครัวทำให้น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่เพื่อนอย่างสงสัย"ใครมาแต่เช้าค่ะมี้"
Mark talkเมื่อคืนผมได้คุยกับผู้ร่วมทุนคนใหม่ของโครงการที่ฝรั่งเศสครับ ท่านบอกว่าผู้หญิงเขาไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบ เขาต้องการความรัก อันนี้มันเป็นสิ่งเกินคาดหมายของผมมากจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาผมจะคิดว่าการรับผิดชอบเป็นอะไรที่ทุกคนต้องการเสมอ ตอนที่ผมอยู่เมืองไทยการที่เราจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนหนึ่ง สำหรับผมคือการยื่นเงินเป็นตัวเลขให้แล้วจบกันตรงนั้นผมคิดว่าเป็นแค่การซื้อขายหรือความรับผิดชอบในทางธุรกิจที่จะไม่ผูกมัดหรือผูกพันอะไรกัน แต่เมื่อผมมีอะไรกับน้องในคืนนั้น ผมพยายามจะขอรับผิดชอบโดยอ้างสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ยื่นจำนวนเงินหรือสิ่งที่เป็นตัวเลขให้ แต่ผมกลับนึกคำพูดหรือความหมายพวกนั้นไม่ออก จนได้มาคุยกับผู้ร่วมทุนท่านนี้ ท่านเหมือนเป็นผู้เขี่ยผงเล็ก ๆ ออกจากตาของผมทำให้เข้าใจว่าสิ่งที่ผมจะยื่นให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เราอยากจะมีเขาอยู่ตลอดชีวิต มันไม่ใช่ความรับผิดชอบ แต่ สิ่งที่ผมควรยื่นให้เธอคือ ความรักแล้วท่านก็ใจดีมากครับที่ยอมให้เครื่องบินส่วนตัวมาส่งพวกผมเมื่อคืน ตลอดทางผมนึกหาคำพูดต่าง ๆ หาเหตุผลประกอบว่าทำไมน้องถึงไม่อยากให้ผมกล่าวถึงเรื่องนี้ จนผมได้คุยกับไอ้เทน ม
"ไม่เห็นว่าอะไรนี่ ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยนะ คงเป็นปกติของอเมริกันชนน่ะ เพื่อน ๆ ของน้องขวัญเขาก็มีเซ็กส์กันตั้งแต่ไฮสคูลเยอะแยะไป แต่กับศิลา น้องขวัญก็คงแค่คู่นอนตอนกลางคืนตอนกลางวันเราก็เป็นเจ้านายลูกน้องกันปกติ""จ่ะ เจ้านายลูกน้อง เรียกไปนอนกลางวันซะทุกวันขนาดนั้น แหนะ ๆๆ อย่าบอกนะว่าบอสหิวกลางวันด้วยน่ะ" หญิงสาวชี้หน้าถามเพื่อนอย่างล้อเลียน *พี่มาร์คก็คงคิดกับเราแบบนี้สินะ มากกว่าพี่แต่ไม่ใช่ผัว*"บ้า ~ ช่วงนั้นป่วยจริง นอนกลางวันจริงจ่ะ แต่ต่อไปก็ไม่ได้นอนแล้วไงก็มาฝึกงานกับหวาน เอ้อ... เห็นศิลาพูดว่าคุณปู่สั่งให้หวานขึ้นมาฝึกงานกับพี่มาร์คนี่ พี่มาร์คบอกหรือยัง?" ของขวัญตอบเพื่อนพร้อมกับถามอย่างนึกขึ้นได้"ก็เกริ่นเมื่อคืนนิดนึงนะแต่นิดเดียวจริง ๆ แต่ยังไม่รู้อะไรคงต้องรอผู้ใหญ่สั่งอีกทีล่ะมั้ง แต่หวานอยู่แผนกนี้ก็สนุกนะ พี่ ๆ น่ารักดี" น้ำหวานว่ายิ้ม ๆ *จะให้ไปทำไมวะแค่นี้ก็หายใจไม่ได้แล้วมั้ย*"เมื่อวานพี่โอปอล์กระซิบบอกว่าระวังเอริน่าแผนกต้อนรับ นางปลื้มพี่มาร์คมาก 2 วันนี้พี่มาร์คกับท่านประธานไม่อยู่ ระวังโดนหยุมหัว" ของขวัญยื่นหน้าพูดกับเ
4 ทุ่มของวันเดียวกัน ชายหนุ่ม 2 คนเดินออกจากลิฟต์ของ อพาร์ตเมนต์ ศิลาต้องขมวดคิ้วแล้วดึงแขนเพื่อนอย่างนึกได้"เดี๋ยวมาร์ค มึงบอกว่าวันนี้น้องขวัญกับน้ำหวานจะกลับมานี่" พูดขึ้นพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองห้องตรงข้ามของมาร์ค"เออ~ ว่ะ แล้วจะมาตอนไหนไม่เห็นโทรบอกให้ไปรับวะ กูลืมน้อง ๆ ไปแล้วนะเนี่ย" ว่าจบมาร์คก็ล้วงมือถือมากดโทรหาน้ำหวานทันที ซึ่งเสียงมือถือก็ดังแว่ว ๆ ออกมาจากห้องของหญิงสาว"มาถึงแล้วไง" ศิลาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินไปแตะคีย์การ์ดห้องตรงข้ามกับห้องของตัวเองเดินตรงเข้าไปในห้องนอนแล้วเดินออกมาที่หน้าห้องของน้ำหวานอีกครั้งก่อนจะแตะคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปอุ้มร่างบางเดินออกมาที่ห้องตัวเองผ่านหน้าเพื่อนชาย ซึ่งมาร์คก็ได้แต่ยืนยิ้มส่ายหน้าขำ ๆ"เฮ้อ...มึงก็มึนเกินศิลา ยังดีที่น้องขวัญไม่โกรธกูนี่สิ ขนาดมายังไม่บอกกูเลยเฮ้อ" ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองแล้วเดินเปิดประตูเข้าไปที่ห้องตัวเองอย่างหงอย ๆ "เอาเหอะ...พรุ่งนี้ค่อยคุย" .............//..........4 ทุ่มของอีกวันวันนี้ทั้งวันมาร์คต้องออกไปพบลูกค้ากับศิลาที่ต่างเมืองชายหนุ่
ครืด.... ครืด....เสียงมือถือดังขึ้นทำให้คนกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้งหันมาคว้ามือถือกดรับสายทันทีแบบไม่ได้ดูสายเรียกเข้า"สวัสดีค่ะ"(ตัวเล็ก)"คะ"(เป็นอะไรหรือเปล่า)"เปล่าค่ะ"(ศุกร์นี้ไปอเมริกากันนะ) เสียงปลายสายเอ่ยชวนพลางถอนหายใจเบา ๆ"ไปทำไมคะ"(น้องขวัญเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ) คำบอกเล่าทำให้น้ำหวานถึงกับลุกขึ้นนั่งชันเข่าทันที"น้องขวัญเป็นหนักหรือคะ" เสียงเครือปนสะอื้นดังลอดไปตามสาย(พี่ก็ไม่รู้หรอก วันศุกร์เลิกงานเราไปกันนะพี่จองตั๋วไว้แล้ว)"แต่หวาน..."(ไปเถอะพี่จองตั๋วไปแล้ว) มาร์คเอ่ยสวนขึ้นทันที"ค่ะ"(กินข้าวรึยัง ออกไปกินข้าวกับพี่มั้ย) ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องชวนคุย"เรียบร้อยแล้วค่ะ หวานจะนอนแล้ว แค่นี้นะคะ" ตื๊ด! ....mark talkตั้งแต่วันนั้นน้องก็พยายามหลบหน้าผมตลอดเลย คงงอนไปแล้วล่ะ ช่วงนี้ผมก็งานยุ่ง แต่จะว่ายุ่งแค่ช่วงนี้ก็ไม่ใช่ครับ เพราะงานผมก็แบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้ศิลามันไม่อยู่น้องขวัญที่กลับบ้า