เสียงนกร้องเบาๆยามเช้าอยู่ริมหน้าต่างแต่ไม่ได้ช่วยให้ลัญชนารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเลยสักนิด แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านม่านเข้ามาแตะต้องปลายเตียง แต่เธอกลับนอนนิ่งลืมตามองเพดาน ไม่กล้าขยับ ราวกับกลัวว่าความทรงจำเมื่อคืนจะย้อนกลับมาชัดเจนอีกครั้ง
คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะยันตัวลุกจากเตียงอย่างเชื่องช้า มือเรียวเอื้อมเปิดประตูห้องนอนออกไปเงียบๆ ตั้งใจจะลงไปข้างล่าง แต่ทันทีที่ประตูเปิดออก สายตาเธอก็สบเข้ากับประตูห้องของพี่ชายบุณธรรมที่อยู่ตรงข้ามกันพอดี หัวใจเต้นดวงน้อยเกิดเต้นแรงขึ้นมาทันที มือที่ลูกบิดแน่น ก่อนที่ประตูจะถูกปิดลงช้าๆ ปัง… เสียงประตูปิดเบาๆ พร้อมแผ่นหลังของเธอที่แนบลงกับมันอย่างอ่อนแรง ดวงตาคู่สวยจ้องมองบานประตูสีเข้มของห้องตรงข้ามโดยไม่กระพริบ ก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะค่อยๆ แตะลงบนริมฝีปากของตนเองอย่างเผลอไผล เธอจำได้… จำได้ทุกสัมผัส ทุกจังหวะหายใจของเขาเมื่อคืน คิเลียนเข้ามาในห้องเธอหลังกลับจากผับ ในยามที่บ้านทั้งหลังเงียบสนิท เธอไม่ได้หลับ… แม้จะหลับตาอยู่ แต่เธอรู้ทันทีว่าเป็นเฮียคิเลียน กลิ่นของเขา… กลิ่นเหล้าผสมกับน้ำหอมประจำตัวที่เธอจำได้แม่นยำอย่างไม่เคยลืม ฝีเท้าหนักๆที่ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นร่างสูงใหญ่ก็ก้าวขึ้นมาคร่อมอยู่บนร่างเธอบนเตียง ร่างกายของคิเลียนร้อนรุ่มราวกับไฟ ลมหายใจหนักๆเป่ารดแก้มเธอเบาๆ เธอรู้ว่าเขากำลังลังเล แต่เพียงไม่กี่วินาทีถัดมา ริมฝีปากหยักก็บดลงมาทับเรียวปากนุ่มของเธออย่างรุนแรงและหิวกระหาย จูบนั้นร้อนแรงจนแทบหลอมละลายสติของลัญชนา กลิ่นเหล้าที่กรุ่นอยู่ในลมหายใจเขา กับรสชาติที่เหมือนกับ… คืนนั้น คืนที่ทุกอย่างเลยเถิด มือหนาเลื่อนไล้ไปตามสัดส่วนของเธออย่างไม่สามารถหักห้ามใจได้ ลูบผ่านเอว สะโพก… ก่อนจะไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆจนแทบแตะถึงจุดที่เธอไม่ควรให้ใครสัมผัส ร่างเล็กครางลอดออกมาเบาๆ แม้พยายามจะห้ามไว้ แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอรู้ตัวทุกวินาที เธอมีสติครบถ้วน แต่กลับไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะผลักเขาออกเลย เมื่อร่างกายมันทรยศตอบสนองทุกสัมผัสที่พี่ชายบุณธรรมมอบให้ และเธอเองปฏิเสธไม่ได้เลยว่า…ต้องการเขาเหมือนกัน แม้จะรู้เต็มอกว่ามันผิด เรียวปากนุ่มถูกคนบนร่างบดขยี้แรงๆจนชํ้า แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดไปมากกว่านั้น คิเลียนกลับชะงัก ดึงมือกลับอย่างรุนแรง “แม่งเอ้ย… กูกำลังทำเหี้ยอะไรอยู่วะ…” เสียงสบถของเขาเบาหวิวเหมือนได้สติกลับคืน แต่แทงลึกเข้าไปในหัวใจของเธอ คิเลียนหยัดกายลุกขึ้นจากร่างเล็กน่าจับกดของน้องสาวบุณธรรมอย่างจำใจ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องเธอด้วยฝีเท้าที่หนักปึกราวกับหงุดหงิดแม่งชิบหาย จนตอนนี้… กึก! เสียงบางอย่างดังขึ้นเบาๆ จากห้องของพี่ชายบุณธรรม ทำเอาหัวใจดวงเล็กกระตุกวูบ รีบก้าวฝีเท้าเดินลงด้านล่างก่อนคิเลียนจะเปิดประตูออกมาเจอเธอเสียก่อน ลัญชนาเดินลงบันไดด้วยฝีเท้าแผ่วเบา หัวใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะจากภาพความทรงจำที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจ เรียวปากของเธอเหมือนมีรสสัมผัสของเขาติดไว้อยู่ตลอด หรือเธอติดใจเองกันแน่… แต่พอลงมาถึงด้านล่าง สิ่งที่แปลกกว่าความรู้สึกในหัวใจ ก็คือความเงียบของบ้านหลังนี้ ไม่มีแม่บ้าน ไม่มีแม้แต่การ์ดสักคน ไม่มีเสียงพ่อหรือแม่ แม้แต่เงาของใครสักคนก็ไม่มี ลัญชนาถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งใจ ป๊ากับคุณหญิงกลยาณีคงออกไปเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับผู้บริหารใหม่ที่จะจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ ส่วนแม่บ้านก็คงไปจ่ายตลาดเหมือนทุกเช้า ลัญชนาเดินเข้าครัวตั้งใจจะหาอะไรทำกินเองง่ายๆ ไข่สองฟองถูกหยิบออกมาจากตู้เย็น วางไว้บนเคาน์เตอร์ มือขาวหยิบชามมาเตรียมวางข้างๆ แต่ยังไม่ทันจะตอกไข่ลงชาม… ฟึ่บ! อยู่ๆก็มีวงแขนแข็งแรงจากด้านหลังโอบรัดร่างเธอแน่นจนสะดุ้งวาบ หญิงสาวร้องเฮือกเล็กๆด้วยความตกใจ ไข่ในมือแทบร่วง ก่อนที่มือใหญ่จะยึดมันไว้แล้ววางกลับลงบนเคาน์เตอร์ช้าๆ “…เฮียคิล!” เสียงเรียกหลุดออกจากปากอย่างไม่เต็มใจนัก พร้อมกับเรือนร่างที่แนบชิดอยู่กับอกเขาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว กลิ่นกายเขาอวลไปทั้งซอกคอ หน้าเขาซุกอยู่ตรงต้นคอของเธออย่างหื่นกระหาย ด้วยเสียงหายใจหนักๆที่ฟังดู… โคตรอันตราย มือหนาซุกซนไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้ไปทั่วหน้าท้องแบนราบ ลูบวนเบาๆเหมือนจงใจทำให้เธอเสียววูบวาบไปทั่ว “ฮ…เฮียคิล ปล่อยนัญเถอะค่ะ…” เสียงเธอสั่นอย่างพยายามประคองสติ แม้จะรู้ว่ามันแทบไร้ประโยชน์ “อืม…” เสียงครางต่ำในลำคอดังอยู่ตรงซอกคอเธอ ทั้งอู้อี้ ทั้งร้อนจัด ริมฝีปากร้อนแนบลงบนลำคอขาว กดปากจุ๊บลงเบาๆอย่างเสพติด ทำเอาลัญชนาสะดุ้งอีกครั้ง หดคอหนีอย่างเผลอตัว หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยไม่เป็นจังหวะ ชุดนอนบางเบานี่เหมือนยิ่งปลุกอะไรในตัวคิเลียน มันบางจนเธอรู้สึกถึงลมหายใจของเขาทะลุผ่านผืนผ้า แค่ชุดนอนธรรมดาแต่แม่งยั่วค..ชิบหาย “ฮ…เฮียคิล เดี๋ยวมีคนมาเห็น…” เธอพยายามห้ามอีกครั้ง ทั้งเสียงสั่น ทั้งร้อนผ่าวจนหน้าแดงซ่านโดยไม่รู้ตัว แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือมือหนาที่เลื่อนเข้ามาใต้เสื้อของผืนบางช้าๆ ลูบไล้ขึ้นเรื่อยๆจนแตะถึงเนินอก ลวนลามชัดๆ! “หึ เธอไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเรื่องนั้น…เพราะทั้งบ้านมีแค่เธอกับฉัน… แล้วก็ทั้งวันด้วย” เสียงเขาต่ำลึก ข้างหูเธอ เรียวปากหยักกดลงเบาๆข้างไบหูเธออย่างนัวเนียหนึ่งเดือนต่อมา… “เฮียออกไปไกลๆเลย ถ้าไม่อยากมีเค้า นัญเลี้ยงคนเดียวก็ได้ค่ะ เฮียจะไปไหนก็ไปเลย” เสียงเล็กตวาดลั่น นํ้าตาคลอเอ่อเต็มเบ้าตาไปหมด เธอกำลังน้อยอกน้อยใจเขาเต็มที พอกันทีถ้าไม่อยากจะมีลูกด้วยกัน เธอหอบลูกไปเลี้ยงเองก็ได้ ทำเอาคนที่ยืนฟังหน้าชา “ด..เดี๋ยวนัญ ใจเย็นก่อนนะครับทูลหัว ฟังเฮียก่อน” ตอนนี้เขาเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูกไปหมด เพราะไม่เคยรองรับอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของภรรยาตัวเล็กแบบนี้มาก่อนเลย อยู่ๆเธอก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เขาก็พึ่งรู้ว่าเธอนั้น กำลังท้องเจ้าตัวน้อยให้เขาอยู่ “ฮึกก เฮียไปไกลๆเลยนะ นัญไม่อยากเห็นหน้าเฮีย ออกไปเลย น้องอุตส่าห์วางแผนเซอร์ไพรส์เฮียแต่เฮียกลับไม่ดีใจที่เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน ฮึกก” เสียงเล็กสะอึกสะอื้นโวยวายใหญ่ ใช่ เหตุผลที่เธอกำลังตวาดไล่เขาก็เพียงเพราะ เขาไม่แสดงอาการดีใจเหมือนพระเอกในซีรี่ย์ที่เธอเคยดู!! แต่กลับกันเขากลับยืนช็อคกับสิ่งตรงหน้า เมื่อเห็นเธอเอาที่ตรวจครรภ์ที่ขึ้นเป็นสองขีดสีแดงชัดเจนมาให้ดู ก็คนมันกำลังช็อคนี่นา พอรู้ว่ากำลังจะได้เป็นพ่อคนครั้งแรก เขาเลยชะงักตกใจกับสิ่งที่เห็นไปชั่วคราวก็แค่นั้นเอง ยังไม่ทันที่จ
(นัญก็มีแหวนให้เฮียเหมือนกันค่ะ) นั่นคือประโยคในคืนนั้นที่ทำเอาหัวใจดวงโตปลื้มปริ่มนักหนาจนหุบปากยิ้มไม่ได้ถึงวันนี้ วันที่เราสองคนกำลังจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ “ไอเหี้ย มัวยืนยิ้มตั้งแต่เมื่อกี้ละ งานจะเริ่มแล้วเร็วเลยมึง” เสียงของนาวินเพื่อนสนิทของเขาที่เดินเข้ามาตามตัวเจ้าบ่าวดังก้อนขึ้น ก็คนมันมีความสุขนี่ จะยืนยิ้มจนลืมตัวแล้วมันแปลกตรงไหนวะ เออแต่ก็อย่างว่า คนไม่มีเมียอย่างมันคงไม่เข้าใจ “เออ กูเห็นมันเอาแต่แหกปากยิ้มแล้วมองแหวนบนนิ้วตัวเองตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนป่ะ ท่าจะเพี้ยนจริงว่ะ” วรัทย์ที่เดินตามเข้ามาก็เสริมเข้าไป แต่ก็ทำอะไรเจ้าบ่าวอย่างเขาไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้เขาอารมณ์ดียิ่งกว่าอะไร ไม่มีเวลามาสนใจพวกไม่มีเมียอย่างพวกมันหรอก เอาเวลาไปสนใจที่รักของเขาดีกว่า “พลํ่าไปเถอะ คนไม่มีเมียแบบพวกมึงจะไปเข้าใจอะไรวะ” พูดตอกหน้าเพื่อนจบ เท้ายาวก็เดินดุ่มๆเข้าไปในงานหน้าตาเฉย ทำเอาวรัทย์กับนาวินถึงกับอยากยกตีนถีบตามหลังไอ้เพื่อนปากดีนี่จริงๆ . . “เจ้าสาวของเฮียสวยที่สุดเลยครับ” เธอสวย เธอสวยที่สุดในโลกสำหรับเขาอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ที่ร่างเล็กในชุดขาวยาวลาก
“อื้ออ เฮียดูดนมน้องหน่อย” แม่งเอ้ย… จะยั่วไปถึงไหนวะ นิ้วเรียวสอดเข้ากลางกายสาวที่ตอนนี้เยิ้มแฉะเต็มไปด้วยนํ้าเมือกสีใส ปากหยักก็พรางก้มลงดูดดูนยอดอกอมชมพูระรื่นด้วยความกระหาย แม่งแล้วเสียงครางจะยั่วไปถึงไหนวะ “อ๊าา เฮียขาา อ…เอาของเฮีย อื้ออ น้องจะเอาของเฮีย” เด็กซนขี้ยั่วยังคงร้องครวญยั่วสวาทไม่ยอมหยุด จนเขาต้องขึ้นมากดจูบแล้วดันลิ้นร้อนเข้าตวาดเลียลิ้นเล็กเพื่อปิดปากไม่ให้เธอพลํ่าต่อ ไม่งั้นเขาคงต้องครั่งตายคาอกเธอจริงๆ จ๊วบๆๆ “อื้มมส์” เสียงครางเล็กเล็ดลอดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเขาเล่นเสียบท่อนเอนร้อนเข้ามาในร่องเธอคราวเดียวสุดจนชนกับผนังมดลูก จุกแต่ก็สมใจยอมรับเลยว่าตอนนี้เธอเกินคำว่าร่านไปแล้วจริงๆ ตรั่บ! เขาถอดมันออกจนแทบสุดก่อนจะกระแทกกลับเข้ามาลึกกว่าเดิม แล้วขาก็ทำแบบนั้นซํ้าๆเหมือนแกล้งเธอ ในขณะที่ปากหยักก็ยังคงบดขยี้เรียวปากดูดดื่มรัวเลียกับกริบปากเธอไม่ยอมผละ มือเล็กที่คล้องอยู่บนคอเขาเริ่มลูบไล้ลงบนแผ่นหลัง กดเล็บลงบนผิวเนื้อเนียนระบายความเสียวซ่านที่เขามอบให้ ตับ ตับ ตับ! เสียงเนื้อกระทบเนื้อกันดังระงมเมื่อสะโพกหนาเริ่มสาดเข้าใส่กางกายเธอตาม
“เฮียจะรีบไปไหน นัญจะเดินตามไม่ทันแล้วนะ” เสียงเล็กบ่นอุบ เมื่อเขาลากเธอมาราวกับจะรีบไปทำอะไร ก็รู้อยู่ว่าอารมณ์เสีย แต่ก็ช่วยช้าๆหน่อยไม่ได้รึไง คิดว่าคนอื่นเค้าขายาวเหมือนตัวเองรึไงกัน “ทำไม พอเห็นหน้ามันแล้วถึงกับเสียงแข็งกับเฮียเลยรึไง ทีก่อนหน้าไม่เห็นเป็นแบบนี้” เท้ายาวหยุดกึกแล้วหันกลับมาพูดใส่เธอด้วยสีหน้าบึ้งตึงสุดๆ เธอก็บึ้งกลับสิรออะไร ตัวเองเป็นคนปล่อยให้เธอมาเดินช็อปคนเดียวเองแท้ๆ พอแบบนี้แล้วทำมาเป็นพาล “แล้วเฮียจะหงุดหงิดทำไม” เสียงหวานสวนกลับไปบ้าง แต่เดี๋ยวนะ… จริงสิ พอนึกขึ้นได้มุมปากเล็กก็ถึงกับยกยิ้มเบาๆอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ก็เพียวแว๊บเดียวเท่านั้นจนเขาไม่ทันสังเกตเห็น เธอลืมไปได้ยังไงว่าเขามัน หมาหวงก้าง คอยดูจะยั่วโมโหให้ครั่งเลย ทีนี้แหละแผนเธอจะได้สำเร็จสักที “เหอะ ผัวไม่อยู่ด้วยแป๊ปเดียวก็เดินไปนุ่นนี่กับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น จะให้เฮียแหกปากยิ้มมีความสุขรึไง” “ผู้ชายคนอื่นที่ไหนกันคะ กันต์เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับนัญค่ะ แต่จะว่าไป เค้าก็ดูแลเอาใจใส่นัญดีมาตลอดเลยนะคะ ดีเกินจนบางครั้งนัญยังแอบคิดเลยนะคะว่ามันเกินเพื่อนรึเปล่า-อุ๊บ!” มือหนาดึงท้ายทอยอ
(ผ…ผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้วใช่มั้ยคุณ ผมกำลังจะได้เป็นพ่อ!!) (ฮึกก… เราจะดูแลเจ้าตัวเล็กไปด้วยกันนะคะ) (ผมรักคุณที่สุดเลยข้าว) เสียงซีรี่ย์ดังลอดออกมาจากไอแพดจอใหญ่ ในขณะที่ดวงตาคู่สวยกำลังนั่งจ้องจออย่างใจจดใจจ่ออยู่บนโซฟา ใจกลางห้องทำงานกว้างของคิเลียน พอนึกถึงเขา ดวงตากลมก็พลันเหลือบมองคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ที่เก้าอี้ประธาน ในหัวก็พลันคิดถึงแผนการ ที่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จสักที ใช่ ที่เธอตั้งใจทำตัวยั่วสวาทแล้วอ่อยเขาทุกคืน ไม่ใช่เพียงเพราะอยากครางอยู่ไต้ร่างกำยำเซ็กซี่น่าจำนนต่อนั่นอย่างเดียวหรอกนะ เธออยากจะวางแผนเซอร์ไพรส์เขาต่างหากล่ะ อยากจะเล่นบทนางเอกที่ตั้งท้องแล้วนำที่ตรวจครรภ์ขึ้นสองขีดใส่กล่องมาให้เขาเปิดดู แล้วดีใจเหมือนพระเอกในซีรี่ย์ที่เธอกำลังดูนี่ต่างหากล่ะ แต่ไม่ว่าเธอจะอ่อยแค่ไหน เขาก็ไม่ยอมเกินเลยสักทีนี่สิ คิดแล้วก็หงุดหงิด หรือเธอต้องเป็นฝ่ายข่มขืนเขาแทนเอาสะเลย “เฮียขา” เสียงหวานลากยาวมาแต่ไกล ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามานั่งลงบนตักแกร่งอย่างถือวิสาสะ จนคนที่ก้มหน้าทำงานอยู่ต้องวางเอกสารลง มือหนาก็พลันโอบเอวบางไว้แน่น แต่ยัยแมวป่าไม่เพียงแค่น
ผ่านไปแล้วเป็นอาทิตย์ ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลาย เราสองคนย้ายกลับมาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ เนื่องจากที่เฮียคิเลียนไม่อยากปล่อยให้แม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ในคฤหาสน์หลังใหญ่โตทว่าดูว่างเปล่า หลังจากที่ขาดใครหนึ่งคนไป ลัญชนาคลานขึ้นเตียงหลังจากที่อาบนํ้าจัดการตัวเองเสร็จ เตรียมพร้อมที่จะนอน และตอนนี้เธอก็อยู่ในชุดนอนที่ไม่ได้นอน พูดได้ว่ายั่วสุดๆ แหวกทุกส่วนเว้าโค้งจนแทบไม่ปิดอะไรเลย และที่สำคัญ… เธอโนบรา!! “เฮียขา” เสียงหวานขานเรียกคนบนเตียงที่เอาแต่อ่านหนังสือนิยายที่เธอเขียนไม่วางตา “ครับ” เขาเหลือบตามามองเธอแป๊ปเดียวก็กลับไปสนใจกับหนังสือในมือต่อ “เฮียช่วยดมกลิ่นโลชั่นใหม่ที่นัญซื้อมาทดลองหน่อยสิคะว่าหอมมั้ย” ดวงตากลมโตทำตาปริบๆอย่างออดอ้อน ขยับเข้าไปไกล้จนร่องอกเธอแทบจะแนบชิดกับลำแขนเขา พร้อมกับยื่นมือเล็กไปให้อีกคนดมอย่างจงใจ “อืม หอมนะเฮียชอบ” ลัญชนาถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง เมื่ออีกคนทำท่าทางไม่สนใจเธอสักนิด แค่ยื่นหน้ามาดมแล้วตอบแบบนั้นมันจะจริงใจได้ยังไง แถมเขายัง… ไม่คิดจะมองเธอเลยสักนิด นี่อุตส่าห์ตั้งใจยั่วสุดๆแล้วนะ หรือว่าเขาจะเบื่อเธอแล้วจริงๆ อยู่ด้วยกัน