สองวันผ่านไป
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่แสนน่าเบื่อของฉัน ฉันคิดไปคิดมาฉันว่าฉันพร้อมแล้วนะ ที่จะเล่าทุกอย่างให้เพื่อนๆ ฟัง และฉันก็ติดต่อเพื่อนๆ ไป เรานัดเจอกันที่ร้านคาเฟ่ของพี่เจน
... ฉันเล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟังแบบไม่มีกัก ในระหว่างที่ฉันเล่าไป ฉันไม่คิดนะว่าจะร้องไห้อีก นึกว่าตัวเองเข้มแข็งแล้วด้วยซ้ำ แต่เปล่าเลย… ฉันยังคงเจ็บกับมัน
ยาหยีกับนาบีโกรธมาก หนักสุดก็ยาหยี นางน่ะไม่ทำใครก่อนนะ แต่ใครก็อย่ามาทำร้ายคนที่มันรักเพราะมันไม่ยอม ข้อนี้ฉันรู้จักเพื่อนฉันดี บทสรุปของวันนี้จบที่การแก้แค้น ยาหยีเอาตัวเองลงไปเดินเกมส์ทั้งหมดเพื่อล่อให้พวกนั้นมาติดกับดัก และทุกอย่างก็เข้าแผนของมันนะ มันโคตรเจ๋งเลย และสิ่งที่ทำให้ให้ตกใจคือไอ้หยีมันเล่นถึงปืนเลยอ่ะ มีการยิงกันด้วย แต่ฝ่ายนั้นเริ่มก่อนเอาปืนมาขู่มันก่อน แต่มันกลัวที่ไหนนั่นมันลูกสาวมาเฟียเลยนะ ไม่แค่นั้นสิ่งที่ไอ้หยีมันทำอีกอย่างคือ เรียกฉันให้ไปยืนใกล้ๆ พวกมัน แล้วให้สามคนนั้นก้มกราบแทบเท้าฉัน ศักดิ์ศรีไม่มีเหลือเลยสักอย่าง… เอาจริงๆ ฉันก็สะใจ และที่ฉันเซอร์ไพรส์คือ… เพื่อนฉันมีผัว ฉันขาดการติดต่อเพื่อนไปสามวันไอ้ยาหยีมันมีผัวเฉยเลย
... เสร็จเรื่องราวแก้แค้นพวกฉันก็ยังไม่ได้กลับกันนะ ฉันมานั่งคุยที่ห้องส่วนตัวข้างบนของสนามแข่งรถ เจ้าของก็นี่แหละเพื่อนๆ ของแฟนยาหยี ในระหว่างที่นั่งคุยกันไป มีผู้ชายคนนึงมานั่งข้างๆ ฉัน ฉันงงนะ ทำไมเขาไม่นั่งข้างๆ เพื่อนเขานั่นก็คือข้างๆ พี่วิลล์แฟนไอ้หยีมัน แต่ก็ช่างมันเถอะ ฉันอยู่ในที่ของเขาไม่อยากจะเรื่องมาก แต่ฉันแอบเห็นคนข้างๆ ลอบมองฉันตลอดเลย พอฉันหันมองคืนบ้างแทนที่เขาจะหลบสายตา แต่ไม่เลย… เขายังจ้องมองฉันเหมือนเดิม มองอยู่แบบนั้นก็ไม่รู้ว่าต้องการอะไร จนกลายเป็นฉันเองนี่แหละที่สู้สายตาเขาไม่ไหวจึงหันหน้ากลับมาที่เดิม อยู่คุยกันอีกไม่นานก็แยกย้าย เพราะตอนนี้ก็เริ่มจะค่ำแล้วด้วย
กลับมาถึงคอนโดฉันก็แอบเหงานะ เพราะเมื่อก่อนอาร์ตจะโทรหาฉัน(บ้าง) ตอนนี้ฉันโสด เลยไม่รู้จะทำอะไรดี ยาหยีมีผัวก็ไม่อยากไปรบกวนเวลาความสุขของเพื่อน ส่วนนาบี…รายนั้นน่ะนัดบอร์ดหนุ่มแทบจะทุกคืน สาวฮอตอะนะ ห้ามไม่ได้หรอก
ในที่สุด.. ความเหงาก็ทำให้ฉันตัดสินใจขับรถออกมาข้างนอก ออกมาเพื่อขับรถเล่นไม่ให้อยู่คนเดียวแล้วคิดถึงไอ้สารเลวนั่น“พี่ตี้” หือ เสียงคุ้นๆ ตอนนี้ฉันแวะร้านชานมไข่มุก ร้านอยู่เลยคอนโดออกไปไม่ไกล ในขณะที่กำลังต่อแถวซื้อ ก็มีเสียงเด็กเรียกฉัน แล้วเรียกว่าตี้ก็มีคนเดียวคือน้องรามิ
“น้องรามิ มากับใครคะ”
“มากับเรนค่า”
“มาซื้ออะไรคะเนี้ย”
“นมสดฮอกไกโด เรนต่อแถวให้มิอยู่”
“คุณยายมาด้วยป่าวคะ”
“ม่าย มาแค่มิกับเรนฉองคน… ตี้ยีบกลับยึป่าว (รีบกลับรึป่าว)”
“ไม่รีบค่ะ คอนโดพี่ตี้อยู่ใกล้แค่นี้เอง”
“โอเชเลย ไปกินข้าวกัน เรนหิว”
“อะ เอ่อ ไม่ดีมั้งคะ พี่ตี้ไม่รู้จักกับพี่เรนของมิน๊า”
“นี่ไง ไปยู้จักกันฉิ (ไปรู้จักกันสิ)”
“น้องมิครับ” ฉันกับน้องมิหันไปมองตามเสียงที่เรียกอยู่ไม่ไกล นั่นมัน…. เขาคนนั้น บังเอิญเกินไปหรือป่าวนะ เขาคนนั้นที่ฉันเจอเมื่อช่วงเย็น ฉันจำได้ว่าเขาชื่อ ‘เรนเดลล์’ เป็นเพื่อนของแฟนยาหยี
“ขา”
“...”
เรนเดลล์
ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจหรอกว่ารามิคุยอยู่กับใคร ผมมองตรงแค่น้องรามิคนเดียว
ผมหิวข้าวเลยออกมาหาอะไรข้างนอกทาน ที่บ้านไม่ใช่ว่าไม่มีอาหารนะ แต่เมนูวันนี้สลัดผัก ผมไม่สู้จริงๆ เลยออกมาหาอะไรทานนอกบ้านแทน จะให้แม่บ้านทำให้ใหม่ก็เกรงใจเพราะมันค่ำแล้วด้วย มีเด็กแสบที่ยังไม่นอน… น้องรามิอยากมาด้วยเพราะอยากกินนมสดฮอกไกโด คุณแม่ผมเลยยอมให้มา แต่ผมไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นที่แม่ชอบพูดถึงคือเพื่อนของน้องยาหยีแฟนไอ้วิลล์ บังเอิญ บังเอิญ บังเอิญ ในหัวผมตอนนี้มีแต่คำนี้จริงๆ ดูเหมือนว่าเราจะมีอะไรให้เกี่ยวข้องกันตลอด… ผู้หญิงที่แม่มักจะเล่าให้ผมฟังบ่อยๆ แม่บอกว่าชื่อน้องตี้ แต่จริงๆ ก็คือนัตตี้นี่เอง
เราสองคนมีเรื่องให้บังเอิญต่อกันกี่ครั้งแล้วนะ…
“มองตาค้างเลย ฉวยอ่ะดิ”
“หึหึ เจ้าแสบ”
“เรน มิชวนตี้ไปกินข้าวด้วยได้ป่าว”
“ครับ”
“เอ่อ ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ” ฉันเกรงใจ ไม่ได้สนิทอะไรกันเลยแล้วนั่นก็เป็นเวลาของคนในครอบครัวเขาด้วย เกรงใจอ่ะ
“ตี้ไปเหอะน๊า น๊าาา”
“...” ฉันก้มมองน้องรามิ แล้วก็เงยหน้ามองอีกคนซึ่งเขาก็มองมาเหมือนกันก่อนจะพูดว่า…
“ถ้าว่างก็ไปด้วยกัน”
“ก็ได้ค่ะ”
“เย้!!!” น้องรามิร้องดีใจออกมา เด็กอ่ะเนอะก็คงอยากมีเพื่อนแหละ
1 ปีผ่านไปตอนนี้ฉันตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้วนะ พี่เดลล์ขยันส่งการบ้านทุกคืน ฉันไม่ท้องก็จะคงแปลกเอามากๆ แล้วล่ะ สมใจพี่เดลล์เลยสิ เขาบอกด้วยนะว่าอยากได้ลูกสาวหน้าตาน่ารักเหมือนแม่ หยอดคำหวานทุกวัน พี่เดลล์ไม่เปลี่ยนไปเลย ไม่เคยบกพร่องในเรื่องของการดูแลเลยสักนิด เขาใส่ใจฉันมาก เขาเคยบอกว่าเรื่องนั้นก็ทำให้เขาเองก็มีปมในใจที่ละเลยความรู้สึกฉันจนเรื่องมันเกือบจะเลวร้าย แต่เราผ่านเรื่องนั้นด้วยกันมาได้แล้ว ไม่ต้องไปย้อนคิดถึงมันอีกและฉันยังโชคดีมากๆ ที่พี่เดลล์และเพื่อนๆ ไปช่วยได้ทันเวลา ในขณะที่ฉันกำลังอุ้มท้อง ยาหยีคลอดลูกนำไปแล้ว เรามีลูกในเวลาที่ใกล้เคียงกัน หวังว่าโตมาจะเป็นเพื่อนเล่นกันได้นะ ยาหยีได้ลูกชาย ส่วนฉันได้ลูกสาวสมใจพี่เดลล์เขาเลยล่ะชุดเด็ก ของเล่นเด็กเต็มบ้านไปหมดเลย อ้อ… ลืมบอกไป ตอนนี้เราย้ายมาอยู่บ้านหลังใหญ่แล้วนะ บ้านที่แม่ศิยกให้ฉันเป็นของขวัญวันแต่งงาน แน่นอนว่าถ้ามีลูกแล้วต้องอยู่คอนโด แม้จะใหญ่แค่ไหนก็ตามคงไม่สะดวกเท่าการอยู่บ้านหลังใหญ่และมีพื้นที่รอบบ้านให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น“น้ำส้มคั้นครับที่รัก” เรนเดลล์หัดทำน้ำส้มด้วยตัวเองหลังจากที่รู้ว่าเมียตัวเองท้อง อะไ
และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับพี่เดลล์พิธีช่วงเช้าก็มีแค่คนสนิทกันเอง มีครอบครัวทางฝั่งฉันสองคนคือฉันกับคุณพ่อ และครอบครัวทางพี่เดลล์ที่มีผู้ใหญ่คนอื่นๆ มาร่วมงานในตอนเช้าด้วย นั่นก็คือครอบครัวของมินนี่ อ้อ ฉันคงลืมบอกไปสินะ ว่ามินนี่ได้มาขอโทษฉันแล้วนะที่เธอไม่ระวังคำพูดและแสดงท่าทางที่ดูสนิทสนมจนเกินไปจนทำให้ฉันเข้าใจผิด ตอนนั้นฉันเองไม่ได้โกรธหรอก แค่รู้สึกเสียใจ และส่วนนึงมันก็เป็นฉันเองที่เข้าใจผิดไปเอง วันนี้เธอพาแฟนสาวมาด้วยนะ น้องคนนี้คือคนในบทสนทนาของเหตุการณ์วันนั้น หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเลยล่ะ ก็ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนน้องถึงได้รับรักมินนี่แล้วด้วย รวดเร็วจริงๆงานช่วงเช้าจัดทำตามพิธีสงฆ์แล้วก็แห่ขบวนขันหมาก ชุดไทยที่เลือกมาเป็นสีเงินปักตกแต่งด้วยสีแดง สีตัดกันสุดๆ ใส่แล้วผิวขาวออร่ามากๆ ฝั่งเจ้าบ่าวก็ไม่น้อยหน้าเลย ใส่ชุดไทยฉบับเจ้าบ่าวปกติทั่วไปแต่ออร่าความหล่อนั้นพุ่งมาก อื้มมม หล่อจนใจเจ็บเลยล่ะ หน้าที่กั้นประตูเงินประตูทองจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยาหยีและนาบี อ้อ มีเพิ่มด้วยอีกหนึ่งคน นั่นก็คือมินนี่นั่นเอง แต่ละคนโหดกับพี่เดลล์มากๆ สั่งทำนั่นทำนี่กว่าจะป
เช้าแสงแดดยามเช้ากับหมอกบางๆ ที่ปกคลุม สามสาวที่นัดกันแต่งตัวสวยและตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นและเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ “สวยจังเลยอ่า” นัตตี้“อยากมาอีกจัง” นาบี“มาครั้งหน้าก็คงคิวมึง แต่คงเป็นที่อื่น”“หือ ยังไงนะ” นัตตี้ที่งง อะไรคือคิวของนาบี“...” นาบีกัดฟันทำตาเขียวปั๊ดใส่ยาหยี เธอรู้ว่ายาหยีหมายถึงอะไร แต่แล้วทำไมต้องมาแซวเธอหรือว่า…ผ่านไปไม่นานสามสาวก็เดินไปเรื่อยๆ สำรวจทุกพื้นที่ สนุกจนลืมทานอาหารเช้าจนกระทั่งเดินมาถึงซุ้มดอกไม้หลากสีให้ความโดดเด่นตัดกับชุดเดรสยาวสีขาวและตัดกับธรรมชาติที่เป็นสีเขียว ซึ่งทุกอย่างสวยงามลงตัว“ตรงนี้เขาทำใหม่เหรอ ตอนดูหน้าเพจไม่เห็นมี”“เขาทำมาเพื่อใครบางคนละมั้ง”“อ้าว งั้นคงไม่ใช่ที่สำหรับลูกค้าแบบเรา งั้นไปกันเถอะ” ในระหว่างที่นัตตี้กำลังยืนโพสต์ท่าให้เพื่อนๆ ถ่ายรูปให้ตรงซุ้มดอกไม้ พอได้ฟังแบบนั้นจากปากเพื่อนว่าตรงนี้เขาคงทำใหม่ให้ใครบางคน ซึ่งเธอคิดว่าคงเป็นโซนพิเศษของลูกค้าท่านอื่นที่อาจจะมีการจัดตกแต่งไว้เพื่อเซอร์ไพรส์ของคู่รักคู่หนึ่ง แค่คิดตามเธอก็แอบอมยิ้มออกมา น่าอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจังเมื่อนัตตี้กำลังก้าวขาเดินออกจากซุ
วันนี้นัตตี้ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แน่นอนว่าเดอะแก๊งส์กลุ่มใหญ่ก็มารวมกันที่โรงพยาบาลกันจนครบทุกคน เพราะเรนเดลล์อยากชวนทุกคนไปทานข้าวด้วยกัน อยากขอบคุณที่วันนั้นทุกคนช่วยเหลือเขาเป็นอย่างดี ทั้งไปเป็นเพื่อนเขาที่เชียงใหม่ ไปด้วยกันหมดทุกคน เขารู้สึกซึ้งใจและอยากขอบคุณ ซึ่งนัตตี้เองพอรู้ความจริงทั้งหมดเธอก็รู้สึกแบบนั้นเช่นเดียวกัน@ ร้านอาหารฟิวชั่นแห่งหนึ่งเรื่องสั่งอาหารก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสาวๆ จัดการกันไป นัตตี้ นาบี และยาหยีก็ตัวตึงในเรื่องของการกินจุกินเยอะกินเกินตัว ในส่วนของอาหารของมื้อนี้ประกอบไปด้วย เปาะเปี๊ยะสดบาร์บีคิว ห่อหมกเพนเนปู เกี๊ยวซ่ากุ้งผัดไทย สเต๊กทีโบนย่างจิ้มแจ่ว ข้าวอบใบบัว เกี๊ยวซ่าราดหน้า อาหารที่สั่งคูณสองทุกจาน ทั้งยังมีผลไม้ของของหวานตบท้ายอีกด้วยนัตตี้นับจากวันนี้ไป ฉันจะใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดเพื่อชดเชยจากความเจ็บปวดที่ผ่านมา รอบข้างฉันมีเพื่อนที่น่ารักและกวนส้นตีนในเวลาเดียว แต่พวกมันนี่แหละที่อยู่เคียงข้างเสมอมา ฉันรักพวกมันที่สุด หลังจากวันนี้ไปฉันต้องวางแผนการใช้ชีวิต ฝึกงานเสร็จก็เคลียร์ทำเรื่องจบของกับทางมหาวิทยาลัย และหลังจากที่เรียนจบก็
@ โรงพยาบาล XXXนัตตี้ยังต้องอยู่ รพ. เพื่อเฝ้าดูอาการอีกสองวัน ช่วงนี้เพื่อนๆ ก็โทรมาถามอาการแทนการมาเยี่ยม เพราะมีหวานใจที่เพิ่งจะคืนดีกันหมาดๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่น่าจะต้องห่วงอะไรแล้ว ส่วนแม่ศิก็มาหาทุกวันหลังจากแวะส่งน้องรามิที่โรงเรียนท่านก็แว๊บมาที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้านทุกครั้ง ท่านทำอาหารมาให้ลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ทานทุกเช้า“เรื่องนั้น… มันโดนจำคุกแล้วนะ”“...”“ยังกลัวอยู่ไหม”“กลัวค่ะ แต่ตี้รังเกียจมากกว่า ตี้…ขยะแขยง”“อืม ตำรวจไม่ให้ประกันตัวด้วย”“สมควรแล้วค่ะ”เรนเดลล์ดูแลนัตตี้เป็นอย่างดีเหมือนที่ผ่านมา จับอาบน้ำจับแต่งตัว นัตตี้แทบไม่ต้องทำอะไรเอง ตอนนี้ทั้งสองคนก็รอคุณแม่มาหาและทานข้าวเช้าพร้อมกันสามคน ใช้เวลาเพียงไม่นานแม่ศิก็เดินทางมาถึง“พรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วใช่มั้ยลูก”“ค่ะคุณแม่”“ช่วงนี้ไปอยู่ที่บ้านกับแม่ก่อนมั้ย”“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีคอนโดตี้อยู่ใกล้ที่ฝึกงานมากกว่า”“เอางั้นก็ได้ลูก”ทั้งสามคนนั่งทานข้าวด้วยกันคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่ง… ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “วันนี้เพื่อนตี้โทรมาบอกว่าไม่ได้มานี่นา เพื่อนพี่เดลล์หรือป่าวคะ”“ไม่นะ… เดี๋ยวพี่ไปดูเ
แม่ศิและน้องรามิเดินทางมาถึงโรงพยาบาลได้สักพักใหญ่ๆ อาหารที่เตรียมมาให้ผู้ป่วยก็จะเป็นของชอบนัตตี้ทั้งนั้น อาทิ เช่น ต้มจืดไข่น้ำ อกไก่ต้มน้ำปลา ลาซานญ่าอบชีสส่วนผลไม้ก็จะเป็น องุ่น กีวี่ แตงโม และยังทำน้ำส้มคั้นของโปรดมาให้ว่าที่ลูกสะใภ้อีกด้วย ทั้งยังแวะซื้อชานมฮออกไกโดมาเกือบยี่สิบแก้วมาแช่ตู้เย็นไว้ให้หนุ่มๆ สาวๆ ที่ค่อนข้างอยู่กันหลายคนท่านรู้จักนัตตี้มาก่อนเรนเดลล์ แน่นอนว่าเรื่องอาหารการกินท่านย่อมรู้มากกว่าเรนเดลล์แน่นอนว่านัตตี้ชอบทานอะไรบ้าง ไม่ได้มีแค่นี้ มีมากกว่านี้อีก แต่เมนูเหล่านี้คัดสรรมาให้ผู้ป่วยทานอาหารอ่อนๆ ท่านตั้งใจทำให้สุดฝีมือ“หนูตี้ ลูก” ท่านเรียกด้วยเสียงสั่นเครือ ตั้งแต่เกิดเรื่องท่านรู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะท่านรู้เรื่องราวในชีวิตก่อนหน้านี้ของนัตตี้ดีทุกเรื่อง อย่างที่รู้กันว่าทั้งสองคนรักกันให้ความอบอุ่นเหมือนแม่กับลูก นัตตี้เล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ศิฟัง ท่านเข้าใจดีว่านัตตี้เผชิญกับอะไรมาบ้าง“แม่ศิ…” นัตตี้ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเช่นกัน ญาติผู้ใหญ่ที่เธอเหลืออยู่ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่ศิ พ่อแท้ๆ ของเธอก็ไม่เคยสนใจตั้งแต่ที่แม่ของนัตตี้จากไ