Sun Part
พวกคุณเชื่อในรักแรกพบไหมครับ? ถ้าถามผม ผมไม่เชื่อครับ เพราะผมคิดว่ามันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น มากกว่าการที่ได้พบเพียงสบตาแล้วจะเกิดรักขึ้นมาได้นั้นมันน่าตลก สิ่งที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของผม เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยลืมเลื่อนมันได้เลยแม้แต่น้อย แม้วันเวลาจะเลยผ่านมา 12 ปี แล้วก็ตาม...
ภาพของเด็กชายตัวอ้วนกลมที่นั่งอยู่บนพื้นทราย ฉากหลังนั้นเป็นเพียงดอกดาวกระจายธรรมดาๆ แต่กลับยิ่งทำให้ภาพตรงหน้าน่าดูมากยิ่งขึ้น แม้ว่าคนที่เป็นจุดศูนย์กลางของภาพนั้นกำลังนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น ดวงตาเล็กๆ นั้นแดงช้ำและเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เงยหน้าขึ้นมองพวกเขาทีละคน ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและเว้าวอน
น่าแกล้งชะมัด
ผมทำได้เพียงยืนมองอยู่เฉยๆ จนกระทั่งมีคนๆ หนึ่งเทราดน้ำหวานบนตัวเขา ทำให้ใบหน้านั้นนิ่งอึ้งและเผือดสี
ไม่สิ.... มันต้องไม่ใช่สีนี้
สิ่งที่ผมทำคือการมุ่งตรงไปที่เด็กคนนั้น ดึงลากให้ลุกตามตัวเองมา ก่อนจะผลักลงไปในน้ำ ยืนมองนิ
“เฮ้อ เพลาๆ ลงบ้างเถอะงานน่ะ” ผมส่ายหัวไปมาให้กับคนรักที่บ้างานหนัก เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้า แต่พอเห็นว่าผมมา เจ้าตัวก็ยกยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินเข้ามาสวมกอดแนบแน่น พรมจูบไปทั่วใบหน้า“อื้อออ ไม่อายลูกน้องบ้างรึไง อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วนะ” ว่าพลางหันหน้าหนีริมฝีปากหนาๆ ที่ชักได้คืบจะเอาศอก เริ่มมาเล็มฉกชิมริมฝีปากของผมต่อแล้ว“คุณริกกี้ คุณเห็นอะไรรึเปล่า”“ไม่เห็นเลยครับท่าน” ลูกน้องของคนรักเอ่ยปากตอบพร้อมก้มหน้านิ่ง ด้วยรู้ดีว่าท่านประธานใหญ่ยามได้อยู่กับภรรยาจะแปลงร่างจากราชสีห์ที่ดุดันกลายเป็นแมวเหมียวตัวเชื่อง ว่านอนสอนง่ายในบัดดล“อย่างนี้ทุกที มึงน่ะ 35 แล้วนะ” พูดแล้วยกมือขึ้นตีหน้าผากคนรักแปะๆ แต่เจ้าตัวกลับหลับตาทำหน้าฟินซะอย่างนั้น จนเกิดอาการหมั่นไส้แล้วดึงทึ้งเส้นผมของมันแทน เจ้าตัวเบ้หน้าเล็กน้อย แล้วก้มกัดแก้มผมเป็นการเอาคืน“นี่อยู่ในห้องทำงานนะครับเมีย ไม่มีใครเห็นหรอก”“แล้วจะบอกว่าที่ยืนหัวโด่อย่างคุณริกกี้นี่ไม่
2 ปึถัดมา...“บอสครับ คุณซันนี่มาครับ”“ให้เข้ามาได้เลยครับ พี่คมเอาอันนี้ไปจัดการต่อทีครับ” ผมร้องบอกพร้อมกับส่งเอกสารให้พี่ชายคนสนิท พี่คมยกยิ้มรับน้อยๆ แล้วจึงขยับเข้ามาใกล้ หยิบเอกสารออกไปจากมือของผม เปิดดูรายละเอียดอยู่ชั่วครู่แล้วจึงปิดลงตามเดิมตอนนี้ผมมีผู้ช่วยถึง 2คนเลยครับ ทั้งพี่คมและลูคัส ถ้าให้เปรียบก็คงจะเหมือนรักยม เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย พอคนนั้นออก คนนี้เข้า เอางานมาเพิ่มให้ไม่มีให้หยุดพัก น่ารักมากลูกน้องผม“น็อค น็อค คิดได้รึยังว่าจะไปไหน?” คนรักส่งเสียงแทนการเคาะประตู พร้อมกับร้องถามไปด้วย ผมที่กำลังก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่จึงตอบกลับไปเบาๆ“ยังเลย”“ช้านะเรา”“อืมม ยังคิดไม่ออก” ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงปีใหม่ครับ บริษัทของเราทั้งสองคนจัดวันหยุดยาวให้กับพนักงานถึง 2 สัปดาห์เต็มๆ สาเหตุก็เพราะ ผู้บริหารอยากจะไปสวีทกันสองคน.....“ที่เนเธอร์แลนด์ก็ดีนะครับคุณหนูเบส”“ไม่ครับบอส ที่เวนิสด
ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ที่ไทยครับ เนื่องจากนี่เป็นตรุษจีนแรกของคนรัก ป๊าจึงเรียกตัวกลับเพื่อทำพิธีไหว้บรรพบุรุษด้วยกันเป็นครั้งแรก“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เมีย ขยับอีกนิด”“ไม่ไหวแล้ว มันใหญ่ไป”“น่า อีกนิดนะครับ นะ”“อะ อึก โอ้ยยย จะตายอยู่แล้ว”“อย่าพึ่งงอแงสิครับ พึ่งทำไปไม่เท่าไหร่เอง”“ก็ใครจะไปเหมือนมึงกันล่ะ ไอ้คนบ้าพลัง”“ฮึฮึ ผัวมีพลังเยอะแค่ไหน ก็พิสูจน์เองมาแล้วไม่ใช่รึไง”“เลิกพูดเลย ทำเร็วๆ เข้า”“คร้าบๆ ๆ ๆ”คนรักร้องตอบรับคำสั่ง โดยที่ผมนั่งแปะอยู่ที่พื้น ตอนนี้เรากำลังทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่อยู่ครับ ห้องที่ทำก็ไม่ใช่ของใคร ของผมเองนี่แหละ แต่ปีก่อนๆ ผมให้คนอื่นๆ มาช่วยกันทำไงครับ แต่ว่าปีนี้คนรักขันอาสามาช่วยผมทำกันสองคน ซึ่งผมก็พึ่งจะรู้เอาวันนี้เอง ว่าเตียงของผมแม่งหนักเหี้ยๆ ต้องใช้กี่คนแบกถึงจะขยับมันไหว ไอ้ที่ขยับย้ายเมื่อกี้นี้แรงไอ้ซันล้วนๆ“งื้อออออออ สกปรก!” พ
“เมียครับ”“หืมมม”“ตื่นเร็ว”“อื้อออ”“เร็วครับ”“จะนอนนนนน” ร้องบอกก่อนจะซุกผ้าห่มหนี คลุมหน้าคลุมตาจนมิด“ถ้าไม่ตื่นจะเล่นผีผ้าห่มแล้วนะ”“ก็เล่นไปดิ” ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ นอนหลับตานิ่งๆ เมื่อได้ยินคำอนุญาต จึงไม่รอช้าที่จะทำตามใจอยาก เปิดผ้าห่มขึ้นจากปลายเท้า ยกเท้าข้างหนึ่งของคนรักขึ้นกดจูบอย่างไม่นึกรังเกียจ รอยแผลเป็นจางๆ บางเบาจนแทบมองไม่เห็นถ้าไม่สังเกต ทำให้ใจคนมองรู้สึกผิดไปวูบหนึ่ง ที่ทำให้ร่างบางนั้นเจ็บตัวและมีแผลเป็นแบบนี้ แต่เพียงไม่นานก็สลัดทิ้งไป ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะไล่ลิ้มฉกชิมจากปลายเท้าขึ้นมาที่หน้าแข้งและต้นขา ก่อนจะไปจบที่ช่องทางรักสีแดงก่ำเนื่องจากการใช้งานอันหนักหน่วงปลายลิ้นร้อนแตะลงไปเบาๆ แต่เรียกให้คนที่นอนหลับอยู่ทะลึ่งตัวลุกพรวด และอย่างไม่ทันระวัง เพราะนอนคว่ำหน้า เมื่อตกใจจึงยันตัวลุกขึ้นมาอยู่ในท่าคลานเข่า บั้นท้ายอัดกระแทกเข้ากับใบหน้าของคนรักเข้าเต็มๆผมกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะค่อ
“มันน่าไหม?”“อย่าบ่นน่า”“จะไม่ให้บ่นได้ยังไง” ว่าพร้อมทำหน้ายุ่งขัดใจ เมื่อมองบาดแผลบนหลังมือของคนรัก ฝ่ามือใหญ่ก็ยังคงขยับยุ่งวุ่นวายจับสำลีแน่น แตะลงบนแผลที่หลังมือเบาๆ“เพราะเป็นห่วงหรอก” พูดพร้อมยกยิ้ม นั่งเท้าคางข้างหนึ่ง มองจ้องคนรักนิ่งๆ ขณะที่อีกคนตั้งอกตั้งใจทำแผลให้อย่างใส่ใจ“แต่ผัวไม่อยากให้เมียเจ็บตัวแบบนี้”“ทำอย่างกับปกติที่ทำกันไม่เจ็บ?”“ก็เจ็บ แต่เป็นเจ็บแบบมีความสุข เป็นเจ็บแบบสมยอม ผัวเป็นคนสร้าง ไม่ใช่แผลจากอุบัติเหตุแบบนี้”“ขี้บ่นจังครับ ยังไม่ทันแก่เลยนะ”“ก็เป็นห่วงนี่ ผิดด้วยหรอ” พูดเสียงเศร้าเหมือนหมาหงอย พร้อมกับเก็บอุปกรณ์ไปพลาง คนที่นั่งเท้าคางจึงโน้มตัวลงเล็กน้อย กดจูบที่ริมฝีปากหนาเบาๆ“ขอบคุณครับ” คนรักนิ่งไป ก่อนจะจับคว้าต้นคอของผม รั้งให้เข้าไปใกล้ แล้วกดริมฝีปากลงมาแรงๆ เพียงไม่นานก็ผละออกไป“เดี๋ยวได้เจ็บอีก” พูดทิ้งไว้แค่นั้น ก่อนจะผุดกายลุกขึ้น ถอดเสื้อออกจากตัวช้าๆ พร้อมกับกางเกง โยนลงตะกร้าอย่างไม่ใส่ใจ เดินไปที่ห้องน้ำ ซึ่งเป็นกระจกใสที่ใช้กระจกฝ้าปิดบังช่ว
Bass Partเกาะสวรรค์ที่ใครๆ ก็อยากมาเยือน มัลดีฟส์....ครับ ตอนนี้ผมกับคนรักเลือกที่จะมาฮันนีมูนที่เกาะสวรรค์ของคู่รัก เรียวขาก้าวยาวๆ เดินทอดน่องไปตามชายหาดสีขาวสะอาดตา มือถูกกุมกระชับไว้ด้วยคนรัก รั้งให้เดินก้าวเท้าในจังหวะที่เท่ากัน“ชอบรึเปล่า?”“อื้อ”จุ๊บ“อื้อออ เดี๋ยวคนเห็น” ร้องบอกพร้อมกับผลักอกหนาให้ออกห่างจากตัว แต่คนรักกลับยิ้ม หัวเราะร่า“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ใครๆ เขาก็ทำ ทั้งกอด ทั้งหอม ทั้งจูบ แถมยังมีคนเอา- โอ้ย!! เมียยยยย ผัวเจ็บ” ร้องบอกเสียงออดอ้อน เมื่อยังไม่ทันพูดจบประโยคดี เมียรักก็ฟาดฝ่ามือเข้าที่กลางหลังดัง อั่ก! จนทำให้หลังแอ่นขึ้นมาทันที“พูดมาได้ไม่อายปาก แล้วรู้ได้ยังไงว่ามันจะมีคนที่ทำแบบนั้นกันน่ะ”“รู้สิ” คำตอบรับของคนรักทำให้ฉงนสงสัย ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ คนรักจึงทำการย้ำอีกครั้ง“นั่นไง” ว่าพลางชี้นิ้วเข้าไปที่ป่าด้านข้าง เมื่อมองตามไปก็ไม่พบอะไรนอกจากต้นไม้ที่สั่