คำพูดของเอโลดี้เหมือนมีดเสียบเข้าอก จูนกัดฟันกรอด ๆ เพราะเหตุใดเธอรู้สึกว่าแม้ตัวเองไม่ได้อิจฉาอเล็กซิส แต่ในส่วนลึกของจิตใจ ไอ้ความรู้สึกที่อีกฝ่ายพูด มันจับกลุ่มเป็นก้อนซ่อนอยู่ภายในนั้น
“ถ้ายังไม่หยุดพูด ฉันจะให้เธอลงไปเดี๋ยวนี้”
“ตำรวจโบกอีกแล้ว”
จูนสบถ ด้านหน้า เจ้าหน้าที่ในชุดสีน้ำเงินโบกมือ หญิงสาวชะลอความเร็วลง เขาเดินมาเคาะกระจกข้างคนขับ “คุณผู้หญิงครับ ไปไหนครับ”
“ฉันกำลังจะกลับบ้านค่ะ” เธอตอบทันที
“ตอนนี้ประกาศกฎ...”
“ทราบค่ะ” เธอไม่รอให้เขาพูดจบ “คุณพ่อฉันรออยู่บ้าน ใกล้จะถึงแล้ว...”
เอโลดี้กรีดร้องดังลั่น จูนอ้าปากค้าง ก่อนเธอพูดจบเกิดเสียงระเบิดดังจนหูอื้อไปชั่วครู่ เจ้าพนักงานที่อยู่ข้างรถตะโกนใส่วิทยุสื่อสาร ตึกด้านหลังพังครืนลงมา เธอทั้งตกใจและกลัวจนตัดสินใจขับออกไป ระเบิดดังไล่หลัง เอโลดี้ก็แหกปากกรีดร้องจนใจเธอสั่นไปหมด
“โอ พระเจ้า”
“อะไร ข้างบน”
จูนมองตามสายตาเอโลดี้ เธอเห็นยานอะไรก็ไม่รู
เจสซี่หัวเราะ ใคร ๆ ก็ชอบทั้งนั้น... สีหน้าของคนตรงหน้านั้นทั้งสับสนและเศร้า ผู้ชายคนนี้ผ่านอะไรมา แล้วน้องสาวของเขาต้องเจอกับอะไรจริงสิ“อเล็กซิสชอบ อเล็กซิส เดวิส”ทั้งสองวิ่งขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ คลาวิคูล่าออกจากท่าประมาณหนึ่ง และเพราะพวกเขาทำลายทุกอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เรือลำนี้จึงแล่นเอื่อย ๆ ออกมาอย่างไรจุดหมาย เจ้าหน้าที่เหลือปลดเรือชูชีพเพื่อให้ทุกคนกลับขึ้นฝั่ง ไม่มีใครสนใจจะนำศพคนกลุ่มนี้กลับไปในตอนนี้ เจสซี่ยืนมองสภาพเมืองฟิวเจอร์ริสติกอย่างอ่อนแรง ควันไฟมากมายลอยคละคลุ้งสลับกับเปลวเพลิง ดวงตาชายหนุ่มเคล้าไปด้วยหยาดน้ำตา หากแคดมันจับกุมเขาในฐานะผู้ก่อการร้ายต่อสหพันธ์ เจสซี่แน่ใจว่าเขายินดี สี่สิบสามเปอร์เซ็นต์นั้นรวมถึงเมืองไหนบ้างในนิวโฮปยังคงเป็นปริศนา แต่ที่แน่ ๆ มันไม่ได้ทำให้ความรู้สึกผิดในใจน้อยลง ได้แต่ภาวนาขอให้ซานโบซ่าอยู่ในสัดส่วนห้าสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ยานบินทรงประหลาดลำหนึ่งถูกยานอีกลำบินขับไล่ ไม่นานก็ถูกสอยร่วงตกทะเลห่างออกไป มันคงเป็นค่ำคืนอันน่ากลัวที่สุดของชาวนิวโฮปผู้ซึ่งต้องเจอกับล
ชายหนุ่มเหวี่ยงปืนทิ้งเมื่อกระสุนหมด แทบจะฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ แต่เจสซี่เพิ่งตระหนักได้ถึงบางสิ่ง ทำไมเขาโง่แบบนี้นะ เพราะไม่เคยใช้จึงเก็บมันไว้ เจสซี่หยิบปืนจากด้านหลังแล้วทำตามที่ไอ้สารเลวนั่นเคยสอน ปลดล็อกปืนแล้วไล่ยิง มันวิ่งพล่านหนีไปทั่ว เพราะปิดประตูเหล็กไปครึ่งห้องจึงแคบลง แต่อย่างไรมันก็มีวิชา มันกระโดดไปบนแผงควบคุมแล้วเข้าถึงตัวเจสซี่ ที่แท้ปืนของมันหล่นช่วงที่เขายิงรัวใส่ แต่คราวนี้หมัดของมันกระแทกเข้าหน้า มึนไปครู่หนึ่ง“ขอบคุณสำหรับกุญแจ”หมัดอีกชุดโถมเข้าคาง จนเมื่ออีกชุดจะมา เขายกมือรับพร้อมทั้งปืน มือคนทั้งสองปัดป่าย เจสซี่รวบรวมกำลังกระตุกร่างขึ้น ทว่าเขามีแต่กำลัง แต่มันมีทั้งกำลังและฝีมือสุดท้ายก็ถูกจับกดโธ่เว้ย!เขาสู้มันไม่ได้เลย ปืนที่บราวน์ให้ตกลง มันแย่งไปแล้วหยิบจ่อหัว เขาดันออก ความร้อนของกระสุนนั้นวูบผ่านศีรษะจนแสบเบา ๆ ใครอ่อนแรงกว่าก็จบ มือของเขาดันไม่ให้ปลายกระบอกจ่อตัวเอง“แม่งเอ๊ย”มือซ้ายของเขาบีบแก้มมันแน่น มือขวาของมันก็พยายามจะกดมือขวาของเขา ส่วนมือซ้ายพยายามจะกดตัวเข
แสงสีทองส้มอร่าม เปลวเพลิงอเวจีแผดเผาบ้านเรือนฝั่งทางเข้าท่าเรือ อานุภาพอาวุธทำลายล้างของพวกมันสร้างความตื่นตกใจให้กับเด็กน้อยไร้เดียงสาในอีเดน ดั่งกลุ่มกบฏปีศาจปรากฏกายท่ามกลางความไม่รู้ ประตูสวรรค์ถูกทำลายไปบางส่วน และเหล่าทูตสวรรค์พยายามจะปิดมัน ทว่าเมื่อปีศาจเข้ามาแล้ว ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงเขาทำอะไรลงไป!ก่อนหน้านี้เจสซี่จินตนาการถึงอนาคตที่เปลี่ยนไป มันผิดไปจากความฝันที่วาดไว้มาก แต่อย่างน้อยเขายังยืนหายใจได้อย่างไม่รู้สึกผิดอะไรมากนักนอกจากทำผิดต่อครอบครัว เขาเห็นตัวเองยืนอยู่ตรงข้ามกับรัฐเพื่อเป็นหนึ่งในเหล่าผู้รู้แจ้งปลุกสติให้กับคนที่ยังถูกบังตา มันเป็นภาพที่ดูเท่ไม่เบา อนิจจัง แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพลวงของคนจัญไรที่ทำทุกวิถีทางให้ภารกิจของมันสำเร็จ และเขาเป็นไอ้โง่ที่หลงเชื่อไปเต็ม ๆเจสซี่กลายเป็นฆาตกร ทันทีเขายื่นกุญใจให้มัน เขากลายเป็นขยะ เมื่อถูกใช้ประโยชน์แล้วก็ไร้ค่าสองมือของชายหนุ่มสั่นสะท้าน แม้แต่ความพิลึกพิลั่นของอาวุธแต่ละชนิดที่แต่ละฝ่ายห้ำหั่นใส่กันก็ไม่ทำให้เขาสนใจได้นอกจากหน้าจอนั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเรีย
คำพูดของเอโลดี้เหมือนมีดเสียบเข้าอก จูนกัดฟันกรอด ๆ เพราะเหตุใดเธอรู้สึกว่าแม้ตัวเองไม่ได้อิจฉาอเล็กซิส แต่ในส่วนลึกของจิตใจ ไอ้ความรู้สึกที่อีกฝ่ายพูด มันจับกลุ่มเป็นก้อนซ่อนอยู่ภายในนั้น“ถ้ายังไม่หยุดพูด ฉันจะให้เธอลงไปเดี๋ยวนี้”“ตำรวจโบกอีกแล้ว”จูนสบถ ด้านหน้า เจ้าหน้าที่ในชุดสีน้ำเงินโบกมือ หญิงสาวชะลอความเร็วลง เขาเดินมาเคาะกระจกข้างคนขับ “คุณผู้หญิงครับ ไปไหนครับ”“ฉันกำลังจะกลับบ้านค่ะ” เธอตอบทันที“ตอนนี้ประกาศกฎ...”“ทราบค่ะ” เธอไม่รอให้เขาพูดจบ “คุณพ่อฉันรออยู่บ้าน ใกล้จะถึงแล้ว...”เอโลดี้กรีดร้องดังลั่น จูนอ้าปากค้าง ก่อนเธอพูดจบเกิดเสียงระเบิดดังจนหูอื้อไปชั่วครู่ เจ้าพนักงานที่อยู่ข้างรถตะโกนใส่วิทยุสื่อสาร ตึกด้านหลังพังครืนลงมา เธอทั้งตกใจและกลัวจนตัดสินใจขับออกไป ระเบิดดังไล่หลัง เอโลดี้ก็แหกปากกรีดร้องจนใจเธอสั่นไปหมด“โอ พระเจ้า”“อะไร ข้างบน”จูนมองตามสายตาเอโลดี้ เธอเห็นยานอะไรก็ไม่รู
เสียงฟ้าถล่มดังทำลายโสตประสาทก่อนที่ฟิโอดอร์จะกล่าวประโยคจบ จูนและเอโลดี้กรีดร้องด้วยความตกใจจนโผกอดกันแน่น เหตุใดฟ้าร้องน่ากลัวขนาดนี้ ลูกชายคนเล็กของตระกูลโวลคอฟวิ่งไปเปิดม่านหน้าต่าง ทั้งหมดมองท้องฟ้าผ่านหน้าต่างกระจก ค่ำคืนในฟิวเจอร์ริสติกกลายเป็นคืนน่าสะพรึง เปลวเพลิงปริศนาปรากฏเบื้องบน เส้นสายไฟฟ้าประหลาดโยงใยเหมือนคลุมชั้นบรรยากาศไว้ มันเหมือนเป็นเกราะบางอย่างป้องกันไว้ไม่ให้ไฟนั้นทะลุเข้ามา ยามเพลิงกระทบจะเกิดเสียงดังดั่งระเบิด มันปรากฏเป็นช่วง ๆ บางจุดบนท้องฟ้า ราวกับใกล้วันสิ้นโลกเข้าทุกทีพวกเขาทั้งหมดตกตะลึง ไม่มีใครพูดอะไรออกมา สายตาเอาแต่มองบนท้องฟ้าอยู่อย่างนั้น เส้นขนบนตัวลุกเกรียว เธอคลายมือจากเอโลดี้แล้วเดินตรงไปยังหน้าต่าง“พวกก่อการร้าย” ฟิโอดอร์กล่าว “พ่อจะไปเช็กข่าว”เจ้าของโวลคอฟเดินขึ้นบันไดไป จูนหันกลับไปมองท้องฟ้าด้านบน ในอกมีอาการจุก เธอเห็นเอโลดี้หยิบมือถือขึ้นมา ไม่ทันไรเสียงมือถือของเธอดังแม่“ฮัลโหล”“แกไปไหนตอนนี้ กลับมาที่บ้านเดี๋ยวนี้ ไทโรนจะพาพวกเราไปที่ปลอดภ
จูนเลือกไม่ตอบอะไร แต่เปิดวิทยุแทน เพราะถนนค่อนข้างโล่ง รถไม่เยอะ ดังนั้นจึงไม่ต้องทนความกับความเงียบอันน่าอึดอัดนาน ๆ เมื่อทั้งสองก็มาถึงคฤหาสน์โวลคอฟ เอโลดี้ก็มองสำรวจด้วยสายตาตื่นเต้น แน่สิ โวลคอฟเป็นตระกูลนักธุรกิจชั้นนำ ใครก็อยากรู้ว่าคนรวย ๆ อยู่บ้านแบบไหน สไตล์อะไร กลอนประตูเป็นหัวสิงโตหรือเปล่าทว่าคฤหาสน์ของโวลคอฟตกแต่งเรียบหรูเสียมากกว่าอลังการ พวกเขาเน้นสีแนวเอิร์ธโทนและประดับงานศิลปะราคาแพงหรือไม่ก็ของเก่า เพราะจูนเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พวกเขาจึงจำได้โวลคอฟทุกคนอยู่ในบ้าน จูนรู้ว่ายังเช้าเกินไป แต่พวกเขายังคงไม่ปฏิเสธแขกคนสำคัญ และเธอดีใจที่มีแค่วลาดิเมียร์ที่ตื่นลงมาต้อนรับ ไม่ใช่พ่อของเขา ฟิโอดอร์จูนเห็นเอโลดี้แอบเติมลิปสติกเมื่อเห็นลูกชายคนโตของบ้านเดินมา ร่างสูงของวลาดิเมียร์ดึงดูดสายตาเอโลดี้ได้ดี ชายหนุ่มในตระกูลโวลคอฟนั้นรูปร่างดีและรัศมีโดดเด่นพอตัว พวกเขาไม่เหมือนกับเดวี่หรือเวดที่เห็นปุ๊บก็บอกได้ว่าหล่อเหลา หากแต่บุคลิกและองค์ประกอบทำให้พวกเขาดูเหมือนกับคุณชายหรือไม่ก็พวกเจ้าชายยุคใหม่ที่มีเลือดสีแดงและคลังสมบัติมหาศาล ราชนิกุลแห่งโล