ログイン"กลับมาทำไม ทำไมไม่อยู่ที่ห้องกับกระทิง"อาจจะเป็นคำถามที่ใคร ๆ ฟังดูแล้วมันธรรมดา แต่สำหรับไอวา มันคือการตั้งคำถามกึ่งบังคับให้เธอก้าวขาออกไปจากบ้านหลังนี้
เพราะทุกคนที่นี่ไม่ต้องการเธอ "ฉันถาม แกไม่ได้ยินหรือไงไอวา" "วันนี้หนูเหนื่อยค่ะคุณพ่อ หนูอยากพัก ขอตัวก่อนนะคะ"เพราะไม่อยากมีปัญหากับบิดาผู้ให้กำเนิด ไอวาจึงเลือกที่จะก้าวขาผ่านร่างสูงใหญ่เข้าไปด้านใน เพราะตอนนี้ทั้งร่างกายและหัวใจของเธอมันแทบจะตั้งรับอะไรต่ออะไรไม่ไหวแล้ว "อย่าเดินหนีฉันไอวา มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"สองเท้าของ ฐากูร บิดาผู้ให้กำเนิดเดินตามติดมาก่อนจะคว้าข้อมือเล็กให้ร่างสวยของลูกสาวคนแรกหยุดเดิน "ฉันขอสั่งให้แกกลับไปคอนโด ไปอยู่กับกระทิง ได้ยินที่ฉันพูดไหม"เสียงเข้มออกคำสั่งลูกสาวโดยไม่คิดจะถามว่าเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง "อย่าเอาทำตัวสร้างปัญหา อย่าทำตัวไร่ค่าเหมือนแม่แก" "พ่อไม่มีสิทธิ์พูดถึงแม่แบบนั้น" เพียะ "แกอย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะไอวา"กลิ่นคาวเลือดคลอดคละคลุ้งในขณะที่หญิงสาวยังคงยืนก้มหน้า เสียงทะเลาะเอะอะโวยวายทำให้ เปรมฤทัย และ ไอด้า บุตรสาวคนที่สองซึ่งกำลังก้าวเท้าลงบันไดมาถึงชั้นล่างตะลึงค้างแต่รู้สึกสะใจกับสิ่งที่ได้เห็น "แกเป็นลูก ต้องฟังในสิ่งที่ฉันสั่งทุกอย่างเข้าใจไหม ถ้าฉันไม่อนุญาตแกก็ไม่มีสิทธิ์ก้าวขาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้" "แต่นี่เป็นบ้านของแม่" "บ้านหลังนี้เป็นของฉันนับตั้งแต่วันที่แม่ของแกตายไปแล้วไอวา"ดวงตาคู่สวยแดงก่ำทั้งสองข้าง หัวใจดวงน้อยปวดหนึบยามเมื่อไอวามองไม่เห็นความรักในดวงตาของบิดาที่มีต่อเธอเลย "กลับไปหากระทิงซะ เรียนจบก็รีบพูดคุยเรื่องจัดงานแต่งงานให้เรียบร้อย แกจะได้ออกไปให้พ้นหูพ้นตาของฉันสักที"ไม่มีแม้แต่ความเมตตาและปรานี เพราะไอวาไม่ได้เกิดมาจากภรรยาที่ฐากูรรัก แตกต่างจากไอด้า ซึ่งได้เกิดมาเป็นโซ่ทองคล้องใจของฐากูรกับเปรมฤทัย แม่ของไอวา ชื่อ จรัสฟ้า เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่ทั้งโรงแรมและห้ามสรรพสินค้า มีหน้ามีตาในสังคม ไม่ต่างอะไรจากฐากูรที่ตอนนั้นเขาก็เป็นถึงผู้จัดการใหญ่ให้กับโรงแรมของบิดาถึงจะไม่ได้มีหน้าตาในสังคมไฮโซมากนัก แต่หลายคนก็รู้จักเขาในฐานะผู้จัดการของโรงแรมชื่อดัง จรัสฟ้ารู้สึกชอบพอกับฐากูรในตอนนั้น ทั้งสองถึงขั้นมีความสัมพันธ์ที่เลยเถิด จน จรัสฟ้าตั้งท้องขึ้นมา และเป็นจังหวะเดียวกับที่มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาชี้หน้าด่าเธอว่า แย่งผัวชาวบ้าน และผู้หญิงคนนั้นก็คือ เปรมฤทัย ภรรยาที่คบหาอยู่กินกับฐากูรมานานหลายปี และตอนนั้นเปรมฤทัยก็กำลังตั้งท้องอ่อน ๆ ลูกของฐากูรเช่นเดียวกัน 'เลือกมา ถ้าแกยอมรับลูกสาวของฉันก็แต่งงานกันให้ถูกต้องแล้วก็ไปหย่ากับเมียของแกซะ แต่ถ้าไม่ แกก็เตรียมตัวหอบสัมภาระกลับไปกัดก้อนเกลือกับเมียของแกกิน' คำบัญชาจากบิดาของจรัสฟ้าซึ่งในอีกฐานะคือเจ้านายของฐากูรออกคำสั่งเหี้ยม แม้จะรู้สึกหนักใจ เพราะเปรมฤทัยคือผู้หญิงที่เขารัก ส่วน จรัสฟ้า เธอคือผู้ชี้ชะตาชีวิตของเขา 'ครับ ผมจะแต่งงานกับคุณจรัสฟ้า' แม้ว่าจะได้แต่งงานกัน แต่ก็ใช่ว่าจรัสฟ้าจะได้รับความรักจากฐากูรเหมือนเก่า เขายังคงแวะเวียนไปหาเปรมฤทัย ไปดูแลเมียที่เขารัก ในขณะที่จรัสฟ้านั้นกำลังนั่งรอให้เขากลับบ้านทุกวันทุกเวลา สองเท้าน้อยก้าวออกมาจากบ้านหลังใหญ่อย่างคนหมดอาลัยในความรู้สึกแล้วในตอนนี้ ที่พึ่งสุดท้ายคือการกลับมาบ้าน เพราะเผลอคิดว่าบ้านจะเป็นเซฟโซนให้ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ ตั้งแต่ ปู่ย่า ตายายรวมไปถึงแม่จากโลกนี้ไป เธอก็เหมือนกลายเป็นส่วนเกินในครอบครัวของบิดา ท้องฟ้าในยามเย็นเช่นนี้แทนที่จะมีแสงแดดส่องประกาย ตอนนี้กลับถูกปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีคลำก้อนใหญ่ ผู้คนมากมายเริ่มหาที่หลบฝนเพราะอีกไม่กี่นาทีก็คงจะมีสายฝนลูกใหญ่โปรยลงมา ซ่า น้ำตาแห่งความเสียใจที่อัดอั้นมานานค่อย ๆ ไหลออกมา ดูเหมือนชีวิตของเธอตอนนี้ช่างไร้ค่า มองไปทางไหนก็ไม่เจอแม้แต่แสงสว่าง สองข้างทางเริ่มเปล่าเปลี่ยว มีเพียงไอวาคนเดียวที่เดินร้องไห้อยู่ท่ามกลางสายฝนซึ่งกำลังโหมกระหน่ำลงมา "ฮึก ฮือ"เธอร้องจนจมูกแดงก่ำ ในขณะที่สองเท้ายังคงก้าวเดินไปข้างหน้า ท่ามกลางสายตาที่พร่ามัว ปี๊น~ เสียงแตรที่ดังขึ้นมาก่อนรถคันหรูที่เธอคุ้นเคยจะจอดเทียบขวางไม่ให้เธอเดินต่อไปได้ "ไอวา ขึ้นรถ"สองมือเล็กกำหมัดแน่นเมื่อเห็นแฟนหนุ่มของตัวเองโผล่หน้าออกมาจากนอกตัวรถ "ไอวา ฉันบอกให้เธอขึ้นรถ"หญิงสาวยังเอาแต่ยืนนิ่งไม่หันมามองหน้า ทำให้กระทิงตระหนักได้ว่าความผิดครั้งนี้มันมาจากเขา ร่างสูงใหญ่เปิดประตูก้าวขาลงมาจากรถ ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของแฟนสาว ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมือไปคว้ามือของเธอมากุมเอาไว้ เอ่ยพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟัง "ไอวาครับ ขึ้นรถนะ กลับไปคุยกันที่ห้อง นะครับคนดี"น้ำเสียงของเขาฟังดูนุ่มนวล แต่ถ้าหากมองลึกเข้าไปในดวงตาของกระทิงในตอนนี้มันมีหลากหลายความรู้สึกจนเธอไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ แรงบีบตรงบริเวณข้อมือเล็กทำให้สุดท้ายไอวาต้องก้าวขาขึ้นไปนั่งตำแหน่งด้านข้างคนขับอย่างช่วยไม่ได้ ดวงตาแดงก่ำได้แต่มองร่างสูงใหญ่ที่เปียกชุ่มในตำแหน่งคนขับด้วยความปวดใจ ในขณะที่เขาคว้ามือของเธอมากุมไว้อย่างที่เคยทำในตอนขับรถ "กลับไปคุยกันที่ห้องของเรานะ"เขาล้างผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหยาดน้ำบนใบหน้าของเธอออก "ทิงสั่งชาบูให้ไปส่งที่ห้องแล้วนะ วาบ่นอยากกินมาหลายวันแล้วไม่ใช่เหรอ"ไอวาไม่รู้เลยว่าเธอควรจะเริ่มพูดกับแฟนหนุ่มด้วยประโยคอะไรก่อนดี ตอนนี้สมองของเธอมันหนักอึ้งไปหมด ตั้งแต่ที่เธอได้ยินว่าเขาพาผู้หญิงคนอื่นเข้าไปทำกิจกรรมร้อนแรงในห้องน้ำของมหาลัย "วันศุกร์ตอนเย็นคุณแม่เรียกให้ไปทานข้าวเย็นที่บ้านใหญ่ด้วยนะ ท่านบอกว่าคิดถึงวา อยากเจอว่าที่ลูกสะใภ้" "กระทิง" "หือ" "เราเลิกกันดีไหม"บรรยากาศภายในห้องหอของบ่าวสาวอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกุหลาบขาวอันบริสุทธิ์ซึ่งถูกจัดตกแต่งเอาไว้ตามมุมต่าง ๆ ภายในห้อง หากมองไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ตรงหน้าก็จะพบว่ามีกลีบกุหลาบสีแดงโรยเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่เอาไว้"พ่อกับแม่ขอให้ลูกทั้งสองคนครองรักกันด้วยความเข้าใจ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยซึ่งกันและกันนะลูก""ครับ ค่ะ"ไอวาและคริสต์ก้มลงกราบเท้าของผู้ทรงอำนาจอย่างคุณรังสิมันต์"ส่วนแม่นั้น ขอให้ลูกทั้งสองใช้ปัญญา สติ และความรักในการประคับประคองชีวิตคู่ให้มีความสุขตลอดไป และนับจากนี้ไปขอให้ดูแลกันให้ดี และเมื่อมีปัญหาอะไร ขอให้นึกถึงวันที่รักกันนะลูก""ครับ ค่ะ"คู่บ่าวสาวก้มลงกราบเท้าของผู้ใหญ่ที่เคารพรัก"เอาล่ะ พ่อกับแม่มาส่งหนูได้เพียงเท่านี้นะไอวา ที่เหลือต่อจากนี้ก็ฝากคุณคริสต์ช่วยดูแลลูกสาวของผมต่อด้วยนะครับ คุณรู้ใช่ไหมถึงแม้ว่าไอวาจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของผม แต่ผมก็รักเด็กผู้หญิงคนนี้เปรียบเสมือนลูกสาวแท้ ๆ ""ครับ ผมทราบ ผมจะไม่มีวันทำให้คุณพ่อต้องผิดหวังในตัวผม""นี่แหละสิ่งที่ผมต้องการได้ยินมากที่สุด""แม่กับพ่อขอตัวก่อนนะลูก ไอวา อย่าลืมนะ แม่กับพ่ออายุก็จะเข้าเลขหกแล้ว หวังว่าแม่กับพ
บรรยากาศภายในงานแต่งงานช่วงเช้าของไอวาและคริสต์เป็นไปได้อย่างเรียบง่าย เจ้าสาวอยู่ในชุดไทยสีขาวเด่นสง่าราวกับนางในวรรณคดีไทย ส่วนฝ่ายชายเองก็สวมชุดไทยสีเดียวกันเรียกได้ว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างหาที่ติไม่ได้แม้พิธีแต่งงานช่วงเช้าจะถูกจัดขึ้นด้วยความเรียบง่าย มีเพียงเพื่อนและแขกคนสนิทไม่กี่คนที่ได้ถูกเชิญให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในการแลกแหวนแต่งงานในครั้งนี้ แต่มีอีกหนึ่งสิ่งที่คุณต้องพากันเบิกตาค้างด้วยความตกใจนั่นก็คือสินสอดที่ฝ่ายชายได้เตรียมมาให้กับเจ้าสาว'ข้าพเจ้า คริสต์ ชาร์ค ขอมอบทรัพย์สินทั้งหมดที่ข้าพเจ้ามีให้กับนางสาวไอวาแต่เพียงผู้เดียว'พินัยกรรมที่เป็นลายลักษณ์อักษรของชายหนุ่มเนื้อหาบทความตามข้างต้น เงินสดสิบล้านบาทไทยที่วางอยู่ตรงหน้า เครื่องเพชรมูลค่าหลายสิบล้านว่างเด่นสง่าส่องแสงประกายวิววับ อีกทั้งโฉนดที่ดินหลายสิบใบ บ้านและอสังหาริมทรัพย์ รถหรูรวมไปถึงทรัพย์สินส่วนอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งไม่สามารถตีเป็นมูลค่าที่แน่ชัดได้ซึ่งเขาได้ยกมอบเป็นสินสอดให้กับไอวาโดยไม่ขอรับคืนในครั้งนี้ทำเอาเจ้าสาวแทบจะเป็นลมล้มพับไปเธอไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยขอแต่อย่างได้ สินสอดทุกอย่างเขาเป็นฝ่ายจั
เช้าวันรุ่งขึ้นไอวาได้เดินทางพาว่าที่สามีมายังบ้านผู้ใหญ่ที่เธอเคารพรักเหมือนผู้ให้กำเนิด ซึ่งตลอดเวลาที่เธอย้ายไปอยู่ต่างประเทศก็ยังคงติดต่อมาหาถามไถ่ถึงสารทุกข์สุกดิบ และการเดินทางมาหาครั้งนี้เธอก็ได้โทรแจ้งท่านให้ท่านได้ทราบตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น"หนูไอวา""คุณป้า"คุณหญิงรัศมีที่ยืนรออยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าอ้าแขนโอบกอดหลานสาวคนสวยด้วยความคิดถึง ซึ่งเป็นภาพที่ทุกคนต่างจดจำมันได้แม้ว่าครั้งหนึ่งนานเป็นปีที่ไอวาจะไม่ได้เดินทางมาที่นี่"คิดถึงจังเลยลูก""หนูก็คิดถึงคุณป้าเหมือนกันค่ะ"แววตาของเด็กสาวมองผู้ใหญ่ทั้งสองที่เธอยังรักและเคารพด้วยความคิดถึง"สวัสดีค่ะคุณลุง สบายดีนะคะ""ลุงสบายดี หนูเองก็สบายดีใช่ไหม""หนูสบายดีค่ะ"ไอวายิ้มหวานให้กับผู้ใหญ่ทั้งสอง ก่อนเธอจะแนะนำชายหนุ่มขางกายให้ได้รู้จักกับผู้ใหญ่ที่เธอรักและนับถือ"คุณคริสต์คะ ท่านคือคุณลุงรังสิมันต์กับคุณป้ารัศมี ท่านทั้งสองเป็นผู้ใหญ่ที่ฉันเคารพรักค่ะ"ต่างฝ่ายต่างมองหน้า ก่อนมาเฟียหนุ่มจะเอ่ยแนะนำตัว"สวัสดีครับ ผม คริสต์ ชาร์ค เป็นว่าที่สามีของไอวาครับ""อะ...อะไรนะ""ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณคริสต์"ผู้ทรงอิทธิพลของเมืองไทย
ประเทศไทย"ไอวา""ใยไหม"เพื่อนรักทั้งสองคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมากนึ่งปีเต็มพุ่งเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง ใยไหมซึ้งจนน้ำตาไหลโอบกอดร่างของไอวาเอาไว้แน่น"คิดถึง"เพียงคำเดียวมันช่างเต็มไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งระหว่างเพื่อรักทั้งสองคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานทั้งสองคลายอ้อมกอดออกจากกัน ต่างฝ่ายต่างเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของกันและกันมันช่างเป็นภาพที่ดูน่าเอ็นดูในสายตาของผู้มอง"เป็นยังไงบ้าง คราวหน้าคราวหลังอย่าหนีหายไปแบบนี้อีกนะ"กว่าไอวาจะยอมติดต่อกลับมา เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบจะครบหนึ่งปีเต็ม "ขอโทษนะ ต่อไปฉันจะไม่ทำให้เธอกับทุกคนต้องเป็นห่วงอีกแล้ว"ไอวามองไปยังร่างสูงใหญ่ของเพื่อนสนิทอีกสองคนที่ยืนส่งยิ้มมาให้เธอ"ว่าไงชอปเปอร์ เด่นคุณ พวกนายสบายดีนะ""ฉันสองคนสบายดี ไปอยู่ที่นั่นนานเป็นปีเธอดูสวยมากขึ้นนะ""อะ..แฮ่ม"ทุกสายตาหันมองไปยังร่างสูงใหญ่ของมาเฟียหนุ่มที่ยืนเด่นสง่าอยู่ข้างไอวา ชอปเปอร์หน้าถอดสีขึ้นมาทันทีพอ ๆ กับเด่นคุณที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตารังสีอันตรายแผ่ออกจากร่างสูงใหญ่ทำให้ผู้โดยสารคนอื่น ๆ รวมไปถึงเพื่อนสนิทอีกสามคนเริ่มรู้สึกหวั่นใจ"ไม่ทำแบบนี้สิคะคุณคริสต์ ดูสิเพ
ไอวารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงบ่ายของเช้าวันถัดไป สิ่งแรกที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นก็คือใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มซึ่งกำลังนอนฟุบอยู่บนเตียงคนไข้คอยกุมมือเธอไม่ไปไหน แต่ทันทีเมื่อเธอเริ่มขยับตัวชายหนุ่มก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา"ไอวา คุณฟื้นนานแล้วเหรอครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า"ชายหนุ่มเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงร้อนรนก่อนจะเอื้อมมือไปกดปุ่มเรียกพยาบาลในขณะที่มืออุ่นร้อนอีกข้างคอยกุมมือของเธอเอาไว้"เป็นยังไงบ้างครับ""ฉันทนได้ค่ะ ว่าแต่คุณคริสต์ล่ะคะ เป็นยังไงบ้างได้รับบาดเจ็บตรงไหนไหม"ริมฝีปากซีดเซียวเอ่ยถาม ไอวากวาดสายตามองไปตามร่างกายของชายหนุ่ม เธอรู้สึกโล่งอกผายลมออกมาจากริมฝีปากเมื่อไม่เห็นว่าร่างกายของเขาเกิดแผลตรงบริเวณส่วนไหน"มีอะไรหรือเปล่าคะ คุณคริสต์มองหน้าฉันแบบนั้นทำไม""ผมมีอะไรบางอย่างยากจะพูด หลังจากคุณหมอเข้ามาตรวจดูอาการของคุณนะครับไอวา"ชายหนุ่มบอกเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่หมอและพยาบาลเปิดประตูเดินเข้ามามาเฟียหนุ่มปล่อยให้หมอวัยกลางคนตรวจดูอาการของไอวาอย่างถี่ถ้วนโดยมีเขาคอยยืนเฝ้าอยู่ไม่ห่างไปไหน"โชคดีนะครับที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ ถ้าหาก
บรรยากาศหน้าห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยความตึงเครียด ร่างสูงใหญ่ของมาเฟียหนุ่มเสื้อราคาแพงของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยคราบเลือดเอาแต่เดินเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าประตูด้วยความร้อนใจ ต่างจากผู้ชายอีกคนที่เอาแต่นั่งนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรสมองของกระทิงในตอนนี้หนักอึ้งราวกับมีค้อนปอนหนัก ๆ ถ่วงเอาไว้ เขาเป็นคนล้วงเอาปืนจากลูกน้องของคริสต์ยิงโทนี่ ในขณะที่หญิงสาวอย่างไอวาใช้ร่างกายของตัวเองบังกระสุนจากปลายกระบอกปืนของโทนี่ไม่ให้โดนคนที่เธอรัก'ฉันไม่ได้รักนายแล้วกระทิง ฉันรักคุณคริสต์ไปแล้ว'เขาเชื่อคำพูดทุกอย่างของเธอแล้ว สิ่งที่เธอทำเพื่อปกป้องผู้ชายคนนั้นมันเป็นเครื่องมือช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดี ผู้หญิงที่ยอมเอาตัวเองไปเสี่ยงกับความตายเพื่อให้คนรักปลอดภัย ถ้าไม่รักกันจริงก็คงไม่มีใครยอมทุ่มเทได้ขนาดนี้ครืดเสียงบานประตูห้องฉุกเฉินที่เปิดออก ก่อนร่างสูงใหญ่ของคุณหมอวัยกลางคนจะเดินออกมา ทั้งคริสต์และกระทิงต่างวิ่งตรู่เข้าไปหาด้วยสีหน้าเป็นกังวล"เธอเป็นยังไงบ้างครับ""คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่กระสุนยิงไม่โดนจุดสำคัญ ตอนนี้ผมได้ผ่าเอากระสุนออกเรียบร้อยแล้วครับกำลังจะพาไปห้อง







