Beranda / วาย / The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg) / ตอนที่ 11 เพื่อคืนความสงบมันต้องจบที่เตียง

Share

ตอนที่ 11 เพื่อคืนความสงบมันต้องจบที่เตียง

Penulis: Glita
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-15 03:34:44

          ชายหนุ่มกวาดต้อนสายตาไปทั่วทุกมุมห้อง สิ่งของในนี้เหมือนห้องนอนของตัวเองไม่ผิดเพี้ยน สีเย็นสบายของผนัง ผ้าปูสะอาดตา เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง

          อารมณ์รวมถึงความคิดของมิวกระจัดกระจายกลายเป็นสายหมอก หลอมรวมกับประกายแสงที่รายล้อมรอบตัว เขาไม่มั่นใจอีกต่อไปแล้วว่าอะไรคือความจริงหรือความฝัน

          “นายนี่โคตรดื้อด้านเลย ฉันไม่เคยเจอใครทำตัวงี่เง่าเท่านายมาก่อน” ปีศาจไร้นามเปล่งเสียงดึงดูดความสนใจ

          ดวงตากลมโตหรี่เล็ก คิ้วขมวดชนเข้าหากัน หากนับรวมทุกเหตุการณ์ทั้งหมด ดูเหมือนว่าชายผิวเข้มที่นั่งเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าของมิวในตอนนี้ ดูประหลาดมากที่สุด

          ก่อนจะทันรู้ตัวหรือคิดอะไรเพิ่มเติม ร่างตรงหน้าก็พุ่งขึ้นคร่อมมิวประทับรอยจูบอย่างรวดเร็ว ของเหลวอุ่นร้อนถูกสอดลอดไปกับลิ้น

          การขัดขืนกลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่มิวอยากทำ เขาเปิดโพรงปากรับรสสัมผัสที่โหยหามาช้านาน

          ในใจขุ่นมัวถูกตีโอบด้วยหมอกทึบหนา มิวพยายามดึงสติเพื่อไม่ให้เตลิดจนเกินควบคุม เขากำหมัดจนแน่นพยายามดันอีกฝ่ายให้หลุดออก… แต่ก็ไร้ผล

          “แค่นี้ก็คงพอ” เมื่อทุกอย่างเป็นไปดั่งใจ ปีศาจเขาโค้งงอก็ถอนรอยจูบ “ถึงลิ้นของฉันมันจะงอกใหม่ได้ แต่ฉันก็ไม่อยากเจ็บตัวเพราะนายเป็นครั้งที่สามหรอกนะ”

          มิวกระโดดเด้งออกจากจากเตียง เขาถ่มน้ำลายลงบนพื้นพรมโดยไม่สนใจอีกต่อไปว่า นี่จะใช่ห้องนอนของเขาจริงไหม “อย่ามาฉวยโอกาสกันง่ายๆแบบนี้นะเว้ย”

          “แต่ถ้าจ่ายเงินก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม” พูดจบธนบัตรเป็นพันใบก็ร่วงหล่นมาจากอากาศราวกับเสกได้ “เอาไปสิ ค่าตัวของนาย หรือจะเอาเป็นเหรียญทองหล่นใส่หัว… จะได้แก้แค้นที่หักปีกฉัน”

          “อย่ามาล้อเล่นกันแบบนี้ ฉันไม่ตลกด้วย”

          ชายหนุ่มเหลืออดกับเรื่องเกินคาดเดาตรงหน้า มิวอยากหนีไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีไอ้ตัวป่วนประสาทแบบนี้ เขาบึ่งตรงไปยังประตูห้องนอน โดยหวังว่าหลังประตูบานนี้จะพาเขาไปโผล่ที่อื่น

          ทว่าหลังบานประตูกลับกลายเป็นห้องนอนของเขาที่มีเจ้าปีศาจเจ้าเล่ห์นั่งยิ้มเยาะอยู่อีกห้องแทน

          มิวเร่งฝีเท้าด้วยความหงุดหงิดไล่เปิดประตูตรงหน้า แต่ทุกบานก็นำเขากลับมายังจุดเริ่มต้นเสมอ

          บานแล้วบานเล่าก็ลงเอยแบบเดิม คือห้องนอนของตัวเองพร้อมตัวประหลาดแก้ผ้าอยู่บนเตียง จนในที่สุดมิวก็ยอมพ่ายแพ้ต่อปริศนาอสงไขย เขายืนชิดผนังเหนื่อยหอบ หน้าอกกระเพื่อมอย่างรุนแรง

          “ฉันชอบที่นายดูดิ้นรนนะ ฮ่าๆ ไม่เหมือนคนอื่นที่ฉันเคยเจอ” ปีศาจร่างยักษ์หัวเราะ “วิ่งไปอีกสิ! พิษจะได้ระเหยซึมเข้าไปในตัวนายได้ง่ายขึ้น”

          “พิษ? นายทำอะไรฉัน”

          “โธ่! กลัวเป็นแล้วเหรอ… พ่อคนห้าวตีนไปอยู่ไหนเสียแล้วล่ะ”

          มิวนิ่งเงียบเพราะเริ่มรู้สึกถึงความกลัวขึ้นมาตามคำของปีศาจ

          “น้ำลายของฉันมันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้นหรอก พวกมนุษย์ชอบเรียกว่ามันเป็นพิษ แต่ฉันว่ามันเหมือนยาปลุกกำหนัดมากกว่า”

          แม้จะไม่สามารถปะติดปะต่อทุกอย่างได้ทั้งหมด แต่มิวก็พอเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร โดยเฉพาะเมื่อคำพูดนั้นค่อยๆกลายเป็นจริง บางสิ่งบางอย่างกระตุ้นแรงปรารถนาของเขาให้ตื่นขึ้น

          เหงื่อที่แห้งซึมไปกับเนื้อผ้าเริ่มออกมาตามไรผมอีกครั้ง ชีพจรเต้นตุบๆ ตามข้อพับ

          “กลิ่นของนายเริ่มหอมแล้ว” ปีศาจแสยะยิ้มเขาลุกขึ้นแล้วค่อยๆ เยื้องย่างเข้าใกล้ร่างเด็กหนุ่ม ท่อนเนื้อที่ยังไม่แข็งตัวแกว่งไกวตามแรงกระเทือน “คุ้นๆเหมือนกลิ่นของใครสักคนที่ฉันเคยเจอ เหมือนจะนานมาแล้ว แต่ช่างมันเถอะ… ป่านนี้เจ้าหมอนั่นคงกลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว”

          “ทำไมถึงชอบพล่ามอะไรที่คนอื่นเขาไม่เข้าใจด้วย”

          “แล้วทำไมพออยู่ในฝันนายถึงเอาแต่หงุดหงิดนักนะ”

          “ก็เพราะมันเป็นพื้นที่เดียวที่ฉันจะได้เป็นตัวเอง แต่คน…” มิวหยุดนึกครู่หนึ่ง เมื่อพินิจร่างตรงหน้าแล้วดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่มนุษย์ ถึงจะคล้ายอยู่ก็ตาม “ไอ้ตัวประหลาดอย่างนายก็ดันมายุ่มย่าม”

          “ก็ได้! ถ้าอย่างนั้นฉันจะพูดให้น้อยลง แล้วเน้นการกระทำให้มากขึ้นก็แล้วกัน”

          ร่างสูงชะลูดเดินผ่านความพร่าเบลอเข้าใกล้ความชัดเจน แววตาอันคุ้นเคยปรากฏฉายอยู่ในใบหน้านั้น “เดี๋ยวนะ! เหมือนฉันเคยเห็นนายจากที่ไหนสักที่”

          ปีศาจเปลือยเปล่าตัวสูงใหญ่ยิ้มอย่างมีเลศนัย เขาไม่เปล่งเสียงแม้เพียงนิดเดียวตามคำกล่าวอ้าง แต่ใช้การกระดิกนิ้วเบาบางเพื่อสื่อสารทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา

          หลังของมิวที่ติดกับผนังร้อนวูบไหว ท้องน้อยเสียวซ่านจนต้องเอามือกุม เส้นเลือดเต้นตุบๆอยู่ภายใต้ผิวหนังเนียนนุ่ม การหายใจเริ่มติดขัดมากขึ้นทุกที

          บางอย่างภายใต้กางเกงออกกำลังกายกำลังตั้งตระหง่าน ส่วนปลายเสียดสีกับเนื้อผ้าลื่นมันจนจักจี้ มิวกัดฟันไว้แน่นไม่ยอมปล่อยให้เสียงในลำคอเล็ดลอด

          ปีศาจหน้าคมเข้มเข้าประชิดตัวของมิว พร้อมกระดิกนิ้วอีกครั้ง ปากของเด็กหนุ่มก็อ้าออก

          “อือ… ไอ้… เอี้ย” ความสามารถของมิวทำได้แค่สื่อสารไม่เป็นภาษา

          นิ้วโป้งอวบใหญ่สีน้ำตาลทองกดเบาๆลงบนริมฝีปากล่างของชายหนุ่ม มันค่อยๆละเลียดไปตามแนวยาวอย่างช้าๆ ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปยังโพรงเบิกกว้างนั้นได้อย่างง่ายดาย

          ลิ้นของมิงพยายามขัดขืนไม่ให้อีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามาได้ ทว่ามันกลายเป็นการกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายเสียมากกว่า เป็นอีกครั้งที่เด็กหนุ่มสื่อสารออกมาได้ไม่ดีนัก

          “อือ…” มิวพยายามไล่ปีศาจร้ายให้ถอย แต่เสียงนั้นเหมือนเขาครางเสียมากกว่า

          เรี่ยวแรงทั้งหมดมอดไหม้ในชั่วพริบตา เพียงแค่ปีศาจร่างเปลือยวาดลิ้นเป็นวงกวาดต้อนรสชาติในช่องปากของมิว เด็กหนุ่มก็ไม่อาจยกมือขึ้นต่อสู้ได้อีกต่อไป

          อันที่จริงมิวเริ่มโหยหาอารมณ์นี้ อารมณ์ที่ขาดหายไปนานนับปีจากชีวิต เขาคิดถึงความร้อนวูบวาบในช่องท้อง และสมองที่ตื้อตึงจากการสัมผัส

          มิวลดเปลือกตาลงเฉกเช่นการป้องกันที่พังทลาย ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่กี่มิลลิเมตร

          ปีศาจเขาใหญ่สอดมือเข้าไปใต้ร่มผ้าของมิว ขยับวนไปรอบๆก้นที่กลมแน่นเพื่อหยอกล้อกับร่างกายของเหยื่อในอ้อมแขน

          การกดเพียงแผ่วเบาก็ดันสะโพกของมิวให้เอนเข้าหาตัว อาจด้วยความสูงที่ต่างกันพอประมาณ ลอนท้องบอบบางของมิวจึงแนบชิดท่อนเนื้อที่เริ่มขยายตัว

          ช่องว่างของทั้งสองร่างปิดทับสนิทจนแม้แต่หมอกทึบสีขาวก็ไม่อาจแทรกผ่านได้ ในขณะที่ริมฝีปากเผยออ้าแลกเปลี่ยนลมหายใจซึ่งกันและกัน เจ้าปีศาจราคะใช้มือปลดกางเกงเนื้อผ้าเบาสบายด้วยมือของตัวเอง จนมันหล่นกองลงไปกับพื้น ก่อนจะโหมแรงบีบเคล้นพีชแห่งบาบิโลนจนเป็นรอยฝ่ามือ

          “ดะ… เดี๋ยว” มิวเบิกตากว้างถอนริมฝีปากที่เปียกชุ่มออก ดูเหมือนมนต์สะกดจะถูกทอดถอนเหมือนกางเกงกีฬา “แม่งเอ๊ย!”

          จู่ๆมิวก็สบถออกมา ไม่ใช่เพราะความหงุดหงิด แต่เพราะความรู้สึกชอบพอที่ดันอย่างแรงกล้าอยู่ภายใน

          “นาย… อยาก… แล้วสินะ” ปีศาจแสยะยิ้มอวดเขี้ยวซี่งาม ใบหน้าสูบฉีดด้วยเลือดจนเต็มสองแก้ม

          เด็กหนุ่มก้มหลบสายตาด้วยความเขินอาย มันไม่ใช่เพียงเพราะปีศาจตรงหน้าปลุกอารมณ์หื่นกระหายในตัวของเขาได้ แต่ยังทำให้น้องชายที่ใช้งานไม่ได้มานานลุกชูชันได้อย่างน่าประหลาด

          “ยอมรับมาเถอะน่า ว่าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นายต้องการ”

          ถึงแม้จะเจอลูกค้ามามากมาย แต่ไม่รู้ทำไมมิวถึงรู้สึกอ่อนไหวมากเมื่ออยู่ในวงแขนแข็งแกร่งของปีศาจตนนี้ เขาได้แต่กัดริมฝีปากให้เป็นคำตอบที่ไม่อยากพูด

          “ให้ฉันดูแลนายเอง” ปีศาจหนุ่มล่อลวงด้วยถ้อยคำหวานซึ้ง

          “เพราะนายเลย… บ้าชิบ!” มิวพยายามปกป้องตัวเองด้วยการปฏิเสธ แต่เสียงกระหืดกระหอบนั้นฟังแล้วดูสวนทางกัน “เอาไงก็เอาวะ”

          มิวไม่สามารถควบคุมการแสดงออกของตัวเองได้อีกต่อไป สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มทำได้ในตอนนี้เพื่อไม่ให้ปีศาจตรงหน้าเห็นความเขินอายของเขาจนได้ใจ คือกดหน้าลงบนหัวไหล่อันกว้างหนาเป็นการหลบสายตา

          ทว่าการสื่อสารนี้ก็ผิดพลาดตามเคย ปีศาจหนุ่มครางอย่างพึงพอใจในลำคอ “ฉันจะรับผิดชอบความผิดที่ฉันก่อให้เอง แล้ว… ฉันควรจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไงดี”

          “ยังจะมามัวล้อเล่นหาพระแสงอะไรอีกเจ้าบ้า อย่างทำอะไรก็รีบทำสักทีสิ”

          “ก็ได้… ถ้านายพร้อม”

          ปีศาจในร่างกายหยาบรู้สึกถึงแรงสั่นที่หัวไหล่ เขาตีความเอาว่าชายหนุ่มคงพยักหน้าเพื่อเป็นการยินยอมให้เริ่มขั้นต่อไป “งั้นเรากลับไปทำกันที่เตียงดีไหม ความสูงของฉันจะได้ไม่เป็นปัญหา”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 67 มุมมองที่ต่างกัน

    “ทวดของผม” โพรงปากของเด็กหนุ่มอ้าค้างจนมองเห็นลิ้นไก่ข้างในลึกสุด “นี่พี่เกิดสมัยอยุธยาเป็นเมืองหลวงเลยไหมเนี่ย?” “ไม่นานขนาดนั้น” เสียงหัวเราะร่วนของเป็นเอกดัง “พี่เกิดหลังทวดของนายไม่กี่ปี ปี พ.ศ. สองพันสี่ร้อยกว่าเห็นจะได้” “แล้วพี่เป็นใครกันแน่?… ผีบรรพบุรุษส่งให้พี่มาดูแลตระกูลของผมหรือยังไง?” “ฉันว่าเรื่องของนายเหลือเชื่อกว่าเรื่องของฉันอีก” ยังไม่ทันจะต่อความยาวสาวความยืด เสียงฝีเท้าตึงตังก็ดังมาจากบันไดไม้ หญิงสาวแรกรุ่นพรวดพราดเข้ามาในห้องนอนที่ชายทั้งคู่อยู่ เธอกระโจนเข้าหาเป็นเอกและสวมกอดรอบคอจนแน่น “คิดถึงคุณลุงจัง” น้ำเสียงของหญิงสาวสดใสพอกันกับหน้าตา ดวงตาของเธอสุกใสเป็นประกาย ผิวหนังเนียนหนุ่มอ่อนเยาว์สมกับการเป็นสาวแรกรุ่น “คิดถึงลุงหรือคิดถึงของฝากกันแน่” มือของชายผู้แก่กว่ามากลูบศีรษะอย่างเอ็นดู “ก็ต้องคิดถึงคุณลุงอยู่แล้วสิคะ” “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ลุงไม่มีของฝาก นิดหน่อยก็จะยังคิดถึงลุงอยู่ใช่ไหม?” หญิงสาวตัวเล็กยืดตัวขึ้นทำแก้มป่อง “ไม่มีจริงเหรอ?”

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 66 เพื่อนเก่าเพื่อนแก่

    ไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักที่อาร์เต้จะได้อ้าแขนกอดรับดวงอาทิตย์ยามสาย ถึงมันออกจะร้อนสักหน่อยก็เถอะแต่สำหรับชายหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบชีวิตช่วงกลางคืนเท่าไหร่นัก นี่ก็นับว่าเป็นคุ้มค่าที่จะแลก หลังจากได้ฟังเรื่องราวอันไกลเกินขอบเขตของความเชื่อมาแล้ว แววตาของอาร์เต้ตอนมองเป็นเอกกลับไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ หากไม่ใช่เพราะยังไม่เชื่ออย่างสมบูรณ์แบบบ ก็คงเป็นเพราะอคติบางอย่างที่สร้างความเอนเอียง ความรู้สึกในใจของชายทั้งสองไม่อาจถูกคั่นกลางด้วยสิ่งแปลกปลอม ระยะห่างระหว่างกันยังคงเส้นคงวา ไม่อาจใกล้มากกว่านี้หรือถอยห่างจากที่เป็น ถึงหมุดหมายของทริปนี้เป็นเอกจะบอกไว้ว่าเป็นการออกตามหาความจริง ทว่าอาร์เต้มองแตกต่างออกไป เขาคิดเงียบๆ อยู่คนเดียวว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นเสมือนการออกเดตนอกสถานที่ครั้งแรกของพวกเขา นั่นเลยช่วยทำให้รู้สึกดีมากกว่ากังวล อาร์เต้ไม่เอ่ยถามถึงจุดหมายปลายทาง เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมพูดอะไรแน่นอน ซึ่งเป็นเอกก็คิดเช่นนั้น ชายแก่ในร่างหนุ่มคิดไว้ว่าการอธิบายกลางอากาศอย่างเดียว คงไม่หนักแน่นพอจะยืนยันทุกอย่าง ท้องฟ้าปลอ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 65 เริ่มนับเวลาถอยหลัง

    เมื่อความสุขสุดขีดพุ่งสูงจนทะลุหลอด ความเหนื่อยล้าก็เข้ามาห่อหุ้มร่างกึ่งเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม หน้าอกภายใต้เสื้อตัวบางกระเพื่อมหนักหน่วง ริมฝีปากเผยออ้าเติมอากาศเข้าไปทดแทนกับที่ขาดหาย ใบหน้าฝาดก่ำด้วยสีเลือดสดๆ และเข้มมากขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงความดังของเสียงที่เพิ่งเปล่งออกไป ท่อนล่างโล่งโจ้งเลอะเทอะด้วยคราบของเหลวจากร่างกาย ในใจของมิวร้องตะโกนกู่ก้องเมื่อความรู้สึกที่อัดอั้นถูกระบายออกมาได้เสียที นั่นเป็นสิ่งประจักษ์แน่ชัดแล้วว่า ร่างกายและความเป็นชายได้กลับเป็นปกติอย่างที่ควรจะเป็น ทว่าก็ยังรู้สึกติดค้างบางอย่างแถวก้นบึ้งของจิตใต้สำนึก รอยยิ้มกางกว้างบนใบหน้าเรียวงาม เด็กหนุ่มรีบจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อย ด้วยกลัวจะมีใครเปิดประตูเข้ามา การโดนมองเห็นไม่น่าหนักใจเท่ากับการโดนล้อ มิวนึกออกว่าดันเต้จะพูดอะไรบ้างหากเห็นสภาพของเขาในตอนนี้ ‘ไม่คิดจะชวนกันสักหน่อยเหรอ?’ ‘ทำไมนายถึงหนีมาสนุกคนเดียวล่ะ!’ ‘อีกรอบไหม?’ ‘คิดถึงดุ้นยักษ์ของฉันล่ะสิ!’ น้ำเสียงทะลึ่งตึงตังรวมกับสีหน้าหื่นกระหายของดันเต้ ผุดขึ้นมาใน

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 64 กลับไปใช้งานได้

    ความเงียบบรรเลงดนตรีกระซิบข้างใบหู ความเหนื่อยล้าขับกล่อมท่วงทำนองยืดยานจนชายหนุ่มหลับใหลไปอย่างง่ายดาย พื้นที่แสนปลอดภับโอบกอดมิวเอาไว้แน่นไปถึงความฝัน ชายหนุ่มทิ้งความหวาดระแวงเอาไว้ข้างเตียง และปล่อยความอิสระให้คืนสู่จิตใจ เวลาในกำมือหมดไปอย่างรวดเร็ว จนแอบนึกเสียไม่ได้ว่าสิ่งล้ำค่านี้ไม่เคยเพียงพอในหนึ่งชีวิต… ร่างกายของมิวนั้นฟื้นฟูได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งความเหนื่อยล้าหรือบาดแผลบนร่างกาย อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องนอนเลยด้วยซ้ำหากในตัวมีเมล็ดพันธุ์ปีศาจอยู่ ความรู้สึกเบาสบายจากห้วงนิทราถูกความร้อนตรงท้องทำลาย เด็กหนุ่มกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ลำตัวบิดงองุ่นง่าน การข่มตาให้หลับกลายเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที การโดนร่างกายของตัวเองรังควานสร้างความหงุดหงิดนิดๆ มิวลืมตาตื่นนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาแจ่มใสทั้งที่เพิ่งนอนไปได้แค่สองชั่วโมง ด้านล่างของลำตัวร้อนรุ่มอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนบาง ปลายเท้าบิดงอเข้าหากัน ต้นขาหนีบแน่นจนสะโพกเกร็ง อาการวูบวาบแผ่ซ่านจากศูนย์รวมความรู้สึกไปยังเส้นประสาท ดวงตาของมิวหั

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 63 กาลเวลาที่ยืดหดได้

    เบื้องบนโปรยแสงรำไรออกมาจากมาจากรูโหว่อันดำมืดของท้องฟ้า เช้าวันใหม่นี้แสนอึมครึมไม่สดใส ส่งผลโดยตรงต่อจิตใจให้ขมุกขมัว หัวงมหรรณพแห่งเวลาสงบเสงี่ยมเฉกเช่นหนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่อ ปกติท่าทีของอาร์เต้จะกระโดกกระเดกไม่เรียบร้อย บัดนี้กลับสงวนกิริยาขัดจากนิสัยปกติราวกับเป็นอีกคน อาจเพราะเขาถนัดการซ่อนมุมจริงจังเอาไว้เพื่อบดบังตัวตน จึงมีน้อยคนจะเคยได้เห็นอีกด้าน “ที่จริงแล้วพี่เลือกจะโกหกต่อไปก็ได้ แต่พี่ไม่อยากทำ” ชายวัยกลางคนนั่งบนโซฟาที่คุ้นเคย สายตาจับจ้องร่างเด็กกว่าตรงกันข้ามด้วยความสับสน หลังจากพยายามเลี่ยงการเปิดปากตอนอยู่ในรถอยู่นาน เขาก็มาถึงสถานที่เหมาะแก่การคายทุกอย่างออกมา “พี่รู้ว่ามันอาจจะฟังแล้วเหลือเชื่อไปหน่อย แต่พี่ก็อยากให้อาร์ตเปิดใจ” หนุ่มน้อยเอียงคอสงสัย ปกติเป็นเอกเป็นคนขึงขังอยู่แล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่ทำให้ผู้จัดการร้านคนนี้หัวเสียได้มากกว่าเดิมอีกเหรอ “ผมเปิดใจให้พี่อยู่แล้ว… พี่รู้ใช่ไหม?” “แต่เรื่องที่พี่จะเล่ามันจะเปลี่ยนความคิดของนายที่มีต่อพี่ไปเลย” นี่คือสิ่งที่อาร์เต้ไม่ชอบ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 62 ความจริงที่พูดไม่หมด

    การโดนสปอยด์ตอนจบไม่น่าอภิรมย์ของพิธีกรรมปีศาจที่ได้ยินจากปากของกามเทพ เป็นสิ่งที่มิวพกติดตัวออกจากห้องคุมขังมาด้วย หากเป็นก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มคงดวงตาเบิกโพลง จิตใจแช่มชื่นเมื่อรู้ว่าตัวเองมีส่วนพัวพันกับเรื่องราวลี้ลับที่น้อยคนจะได้พบเจอ ตอนนี้ทุกอย่างตาลปัตรกลับด้านชวนใจหาย เขาเริ่มหวาดกลัวในสิ่งเหนือธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้ และโทษที่ตัวเองคิดน้อยเกินไป บนถนนที่แออัดไปด้วยรถยนต์อุ่นหนาฝาคั่ง ในห้องโดยสารนั้นกลับอึดอัดมากกว่าข้างนอกนั่นหลายเท่า การหายใจไม่อาจทั่วท้องเมื่อต้องนั่งชิดติดอยู่กับความหงุดหงิด บรรยากาศธรรมดาที่สามารถพบเจอได้ทุกวัน ท้องฟ้าขมุกขมัวสาดไปด้วยแสงของดวงดาว เสียงบีบแตรและไฟท้ายของรถที่สะท้อนเข้าดวงตา ทุกอย่างในการมองเห็นตอนนี้กลับพิเศษเมื่อเด็กหนุ่มขาดหายไปหลายวัน ปกติมิวไม่ค่อยชอบคนขับรถที่ซอกแซกชีวิตส่วนตัวของผู้โดยสาร ยกเว้นวันนี้… เขารู้สึกอยากกดทิปให้หลายร้อยบาทเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณที่ช่วยให้สมองวุ่นวายได้คิดเรื่องอื่นบ้าง คำพูดยาวเหยียดก่นด่าไปทั่ว ตั้งแต่ลม ฟ้า อากาศ รวมไปถึงปัญหาค่าครองชีพถูกยัด

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status