วันต่อมา..
“รันเวย์คะ พวกเรามาจากชมรมวารสาร ข่าวลือที่ว่ารันเวย์หึงเจด้าจนสั่งให้พายุปิด Know more แบบกะทันหันและลบรูปที่กำลังเป็น Talk of the town สองรูปนั้น เป็นความจริงรึเปล่าคะ?”
คำถามยาวเหยียดของสมาชิกชมรมวารสารที่มาดักรอพวกเราที่ลานจอดรถดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงซุบซิบนินทาหนาหูมาก ชนิดที่ว่าจับใจความไม่รู้เรื่องเลยสักคำเพราะคนรอบข้างต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
“ตามนั้น”
เฮียเวย์ตอบไปสั้นๆ ด้วยท่าทางเรียบเฉย ไม่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ดุ แล้วอ้อมมาโอบเอวฉันเดินฝ่าฝูงชนนับสิบตรงไปที่โรงอาหาร แต่ชมรมวารสารและบรรดาแฟนคลับที่อยากรู้อยากเห็นก็ยังเดินตามพวกเรามาติดๆ แล้วตะโกนสัมภาษณ์กันไม่หยุดหย่อน
“ก่อนหน้านี้มีนักศึกษาที่เข้าใช้ Know more ไม่ได้โวยวายกันยกใหญ่ อยากฝากอะไรถึงพวกเขามั้ยคะ?”
ไมค์ในมือของผู้หญิงที่จีบปากจีบคอพ่นคำถามน่าเบื่อมากมายถูกเลื่อนมาจ่อตรงหน้าเฮียเวย์ ก่อนที่เขาจะหยุดเดินแล้วหันไปส่งสายตานิ่งเรียบไปให้และตอบออกไปเสียงเข้ม
“ใครรู้ตัวว่าเซฟรูปพวกนั้นไว้..ลบซะ!”
“นี่รันเวย์ไม่คิดจะขอโทษใครสักหน่อยหรอคะ แถมทำแบบนี้ไม่กลัวพายุติดร่างแหที่ยื่นมือเข้ามาช่ว...”
“ถ้า Nightshade สร้าง เรามีสิทธิ์ทำลาย!”
ไม่รอให้เจ๊คนนั้นพูดจบเฮียเวย์ก็สวนกลับไปทันที แต่เจ๊แกก็ยังสรรหาคำถามมาถามอีกอย่างไม่ยอมแพ้ ส่วนเฮียก็พาฉันเดินต่อนิ่งๆ ให้คนพวกนั้นเดินตามกันเป็นขบวนมาเอง
“รันเวย์จะบอกว่า..ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรอย่างงั้นหรอคะ”
พอเจ๊นั่นเน้นเสียงที่คำว่า ‘ไม่จำเป็น’ แบบออกแนวกวนบาทาเฮียนิดๆ ขึ้นมา เฮียเวย์ก็หันไปจิกตาใส่เจ๊แกทันทีแล้วพูดออกไปในแบบที่ฟังก็รู้เลยว่าเขาเริ่มจะรำคาญมากแล้วจริงๆ
“ใช่.. แล้วชมรมวารสารนี่ยังจำเป็นมั้ย?”
“เอ่อ..น้องเจด้ารู้สึกยังไงบ้างคะที่รันเวย์ออกตัวแรงขนาดนี้” พอเฮียถามไปแบบนั้นไมค์จากชมรมวารสารก็ถูกเลื่อนมาจ่อตรงหน้าฉันแทนทันที
“เป็นพี่..พี่รู้สึกไงอ่ะคะ?”
ฉันตอบคนถามกลับไปด้วยคำถาม ไม่ได้ตั้งใจจะกวนนะ เพราะเป็นใครก็ต้องฟินด้วยกันทั้งนั้นที่แฟนหึงโหดขนาดนี้ แต่เอาจริงๆ จริตเจ๊แกมันดูมั่นหน้าไปหน่อย ฉันเลยไม่อยากจะตอบอ่ะแค่ฟังก็หงุดหงิดละ เคยเป็นป้ะแบบมองใครแล้วรู้สึกว่า..ตอแหลจัง (ใช้คำไม่แรงไปเน่อะ -.-)
“แล้ว...”
“จะพอกันได้รึยัง?”
พอเจ๊แกจะถามอีกเฮียเวย์ก็พูดออกมาด้วยท่าทางเย็นชาเหมือนกับตอนที่ฉันเจอเขาครั้งแรกไม่มีผิด แววตาที่แอบน่ากลัวถูกจ้องไปที่กล้องทุกตัวและมือถือทุกเครื่องรอบตัวเราจนทุกคนลดมันลงแล้วเงียบกริบกันหมด เหลือแต่เจ๊ชมรมวารสารที่ทำหน้าโง่ๆ มึนๆ ใส่เหมือนเข้าใจความหมายแต่เนียนๆ จะสัมภาษณ์ต่อ
“ค่ะ เอ่อ แล้ว...”
“อยากโดนล้างบางเหมือน Know more ใช่มั้ย?”
พอเห็นว่าเจ๊แกไม่ยอมหยุด เฮียก็ส่งเสียงขู่ออกไปแล้วจ้องหน้าเจ๊แกแบบโคตรรำคาญอีกครั้งจนคนของชมรมวารสารต้องยอมลดกล้องลง แล้วเจ๊ก็หน้าเสียออกมาเลยทีเดียวเชียว
“เอ่อ..ค่ะ ขอโทษค่ะ”
จากนั้นเฮียก็พาฉันเดินฝ่าฝูงชนที่รายล้อมเราเข้ามาในโรงอาหารที่มี Nightshade คนอื่นๆ นั่งกินข้าวกันอยู่รวมถึงไอ้นิลด้วย ซึ่งทุกคนก็มองมาที่เรา แล้วพอพวกฉันทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะ รุ่นพี่วาโยก็หันไปถามรุ่นพี่เลโอทันที ดูจากมือถือในมือ..พวกเขาคงกำลังดู Live ใน Know more อยู่แหงๆ
“ตอบไปสิไอ้ห่า ชมรมวารสารนี่ยังจำเป็นมั้ย?”
หึหึ...และถ้าให้เดานะก็รุ่นพี่เลโอนี่แหละที่เป็นแบ็คให้ชมรมวารสารอ่ะ เพราะเวลามีเรื่องฉาวๆ ทีไร ทุกครั้งที่ชมรมวารสารกด Live มันจะมาเด้งหน้าแรกของ Know more ทันทีเหมือนได้อภิสิทธิ์เฉพาะ
“เฮียแม่งขี้งอนเหี้ยๆ”
พอรุ่นพี่เลโอพูดออกมา ฉันก็หลุดขำนิดๆ ไม่รู้ทำไมนึกถึงตอนเขางอนไฮชิอ่ะ เหมือนภาพมันยังติดตา55555
“ขำไร?” เฮียหันมาหาฉันด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ฉันก็เฉยๆ นะไม่ได้กลัวหรืออะไร ก่อนจะตอบกลับไปแบบอมยิ้มนิดๆ
“ป่าวซะหน่อย ไปกินข้าวดีกว่า” พูดจบฉันก็วางกระเป๋ากับชีทเรียนเอาไว้และลุกขึ้นแต่ไม่ทันไรเฮียเวย์ก็ลุกตามมา
“จะกินด้วย?” ฉันหันไปมองเฮียงงๆ เพราะปกติเขาไม่กินข้าวเช้านี่นา แล้ววันนี้ลุกตามฉันมาทำไมกันล่ะ
“ไม่ได้มากินข้าว ..มาคุมเมีย!”
เขาตอบออกมาเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความกดดันบางอย่าง จนฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ฮ่ะๆ หวงล่ะสิ หวงฉันบ่อยจังนะช่วงนี้อ่ะ แปลกจังเลย ไม่รู้ทำไมอ่ะ ฮ่าๆๆ
เลิกเรียน...
“คราวนี้จะได้ตบใครอีกมั้ย?”
ฉันถามออกไปพอมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องชมรมวารสาร เพราะเมื่อวานฉันก็ซัดอีฟ้าอะไรนั่นไปหนักพอสมควร แต่เพราะทางชมรมให้รุ่นพี่เลโอมาช่วยคุยให้เพราะอยากสัมภาษณ์เรื่อง I Saw… จริงๆ ฉันเลยต้องแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว แล้วมาตามนัดที่รุ่นพี่เลโอดีลไว้พร้อมกับเฮียเวย์ที่เขาดูจะเบื่อๆ ชมรมนี้น่าจะเพราะโดนถามเซ้าซี้เมื่อเช้าล่ะมั้ง
“เชิญค่ะรุ่นพี่ เชิญค่ะน้องเจด้า”
พอเราเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับทีมที่รอสัมภาษณ์ ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นคนละทีมกับเมื่อเช้า แถมฉันก็ไม่เห็นยัยฟ้าอะไรนั่นแม้แต่เงา เลยทำให้รู้สึกโอเคขึ้นมาหน่อย แล้วทีมงานชมรมวารสารก็เริ่มสัมภาษณ์พวกฉันเรื่อง I Saw… ไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็มาจบที่ขอความร่วมมือให้เฮียเวย์อัด VTR เชิญชวนให้น้องๆ ที่จะจบ ม.ปลายปีนี้เข้ามาเรียนที่มหาลัยเหมือนกับที่เฮียเวย์เคยทำเมื่อปีก่อน
“งั้นเจไปรอตรงนู้นนะ”
ฉันหันไปบอกเฮียเวย์แล้วเดินไปนั่งรอที่โซฟา ก่อนจะมีสมาชิกชมรมอีกสองสามคนเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางเกร็งๆ
“มีไรหรอคะ?”
เดี๋ยวสิ นี่ฉันดูเป็นตัวประหลาดหรอ -.-? ทำไมแต่ละคนต้องเกร็งกันขนาดนั้น แต่ดูๆ แล้วสามคนนี้เป็นเด็กปีหนึ่งเหมือนฉันเลยนี่นา
“เอ่อคือ...”
ผู้หญิงคนหนึ่งทำท่าอ้ำอึ้ง แล้วหันมองไปที่รุ่นพี่ในชมรมเดียวกันที่ถลึงตายืนอยู่ไกลๆ แถวมุมห้อง แต่พอฉันหันไปพวกนั้นก็หันหนีไปทางอื่น เหลือก็แต่คนที่ดูจากท่าทางเหมือนจะโดนบังคับให้มาทั้งสามคนกำลังนั่งเลิ่กลั่กอยู่ตรงหน้าฉันนี่แหละ
“รุ่นเดียวกันไม่ต้องเกร็งหรอก มีไรกับเราหรอ?”
ฉันเป็นฝ่ายถามออกไปก่อน เพราะดูเหมือนแต่ละคนตรงหน้าจะกล้าๆ กลัวๆ ซึ่งมันจะทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง
“เราขอสัมภาษณ์เจด้าเป็นสกู๊ปพิเศษสั้นๆ ได้มั้ย พอดีมันเป็นงานส่วนที่เราได้รับมอบหมายมาจากชมรม”
พอคนตรงหน้าพูดออกมาฉันก็แอบคิดในใจว่า โธ่เอ๊ย..เรื่องแค่นี้เอง จะอ้ำอึ้งทำไมเนี่ย -.-? แต่ลึกๆ ฉันไม่ได้เชื่อ 100% หรอกนะว่าเป็นงานของพวกนี้อ่ะ ดูจากหน้าพวกรุ่นพี่ในชมรมยังไงก็โดนบังคับมาแหงๆ
“อื้ม ได้ดิ ว่ามาเลย”
ได้ยินแบบนั้นอีกสองคนที่ถือกล้องและไมค์ลอยก็จัดแจงส่งมันมาให้ฉันทันที แล้วทำท่าเตรียมพร้อมกันแบบชุลมุนวุ่นวาย
“เฮ้ย ใจเย็นๆ ก็ได้มั้ง ฮ่ะๆ” ฉันหลุดขำออกไปในท่าทางของคนพวกนี้ คือนี่คนไงไม่ใช่ผีอ่ะ ดูล่อกแล่กกันแปลกๆ
“เริ่มเลยนะ.. คือทางชมรมเราแอบหาข้อมูลมาว่าก่อนจะได้เป็นแฟนกัน จนถึงขั้นหมั้นกันกับรุ่นพี่รันเวย์ เจด้าเคยเป็นแฟนคลับของรุ่นพี่ตั้งแต่สมัยเรียน ม.ปลาย จริงรึเปล่าคะ?”
“อื้ม จริงค่ะ -////-”
ถึงจะตอบออกไปแบบนั้นก็เถอะนะ แต่นั่นมันเรื่องลับสุดยอดของฉันที่มีแค่ไอ้นิลกับพวกแก๊งค์บิวตี้ที่รู้เท่านั้นนี่นา หรือว่าทางชมรมไปเอาข้อมูลพวกนี้มาจากยัยพวกนั้นอ่ะ ร้ายชะมัด!
“คือ..แอบมีภาพหลุดแบบ Exclusive ออกมาอ่ะค่ะ ว่าเจด้าคลั่งรุ่นพี่มาก จนถึงขั้นเนรมิตห้องนอนตัวเองเป็นเหมือนแกลลอรี่ที่มีรูปรุ่นพี่เต็มไปหมด เรื่องนั้นก็จริงด้วยรึเปล่าคะ?”
พูดจบสมาชิกที่นั่งอยู่อีกคนก็ยื่นรูปที่เตรียมไว้มาให้ฉันคอนเฟิร์ม พอเห็นรูปเท่านั้นแหละเล่นเอาฉันตกใจอยู่พอสมควร เพราะมันเป็นรูปจากห้องนอนที่คอนโดฉันจริงๆ
“เอ่อ.. รูปพวกนี้ไปเอามาจากหนะ..”
“จริงครับ” ฉันกำลังจะถามออกไป แต่อยู่ๆ เฮียเวย์เดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งข้างๆ และตอบออกไปแทน
“เดี๋ยวสิเฮีย เขาถามเจไม่ใช่หรอ -.-”
พอเห็นเฮียเวย์ตอบไปแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา ฉันเลยตีเขาเบาๆ ไปที ถึงจะคบกันแล้ว..แล้วก็รู้เรื่องฉันไปตั้งเยอะแยะ แต่เขาก็ไม่ควรมานั่งอยู่ตรงนี้ในเวลาที่ฉันให้สัมภาษณ์เรื่องมหากาพย์ความรักพวกนั้นอยู่ดี ยังไงมันก็เขินนะ >////<
“ก็มันเรื่องจริง เราจะอ้ำอึ้งทำไม ^^”
เฮียเวย์ตอบกลับมาแล้วส่งยิ้มหวานอ่อยออกมาอีก เดี๋ยวเซ่! นั่นกล้องไม่ใช่รึไง นิสัยเสียชะมัด ไหนว่าจะไม่อ่อยใครแล้ว?!
“แล้วก็มีแหล่งข่าวรายงานมาว่าเจด้าเคยปฏิบัติต่อรุ่นพี่เสมือนเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงด้วยการทำการ์ดและของขวัญมากมาย ซึ่งเป็นงานฝีมือที่ใช้ความตั้งใจสูงมากจริงรึเปล่าคะ?”
คนที่สัมภาษณ์ถามขึ้นมาอีก แล้วสมาชิกอีกคนก็ส่งรูปอีกใบมาให้ฉันดูจนฉันออกอาการเหวอไปเลย และเข้าใจแจ่มแจ้งชัดเจนในทันทีเลยว่ารูปหลุดพวกนี้มันมาจากใคร!
“นะ..นี่มัน >//////<”
“จริงทั้งหมดครับ น่ารักจังเลยนะเนี่ย ไม่เห็นเคยเอามาให้เฮียดูเลย ^_^”
เฮียเวย์ทำท่าตื่นเต้นออกมาได้แบบโคตรเนียน ก่อนจะเลื่อนมือมาบีบแก้มฉันเบาๆ แต่พอเขาพูดจบฉันก็ถลึงตาใส่ทันที หรออออ! ไม่เคยเห็นแน่หรอออ! ไม่ใช่เป็นคนเอาออกมาปล่อยซะเองหรอกหรอออ?! ก็ว่าทำไมรูปที่คอนโดถึงมาโผล่ที่นี่ได้ เฮียนี่มันร้ายชะมัด! >//////<
“เอ่อ คำถามนี้สำหรับรุ่นน้อง ม.ปลาย ที่กำลังเลือกมหาลัยในการศึกษาต่อนะคะ ..เจด้ามีวิธีการเลือกมหาลัยยังไงช่วยแนะนำน้องๆ หน่อยค่ะ”
“ก็...” ได้ยินคำถามที่บังเอิญเคยตรงกับชีวิตช่วงหนึ่งของฉันแบบนั้น ฉันก็หันไปมองเฮียเวย์ที่มองมาอย่างตั้งใจฟัง แล้วก็หลุดขำออกมาคนเดียวเบาๆ จนเขาทำหน้าแปลกใจ
“เลือกรุ่นพี่ที่ชอบ..แล้วจะได้มหาลัยที่ใช่มั้งคะ ^.^”
“ตัวเจ -/////-”
พอฉันพูดไปแบบนั้น เฮียเวย์ก็ออกอาการหน้าแดงขึ้นมาทันตา จนฉันเอื้อมมือไปบีบแก้มเขาคืนเบาๆ แล้วกระซิบออกไปให้ได้ยินแค่สองคน
“หึ.. เฮียเริ่มก่อนเองนะ สมน้ำหน้า” แล้วเฮียก็หายใจเข้าลึกๆ เบาๆ ก่อนจะหันมองไปทางอื่นและยิ้มบางๆ ออกมา
“และคำถามสุดท้าย อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวไปนิดหนึ่งนะคะ...”
เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว สมาชิกคนที่สัมภาษณ์ก็หยุดรอให้พวกฉันตัดสินใจก่อนว่าจะสามารถสัมภาษณ์ได้มั้ย ถือว่าเป็นคนที่มีจรรยาบรรณและมารยาทอยู่พอตัวเลยแฮะ ไม่เหมือนเจ๊คนเมื่อเช้า
“ครับ”
เฮียเวย์เองก็คงคิดเหมือนกันกับฉัน เขาเก๊กหน้าขรึมแล้วพยักหน้าออกมา ก่อนที่สมาชิกทั้งสามคนที่นั่งตัวเกร็งจะเริ่มผ่อนคลายขึ้นมาทันตา
“คำถามที่ถูกร้องขอให้ถามมากที่สุดใน Know more คือหลังจากประกาศตัวเป็นคู่หมั้นกันแล้ว รุ่นพี่รันเวย์กับเจด้า..มีแพลนจะแต่งงานกันเมื่อไหร่หรอคะ?”
ขวับ!
ฉันหันขวับไปหาเฮียเวย์ทันที เพราะเรายังไม่ได้วางแผนเรื่องนี้กันเลย แต่เฮียกลับพยักหน้าช้าๆ และค่อยๆ เรียบเรียงคำพูดออกมา
“อีกนานเลยครับ ก็ประมาณ.......กลางเดือนหน้า”
เฮียเวย์เงียบไปสักพักอย่างใช้ความคิด แล้วก็พูดสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดออกมาทันทีจนฉันตกใจ
“ห๊ะ?!” ฉันหันขวับไปหาเฮียแบบงงๆ ทันที นี่เข้าจะมาไม้ไหนอีกเนี่ย ใครบอกกันว่าจะแต่งเดือนหน้า บ้าไปแล้ว!
“ขอบคุณน้องๆ ที่ให้ความสนใจเรื่องของเรานะครับ หวังว่าจะได้พบกันในรั้วมหาลัยปีหน้านะฮะ ขอบคุณครับ”
แล้วเฮียเวย์ก็ตัดจบบทสัมภาษณ์แบบมืออาชีพโคตรๆ ส่วนสมาชิกชมรมสามคนนั้นก็รีบเอ่ยปากขอบคุณและเก็บของเดินหนีกันไปทันที
“เดี๋ยวสิใครเค้าจะ... อุ๊บบบ :X”
ฉันยังพูดไม่ทันจบเฮียก็เอามือมาปิดปากเอาไว้ ก่อนจะลากฉันออกจากห้องชมรมมาที่ลานจอดรถ ดันตัวฉันพิงกับตัวรถแล้วโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูฉันเบาๆ จนหน้าฉันร้อนผ่าวออกมาซ้ำๆ อีกครั้ง
“เดือนหน้าท้องแน่นอน พนันด้วยน้ำทั้งตัวของเฮียเลย”
“อะ..อาจจะไม่ก็ได้ >/////<”
ฉันพูดออกไปแบบ..รู้ดีว่ายากอ่ะ ไม่ท้องอ่ะยาก! เพราะเมื่อคืนเฮียเล่นกระแทกเข้ามาแล้วเสร็จไปไม่รู้กี่รอบแบบไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด แต่คือพอเขามาพูดตรงๆ แบบนี้ แถมยังประกาศเรื่องแต่งงานออกไปแบบไม่เตี๊ยมกันก่อน ฉันเลยเขินจนต้องตอบปัดๆ ไปก่อนแบบนั้น ภาษาบ้านๆ คือแถไปเรื่อยอ่ะ มันไม่รู้จะอธิบายยังไง..
“ถ้าไม่ท้อง ก็จะเอา..จนกว่าจะท้อง”
เฮียตอบกลับมาสั้นๆ แต่แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นดุดันจริงจังขึ้นมา แล้วขยับตัวรุกเข้ามาใกล้ฉันจนตัวแนบชิดกันขึ้นอีกจนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รินรดกันท่ามกลางสายตาของคนเยอะแยะที่เดินผ่านมา
“ถะ..ถอยออกไปก่อนได้มั้ย”
ทำไมวันนี้ฉันไม่เก่งเหมือนเมื่อวานเลยวะเนี่ยยย หรือเพราะโดนสัมฯ จี้จุดเรื่องแอบรักรุ่นพี่เข้าไป ใจมันเลยสั่นๆ พอเขาเข้ามาใกล้กันแบบนี้อ่ะ >////<
“เอาไง จะแต่งดีๆ หรืออยากโดนกระแทกตรงนี้ เลือกมา..”
เฮียเวย์แสยะยิ้มทันทีพอเห็นท่าทางของฉัน แล้วเขาก็ส่งเสียงขู่ออกมา แล้วเลื่อนมือมาจับที่สะโพกฉันลูบไล้ขึ้นมาเรื่อยๆ จนฉันนึกกลัวว่าเขาจะกล้าทำมันขึ้นมาจริงๆ
“จะ..จะบ้าหรอนี่มัน....”
“เลือก!” เฮียพูดซ้ำด้วยเสียงเข้มจนฉันสะดุ้งเบาๆ สุดท้ายเลยต้องตอบคำถามนั้นออกไปอย่างจำยอมทั้งที่ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน
“กะ..ก็ได้”
“อะไร..ก็ได้?” เขาส่งสายตาดุๆ ออกมา ฉันเลยขยายความคำพูดตัวเองออกไปหน้ามุ่ย
“กะ..ก็แต่งไง แต่งก็ได้ ไม่ว่ายังไงก็แพ้เฮียทุกทางอยู่แล้วนี่”
“หึ..ก็แค่นั้น ป่ะ! เลือกแหวนแต่งงาน แล้วกลับบ้านไปปั๊มลูกเพิ่มดีกว่า”
แล้วเฮียก็เปิดประตูให้ฉันขึ้นรถอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินอ้อมมาขึ้นฝั่งตัวเองแล้วขับออกจาก ม. ทันทีโดยมีฉันนั่งงงกับการตัดสินใจของตัวเองไปตลอดทาง -_-
เดี๋ยวนะ นี่ฉัน..โดนเขาขอแต่งงาน หรือโดนบังคับให้แต่งงานกันแน่ฮะ ทำไมโมเม้นต์แบบนี้มันไม่หวานแบบนี้คิดไว้อ่ะ -.-? แต่ก็ช่างเหอะ ถ้าเป็นเขา..เป็นรุ่นพี่รันเวย์ของฉัน ไม่ว่าจะแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นนี่นะ :)
“รักนะ..เผื่อไม่รู้ ♥”
“หึ...” ฉันหลุดยิ้มออกมาพอได้ยินเขาพูดแบบนั้นทั้งที่ตายังมองถนนอยู่ เลยตอบกลับเขาไปทั้งรอยยิ้มแบบนี้นี่แหละ
“อื้ม รักเหมือนกันค่ะ..น่าจะรู้อยู่แล้ว ♥”
แล้วเราต่างก็ยิ้มให้กับอะไรก็ไม่รู้ตรงหน้า.. อาจเป็นรถที่วิ่งสวนกันไปมา ถนนหนทางที่คดเคี้ยวจนดูน่าจะหลงทาง หรือแม้แต่ฝุ่นบางๆ ที่เกาะอยู่ที่กระจก ด้วยความรู้สึกเหมือนหัวใจมันพองโตขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ท่ามกลางความเงียบเชียบบนรถ ..ดูเหมือนเสียงที่ดังที่สุดในตอนนี้คือเสียงตึกตักจากหัวใจที่เต้นเร็วและแรงของเราทั้งคู่นั่นแหละนะ :)
... END ♥
วันต่อมา..“รันเวย์คะ พวกเรามาจากชมรมวารสาร ข่าวลือที่ว่ารันเวย์หึงเจด้าจนสั่งให้พายุปิด Know more แบบกะทันหันและลบรูปที่กำลังเป็น Talk of the town สองรูปนั้น เป็นความจริงรึเปล่าคะ?”คำถามยาวเหยียดของสมาชิกชมรมวารสารที่มาดักรอพวกเราที่ลานจอดรถดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงซุบซิบนินทาหนาหูมาก ชนิดที่ว่าจับใจความไม่รู้เรื่องเลยสักคำเพราะคนรอบข้างต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา“ตามนั้น”เฮียเวย์ตอบไปสั้นๆ ด้วยท่าทางเรียบเฉย ไม่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ดุ แล้วอ้อมมาโอบเอวฉันเดินฝ่าฝูงชนนับสิบตรงไปที่โรงอาหาร แต่ชมรมวารสารและบรรดาแฟนคลับที่อยากรู้อยากเห็นก็ยังเดินตามพวกเรามาติดๆ แล้วตะโกนสัมภาษณ์กันไม่หยุดหย่อน“ก่อนหน้านี้มีนักศึกษาที่เข้าใช้ Know more ไม่ได้โวยวายกันยกใหญ่ อยากฝากอะไรถึงพวกเขามั้ยคะ?”ไมค์ในมือของผู้หญิงที่จีบปากจีบคอพ่นคำถามน่าเบื่อมากมายถูกเลื่อนมาจ่อตรงหน้าเฮียเวย์ ก่อนที่เขาจะหยุดเดินแล้วหันไปส่งสายตานิ่งเรียบไปให้และตอบออกไปเสียงเข้ม“ใครรู้ตัวว่าเซฟรูปพวกนั้นไว้..ลบซะ!”“นี่รันเวย์ไม่คิดจะขอโทษใครสักหน่อยหรอคะ แถมทำแบบนี้ไม่กลัวพายุติดร่างแหที่ยื่นมือเข้ามาช่ว...”“ถ้า Nightshade
“ก็ถ้าเขิน..จะนอนเฉยๆ ให้เอา แต่ถ้าหึง..เดี๋ยวขึ้นให้เอง”จิ๊!“โคตรหึง โคตรเขิน พอใจมั้ยวะ -////-”พอฉันพูดแบบนั้นออกไปเฮียเวย์ก็ตอบกลับมาด้วยสีหน้าแดงก่ำ แล้วทำเป็นใช้เสียงเข้มกลบเกลื่อน“หึ..ก็แค่นั้นอ้ำอึ้งอยู่ได้”พรวดดดด“อ๊าาาา // อ่าาา~”พูดจบฉันก็ทิ้งตัวลงบนท่อนเอ็นของเขาอย่างแรงทันทีและหลุดปากครางออกไปอย่างลืมตัว เช่นเดียวกับเฮียที่ครางออกมาด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มไม่ต่างกัน แล้วฉันก็เริ่มขยับสะโพกขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เพราะข้างในมันอึดอัดเหมือนทุกส่วนข้างในของเราสัมผัสกันอย่างแนบแน่นจนเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูกพั่บๆๆๆ พั่บๆๆๆ“อืมมม ทำไมวันนี้..ร้อนแรงได้ขนาดนี้วะ -////-”เฮียเวย์ส่งเสียงงึมงำปนเสียงครางออกมาอย่างเลื่อนลอย แล้วหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เสียงหัวใจของเขายังเต้นตึกตักอยู่แบบนี้ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ“ไม่ชอบหรอ อ๊ะ..อ๊า หรือชอบแบบอีฟ้า! อ๊ะ อ๊ะ...”พั่บๆๆๆ พั่บๆๆๆฉันขย่มขึ้นลงอยู่บนตัวเฮียเหมือนที่เขาเคยสอน แล้วถามออกไปอย่างจิกกัด โดยมีเฮียนอนครางอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่ใต้ร่าง“อ่าาา.. ไร้สาระ มีคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่ละ”น้ำเสียงกระเส่าดังขึ้นอย่าง
@ ST. ROYAL CONDOโครมมม~พอกลับถึงห้องฉันก็โยนกระเป๋ากับชีทลงบนโต๊ะอย่างแรงจนไฮชิวิ่งหนีเข้าบ้านแมวไปเลย ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าห้องนอนปิดประตูล็อคกลอนแน่นหนา แล้วทิ้งเฮียไว้ข้างนอกอย่างอารมณ์เสีย อีฟ้า อย่าให้กูเจอ แม่จะตบให้เลือดกบปากเลย โมโห!ก๊อก ก๊อก ก๊อก..“ไม่ให้เข้า!”ฉันตะโกนออกไปทันที แล้วไม่สนว่าเฮียจะพูดอะไรต่อ ก่อนจะเดินหนีเข้าไปอาบน้ำ แช่ตัวอยู่ในอ่างแบบนี้อย่างสงบสติอารมณ์ตัวเองทันทีบ้าชิบ! ถึงจะมีเรื่องกับใครมาตลอดตั้งแต่ ม.ปลาย ฉันก็ไม่เคยหัวร้อนง่ายขนาดนี้ แต่นี่ฉันคลั่งขึ้นมาแบบแทบจะทันทีเวลาเห็นใครเข้ามาใกล้เฮียเวย์แบบนี้ นี่ฉันยังสติดีรึเปล่า!ฉันคว้ามือถือที่พกเข้ามาด้วยเลื่อนดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็อย่างที่คิดแหละมีคนลงคลิปที่ฉันตบอีฟ้าอะไรนั่น พาดหัวคลิปเหมือนฉันเป็นอาชญากรข้ามชาติ ทำให้ใครต่อใครแห่ไปคอมเม้นท์กันแบบบันเทิงใจ แถมรูปเฮียเวย์เมื่อคืนที่มีมือดีแคปทันก็ยังว่อนอยู่ในนั้นจนเลื่อนไปทางไหนก็เจอ เออ! เอาเข้าไปจะเอาให้ฉันคลั่งตายเลยใช่มั้ย ต้องตามตบพวกมันทุกคนเลยมั้ย เฮ่อออ~บุ๋งงงงๆๆๆฉันดำลงไปสงบสติอารมณ์ใต้น้ำในอ่างแบบเซ็งๆ ก่อนจะปล่อยตัวเองไว้ในสภาพ
เช้าวันต่อมา..ฉันเดินฟึดฟัดลงจากรถทันทีเพราะรู้ว่าถ้าเหยียบแผ่นดิน ม. คงได้เป็น Talk of the town จากรูปเฮียเมื่อคืนแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ตลอดระยะทางที่เฮียเดินมาส่งที่ตึกเสียงซุบซิบก็ก่อตัวขึ้นเป็นลูกคลื่นเลยล่ะ -.-“สาแก่ใจเฮียรึยัง?!”“หื้มมม?”พอโดนฉันดุเฮียก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขนาดเมื่อคืนเขาอัพรูปบ้านั่นลงไปแค่ 2 นาทีเองนะ ยังกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ Know more นี่เด้งรัวแค่ไหนไม่ต้องถามอ่ะเพราะมือถือค้างใช้งานไม่ได้จนต้อง Log out หนีตั้งแต่เมื่อคืน! แต่เท่าที่อ่านจากกระทู้ HOT NEWS เมื่อเช้า มีแต่คนคอมเม้นท์ในเชิงว่าฉันเอามือถือเฮียไปกดอัพแล้วแท็กตัวเองให้คนอื่นอิจฉาเล่นเพราะอย่างเฮียไม่น่าจะทำแบบนั้นได้.. ‘เขานิ่งจะตาย’....อ๋อหรอออออ?!นิ่งกับผีอ่ะดิ ใช่เว้ยกับคนอื่นเขาอาจจะนิ่ง แต่กับฉัน Nightshade และเพื่อนๆ ที่คณะเช่นแก๊งค์มุกเสี่ยวน่ะ เขาโคตรจะไม่นิ่งเลย! ถามจริงยัยพวกนั้นแยกแยะไม่ได้รึไงว่าคนเรามันมีหลายบุคลิกก็ได้น่ะ เชื่อเหอะ! ตั้งแต่มาเจอเฮียเวย์ หรือแม้แต่เฮียพายเอง ฉันว่าฉันเข้าใจโลกมากขึ้นเยอะเลย -_-“วันนี้ชมรมวารสารขอสัมภาษณ์เราเรื่อง I Saw.. นะ”“อืม
ไม่กี่นาทีต่อมา...@ ST. ROYAL CONDOพรึ่บบบ!“ตัวเจ~ อย่ารุนแรงกับเฮียนักดิ ฮ่ะๆ”เสียงเฮียเวย์ที่ถูกฉันฉุดกระชากลากแขนอยู่พูดจาออดอ้อนฉันมาตลอดทางจนเรากลับมาถึงคอนโดแล้วเดินเข้ามาในห้อง“เพราะเฮียนั่นแหละ!”ฉันบ่นออกไปอย่างหงุดหงิด ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยฮะ ทำไมต้องทำให้คนอื่นเขาหลงไปทั่วแบบนี้ ไม่ชอบ! โคตรจะไม่ชอบเลย!ตุ้บบบ! “เฮียอ่ะ!” ฉันโมโหแต่ทำไรไม่ได้ก็เลยทุบเขาไปทีหนึ่ง แล้วเฮียเวย์ก็ขำออกมาอย่างไม่สลดเลยสักนิด“โอ๋ๆ โกรธป่ะ Kiss อีกก็ได้นะ มาเร็ว~”เฮียทำท่าล้อเลียนฉันแล้วยื่นหน้าเข้ามาจะให้ฉันจูบเขาอีก ฉันเลยดุออกไปทั้งที่หน้าร้อนผ่าว -////-“จะตลกอีกนานมั้ยฮะ!” พอฉันเริ่มจริงจังขึ้นมา เฮียก็ทำหน้างอแล้วพูดอ้อนๆ เหมือนเดิมอีกที เออ ตาย.. กูตาย!“ก็ตอนนั้นเฮียเขินนี่นา -////-”“แล้วทำไมต้องเขินต่อหน้าคนเยอะแยะด้วยเล่า!”ฉันบ่นเขาออกไปอีก แล้วเฮียก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นอมยิ้มออกมาทันที อะไรของเขา เป็นไบโพล่าร์หรอ -_-?!“ก็เฮียไม่เคยเห็นเราเป็นงี้อ่ะ ฮ่ะๆ”เฮียเวย์ยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด แล้วเอามือมาบีบแก้มฉันเบาๆ แต่พอยิ่งฟังฉันยิ่งหงุดหงิดขึ้นมาซะงั้น“ไม่เคยเห็นก็เห็นสั
หลายวันต่อมา..“งื้อออ อยากกินบิงซู แฮ่กๆ”ฉันบ่นออกไปทั้งที่ขายังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งในฟิตเนสที่คอนโด โดยมีเฮียเวย์ยืนกอดอกทำหน้านิ่งๆ อยู่ข้างๆ“ตั้งใจวิ่งไปห้ามคิดเรื่องกิน” เฮียพูดแล้วยื่นมือมาผลักหัวฉันเบาๆ ฉันเลยหันไปทำหน้ายักษ์ใส่เขาทันที“เฮียอยากออกกำลังกาย ทำไมต้องลากเจมาด้วยอ่ะ -_-?”ฉันบ่นอุบอิบออกไปเพราะตั้งแต่ก้าวขาเข้าฟิตเนสมาเฮียยังไม่ได้แตะเครื่องออกกำลังกายอะไรเลยสักแอะ มีแต่ยืนคุมเข้มฉันอยู่แบบนี้ น่าหงุดหงิดชะมัดเลย“ก็เราไม่ยอมแต่งงานกับเฮียเพราะบอกว่าอ้วน! ใส่ชุดแต่งงานไม่สวย”เฮียเบะปากใส่แล้วพูดออกมาแบบเซ็งๆ ก็ยอมรับนะว่าพูดจริงอ่ะ ใครก็อยากสวยที่สุดในวันแต่งงานทั้งนั้นป้ะ?!“เหอะ! แล้วใครเขาคิดเรื่องแต่งงานกันปุบปับแบบเฮียบ้างเล่า”ไอ้ที่คิดว่าอยากแต่งแล้วจะแต่งเลย ไม่สนใจอะไรต่อมิอะไร นอกจากเฮียพายที่ไอ้นิลเล่าให้ฟัง ฉันก็เจออีกคนละที่ประหลาดได้โล่แบบนั้น นี่ไง..ยืนอยู่นี่อีกคน เชื่อมะ..สองสามวันก่อนแม่เฮียกับม้าฉันพากันมาช่วยเลือกแหวนหมั้น แต่ดูไปดูมาเกือบจะได้เปลี่ยนเป็นแหวนแต่งงานกันซะงั้น คือรีบกันทุกคนยกเว้นฉันอ่ะ ไม่รู้จะรีบไปไหน -.-“หึ..โทษที เรื่องแต่งง