เพราะคนถูกถามเขาคิดจริง..
“...”
“เหม็นบุหรี่จัง เดี๋ยวเราไปเอาหมากฝรั่งมาให้เคี้ยวนะ” ว่าเสร็จร่างบางก็วิ่งหายเข้าไปข้างใน ทิ้งให้อีกคนมองตามด้วยความสับสนงุนงง
เรื่องคืนนั้นว่าน่าตกใจแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้น่าตกใจยิ่งกว่า
อะไรวะเนี่ย?
“หมากฝรั่งค่ะ” ยืนงงไม่ทันหาย หมากฝรั่งเม็ดสีขาวถูกยื่นจ่อปาก ไนท์จึงอ้าปากรับมันเข้าในปากแล้วเคี้ยวด้วยอาการติดงุนงง
“หวาน”
“ปกติหมากฝรั่งก็หวานหนิคะ”
“ไม่ใช่ รสสตอเบอร์รี่หวานไปสำหรับผู้ชาย”
ฟืดๆ
นานิยื่นหน้าขึ้นไปดมใกล้ๆ ปากเรียวที่ขยับเคี้ยวมันฝรั่ง ทำเอาคนโดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวถึงกลับนิ่งงันไปชั่วขณะ
นานิขยับตัวออกแล้วหันหน้าไปยืนเกาะราวระเบียง ไนท์จึงขยับไปยกแขนเท้ากับราวระเบียงหันหลังให้กับวิวข้างหลัง เอียงหัวเล็กน้อยมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังชื่นชมวิวหน้า
“เราว่าไม่นะ เหมาะกับพี่ออก ละมุนดี” ท้ายประโยคนานิหันมามาสบตาไนท์แล้วบอกด้วยรอยยิ้มบาง
“ถามจริง?” หน้าตาดุดันอย่างเขานะเหรอ เหมาะกับคำว่า ‘ละมุน’
“จริงค่ะ หน้าตาอาจจะไม่ละมุน แต่ตัวตนที่แท้จริงพี่ละมุนมากนะ”
ไนท์เป็นคนที่มีนิสัยขัดกับลุคมาก ช่วงที่ไนท์คบกับไอญดา เขาปฏิบัติกับเพื่อนเธอดีแค่ไหน เขาคือผู้ชายแสนดีคนหนึ่งที่ไม่ควรปล่อยหลุดมือไป ทว่า...ความรักเป็นสิ่งเข้าใจยาก มันซับซ้อน ซ่อนเงื่อนมากกว่าที่จะอธิบายได้ ผู้ชายแสนดีตรงหน้าคนนี้เลยถูกเลือกให้ผิดหวัง
ไนท์ไม่โต้ตอบกลับแม้จะไม่เห็นด้วยกับนานิที่บอกว่าผู้ชายตัวโตอกสามศอกอย่างเขา ‘ละมุน’ เขาทำเพียงแค่โครงหัวแล้วยืดตัวตรงหมุนตัวหันไปออกนอกระเบียง มือสองข้างล้วงเข้ากางเกง สายตาคมทอดยาวออกไปตรงหน้า
“พี่”
“ฮึ?” ไนท์ตอบรับโดยที่ยังทอดสายตามองวิวข้างหน้าเหมือนกับคนที่เรียกเขา
“ข้อเสนอคืนนั้น..ถ้าเราตอบตกลงตอนนี้ยังทันอยู่ไหม” ประโยคนี้ทำไนท์ละสายตาจากวิวข้างหน้าหันขวับมามองนานิอย่างอึ้ง
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจ ตกใจ สับสน งงงวย ตอนนี้มีหลายความรู้สึกมากจนไม่สามารถบอกได้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง
“นานิ คือพี่..” ‘ไม่ได้ตั้งใจ คืนนั้นแค่เมา’ ประโยคที่ควรพูดให้จบแต่กลับหยุดไว้แค่นั้น ไม่รู้ทำไม แต่เขาไม่อยากพูดมันออกไป
“พี่ไม่อยากทำแบบนี้กับเรา เรายังต้องเจอกัน วันไนต์กันแล้วจะมองหน้ากันติดยังไง”
“งั้นใช้เราลืมไอไหม”
ไนท์สตั้นไปชั่วขณะ อยู่ๆ ในหัวก็ขาวโผลน มันว่างเปล่าเหมือนคิดอะไรไม่ออก
“ใช้เราลืมไอ” นานิย้ำความต้องการของตัวเองอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงและสายตาที่แน่วแน่มั่นใจ
“….อย่าเลย อย่าทำเพียงเพราะเราแค่สงสารพี่”
“เรายอมรับ ว่าเราสงสารพี่จริง แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด” เธอรู้สึกดีกับคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูกและไม่เข้าใจด้วยการกระทำของตัวเองด้วย รู้แค่ว่าอยากทำแบบนี้
ความรู้สึกคนเรามันช่างซับซ้อน ก็คงจะจริง..
“เราก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าการทำให้ใครสักคนลืมคนเก่ามันไม่ได้ง่าย จำสภาพพี่วันนั้นไม่ได้เหรอ มันไม่คุ้มนะ” ทฤษฎีนี้ไม่ได้ผลในเคสเขากับไอญดา เธอเองก็เห็นและรับรู้มาตลอดแล้วทำไมถึงอยากทำแบบนี้ เขาไม่เข้าใจตรงหน้าเลย
“เรารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้หนิคะ อีกอย่างมันไม่เหมือนกันนะคะ ไอตอนนั้นมีพี่เดย์รออยู่ แต่พี่ตอนนี้ไม่มีใคร แล้วก็กลับไปหาไอไม่ได้อีกแล้ว” เธอไม่ได้จะตรอกย้ำ แค่เปรียบเทียบให้ไนท์เห็นข้อแตกต่าง
“แล้วเราจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ทำแล้วไปแล้วเราได้อะไร” ไม่เห็นเธอจะได้อะไรจากเรื่องนี้เลย ทำไมต้องเอาตัวเองเข้ามาเกี่ยวพันกับเขาด้วย สู้เอาเวลาไปหาผู้ชายที่พร้อมรักเธอไม่ดีกว่าเหรอ
“ได้พี่ไง
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองสินะ! เพราะความเป็นเพื่อนกันมานานยูสึเกะคงไม่อยากให้เพื่อนกับน้องสาวสานสัมพันธ์กันในเชิงคู่รักเพราะถ้านานิกับมิลล์ไปกันไม่รอดอาจจะเสียความเป็นเพื่อนกันได้ ตอนนี้ไนท์เข้าใจแล้วว่าทำไมมิลล์ถึงไม่เข้าหานานิมากกว่านี้ทั้งที่มีโอกาส หลังจากประโยคฮุคของยูสึเกะ ไนท์ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดตัวเอง ไม่รับรู้แม้กระทั่งยูสึเกะเดินออกไป ในหัวตอนนี้มีแต่ความหวาดหวั่น หวั่นกลัวและสับสนพุ่งเข้าใส่จนสมองมันมึนงงคล้ายหูอื้อตาลายไปชั่วขณะ“พี่” เสียงเรียกของนานิทำให้ไนท์ตื่นจากพวัง “เป็นอะไรคะ เราเรียกตั้งหลายครั้ง”ไนท์ไม่ตอบแต่ตวัดแขนแกร่งคว้าร่างบางเข้ามากอด ใบหน้าคมลดลงวางไว้กับบ่าเล็กแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นเหมือนกลัวคนในอ้อมกอดหายไป“คุยอะไรกับพี่ยูคะ บอกเราได้ไหม” ความเงียบและอาการของไนท์ทำให้นานิอยากรู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกัน “เราคิดยังไงกับไอ้มิลล์” เสียงทุ้มเอ่ยถามแผ่วเบา“คะ?”“ชอบมันไหม คิดกับมันเกินเพื่อนพี่ชายรึเปล่า?”“ไม่ค่ะ เราคิดกับพี่มิลล์แค่พี่ชาย” อดีตเคยคิดเกินเพื่อนพี่ชาย แต่ปัจจุบันไม่แล้ว แต่นานิคิดว่าไนท์ไม่จำเป็นต้องรู้ความรู้สึกของเธอไหนอดีตเพราะมันก็แค่อดีต
เช้าวันต่อมาเพราะคอแห้งผากจนนอนต่อไปไม่ไหวเลยต้องฝืนตัวลุกจากเตียงอุ่นและร่างนุ่มนิ่มเดินออกห้องนอนไปยังห้องครัวเพื่อหาน้ำเย็นๆ ดื่มไนท์เดินเมาขี้หูขี้ตา ยกมือเสยผมที่ร่วงปรกหน้าปกตาแล้วเลื่อนไปทุบที่หัวที่ตอนนี้มันปวดตุบๆ จากอาการแฮ้งเหล้าไม่น่าแดกเยอะเลยกู วันนี้คงต้องชดใช้กรรมด้วยอาการปวดหัวทั้งวัน..แกร็ก~เปิดประตูห้องมาเท้าหนาก็ชะงักเมื่อเจอกับคนบางคนที่ไม่คิดว่าเจอที่นี่มันมาทำอะไรที่นี่?อีกหนึ่งหนุ่มที่มีสีหน้ายับยู่ยี่ด้วยอาการแฮ้งค์จากการดื่มจนน็อกเมื่อคืนกำลังยกขวกน้ำดื่มก็ชะงักเหมือนกันเมื่อเห็นไนท์ไนท์เดินกระแทกไหล่มิลล์ที่ยืนหน้าตู้เย็นเปิดประตูหยิบน้ำออกมาหนึ่งขวด ก่อนปิดประตูตู้เย็นด้วยเสียงดังปัง“มึงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง” กรอกน้ำเข้าปากไปเกือบครึ่งขวด ลำคอที่แห้งผากก็รู้สึกดี เลยทำให้ไนท์มีเสียงเอ่ยทักมิลล์“แล้วมึงล่ะมาทำอะไร”“กูก็มาหาเจ้าของห้อง”“กู..เจ้าของห้องพามา” มิลล์ตอบกลับอย่างยียวน“มึงอย่ามากวนตีน”“กูไม่ได้กวนตีน เจ้าของห้องพากูมาจริงๆ แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งที่กูมา” เขาเห็นไนท์แวบๆ กับน้องสาวของเพื่อนสนิทหลายครั้งแล้ว แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าได้เจอที่นี่ เด
“เรียกพี่ไนท์ 2 นาทีได้ไหมน้า”“ล้อเหรอ เดี๋ยวโดน “ลงโทษคนล้อเลียนด้วยการซุกใบหน้าหล่อเหลาไปฟัดกับหน้าอกอวบ จนเจ้าของเต้างามเปิดปากหัวเราะเพราะความ,จั๊กจี้ใครว่าเมาแล้วเสร็จยาก เขาเสร็จเร็วฉิบหาย จับยัดแป๊บๆ แตกเฉย สัสเอ๊ย!“ฮ่าๆ พี่พอแล้ว เราจั๊กจี้”“รอบที่สองก็แก้ตัวแล้วไง จำแต่รอบที่ดีก็พอ”“^^”“กล่อมหน่อยครับ ง่วงแล้ว”กว่าจะง่วง จัดไปตั้งสองรอบ รอบแรกกินเวลาน้อยนิดแต่รอบสองยืดเยื้อเกินครึ่งชั่วโมงได้ เวลาปาไปกี่โมงแล้วไม่รู้ น่าจะดึกมากแล้ว เธอเองก็หนังตาหนักอึ้ง ฝืนลืมตาต่อไปไม่ไหวแล้วเหมือนกันเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ไนท์หลับภายในเวลาไม่กี่นาที“ง่วงขนาดนี้ ยังฝืนตัวเองทำจนได้ คนหื่น “เรียวปากบ่นเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม มือก็ยังลูบไล้กล่อมคนตัวโต แม้เขาจะหลับไปแล้ว เธอทำมันโดยไม่รู้ตัว มันเป็นความเคยชินที่เธอกล่อมไนท์หลับแบบนี้ทุกคืนครืดๆ ~กำลังจะเข้าสู่นิทราเสียงสั่นจากโทรศัพท์ก็ดังรบกวนเสียก่อน เวลานอนนานิมักจะใส่โหมดพระจันทร์ห้ามรบกวนเอาไว้ ถ้าใครมีเรื่องด่วนจริงๆ ก็ต้องโทรหามากกว่าหนึ่งครั้งถึงมีสายเข้าเหมือนเวลาปกติซึ่งสายเรียกเข้าตอนนี้ คนปลายสายคงมีเรื่องด่วน“พี่ยู” เ
ห้องนานิถึงห้องนานิก็ไล่คนเมาไปอาบน้ำทันที ด้วยความที่ไนท์เป็นคนรักสะอาดอยู่แล้ว แม้จะเมาแค่ไหนก็ฝืนกายไปอาบน้ำให้ได้“น้องนานิคร้าบ อาบน้ำให้พี่หน่อยครับ” เสียงยานคางตะโกนจากในห้องน้ำอย่างออดอ้อน“โตแล้ว อาบเองสิคะ” เมาแล้วอ้อนจัง อ้อนที่สุด เรียก ‘น้องนานิ’ ปิดท้ายด้วย’ ครับ’ เสียงหวาน แต่เธอไม่หลงกลหรอก“พี่เมา หัวฟาดพื้นทำไง”“พี่อาบเองได้ เรารู้ รีบอาบเลยค่ะ ไม่งั้นเราจะให้พี่นอนที่โซฟา” ดื้อจังนานิขยับตัวไปยืนใกล้ประตูห้องน้ำที่เปิดอ้าเอาไว้ด้วยฝีมือคนในห้องน้ำที่นึกอยากอาบน้ำโชว์ ที่เธอต้องยืนอยู่ตรงนี้เพราะเผื่อคนเมาลื่นล้มหัวฟาดตอนอาบน้ำขึ้นมาจริงๆ จะได้ยินและเข้าไปช่วยได้เร็วที่สุดแต่คิดว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นหรอก ตอนเดินขึ้นห้องไนท์ก็ดูสร่างเมามาบ้างแล้ว แต่เขาก็ยังคะยั้นคะยอขอให้เธอเข้าไปช่วยอาบน้ำ คิดเหรอว่าเธอจะตกหลุมพราง ขืนเข้าไปต้องโดนเขาจับกินแน่เสียงน้ำปิดลง นานิเลยขยับไปนั่งรอที่เตียงนอนแทน ได้ยินเสียงกุกกักที่อ่างล้างหน้าหลายนาทีก่อนร่างสูงใหญ่จะเดินออกห้องน้ำมาด้วยสภาพผ้าขนหนูพันเอว หัวเปียกหมาด หยดน้ำเกาะตามหน้าอกแกร่งและซิกแพ็กลีนๆเซ็กซี่จัง!แค่มองหน
00.30 น.เวลานี้คนไม่ได้มีนัดฉลองหลังสอบที่ไหนก็ควรเข้านอนได้แล้ว ไม่ใช่กำลังถอยรถเข้าจอดในลานจอดรถย่านสถานบันเทิงแถวมหาลัยอย่างตอนนี้มันไม่ได้เป็นแผนปุ๊บปั๊บเนื่องจากคนเมาเกริ่นๆ เอาไว้หรือจะเรียกว่าขอร้องก็ได้ ว่าถ้าวันนี้เขาเมามารับได้ไหม ซึ่งคำตอบก็คือได้ ไม่งั้นเธอคงไม่มาอยู่ตรงนี้ตอนนี้ ทั้งที่ควรนอนหลับน้ำลายยืดไปแล้วนั่งรอในรถได้ไม่ถึงนาทีก็เห็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยในชุด all black เดินออกจากผับ ด้วยท่าทางที่เดาได้ไม่ยากว่าเขาเมาแน่นอนตอนส่งข้อความไปอ้อนให้มารับ เธอยังต้องนั่งแกะข้อความที่พิมพ์มาผิดๆ ถูกๆ ของเขาเลยริมฝีปากบางกระตุกยิ้มดีใจเมื่อเห็นรถญี่ปุ่นที่จอดอยู่คันหน้าสุด ดึกดื่นขนาดนี้เธอยังมารับเขา เมาครั้งไหนก็เป็นเธอที่คอยดูแล น่ารักชะมัดแบบนี้ต้องให้รางวัลไนท์สาวเท้าก้าวยาวๆ มายังรถของนานิที่มองปุ๊บของรู้ว่าเป็นของเธอ คนในรถไม่ได้ลดกระจกลงต่ำจนเห็นข้างใน ทำเพียงแค่ลดลงเพื่อรับอากาศข้างนอกทว่ายังก้าวไปไม่ถึงไหน ก็มีผู้หญิงหน้าตาดีในชุดเดรสรัดรูปอวดหุ่นน่าขย้ำเดินเข้ามาทัก“พี่ไนท์”นานิหุบยิ้มฉับเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาทักไนท์ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน เม
เมื่อการสอบปลายภาควันสุดท้ายเสร็จสิ้นลง สี่หนุ่มก็พากันมาฉลองที่ร้านอาหารกึ่งบาร์ต่างจากปกติที่จะพากันฉลองที่ผับแถวมหาลัย แต่ด้วยความที่เดย์ยังไม่ถอดเฝือกและยังต้องใช้ไม้ค้ำเดินอยู่ แม้จะลดเหลือแค่อันเดียวแล้วก็ตามแต่ก็ยังเดินเหินไม่สะดวกเหมือนปกติ ทั้งสี่เลยจึงต้องปรับเปลี่ยนสถานที่ฉลองมาเป็นที่นี้เพราะขืนพาเดย์ไปผับในสภาพนี้ คงดูกระเสือกกระสนเกินไป ป่วยอยู่แต่เสือกอยากแดกเหล้าอะไรประมาณนี้ แถมข้างในยังแออัดมากไม่เหมาะกับคนที่เดินเหินยังไม่สะดวกอย่างเดย์แม้แต่นิดและแม้จะเป็นนัดของหนุ่มๆ แต่ไอญดาก็ได้รับอนุญาตให้ติดสอยห้อยตามมาเพราะต้องขับรถมาส่งและรับเดย์กลับเนื่องจากอีกสามหนุ่มไม่ได้เอารถมาเพราะเตรียมตัวจัดหนักกันเต็มสตรีม วันนี้เลยไม่มีใครเป็นสารถีไปรับเดย์ และอีกเหตุผลหนึ่งคือเดย์ติดแฟนสาวมากไปไหนก็ต้องหนีบไปด้วยทุกที ไอญดาจึงได้ร่วมวงกับหนุ่มๆ อยู่บ่อยครั้งวันนี้ไนท์เรียกรถมา รวมถึงเรนจิกับชินด้วย ที่ถือคติเมาไม่ขับ ก่อนหน้านี้มีดื่มแล้วขับบ้าง ถ้าไม่เมามาก แต่ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุกับเดย์ทำให้อีกสามหนุ่มคิดถึงชีวิตตัวเองมากขึ้นและชีวิตคนอื่นบนท้องถนนด้วยขณะที่ไนท์เดินเข้ามาที่