เทียนกับเจ๋งเดินออกมาจากบ้านพร้อมกันโดยมีพายุยืนรอก่อนอยู่แล้ว "เป็นไงบ้าง" เทียนถามพายุทันทีที่เจอหน้าเขาเพราะก่อนหน้านี้พายุส่งข้อความมาบอกเขาว่ายืนรออยู่หน้าบ้านแล้วเขาถึงได้ขอตัวออกมา"เจอตัวแล้วครับ" "ดี! งั้นนายกับเจ๋งไปทำงานนี้ด้วยกัน เอาให้คนเหี้ย ๆ แบบมันจำความรู้สึกผิดนี้ของมันไปจนตายแล้วก็อยู่แบบหวาดระแวงไปตลอดชีวิต""ได้ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบแล้วหันไปพยักหน้ากับพายุจากนั้นพวกเขาก็เดินออกจากบ้านไปพร้อมกันเจ๋งขับรถมาตามเส้นทางที่พายุจนมาถึงหน้าปากซอยแห่งนึงย่านชานเมือง ดูเป็นสถานที่สะอาด สงบ คนไม่พลุกพล่าน"เลี้ยวเข้าไปเลยพี่" เจ๋งเลี้ยวเข้ามาช้า ๆ พยายามมองดูซ้ายขวาเพื่อหาตัวคนที่เจ้านายสั่งให้มาจัดการ มันเป็นเหมือนโครงการบ้านทาวน์เฮ้าขนาดไม่ใหญ่ ถนนสองเลนสวนกันและมีบ้านอยู่ไม่เกิน 40 หลังดูเงียบสงบแต่บ้านทุกหลังล้วนเสื้อผ้าและรถจอดอยู่นั่นเท่ากับว่าที่นี่มีคนเยอะอาจไม่สะดวกต่องานของเขาแต่ถึงแม้บ้านทุกหลังจะมีคนพักอาศัยแต่ถนนในซอยกลับโล่งไม่มีคนเดินไปมา"จอดตรงนี้ก่อนพี่" พายุบอกให้เจ๋งจอดหลบหลังเสาไฟฟ้าเพื่อซุ่มรอเหยื่อของพวกเขา"ที่นี่มีคนเยอะจะลงมือได้เหรอ""ผมมาเฝ้าสั
ระหว่างที่ปูนปั้นกำลังขับรถกลับบ้านพร้อมพี่สาวเขาแอบสังเกตเห็นว่าเอมม่านั้นเงียบผิดปกติแถมยังมีสีหน้าที่เศร้าด้วย"วันนี้ที่ร้ายยุ่งมากเหรอพี่""เฮ่อ~ ใช่" เอมม่าถอนหายใจออกมาทีนึงก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนคนกำลังมีเรื่องหนักใจ"แล้วทำไมวันนี้ถึงให้ผมมารับอ่ะปกติจะกลับกับพี่หมิงไม่ใช่เหรอ""พี่เกรงใจเขาอ่ะ""อ๋อ~ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันใช่ไหมเมื่อกี้ผมเห็นพี่หมิงเขาเหมือนมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่นะ""ก็ไม่ได้มีอะไรกันหนิ" ปูนปั้นเห็นท่าทางของเอมม่าไม่ค่อยอยากตอบเรื่องนี้เท่าไหร่ก็พอจะเดาได้แล้วว่าทั้งคู่น่าจะมีปัญหากันจริง ๆ"พรุ่งนี้ผมจะไปที่บ้านลุงนะคงไม่ได้กลับมานอนที่บ้านกับพี่แล้ว""ไม่ต้องห่วงพี่หรอก ไปเถอะ""มีเรื่องอะไรโทรหาผมได้ตลอดเลยนะ""โอเค"ช่วงสายของวันต่อมาเทียนก็มารับปูนปั้นที่บ้านตามที่นัดไว้ เขาช่วยยกกระเป๋าจองปูนปั้นขึ้นรถรอจนเอมม่ากับปูนปั้นกอดลากันแล้วถึงได้ขอตัวพาปูนปั้นไป "ทำไมทำหน้างั้นอ่ะไม่อยากกลับไปอยู่กับพี่แล้วเหรอ""ไม่ใช่แบบนั้นแต่เมื่อวานผมเห็นเหมือนพี่เอมม่ากับพี่หมิงจะมีปัญหากันเลยไม่สบายใจนิดหน่อย""พวกเขาโตแล้วมีเรื่องอะไรเดี๋ยวก็จัดการกันเองแหละ""ผม
ทุกคนในร้านช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งจนแทบไม่ได้หยุดพักเพราะตอนนี้ใกล้ช่วงสิ้นปีแล้วโรงงาน บริษัทและพนักงานหลาย ๆ แห่งก็เริ่มทยอยปิดยาวกันบ้างแล้วจึงทำให้สถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงห้างร้านที่ยังเปิดให้บริการอยู่มีคนไม่ขาดสาย"เดี๋ยวถึงคิวใครไปเบรกก็รีบไปเลยนะเสร็จแล้วจะได้มาเปลี่ยนให้คนอื่นไปกินข้าวบ้าง" "ครับ/ค่ะเชฟ""ขอเต็มที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมงนะส่วนอีก 1 ชั่วโมงฉันจะให้คุณเอมม่าจ่ายเป็นค่าแรงพิเศษให้แทนแต่ว่าถ้าใครรู้สึกไม่สะดวกหรือไม่ไหวยังไงอยากขอพักเต็ม 2 ชั่วโมงก็บอกฉันได้เลย ฉันจะไม่บังคับ""รับทราบครับ/ค่ะ" หลังจากฟังที่กุ๊กไก่พูดจบเหล่าพ่อครัวรุ่นเล็กทุกคนก็หันกลับไปสนใจงานตรงหน้าต่อ "ทำไมวันนี้พี่กุ๊กไก่ไม่ดุเลยว่ะทั้ง ๆ ที่งานยุ่งขนาดนี้อ่ะ" ริษาแอบกระซิบถามกัปตันที่เตรียมเอาของหวานเข้าอบในเตา"ใจเย็น ๆ แกรอดูเถอะปกติเวลางานพี่กุ๊กไก่ไม่เคยไม่โหดนะ" "กัปตัน! ริษา!" เสียงเรียกที่ทั้งดังและกระแทกขนาดนี้ทำให้ทั้งสองคนสะดุ้งทันที"คะ ครับเชฟ""คะเชฟ""มัวคุยอะไรกันไม่เห็นเหรอว่างานตรงหน้ามีอยู่อีกเท่าไหร่ ออเดอร์ไหลมากองเป็นหางว่าวยังกล้ายืนคุยกันอีก แหกตาดูคนอื่นเขาบ้าง!""ข
ธูปเดินลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกหนึบ ๆ ในหัว ราวกับมีค้อนเล็ก ๆ กำลังทุบอยู่เบา ๆ เป็นสัญญาณของการแฮงค์ที่คุ้นเคยจากการดื่มหนักเมื่อคืน เขาจำได้ว่าลุกเดินลงจากห้องมาปลุกเขากลางดึกเพื่อให้เขากลับขึ้นมานอนที่ห้องของตัวเองหลังจากที่เทียนหายไปแล้ว ธูปลุกออกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องเพื่อมาหาอะไรทานก่อน ธูปเดินโซซัดโซเซมาถึงโต๊ะอาหาร ก็เห็นว่าแม่ของเขากำลังนั่งปอกผลไม้อยู่เงียบ ๆ คนเดียวแว่วเสียงแม่ทักขึ้นด้วยความงัวเงียทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นลูกชายคนเล็กที่ตัวใหญ่ของเธอเป็นแน่ "ตื่นแล้วเหรอคนเก่งของแม่ เมื่อคืนนี้ลูกดื่มหนักไปหน่อยนะ" แม่พูดพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ธูปได้แต่ยิ้มแหย ๆ ตอบกลับไป "ผมนั่งดื่มกับพี่เทียนนะครับแม่แต่ว่าพี่เทียนอ่ะไม่รู้หายไปไหน""แล้วเป็นไงปวดหัวไหม" "นิดหน่อยครับ" "มีซุปอยู่ในครัวเดี๋ยวแม่ไปอุ่นมาให้นะ""ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปทำเองดีกว่า""แม่ไปทำให้ได้นะ""แม่ปอกผลไม้ไปเถอะครับเดี๋ยวผมทำเองก็ได้เรื่องแค่นี้""โอเคจ๊ะ" ธูปหายเข้าไปในครัวสักพักแล้วเดินกลับมาพร้อมถ้วยน้ำซุปร้อน ๆ แบบที่มีควันลอยชัด"ระวังร้อนนะลูก" "ครับแม่"
เช้าวันต่อมีหลังจากที่หมิงตื่นนอนเขาก็รีบโทรหาเอมม่าทันทีเพื่อสอบถามว่าทางเธอเป็นยังไงบ้างแต่ก็ได้คำตอบเป็นว่าปูนปั้นร้องไห้หนักเกินไปเธอเลยไม่กล้าถาม เทียนลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าของหมิงแล้วเดินออกมาหาจากห้องเจอเขากำลังนั่งคุยกับแม่อยู่"คุณน้าสวัสดีครับ""ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ""ครับ คุณน้าสบายดีนะครับ""สบายดีจ่ะ เทียนสบายดีไหมลูก""ช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อยแต่ว่าก็โอเคดีครับ""เดี๋ยวกูจะออกไปทำงานมึงจะไปพร้อมกูใช่ไหม""เออดิ กูต้องไปเอารถด้วยเนี่ย" "อืม...งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับแม่""จ่ะ ขับรถระวังนะลูก" "ครับ"ทั้งสองคนมาถึงห้องบ้านของปูนปั้นแล้วแต่ยังไม่มีใครลงมาสักคนหมิงเลยช่วยโทรตามเอมม่าให้เพื่อให้เธอออกมาเปิดประตูให้หน่อย"คุณเทียนมาเอากุญแจรถใช่ไหมคะ""ครับ""ปูนปั้นยังไม่ตื่นเลยค่ะ คุณเทียนรอแป๊ปนึงได้ไหมคะเดี๋ยวเอมม่าไปปลุกน้องให้""ไม่ต้องครับ" เทียนไม่อยากให้เอมม่าไปรบกวนเวลานอนของปูนปั้น ถึงแม้พวกเขาจะทะเลาะกันแต่เทียนก็ไม่สามารถโกรธปูนปั้นจนไม่สนใจเขาได้"คุณเทียนอยากเข้ามานั่งในบ้านก่อนไหมคะ" เอมม่าอยากลองเปิดใจคุยกับเขาก่อนเผื่อว่าจะมีวิธีช่วยให้สองคนนี้คืนดีกัน เ
19:40 น.ธูปเดินเข้าบ้านมาเห็นพี่ชายนั่งหลับตาเงยหน้าพิงโซฟาอยู่ด้วยสภาพเหนื่อยล้าจึงรู้สึกสงสารขึ้นมานิดหน่อย เขารู้ว่าช่วงนี้เทียนทั้งเหนื่อยและเครียดแต่ก็ยังทำตัวดื้อต่อต้านพี่ชายอยู่ตลอดเวลาแทนที่จะช่วยแบ่งเบาภาระเขาบ้าง ธูปถอนหายใจออกมาแล้วเดินไปในครัวหยิบเบียร์ออกมา 4 กรป๋อง เสียงกระป๋องเบียร์วางกระทบโต๊ะกระจกด้านหล้าทำเอาเทียนต้องลืมตาขึ้นมามองด้วยความสงสัย"อะไรเนี่ย""ก็เบียร์ไง ทำไมเดี๋ยวนี้ดื่มกับน้องชายไม่ได้แล้วหรือไง""นี่แกหายโกรธฉันแล้วเหรอ""ผมไม่ได้หายโกรธแค่สงบศึกชั่วคราว""ขอบใจนะ" เทียนว่าแล้วหยิบกระป๋องเบียร์มาเปิดดื่ม"แล้ววันนี้เป็นไงบ้างอ่ะ""ไม่มีไรหรอกแค่ไปทำบุญแล้วก็แวะไปเรือนจำนิดหน่อย""ไปหาไอ้เมฆเหรอ""อืม""ไปหามันทำไมอ่ะ นี่ถ้าสามารถยัดเงินผู้คุมได้ว่าไม่ต้องให้ข้าวมันกินสักเม็ดผมคงยัดไปแล้ว มั่นไส้จริง ๆ ไอ้พวกเนรคุณเนี่ย""มันก็ได้รับกรรมมันแล้วแหละ""ได้รับแล้วแต่ยังไม่คุ้มไง""แล้วพ่อเป็นไงบ้าง""ไม่รู้สิวันนี้ผมไม่ได้ไปหาพ่อ""อ้าว~ แล้วไปไหนมาทั้งวัน""ฮะ? กะ ก็ไปทำงานของผมดิ""งานอะไร วันนี้ร้านปิดไม่ใช่เหรอ" "งาน...งาน...เรื่องส่วนตัวของผมแหละ