ในที่สุดเราก็ฝ่ารถติดมาอยู่ที่ร้านอาหารร้านหนึ่งจนได้ แล้วรุ่นพี่ก็สั่งอะไรมากิน ส่วนฉันก็กินไอติมนั่งรอเงียบๆ เพราะปกติไม่ค่อยกินข้าวเย็นอยู่แล้ว เหอะๆ นี่มันความฝันชัดๆ เจด้าเอ๊ยยย >_< ได้นั่งรถเขา ได้กินข้าวกับเขา แถมยังได้รูปใหม่เพิ่มอีกเพียบ ไม่อยากจะตื่นบอกเลย ..ในที่สุดพระเจ้าก็ประทานพรวันเกิดที่แสนพิเศษในวันที่ฉันโตเป็นสาวมาให้จนได้ Yes! Yes! Yes!
“พรุ่งนี้เลิกกี่โมง?”
ฉันได้ยินรุ่นพี่ถามออกมาทั้งที่เขายังก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานอยู่แบบนั้นนะ แต่เพราะกำลังนั่งเก็บโมเม้นต์ความฟินตรงหน้าอยู่ก็เลยยังไม่ได้ตอบอะไรออกไปอ่ะ
“จ้องขนาดนี้เอากลับไปไว้บ้านเลยมั้ย”
แล้วพอเขาพูดออกมาอีกครั้ง ฉันเลยหลุดจากภวังค์แล้วหันหน้าหนีไปมองทางอื่นอย่างอายๆ เหอะๆ เอาไปได้จริงมั้ยเล่า..ถ้าได้สาบานว่าจะโยนหมอนข้างทิ้งเลย พูดจริงงงงง -/////-
“ไม่มีเรียน” แล้วฉันก็ตอบออกไปทั้งที่ยังหันมองไปทางอื่นอยู่แบบนี้นี่แหละ ส่วนรุ่นพี่ก็ไม่ได้พูดอะไรคงก้มหน้าก้มตากินต่อไปแหละมั้ง
แชะ! ขวับ!
ฉันหันขวับไปทันที พอได้ยินเสียงกล้องถ่ายรูปดังขึ้น แล้วก็ทันเห็นรุ่นพี่รันเวย์กำลังยกมือถือของตัวเองจ่อมาที่ฉันอยู่ด้วยสีหน้าเฉยๆ
“ทำไรของเฮียอ่ะ =_=?”
เออ..จะว่าไปพอเรียกเขาแบบนี้บ่อยๆ เข้ามันก็เริ่มชินเหมือนกันนะเนี่ย เฮียเวย์ เฮียเวย์ สั้นกว่ารุ่นพี่รันเวย์ตั้งเยอะ
“มือลั่น” รุ่นพี่พูดออกมาแล้วตีมึนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ใส่ฉันซะงั้น
“ให้จริงเหอะ”
แค่เห็นท่าทางเขาฉันก็รู้ละว่าตัวเองต้องโดนแอบถ่ายแน่ๆ อ่ะ นี่กะจะเอาไป blackmail ฉันป้ะเนี่ย ดื้อจริงๆ เลยแฮะ แล้วรุ่นพี่ก็เก็บมือถือใส่กระเป๋าเฉยๆ ก่อนจะเรียกเช็คบิล เดี๋ยวสิก็ไหนว่าจะคุยงานไงอ่ะ
“แล้ว...”
“เดินตามมา..เงียบๆ”
พอฉันกำลังจะถามเขาก็พูดขัดขึ้นมาแล้วลุกออกจากโต๊ะไปเลย นี่มาด้วยกันจริงป้ะเนี่ย? แอบคิดนะถ้าฉันไม่ลุกตามไปแล้วรุ่นพี่หันหลังกลับมาไม่เจอใครเขาจะเหวอป้ะ ฮ่าๆๆ
แล้วรุ่นพี่ก็ขับรถพาฉันออกมาที่ไหนไม่รู้ รู้แค่มันมุ่งหน้าออกนอกตัวเมือง แถมทางก็ยังดูมืดๆ และดูจะลำบากนิดๆ อีกด้วย นี่เขาไม่กลัวรถสปอร์ตสุดหรูของตัวเองเป็นรอยเลยรึไงนะ คันนี้จากที่ฉันเคย Search ดูเล่นๆ ราคามันก็แพงเอาเรื่องเลยไม่ใช่หรอ...
หลังจากขับมาได้สักพัก รุ่นพี่รันเวย์ก็จอดรถในลานกว้างที่โล่งมากแบบมองไปไม่มีอะไรเลย แล้วเขาเปิดประตูลงไปเฉยๆ ทั้งอย่างงั้น ก่อนจะเดินอ้อมไปหน้ารถแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนกระโปรงรถจนฉันงง
ตึงงง!
“เฮียพาเจมานี่ทำไมอ่ะ”
ฉันเปิดประตูลงจากรถแล้วถามออกไปอย่างลืมตัว เอ้า..ดันหลุดปากแทนตัวเองว่า ‘เจ’ ไปซะงั้น
“เอ่อ คือ..หมายถึงพาฉัน...”
“แบบนั้นแหละดีแล้ว”
พอกำลังจะแก้ต่างและเปลี่ยนสรรพนามที่พูดผิดไป รุ่นพี่ก็ขัดขึ้นมา ฉันเลยพยักหน้าตอบกลับไป
“อืม (- -) (_ _)”
“ที่นี่เงียบดี เหมาะกับการใช้ความคิด”
อยู่ๆ รุ่นพี่ก็พูดออกมาพร้อมกับเงยหน้าไปมองท้องฟ้าที่ฉันเองก็เพิ่งสังเกตว่ามีดาวระยิบระยับอยู่บนนั้นเต็มไปหมด โห สวยมาก..มีที่ที่ดาวชัดขนาดนี้อยู่ใกล้ตัวเมืองด้วยหรอเนี่ย ฉันไม่เคยรู้เลยจริงๆ อ่ะ
“อยากทำอะไร?”
ระหว่างที่ฉันเงยหน้ามองดาว รุ่นพี่ก็ถามออกมา ฉันเลยหันไปตอบคำถามของเขาด้วยคำถามอีกทีเพื่อความชัวร์
“หมายถึงงาน?”
“(- -) (_ _)”
แล้วรุ่นพี่ก็พยักหน้าออกมาช้าๆ ฉันเลยยืนประมวลผลอยู่แป๊บหนึ่ง ก่อนจะโดดขึ้นไปนั่งข้างเขา มองดาวแล้วพูดในสิ่งที่คิดออกไปพร้อมๆ กัน
ตึงงง!
“ก็คงเป็นอะไรที่ไม่ซ้ำกับ Know more เพราะเท่าที่เห็น Love point ฟรีก็ได้จากกิจกรรมรักสิ่งแวดล้อมหลายอย่างเหมือนกัน เช่นพวก.. สั่งกาแฟเอาแก้วมาเองลดการใช้แก้วพลาสติก ปั่นจักรยานแทนการขับรถ ใช้ถุงผ้า บลาๆ แบบนั้นน่าเบื่อจะตาย”
“(- -) (_ _) ก็จริง ”
รุ่นพี่พยักหน้าเห็นด้วยออกมาแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเล่นระหว่างที่ฉันกำลังอธิบายสิ่งที่คิดออกไปยาวเหยียด แต่ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก เพราะแอบเห็นว่าเขากดเข้าเพจ F******k ของชมรมสิ่งแวดล้อม ม.เราอยู่ คงกะจะดูเป็นแนวทางนั่นแหละ แต่ในนั้นมันไม่ค่อยมีไรหรอก ฉันเคยเข้าไปดูมาละ
“ตอนนี้คนที่ทำกิจกรรมพวกนั้นก็หวังจะได้ Love point เอาไปกดโหวตอะไรที่ชอบตามใจจนกลายเป็นว่าได้ Love Point มาจากการทำอะไร มันไม่สำคัญเท่า.. ได้มาแล้วจะโหวตอะไรดี ที่ผ่านมาความสนใจเลยไปตกที่ Know more ไม่ใช่ชมรมสิ่งแวดล้อม”
ฉันพูดขยายความออกไปให้รุ่นพี่เห็นภาพชัดขึ้น แล้วเขาก็พยักหน้ารับฟังเหมือนเดิมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
“อืม แต่สุดท้ายจะโปรโมทกิจกรรมนี้ก็ต้องอาศัยพื้นที่ของไอ้เลโอมันอยู่ดี”
นั่นสินะ..ที่รุ่นพี่พูดมาก็ถูก แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
“เราจะอาศัยสังคมจำลองของรุ่นพี่เลโอต่างหาก เพราะพื้นที่ที่ใช้จริงๆ มันจะเป็นของชมรมสิ่งแวดล้อม ปกติชมรมใช้เพจ F******k ในการนำเสนอ ถึงจะมีคนกด like เพจเยอะ แต่เด็ก ม.เรา ก็ไม่ได้ให้ความสนใจมันมากเท่ากับที่สนใจ Know more”
ฉันพูดพร้อมกับชี้เข้าไปในมือถือของรุ่นพี่ที่เปิดเพจนั้นค้างอยู่ด้วยแล้วอธิบายแนวคิดของตัวเองต่อ
“เพราะงั้นเราแค่ต้องตบๆ ให้เข้าที่เข้าทาง ในเมื่อเรามี Know more อยู่แล้ว และกิจกรรมนี้ก็เป็นกิจกรรมภายใน ม.เท่านั้น เจว่าแค่ User ชมรมสิ่งแวดล้อมอันเดียวอ่ะ รุ่นพี่พายุคลิ๊กไม่กี่ทีก็น่าจะเสร็จ หรือถ้าจะให้ดีรุ่นพี่ Nightshade ก็แค่ต้องช่วยโปรโมทด้วย”
“แล้ว…?” รุ่นพี่รันเวย์พูดขึ้นมาและกดปิดมือลง ก่อนจะหันมามองที่ฉันอย่างตั้งใจฟัง
“ภาพหลุดกับ Know more เป็นของคู่กัน ถ้าจะให้สนใจแค่กิจกรรมที่ทำก็ต้องโฟกัสให้ถูกจุดไงคะ”
ฉันพยายามบอกใบ้ออกไปเพราะคิดว่าสิ่งที่กำลังจะสื่อมันใกล้ตัวเขามากที่สุด แล้วรุ่นพี่ก็นิ่งไปสักพักก่อนจะค่อยๆ พูดออกมาช้าๆ
“ให้ภาพ..เล่าเรื่องสินะ”
“Yes! สมกับเป็นรุ่นพี่รันเวย์ของฉะ..เอ่อ แหะๆ”
พอเห็นว่าเขาเดาทางถูกฉันก็เผลอดีใจออกไปยกใหญ่ แต่ดันไปสะดุดตอนท้ายกลับลำแทบไม่ทัน อย่ามาหลุดชมเขาต่อหน้าแบบนี้นะ ไม่ได้! ไอ้เจด้า Keep look หน่อย!
“พูดให้จบ” เขาทำหน้านิ่งที่ก็เหมือนจะรอฟังอยู่ ฉันเลยเฉไฉไปเรื่อยอ่ะ
“ก็..สมกับเป็นรุ่นพี่รันเวย์ของทุกคนไงคะ”
“อืม (- -) (_ _) ตามนั้นเลย”
แล้วรุ่นพี่ก็พยักหน้าออกมา แต่ไม่รู้ว่าเขาเห็นด้วยกับเรื่องไหนกันแน่ไง
“ตามนั้น คือ…?”
“กิจกรรมไงเดี๋ยวเริ่มเลย”
รุ่นพี่ตอบกลับมา ฉันเลยพยักหน้าเบาๆ ออกไป แล้วเขาก็กระโดดลงจากกระโปรงรถทันทีโดยไม่บอกไม่กล่าวทิ้งให้ฉันนั่งโดดเดี่ยวคนเดียวซะงั้น ฉันเลยทำท่าจะโดดลงไปบ้าง แต่กลับมีคำพูดของเขามาขัดเอาไว้จนฉันชะงักไป
“เป็นของทุกคนด้วยก็ได้ ตามนั้นเลย”
What?!
พูดจบรุ่นพี่ก็เดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วเปิดประตูขึ้นไป ส่วนฉันก็กระโดดลงจากกระโปรงรถแล้วเดินตามเขามาขึ้นรถอย่างงงๆ
เป็นของทุกคนเนี่ยนะ -.-? แล้วทำไมใจฉันมันส่งเสียงประท้วงแปลกๆ ว่า..ไม่ได้นะเจด้า! อะไรทำนองนั้นล่ะ -_-
Rrrrrrrrrrrrrr~
LUCAS (Video Call)
ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงเรียกเข้าจากไลน์ก็ดังขึ้น พอฉันหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเฮียลุคที่ Video Call เข้ามา แต่ฉันก็เลือกจะกดตัดสายไปเพราะไม่สะดวกที่จะคุยตอนนี้
Rrrrrrrrrrrrrr~
LUCAS (Video Call)
แต่พอฉันตัดสาย เฮียลุคก็โทรเข้ามาใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้รุ่นพี่รันเวย์ก็มองมานิดหน่อยและยังไม่ยอมออกรถไปไหน ยิ่งเห็นแบบนั้นฉันเลยยิ่งเกรงใจ เพราะยังไงนี่ก็รถเขาและฉันไม่อยากให้เขาเสียสมาธิตอนขับรถด้วย ฉันเลยเลือกจะตัดสายเฮียลุคไปอีกครั้ง
ครึ่มมมมมมม!!!
แล้วจังหวะเดียวกันนั้น อยู่ๆ ฟ้าก็ร้องออกมาเสียงดังสนั่น ประกอบกับมีเม็ดฝนเริ่มปอยลงมาบางๆ ในขณะที่เรากำลังนั่งเงียบๆ อยู่ในรถ
Rrrrrrrrrrrrrr~
LUCAS (Video Call)
และเฮียลุคก็โทรมาอีกทีเป็นครั้งที่สาม คราวนี้ฉันกำลังจะกดตัดสายแต่รุ่นพี่รันเวย์ก็ดันพูดขึ้นมาขัดซะก่อน
“รับสักที รำคาญ”
พอเขาบ่นมาแบบนั้น ฉันเลยเงยหน้าไปมองรุ่นพี่รันเวย์กับรูปเฮียลุคที่เด่นหราอยู่ในจอสลับกันสักพักแล้วก็กดรับไปทันที
[รับสายคู่หมั้นช้ามีไรจะแก้ตัวมั้ย?]
“ตลกหรอเฮีย”
แค่ได้ยินเฮียลุคทักเรื่องที่คิดแล้วโคตรเซ็งขึ้นมา ฉันก็สวนกลับไปทันควัน คู่ม่ง คู่หมั้นอะไรกัน รุ่นพี่ได้ยินก็เข้าใจผิดพอดี แค่เหล่มองเมื่อกี๊เขาก็เริ่มหน้าตึงละนะหรือปกติหน้าเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่หรอกมั้ง
[อยู่ไหน? กลับห้องยัง?]
“ยังอ่ะ เจออกมาทำธุระข้างนอก” ฉันตอบเฮียลุคออกไป ทั้งที่ลึกๆ ก็เกรงใจรุ่นพี่อยู่เหมือนกัน แต่เขาก็เป็นคนสั่งให้รับเองนี่นา
[ดึกละนะ กลับได้แล้วเฮียเป็นห่วง]
“อื้ม อีกแป๊บก็กลับแล้วค่าา”
ฟังจากน้ำเสียงเฮียลุคก็ดูจะห่วงฉันจริงๆ นั่นแหละ ปกติเขาก็ห่วงฉันตลอดเวลาแบบนี้อยู่แล้วคงเพราะเห็นฉันเป็นน้องเขาด้วยล่ะมั้ง อารมณ์แบบพี่ชายต้องปกป้องน้องไรงี้
[ถึงแล้วบอกนะเดี๋ยวแวะไป]
“เฮ้ย มาจริงหรอ ฮ่ะๆ” พอรู้ว่าเฮียมาฉันก็แอบตกใจนิดหน่อย เพราะวันก่อนฉันยังแกล้งแซวเขาอยู่เลย ไม่คิดว่าจะเอาจริงอ่ะ
[ก็ใครมันอ้อนล่ะ]
“หรอ ไม่ใช่คิดถึงเค้าหรอกหรอ” ฉันแกล้งแซวเขากลับไป แล้วส่งยิ้มกวนๆ ไปให้ ก่อนที่เฮียจะเค่นหัวเราะเบาๆ ออกมา
[หึ! อืม คิดถึงมาก รีบกลับ]
“ค่ะ เจอกันนะ” ฉันโบกมือบ๊ายบายเพื่อบอกให้รู้ว่าจะวางแล้ว เขาเองก็ยักคิ้วมาให้แล้วฉันก็กดวางสายไป
ติ๊ดดดดด
เปรี้ยงงงง!!! ซู่วววววววว!!!
แล้วพอฉันกดวางสายปุ๊บ ฟ้าก็ผ่าลงมาทันทีจนฉันสะดุ้ง แถมฝนที่ตกปอยๆ ในตอนแรกก็แรงขึ้นมากจนกระจกหน้ารถมัวไปหมด ตอนนี้คือมองไม่เห็นอะไรข้างนอกเลย พอหันไปหารุ่นพี่รันเวย์ฉันก็เห็นเขานั่งมองฝนที่เทลงมาอย่างบ้าคลั่งด้วยท่าทางนิ่งๆ ก่อนจะตัดสินใจเข้าเกียร์และทำท่าจะขับฝ่าออกไป
หมับ!
ฉันรีบหันไปคว้ามือเขาไว้ทันที ถ้าฝ่าออกไปตอนนี้ไม่ดีแน่อ่ะ ฉันว่ามันน่ากลัวออกนะ มืดก็มืด ถนนก็ลื่น
“มีนัดไม่ใช่?”
เขาถามออกมาเสียงเรียบพอเห็นว่าฉันยั้งมือเขาเอาไว้ ก็จริงของรุ่นพี่อ่ะ แต่มันก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอก เฮียลุคน่ะไว้เจอกันพรุ่งนี้ก็ได้มั้งเพราะกว่าจะไปถึงก็ดึกแล้วอยู่ดี
“เรื่องนั้นช่างเถอะค่ะ ตอนนี้มันอันตรายอย่าไปเลย” ฉันพูดออกไปด้วยสีหน้าเป็นกังวล ยิ่งหันไปเห็นว่าเริ่มมีลมแรงๆ พัดเข้ามาอีก พายุเข้ารึเปล่าก็ไม่รู้สิ..
“กลัว?” รุ่นพี่หันมาถามฉันด้วยสีหน้านิ่งๆ ตามเคย ฉันเลยพยักหน้าออกไปแล้วถามเขากลับบ้าง
“กลัวดิ หรือเฮียไม่กลัว?”
“เฉยๆ” แล้วเขาก็ตอบกลับมาด้วยท่าทางสบายๆ เฉยๆ บ้าอะไร ลมพัดรถจะปลิวยังจะมาชิลอีก รุ่นพี่นี่ประหลาดคน
“กลับไปเดี๋ยวก็ไม่ล้างมือหรอก”
“หืม o_O?” ฉันเลิกคิ้วมองหน้าเขาอย่างสงสัย พอได้ยินเขาพูดประโยคที่ฟังแล้วไม่เข้าใจออกมา แล้วรุ่นพี่รันเวย์ก็หันมองหน้าฉันสลับกับมองที่มือเขา ฉันเลยเพิ่งรู้สึกตัว
พรึ่บบบ!
“ขะ..ขอโทษค่ะ >/////<”
ทันทีที่หันไปเห็นว่าฉันกำลังจับมือเขาที่กำลังจะเข้าเกียร์อยู่ ฉันก็รีบปล่อยมันออกทันทีก่อนที่รุ่นพี่จะหลุดยิ้มออกมานิดๆ
“ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ -///-”
ฉันแกล้งส่งเสียงดุใส่เขากลบเกลื่อนไปทั้งที่ในใจคือ.. อร๊ายยย >_<!!! ฉันได้จับมือรุ่นพี่รันเวย์อ่ะ! แถมเขายังมารู้ทันอีกว่าจะไม่ล้างมือ บ้าบอมากเลยแก!
“อาการเป็นไง?”
พอฉันหลบตาหันหน้าไปหากระจก รุ่นพี่ก็ทำท่าชะเง้อมาอย่างกวนๆ เหมือนจะล้อฉันให้ได้
“ต่างคนต่างอยู่ไปเลยนะเฮีย”
ฉันตอบปัดๆ ออกไปทั้งที่ในใจมันจะเขินหรือจะฟินดีก็ไม่รู้ แต่มือเขานิ่มจัง นี่จับเพลินเลยอ่ะไม่รู้ตัวเลยจริงๆ >////<
“จับอีกก็ได้ คนใจกว้างเขาทำดีไม่หวังผลหรอก”
พรึ่บบบ!
แล้วรุ่นพี่ก็แกล้งยื่นมือเขามาให้อีก ส่วนฉันก็ปัดแขนเขาออกแล้วแกล้งทำขรึมใส่ทั้งที่ในใจกรี๊ดออกไปจนกระจกรถแทบแตก
โอ๊ยยย..เบื่อ! อ่อยพร่ำเพรื่ออออ เบื่อมากกก งื้อออ >/////<
วันต่อมา..“รันเวย์คะ พวกเรามาจากชมรมวารสาร ข่าวลือที่ว่ารันเวย์หึงเจด้าจนสั่งให้พายุปิด Know more แบบกะทันหันและลบรูปที่กำลังเป็น Talk of the town สองรูปนั้น เป็นความจริงรึเปล่าคะ?”คำถามยาวเหยียดของสมาชิกชมรมวารสารที่มาดักรอพวกเราที่ลานจอดรถดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงซุบซิบนินทาหนาหูมาก ชนิดที่ว่าจับใจความไม่รู้เรื่องเลยสักคำเพราะคนรอบข้างต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา“ตามนั้น”เฮียเวย์ตอบไปสั้นๆ ด้วยท่าทางเรียบเฉย ไม่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ดุ แล้วอ้อมมาโอบเอวฉันเดินฝ่าฝูงชนนับสิบตรงไปที่โรงอาหาร แต่ชมรมวารสารและบรรดาแฟนคลับที่อยากรู้อยากเห็นก็ยังเดินตามพวกเรามาติดๆ แล้วตะโกนสัมภาษณ์กันไม่หยุดหย่อน“ก่อนหน้านี้มีนักศึกษาที่เข้าใช้ Know more ไม่ได้โวยวายกันยกใหญ่ อยากฝากอะไรถึงพวกเขามั้ยคะ?”ไมค์ในมือของผู้หญิงที่จีบปากจีบคอพ่นคำถามน่าเบื่อมากมายถูกเลื่อนมาจ่อตรงหน้าเฮียเวย์ ก่อนที่เขาจะหยุดเดินแล้วหันไปส่งสายตานิ่งเรียบไปให้และตอบออกไปเสียงเข้ม“ใครรู้ตัวว่าเซฟรูปพวกนั้นไว้..ลบซะ!”“นี่รันเวย์ไม่คิดจะขอโทษใครสักหน่อยหรอคะ แถมทำแบบนี้ไม่กลัวพายุติดร่างแหที่ยื่นมือเข้ามาช่ว...”“ถ้า Nightshade
“ก็ถ้าเขิน..จะนอนเฉยๆ ให้เอา แต่ถ้าหึง..เดี๋ยวขึ้นให้เอง”จิ๊!“โคตรหึง โคตรเขิน พอใจมั้ยวะ -////-”พอฉันพูดแบบนั้นออกไปเฮียเวย์ก็ตอบกลับมาด้วยสีหน้าแดงก่ำ แล้วทำเป็นใช้เสียงเข้มกลบเกลื่อน“หึ..ก็แค่นั้นอ้ำอึ้งอยู่ได้”พรวดดดด“อ๊าาาา // อ่าาา~”พูดจบฉันก็ทิ้งตัวลงบนท่อนเอ็นของเขาอย่างแรงทันทีและหลุดปากครางออกไปอย่างลืมตัว เช่นเดียวกับเฮียที่ครางออกมาด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มไม่ต่างกัน แล้วฉันก็เริ่มขยับสะโพกขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เพราะข้างในมันอึดอัดเหมือนทุกส่วนข้างในของเราสัมผัสกันอย่างแนบแน่นจนเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูกพั่บๆๆๆ พั่บๆๆๆ“อืมมม ทำไมวันนี้..ร้อนแรงได้ขนาดนี้วะ -////-”เฮียเวย์ส่งเสียงงึมงำปนเสียงครางออกมาอย่างเลื่อนลอย แล้วหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เสียงหัวใจของเขายังเต้นตึกตักอยู่แบบนี้ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ“ไม่ชอบหรอ อ๊ะ..อ๊า หรือชอบแบบอีฟ้า! อ๊ะ อ๊ะ...”พั่บๆๆๆ พั่บๆๆๆฉันขย่มขึ้นลงอยู่บนตัวเฮียเหมือนที่เขาเคยสอน แล้วถามออกไปอย่างจิกกัด โดยมีเฮียนอนครางอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่ใต้ร่าง“อ่าาา.. ไร้สาระ มีคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่ละ”น้ำเสียงกระเส่าดังขึ้นอย่าง
@ ST. ROYAL CONDOโครมมม~พอกลับถึงห้องฉันก็โยนกระเป๋ากับชีทลงบนโต๊ะอย่างแรงจนไฮชิวิ่งหนีเข้าบ้านแมวไปเลย ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าห้องนอนปิดประตูล็อคกลอนแน่นหนา แล้วทิ้งเฮียไว้ข้างนอกอย่างอารมณ์เสีย อีฟ้า อย่าให้กูเจอ แม่จะตบให้เลือดกบปากเลย โมโห!ก๊อก ก๊อก ก๊อก..“ไม่ให้เข้า!”ฉันตะโกนออกไปทันที แล้วไม่สนว่าเฮียจะพูดอะไรต่อ ก่อนจะเดินหนีเข้าไปอาบน้ำ แช่ตัวอยู่ในอ่างแบบนี้อย่างสงบสติอารมณ์ตัวเองทันทีบ้าชิบ! ถึงจะมีเรื่องกับใครมาตลอดตั้งแต่ ม.ปลาย ฉันก็ไม่เคยหัวร้อนง่ายขนาดนี้ แต่นี่ฉันคลั่งขึ้นมาแบบแทบจะทันทีเวลาเห็นใครเข้ามาใกล้เฮียเวย์แบบนี้ นี่ฉันยังสติดีรึเปล่า!ฉันคว้ามือถือที่พกเข้ามาด้วยเลื่อนดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็อย่างที่คิดแหละมีคนลงคลิปที่ฉันตบอีฟ้าอะไรนั่น พาดหัวคลิปเหมือนฉันเป็นอาชญากรข้ามชาติ ทำให้ใครต่อใครแห่ไปคอมเม้นท์กันแบบบันเทิงใจ แถมรูปเฮียเวย์เมื่อคืนที่มีมือดีแคปทันก็ยังว่อนอยู่ในนั้นจนเลื่อนไปทางไหนก็เจอ เออ! เอาเข้าไปจะเอาให้ฉันคลั่งตายเลยใช่มั้ย ต้องตามตบพวกมันทุกคนเลยมั้ย เฮ่อออ~บุ๋งงงงๆๆๆฉันดำลงไปสงบสติอารมณ์ใต้น้ำในอ่างแบบเซ็งๆ ก่อนจะปล่อยตัวเองไว้ในสภาพ
เช้าวันต่อมา..ฉันเดินฟึดฟัดลงจากรถทันทีเพราะรู้ว่าถ้าเหยียบแผ่นดิน ม. คงได้เป็น Talk of the town จากรูปเฮียเมื่อคืนแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ตลอดระยะทางที่เฮียเดินมาส่งที่ตึกเสียงซุบซิบก็ก่อตัวขึ้นเป็นลูกคลื่นเลยล่ะ -.-“สาแก่ใจเฮียรึยัง?!”“หื้มมม?”พอโดนฉันดุเฮียก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขนาดเมื่อคืนเขาอัพรูปบ้านั่นลงไปแค่ 2 นาทีเองนะ ยังกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ Know more นี่เด้งรัวแค่ไหนไม่ต้องถามอ่ะเพราะมือถือค้างใช้งานไม่ได้จนต้อง Log out หนีตั้งแต่เมื่อคืน! แต่เท่าที่อ่านจากกระทู้ HOT NEWS เมื่อเช้า มีแต่คนคอมเม้นท์ในเชิงว่าฉันเอามือถือเฮียไปกดอัพแล้วแท็กตัวเองให้คนอื่นอิจฉาเล่นเพราะอย่างเฮียไม่น่าจะทำแบบนั้นได้.. ‘เขานิ่งจะตาย’....อ๋อหรอออออ?!นิ่งกับผีอ่ะดิ ใช่เว้ยกับคนอื่นเขาอาจจะนิ่ง แต่กับฉัน Nightshade และเพื่อนๆ ที่คณะเช่นแก๊งค์มุกเสี่ยวน่ะ เขาโคตรจะไม่นิ่งเลย! ถามจริงยัยพวกนั้นแยกแยะไม่ได้รึไงว่าคนเรามันมีหลายบุคลิกก็ได้น่ะ เชื่อเหอะ! ตั้งแต่มาเจอเฮียเวย์ หรือแม้แต่เฮียพายเอง ฉันว่าฉันเข้าใจโลกมากขึ้นเยอะเลย -_-“วันนี้ชมรมวารสารขอสัมภาษณ์เราเรื่อง I Saw.. นะ”“อืม
ไม่กี่นาทีต่อมา...@ ST. ROYAL CONDOพรึ่บบบ!“ตัวเจ~ อย่ารุนแรงกับเฮียนักดิ ฮ่ะๆ”เสียงเฮียเวย์ที่ถูกฉันฉุดกระชากลากแขนอยู่พูดจาออดอ้อนฉันมาตลอดทางจนเรากลับมาถึงคอนโดแล้วเดินเข้ามาในห้อง“เพราะเฮียนั่นแหละ!”ฉันบ่นออกไปอย่างหงุดหงิด ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยฮะ ทำไมต้องทำให้คนอื่นเขาหลงไปทั่วแบบนี้ ไม่ชอบ! โคตรจะไม่ชอบเลย!ตุ้บบบ! “เฮียอ่ะ!” ฉันโมโหแต่ทำไรไม่ได้ก็เลยทุบเขาไปทีหนึ่ง แล้วเฮียเวย์ก็ขำออกมาอย่างไม่สลดเลยสักนิด“โอ๋ๆ โกรธป่ะ Kiss อีกก็ได้นะ มาเร็ว~”เฮียทำท่าล้อเลียนฉันแล้วยื่นหน้าเข้ามาจะให้ฉันจูบเขาอีก ฉันเลยดุออกไปทั้งที่หน้าร้อนผ่าว -////-“จะตลกอีกนานมั้ยฮะ!” พอฉันเริ่มจริงจังขึ้นมา เฮียก็ทำหน้างอแล้วพูดอ้อนๆ เหมือนเดิมอีกที เออ ตาย.. กูตาย!“ก็ตอนนั้นเฮียเขินนี่นา -////-”“แล้วทำไมต้องเขินต่อหน้าคนเยอะแยะด้วยเล่า!”ฉันบ่นเขาออกไปอีก แล้วเฮียก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นอมยิ้มออกมาทันที อะไรของเขา เป็นไบโพล่าร์หรอ -_-?!“ก็เฮียไม่เคยเห็นเราเป็นงี้อ่ะ ฮ่ะๆ”เฮียเวย์ยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด แล้วเอามือมาบีบแก้มฉันเบาๆ แต่พอยิ่งฟังฉันยิ่งหงุดหงิดขึ้นมาซะงั้น“ไม่เคยเห็นก็เห็นสั
หลายวันต่อมา..“งื้อออ อยากกินบิงซู แฮ่กๆ”ฉันบ่นออกไปทั้งที่ขายังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งในฟิตเนสที่คอนโด โดยมีเฮียเวย์ยืนกอดอกทำหน้านิ่งๆ อยู่ข้างๆ“ตั้งใจวิ่งไปห้ามคิดเรื่องกิน” เฮียพูดแล้วยื่นมือมาผลักหัวฉันเบาๆ ฉันเลยหันไปทำหน้ายักษ์ใส่เขาทันที“เฮียอยากออกกำลังกาย ทำไมต้องลากเจมาด้วยอ่ะ -_-?”ฉันบ่นอุบอิบออกไปเพราะตั้งแต่ก้าวขาเข้าฟิตเนสมาเฮียยังไม่ได้แตะเครื่องออกกำลังกายอะไรเลยสักแอะ มีแต่ยืนคุมเข้มฉันอยู่แบบนี้ น่าหงุดหงิดชะมัดเลย“ก็เราไม่ยอมแต่งงานกับเฮียเพราะบอกว่าอ้วน! ใส่ชุดแต่งงานไม่สวย”เฮียเบะปากใส่แล้วพูดออกมาแบบเซ็งๆ ก็ยอมรับนะว่าพูดจริงอ่ะ ใครก็อยากสวยที่สุดในวันแต่งงานทั้งนั้นป้ะ?!“เหอะ! แล้วใครเขาคิดเรื่องแต่งงานกันปุบปับแบบเฮียบ้างเล่า”ไอ้ที่คิดว่าอยากแต่งแล้วจะแต่งเลย ไม่สนใจอะไรต่อมิอะไร นอกจากเฮียพายที่ไอ้นิลเล่าให้ฟัง ฉันก็เจออีกคนละที่ประหลาดได้โล่แบบนั้น นี่ไง..ยืนอยู่นี่อีกคน เชื่อมะ..สองสามวันก่อนแม่เฮียกับม้าฉันพากันมาช่วยเลือกแหวนหมั้น แต่ดูไปดูมาเกือบจะได้เปลี่ยนเป็นแหวนแต่งงานกันซะงั้น คือรีบกันทุกคนยกเว้นฉันอ่ะ ไม่รู้จะรีบไปไหน -.-“หึ..โทษที เรื่องแต่งง