Share

14

Author: Plearn9
last update Last Updated: 2024-12-26 11:25:43

"พี่ขอโทษนะ" หมิงรู้สึกผิดมากๆ เพราะจริงๆ ปูนปั้นเองก็เพิ่งมาดูแลร้านอาหารนี้ได้ไม่เท่าไหร่ ปูนปั้นยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวอีกเยอะเพราะทุกอย่างมันใหม่ไปหมดสำหรับปูนปั้น ทุกครั้งที่พนักงานกลับบ้านกันหมดแล้วหมิงก็จะเห็นมีแต่ปูนปั้นเนี่ยแหละที่ยังอยู่ที่ร้านนั่งหน้าเครียดตรวจดูทุกอย่างเองคนเดียวทั้งหมดก่อนถึงจะกลับบ้าน ถึงจะบอกว่าเขาควรทำแบบนั้นในฐานะเจ้าของกิจการแต่มันก็หนักเกินไปจริงๆ สำหรับเด็กวัยรุ่นอย่างเขาเพราะนอกจากปัญหาที่ร้านจะมากมายก็ยังมีปัญหาพนักงานอีก ตอนที่หมิงมาทำงานแรกๆ เขามักจะได้ยินพนักงานแอบนินทาปูนปั้นอยู่บ่อยๆ พนักงานหลายคนไม่อต็มใจทำงานกับปูนปั้นแต่ที่ยังทนอยู่ก็เพราะที่ร้านของปูนปั้นให้เงินเดือนพนักงานสูงกว่าที่อื่นดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องอยู่ต่อเพื่อปากท้องของตัวเองแต่การทำงานก็ไม่ได้คุณภาพตามที่สมควรจะเป็น หมิงรู้สึกเห็นใจปูนปั้นมาตลอดเพราะปูนปั้นดีกับเขามากดังนั้นเขาเลยตั้งใจช่วยงานที่ร้านอย่างสุดความสามารถเพื่อตอบแทนที่ปูนปั้นเห็นใจรับเขาเข้ามาอยู่ที่ร้านแต่วันนี้เขากลับนำภัยมาให้ปูนปั้นซะงั้นและอีกเรื่องที่หมิงเป็นห่วงก็คือการที่ปูนปั้นต้องอยู่ทำงานคนเดียวดึกๆ มันก็อันตรายสำหรับเขาด้วย

"พี่ก็ไม่ต้องไปไหนหรอก" ปูนปั้นตอบด้วยน้ำเสียงอู้อี้นิดหน่อยเพราะยังนอนหมอบอยู่ที่โต๊ะ หมิงไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ลึกๆ ในใจเขาไม่อยากไปจากร้านอยู่แล้วเพราะการจะเจอเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน (บางคน) ที่ใจดีและเข้ากับตัวเองได้มากขนาดนี้มันเป็นเรื่องที่ยากมาก

"ขอเวลาผมคิดหน่อยนะว่าพวกเราจะเอายังไงต่อดี" ปูนปั้นพูด หมิงมองดูปูนปั้นที่มีสภาพอย่างกับคนหมดแรง

"ขอบคุณนะ" หมิงตอบออหมาหลังจากเงียบไปนาน

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

วันต่อมา 

​​​​​​บริษัท Siriyakorn Group 

ทันทีที่เทียนก้าวขาเข้าไปในบริษัทพนักงานก็ต่างแตกตื่นแล้วมองมาที่เขาเป็นตาเดียวกันหมดเพราะว่านี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยที่เทียนกลับเข้ามาที่นี่อีกครั้ง พนักงานใหม่หลายๆ คนก็ยังไม่รู้จักเทียนด้วยซ้ำส่วนสำหรับพายุนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้มาที่บริษัทแห่งนี้ ปกติมีแต่บอดี้การ์ดรุ่นพี่เล่าให้ฟังแล้วว่าบริษัทนั้นใหญ่โตและสวยงามแค่ไหนแต่พอเขาได้มาเห็นกับตาตัวเองจริงๆ มันก็เกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้เยอะเลย 

"ไปทำห้องทำงานของพ่อฉันก่อน" เทียนพูดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะถึงลิฟต์

"วันนี้คุณหล่งไม่ได้เข้านะครับ" พายุตอบ เทียนหยุดเดินแล้วหันมาหาพายุด้วยความสงสัยเพราะการที่พ่อเขาจะหยุดงานนั้นยากมาก

"เห็นพี่เวกัสบอกว่าจะพาคุณหล่งไปหาคุณเอกที่โกดังสินค้าครับ" พายุตอบ

"ไปทำไม่ได้" เทียนถาม

"ไม่ทราบครับ พี่เวกัสไม่ยอมบอกผม" พายุตอบ

"งั้นก็ขึ้นไปที่ห้องทำงานของคุณปู่ก่อนเถอะ" เทียนพูดแล้วหันกลับไปเดินต่อจากนั้นเขายืนหยุดนิ่งอยู่หน้าลิฟต์ไม่ยอมขยับหรือกดลิฟต์เลยจนพายุเองก็งงว่าเขาเป็นอะไรทำไมเขาไม่เข้าไปสักทีล่ะ

(หรือว่าคุณเทียนจะกลัวลิฟต์ว่ะ)

เทียนยืนรอมาสิบกว่าวิแล้วแต่พายุก็ยังไม่กดลิฟท์ให้เขาดังนั้นเขาเลยค่อยๆ หันหน้ามาหาพายุแล้วมองเขาด้วยสายตาดุๆ 

"ฮะ...?" พายุงงเพราะไม่เข้าใจความต้องการของเทียน

"กดลิฟท์สิ!" เทียนกัดฟันพูดด้วยความหงุดหงิด จริงๆ เขาก็ทำเองได้แหละแต่ปกติแล้วคนดูแลของตระกูลเขาจะถูกฝึกให้บริการงานแบบนี้ทุกอย่างให้เจ้านายดังนั้นปกติแล้วแม้เขาจะยื่นมือไปกดเองทีไรก็จะมีเวกัสที่เร็วกว่าเสมอคอยทำให้ เขาเลยอยากฝึกพายุให้ทำทุกอย่างที่บอดี้การ์ดควรจะทำให้ชินมือเพื่อเวลาไปออกงานกับพวกญาติพี่น้องพายุจะได้ไม่ถูกตำหนิ

"อ๋อ~ครับ" พายุตอบแล้วรีบยื่นมือไปกดลิฟต์ให้เทียนทันที พอลิฟต์มาเทียนก็เดินนำเข้าไปคนแรกแล้วรอให้พายุกดเลือกชั้นให้เขาแต่พายุก็ยังคงมึนไม่ทำอะไรอีกเหมือนเดิม

"พายุ!" เทียนเรียกเขาที่เอาแต่สนใจกระจกในลิฟต์แล้วส่องดูใบหน้าของตัวเองตลอด 

"ครับ" พายุตกใจรีบหันกลับมาหาเทียนอย่างเร็วแล้วยกมือขึ้นตะเบ๊ะทันทีด้วยความเคยชินจากการดูหนัง

"กดสิ" เทียนพูด

"อ๋อ~" พายุพูดแล้วเดินเบียดเทียนเข้ามาใกล้ปุ่มกดทันทีพื้นที่มันก็ตั้งกว้าง เทียนส่ายหัวถอนหายใจแล้วถอยหนีพายุออกมายืนอีกฝั่ง

"เอ่อ...ว่าแต่คุณเทียนจะไปชั้นไหนเหรอครับ" พายุหันมาถามเทียน 

"ฮะ~" เทียนอุทานออกมาด้วยความเหนื่อยใจ

"เมื่อกี้นายไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยใช่ไหม...ฉันบอกว่า...ฉัน จะ ไป ห้อง ทำ งาน ของ คุณปู่!" เทียนตอบ

"คือผมไม่รู้ว่าห้องทำงานของคุณซ่งมันอยู่ชั้นไหนน่ะครับ ผมเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกเลย" พายุตอบอย่างไม่เต็มเสียงแล้วยกมือขึ้นมาเกาหัวตัวเอง

"เฮ่อ~" เทียนถอนหายใจแล้วเดินเข้ามากดมันซะเองเลย

"ชั้น 38" พายุพูดออกมาเบาๆ เทียนเหล่มองไปที่พายุเพื่อดูว่าเขาได้พยายามจะจดจำสิ่งที่เขาสอนหรือเปล่า ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจทุกคนแล้วว่าทำไมไม่มีใครอยากให้เขาเลือกพายุมาอยู่ข้างกายเลยเพราะการสอนงานใครสักคนนี่มันยากจริงๆ ถ้าเขาเลือกเอาวิสุทธิ์หรือเวกัสมาป่านนี้เขาคงไม่ต้องมาเหนื่อยแบบนี้หรอก

เมื่อมาถึงห้องทำงานเก่าของปู่เทียนก็มองไปรอบๆ ด้วยความคิดถึงทันที ทุกอย่างในห้องนี้ยังเหมือนเดิมแม่ว่าเขาจะไม่ได้เข้ามาดูหลายปีแล้วก็ตาม เทียนเห็นป้ายชื่อบนโต๊ะทำงานเปลี่ยนไปก็เลยเดินเข้าไปกูใกล้ซึ่งมันไม่เหมือนเดิมเพราะเมื่อก่อนมันเป็นชื่อของปู่เขาแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นชื่อของเขาไปแล้ว เขาลูบมันเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองหาป้ายชื่ออันเก่่าของปู่ว่ายังอยู่ในห้องหรือเปล่าและสุดท้ายเขาก็เจอและเห็นว่ามันถูกวางหัันหน้าเข้าผนังอยู่บนตู้เอกสารเขาจึงเดินไปเอามันออกมาแล้วมองป้ายชื่อนั้นของปู่ด้วยความคิดถึง มันลูบมันเบาๆ แล้วเอากลับมาวางคู่กันกับชื่อของเขาบนโต๊ะทำงาน เทียนเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วหลับตาลงสูดหายใจเข้าลึกๆ 

(ต่อจากนี้ผมจะดูแลครอบครัวสิริยากรของพวกเราแทนคุณปู่เองนะครับ)

เทียนลืมตาขึ้นมาแล้วหยิบแฟ้มที่วางกองอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเปิดดูที่ละอันส่วนพายุก็นั่งอยู่ข้างหน้าคอยช่วยเขาอีกแรง จริงๆ เอกสารพวกนี้คุณหล่งทำไว้หมดแล้วแต่เขาต้องการให้เทียนมาตรวจสอบและรับรู้ด้วยว่าหลายวันที่ผ่านมาตั้งแต่คุณซ่งเสียชีวิตบริษัทมีงานและการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างเพื่อให้เขาเข้าใจทุกอย่างก่อนให้ฐานะประธานบริษัทคนต่อไป 

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

18:30 น.

"จะออกไปแล้วเหรอลูก" ดารินถามเพราะเห็นเทียนกำลังเดินลงมา

"ครับแม่" เทียนตอบ

"ให้เวกัสไปด้วยสิเผื่อมีอะไรมันจะได้ช่วยรับมือให้" หล่งพูด

"ไม่เป็นไรครับพ่อ ไอ้พายุมันก็ไปด้วย" เทียนตอบ

"พายุมันจะไปทำอะไรได้" หล่งพูด

"งั้นเดี๋ยวผมพาบอดี้การ์ดไปด้วยอีกสัก 2-3 คนแล้วกัน วันนี้เวกัสพาพ่อออกไปข้างนอกทั้งวันคงเหนื่อยมากแล้วให้เขาพักผ่อนเถอะ" เทียนตอบ

"ก็แล้วแต่แกแล้วกัน" หล่งพูด

"คุณเทียนครับบบบ~" น้ำเสียงร่าเริงของพายุทำเอาหล่งหงุดหงิดไม่น้อยเพราะเจ้าเด็กคนนี้ไม่มีมาดของการเป็นบอดี้การ์ดเลยแบบนี้ใครจะไปกลัว

"รถพร้อมแล้วครับ" พายุพูด

"อื้ม" เทียนตอบแล้วจากนั้นทั้งคู่ก็เดินออกจากบ้านไป

"คุณดูไอ้พายุสิ! มันเหมือนบอดี้การ์ดตรงไหน...อยู่บ้านใหญ่มาตั้งหลายปีไม่หัดเรียนรู้ท่าทางของบอดี้การ์ดที่ดีมาเลยแบบนี้ใครเขาจะไปกลัวมัน" หล่งพูด

"เอาเถอะคุณเดี๋ยวพวกเราก็ค่อยๆ สอนพายุมันไปนะ" ดารินตอบแล้วใช้มือลูบหลังสามีเบาๆ 

"นี่อะไรเนี่ย" เทียนถามเพราะเห็นว่าพายุเตรียมรถไว้ 2 คันแถมยังเตรียมมอเตอร์ไซค์เพิ่มอีก 2 คันด้วย

"ผมจัดคนไปกับเราอีก 5 คนครับเผื่อเกิดเรื่องฉุนเฉิน" พายุตอบแล้วเปิดประตูรถให้เทียน เทียนยิ้มออกมาที่มุมปากอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าพายุตะคิดอะไรแบบนี้ได้ด้วย

"ครั้งนี้ถือว่าทำได้ดี" เทียนพูดแล้วขึ้นไปนั่งบน

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

30 นาทีที่แล้ว

ในระหว่างที่พายุกำลังเตรียมรถให้เทียนอยู่นั้นเวกัสก็เดินมาหาเขา 

"ทำอะไรอยู่ว่ะ" เวกัสถาม

"อ่อ ผมกำลังเตรียมรถให้คุณเทียนอยู่ครับ" พายุตอบ

"เอาไปแค่นี้เหรอ" เวกัสถาม

"ไปกันแค่สองคนเอาไปแค่คันนี้ก็พอแล้วครับ" พายุตอบ

"ไม่ใช่ ที่ฉันถามคือไปกันแค่ 2 คนเหรอ" เวกัสพูด

"ใช่ครับ" พายุตอบ

"จะบ้าหรอ นี่มันงานนอกนะทำไมไปกันแค่สองคนล่ะแล้วถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมาใครจะคอยคุ้มกันคุณเทียน มึงคนเดียวจะไหวเหรอไอ้พายุ" เวกัสพูด

"แต่พวกเราแค่ไปงานเลี้ยงเองนะครับ" พายถามอย่างงงๆ เพราะว่างานนี่ไม่ใช่งานอันตรายอะไรเลยนี่หน่า

"ไปงานนอกไม่ว่าจะงานเล่นงานใหญ่ล้วนอันตรายกับคนของตระกูลหมด ยิ่งคุณเทียนขึ้นเป็นผู้นำยังไม่ได้มีประสบการณ์มากมายก็ยิ่งเป็นผลดีต่อผู้ประสงค์ร้ายไม่ใช่หรอ โค่นผู้นำตระกูลสิริยากรได้ย่อมเป็นผลดีกับคนอื่นที่ต้องการมาแทนที่ตระกูลเราอยู่แล้วเพราะงั้นมึงจะทำอะไรจะไปที่ไหนมึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้านายทุกคนให้ดี" เวกัสพูด

"งะ งั้นเดี๋ยวผมพาคนไปเพิ่มก็ได้ครับ" พายุตอบ เขาไม่ได้คิดเลยว่าแค่ไปงานเลี้ยงธรรมดาเวกัสจะคิดเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้แต่เพื่อความสบายใจของทุกคนเขาเลยตัดสินใจเอาคนไปคุ้มกันเพิ่มดีกว่า

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ปัจจุบัน

"คิดอะไรอยู่ขึ้นรถได้แล้ว" เทียนพูด 

"ครับ" พายุตอบแล้วรีบวิ่งไปนั่งข้างคนขับทันที วันนี้มีบอดี้การ์ดอีกคนขับรถให้เทียนส่วนพายุก็นั่งอยู่ข้างหน้าข้างคนขับและมีบอดี้การ์ดอีก 4 คนไปรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งกำลังขับตามและคอยระวังหลังให้เทียนอยู่ 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   77

    ทุกคนในร้านช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งจนแทบไม่ได้หยุดพักเพราะตอนนี้ใกล้ช่วงสิ้นปีแล้วโรงงาน บริษัทและพนักงานหลาย ๆ แห่งก็เริ่มทยอยปิดยาวกันบ้างแล้วจึงทำให้สถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงห้างร้านที่ยังเปิดให้บริการอยู่มีคนไม่ขาดสาย"เดี๋ยวถึงคิวใครไปเบรกก็รีบไปเลยนะเสร็จแล้วจะได้มาเปลี่ยนให้คนอื่นไปกินข้าวบ้าง" "ครับ/ค่ะเชฟ""ขอเต็มที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมงนะส่วนอีก 1 ชั่วโมงฉันจะให้คุณเอมม่าจ่ายเป็นค่าแรงพิเศษให้แทนแต่ว่าถ้าใครรู้สึกไม่สะดวกหรือไม่ไหวยังไงอยากขอพักเต็ม 2 ชั่วโมงก็บอกฉันได้เลย ฉันจะไม่บังคับ""รับทราบครับ/ค่ะ" หลังจากฟังที่กุ๊กไก่พูดจบเหล่าพ่อครัวรุ่นเล็กทุกคนก็หันกลับไปสนใจงานตรงหน้าต่อ "ทำไมวันนี้พี่กุ๊กไก่ไม่ดุเลยว่ะทั้ง ๆ ที่งานยุ่งขนาดนี้อ่ะ" ริษาแอบกระซิบถามกัปตันที่เตรียมเอาของหวานเข้าอบในเตา"ใจเย็น ๆ แกรอดูเถอะปกติเวลางานพี่กุ๊กไก่ไม่เคยไม่โหดนะ" "กัปตัน! ริษา!" เสียงเรียกที่ทั้งดังและกระแทกขนาดนี้ทำให้ทั้งสองคนสะดุ้งทันที"คะ ครับเชฟ""คะเชฟ""มัวคุยอะไรกันไม่เห็นเหรอว่างานตรงหน้ามีอยู่อีกเท่าไหร่ ออเดอร์ไหลมากองเป็นหางว่าวยังกล้ายืนคุยกันอีก แหกตาดูคนอื่นเขาบ้าง!""ข

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   76

    ธูปเดินลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกหนึบ ๆ ในหัว ราวกับมีค้อนเล็ก ๆ กำลังทุบอยู่เบา ๆ เป็นสัญญาณของการแฮงค์ที่คุ้นเคยจากการดื่มหนักเมื่อคืน เขาจำได้ว่าลุกเดินลงจากห้องมาปลุกเขากลางดึกเพื่อให้เขากลับขึ้นมานอนที่ห้องของตัวเองหลังจากที่เทียนหายไปแล้ว ธูปลุกออกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องเพื่อมาหาอะไรทานก่อน ธูปเดินโซซัดโซเซมาถึงโต๊ะอาหาร ก็เห็นว่าแม่ของเขากำลังนั่งปอกผลไม้อยู่เงียบ ๆ คนเดียวแว่วเสียงแม่ทักขึ้นด้วยความงัวเงียทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นลูกชายคนเล็กที่ตัวใหญ่ของเธอเป็นแน่ "ตื่นแล้วเหรอคนเก่งของแม่ เมื่อคืนนี้ลูกดื่มหนักไปหน่อยนะ" แม่พูดพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ธูปได้แต่ยิ้มแหย ๆ ตอบกลับไป "ผมนั่งดื่มกับพี่เทียนนะครับแม่แต่ว่าพี่เทียนอ่ะไม่รู้หายไปไหน""แล้วเป็นไงปวดหัวไหม" "นิดหน่อยครับ" "มีซุปอยู่ในครัวเดี๋ยวแม่ไปอุ่นมาให้นะ""ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปทำเองดีกว่า""แม่ไปทำให้ได้นะ""แม่ปอกผลไม้ไปเถอะครับเดี๋ยวผมทำเองก็ได้เรื่องแค่นี้""โอเคจ๊ะ" ธูปหายเข้าไปในครัวสักพักแล้วเดินกลับมาพร้อมถ้วยน้ำซุปร้อน ๆ แบบที่มีควันลอยชัด"ระวังร้อนนะลูก" "ครับแม่"

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   75

    เช้าวันต่อมีหลังจากที่หมิงตื่นนอนเขาก็รีบโทรหาเอมม่าทันทีเพื่อสอบถามว่าทางเธอเป็นยังไงบ้างแต่ก็ได้คำตอบเป็นว่าปูนปั้นร้องไห้หนักเกินไปเธอเลยไม่กล้าถาม เทียนลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าของหมิงแล้วเดินออกมาหาจากห้องเจอเขากำลังนั่งคุยกับแม่อยู่"คุณน้าสวัสดีครับ""ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ""ครับ คุณน้าสบายดีนะครับ""สบายดีจ่ะ เทียนสบายดีไหมลูก""ช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อยแต่ว่าก็โอเคดีครับ""เดี๋ยวกูจะออกไปทำงานมึงจะไปพร้อมกูใช่ไหม""เออดิ กูต้องไปเอารถด้วยเนี่ย" "อืม...งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับแม่""จ่ะ ขับรถระวังนะลูก" "ครับ"ทั้งสองคนมาถึงห้องบ้านของปูนปั้นแล้วแต่ยังไม่มีใครลงมาสักคนหมิงเลยช่วยโทรตามเอมม่าให้เพื่อให้เธอออกมาเปิดประตูให้หน่อย"คุณเทียนมาเอากุญแจรถใช่ไหมคะ""ครับ""ปูนปั้นยังไม่ตื่นเลยค่ะ คุณเทียนรอแป๊ปนึงได้ไหมคะเดี๋ยวเอมม่าไปปลุกน้องให้""ไม่ต้องครับ" เทียนไม่อยากให้เอมม่าไปรบกวนเวลานอนของปูนปั้น ถึงแม้พวกเขาจะทะเลาะกันแต่เทียนก็ไม่สามารถโกรธปูนปั้นจนไม่สนใจเขาได้"คุณเทียนอยากเข้ามานั่งในบ้านก่อนไหมคะ" เอมม่าอยากลองเปิดใจคุยกับเขาก่อนเผื่อว่าจะมีวิธีช่วยให้สองคนนี้คืนดีกัน เ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   74

    19:40 น.ธูปเดินเข้าบ้านมาเห็นพี่ชายนั่งหลับตาเงยหน้าพิงโซฟาอยู่ด้วยสภาพเหนื่อยล้าจึงรู้สึกสงสารขึ้นมานิดหน่อย เขารู้ว่าช่วงนี้เทียนทั้งเหนื่อยและเครียดแต่ก็ยังทำตัวดื้อต่อต้านพี่ชายอยู่ตลอดเวลาแทนที่จะช่วยแบ่งเบาภาระเขาบ้าง ธูปถอนหายใจออกมาแล้วเดินไปในครัวหยิบเบียร์ออกมา 4 กรป๋อง เสียงกระป๋องเบียร์วางกระทบโต๊ะกระจกด้านหล้าทำเอาเทียนต้องลืมตาขึ้นมามองด้วยความสงสัย"อะไรเนี่ย""ก็เบียร์ไง ทำไมเดี๋ยวนี้ดื่มกับน้องชายไม่ได้แล้วหรือไง""นี่แกหายโกรธฉันแล้วเหรอ""ผมไม่ได้หายโกรธแค่สงบศึกชั่วคราว""ขอบใจนะ" เทียนว่าแล้วหยิบกระป๋องเบียร์มาเปิดดื่ม"แล้ววันนี้เป็นไงบ้างอ่ะ""ไม่มีไรหรอกแค่ไปทำบุญแล้วก็แวะไปเรือนจำนิดหน่อย""ไปหาไอ้เมฆเหรอ""อืม""ไปหามันทำไมอ่ะ นี่ถ้าสามารถยัดเงินผู้คุมได้ว่าไม่ต้องให้ข้าวมันกินสักเม็ดผมคงยัดไปแล้ว มั่นไส้จริง ๆ ไอ้พวกเนรคุณเนี่ย""มันก็ได้รับกรรมมันแล้วแหละ""ได้รับแล้วแต่ยังไม่คุ้มไง""แล้วพ่อเป็นไงบ้าง""ไม่รู้สิวันนี้ผมไม่ได้ไปหาพ่อ""อ้าว~ แล้วไปไหนมาทั้งวัน""ฮะ? กะ ก็ไปทำงานของผมดิ""งานอะไร วันนี้ร้านปิดไม่ใช่เหรอ" "งาน...งาน...เรื่องส่วนตัวของผมแหละ

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   73

    ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากเกิดเหตุที่ตระกูลสิริยากรเทียนก็ค่อนข้างจะยุ่งมากไหนจะเรียกงานศพที่ต้องจัดตามศาสนาของแต่ละคน เรื่องปิดข่าวการฆาตกรรม เรื่องอาการของพ่อที่ถึงแม้จะปลอดภัยแล้วแต่ก็ยังต้องรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลแล้วไหนจะเรื่องสภาพจิตใจของคนในบ้านที่ต้องดูแลกันอีก ช่วงนี้เขาต้องเทียวไปตรงนู้นทีตรงนั้นทีหลายรอบต่อวันเลยเหนื่อยและเครียดจนสายต่อแทบขาดแต่ก็ต้องทำ ธูปเองก็ยังงอนเทียนไม่หายที่ปกผิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้กับเขาจึงไม่ยอมคุยหรือให้ความร่วมมือใด ๆ เลยนอกจากไปร่วมงานศพกับเฝ้าดูแลพ่อที่โรงพยาบาลส่วนคุณผู้หญิงทั้งสองคนตอนนี้รักษาการดูแลธุรกิจให้ดำเนินไปต่อแทนเทียนชั่วคราวเพราะถ้าธุรกิจไม่ดำเนินต่อไปแบบปกติอาจเป็นที่สงสัยของคนภายนอกได้เพราะงั้นช่วงนี้คนที่ไปงานสังคมรวมถึงประชุมต่าง ๆ ก็จะเป็นคุณผู้หญิงทั้งสองคนแทน"นี่กระดูกของลุงวิสุทธิ์ครับ" เจสันถือห่อผ้าสีขาวใส่พานส่งให้เทียน พวกเขายืนอยู่ในวัดที่เงียบสงบเพราะตั้งใจเอาสังฆทานและเงินปัจจัยจำนวนหนึ่งมาถวายให้กับที่วัดเพื่อทำบุญทำกุศลครั้งใหญ่ให้กับทุกคนตามที่คุณหญิงหยาดทิพย์แนะนำ"แล้วของคนอื่น ๆ ล่ะ" "ของคนอื่นหลังจากทำกา

  • My little boy ปูนปั้นน้อยของเฮีย   72

    เทียนทิ้งตัวลงบนโซฟายกแขนขึันมาก่าวหน้าผากไว้ ้ขาหลับตาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ปูนปั้นที่เติมตามเข้ามาก็แยกไปในครัวเทน้ำเย็น ๆ ใส่แก้วมาให้เขา"กินน้ำก่อนครับ" "ขอบใจนะ" เทียนรับน้ำมาดื่มจนหมดแก้วแล้วเงยหน้ามองปูนปั้นที่ยืนดูเขาอยู่ เขาเอาแก้ววางลงบนโต๊ะกระจกแล้วจับมือปูนปั้นพาเขาให้เข้ามานั่งลงบนตักของตัวเองก่อนจะกอดกอดแล้วเอียงหัวไปพิงที่หน้าอกของปูนปั้น ปูนปั้นเองก็ยกมือขึ้นมาลูกที่ต้นแขนของเทียนเป็นการให้กำลังใจ"เหนื่อยมากเลยใช่ไหมครับ""วันนี้พี่ทำให้คนมากมายต้องตาย พวกเขาเอาทั้งชีวิตของตัวเองมาแลกเพื่อพี่และคนในครอบครัว สำหรับพี่แล้วพวกเขาไม่ใช่แค่บอดี้การ์ดแต่พวกเขาเป็นเหมือนคนในครอบครัวของพี่จริง ๆ บางคนก็เคยเห็นพี่มาตั้งแต่เด็ก ๆ บางคนก็เคยเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่ พอ...พอพี่ต้องมาเห็นพวกเขาตายไปต่อหน้าต่อตามันก็อดโทษตัวเองไม่ได้" เทียนเริ่มมีน้ำตาคลอออกมาแต่เขาก็พยายามอดทนฝืนเอาไว้เพราะไม่อยากให้ปูนปั้นมาเห็นมุมที่อ่อนแอของเขา"ลุงทำดีที่สุดแล้ว""ถ้าตอนนั้นพี่ไม่คิดวางแผนให้มันซับซ้อนแล้วจัดการพวกมันตรง ๆ ไปเลยตั้งแต่แรกวันนี้ครอบครัวพี่คงไม่โดนพวกมันเล่นกลับหนักขนาดนี้หรอก ถ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status