ร่างสูงยืนมองร่างบาง ที่นอนคว่ำหน้าหลับสนิทบนเตียงกว้าง ด้วยความรู้สึกหลากหลาย มือหนาคว้าบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ก่อนจะพ่นควันสีขาวออกมา ตาคมเข้มเพ่งมองซีกหน้านวลผ่านม่านควัน เวลาที่หลับสนิท รสรินก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่ไร้เดียงสา ตาคู่คมกวาดมองไปตามผิวบอบบาง ที่โผล่พ้นผ้าห่มผืนหนาออกมา บางจุดแดงเป็นสีกุหลาบ บางจุดเขียวคล้ำ ไม่ว่าจะจุดไหน มันก็เกิดจากฝีมือของเขาทั้งนั้น
บทรักเร่าร้อนจบลง เมื่อเขาเรียกร้องจากเธอหลายต่อหลายครั้ง จนคนตัวเล็กหลับคาอก หัวใจแกร่งกระตุก เมื่อเหลือบไปเห็นคราบเลือดที่หยดเปื้อนไปตามผ้าปูที่นอน ก่อนจะยิ้มให้กับตัวเอง เธอสะอาดบริสุทธิ์ และไร้เดียงสาที่สุด เขาปล่อยเธอไว้ได้ยังไง ทั้งๆที่เขามีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง เพราะได้เธอมาง่ายๆ เลยทำให้มองไม่เห็นคุณค่า เธอก็ไม่ต่างอะไรกับของแถมทางธุรกิจ เมื่อทางครอบครัวของเธอประสบปัญหา ทางครอบครัวเขาก็ยื่นมือเข้าไปช่วย โดยมีเธอเป็นตัวประกัน การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักจึงเกิดขึ้น และเธอก็ทำตัวได้น่ารำคาญที่สุด ตามหึงตามหวง ทั้งๆที่เธอไม่มีสิทธิ์ในตัวเขา แต่เมื่อช่วงสองปี
ที่ผ่านมา รสรินก็เปลี่ยนไป เธอไม่สนใจเขา ไม่คุยหรือถามไถ่อะไร ทุกครั้งที่เขากลับบ้านดึก เธอก็จะเข้านอนก่อน จนกระทั่งทุกวันนี้ เธอเลือกที่จะแยกห้องนอนกับเขาข้อนิ้วแกร่งไล้ไปบนพวงแก้มเนียนใส ก่อนจะก้มหน้าลงไปหา จูบหนักๆลงบนปากอิ่มที่บวมช้ำอย่างนึกมันเขี้ยว ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ขืนอยู่ต่ออีกนิด คงได้ปลุกคนหลับขึ้นมาจัดการอีกรอบแน่นอน เธอหอมหวานขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว
มือแกร่งหยิบมือถือขึ้นมา แล้วกดหาเบอร์คนสนิท ก่อนจะสั่งงาน เมื่อปลายสายกดรับ"แทนไทคุณช่วยเคลียร์เรื่องผู้หญิงให้ผมหน่อย"
"ใช่ ทั้งหมดนั่นแหละ"
"อืม...ไว้ผมจะคุยกับฉัตรเอง คุณจัดการตรงอื่นก่อนก็แล้วกัน ใช่เร็วที่สุด"
ร่างสูงถอนหายใจ มือแกร่งเผลอบีบมือถือในมือ เขาสั่งให้แทนไท เคลียร์ทุกคนออกไป เพราะอยากมีชีวิตที่ปกติเหมือนคนอื่น ผู้หญิงเหล่านั้นคุยไม่ยาก เพราะมีกติกาที่ตกลงร่วมกัน
จะมีก็แค่ฉัตรกมลคนเดียวเท่านั้น ที่เขาคงต้องคุยกับเธอเอง เขาให้เธออยู่เหนือกติกา เพราะมันมีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มันก็ไม่ได้มากไปกว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงนั่น คงไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าจะคุยกับเธอ ต่อให้ยากสักแค่ไหน เขาก็ต้องจัดการให้เร็วที่สุด เขาเสียเวลากับเรื่องแบบนี้มามากพอแล้ว รสรินเป็นภรรยาของเขา ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องกลับมาดูแลเธอ.............................................................................................
ร่างบางขยับตัวอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บร้าวเข้าเล่นงาน โดยเฉพาะท้องน้อยที่เจ็บหน่วง จนขยับตัวแทบไม่ไหว
"จะเข้าห้องน้ำเหรอ"เสียงนุ่มทุ้มที่ดังมาจากมุมห้อง ทำให้คนที่กำลังขยับตัวลงจากเตียงชะงักค้าง มือบางกำชายผ้าห่มไว้แน่น เมื่อเห็นหน้าของเขาเต็มตา อรรถลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วก้าวเท้ามาหยุดที่ข้างเตียง ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาหา
แก้มสาว รสรินเบี่ยงหลบ แล้วขยับถอยหนี"ว้ายยย!"หญิงสาวกรีดร้อง เมื่อผ้าห่มที่ใช้ปิดบังเนื้อตัวเปล่าเปลือย ถูกโยนลงไปข้างเตียง ด้วยฝีมือคนตัวสูง ที่มองมาด้วยสายตาขบขัน
"เอาคืนมานะ!"หญิงสาวร้องบอก ก่อนจะหันไปคว้าหมอนมากอดเอาไว้ เพื่อปิดบังเนื้อตัวจากสายตาของเขา
"จะอายอะไรอีก..."คำถามทีเล่นทีจริงที่เขาส่งมา ทำให้ใบหน้าสวยแดงจัด เมื่อภาพเมื่อคืนลอยกลับเข้ามาในหัว
"ออกไปค่ะ ฉันจะเข้าห้องน้ำ!"สั่งเสียงห้วนจัด เพราะยังโมโหกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขารังแกเธอได้ยังไง
"เดินไหวหรือเปล่า"อรรถถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่มันกลับทำให้เธอเดือดจัด
"ไหว!"ต่อให้ไม่ไหว ก็ต้องไหว เพราะเธอไม่อยากให้เขามายุ่งกับเธออีก สิ่งที่เธอเสียไปมันก็มากพอแล้ว ถึงแม้จะเสียใจ แต่เมื่อมันเรียกร้องอะไรกลับมาไม่ได้ หญิงสาวก็ต้องทำใจยอมรับ เขาเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง ไม่แปลกถ้าเขาจะเรียกร้องสิ่งนี้จากเธอ
"โรส"
"ออกไปได้ไหมคะ ฉันตองการเวลาส่วนตัว"
"เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ"
"ค่ะ ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับคุณเหมือนกัน"หญิงสาวตอบ พร้อมกับจ้องหน้าเขา วันนี้ทุกอย่างต้องจบ
"เรื่องที่เกิดขึ้น..."
"ค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะ ตอนนี้ฉันขอเวลาส่วนตัวก่อน ถ้าจะกรุณา ช่วยออกไปรอข้างนอกได้ไหมคะ"
เมื่อถูกไล่ซ้ำๆ อรรถก็จำใจต้องถอย รสรินเป็นคนเอาแต่ใจ ยิ่งเขาดื้อดึง เธอก็จะเอาชนะเขา
"ผมสั่งอาหารรอนะ อยากทานอะไรไหม"ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงอาทร
"ไม่ค่ะ"ตอบแบบไม่มองหน้า เขาคงรู้สึกผิดที่ทำกับเธอเมื่อคืน เลยอยากไถ่โทษงั้นเหรอ
อรรถเดินออกไปจากห้อง เพราะอยากให้หญิงสาวได้ทำธุระส่วนตัว ขืนเขายังอยู่ตรงนี้ เธอก็คงเอาแต่นั่งกอดหมอนอยู่อย่างนั้น วันนี้ทั้งวันก็คงไม่ได้ทำอะไรกัน
"ยืนยิ้มอะไรคะ"คำถามที่ดังมาพร้อมร่างอุ้ยอ้ายที่เดินมาหาเขา ทำให้อรรถวางของในมือแล้วรีบเดินไปประคอง"ออกมาทำไมครับ น้ำค้างตกแล้ว"อรรถถามเมื่อสอดแขนเข้าเอวคนท้องแล้วพยุงไปนั่งที่เก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด"โรสเดินเองได้คะ ท้องนะคะไม่ได้ป่วย"ว่าให้สามีแต่ก็ยอมให้เขาประคองแต่โดยดี"ยิ้มอะไรคะ"รสรินถามคำถามเดิมเมื่ออรรถยังไม่ตอบคำถาม ตากลมโตมองไปทางฝั่งที่อรรถมองอยู่ก่อนหน้านี้ ฝั่งนั้นคือบ้านของอินและเป็นห้องนอนของมุกดา"หรือว่า!"ตากลมโตตวัดมองสามีเมื่อคิดไปว่าอรรถมาแอบดูมุกดา"อะไร!"อรรถถามที่เล่นที่จริง ตลกกับท่าทางของภรรยา แต่ก็มีความสุขมากเช่นกัน "พี่อรรถมาแอบมองคุณมุกใช่ไหม""หืม...แบบนี้เรียกว่าหึงหรือเปล่านะ"อรรถถามอย่างอารมณ์ดี"ไม่ได้หึงค่ะแค่ไม่ชอบ อยากดูก็ดูต่อเถอะค่ะ โรสจะไปนอนแล้ว"บอกอย่างแสนงอนพร้อมกับทำท่าจะลุกขึ้น แต่มือหนาแตะที่ไหล่บางเอาไว้ เป็นเชิงห้ามเพราะรู้สึกผิดที่แกล้งให้เธอโกรธ ลืมไปว่าเธอกำลังท้องอยู่"พี่อินครับ""พี่อินทำไมคะ"ถามกลับรัวเร็วเมื่อได้ยินชื่อของอิน"พี่เห็นพี่อินเข้าไปในห้องมุกดา จนป่านนี้ยังไม่ออกมาเลย""จริงเหรอคะ!"ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ท่าทางก็ต
"คูมแม่ขาาาา...หนูยิ้มฝันร้าย"เสียงเล็กๆที่ดังมาจากหน้าประตูระเบียงทำให้อินปล่อยแขนจากเอวมุกดา เมื่อเห็นลูกกอดตุ๊กตาหมียืนอยู่ตรงนั้น"หนูยิ้มลูก..."มุกดาเดินมาคุกเข่าและกอดลูกเอาไว้"ฝันร้ายเหรอคะ ฝันว่าอะไรคะบอกแม่สิ""หนูยิ้มฝันว่าพ่ออินร้องไห้"อินที่ยืนมองลูกต้องปาดน้ำตาทิ้ง ก่อนจะเดินมาคุกเข่าข้างลูกอีกคน"พ่ออยู่นี่ครับ""พ่อร้องไห้"หนูยิ้มที่ซุกอยู่ในอกมุกดาเงยหน้าขึ้นมองหน้าอิน"พ่อร้องไห้ทำไมคะ""เปล่าครับพ่อไม่ได้ร้อง"อินโกหกทั้งๆที่รู้ว่าโกหกลูกไม่ได้แต่ก็ยังฝืน"แม่มุกขา พ่อร้องไห้ค่ะ"เด็กน้อยบอกกับคนเป็นแม่ "ค่ะ"มุกดารับคำก่อนจะมองไปอีกทางเพื่อหลบตาเขา เพราะตอนนี้น้ำตาของเธอมันไหลลงมาอีกแล้ว"แม่มุกกอดพ่ออินสิคะ กอดเหมือนที่กอดหนูยิ้ม โอ๋ๆๆ ไม่ร้องน้าแม่มุกอยู่นี่ บอกกับพ่ออินสิคะ"เด็กน้อยจำคำที่คนเป็นแม่เคยปลอบใจยามที่เธอเสียใจได้ทุกคำ คำพูดเหล่านี้จะทำให้เธอหยุดร้อง จึงอยากให้มุกดาบอกกับอินบ้าง "พ่อไม่เป็นไรครับ""โอ๋ๆๆหนูยิ้มกอดพ่ออินก็ได้ ไม่ร้องนะคะไม่ร้อง"เด็กน้อยผละออกจากอ้อมแขนมารดา แล้วใช้แขนเล็กกอดรอบคออินเอาไว้ ปากเล็กจิ้มลิ้มปลุกปลอบคนเป็นพ่อ พร้อมกับตบมือลง
ทันทีที่ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาในห้อง คนที่นอนกอดคนตัวเล็กบนเตียงก็ขยับตัวลุกขึ้น มือบางจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะขยับลงไปยืนข้างเตียง เมื่ออินเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าเตียงนอน"ลูกหลับแล้วเหรอ"อินถามตาคู่คมมองหน้าคนที่ไม่สบตาเขา"ค่ะ"มุกดาตอบเสียงเบา พร้อมกับเลี่ยงเดินไปอีกทางเพราะอยากให้อินได้อยู่กับลูกตามลำพัง เวลานี้อินมักจะเข้ามาบอกฝันดีกับหนูยิ้มเสมอ และเธอก็ไม่อยากอยู่ขวางหูขวางตาเขา"มุก...คุยกันก่อนได้ไหม"แทนที่อินจะขึ้นไปหาหนูยิ้มบนเตียงเหมือนทุกวัน แต่วันนี้เขาเลือกที่จะตามมุกดาออกมาด้านนอกระเบียง"เชิญคุณอินค่ะ"มุกดาพูดเมื่อหันมาเผชิญหน้ากับเขา "อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม ผมไม่สบายใจเลย"อินตรงเข้าประเด็นเกือบปีแล้วที่มุกดาย้ายเข้ามาอยู่กับเขา หลังจากที่อรรถและรสรินเซ็นยกหนูยิ้มคืนให้เขา อินก็รับหนูยิ้มเป็นลูกและให้มุกดาเป็นแม่ อันที่จริงมันน่าจะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่หนูยิ้มเกิด แต่เพราะเขาเองที่ไม่ดีคิดเอาลูกไปทำลายครอบครัวคนอื่น จึงทำให้เรื่องมันวุ่นวายแบบนี้ เขาน่าจะเอะใจตั้งแต่แรกว่าทำไมรสรินถึงยอมรับหนูยิ้มง่ายๆ แถมยังให้อรรถรับผิดชอบและเซ็นรับเป็นแม่ให้หนูยิ้ม แทนที่จะเป็นอรรถก
อรรถยืนยันเสียงหนักแน่น รสรินชวนเขาหย่าอย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะ สองเดือนที่ไม่มีเธอเขาทรมานแทบตาย ตอนนี้ดีใจที่สุดที่ได้เจอเธอ และมีความสุขที่สุด ที่รู้ว่ากำลังจะเป็นพ่อคน แต่เธอกลับดับฝันของเขาด้วยคำพูดที่ไม่เข้าหู แล้วตบท้ายด้วยคำว่าหย่า มีหรือที่เขาจะยอม "ผมรักคุณนะโรส รักมากที่สุด"อรรถบอกความในใจออกไป จะต้องให้เขาควักหัวใจให้เธอดูเลยไหม ว่าตอนนี้หัวใจเขามีแค่เธอคนเดียว รสรินยังเฉย ตากลมโตมองหน้าเขานิ่งๆ "คำพูดมันอาจเชื่อถือไม่ได้ คุณให้โอกาสผมได้ไหม ให้ผมได้พิสูจน์ตัวเอง ให้ผมทำให้คุณเห็น ว่าผมเป็นพ่อ เป็นสามีที่ดีได้ นะครับโรส เชื่อผมสักครั้งนะครับ ผมรักคุณ รักลูกของเรานะ""คุณอรรถ..."รสรินพูดไม่ออก เมื่อได้ยินคำขอร้องจากเขา เวลาสองเดือนที่จากมา ไม่มีวันไหนที่เธอไม่คิดถึงเขา ยิ่งรู้ว่าตัวเองมีลูก ความรู้สึกที่มีต่อเขายิ่งชัดเจน เธอรักเขา"นะครับโรส ให้โอกาสผมสักครั้งนะครับ"อรรถขอร้องและอ้อนวอน เขารู้ว่ารสรินยังรักเขา เพราะถ้าเธอเกลียดเขาจริงๆ เธอต้องหนีไปไกลกว่านี้ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียนอันใหญ่หลวงที่ทำให้อรรถเกือบเสียเธอไป ถ้าเธอหันหลังให้เขาตอนนี้ นั่นเท่ากับว่า เข
รสรินเก็บร้านเร็วกว่าปกติ เพราะอาการเวียนหัวที่เกิดขึ้น เธอต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะมีใครอีกคนให้ห่วง ร่างบางพูดคุยกับเด็กในร้าน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน หญิงสาวขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ บนรถญี่ปุ่นคันเล็ก แล้วขับออกไป อรรถขับตามรถเธอมาห่างๆ กะระยะไม่ให้คลาดสายตา ยังตกใจกับรถที่เธอใช้ไม่หาย ไฮโซอย่างรสริน ใช้รถสภาพเก่าซอมซ่อเป็นพาหนะไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเธอขับมันไปแล้ว มุกดามีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้จริงๆ เพราะบ้านที่เธอขับรถเข้าไปจอด คือบ้านของมุกดา เขากับอินถูกผู้หญิงสองคนนี้ต้มตุ๋นจนเปื่อย อินรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า แต่ไม่น่าจะรู้ เพราะเท่าที่เห็น มุกดาคุยกับอินที่ไหนกันร่างสูงมองเข้าไปด้านใน รู้สึกขัดใจกับรั้วบ้านบุโรทั่งนี่เหลือเกิน มันผุจนคลุ้มกันอะไรไม่ได้ รสรินอยู่เข้าไปได้ยังไง ต่อให้มีการซ่อมแซมแล้วก็เถอะ แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัย นิ้วเรียวกดกริ่งที่หน้าประตูรั้ว ทั้งๆที่อยากจะบุกเข้าไป แต่ก็ต้องใจเย็นๆ สุภาพเข้าไว้ ทำหน้าสำนึกผิดให้มากๆ เธอจะได้ให้อภัยเร็วๆเสียงกริ่งที่ดังมาจากหน้าบ้าน ทำให้คนที่กำลังลงมือทำอาหารเย็นให้ตัวเองรู้สึกแปลกใจ ใครมาเวลานี้ เพราะตอนนี้มันเกือบจะสอ
วันเวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ จากวันเป็นเดือน มือบางลูบลงบนหน้าท้องแบนราบ ที่เธอเองก็เพิ่งรู้ว่า มีใครอีกคนอยู่ในนั้น สองสามวันที่ผ่านมา เธออาเจียนและเวียนหัว จนไม่เป็นอันทำอะไร เมื่อรู้สึกว่าทนไม่ไหว สิ่งแรกที่เธอต้องการก็คือที่ตรวจการตั้งครรภ์ และเมื่อผลมันขึ้นสองขีด โรงพยาบาลก็เป็นแห่งสุดท้าย ที่จะยืนยันเรื่องนี้ให้เธอ และผลตรวจจากโรงพยาบาลก็ยืนยันให้สงสัย เธอตั้งครรภ์ได้สองเดือน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเพราะเธอทำใจเอาไว้แล้ว เธอมีความสัมพันธ์กับอรรถ โดยที่ไม่มีการป้องกัน ผลที่ออกมาก็คือท้อง ถึงแม้จะเตรียมใจ แต่ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อรู้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้อง มีใครอีกคนที่เธอต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ ลูกคำนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเธอ เพราะเธอเคยมีสถานะเป็นแม่คนมาแล้ว จะต่างกันก็ตรงที่ ครั้งนี้เธอตั้งท้องลูกของตัวเองป่านนี้อรรถจะเป็นอย่างไรบ้าง คนอย่างเขาคงอยู่เป็นโสดไม่นาน เธอไม่คิดจะปกปิดเรื่องลูกกับเขา แต่เธอยังสบายใจที่ได้อยู่แบบนี้ เธอยังไม่ได้หย่าขาดจากเขา อรรถยังมีสิทธิ์ในตัวลูกเหมือนเดิม หญิงสาวเก็บความคิดทั้งหมดเอาไว้ เมื่อเสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น เธอมีคว