ホーム / วาย / The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg) / ตอนที่ 4 มันก็เจ็บอยู่นะ

共有

ตอนที่ 4 มันก็เจ็บอยู่นะ

作者: Glita
last update 最終更新日: 2024-12-12 01:26:39

          ‘ใครวิ่งตามมาวะ?’

          ชายหนุ่มร่างสันทัดผมสีน้ำตาลเป็นประกายเอะใจ เมื่อเหลือบตาเห็นเงาตะคุ่มวิ่งไล่หลังมา ทว่าเขาก็ไม่กล้าหันไปมอง ทำได้เพียงเร่งฝีเท้าจนเงานั้นเลือนหายไป

          ‘มิว’ ชอบวิ่งออกกำลังกายยามเย็นไม่ใช่แค่เพราะบรรยากาศร่มรื่น แต่เพราะงานที่เขาทำเหมาะกับการใช้ชีวิตช่วงกลางคืน ดังนั้นตอนเย็นโพล้เพล้เช่นนี้ของเขา ก็เปรียบเสมือนเช้าตรู่ของใครหลายคน

          แน่นอนว่าการถูกคนสะกดรอยตามเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเป็นอุปสรรคเช่นกัน มิวสามารถรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้อยู่ อาจเพราะรูปร่างสันทัดอัดแน่นด้วยมวลกล้ามเนื้อ ถึงเขาจะไม่ได้สูงใหญ่มากเกินมาตรฐาน ทว่าก็ช่วยให้ดูน่าเกรงขามเวลาเลียนแบบท่าหมัดมวย เลยทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเผชิญหน้ากับเขาตรงๆเท่าไหร่นัก

          อีกทั้งเสน่ห์ดึงดูดเป็นทักษะติดตัวมาตั้งแต่เกิด ช่วยให้เขาเอาตัวรอดได้ในยามคับขันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นี่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่ผู้เป็นพ่อและแม่ทิ้งเอาไว้ให้มิว

          หลังการระแวดระวังไปได้สักพักชายหนุ่มก็ทิ้งเรื่องราวอึดอัดเอาไว้ข้างหลัง โอบรับสายลมเย็นสบายเข้ามาเติมเต็มแทนความกังวล

          แสงสีทองอ่อนทอประกายสะท้อนกับพื้นถนนที่ทอดยาว มิวผ่อนแรงลงจากการซอยฝีเท้ามายาวนาน ลมหายใจทอดถอนอย่างหนักหน่วง

          นัยน์ตาดำขลับมองกวาดไปยังผู้คนรอบข้างทาง หันไปทางไหนก็เจอรอยยิ้มเจืออยู่ในมวลบรรยากาศ ความมีชีวิตชีวาเหล่านี้ช่วยสร้างพลังกายได้เป็นอย่างดี

          ถึงจะมีผู้คนมากหน้าหลายตาเต็มสองข้างทาง แต่กลับไร้เงาของสิ่งมีชีวิตร่วมทางวิ่งไปกับเขา แม้คนวิ่งสวนกลับมาสักคนก็ยังไม่มี

          เสียงนกรายล้อมดังอยู่เหนือท้องฟ้า น่าแปลกที่มันไม่ได้บินกลับรังตามที่ควรจะเป็น หากแต่ลนลานหนีจากอะไรบางอย่างให้พ้นอย่างเร่งด่วน

          เมื่อหันหลังกลับไปยังจุดที่จากมา มิวก็สังเกตเห็นหมอกจางสีขาวไล่ตามจากข้างหลังโดยไม่รู้ตัว ความเย็นยะเยือกค่อยๆครอบคลุมทุกตารางนิ้วของพื้นที่

          ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าเพื่อตรวจหาความผิดปกติโดยรอบ 

          ผู้คนต่างค่อยๆอันตรธานหายไปจนบางตา เสียงเซ็งแซ่ถูกหมอกสีขาวดูดกลืนเหลือเพียงความเงียบงัน และในที่สุดก็เหมือนจะเหลือเพียงแค่เขาคนเดียวในสวนสาธารณะแห่งนี้

          ควันสีขาวตีโอบร่างของชายนักวิ่งจากทุกทิศทาง ห้อมล้อมไปจนถึงเหนือหัว

          “อีกแล้วเหรอ” มิวอุทานอย่างหงุดหงิดเมื่อภาพสวยงามก่อนหน้าถูกบดบังไปอย่างน่าเสียดาย

          เงาตะคุ่มสูงใหญ่อยู่ในหมอกควันขาวโพลนค่อยๆเคลื่อนเข้าหา ทุกครั้งที่ชายหนุ่มถอยหลังหนึ่งก้าว เงานั้นก็จะขยับเข้าใกล้อีกหนึ่งก้าวเพื่อรักษาระยะห่าง

          “แกเป็นใคร?” มิวร้องถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ทว่าเสียงนั้นกลับก้องสะท้อนอยู่รอบตัว ราวกับคำถามนั้นย้อนกลับเข้าสู่ตัว “ไม่สิ… แกเป็นตัวอะไร!!!”

          แม้จะรู้สึกเหมือนว่าเคยเจอเหตุการณ์เหล่านี้มาแล้ว แต่เงานั้นเป็นครั้งแรกที่มิวได้เผชิญหน้าอย่างจัง ที่ผ่านมาเขาแค่รู้สึกได้เพียงด้านหลัง

          เจ้าของร่างสูงใหญ่นั้นไม่เอื้อนเอ่ยคำปราศรัยแต่กลับหัวเราะอย่างเยือกเย็น ดวงตาสีเหลืองทองส่องแสงทะลุม่านหมอก

          “กลิ่นของนายเหมือนลูกพีชต้องห้ามในสวนบาบิโลน”

          เสียงกังวานใกล้หู ทว่าเมื่อชายหนุ่มหันไปกลับไม่เจอต้นตอของเสียง

          “อยากลิ้มลอง”

          เสียงนี้ก้องไปทั่วทิศทาง แม้จะพยายามมองหา แต่เสียงทุ้มลึกนี้ก็วิ่งหนีไปทุกที

          “ไม่ได้เจอคนแบบนายมานานเท่าไหร่แล้วนะ หึ!หึ!”

          “พลังงานอัดแน่นอยู่ในกาย”

          “อืม… น่าสนใจ”

          การตามหาแหล่งที่มาของเสียงท่ามกลางหมอกหนาทึบเหมือนจะเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ ไม่ว่าจะหันไปทิศทางใดเสียงนั้นก็จะวิ่งไปยังตรงกันข้ามเสมอ

          สายตากลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ ความหนาวยะเยือกก่อกวนตั้งแต่เท้าขึ้นมา แต่เหงื่อกลับแตกพลั่กเต็มหน้าผาก

          ชั่วครู่สายลมเย็นเฉียบพุ่งมายังด้านหลัง พร้อมร่างใหญ่โตยึดจับทั้งลำตัวของมิวไว้ ชายหนุ่มรีบสะบัดดิ้นหนีอันตราย แต่เหมือนอีกฝ่ายจะมีพละกำลังมหาศาลกว่ามาก

          “เชี่ยไรวะ! แกเป็นใคร?” มิวกรีดร้องพลางดันตัวเองให้หลุดรอด

          “ฉันชอบเล็งเหยื่อจากบนฟ้านะ” อีกฝ่ายหูทวนลม ซึ่งไม่ใช่คำเปรียบเปรย “อ้อ!... หวังว่านายจะไม่กลัวความสูง”

          คำถามประหลาดเรียกสติของให้กลับคืนร่าง มิวก้มตาลงต่ำ เขาพึ่งรู้ตัวว่าเท้าของตัวเองลอยห่างจากพื้นมากขึ้นเรื่อยๆ “แกเป็นตัวอะไร?”

          การตอบคำถามคงไม่ใช่สิ่งที่ตัวปริศนานี้โปรดปราน มันเอาแต่หัวเราะในลำคอขณะที่กำลังพาร่างเล็กกว่าลอยขึ้นสูง ปีกใหญ่กางกว้างสะบัดหอบลมรอบกายกระพือเป็นพายุขนาดเล็กจิ๋ว

          ตอนนี้ถนนหายวับเหลือเพียงหมอกสีขาวอยู่ใต้เท้า ถึงจะน่าหวาดกลัวแต่มิวก็ต้องทำอะไรสักอย่าง

          เด็กหนุ่มสูดลมเย็นเข้าไปในปอดจนสุด เมื่อการพูดคุยไม่ได้ผล กำลังคงเป็นสันติสุขเดียวที่หยิบยื่นให้ได้ มิวรวบรวมพลังในกายทั้งหมดส่งไปยังท้ายทอย จากนั้นก็กระแทกมันไปยังด้านหลัง

          “เจ็บๆ” มิวพร่ำโอดครวญในขณะที่น้ำตาของไหลพราก ในใจนึกเสียดายที่ทำอะไรโง่ๆลงไป

          ทว่ามันได้ผล!  ความเจ็บปวดสาหัสถูกส่งมอบไปยังบางอย่างที่อยู่ด้านหลัง มันมีเนื้อหนังพอให้มีความรู้สึก “อ้ากกกก!”

          วงแขนแข็งหนาแกร่งคลายขดออกในทันที ร่างเด็กหนุ่มร่วงหลุดจากการยึดโยง มีเพียงอากาศอันว่างเปล่าเท่านั้นที่เขาสามารถไขว่คว้าเอาไว้ได้

          เด็กหนุ่มกรีดร้องเมื่อแรงโน้มถ่วงฉุดเขาเข้าหา ในขณะที่เสียงสบถด่าดังอยู่เหนือหัว

          “เจ้าบ้านี่! ถึงจะเป็นในความฝันฉันก็มีความรู้สึกนะเว้ย!”

          ท้องน้อยของมิววูบโหวงเหมือนเฉกเช่นคนกำลังตกจากที่สูง ดวงตาปิดแน่นทิ้งการมองเห็นไว้เบื้องหลัง มือทั้งสองขยับไหวไปตามแรงลมที่พุ่งปะทะ

          “อ๊าาาาาา!”

          มิวลากเสียงยาวจากความตกใจ เขาไม่หยุดจนกระทั่งรู้สึกว่าลมเย็นบนใบหน้านั้นจางหายไปแล้ว

          เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตา หมอกควันสีขาวทึบได้จางหายไป มิวยกมือเช็ดเหงื่อที่แตกพร่าเต็มใบหน้า จากนั้นก็ยกมันกุมหัวใจที่กำลังเต้นรัว

          ลำคอแหบแห้งจนต้องรีบกลืนน้ำลายลงไป มิวหันไปโดยรอบก็พบว่าที่นี่คือห้องนอนของตัวเอง

          “อีกแล้วเหรอวะเนี่ย”

          มิวหายใจทางปากเพื่อลดอาการเหนื่อยหอบ พลันนึกถึงความฝันที่เหมือนความจริงยิ่งกว่าทุกครั้ง เขายกมือขึ้นลูบท้ายทอยที่รู้สึกปวดหน่วงนิดหน่อย

          “บ้าอะไรวะ!”

          สองคิ้วขมวดชนกันด้วยความพิศวง มิวสบถซ้ำไปซ้ำมาด้วยความหงุดหงิด ทั้งกลัวและหงุดหงิดปนเปผสมกันไป

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 67 มุมมองที่ต่างกัน

    “ทวดของผม” โพรงปากของเด็กหนุ่มอ้าค้างจนมองเห็นลิ้นไก่ข้างในลึกสุด “นี่พี่เกิดสมัยอยุธยาเป็นเมืองหลวงเลยไหมเนี่ย?” “ไม่นานขนาดนั้น” เสียงหัวเราะร่วนของเป็นเอกดัง “พี่เกิดหลังทวดของนายไม่กี่ปี ปี พ.ศ. สองพันสี่ร้อยกว่าเห็นจะได้” “แล้วพี่เป็นใครกันแน่?… ผีบรรพบุรุษส่งให้พี่มาดูแลตระกูลของผมหรือยังไง?” “ฉันว่าเรื่องของนายเหลือเชื่อกว่าเรื่องของฉันอีก” ยังไม่ทันจะต่อความยาวสาวความยืด เสียงฝีเท้าตึงตังก็ดังมาจากบันไดไม้ หญิงสาวแรกรุ่นพรวดพราดเข้ามาในห้องนอนที่ชายทั้งคู่อยู่ เธอกระโจนเข้าหาเป็นเอกและสวมกอดรอบคอจนแน่น “คิดถึงคุณลุงจัง” น้ำเสียงของหญิงสาวสดใสพอกันกับหน้าตา ดวงตาของเธอสุกใสเป็นประกาย ผิวหนังเนียนหนุ่มอ่อนเยาว์สมกับการเป็นสาวแรกรุ่น “คิดถึงลุงหรือคิดถึงของฝากกันแน่” มือของชายผู้แก่กว่ามากลูบศีรษะอย่างเอ็นดู “ก็ต้องคิดถึงคุณลุงอยู่แล้วสิคะ” “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ลุงไม่มีของฝาก นิดหน่อยก็จะยังคิดถึงลุงอยู่ใช่ไหม?” หญิงสาวตัวเล็กยืดตัวขึ้นทำแก้มป่อง “ไม่มีจริงเหรอ?”

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 66 เพื่อนเก่าเพื่อนแก่

    ไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักที่อาร์เต้จะได้อ้าแขนกอดรับดวงอาทิตย์ยามสาย ถึงมันออกจะร้อนสักหน่อยก็เถอะแต่สำหรับชายหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบชีวิตช่วงกลางคืนเท่าไหร่นัก นี่ก็นับว่าเป็นคุ้มค่าที่จะแลก หลังจากได้ฟังเรื่องราวอันไกลเกินขอบเขตของความเชื่อมาแล้ว แววตาของอาร์เต้ตอนมองเป็นเอกกลับไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ หากไม่ใช่เพราะยังไม่เชื่ออย่างสมบูรณ์แบบบ ก็คงเป็นเพราะอคติบางอย่างที่สร้างความเอนเอียง ความรู้สึกในใจของชายทั้งสองไม่อาจถูกคั่นกลางด้วยสิ่งแปลกปลอม ระยะห่างระหว่างกันยังคงเส้นคงวา ไม่อาจใกล้มากกว่านี้หรือถอยห่างจากที่เป็น ถึงหมุดหมายของทริปนี้เป็นเอกจะบอกไว้ว่าเป็นการออกตามหาความจริง ทว่าอาร์เต้มองแตกต่างออกไป เขาคิดเงียบๆ อยู่คนเดียวว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นเสมือนการออกเดตนอกสถานที่ครั้งแรกของพวกเขา นั่นเลยช่วยทำให้รู้สึกดีมากกว่ากังวล อาร์เต้ไม่เอ่ยถามถึงจุดหมายปลายทาง เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมพูดอะไรแน่นอน ซึ่งเป็นเอกก็คิดเช่นนั้น ชายแก่ในร่างหนุ่มคิดไว้ว่าการอธิบายกลางอากาศอย่างเดียว คงไม่หนักแน่นพอจะยืนยันทุกอย่าง ท้องฟ้าปลอ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 65 เริ่มนับเวลาถอยหลัง

    เมื่อความสุขสุดขีดพุ่งสูงจนทะลุหลอด ความเหนื่อยล้าก็เข้ามาห่อหุ้มร่างกึ่งเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม หน้าอกภายใต้เสื้อตัวบางกระเพื่อมหนักหน่วง ริมฝีปากเผยออ้าเติมอากาศเข้าไปทดแทนกับที่ขาดหาย ใบหน้าฝาดก่ำด้วยสีเลือดสดๆ และเข้มมากขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงความดังของเสียงที่เพิ่งเปล่งออกไป ท่อนล่างโล่งโจ้งเลอะเทอะด้วยคราบของเหลวจากร่างกาย ในใจของมิวร้องตะโกนกู่ก้องเมื่อความรู้สึกที่อัดอั้นถูกระบายออกมาได้เสียที นั่นเป็นสิ่งประจักษ์แน่ชัดแล้วว่า ร่างกายและความเป็นชายได้กลับเป็นปกติอย่างที่ควรจะเป็น ทว่าก็ยังรู้สึกติดค้างบางอย่างแถวก้นบึ้งของจิตใต้สำนึก รอยยิ้มกางกว้างบนใบหน้าเรียวงาม เด็กหนุ่มรีบจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อย ด้วยกลัวจะมีใครเปิดประตูเข้ามา การโดนมองเห็นไม่น่าหนักใจเท่ากับการโดนล้อ มิวนึกออกว่าดันเต้จะพูดอะไรบ้างหากเห็นสภาพของเขาในตอนนี้ ‘ไม่คิดจะชวนกันสักหน่อยเหรอ?’ ‘ทำไมนายถึงหนีมาสนุกคนเดียวล่ะ!’ ‘อีกรอบไหม?’ ‘คิดถึงดุ้นยักษ์ของฉันล่ะสิ!’ น้ำเสียงทะลึ่งตึงตังรวมกับสีหน้าหื่นกระหายของดันเต้ ผุดขึ้นมาใน

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 64 กลับไปใช้งานได้

    ความเงียบบรรเลงดนตรีกระซิบข้างใบหู ความเหนื่อยล้าขับกล่อมท่วงทำนองยืดยานจนชายหนุ่มหลับใหลไปอย่างง่ายดาย พื้นที่แสนปลอดภับโอบกอดมิวเอาไว้แน่นไปถึงความฝัน ชายหนุ่มทิ้งความหวาดระแวงเอาไว้ข้างเตียง และปล่อยความอิสระให้คืนสู่จิตใจ เวลาในกำมือหมดไปอย่างรวดเร็ว จนแอบนึกเสียไม่ได้ว่าสิ่งล้ำค่านี้ไม่เคยเพียงพอในหนึ่งชีวิต… ร่างกายของมิวนั้นฟื้นฟูได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งความเหนื่อยล้าหรือบาดแผลบนร่างกาย อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องนอนเลยด้วยซ้ำหากในตัวมีเมล็ดพันธุ์ปีศาจอยู่ ความรู้สึกเบาสบายจากห้วงนิทราถูกความร้อนตรงท้องทำลาย เด็กหนุ่มกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ลำตัวบิดงองุ่นง่าน การข่มตาให้หลับกลายเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที การโดนร่างกายของตัวเองรังควานสร้างความหงุดหงิดนิดๆ มิวลืมตาตื่นนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาแจ่มใสทั้งที่เพิ่งนอนไปได้แค่สองชั่วโมง ด้านล่างของลำตัวร้อนรุ่มอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนบาง ปลายเท้าบิดงอเข้าหากัน ต้นขาหนีบแน่นจนสะโพกเกร็ง อาการวูบวาบแผ่ซ่านจากศูนย์รวมความรู้สึกไปยังเส้นประสาท ดวงตาของมิวหั

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 63 กาลเวลาที่ยืดหดได้

    เบื้องบนโปรยแสงรำไรออกมาจากมาจากรูโหว่อันดำมืดของท้องฟ้า เช้าวันใหม่นี้แสนอึมครึมไม่สดใส ส่งผลโดยตรงต่อจิตใจให้ขมุกขมัว หัวงมหรรณพแห่งเวลาสงบเสงี่ยมเฉกเช่นหนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่อ ปกติท่าทีของอาร์เต้จะกระโดกกระเดกไม่เรียบร้อย บัดนี้กลับสงวนกิริยาขัดจากนิสัยปกติราวกับเป็นอีกคน อาจเพราะเขาถนัดการซ่อนมุมจริงจังเอาไว้เพื่อบดบังตัวตน จึงมีน้อยคนจะเคยได้เห็นอีกด้าน “ที่จริงแล้วพี่เลือกจะโกหกต่อไปก็ได้ แต่พี่ไม่อยากทำ” ชายวัยกลางคนนั่งบนโซฟาที่คุ้นเคย สายตาจับจ้องร่างเด็กกว่าตรงกันข้ามด้วยความสับสน หลังจากพยายามเลี่ยงการเปิดปากตอนอยู่ในรถอยู่นาน เขาก็มาถึงสถานที่เหมาะแก่การคายทุกอย่างออกมา “พี่รู้ว่ามันอาจจะฟังแล้วเหลือเชื่อไปหน่อย แต่พี่ก็อยากให้อาร์ตเปิดใจ” หนุ่มน้อยเอียงคอสงสัย ปกติเป็นเอกเป็นคนขึงขังอยู่แล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่ทำให้ผู้จัดการร้านคนนี้หัวเสียได้มากกว่าเดิมอีกเหรอ “ผมเปิดใจให้พี่อยู่แล้ว… พี่รู้ใช่ไหม?” “แต่เรื่องที่พี่จะเล่ามันจะเปลี่ยนความคิดของนายที่มีต่อพี่ไปเลย” นี่คือสิ่งที่อาร์เต้ไม่ชอบ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 62 ความจริงที่พูดไม่หมด

    การโดนสปอยด์ตอนจบไม่น่าอภิรมย์ของพิธีกรรมปีศาจที่ได้ยินจากปากของกามเทพ เป็นสิ่งที่มิวพกติดตัวออกจากห้องคุมขังมาด้วย หากเป็นก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มคงดวงตาเบิกโพลง จิตใจแช่มชื่นเมื่อรู้ว่าตัวเองมีส่วนพัวพันกับเรื่องราวลี้ลับที่น้อยคนจะได้พบเจอ ตอนนี้ทุกอย่างตาลปัตรกลับด้านชวนใจหาย เขาเริ่มหวาดกลัวในสิ่งเหนือธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้ และโทษที่ตัวเองคิดน้อยเกินไป บนถนนที่แออัดไปด้วยรถยนต์อุ่นหนาฝาคั่ง ในห้องโดยสารนั้นกลับอึดอัดมากกว่าข้างนอกนั่นหลายเท่า การหายใจไม่อาจทั่วท้องเมื่อต้องนั่งชิดติดอยู่กับความหงุดหงิด บรรยากาศธรรมดาที่สามารถพบเจอได้ทุกวัน ท้องฟ้าขมุกขมัวสาดไปด้วยแสงของดวงดาว เสียงบีบแตรและไฟท้ายของรถที่สะท้อนเข้าดวงตา ทุกอย่างในการมองเห็นตอนนี้กลับพิเศษเมื่อเด็กหนุ่มขาดหายไปหลายวัน ปกติมิวไม่ค่อยชอบคนขับรถที่ซอกแซกชีวิตส่วนตัวของผู้โดยสาร ยกเว้นวันนี้… เขารู้สึกอยากกดทิปให้หลายร้อยบาทเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณที่ช่วยให้สมองวุ่นวายได้คิดเรื่องอื่นบ้าง คำพูดยาวเหยียดก่นด่าไปทั่ว ตั้งแต่ลม ฟ้า อากาศ รวมไปถึงปัญหาค่าครองชีพถูกยัด

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status