เราเดินออกมาจากร้านชานม ถัดไปสามร้านก็จะเป็นร้านอาหารไทยฟิวชั่นเราสามคนแวะทานข้าวด้วยกันที่ร้านนี้
“ตี้ มิอยากเข้าห้องน้ำ”
“ไปค่ะ ตี้พาไปนะ”
“อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม” เขาถามฉันพร้อมกับรอคำตอบเพราะเขามองหน้าฉันนานมาก
“สั่งอะไรก็ได้ค่ะ ฉันทานได้”
“ช่าย ตี้น่ะกินเก๊งเก่ง”
“หึหึ”
“ไปกันค่ะ” ฉันพาน้องรามิมาเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็กลับมาที่โต๊ะ แต่มีอาหารเริ่มมาเสิร์ฟบ้างแล้ว
“ฉันสั่งน้ำส้มให้เธอ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ของมิล่ะ”
“กินนมสดที่ถืออยู่ให้หมดแก้วก่อนตัวแสบ”
“คิก คิก ~~”
และไม่นานอาหารก็มาจนครบ ฉันนั่งอึ้งกับเมนูตรงหน้า เดี๋ยวนะสั่งอาหารมาเจ็ดอย่างแล้วตอนนี้เรามีกันแค่สามคน
“ทำไมสั่งเยอะล่ะคะ” ฉันถามด้วยความสงสัย
“ก็ตัวแสบบอกเธอทานเก่ง”
“ทานเก่งค่ะ ไม่ใช่ทานเยอะ”
“งั้นเหรอ เดี๋ยวเธอจะหาว่าฉันสั่งแบบประหยัดแล้วเอาไปพูดลับหลังได้”
“นี่คุณ!”
เขายกยิ้มมุมปากอย่างพอใจคืออะไรอ่ะ ชอบเหรอที่ได้พูดแกล้งฉัน
ฉันเห็นนะว่าเขาทานไม่เยอะ ฉันก็ทานไม่เยอะ แต่คนที่ทานเยอะคือน้องรามิ
“กินถ่วงเวลาเหรอเจ้าแสบ”
“เรนพูดไร มิไม่เข้าใจเยย”
“...”
“คิก คิก ~~” แล้วเด็กน้อยก็หัวเราะชอบใจอีกครั้ง อยู่ๆ ก็หัวเราะคนเดียวเด็กคนนี้ต้องคิดอะไรแปลกๆ อีกแน่ๆ ที่เขาเรียกน้องรามิว่าตัวแสบก็เพราะว่าน้องแสบจริงๆ เรื่องนี้ฉันรู้ดีและคอนเฟิร์ม
ไม่นานก็ทานข้าวเสร็จ เรากำลังจะแยกย้ายกันแต่น้องรามิไม่ยอม จะมาส่งฉันที่รถให้ได้
“ตี้ พุ่นเน้มิอยากไปหา (พรุ่งนี้มิอยากไปหา)”
“ได้สิคะ มาเลยเพราะตี้ก็เหงา”
“เรน พุ่นเน้ว่างป่าว”
“...”
“น๊าๆ ไปหาตี้เป็นเพื่อนมิหน่อยน๊า”
“ถ้าตามใจน้องมิแล้วเรนจะได้อะไรเป็นรางวัล”
“หอมแก้ม ฉองฟอด”
“หึหึ… แล้วคุณสะดวกรึป่าว” เขาหัวเราะน้องรามิแล้วหันมาถามฉัน
“ได้ค่ะ เพราะมีน้องรามิอยู่ด้วย”
ปกติฉันไม่เคยให้ใครมาที่ห้องฉันง่ายๆ นะ ฉันค่อนข้างหวงพื้นที่ของตัวเอง ถ้าไม่สนิทก็ไม่มีทางที่จะเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของฉันได้ แต่ทำไม… ฉันยอมให้เขามาได้ง่ายๆ นะ คงเป็นเพราะมีน้องรามิแหละมั้ง ช่างมันเถอะ
“งั้นบะบายน๊า ตี้”
“เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
ครั้งนี้แยกย้ายกันจริงๆ ฉันรีบขับรถกลับคอนโดเพราะเริ่มง่วงแล้ว กินอิ่มก็งี้ หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน
อีกด้าน
“เรน”
“ครับ”
“ตี้ฉวยป่าว”
“คิดจะทำอะไรเราอ่ะ” เรนเดลล์พูดพลางเอามือลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ เขารู้ว่าตอนนี้รามิกำลังคิดจะจับคู่เขากับนัตตี้
“คิก คิก”
“ไม่ต้องหัวเราะกลบเกลื่อนเลย เดี๋ยวจะฟ้องคุณยาย”
“อุนยายรักตี้ อุนยายไม่ว่ามิหรอก”
“เป็นเด็กเป็นเล็กหัดจับคู่นะ”
“ก็เหมือนพระเอกกับนางเอกเลย มิชอบน๊า”
... “เรนชอบไหม?”
“หื้ม อย่ามาหลอกถาม”
“ไม่ยู้แหยะ มิจองคนนี้ ถ้าเรนไม่ชอบมิจองให้พี่เจย์กับพี่แท็คก็ได้ ฉองคนนั้นก็หย่อ”
“ไอ้ตัวแสบ” ได้ไง ใครจะยอม หรือว่าผม...
เอาจริงๆ ผมว่าผมรู้สึกใจมันเต้นแปลกๆ ทั้งยังรู้สึกประหม่าเวลามองหน้าใกล้ๆ แต่ผมก็ไม่อยากละสายตาไปจากใบหน้าสวยหวานเพราะสวยมาก สวยเหมือนที่รามิเคยโฆษณาให้ฟังตั้งแต่ผมยังไม่เจอ รามิทั้งชม ทั้งอวย ตอนแรกผมก็คิดว่าคำพูดเด็ก นิดหน่อยๆ ก็คงคิดว่าแบบนี้คือสวยแล้ว แต่เปล่าเลยมันคือเรื่องจริง สวยเนียนกริบ... เธอสวย น่ารัก หุ่นดี อะ เอ่อ นมใหญ่มากด้วย ไม่ได้ลามกไปมองนะแต่มันทะลุเข้าตามาสุดท้ายก็ต้องแอบมอง ชิ้นงานอลังการงานสร้างมาก ฉ่ำและทำถึงสุดๆ
วันถัดมา
วันนี้เป็นวันที่น้องมิจะมาหา น้องโทรมาบอกฉันว่าเดี๋ยวจะเตรียมวัตถุดิบไปเองและวันนี้พี่ชายของน้องจะอาสาเป็นเชฟให้ ฉันรู้สึกอายนิดนึงเป็นเจ้าบ้านแต่ให้แขกทำอาหารให้ ฉันทำอาหารไม่เก่งสะดวกซื้อมากกว่า แต่ที่ทำกินเองจนเก่งและอร่อยคือน้ำส้มคั้น
ครืด… เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นฉันจึงรีบกดรับสาย
“ตี้”
“มาถึงแล้วเหรอคะ”
“ช่าย มายับโหน่ยค่า (มารับหน่อยค่ะ)”
“เคค่ะคนสวยเดี๋ยวพี่ตี้จะรีบลงไปเลย”
ฉันมาถึงข้างล่างสิ่งที่สะดุดตาฉันคือคุณเรนเดลล์เพราะความหล่อ หล่อแบบทำร้ายจิตใจมาก แถมยัง… ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตจนแอบเห็นร่องหน้าอกแกร่ง เห็นรอยสักที่หน้าอก ที่แขน ไหนจะที่คออีก กร้าวใจชะมัด
“ตี้ เหม่อไรอ่ะ” สงสัยฉันคงจะเผลอมองนานไปหน่อยจนน้องรามิต้องทัก เขาจะเห็นไหมนะว่าฉันแอบมอง
“เปล่าค่ะ เราไปข้างบนกันเถอะ เอ่อ… คุณให้ฉันช่วยถือไหมคะ”
“ไม่เป็นไร”
ฉันพยักหน้า จากนั้นเราก็เดินเข้าลิฟต์จนลิฟต์เลื่อนมาถึงชั้นที่ฉันอยู่
1 ปีผ่านไปตอนนี้ฉันตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้วนะ พี่เดลล์ขยันส่งการบ้านทุกคืน ฉันไม่ท้องก็จะคงแปลกเอามากๆ แล้วล่ะ สมใจพี่เดลล์เลยสิ เขาบอกด้วยนะว่าอยากได้ลูกสาวหน้าตาน่ารักเหมือนแม่ หยอดคำหวานทุกวัน พี่เดลล์ไม่เปลี่ยนไปเลย ไม่เคยบกพร่องในเรื่องของการดูแลเลยสักนิด เขาใส่ใจฉันมาก เขาเคยบอกว่าเรื่องนั้นก็ทำให้เขาเองก็มีปมในใจที่ละเลยความรู้สึกฉันจนเรื่องมันเกือบจะเลวร้าย แต่เราผ่านเรื่องนั้นด้วยกันมาได้แล้ว ไม่ต้องไปย้อนคิดถึงมันอีกและฉันยังโชคดีมากๆ ที่พี่เดลล์และเพื่อนๆ ไปช่วยได้ทันเวลา ในขณะที่ฉันกำลังอุ้มท้อง ยาหยีคลอดลูกนำไปแล้ว เรามีลูกในเวลาที่ใกล้เคียงกัน หวังว่าโตมาจะเป็นเพื่อนเล่นกันได้นะ ยาหยีได้ลูกชาย ส่วนฉันได้ลูกสาวสมใจพี่เดลล์เขาเลยล่ะชุดเด็ก ของเล่นเด็กเต็มบ้านไปหมดเลย อ้อ… ลืมบอกไป ตอนนี้เราย้ายมาอยู่บ้านหลังใหญ่แล้วนะ บ้านที่แม่ศิยกให้ฉันเป็นของขวัญวันแต่งงาน แน่นอนว่าถ้ามีลูกแล้วต้องอยู่คอนโด แม้จะใหญ่แค่ไหนก็ตามคงไม่สะดวกเท่าการอยู่บ้านหลังใหญ่และมีพื้นที่รอบบ้านให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น“น้ำส้มคั้นครับที่รัก” เรนเดลล์หัดทำน้ำส้มด้วยตัวเองหลังจากที่รู้ว่าเมียตัวเองท้อง อะไ
และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับพี่เดลล์พิธีช่วงเช้าก็มีแค่คนสนิทกันเอง มีครอบครัวทางฝั่งฉันสองคนคือฉันกับคุณพ่อ และครอบครัวทางพี่เดลล์ที่มีผู้ใหญ่คนอื่นๆ มาร่วมงานในตอนเช้าด้วย นั่นก็คือครอบครัวของมินนี่ อ้อ ฉันคงลืมบอกไปสินะ ว่ามินนี่ได้มาขอโทษฉันแล้วนะที่เธอไม่ระวังคำพูดและแสดงท่าทางที่ดูสนิทสนมจนเกินไปจนทำให้ฉันเข้าใจผิด ตอนนั้นฉันเองไม่ได้โกรธหรอก แค่รู้สึกเสียใจ และส่วนนึงมันก็เป็นฉันเองที่เข้าใจผิดไปเอง วันนี้เธอพาแฟนสาวมาด้วยนะ น้องคนนี้คือคนในบทสนทนาของเหตุการณ์วันนั้น หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเลยล่ะ ก็ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนน้องถึงได้รับรักมินนี่แล้วด้วย รวดเร็วจริงๆงานช่วงเช้าจัดทำตามพิธีสงฆ์แล้วก็แห่ขบวนขันหมาก ชุดไทยที่เลือกมาเป็นสีเงินปักตกแต่งด้วยสีแดง สีตัดกันสุดๆ ใส่แล้วผิวขาวออร่ามากๆ ฝั่งเจ้าบ่าวก็ไม่น้อยหน้าเลย ใส่ชุดไทยฉบับเจ้าบ่าวปกติทั่วไปแต่ออร่าความหล่อนั้นพุ่งมาก อื้มมม หล่อจนใจเจ็บเลยล่ะ หน้าที่กั้นประตูเงินประตูทองจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยาหยีและนาบี อ้อ มีเพิ่มด้วยอีกหนึ่งคน นั่นก็คือมินนี่นั่นเอง แต่ละคนโหดกับพี่เดลล์มากๆ สั่งทำนั่นทำนี่กว่าจะป
เช้าแสงแดดยามเช้ากับหมอกบางๆ ที่ปกคลุม สามสาวที่นัดกันแต่งตัวสวยและตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นและเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ “สวยจังเลยอ่า” นัตตี้“อยากมาอีกจัง” นาบี“มาครั้งหน้าก็คงคิวมึง แต่คงเป็นที่อื่น”“หือ ยังไงนะ” นัตตี้ที่งง อะไรคือคิวของนาบี“...” นาบีกัดฟันทำตาเขียวปั๊ดใส่ยาหยี เธอรู้ว่ายาหยีหมายถึงอะไร แต่แล้วทำไมต้องมาแซวเธอหรือว่า…ผ่านไปไม่นานสามสาวก็เดินไปเรื่อยๆ สำรวจทุกพื้นที่ สนุกจนลืมทานอาหารเช้าจนกระทั่งเดินมาถึงซุ้มดอกไม้หลากสีให้ความโดดเด่นตัดกับชุดเดรสยาวสีขาวและตัดกับธรรมชาติที่เป็นสีเขียว ซึ่งทุกอย่างสวยงามลงตัว“ตรงนี้เขาทำใหม่เหรอ ตอนดูหน้าเพจไม่เห็นมี”“เขาทำมาเพื่อใครบางคนละมั้ง”“อ้าว งั้นคงไม่ใช่ที่สำหรับลูกค้าแบบเรา งั้นไปกันเถอะ” ในระหว่างที่นัตตี้กำลังยืนโพสต์ท่าให้เพื่อนๆ ถ่ายรูปให้ตรงซุ้มดอกไม้ พอได้ฟังแบบนั้นจากปากเพื่อนว่าตรงนี้เขาคงทำใหม่ให้ใครบางคน ซึ่งเธอคิดว่าคงเป็นโซนพิเศษของลูกค้าท่านอื่นที่อาจจะมีการจัดตกแต่งไว้เพื่อเซอร์ไพรส์ของคู่รักคู่หนึ่ง แค่คิดตามเธอก็แอบอมยิ้มออกมา น่าอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจังเมื่อนัตตี้กำลังก้าวขาเดินออกจากซุ
วันนี้นัตตี้ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แน่นอนว่าเดอะแก๊งส์กลุ่มใหญ่ก็มารวมกันที่โรงพยาบาลกันจนครบทุกคน เพราะเรนเดลล์อยากชวนทุกคนไปทานข้าวด้วยกัน อยากขอบคุณที่วันนั้นทุกคนช่วยเหลือเขาเป็นอย่างดี ทั้งไปเป็นเพื่อนเขาที่เชียงใหม่ ไปด้วยกันหมดทุกคน เขารู้สึกซึ้งใจและอยากขอบคุณ ซึ่งนัตตี้เองพอรู้ความจริงทั้งหมดเธอก็รู้สึกแบบนั้นเช่นเดียวกัน@ ร้านอาหารฟิวชั่นแห่งหนึ่งเรื่องสั่งอาหารก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสาวๆ จัดการกันไป นัตตี้ นาบี และยาหยีก็ตัวตึงในเรื่องของการกินจุกินเยอะกินเกินตัว ในส่วนของอาหารของมื้อนี้ประกอบไปด้วย เปาะเปี๊ยะสดบาร์บีคิว ห่อหมกเพนเนปู เกี๊ยวซ่ากุ้งผัดไทย สเต๊กทีโบนย่างจิ้มแจ่ว ข้าวอบใบบัว เกี๊ยวซ่าราดหน้า อาหารที่สั่งคูณสองทุกจาน ทั้งยังมีผลไม้ของของหวานตบท้ายอีกด้วยนัตตี้นับจากวันนี้ไป ฉันจะใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดเพื่อชดเชยจากความเจ็บปวดที่ผ่านมา รอบข้างฉันมีเพื่อนที่น่ารักและกวนส้นตีนในเวลาเดียว แต่พวกมันนี่แหละที่อยู่เคียงข้างเสมอมา ฉันรักพวกมันที่สุด หลังจากวันนี้ไปฉันต้องวางแผนการใช้ชีวิต ฝึกงานเสร็จก็เคลียร์ทำเรื่องจบของกับทางมหาวิทยาลัย และหลังจากที่เรียนจบก็
@ โรงพยาบาล XXXนัตตี้ยังต้องอยู่ รพ. เพื่อเฝ้าดูอาการอีกสองวัน ช่วงนี้เพื่อนๆ ก็โทรมาถามอาการแทนการมาเยี่ยม เพราะมีหวานใจที่เพิ่งจะคืนดีกันหมาดๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่น่าจะต้องห่วงอะไรแล้ว ส่วนแม่ศิก็มาหาทุกวันหลังจากแวะส่งน้องรามิที่โรงเรียนท่านก็แว๊บมาที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้านทุกครั้ง ท่านทำอาหารมาให้ลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ทานทุกเช้า“เรื่องนั้น… มันโดนจำคุกแล้วนะ”“...”“ยังกลัวอยู่ไหม”“กลัวค่ะ แต่ตี้รังเกียจมากกว่า ตี้…ขยะแขยง”“อืม ตำรวจไม่ให้ประกันตัวด้วย”“สมควรแล้วค่ะ”เรนเดลล์ดูแลนัตตี้เป็นอย่างดีเหมือนที่ผ่านมา จับอาบน้ำจับแต่งตัว นัตตี้แทบไม่ต้องทำอะไรเอง ตอนนี้ทั้งสองคนก็รอคุณแม่มาหาและทานข้าวเช้าพร้อมกันสามคน ใช้เวลาเพียงไม่นานแม่ศิก็เดินทางมาถึง“พรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วใช่มั้ยลูก”“ค่ะคุณแม่”“ช่วงนี้ไปอยู่ที่บ้านกับแม่ก่อนมั้ย”“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีคอนโดตี้อยู่ใกล้ที่ฝึกงานมากกว่า”“เอางั้นก็ได้ลูก”ทั้งสามคนนั่งทานข้าวด้วยกันคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่ง… ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “วันนี้เพื่อนตี้โทรมาบอกว่าไม่ได้มานี่นา เพื่อนพี่เดลล์หรือป่าวคะ”“ไม่นะ… เดี๋ยวพี่ไปดูเ
แม่ศิและน้องรามิเดินทางมาถึงโรงพยาบาลได้สักพักใหญ่ๆ อาหารที่เตรียมมาให้ผู้ป่วยก็จะเป็นของชอบนัตตี้ทั้งนั้น อาทิ เช่น ต้มจืดไข่น้ำ อกไก่ต้มน้ำปลา ลาซานญ่าอบชีสส่วนผลไม้ก็จะเป็น องุ่น กีวี่ แตงโม และยังทำน้ำส้มคั้นของโปรดมาให้ว่าที่ลูกสะใภ้อีกด้วย ทั้งยังแวะซื้อชานมฮออกไกโดมาเกือบยี่สิบแก้วมาแช่ตู้เย็นไว้ให้หนุ่มๆ สาวๆ ที่ค่อนข้างอยู่กันหลายคนท่านรู้จักนัตตี้มาก่อนเรนเดลล์ แน่นอนว่าเรื่องอาหารการกินท่านย่อมรู้มากกว่าเรนเดลล์แน่นอนว่านัตตี้ชอบทานอะไรบ้าง ไม่ได้มีแค่นี้ มีมากกว่านี้อีก แต่เมนูเหล่านี้คัดสรรมาให้ผู้ป่วยทานอาหารอ่อนๆ ท่านตั้งใจทำให้สุดฝีมือ“หนูตี้ ลูก” ท่านเรียกด้วยเสียงสั่นเครือ ตั้งแต่เกิดเรื่องท่านรู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะท่านรู้เรื่องราวในชีวิตก่อนหน้านี้ของนัตตี้ดีทุกเรื่อง อย่างที่รู้กันว่าทั้งสองคนรักกันให้ความอบอุ่นเหมือนแม่กับลูก นัตตี้เล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ศิฟัง ท่านเข้าใจดีว่านัตตี้เผชิญกับอะไรมาบ้าง“แม่ศิ…” นัตตี้ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเช่นกัน ญาติผู้ใหญ่ที่เธอเหลืออยู่ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่ศิ พ่อแท้ๆ ของเธอก็ไม่เคยสนใจตั้งแต่ที่แม่ของนัตตี้จากไ