แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: Phat_sara
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-04 16:27:32

​“บ้านฉันอยู่ไกลค่ะ”

“โอเค”

“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

“อื้ม ถ้างั้นก็มีสองทางเลือกจะ ให้ฉันไปส่งที่บ้านเธอหรือเธอจะไปนอนบ้านฉัน”

ผมถามไปด้วยน้ำเสียงกดดันเพราะต้องการแกล้งเธอ เด็กมันน่าแกล้ง พอผมพูดแบบนั้นก็ยิ่งดูเหมือนจะทำให้เธอทำตัวไม่ถูก

“...ก็ได้ค่ะถ้าไม่เป็นการรบกวนนะคะ” เธอตอบผมมาด้วยน้ำเสียงสั่นแล้วก็หลบสายตา

“อื้ม ไม่รบกวนหรอกที่บ้านฉันมีหลายห้อง หรือจะนอนห้องฉันก็ได้”

“ฮะ! ไม่ใช่นะคะฉันไม่ได้ตกลงแบบนั้น” พอผมพูดจบเธอก็เบิกตาโพลงแล้วก็ร้องออกมาเสียงดังด้วยความตกใจจนกล้าที่จะสบตากับผมแล้ว

“ฮ่า ๆๆ ฉันล้อเล่นน่า ไปเถอะขึ้นรถ” ผมหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ แกล้งยัยเด็กนี่สนุกดีว่ะ

พอพูดแบบนั้นจบเธอก็ยืนนิ่งอยู่สักพั ผมเลยพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เธอขึ้นรถ คำพูดซูกัสดังแว่วเข้ามาในหัวผม ถ้าเธอพยายามทำตัวให้ดูธรรมดาที่สุดเพื่ออัพราคาจริง ๆ ผมว่าเอารางวัลตุ๊กตาทองให้ได้เลยครับ ท่าทางเธอไม่ได้เฟคเพราะฉะนั้นตัดคำพูดของซูกัสออกไปจากสมองได้เลย

“คุณคะ...” ผมนั่งในรถแล้วส่วนเธอพอเปิดประตูรถเสร็จก็ยืนมองที่เบาะแล้วก็เรียกผมเสียงเบา

“ว่าไง ขึ้นมาสิ” ผมถามขึ้น ส่วนยัยเด็กหน้าสวยก็เอานิ้วชี้มาที่เบาะอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

“เก็บให้หน่อยได้ไหมคะ” อ้อ ปืนครับผมลืมว่าโยนมาที่เบาะด้านข้าง

“อ้อขอโทษที กลัวเหรอ” ผมพูดแล้วก็หยิบปืนไปเก็บที่ลิ้นชักหน้ารถให้เธอ

“ขอบคุณค่ะ” เสียงหวานตอบกลับมาแล้วก็ค่อย ๆ เข้ามานั่งในรถของผมด้วยความเกร็ง จะเกร็งอะไรนักหนาก็ไม่รู้เพราะปกติผู้หญิงของผมทุกคนแทบจะกระโดดขึ้นมานั่งด้วยซ้ำ

“อื้ม ตามสบายนะไม่ต้องนั่งเกร็ง เอาปืนออกให้แล้วมันไม่ยิงก้นเธอแน่ ๆ” ผมบอกยัยเด็กหน้าสวยที่หันขวับมามองผม แว็บหนึ่งผมเห็นแววตาเอาเรื่องของเธอ แต่ก็แค่แว็บเดียวเท่านั้นล่ะครับ

ผมเห็นเธอเกร็งก็เลยพยายามทำให้บรรยากาศมันดีขึ้นเท่านั้นไม่ได้ตั้งใจจะทะลึ่งอะไรหรอก บอกแล้วไงครับ น้องเขาดูเป็นเด็กดี ปล่อยให้น้องเขาไปมีอนาคตที่สดใสดีกว่า

“บ้านอยู่แถวไหนล่ะ”

“แถว XXX ค่ะ”

“ไหนว่าไกลไง ใกล้ ๆ แค่นี้เอง” พอเธอตอบกลับมาผมถึงได้รู้ว่าใกล้แค่นี้เอง แค่ 4-5 กม. จากที่นี่

“ก็ไกลนะคะ ยิ่งคนที่ไม่รู้จักกันต้องมารบกวนแบบนี้ต่อให้กิโลเดียวก็ไกลอยู่ดี” เธอตอบมาแบบเกร็งไม่เลิก แต่ก็ยังดีที่ประโยคคำพูดมันยาวขึ้นมาบ้าง

“งั้นก็รู้จักกันเลยสิจะได้ใกล้ขึ้น”

“คะ?”

“เธอชื่ออะไร” ผมถามต่อ เห็นหน้าเธอบ่อย ๆ เรียกได้ว่าเจอทุกครั้งที่มาผับนี้นั่นแหละครับ ผมก็พอจะรู้จักพวกพนักงานเสิร์ฟของร้านนี้อยู่บ้างแต่กับเธอที่มาเสิร์ฟโต๊ะผมบ่อยอยู่เหมือนกันผมกลับไม่เคยรู้จักชื่อเลย

“ชื่อนับเงินค่ะ” นับเงินเหรอ

... ชื่อน่ารักว่ะ

“ชื่อเธอแปลกดี ฉันชื่อคริช จะเรียกพี่ก็ได้นะ” ผมหันไปบอกเธอทำให้อีกฝ่ายทำหน้าเหวอ ยัยเด็กนี่เคยมีแฟนมาบ้างไหมวะทำไมดูเกร็งต่อหน้าผมจังเลย

“ค่ะ เรียกคุณคริชดีกว่าค่ะ คุณเป็นลูกค้า”

“พวกพีอาร์ที่ร้านก็เรียกว่าพี่ ไม่เห็นจะเป็นไร” ผมแย้งกลับไป มีคนเรียกคุณคริชแล้วนึกไปถึงไอ้คุณพอร์ชครับ ไอ้อดีตเสี่ยที่กลับใจไปเป็นแมว เลี้ยงเด็กไว้อึ๊บแล้วให้เด็กเรียกคุณพอร์ชทุกคน ผมกลัวคนคิดว่าผมสันดานเหมือนมัน อันที่จริงผมยกเว้นให้เรียกคุณได้นะ แต่สำหรับสาว ๆ ที่เป็นคู่นอนผมไม่ให้เรียกแน่นอน

“ก็นั่นพีอาร์แต่ฉันเป็นเด็กเสิร์ฟนี่คะ” เธอยิ้มบาง ๆ แล้วก็ตอบผม แต่คำตอบโคตรขัดหูขัดใจ

“เด็กเสิร์ฟไม่มีสิทธิเรียกใครว่าพี่รึไง?” ผมหันไปถามในทันที

“เปล่าค่ะ แค่คิดว่าไม่ควรทำตัวเทียบลูกค้า ต้องให้เกียรติลูกค้าน่ะค่ะ”

“ถ้างั้นอยู่นอกร้านก็เรียกพี่ โอเคไหม” ผมหันไปบอกเธอ ทำให้เธอมองหน้าผมอึ้ง ๆ ก็โอเคครับผมหล่อและยัยเด็กนี่ก็มองผมด้วยแววตาที่แอบชอบมานานแล้ว แต่พอได้อยู่ใกล้ก็ควรจะเลิกเกร็งแล้วก็พยายามทำให้ผมสนใจเธอเหมือนผู้หญิงคนอื่นสิวะ

“จะดีเหรอคะ” เฮ้อ! ทำไมดูเงียบ ๆ แต่มีความดื้อแอบแฝงอยู่แบบนี้นะยัยเด็กน้อย จากที่จะปล่อยให้ไปมีอนาคตที่สดใสใจผมก็เริ่มจะเขวแล้วครับ สารภาพตรง ๆ ว่าผมกำลังพยายามห้ามใจไม่ให้คิดเกินเลย ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าเธอน่าฟัดยิ่งน่าฟัดอยู่ด้วย

“ไม่เรียกพี่ก็ได้ แต่รู้ไหมว่าพี่มีเด็กในสต็อกเยอะ แล้วทุกคนก็เรียกว่าคุณคริชเหมือนกันหมด อยากเรียกแบบนั้นก็แล้วแต่นะ เหมือนเราเป็นเด็กพี่ดี” ผมหันไปบอกด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้นับเงินหน้าเหวอแล้วก็มองผมด้วยแววตาอึ้ง

“เรียกพี่ก็ได้ค่ะ” นับเงินตอบกลับมาแล้วก็มองผมไม่วางตา ซึ่งเธอจะมองผมด้วยแววตาแบบไหนก็ไม่เป็นไรหรอกครับขอแค่อย่าเรียกผมว่าคุณคริชก็พอ ผมไม่อยากโดนเรียกคุณแบบไอ้ห่าพอร์ช

“จะถึงแล้วซอยไหนล่ะ” ขับมาแค่ไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงบริเวณที่นับเงินบอกผมแล้ว แต่มันมีซอยเยอะไปหมด

“จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ” นับเงินชี้บอกให้ผมจอดข้างทางตรงด้านหน้าผมเลยชะลอรถ

“แล้วบ้านหลังไหนล่ะ”

“ต้องเข้าซอยไปอีกร้อยเมตรค่ะ”

“เดี๋ยวพี่เข้าไปส่งหน้าบ้านเลย ซอยไหนซ้ายหรือขวา”

“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีซอยมันแคบ เขาจอดรถสองฝั่งเลย เป็นซอยตันไม่มีที่กลับรถด้วย เดี๋ยวฉันเดินเข้าไปเองค่ะ ถึงแล้วค่ะจอดตรงนี้ได้เลย”

“มันอันตรายเดี๋ยวเดินเข้าไปส่ง” พอเธอบอกแบบนั้นผมก็จอดเทียบที่ข้างทาง

“ไม่เป็นไรค่ะ เดินเข้าไปแค่ร้อยเมตรเอง ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” เธอรีบห้ามผมไว้แล้วก็ยกมือไหว้ขอบคุณ

“แน่ใจเหรอ มันมืดมากเลยนะ” ต่อให้เธอบอกแบบนั้นผมก็ไม่วางใจอยู่ดี ซอยมันมืดครับ ไม่มีไฟจากเสาไฟฟ้าเลยสักดวง

“แน่ใจค่ะ ฉันเดิน...”

“แทนตัวดีๆ หน่อย ฉันแบบนี้มันแสลงหู” ผมยกมือห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ เพราะผมไม่ชอบให้ใครมาพูดกับผมแล้วแทนตัวว่าฉัน มันระคายหู

“ค่ะ...นับเดินเข้าทุกวันค่ะ ตั้งแต่เด็กแล้วไม่มีอะไรน่ากลัวแน่นอนค่ะ” พอเธอบอกแบบนั้นผมก็เลยพยักหน้ารับ

“โอเคเข้าบ้านดีๆ ล่ะ”

“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ทั้งเรื่องที่มาช่วยแล้วก็ยังอุตส่าห์มาส่งอีก ขอบคุณนะคะ” นับเงินยกมือไหว้ผมอีกครั้ง

“อื้ม แล้วเจอกัน ไปพักผ่อนเถอะมันดึกมากแล้ว” ผมบอกเธอนับเงินก็เลยลงจากรถก่อนที่เธอจะก้มหัวให้แล้วก็หันหลังเดินเข้าซอย

#KRICH END

#NUB NGERN TALK

ใจสั่นจนแทบจะหัวใจวาย กรี๊ด~ นับเงินเอ๊ย! แทบจะคุมสติตัวเองไม่อยู่ทุกครั้งที่ได้คุยแล้วก็สบตากับคุณคริช ฮือ~ พวกพีอาร์ที่ได้นั่งคุยนั่งเทคแคร์เขาแต่ละคืนมีชีวิตรอดมาได้ยังไง คนบ้าอะไรทำไมกร้าวใจขนาดนี้ >///<

“ไงมึงอีนับ”

“...” เฮ้อ! ไม่หลับไม่นอนเหรอวะ พอฉันก้าวผ่านประตูรั้วบ้านน้ำเสียงที่โคตรไม่น่าฟังที่สุดตั้งแต่มีชีวิตเกิดมาเป็นคนก็ดังเข้ามาทักทายโสตประสาท

“เตรียมของไปขายเหรอคะป้าจันทร์” ฉันพยายามไม่สนใจน้ำเสียงแย่ ๆ แล้วก็เอ่ยทักไปตามมารยาท

“เออ! กูเตรียมของไปขาย ต้องตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่มานั่งเสียบหมูปิ้งไปขายมาจุนเจือครอบครัวเพราะอีเด็กทรพีมันไม่เคยช่วยเหลือ เลี้ยงเสียข้าวแดงแกงร้อน!” มาอีกแล้วค่ะ คำพูดทวงบุญคุณที่ฉันยังงงจนทุกวันนี้ว่าป้าจันทร์มาเลี้ยงฉันตอนไหนวะ

“นับก็ช่วยค่าน้ำค่าไฟอยู่ทุกเดือนนี่ป้า” ฉันตอบกลับป้าจันทร์ด้วยความรู้สึกที่เริ่มจะไม่พอใจขึ้นมา

“โอ๊ย! เศษเงินแค่หยิบมือมันจะไปพออะไรฮะ!” ฉันถอนหายใจเบา ๆ เดือนละ 3,500 ที่ฉันช่วยค่าน้ำค่าไฟบ้านหลังนี้ ทั้งที่ฉันต้องนอนห้องเล็ก ๆ หลังบ้านที่มีแค่พัดลมเก่า ๆ ทีวีเก่า ๆ ซึ่งฉันใช้จริง ๆ ก็มีแค่พัดลม เพราะทีวีฉันไม่เคยมีเวลาดูเลยสักวัน แต่ป้าจันทร์ ลุงทศ แล้วก็นรินทร์ลูกสาวป้าแกนอนห้องแอร์เย็นสบายกันทุกคืน

“นับมีให้เท่านี้แหละป้า นับไม่ได้มีเงินมากมายนะ” เมื่อไหร่ป้าจันทร์รวมถึงทุกคนในบ้านหลังนี้จะเข้าใจและเห็นใจฉันบ้างนะ ฉันต้องดูแลตัวเอง ต้องอดหลับอดนอนหาค่าข้าวค่าเรียนทุกวัน ถ้าฉันมีเงินเยอะฉันคงไม่ทนลำบากแบบนี้หรอก

“ไม่มีห่าอะไร เงินที่มึงไปเสิร์ฟล่ะ ไหนจะทิปอีกผับคนรวยทิปหนักจะตาย ที่สำคัญรายได้พิเศษของมึงอีก อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ น้ำหน้าอย่างมึงไม่มีทางไปเดินเสิร์ฟงก ๆๆ หรอกอีนับ มึงไปนอนกับเสี่ยได้เงินมาท่าทางจะไม่น้อยมึงก็เจียดมาเชื่อเหลือกูบ้างสิวะ!” ป้าจันทร์ชี้หน้าแล้วก็พูดกับฉันด้วยน้ำเสียงตะคอก

คำพูดที่พ่นออกมาจากปากผู้หญิงที่เป็นพี่สาวของพ่อทำให้ฉันตัวสั่น คำพูดดูถูกที่พูดกล่าวหาลอย ๆ มันจะมีมาเป็นประจำ ซึ่งมันก็ทำให้ฉันโกรธจนไม่รู้จะโกรธยังไงแล้ว

“ไม่ให้ เงินนี่ฉันหามาด้วยความยากลำบาก อ้าขาตั้งนานนะป้า ถ้าป้าอยากได้ก็บอกให้รินทร์มันไปนอนอ้าขาบ้างสิ ได้เงินง่ายนี่” ฉันพูดจบก็เดินผละออกมาทันทีแต่ก็ตามมาด้วยเสียงตะโกนด่าสาปแช่งฉันไล่หลังที่บังอาจไปแตะต้องลูกเทวดาของนางอย่างไม่เกรงใจเพื่อนบ้านที่กำลังนอนหลับพักผ่อนกันอยู่

#NUB NGERN END

#KRICH TALK

ผมจอดรถรออยู่สักพักแต่เพราะในซอยที่เธอเดินเข้ามามันไม่มีไฟข้างทางเลยสักดวงด้วยความเป็นห่วงเพราะผมเห็นมีขี้เมาอยู่ตรงต้นซอยก็เลยเดินตามเข้ามาดูว่าเธอเข้าบ้านรึยัง แต่พอกำลังเดินส่องว่าหลังไหนที่น่าจะเป็นบ้านของเธอก็ดันได้ยินเสียงคนกำลังทะเลาะกัน แล้วก็อย่างที่ได้ยินนั่นล่ะครับ ซูกัสจะพูดว่าเธอยังไงผมไม่เชื่อแค่ฟังหูไว้หู แต่นี่ผมมาได้ยินเธอพูดออกจากปากเองเต็มสองหู

เหอะ!

...นึกว่าใส แต่ที่ไหนได้เน่าเฟะ

ผู้หญิงแม่งก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ เหมือนผู้หญิงคนนั้น...

เล่นละครเก่ง เลว ร่าน!
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • So Sick รักษาหัวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 121

    “อ๋อ สินสอดไงครับ”“อ้าว พี่คริชไม่เอาไปเก็บเหรอคะ”“เก็บทำไมไม่ใช่ของพี่ สินสอดหนูก็ต้องให้หนูเก็บสิครับ คนของคุณแม่ที่ดูแลสินสอดในงานเขายกเข้ามาให้”“ของนับอะไรคะของพี่คริชต่างหาก รีบเก็บเลยค่ะมันอันตราย” ฉันรีบบอกพี่เขาที่เอาแต่พูดเล่น ถ้าบอกว่าเป็นกระเป๋าสินสอดฉันก็อยากให้รีบเก็บในที่ปลอดภัย คือ

  • So Sick รักษาหัวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 120

    “ยังไม่เคยทำได้สักครั้งเลยนะคะพี่คริช นับกินยาคุมดีกว่าค่ะ แล้วนั่นถุงอะไรคะถุงร้านขายยารึเปล่าทำไมมันใบใหญ่จังเลย” ฉันเพิ่งสังเกตเห็นถุงที่พี่คริชวางไว้ที่โต๊ะ ถุงจากร้านขายยาแต่ใบใหญ่ ไม่รู้พี่คริชเป็นอะไรรึเปล่า“อ๋อ ถุงของใช้ส่วนตัวพี่ หนูอยากดูไหม” พี่คริชยิ้มแล้วก็ยื่นถุงร้านขายยามาให้ฉัน ของใ

  • So Sick รักษาหัวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 119

    ​“ว่าไงครับ แต่งงานกับพี่ได้ไหม เราแต่งงานกันนะ” พี่คริชกอดฉันพร้อมกับจูบที่ผมแล้วก็พูดออกมา น้ำเสียงของเขามันมีแต่ความอบอุ่น ฉันอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ยิน เฮียเร่งให้ตอบน้องก็อยากตอบ อยากตอบตั้งแต่เฮียพูดคำแรกแล้วแต่มันมัวแต่ตะลึงตื่นเต้นดีใจร้องไห้น้ำตาไหลพรากเลยไม่ทันได้ตอบไงคะ“แต่งค่ะ นับจะแต่งงาน

  • So Sick รักษาหัวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 118

    หมับ!“ไม่ต้องกิน” พี่คริชคว้าข้อมือฉันที่กำลังจะลุกวิ่งเอาไว้พร้อมกับพูดเสียงแข็ง“คะ?” พูดมาว่า ไม่ต้องกิน แสดงว่าพี่เขาเข้าใจสินะว่าฉันหมายถึงอะไร“พี่บอกว่าไม่ต้องกินไงครับ ห้ามกินพี่ไม่ให้หนูกิน”“กินฉุกเฉินแค่วันนี้แล้วค่อยกินแบบปกติค่ะ ไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉินมานานแล้วไม่อันตรายหรอกนะคะ” ลืมไปค่

  • So Sick รักษาหัวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 117

    ไม่อยากจะบอกแต่ก็ต้องบอกว่าสาว ๆ ที่นี่จ้องพี่คริชตาเป็นมันกันทั้งนั้น ซึ่งมันก็เรื่องปกตินะคะไม่มองสิแปลกผู้ชายของนับเงินหล่อลากไส้ หล่อระทดนกเขาระทวยขนาดนี้ ฮ่า ๆๆ“คริช~ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ นีน่าคิดถึงจังเลย” นั่งสวีทกันได้สักพักก็มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ใส่ชุดเดรสสีแดงเพลิงเดินเข้ามาทักพี่คริช อื้อ

  • So Sick รักษาหัวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 116

    “เลิกหื่นก่อนค่ะ หิวรึยังคะ” ฉันดุเบา ๆ แล้วก็ถามพี่คริชที่กำลังเอามือมาปัดปอยผมให้ฉัน“หิวแล้วครับ แต่ที่จริงขอไข่ลวกสัก 10 ฟองกับนมสัก 2 ก็น่าจะพอนะ” พี่คริชบอกแล้วก็ลดสายตาลงมองหน้าอกของฉัน“พี่คริช!”“ฮ่า ๆๆ ไม่เขินสิที่รัก มา ๆ มาให้ผัวโอ๋เร็ว” พี่คริชหัวเราะอารมณ์ดีแล้วก็ดึงฉันไปกอด นึกว่าจะจบ

  • So Sick รักษาหัวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 115

    เมียผมเป็นตัวร้าย! นอกจากความคิดความอ่านจะเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาแล้วสกิลการยั่วยังก้าวกระโดด ตอนแรกที่ก้มหน้าลงมาจูบผมก็ไม่ได้ว่าหรอกนะครับ อยากจูบแฟนอยู่เหมือนกัน แต่ใครจะคิดว่าจะกล้าขนาดล้วงเข้าไปจับลูกชายของผมคลึงเล่นขนาดนั้น พอห้ามเหมือนทุกครั้งก็นึกว่าจะฟัง ที่ไหนได้ดันเอานมมายัดปากแทน แล้วผมจะ

  • So Sick รักษาหัวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 114

    “นกเขาของพี่คริชก็ห้ามระทวยก่อนนะคะ” ฉันลูบแก้มของเขาด้วยความรัก แล้วก็ข่มกลับเพื่อแกล้งเล่น พี่คริชถึงกับกระตุกยิ้มร้าย ๆ พร้อมกับมองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์“พูดเหมือนไม่รู้จักผัวตัวเอง~” พอพูดจบพี่คริชก็ปิดปากของฉันด้วยปากของเขา จูบดุเดือดเริ่มต้นอีกครั้ง พร้อมกับความบ้าของฉันที่เพิ่มมากขึ้น ก็ไอ้นั

  • So Sick รักษาหัวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 113

    “อืม~” พี่คริชครางในลำคอแล้วก็เหมือนจะผลักฉันออก มือที่กำลังลวนลามหน้าอกของพี่คริชก็เลยดิ่งลงไปตรงเป้าพี่เขาอย่างรวดเร็ว ไม่อยากจะกรี๊ดแต่ขอกรี๊ดในใจเพราะว่าตอนนี้สากพี่เขาพร้อมตำมาก~ >///เห็นนางนิ่ง ๆ ที่จริงนางตื่นนะคะ ตื่นตอนไหนก็ไม่รู้“อืม~”ฉันทั้งบีบทั้งนวดท่อนเอ็นแข็ง ๆ อุ่น ๆ ที่มีกางเกงน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status