“ป…ปล่อยนัญเถอะค่ะ นัญจะเจียวไข่…”
“ไม่ต้องทำ ไปกับฉัน” เขาสั่งเสียงเข้ม มือยังไม่ยอมปล่อยจากเอวบาง แต่เมื่อสายตาคมกริบเลื่อนลงมองชุดนอนที่ยั่วเย้าเกินควร ก็พลันขมวดคิ้วแน่น เพียงนึกคิดหากมีคนอื่นที่ไม่ใช่เขาเห็นคนตัวเล็กในชุดแบบนี้เข้าแล้วเกิดมีความคิดทะลึ่งเหมือนตัวเองขึ้นมาล่ะ เพียงนึกแล้วก็หงุดหงิด รีบสั่งคนตัวเล็กเสียงดุทันควัน “ไปเปลี่ยนชุด! สิบนาที ถ้าไม่ลงมาฉันจะขึ้นไปเปลี่ยนให้เองแน่?” “นัญไม่ไป…” เสียงปฏิเสธแผ่วๆ แทบไม่ทันพ้นจากริมฝีปาก เธอก็โดนสวนกลับด้วยความเจ้าเล่ห์ของคิเลียนทันที “หนึ่ง… สอง…” แค่นับถึงสองก็พอจะรู้ว่าถ้าขึ้นสามเธอไม่รอดแน่ ยัยน้องทำหน้าเหมือนจะงอแง แต่สุดท้ายก็จำยอมเดินขึ้นห้องไปอย่างเสียไม่ได้ “หึ… ยังคงดื้อเหมือนเดิมสินะ ลัญชนา…” เขากระตุกยิ้มมุมปาก ขณะมองตามแผ่นหลังบางที่เดินหนีขึ้นชั้นบนไป ก่อนจะตามไปลากเธอขึ้นรถตรงเวลาเป๊ะ ดีที่ยัยน้องมันเปลี่ยนชุดทัน! ไม่นานรถคันหรูสีดำมืดสนิทก็แล่นเข้ามาจอดหน้าร้านอาหารหรูใจกลางเมือง ลัญชนามองผ่านกระจกเข้าไปก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อร้านอาหารที่เขาพาเธอมาเป็นร้านสไตล์คู่รัก บรรยากาศเงียบสงบแสนโรแมนติก แยกเป็นห้องส่วนตัว ทุกโต๊ะมีม่านผ้าพลิ้วบางกั้นไว้พอให้มีความเป็นส่วนตัวขั้นสุด พนักงานจะมาก็ต่อเมื่อกดปุ่มเรียกเท่านั้น และแน่นอน พื้นที่นั่งกว้างขวาง แต่พ่อคุณกลับมานั่งเบียดชิดจนไหล่ชนกันกับคนตัวเล็ก ไม่ยอมเว้นแม้แต่นิ้วเดียว “เฮีย… ที่นั่งมันกว้างจะตาย ทำไมต้องมานั่งเบียดกันด้วยคะ” “ก็ตรงนี้มันมีอุณหภูมิพอดี นั่งแล้วอุ่น” คำตอบหน้าตายทำเอาคนฟังแทบกัดลิ้นตัวเอง “งั้นนัญไปนั่งตรงนั้นก็ได้ค่ะ” ลัญชนาทำท่าจะขยับไปนั่งอีกฝั่ง แต่มือหนาที่ไวกว่ารีบโอบเอวบางเข้าแนบกับตัวเองไว้แน่นไม่ยอมปล่อยให้ห่างกับตัวเองแม่แต่นิ้วเดียว อะไรของเขาเนี่ย!? “นั่งตรงนี้แหละ ไม่งั้นทั้งหมดนี่เธอจ่าย” เขาขู่อย่างหน้าตาย แน่นอนว่าลัญชนารีบนิ่งทันที ใครๆก็รู้อาหารแต่ละจานของร้านนี้มีราคาสูงขนาดไหน นักศึกษาธรรมดาอย่างเธอจะไปมีปัญญาจ่ายได้ยังไง อิเฮียมันจงใจชัดๆ! อาหารถูกยกมาเสิร์ฟพร้อมช้อนในมือเขาที่ตักขึ้นมาจ่อริมฝีปากนุ่มของคนตัวเล็กที่นั่งหน้าบูดเหมือนโดนบังคับมา เออก็โดนบังคับมานั่นแหละ! “อ้าปากสิ” “นัญโตแล้วนะคะเฮีย ไม่ใช่เด็กๆ ที่กินข้าวเองไม่เป็น” เธอเอ่ยเสียงมุ่ย แต่เขากลับแค่นหัวเราะในลำคอ ก่อนจะวางช้อนลงแล้วยื่นหน้ามามองเธอแววตาเจ้าเล่ห์ “หึ… ฉันก็ไม่เคยลืมว่าเธอโตหรอก…” เขาหรี่ตามองเธอ ขณะก้มกระซิบชิดใบหูจนลมหายใจอุ่นร้อนกระทบผิวเนียน “…ตั้งแต่คืนนั้น ที่เธอครางใต้ร่างฉัน” “ฮึก… ฮะ เฮียคิลพูดอะไรคะ!” ลัญชนาถึงกับแทบสำลักน้ำลายตัวเอง หูแดงวาบ หน้าเหวอจนหาคำมาด่ากลับไม่ได้ แต่พ่อคุณกลับยิ้มกรุ่มกริ่มเหมือนภูมิใจนักหนากับความเขินของคนตัวเล็ก “พูดความจริง” เขายักไหล่อย่างไม่เดือดร้อน ก่อนจะหยิบช้อนตักอาหารในจานขึ้นมาจ่อปากนุ่มอีกที ยักคิ้วหนาบ่งบอกว่า เขากำลังบังคับให้เธอกินมันเข้าไป! งับ! ลัญชนาได้แต่อ้าปากงับแต่โดยดี ไม่เคยขัดใจเขาได้หรอก เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ยิ่งแก่ยิ่งเอาแต่ใจกว่าเก่าเป็นเท่าเลย คนตัวเล็กเขี้ยวตุ้ยๆแก้มตุ่ยแล้วยังทำหน้าบูดหน้าเบี้ยวไปด้วย ทำเอาคนที่นั่งมองลอบยิ้มเอ็นดูจนอดใจไม่ไหว ยื่นมือไปยี้หัวทุยอย่างหมั่นเขี้ยว “อื้ออ” ลัญชนาหันหน้ามามองคิเลียนตาขวาง ตอนนี้เหมือนสองคนได้กลับมาสนิทกันหลังจากที่ห่างเหินกันนานอีกครั้งเลย… เหมือนกับตอนที่ทั้งสองชอบแกล้งกันเล่นบ่อยๆเมื่อก่อน… “ป้อนฉันบ้างสิ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยขึ้นยียวน ริมฝีปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาเอียงตัวเท้าคางบนโต๊ะ มองใบหน้าหวานของเธอที่กำลังเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ย แม่ง… เห็นแล้วอยากจับกดตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด “ทำไมเฮียไม่ตักกินเองล่ะคะ” ลัญชนาสวนกลับโดยไม่มองหน้าเขา แกล้งหันไปอีกทางเพื่อหลบสายตาคม ก็เล่นมองเธอด้วยสายตาแพรวพราวจนทำเอาหัวใจดวงเล็กสั่นไหว “ก็เฮียอยากให้นัญป้อนนี่คะ เฮียยังป้อนนัญเลย จะใจร้ายใจดำไปหน่อยมั้ย” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม อยู่ๆมาเปลี่ยนสรรพนามที่เรียกหนําซํ้ายังใช้โทนเสียงปนอ้อนนั่นอีก เล่นเอาคนตัวเล็กเขินจนเผลอทำตัวลุกลี้ลุกลน ทำอะไรไม่ถูกไปหมด สองพวงแก้มนวลแดงซ่านจนหูแทบไหม้ แต่เขากลับยิ้มได้ใจเจตนาแกล้งเธอชัดๆ “น…นัญป้อนก็ได้ค่ะ” เสียงหวานตะกุกตะกัก มือเล็กรีบตักข้าวในจานขึ้นมาแล้วยัดใส่ปากอีกคนอย่างรวดเร็วเพื่อปิดปากคนพูดจาเหลวไหล พอคิเลียนทำทีจะอ้าปากเท่านั้นแหละ ยัยน้องก็ตักอย่างอื่นยัดตามซ้ำ จนอิพี่มันเคี้ยวแทบไม่ทัน! “แค่กๆ…” เขาแทบสำลักจนต้องยกมือห้ามคนที่ทำท่าจะเอาช้อนยัดปากซํ้า เป็นไงล่ะโดนแกล้งกลับสะให้บ้าง “พ..พอก่อน” ลัญชนาทำหน้ายู่ ยักคิ้วใส่เบาๆ “สมน้ำหน้า คนชอบแกล้งก็ต้องโดนแกล้งกลับค่ะ” คิเลียนได้แต่เค้นหัวเราะเบาๆในลำคอ ขณะมองใบหน้าหวานที่แสดงถึงความสะใจที่ได้เอาคืนเขา แต่ก็ยังแดงซ่านไม่หาย เข้าใจได้หรอกว่าน้องสาวใช้กำลังแก้เขินชัดๆ หึ… ชอบชิบหายเลย เด็กดื้อแบบนี้ มองยังไงก็น่าจับกดชิบหายหนึ่งเดือนต่อมา… “เฮียออกไปไกลๆเลย ถ้าไม่อยากมีเค้า นัญเลี้ยงคนเดียวก็ได้ค่ะ เฮียจะไปไหนก็ไปเลย” เสียงเล็กตวาดลั่น นํ้าตาคลอเอ่อเต็มเบ้าตาไปหมด เธอกำลังน้อยอกน้อยใจเขาเต็มที พอกันทีถ้าไม่อยากจะมีลูกด้วยกัน เธอหอบลูกไปเลี้ยงเองก็ได้ ทำเอาคนที่ยืนฟังหน้าชา “ด..เดี๋ยวนัญ ใจเย็นก่อนนะครับทูลหัว ฟังเฮียก่อน” ตอนนี้เขาเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูกไปหมด เพราะไม่เคยรองรับอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของภรรยาตัวเล็กแบบนี้มาก่อนเลย อยู่ๆเธอก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เขาก็พึ่งรู้ว่าเธอนั้น กำลังท้องเจ้าตัวน้อยให้เขาอยู่ “ฮึกก เฮียไปไกลๆเลยนะ นัญไม่อยากเห็นหน้าเฮีย ออกไปเลย น้องอุตส่าห์วางแผนเซอร์ไพรส์เฮียแต่เฮียกลับไม่ดีใจที่เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน ฮึกก” เสียงเล็กสะอึกสะอื้นโวยวายใหญ่ ใช่ เหตุผลที่เธอกำลังตวาดไล่เขาก็เพียงเพราะ เขาไม่แสดงอาการดีใจเหมือนพระเอกในซีรี่ย์ที่เธอเคยดู!! แต่กลับกันเขากลับยืนช็อคกับสิ่งตรงหน้า เมื่อเห็นเธอเอาที่ตรวจครรภ์ที่ขึ้นเป็นสองขีดสีแดงชัดเจนมาให้ดู ก็คนมันกำลังช็อคนี่นา พอรู้ว่ากำลังจะได้เป็นพ่อคนครั้งแรก เขาเลยชะงักตกใจกับสิ่งที่เห็นไปชั่วคราวก็แค่นั้นเอง ยังไม่ทันที่จ
(นัญก็มีแหวนให้เฮียเหมือนกันค่ะ) นั่นคือประโยคในคืนนั้นที่ทำเอาหัวใจดวงโตปลื้มปริ่มนักหนาจนหุบปากยิ้มไม่ได้ถึงวันนี้ วันที่เราสองคนกำลังจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ “ไอเหี้ย มัวยืนยิ้มตั้งแต่เมื่อกี้ละ งานจะเริ่มแล้วเร็วเลยมึง” เสียงของนาวินเพื่อนสนิทของเขาที่เดินเข้ามาตามตัวเจ้าบ่าวดังก้อนขึ้น ก็คนมันมีความสุขนี่ จะยืนยิ้มจนลืมตัวแล้วมันแปลกตรงไหนวะ เออแต่ก็อย่างว่า คนไม่มีเมียอย่างมันคงไม่เข้าใจ “เออ กูเห็นมันเอาแต่แหกปากยิ้มแล้วมองแหวนบนนิ้วตัวเองตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนป่ะ ท่าจะเพี้ยนจริงว่ะ” วรัทย์ที่เดินตามเข้ามาก็เสริมเข้าไป แต่ก็ทำอะไรเจ้าบ่าวอย่างเขาไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้เขาอารมณ์ดียิ่งกว่าอะไร ไม่มีเวลามาสนใจพวกไม่มีเมียอย่างพวกมันหรอก เอาเวลาไปสนใจที่รักของเขาดีกว่า “พลํ่าไปเถอะ คนไม่มีเมียแบบพวกมึงจะไปเข้าใจอะไรวะ” พูดตอกหน้าเพื่อนจบ เท้ายาวก็เดินดุ่มๆเข้าไปในงานหน้าตาเฉย ทำเอาวรัทย์กับนาวินถึงกับอยากยกตีนถีบตามหลังไอ้เพื่อนปากดีนี่จริงๆ . . “เจ้าสาวของเฮียสวยที่สุดเลยครับ” เธอสวย เธอสวยที่สุดในโลกสำหรับเขาอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ที่ร่างเล็กในชุดขาวยาวลาก
“อื้ออ เฮียดูดนมน้องหน่อย” แม่งเอ้ย… จะยั่วไปถึงไหนวะ นิ้วเรียวสอดเข้ากลางกายสาวที่ตอนนี้เยิ้มแฉะเต็มไปด้วยนํ้าเมือกสีใส ปากหยักก็พรางก้มลงดูดดูนยอดอกอมชมพูระรื่นด้วยความกระหาย แม่งแล้วเสียงครางจะยั่วไปถึงไหนวะ “อ๊าา เฮียขาา อ…เอาของเฮีย อื้ออ น้องจะเอาของเฮีย” เด็กซนขี้ยั่วยังคงร้องครวญยั่วสวาทไม่ยอมหยุด จนเขาต้องขึ้นมากดจูบแล้วดันลิ้นร้อนเข้าตวาดเลียลิ้นเล็กเพื่อปิดปากไม่ให้เธอพลํ่าต่อ ไม่งั้นเขาคงต้องครั่งตายคาอกเธอจริงๆ จ๊วบๆๆ “อื้มมส์” เสียงครางเล็กเล็ดลอดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเขาเล่นเสียบท่อนเอนร้อนเข้ามาในร่องเธอคราวเดียวสุดจนชนกับผนังมดลูก จุกแต่ก็สมใจยอมรับเลยว่าตอนนี้เธอเกินคำว่าร่านไปแล้วจริงๆ ตรั่บ! เขาถอดมันออกจนแทบสุดก่อนจะกระแทกกลับเข้ามาลึกกว่าเดิม แล้วขาก็ทำแบบนั้นซํ้าๆเหมือนแกล้งเธอ ในขณะที่ปากหยักก็ยังคงบดขยี้เรียวปากดูดดื่มรัวเลียกับกริบปากเธอไม่ยอมผละ มือเล็กที่คล้องอยู่บนคอเขาเริ่มลูบไล้ลงบนแผ่นหลัง กดเล็บลงบนผิวเนื้อเนียนระบายความเสียวซ่านที่เขามอบให้ ตับ ตับ ตับ! เสียงเนื้อกระทบเนื้อกันดังระงมเมื่อสะโพกหนาเริ่มสาดเข้าใส่กางกายเธอตาม
“เฮียจะรีบไปไหน นัญจะเดินตามไม่ทันแล้วนะ” เสียงเล็กบ่นอุบ เมื่อเขาลากเธอมาราวกับจะรีบไปทำอะไร ก็รู้อยู่ว่าอารมณ์เสีย แต่ก็ช่วยช้าๆหน่อยไม่ได้รึไง คิดว่าคนอื่นเค้าขายาวเหมือนตัวเองรึไงกัน “ทำไม พอเห็นหน้ามันแล้วถึงกับเสียงแข็งกับเฮียเลยรึไง ทีก่อนหน้าไม่เห็นเป็นแบบนี้” เท้ายาวหยุดกึกแล้วหันกลับมาพูดใส่เธอด้วยสีหน้าบึ้งตึงสุดๆ เธอก็บึ้งกลับสิรออะไร ตัวเองเป็นคนปล่อยให้เธอมาเดินช็อปคนเดียวเองแท้ๆ พอแบบนี้แล้วทำมาเป็นพาล “แล้วเฮียจะหงุดหงิดทำไม” เสียงหวานสวนกลับไปบ้าง แต่เดี๋ยวนะ… จริงสิ พอนึกขึ้นได้มุมปากเล็กก็ถึงกับยกยิ้มเบาๆอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ก็เพียวแว๊บเดียวเท่านั้นจนเขาไม่ทันสังเกตเห็น เธอลืมไปได้ยังไงว่าเขามัน หมาหวงก้าง คอยดูจะยั่วโมโหให้ครั่งเลย ทีนี้แหละแผนเธอจะได้สำเร็จสักที “เหอะ ผัวไม่อยู่ด้วยแป๊ปเดียวก็เดินไปนุ่นนี่กับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น จะให้เฮียแหกปากยิ้มมีความสุขรึไง” “ผู้ชายคนอื่นที่ไหนกันคะ กันต์เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับนัญค่ะ แต่จะว่าไป เค้าก็ดูแลเอาใจใส่นัญดีมาตลอดเลยนะคะ ดีเกินจนบางครั้งนัญยังแอบคิดเลยนะคะว่ามันเกินเพื่อนรึเปล่า-อุ๊บ!” มือหนาดึงท้ายทอยอ
(ผ…ผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้วใช่มั้ยคุณ ผมกำลังจะได้เป็นพ่อ!!) (ฮึกก… เราจะดูแลเจ้าตัวเล็กไปด้วยกันนะคะ) (ผมรักคุณที่สุดเลยข้าว) เสียงซีรี่ย์ดังลอดออกมาจากไอแพดจอใหญ่ ในขณะที่ดวงตาคู่สวยกำลังนั่งจ้องจออย่างใจจดใจจ่ออยู่บนโซฟา ใจกลางห้องทำงานกว้างของคิเลียน พอนึกถึงเขา ดวงตากลมก็พลันเหลือบมองคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ที่เก้าอี้ประธาน ในหัวก็พลันคิดถึงแผนการ ที่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จสักที ใช่ ที่เธอตั้งใจทำตัวยั่วสวาทแล้วอ่อยเขาทุกคืน ไม่ใช่เพียงเพราะอยากครางอยู่ไต้ร่างกำยำเซ็กซี่น่าจำนนต่อนั่นอย่างเดียวหรอกนะ เธออยากจะวางแผนเซอร์ไพรส์เขาต่างหากล่ะ อยากจะเล่นบทนางเอกที่ตั้งท้องแล้วนำที่ตรวจครรภ์ขึ้นสองขีดใส่กล่องมาให้เขาเปิดดู แล้วดีใจเหมือนพระเอกในซีรี่ย์ที่เธอกำลังดูนี่ต่างหากล่ะ แต่ไม่ว่าเธอจะอ่อยแค่ไหน เขาก็ไม่ยอมเกินเลยสักทีนี่สิ คิดแล้วก็หงุดหงิด หรือเธอต้องเป็นฝ่ายข่มขืนเขาแทนเอาสะเลย “เฮียขา” เสียงหวานลากยาวมาแต่ไกล ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามานั่งลงบนตักแกร่งอย่างถือวิสาสะ จนคนที่ก้มหน้าทำงานอยู่ต้องวางเอกสารลง มือหนาก็พลันโอบเอวบางไว้แน่น แต่ยัยแมวป่าไม่เพียงแค่น
ผ่านไปแล้วเป็นอาทิตย์ ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลาย เราสองคนย้ายกลับมาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ เนื่องจากที่เฮียคิเลียนไม่อยากปล่อยให้แม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ในคฤหาสน์หลังใหญ่โตทว่าดูว่างเปล่า หลังจากที่ขาดใครหนึ่งคนไป ลัญชนาคลานขึ้นเตียงหลังจากที่อาบนํ้าจัดการตัวเองเสร็จ เตรียมพร้อมที่จะนอน และตอนนี้เธอก็อยู่ในชุดนอนที่ไม่ได้นอน พูดได้ว่ายั่วสุดๆ แหวกทุกส่วนเว้าโค้งจนแทบไม่ปิดอะไรเลย และที่สำคัญ… เธอโนบรา!! “เฮียขา” เสียงหวานขานเรียกคนบนเตียงที่เอาแต่อ่านหนังสือนิยายที่เธอเขียนไม่วางตา “ครับ” เขาเหลือบตามามองเธอแป๊ปเดียวก็กลับไปสนใจกับหนังสือในมือต่อ “เฮียช่วยดมกลิ่นโลชั่นใหม่ที่นัญซื้อมาทดลองหน่อยสิคะว่าหอมมั้ย” ดวงตากลมโตทำตาปริบๆอย่างออดอ้อน ขยับเข้าไปไกล้จนร่องอกเธอแทบจะแนบชิดกับลำแขนเขา พร้อมกับยื่นมือเล็กไปให้อีกคนดมอย่างจงใจ “อืม หอมนะเฮียชอบ” ลัญชนาถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง เมื่ออีกคนทำท่าทางไม่สนใจเธอสักนิด แค่ยื่นหน้ามาดมแล้วตอบแบบนั้นมันจะจริงใจได้ยังไง แถมเขายัง… ไม่คิดจะมองเธอเลยสักนิด นี่อุตส่าห์ตั้งใจยั่วสุดๆแล้วนะ หรือว่าเขาจะเบื่อเธอแล้วจริงๆ อยู่ด้วยกัน