“ถ้าจะติดมั่วขนาดนี้ก็แก้คำว่า ‘RUNWAY’ เป็น ‘NIGHTSHADE’ ซะไป!"
“ละ..แล้วรุ่นพี่มายุ่งอะไรด้วยเล่า -/////-” พอรู้ตัวว่าทำพลาดอย่างใหญ่หลวง ฉันก็เนียนตีมึนใส่เขาไปเลย
“ยังอีก”
แล้วรุ่นพี่รันเวย์ก็ส่งเสียงดุออกมาอีกครั้งพอฉันเรียกเขาแบบนั้น เหอะ! ทำไมชอบทำให้ฉันกลัวอยู่เรื่อยเลยนะ นี่ขนาดนั่งหันหลังให้อยู่นะเนี่ย ยังส่งกระแสจิตมาลอบทำร้ายฉันได้อีก
“ก็..หมายถึงเฮียจะมายุ่งไรด้วย นี่มันไม่ใช่ของเฮียสักหน่อย”
เอิ่ม..ทำไมพอเรียกเขาว่าเฮียมันรู้สึกเขินแปลกๆ แฮะ เลยเรียกแทนตัวเองไม่ถูกเลยทีนี้ =_=
“งั้นลบชื่อ”
พรึ่บบบ!
“หยุด! หยุดเลย อย่ามายุ่งนะ!”
รุ่นพี่รันเวย์พูดออกมาแล้วจะดึง Photobook ของฉันไปอีก ฉันเลยดึงมันไว้แล้วเอามันมากอดแน่น แต่เพราะมือเขาก็รวบแขนฉันอยู่ทั้งสองข้างเลยกลายเป็นฉัน เขา และ Photobook กำลังนั่งกอดกันกลมด้วยท่าทางแปลกๆ อยู่ซะงั้น โอ้ยยย เอาอีกละไอ้ความรู้สึกแบบนี้ แอบฟินไม่รู้เวล่ำเวลาเลยเว้ย -//////-
“ในนี้มันรูปใครกันแน่วะ”
เขาบ่นออกมาข้างหูฉันอย่างเซ็งๆ พอฉันกับ Photobook ที่ไม่เป็นความลับอีกแล้วเล่มนี้นั่งกอดกันกลม อ้อ..อย่าถามถึงความรู้สึกตอนนี้ หน้านี่ออกร้อนขึ้นมาเหมือนจะเป็นไข้ -////- ก็ใกล้กันเกินไปแล้วไง นี่ฉันแทบจะขึ้นไปนั่งตักเขาอยู่แล้วนะ รุ่นพี่คิดจะทำอะไรกันแน่เนี่ย >_<!
“ใครติดก็ของคนนั้นแหละ”
ฉันสวนกลับไปแก้เขิน วันนี้มันวันอะไรอ่ะ แล้วรุ่นพี่ดูแปลกๆ ไปมั้ยนะ หรือปกติเขาก็ทำอะไรแบบนี้กับแฟนคลับทุกคนอยู่แล้วอ่ะ -////-
“เด็กบ้า”
เขายังบ่นออกมาไม่หยุด เด็กบ้างั้นหรอ ชิ..ตัวเองแก่กว่าแค่ไม่กี่ปีเองนะ
“ชื่อเจด้ามั้ยล่ะ”
ฉันตอบกลับไปอย่างกลบเกลื่อนอีกครั้ง นี่รุ่นพี่จะรู้ตัวมั้ยว่าเขากำลังกอดฉันอยู่และมันเริ่มจะแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนใจฉันเริ่มเต้นแรงแล้วอ่ะ
“..เถียงเก่ง” คราวนี้เขาเลื่อนหน้ามากระซิบข้างหูฉันเบาๆ จนขนลุกซู่ขึ้นมาแบบอัตโนมัติ งื้อออ >.<
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
“ปะ..เปล่าเถียงนะ แค่พูดกับหมอนข้างอ่ะ -///-”
พอเขาเข้ามาใกล้มากไป ฉันก็เริ่มจะพูดออกไปแบบติดๆ ขัดๆ แล้วรุ่นพี่ก็ใช้มืออีกข้างล้วงกระเป๋าแจ๊คเก็ตของเขา ก่อนจะหยิบบางอย่างออกมาโยนลงบนเตียงแล้วส่งเสียงออกคำสั่ง
พรึ่บบบ!
“ติดนี่แทน”
เขาพูดออกมาก่อนจะปล่อยฉันเป็นอิสระ แล้วขยับตัวไปหยิบกล่องใส่อุปกรณ์เครื่องเขียนของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะเยื้องออกไปจากหัวเตียงมาให้
หืม... o_O?
ฉันมองรูปถ่ายปึกหนึ่งที่ถูกโยนลงมาบนเตียงอย่างงงๆ แต่ก็สนใจมันมากอยู่เหมือนกันเพราะมันเป็นรูปที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วพอเลื่อนมือไปหยิบมันขึ้นมาดู ฉันก็ดันไปสะดุดตากับรูปบางอย่างที่ยอมรับว่าเป็นสิ่งเดียวเกี่ยวกับรุ่นพี่รันเวย์ที่ฉันไม่เคยสนใจมันเลย
“ไม่เอาชิโร่”
ฉันพูดพร้อมกับยื่นรูปที่ถ่ายติด ‘ชิโร่’ ซึ่งก็คือแมวตัวโปรดของรุ่นพี่รันเวย์คืนไปให้เขา เพราะฉันเป็นคนกลัวแมวมากไงล่ะ..คือต่อให้รุ่นพี่ชอบแมวแค่ไหน มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันชอบแมวมากขึ้นเลยจริงๆ -_-
“ทำไม?” เขาถามออกมาแล้วขยับตัวมานั่งจ้องหน้าฉันที่กำลังดูรูปอื่นๆ พร้อมกับคัดรูปที่มีชิโร่ออกอยู่เรื่อยๆ
“เคยโดนกัด”
ฉันเงยหน้าไปมองและบอกเหตุผลกับเขาออกไป นึกแล้วยังแขยงอยู่เลยอ่ะ คือตอนนั้นฉันเด็กมากด้วยไงเลยจำฝังใจ พอโตมาอะไรก็ตามที่เป็นแมวฉัน Say No! หมดเลยจริงๆ จะคิตตี้ การ์ฟิลด์ ก็ไม่เอาทั้งนั้น ไม่ได้เว่อร์หรืออะไรนะ มันทำใจไม่ได้อ่ะเพราะตอนนั้นโดนฉีดยาด้วยและโคตรจะเจ็บ! เลยคิดว่าอย่าไปใกล้พวกมันดีกว่า หลอน! =_=
“ชิโร่ไม่กัด”
รุ่นพี่พูดแล้วหยิบรูปพวกนั้นยัดคืนใส่ในมือฉันทันที แต่ฉันก็ส่ายหัวและทำเป็นไม่สนใจ แล้ววางมันลงแยกไว้อย่างนั้นเหมือนเดิม หึ..แมวก็คือแมวอ่ะ อย่ามาใกล้กันเลยสยอง
แล้วฉันก็เอื้อมมือไปหยิบกาวมาทาลงหลังรูปที่เหลือและค่อยๆ ติดมันเข้าไปแทนที่รูปเดิมๆ ที่รุ่นพี่เพิ่งดึงออกไป เขาเองก็นั่งมองฉันติดไปเรื่อยๆ จนหมด จะว่าไปก็คุ้มเหมือนกันแฮะ โดนดึงออกแค่ไม่กี่รูปแต่ได้รูปใหม่ๆ มาเพียบเลยอ่ะ ที่จริงรุ่นพี่ก็แอบใจดีนะเนี่ย :)
“ติดชิโร่ด้วย”
พอฉันวางกาวลง รุ่นพี่ก็หยิบมันมายื่นให้พร้อมกับรูปชิโร่อีกครั้ง
“หึ..บอกว่าไม่เอาไง (- - ) ( - -)” ฉันส่ายหัวออกไปแล้วเงยหน้าไปมองเขาที่กำลังมองมาอย่างนิ่งๆ เดี๋ยวสิ..อย่ามาทำหน้าแบบนั้นใส่ฉันนะ
“จะติดดีๆ หรือจะติดด้วยน้ำตา” รุ่นพี่ถามออกมาเสียงเรียบ นี่เขาจะขู่กันอีกแล้วสินะ ให้ตายยังไงก็ไม่ติดอ่ะ บอกไว้เลย!
“ทำไม เฮียจะร้องไห้หรอ?” ฉันกวนเขากลับไปพอเห็นว่าเขาเริ่มทำท่าขรึมๆ ออกมาก่อนจะยักคิ้วหลิ่วตาส่งไปให้
“หึ...” พอได้ยินแบบนั้นรุ่นพี่ก็กระตุกยิ้มมุมปากออกมา ก่อนจะโยนรูปชิโร่กับกาวในมือทิ้งไปแล้วพุ่งเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็วเล่นเอาฉันตกใจเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
พรึ่บบบ!
“หยะ..หยุดนะ จะทำอะไร O_O?!”
ฉันร้องออกไปอย่างตกใจทันทีที่รุ่นพี่พุ่งเข้ามาดันตัวฉันให้นอนลงบนเตียงก่อนที่เขาจะเอาตัวเองมาคร่อมตัวฉันไว้ แถมยังล็อคแขนสองข้างไม่ให้ฉันดิ้นไปไหน แล้วทำท่าทางเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ก็ทำให้ดูไง..ว่าใคร..ที่จะร้อง”
รุ่นพี่รันเวย์พูดออกมาช้าๆ แบบชัดถ้อยชัดคำแล้วจ้องหน้าฉันอย่างผู้ชนะ ก่อนจะแกล้งโน้มตัวลงมาจนหน้าเราห่างกันแค่คืบเดียวเท่านั้น พอเป็นแบบนั้นฉันเลยหันหน้าหนีหลบตาเขาไปทันที แถมใจตอนนี้ก็เต้นรัวเป็นกลองชุดไม่ปรึกษากันเลย >///<
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
“หิว..ไปเปลี่ยนชุด” อยู่ๆ รุ่นพี่รันเวย์ก็พูดออกมา ฉันเองก็หันหน้ากลับมามองเขาแล้วทำหน้างง เปลี่ยนชุด? คือยังไงจะให้ฉันไปกับ...
“กินข้าวกัน” แล้วเขาก็พูดออกมาอีกครั้งซึ่งตรงกับสิ่งที่ฉันกำลังคิดอยู่พอดี ฉันเลยถามออกไปแบบงงๆ
“แล้วไหนว่าจะคุยงานไงคะ?” อะไรของเขากันนะ ก็ตอนแรกเขาบอกแบบนั้นจริงๆ นี่นา..
“คุยที่ร้าน”
“แล้ว...”
“ไปเปลี่ยน อย่าให้พูดซ้ำ”
ไม่ทันที่ฉันจะถามอะไรต่อ รุ่นพี่ก็พูดขัดขึ้นมาแล้วแอบขู่ออกมาอีก เหอะ! ขู่เก่ง! แล้วเขาก็ผละออกจากฉันก่อนจะหยิบ Photobook เล่มนั้นไปติดรูปชิโร่ซะเองจนได้ แถมติดแค่ใน Photobook อย่างเดียวไม่พอด้วยนะ เขายังเลือกเอาทั้งรูปตัวเองและรูปชิโร่ที่น่าจะชอบมากที่สุดไปแปะไว้บนหัวนอนฉันแบบโดดเด่นสุดๆ อยู่รูปเดียว เรียกได้ว่า..เกินหน้าเกินตาจากรูปอื่นๆ ที่ติดอยู่บนผนังซะไม่มี หึ! เอาแต่ใจได้อีก! แล้วยังทิ้งท้ายด้วยการหันมาขู่ฟ่อๆ ใส่ฉันด้วย
“ถ้าเอาออก..มีเรื่องแน่”
หืมมม? ยืมคำเขามั่งดิ นี่มันเตียงนอนใครแน่ บ้าจริง =_=!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
“กินยาไปตอนกี่โมง?”
รุ่นพี่ถามขึ้นมาระหว่างที่เรากำลังนั่งอยู่บนรถ ดูเขาจะกังวลกับการกินยาคุมฉุกเฉินของฉันจังเน่อะ คงเพราะเราต่างคนต่างพลาดไปด้วยแหละมั้ง เขาเลยดูสนใจมันเป็นพิเศษจนถึงขั้นมาตามเช็คกันแบบนี้อ่ะ
“ถ้าเป็นห่วงเรื่องนั้น วางใจได้เลยค่ะไม่ท้องหระ..”
“พูดมาก ถามว่ากี่โมง?”
ฉันยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ดุขึ้นมาแล้วทำเสียงเข้มแบบโคตรจริงจัง -_-
“สะ..สามโมง”
ฉันตอบออกไปแล้วไม่พูดอะไรต่อ แต่ในใจก็แอบโกรธไอ้คนลงประวัติที่ทำให้ฉันหลงเชื่ออยู่ตั้งนานว่ารุ่นพี่รันเวย์เป็นคนแบบนั้นแบบนี้ ทั้งที่ความจริง..เขานี่มันเดาทางโคตรจะยากเลย
“งั้นกินอีกทีก็ตีสาม”
“อืม (- -) (_ _)”
ฉันพยักหน้าออกไปแล้วก็หันไปมองวิวข้างทาง เพราะตอนนี้ยังหัวค่ำอยู่รถเลยค่อนข้างติด เฉพาะแค่แยกนี้เราก็ติดอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว รถนี่จอดนิ่งสนิทมากแทบไม่ขยับไปไหนเลยจนรุ่นพี่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเล่นรอ
“Happy Birthday ย้อนหลัง”
“หืม o_O?”
พอเห็นว่าอยู่ๆ รุ่นพี่ก็พูดออกมา ฉันเลยหันไปมองเขาแบบงงๆ แล้วรุ่นพี่ก็ยื่นมือถือของเขาส่งมาให้
VAYO : เฮีย ช่วยไรหน่อย
VAYO : อัดคลิป HBD เพื่อนนิลลาให้หน่อย
VAYO : เห็นนิลบอกเพื่อนโคตรชอบเฮียเลยว่ะ
ได้อ่านข้อความในไลน์ที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอมือถือของรุ่นพี่รันเวย์ฉันก็เข้าใจในทันที หึหึ.. ไอ้นิล! มึงจัดชุดใหญ่กว่านั้นให้กูแล้วเว้ยยย รู้ตัวบ้างมั้ยวะเนี่ย?! แล้วนี่รู้กันไปกี่คนแล้วว่าฉันชอบรุ่นพี่รันเวย์เนี่ยฮะ รุ่นพี่วาโยยังรู้ จะบ้าตาย =_=
ฉันส่งมือถือคืนให้รุ่นพี่รันเวย์แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ นั่นแหละ..ไม่รู้จะพูดอะไร ตื่นมาก็เจอแจ๊คพ็อตแล้วไง ก็ตามนั้นนั่นแหละ -////- แถมตอนนี้รถที่ฉันมโนว่าจะได้นั่งเคียงข้างบุคคลที่ฉันปลาบปลื้มสักครั้ง ฉันก็นั่งมันซะคุ้มเลยเหอะ เรียกว่าแทบจะนอนรอให้พ้นแยกนี้ไปได้สักทีอยู่แล้ว เอาง่ายๆ เลยนะ..ความจริงกับความฝันพันกันมั่วไปหมดแล้วอ่ะตอนนี้ สับสนหนักมาก #_#
“แต่บอกตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วมั้ง...”
“(- -) (_ _)”
รุ่นพี่รันเวย์รับมือถือคืนไปแล้วพูดขึ้นมาทำลายความเงียบบนรถอีกครั้ง ก็จริงของเขานะ..เพราะดูเหมือนรุ่นพี่วาโยจะไลน์มาขอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นี่เขาคงเพิ่งจะเปิดดูแหละมั้ง พอเห็นว่าเป็นงั้นฉันเลยพยักหน้าเห็นด้วยออกไป แล้วรุ่นพี่รันเวย์ก็หันหน้ามาจ้องฉันช้าๆ
“เพราะให้มากกว่านั้นไปแล้วไง..ใจกว้างกว่าซานตาครอสก็เฮียนี่แหละว่ามั้ย?”
What o_O?!
พูดจบรุ่นพี่ก็ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาอย่างพอใจ ทิ้งให้ฉันเลิกคิ้วออกไปอย่างสงสัยขึ้นมาอีกที เดี๋ยวนะ..นี่เขาหมายถึงอะไรกันแน่เนี่ย?
วันต่อมา..“รันเวย์คะ พวกเรามาจากชมรมวารสาร ข่าวลือที่ว่ารันเวย์หึงเจด้าจนสั่งให้พายุปิด Know more แบบกะทันหันและลบรูปที่กำลังเป็น Talk of the town สองรูปนั้น เป็นความจริงรึเปล่าคะ?”คำถามยาวเหยียดของสมาชิกชมรมวารสารที่มาดักรอพวกเราที่ลานจอดรถดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงซุบซิบนินทาหนาหูมาก ชนิดที่ว่าจับใจความไม่รู้เรื่องเลยสักคำเพราะคนรอบข้างต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา“ตามนั้น”เฮียเวย์ตอบไปสั้นๆ ด้วยท่าทางเรียบเฉย ไม่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ดุ แล้วอ้อมมาโอบเอวฉันเดินฝ่าฝูงชนนับสิบตรงไปที่โรงอาหาร แต่ชมรมวารสารและบรรดาแฟนคลับที่อยากรู้อยากเห็นก็ยังเดินตามพวกเรามาติดๆ แล้วตะโกนสัมภาษณ์กันไม่หยุดหย่อน“ก่อนหน้านี้มีนักศึกษาที่เข้าใช้ Know more ไม่ได้โวยวายกันยกใหญ่ อยากฝากอะไรถึงพวกเขามั้ยคะ?”ไมค์ในมือของผู้หญิงที่จีบปากจีบคอพ่นคำถามน่าเบื่อมากมายถูกเลื่อนมาจ่อตรงหน้าเฮียเวย์ ก่อนที่เขาจะหยุดเดินแล้วหันไปส่งสายตานิ่งเรียบไปให้และตอบออกไปเสียงเข้ม“ใครรู้ตัวว่าเซฟรูปพวกนั้นไว้..ลบซะ!”“นี่รันเวย์ไม่คิดจะขอโทษใครสักหน่อยหรอคะ แถมทำแบบนี้ไม่กลัวพายุติดร่างแหที่ยื่นมือเข้ามาช่ว...”“ถ้า Nightshade
“ก็ถ้าเขิน..จะนอนเฉยๆ ให้เอา แต่ถ้าหึง..เดี๋ยวขึ้นให้เอง”จิ๊!“โคตรหึง โคตรเขิน พอใจมั้ยวะ -////-”พอฉันพูดแบบนั้นออกไปเฮียเวย์ก็ตอบกลับมาด้วยสีหน้าแดงก่ำ แล้วทำเป็นใช้เสียงเข้มกลบเกลื่อน“หึ..ก็แค่นั้นอ้ำอึ้งอยู่ได้”พรวดดดด“อ๊าาาา // อ่าาา~”พูดจบฉันก็ทิ้งตัวลงบนท่อนเอ็นของเขาอย่างแรงทันทีและหลุดปากครางออกไปอย่างลืมตัว เช่นเดียวกับเฮียที่ครางออกมาด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มไม่ต่างกัน แล้วฉันก็เริ่มขยับสะโพกขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เพราะข้างในมันอึดอัดเหมือนทุกส่วนข้างในของเราสัมผัสกันอย่างแนบแน่นจนเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูกพั่บๆๆๆ พั่บๆๆๆ“อืมมม ทำไมวันนี้..ร้อนแรงได้ขนาดนี้วะ -////-”เฮียเวย์ส่งเสียงงึมงำปนเสียงครางออกมาอย่างเลื่อนลอย แล้วหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เสียงหัวใจของเขายังเต้นตึกตักอยู่แบบนี้ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ“ไม่ชอบหรอ อ๊ะ..อ๊า หรือชอบแบบอีฟ้า! อ๊ะ อ๊ะ...”พั่บๆๆๆ พั่บๆๆๆฉันขย่มขึ้นลงอยู่บนตัวเฮียเหมือนที่เขาเคยสอน แล้วถามออกไปอย่างจิกกัด โดยมีเฮียนอนครางอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่ใต้ร่าง“อ่าาา.. ไร้สาระ มีคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่ละ”น้ำเสียงกระเส่าดังขึ้นอย่าง
@ ST. ROYAL CONDOโครมมม~พอกลับถึงห้องฉันก็โยนกระเป๋ากับชีทลงบนโต๊ะอย่างแรงจนไฮชิวิ่งหนีเข้าบ้านแมวไปเลย ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าห้องนอนปิดประตูล็อคกลอนแน่นหนา แล้วทิ้งเฮียไว้ข้างนอกอย่างอารมณ์เสีย อีฟ้า อย่าให้กูเจอ แม่จะตบให้เลือดกบปากเลย โมโห!ก๊อก ก๊อก ก๊อก..“ไม่ให้เข้า!”ฉันตะโกนออกไปทันที แล้วไม่สนว่าเฮียจะพูดอะไรต่อ ก่อนจะเดินหนีเข้าไปอาบน้ำ แช่ตัวอยู่ในอ่างแบบนี้อย่างสงบสติอารมณ์ตัวเองทันทีบ้าชิบ! ถึงจะมีเรื่องกับใครมาตลอดตั้งแต่ ม.ปลาย ฉันก็ไม่เคยหัวร้อนง่ายขนาดนี้ แต่นี่ฉันคลั่งขึ้นมาแบบแทบจะทันทีเวลาเห็นใครเข้ามาใกล้เฮียเวย์แบบนี้ นี่ฉันยังสติดีรึเปล่า!ฉันคว้ามือถือที่พกเข้ามาด้วยเลื่อนดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็อย่างที่คิดแหละมีคนลงคลิปที่ฉันตบอีฟ้าอะไรนั่น พาดหัวคลิปเหมือนฉันเป็นอาชญากรข้ามชาติ ทำให้ใครต่อใครแห่ไปคอมเม้นท์กันแบบบันเทิงใจ แถมรูปเฮียเวย์เมื่อคืนที่มีมือดีแคปทันก็ยังว่อนอยู่ในนั้นจนเลื่อนไปทางไหนก็เจอ เออ! เอาเข้าไปจะเอาให้ฉันคลั่งตายเลยใช่มั้ย ต้องตามตบพวกมันทุกคนเลยมั้ย เฮ่อออ~บุ๋งงงงๆๆๆฉันดำลงไปสงบสติอารมณ์ใต้น้ำในอ่างแบบเซ็งๆ ก่อนจะปล่อยตัวเองไว้ในสภาพ
เช้าวันต่อมา..ฉันเดินฟึดฟัดลงจากรถทันทีเพราะรู้ว่าถ้าเหยียบแผ่นดิน ม. คงได้เป็น Talk of the town จากรูปเฮียเมื่อคืนแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ตลอดระยะทางที่เฮียเดินมาส่งที่ตึกเสียงซุบซิบก็ก่อตัวขึ้นเป็นลูกคลื่นเลยล่ะ -.-“สาแก่ใจเฮียรึยัง?!”“หื้มมม?”พอโดนฉันดุเฮียก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขนาดเมื่อคืนเขาอัพรูปบ้านั่นลงไปแค่ 2 นาทีเองนะ ยังกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ Know more นี่เด้งรัวแค่ไหนไม่ต้องถามอ่ะเพราะมือถือค้างใช้งานไม่ได้จนต้อง Log out หนีตั้งแต่เมื่อคืน! แต่เท่าที่อ่านจากกระทู้ HOT NEWS เมื่อเช้า มีแต่คนคอมเม้นท์ในเชิงว่าฉันเอามือถือเฮียไปกดอัพแล้วแท็กตัวเองให้คนอื่นอิจฉาเล่นเพราะอย่างเฮียไม่น่าจะทำแบบนั้นได้.. ‘เขานิ่งจะตาย’....อ๋อหรอออออ?!นิ่งกับผีอ่ะดิ ใช่เว้ยกับคนอื่นเขาอาจจะนิ่ง แต่กับฉัน Nightshade และเพื่อนๆ ที่คณะเช่นแก๊งค์มุกเสี่ยวน่ะ เขาโคตรจะไม่นิ่งเลย! ถามจริงยัยพวกนั้นแยกแยะไม่ได้รึไงว่าคนเรามันมีหลายบุคลิกก็ได้น่ะ เชื่อเหอะ! ตั้งแต่มาเจอเฮียเวย์ หรือแม้แต่เฮียพายเอง ฉันว่าฉันเข้าใจโลกมากขึ้นเยอะเลย -_-“วันนี้ชมรมวารสารขอสัมภาษณ์เราเรื่อง I Saw.. นะ”“อืม
ไม่กี่นาทีต่อมา...@ ST. ROYAL CONDOพรึ่บบบ!“ตัวเจ~ อย่ารุนแรงกับเฮียนักดิ ฮ่ะๆ”เสียงเฮียเวย์ที่ถูกฉันฉุดกระชากลากแขนอยู่พูดจาออดอ้อนฉันมาตลอดทางจนเรากลับมาถึงคอนโดแล้วเดินเข้ามาในห้อง“เพราะเฮียนั่นแหละ!”ฉันบ่นออกไปอย่างหงุดหงิด ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยฮะ ทำไมต้องทำให้คนอื่นเขาหลงไปทั่วแบบนี้ ไม่ชอบ! โคตรจะไม่ชอบเลย!ตุ้บบบ! “เฮียอ่ะ!” ฉันโมโหแต่ทำไรไม่ได้ก็เลยทุบเขาไปทีหนึ่ง แล้วเฮียเวย์ก็ขำออกมาอย่างไม่สลดเลยสักนิด“โอ๋ๆ โกรธป่ะ Kiss อีกก็ได้นะ มาเร็ว~”เฮียทำท่าล้อเลียนฉันแล้วยื่นหน้าเข้ามาจะให้ฉันจูบเขาอีก ฉันเลยดุออกไปทั้งที่หน้าร้อนผ่าว -////-“จะตลกอีกนานมั้ยฮะ!” พอฉันเริ่มจริงจังขึ้นมา เฮียก็ทำหน้างอแล้วพูดอ้อนๆ เหมือนเดิมอีกที เออ ตาย.. กูตาย!“ก็ตอนนั้นเฮียเขินนี่นา -////-”“แล้วทำไมต้องเขินต่อหน้าคนเยอะแยะด้วยเล่า!”ฉันบ่นเขาออกไปอีก แล้วเฮียก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นอมยิ้มออกมาทันที อะไรของเขา เป็นไบโพล่าร์หรอ -_-?!“ก็เฮียไม่เคยเห็นเราเป็นงี้อ่ะ ฮ่ะๆ”เฮียเวย์ยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด แล้วเอามือมาบีบแก้มฉันเบาๆ แต่พอยิ่งฟังฉันยิ่งหงุดหงิดขึ้นมาซะงั้น“ไม่เคยเห็นก็เห็นสั
หลายวันต่อมา..“งื้อออ อยากกินบิงซู แฮ่กๆ”ฉันบ่นออกไปทั้งที่ขายังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งในฟิตเนสที่คอนโด โดยมีเฮียเวย์ยืนกอดอกทำหน้านิ่งๆ อยู่ข้างๆ“ตั้งใจวิ่งไปห้ามคิดเรื่องกิน” เฮียพูดแล้วยื่นมือมาผลักหัวฉันเบาๆ ฉันเลยหันไปทำหน้ายักษ์ใส่เขาทันที“เฮียอยากออกกำลังกาย ทำไมต้องลากเจมาด้วยอ่ะ -_-?”ฉันบ่นอุบอิบออกไปเพราะตั้งแต่ก้าวขาเข้าฟิตเนสมาเฮียยังไม่ได้แตะเครื่องออกกำลังกายอะไรเลยสักแอะ มีแต่ยืนคุมเข้มฉันอยู่แบบนี้ น่าหงุดหงิดชะมัดเลย“ก็เราไม่ยอมแต่งงานกับเฮียเพราะบอกว่าอ้วน! ใส่ชุดแต่งงานไม่สวย”เฮียเบะปากใส่แล้วพูดออกมาแบบเซ็งๆ ก็ยอมรับนะว่าพูดจริงอ่ะ ใครก็อยากสวยที่สุดในวันแต่งงานทั้งนั้นป้ะ?!“เหอะ! แล้วใครเขาคิดเรื่องแต่งงานกันปุบปับแบบเฮียบ้างเล่า”ไอ้ที่คิดว่าอยากแต่งแล้วจะแต่งเลย ไม่สนใจอะไรต่อมิอะไร นอกจากเฮียพายที่ไอ้นิลเล่าให้ฟัง ฉันก็เจออีกคนละที่ประหลาดได้โล่แบบนั้น นี่ไง..ยืนอยู่นี่อีกคน เชื่อมะ..สองสามวันก่อนแม่เฮียกับม้าฉันพากันมาช่วยเลือกแหวนหมั้น แต่ดูไปดูมาเกือบจะได้เปลี่ยนเป็นแหวนแต่งงานกันซะงั้น คือรีบกันทุกคนยกเว้นฉันอ่ะ ไม่รู้จะรีบไปไหน -.-“หึ..โทษที เรื่องแต่งง