“แฮ่ม… ใครอ่ะนัญ แหม่เดี๋ยวนี้ควงผู้หล่อเชียว ไม่คิดจะแนะนำให้เพื่อนรู้จักหน่อยหรอ”
“เอ่อ… นี่เฮียคิเลียน พี่ชายเราน่ะ” “พี่ชายบุญธรรมครับ” คิเลียนต่อคำทันควัน แต่ไม่ใช่แค่คำพูดมือของเขายังโอบรัดเอวบางไว้แน่น ตั้งใจจะกักเธอเอาไว้ให้หายใจติดเขาเพียงคนเดียว ราวกับประกาศให้ทุกคนรู้โดยเฉพาะชายที่ยืนอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ สายตาคมของคิเลียนตวัดขึ้นสบกับดวงตาเรียบเฉียบของชนกันต์ในเสี้ยววินาที เขาจำไอ้นี่ได้ดีผ่านแชทไลน์ในโทรศัพท์ของลัญชนาเมื่อตอนเที่ยง ไอ้เพื่อนคิดไม่ซื่อ… ชนกันต์จ้องกลับอย่างไม่ยอม เขาเองรู้จักผู้ชายคนนี้ดี พี่ชายบุณธรรมที่ลัญชนาเคยเอ่ยถึงบ่อยๆ ยิ่งภาพตรงหน้ายิ่งบอกชัด เหอะ พี่ชายคิดไม่ซื่อล่ะสิท่า ไฟแลบไม่ต้องมีประกายจริงจัง แต่แค่มองก็บอกได้ว่าทั้งสองคนได้ประกาศศึกกันเรียบร้อยผ่านม่านสายตา บรรยากาศระอุขึ้นทันที กลุ่มเพื่อนต่างพากันเลิ่กลั่ก เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้นกลางโต๊ะที่ทุกคนควรจะหัวเราะเฮฮา กลับกลายเป็นสนามรบของสองหนุ่ม เพื่อนสาวคนหนึ่งรีบแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงฝืนยิ้มกลบเกลื่อน พร้อมผายมือเชิญไปยังโซฟาสองที่ว่างอีกฝั่ง “เอ่อ… คุณคิเลียนกับยัยนัญมานั่งทางนี้ค่ะ เชิญๆ” คิเลียนพยักหน้ารับเบาๆ มือยังโอบเอวคอดกิ่วไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ท่าทางเหมือนเจ้าของที่หวงสมบัตินักหนา แต่แล้วจู่ๆ ก้าวเท้าก็ต้องชะงัก เมื่อมือเล็กของลัญชนาโดนใครอีกคนคว้าไว้จากด้านข้าง “นัญมานั่งกับเราดีกว่า เราเว้นที่ไว้ให้แล้ว” คำพูดของชนกันต์เหมือนฝ้าผ่าลงกลางโต๊ะ ทุกสายตาในกลุ่มหันมองแทบพร้อมกัน หนึ่งมือดึงไว้ข้างซ้าย อีกมือโอบไว้ข้างขวา ศึกชิงนาง กำลังเปิดฉากในงานเลี้ยงฉลองที่ยังไม่ทันได้ยกแก้วชน ลัญชนายืนอึ้งอยู่กลางสองแรงดึง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยอะไรออกมา เสียงทุ้มต่ำของใครอีกคนก็ดังแทรกขึ้นอย่างเยือกเย็น “ไม่เป็นไรครับ พอดีนัญติดพี่ชายน่ะครับ นั่งกับผมน่ะถูกแล้ว” คิเลียนหันไปมองชนกันต์ด้วยสายตาเย็นเฉียบ พูดจบ มือหนาก็ออกแรงดึงน้องสาวให้ขยับตัวตาม ไม่เปิดโอกาสให้อีกคนได้โต้เถียง ไม่มีการถามความสมัครใจของลัญชนา เพราะที่เดียวที่เธอจะนั่งได้คือที่ที่มีเขาเพียงเท่านั้น ลัญชนาเม้มปากแน่น หันมาถลึงตาใส่พี่ชายเงียบๆ อะไรของเฮียเนี่ย ชอบทำอะไรตามใจตัวเองอยู่เรื่อย แถมยังมาใส่ร้ายเธอต่อหน้าคนอื่นอีก ใครเขาไปติดอิพี่ชายเจ้าอำนาจอย่างเขากันเล่า! ชนกันต์เองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับคิเลียนแบบเป๊ะๆ ไม่มีแม้แต่ของคั่น สายตาสองคู่ยังคงจ้องกันนิ่ง แรงปะทะที่ไร้คำพูดทำเอาเพื่อนๆที่เหลือเหงื่อตกจนต้องหันมองหน้ากันไปมา บรรยากาศเย็นเฉียบปะทะกันกลางผับจนคนในวงแทบกลืนน้ำลายไม่ลง จนในที่สุด เพื่อนหนุ่มอีกคนในกลุ่มก็รีบตัดบรรยากาศตึงๆด้วยเสียงสดใสหาคนช่วยดับไฟ “เอ่อ… เรามาชนแก้วกันเลยดีกว่าครับ อย่าเสียเวลาเลยมาๆ ทุกคน!” เสียงเพื่อนคนอื่นๆก็รีบดังขึ้นหัวเราะเฮฮาช่วยกันกลบเกลื่อนความเงียบที่ค้างอยู่ในอากาศ พร้อมกับรินเหล้าลงแก้วให้เพื่อนใหม่สองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาร่วมวง ทว่ายังไม่ทันได้เลื่อนแก้วเหล้าให้สองคน บรรยากาศกลับถูกตัดขาดด้วยเสียงเรียบของชนกันต์ที่เอ่ยแทรกขึ้นอีกครั้ง “ไอ้รบ แลกที่นั่งกัน” ชนกันต์หันไปพูดกับนักรบที่นั่งอีกฝั่งข้างๆลัญชนา สีหน้าและน้ำเสียงของเขาไม่เปิดช่องให้ต่อรองใดๆ “อ…เออๆ” นักรบรีบพยักหน้า ลุกขึ้นอย่างว่าง่ายแล้วย้ายที่นั่งไปอีกฝั่งทันที เขาไม่อยากมีเรื่องหรือเป็นต้นเหตุให้บรรยากาศที่เริ่มจะดีต้องอึดอัดไปมากกว่านี้ ทันทีที่ชนกันต์นั่งฟุบลงข้างลัญชนา ร่างเล็กก็ถูกมือหนาของคิเลียนดึงเข้าไปโอบแนบติดกับลำตัวเขาทันที คนตัวเล็กได้แต่หน้าบึ้ง เพราะยังไงเธอก็เอาชนะแรงไม่ได้อยู่แล้ว คิดจะเล่นกับคนอย่างคิเลียน ลัทธิพิพัฒน์ กลับไปนอนดูดนมแม่เถอะ! “เอ่อ… ทีนี้เราก็ชนแก้วกันได้แล้วเนาะ มาๆ” เพื่อนคนเดิมรีบแทรกขึ้นมาอีกครั้ง คล้ายกลัวว่าความตึงเครียดเมื่อครู่จะทำให้วงแตก เสียงเฮฮาจากคนอื่นๆก็ดังขึ้นตามมาแทบจะในทันที ทุกคนยกแก้วขึ้นชนกันดัง เปร้ง! ก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปาก แล้วกลับมาพูดคุยกันอย่างออกรสอารมณ์อีกครั้ง แต่แล้ว… “นัญ อย่าดื่มเยอะนะ ยิ่งคออ่อนอยู่ เดี๋ยวเมา” เสียงทุ้มติดห่วงใยของชนกันต์ดังขึ้นใกล้หูหญิงสาว นำพาคนฟังหันไปยิ้มขำ “นัญดื่มยังไม่ถึงแก้วเลยกันต์ เว่อร์น่าา” ลัญชนาพูดหยอกกลับด้วยความเคยชิน ก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงแรงโอบที่แน่นอยู่บนเอวคอด ดึงร่างเล็กเข้าไปชิดตัว ก่อนเขาจะหันไปสบตาชนกันต์พร้อมน้ำเสียงราบเรียบแฝงแรงกดดัน “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ นัญจะดื่มจนเมาหรือหลับ… พี่ชายเค้าก็อยู่ทั้งคน ผมไม่ปล่อยให้นัญเป็นอะไรหรอกครับ” “เอ่อ…” เสียงอึดอัดเล็ดลอดจากใครบางคนในวง อีกแล้ว… บรรยากาศเริ่มเย็นเฉียบอีกรอบ ราวกับมีลมหนาวพัดวูบเข้ามาไม่มีปี่มีขลุ่ย เพื่อนหลายคนทำหน้าลำบากใจ กลัวว่าจะแตกหักกันกลางวงเหล้านี่แหละ “ผมก็แค่เป็นห่วงน่ะครับ สมัยนี้ไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ เรามีสติควบคุมตัวเองยังไงก็ดีที่สุดครับ” ชนกันต์สวนกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่เฉียบคม แววตาของเขาสื่อชัดว่าไม่ได้ยอม สองหนุ่มจ้องหน้ากันราวกับพร้อมจะเปิดศึกได้ทุกเมื่อ ขณะที่ลัญชนา ซึ่งถูกนั่งคั่นกลาง รู้สึกอึดอัดจนแทบอยากจะมุดโต๊ะหนี คิเลียนอ้าปากเหมือนจะโต้กลับ แต่ลัญชนารีบยกมือขึ้นห้าม “พอเลยค่ะ ทั้งสองคน นัญโตแล้วนะคะ ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องตามห่วงหรอกค่ะ ทั้งสองเลย” “นั่นสิๆ อีกอย่างเหล้าที่เราสั่งมามันก็ไม่ค่อยแรงเลย ไม่เป็นไรหรอก” เพื่อนอีกคนรีบเสริมทันที หวังให้ทุกอย่างกลับสู่ปกติเร็วๆเถอะ จะเกร็งตายห่ากันหมดแล้วเนี่ย! ทั้งสองหนุ่มจึงยอมละสายตากันอย่างเสียไม่ได้ แล้วหันกลับมานั่งเฉยๆ “มาๆ ชนแก้วต่อดีกว่า!” เสียงใครสักคนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ก่อนเสียงแก้วกระทบกันจะดัง เกร้ง! ตามมาเป็นระลอก ความมึนเมาเริ่มเข้าครอบงำ บางคนเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง บางคนหัวเราะเสียงดังเพิ่มความเฮฮาให้วง ส่วนลัญชนา… เธอนั่งนิ่ง รู้สึกมึนเล็กน้อย แต่อึดอัดมากกว่า มีอยู่คนเดียวก็คือคิเลียน พ่อเสือที่เหล้าแค่นี้เอาเขาไม่ลงหรอก แม้จะดื่มไปเท่าไหร่ก็ยังดูไม่เปลี่ยน มือหนายังคงโอบเอวน้องสาวไม่ปล่อยเหมือนตั้งใจย้ำสถานะ ส่วนชนกันต์ก็เริ่มหน้าแดงนิดๆ แต่ยังประคองสติไว้ได้อยู่ “เรามาเล่นเกมเพิ่มความสนุกกันดีกว่าเว้ย เอาป่าว~” เสียงของเพื่อนคนหนึ่งดังขึ้นอย่างครื้นเครง แถมยังลากเสียงยาวจนเกือบจะเป็นลูกทุ่ง พาให้สายตาทั้งวงหันมามอง “เอาดิว้ะ~ เกมส์ไรมาเลย กูได้โหมดด~” อีกคนสนับสนุนทันที “เกมส์นี้ม่ายด้ายแปลกใหม่อาไรหรอก อย่างที่ทุกคนรู้ววกัน~ ชื่อเกมว่า Truth or Dare!”หนึ่งเดือนต่อมา… “เฮียออกไปไกลๆเลย ถ้าไม่อยากมีเค้า นัญเลี้ยงคนเดียวก็ได้ค่ะ เฮียจะไปไหนก็ไปเลย” เสียงเล็กตวาดลั่น นํ้าตาคลอเอ่อเต็มเบ้าตาไปหมด เธอกำลังน้อยอกน้อยใจเขาเต็มที พอกันทีถ้าไม่อยากจะมีลูกด้วยกัน เธอหอบลูกไปเลี้ยงเองก็ได้ ทำเอาคนที่ยืนฟังหน้าชา “ด..เดี๋ยวนัญ ใจเย็นก่อนนะครับทูลหัว ฟังเฮียก่อน” ตอนนี้เขาเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูกไปหมด เพราะไม่เคยรองรับอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของภรรยาตัวเล็กแบบนี้มาก่อนเลย อยู่ๆเธอก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เขาก็พึ่งรู้ว่าเธอนั้น กำลังท้องเจ้าตัวน้อยให้เขาอยู่ “ฮึกก เฮียไปไกลๆเลยนะ นัญไม่อยากเห็นหน้าเฮีย ออกไปเลย น้องอุตส่าห์วางแผนเซอร์ไพรส์เฮียแต่เฮียกลับไม่ดีใจที่เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน ฮึกก” เสียงเล็กสะอึกสะอื้นโวยวายใหญ่ ใช่ เหตุผลที่เธอกำลังตวาดไล่เขาก็เพียงเพราะ เขาไม่แสดงอาการดีใจเหมือนพระเอกในซีรี่ย์ที่เธอเคยดู!! แต่กลับกันเขากลับยืนช็อคกับสิ่งตรงหน้า เมื่อเห็นเธอเอาที่ตรวจครรภ์ที่ขึ้นเป็นสองขีดสีแดงชัดเจนมาให้ดู ก็คนมันกำลังช็อคนี่นา พอรู้ว่ากำลังจะได้เป็นพ่อคนครั้งแรก เขาเลยชะงักตกใจกับสิ่งที่เห็นไปชั่วคราวก็แค่นั้นเอง ยังไม่ทันที่จ
(นัญก็มีแหวนให้เฮียเหมือนกันค่ะ) นั่นคือประโยคในคืนนั้นที่ทำเอาหัวใจดวงโตปลื้มปริ่มนักหนาจนหุบปากยิ้มไม่ได้ถึงวันนี้ วันที่เราสองคนกำลังจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ “ไอเหี้ย มัวยืนยิ้มตั้งแต่เมื่อกี้ละ งานจะเริ่มแล้วเร็วเลยมึง” เสียงของนาวินเพื่อนสนิทของเขาที่เดินเข้ามาตามตัวเจ้าบ่าวดังก้อนขึ้น ก็คนมันมีความสุขนี่ จะยืนยิ้มจนลืมตัวแล้วมันแปลกตรงไหนวะ เออแต่ก็อย่างว่า คนไม่มีเมียอย่างมันคงไม่เข้าใจ “เออ กูเห็นมันเอาแต่แหกปากยิ้มแล้วมองแหวนบนนิ้วตัวเองตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนป่ะ ท่าจะเพี้ยนจริงว่ะ” วรัทย์ที่เดินตามเข้ามาก็เสริมเข้าไป แต่ก็ทำอะไรเจ้าบ่าวอย่างเขาไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้เขาอารมณ์ดียิ่งกว่าอะไร ไม่มีเวลามาสนใจพวกไม่มีเมียอย่างพวกมันหรอก เอาเวลาไปสนใจที่รักของเขาดีกว่า “พลํ่าไปเถอะ คนไม่มีเมียแบบพวกมึงจะไปเข้าใจอะไรวะ” พูดตอกหน้าเพื่อนจบ เท้ายาวก็เดินดุ่มๆเข้าไปในงานหน้าตาเฉย ทำเอาวรัทย์กับนาวินถึงกับอยากยกตีนถีบตามหลังไอ้เพื่อนปากดีนี่จริงๆ . . “เจ้าสาวของเฮียสวยที่สุดเลยครับ” เธอสวย เธอสวยที่สุดในโลกสำหรับเขาอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ที่ร่างเล็กในชุดขาวยาวลาก
“อื้ออ เฮียดูดนมน้องหน่อย” แม่งเอ้ย… จะยั่วไปถึงไหนวะ นิ้วเรียวสอดเข้ากลางกายสาวที่ตอนนี้เยิ้มแฉะเต็มไปด้วยนํ้าเมือกสีใส ปากหยักก็พรางก้มลงดูดดูนยอดอกอมชมพูระรื่นด้วยความกระหาย แม่งแล้วเสียงครางจะยั่วไปถึงไหนวะ “อ๊าา เฮียขาา อ…เอาของเฮีย อื้ออ น้องจะเอาของเฮีย” เด็กซนขี้ยั่วยังคงร้องครวญยั่วสวาทไม่ยอมหยุด จนเขาต้องขึ้นมากดจูบแล้วดันลิ้นร้อนเข้าตวาดเลียลิ้นเล็กเพื่อปิดปากไม่ให้เธอพลํ่าต่อ ไม่งั้นเขาคงต้องครั่งตายคาอกเธอจริงๆ จ๊วบๆๆ “อื้มมส์” เสียงครางเล็กเล็ดลอดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเขาเล่นเสียบท่อนเอนร้อนเข้ามาในร่องเธอคราวเดียวสุดจนชนกับผนังมดลูก จุกแต่ก็สมใจยอมรับเลยว่าตอนนี้เธอเกินคำว่าร่านไปแล้วจริงๆ ตรั่บ! เขาถอดมันออกจนแทบสุดก่อนจะกระแทกกลับเข้ามาลึกกว่าเดิม แล้วขาก็ทำแบบนั้นซํ้าๆเหมือนแกล้งเธอ ในขณะที่ปากหยักก็ยังคงบดขยี้เรียวปากดูดดื่มรัวเลียกับกริบปากเธอไม่ยอมผละ มือเล็กที่คล้องอยู่บนคอเขาเริ่มลูบไล้ลงบนแผ่นหลัง กดเล็บลงบนผิวเนื้อเนียนระบายความเสียวซ่านที่เขามอบให้ ตับ ตับ ตับ! เสียงเนื้อกระทบเนื้อกันดังระงมเมื่อสะโพกหนาเริ่มสาดเข้าใส่กางกายเธอตาม
“เฮียจะรีบไปไหน นัญจะเดินตามไม่ทันแล้วนะ” เสียงเล็กบ่นอุบ เมื่อเขาลากเธอมาราวกับจะรีบไปทำอะไร ก็รู้อยู่ว่าอารมณ์เสีย แต่ก็ช่วยช้าๆหน่อยไม่ได้รึไง คิดว่าคนอื่นเค้าขายาวเหมือนตัวเองรึไงกัน “ทำไม พอเห็นหน้ามันแล้วถึงกับเสียงแข็งกับเฮียเลยรึไง ทีก่อนหน้าไม่เห็นเป็นแบบนี้” เท้ายาวหยุดกึกแล้วหันกลับมาพูดใส่เธอด้วยสีหน้าบึ้งตึงสุดๆ เธอก็บึ้งกลับสิรออะไร ตัวเองเป็นคนปล่อยให้เธอมาเดินช็อปคนเดียวเองแท้ๆ พอแบบนี้แล้วทำมาเป็นพาล “แล้วเฮียจะหงุดหงิดทำไม” เสียงหวานสวนกลับไปบ้าง แต่เดี๋ยวนะ… จริงสิ พอนึกขึ้นได้มุมปากเล็กก็ถึงกับยกยิ้มเบาๆอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ก็เพียวแว๊บเดียวเท่านั้นจนเขาไม่ทันสังเกตเห็น เธอลืมไปได้ยังไงว่าเขามัน หมาหวงก้าง คอยดูจะยั่วโมโหให้ครั่งเลย ทีนี้แหละแผนเธอจะได้สำเร็จสักที “เหอะ ผัวไม่อยู่ด้วยแป๊ปเดียวก็เดินไปนุ่นนี่กับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น จะให้เฮียแหกปากยิ้มมีความสุขรึไง” “ผู้ชายคนอื่นที่ไหนกันคะ กันต์เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับนัญค่ะ แต่จะว่าไป เค้าก็ดูแลเอาใจใส่นัญดีมาตลอดเลยนะคะ ดีเกินจนบางครั้งนัญยังแอบคิดเลยนะคะว่ามันเกินเพื่อนรึเปล่า-อุ๊บ!” มือหนาดึงท้ายทอยอ
(ผ…ผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้วใช่มั้ยคุณ ผมกำลังจะได้เป็นพ่อ!!) (ฮึกก… เราจะดูแลเจ้าตัวเล็กไปด้วยกันนะคะ) (ผมรักคุณที่สุดเลยข้าว) เสียงซีรี่ย์ดังลอดออกมาจากไอแพดจอใหญ่ ในขณะที่ดวงตาคู่สวยกำลังนั่งจ้องจออย่างใจจดใจจ่ออยู่บนโซฟา ใจกลางห้องทำงานกว้างของคิเลียน พอนึกถึงเขา ดวงตากลมก็พลันเหลือบมองคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ที่เก้าอี้ประธาน ในหัวก็พลันคิดถึงแผนการ ที่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จสักที ใช่ ที่เธอตั้งใจทำตัวยั่วสวาทแล้วอ่อยเขาทุกคืน ไม่ใช่เพียงเพราะอยากครางอยู่ไต้ร่างกำยำเซ็กซี่น่าจำนนต่อนั่นอย่างเดียวหรอกนะ เธออยากจะวางแผนเซอร์ไพรส์เขาต่างหากล่ะ อยากจะเล่นบทนางเอกที่ตั้งท้องแล้วนำที่ตรวจครรภ์ขึ้นสองขีดใส่กล่องมาให้เขาเปิดดู แล้วดีใจเหมือนพระเอกในซีรี่ย์ที่เธอกำลังดูนี่ต่างหากล่ะ แต่ไม่ว่าเธอจะอ่อยแค่ไหน เขาก็ไม่ยอมเกินเลยสักทีนี่สิ คิดแล้วก็หงุดหงิด หรือเธอต้องเป็นฝ่ายข่มขืนเขาแทนเอาสะเลย “เฮียขา” เสียงหวานลากยาวมาแต่ไกล ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามานั่งลงบนตักแกร่งอย่างถือวิสาสะ จนคนที่ก้มหน้าทำงานอยู่ต้องวางเอกสารลง มือหนาก็พลันโอบเอวบางไว้แน่น แต่ยัยแมวป่าไม่เพียงแค่น
ผ่านไปแล้วเป็นอาทิตย์ ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลาย เราสองคนย้ายกลับมาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ เนื่องจากที่เฮียคิเลียนไม่อยากปล่อยให้แม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ในคฤหาสน์หลังใหญ่โตทว่าดูว่างเปล่า หลังจากที่ขาดใครหนึ่งคนไป ลัญชนาคลานขึ้นเตียงหลังจากที่อาบนํ้าจัดการตัวเองเสร็จ เตรียมพร้อมที่จะนอน และตอนนี้เธอก็อยู่ในชุดนอนที่ไม่ได้นอน พูดได้ว่ายั่วสุดๆ แหวกทุกส่วนเว้าโค้งจนแทบไม่ปิดอะไรเลย และที่สำคัญ… เธอโนบรา!! “เฮียขา” เสียงหวานขานเรียกคนบนเตียงที่เอาแต่อ่านหนังสือนิยายที่เธอเขียนไม่วางตา “ครับ” เขาเหลือบตามามองเธอแป๊ปเดียวก็กลับไปสนใจกับหนังสือในมือต่อ “เฮียช่วยดมกลิ่นโลชั่นใหม่ที่นัญซื้อมาทดลองหน่อยสิคะว่าหอมมั้ย” ดวงตากลมโตทำตาปริบๆอย่างออดอ้อน ขยับเข้าไปไกล้จนร่องอกเธอแทบจะแนบชิดกับลำแขนเขา พร้อมกับยื่นมือเล็กไปให้อีกคนดมอย่างจงใจ “อืม หอมนะเฮียชอบ” ลัญชนาถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง เมื่ออีกคนทำท่าทางไม่สนใจเธอสักนิด แค่ยื่นหน้ามาดมแล้วตอบแบบนั้นมันจะจริงใจได้ยังไง แถมเขายัง… ไม่คิดจะมองเธอเลยสักนิด นี่อุตส่าห์ตั้งใจยั่วสุดๆแล้วนะ หรือว่าเขาจะเบื่อเธอแล้วจริงๆ อยู่ด้วยกัน