Home / แฟนตาซี / Undisclosure / การรอคอยนับเป็นการบำบัดหรือ?

Share

การรอคอยนับเป็นการบำบัดหรือ?

last update Last Updated: 2025-03-01 11:28:16

พอมองรอบกายจึงรู้ว่าตัวเองวิ่งไล่มาจนถึงหน้าห้องสปา วิ่งอย่างกับรถแข่งเลยแฮะ สายตาสังเกตเห็นสาวบางคนส่งสายตาสื่อความนัยให้ชายหนุ่มทั้งสอง อเล็กซ์นั้นปิดกล่องรับข้อความ ส่วนเบนเปิดรับทุกช่องทางแถมส่งกลับอีกต่างหาก ไม่ว่าจะอ่อนกว่าหรือโตกว่า เขาต้อนรับทุกคน บางครั้งเขาได้รับข้อความแย่ ๆ เช่นกัน ที่เธอเห็นบ่อย ๆ คือ ‘สารเลว’ กับ ‘ไปตายซะ’ แต่คำพวกนี้ไม่ได้ทำให้เบนระคายเลย

“ว่าอะไรไปก็ไม่เข้าหูนายหรอก เหมือนพูดใส่กำแพง นายไม่เบื่อเหรอไง รู้อะไรไหม ตอนแรกนายโคตรจะดูดีเลย อย่างกับเจ้าชายจำแลง แต่ตอนนี้...”

“แต่อะไร” เขาหรี่ตา

“นายทำลายภาพนั้นเสียย่อยยับ เลิกทำตัวเป็นหมาป่าสักที ฉันไม่ใช่หนูน้อยหมวกแดงนะ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าแบมบี้ด้วย ฉันไม่ชอบ”

“ถ้าฉันเป็นหมาป่า เวดเป็นอะไรดี หมีขี้โมโหดีไหม”

ชายหนุ่มทั้งสองหัวเราะพร้อมกัน เห็นเป็นเรื่องตลก

“นิสัยปกติของนายเป็นแบบนี้เหรอ ชอบล่อลวงผู้หญิงทุกคนที่นายเจอ” อเล็กซิสถาม สงสัยอย่างจริงจัง

“ไม่ทุกคนหรอก ทุกคนที่สวยต่างหาก”

“แต่มีอยู่คนนึงที่ไม่สวย” อเล็กซิสกล่าวยิ้ม ๆ

“คนไหน” เบนสงสัย

เธอจึงชี้ไปที่อเล็กซ์ “คนนี้ไม่ใช่ผู้หญิง”

หา” หนุ่มทั้งสองร้องออกมาพร้อมกัน โดยเฉพาะเบนที่ดูจะตกตะลึงเป็นพิเศษ นับว่า

กลยุทธ์นี้ใช้ได้ดีพอสมควรสำหรับคนแบบเขา

“โทษที แต่มันอดสงสัยไม่ได้ ถ้านายไม่เอาแต่วอแว ก็จะเอาแต่ถามว่าอเล็กซ์กับฉันคุยอะไรกัน อเล็กซ์คุยกับฉันว่าอะไรบ้าง...อะไรพวกนี้”

“ไม่เอาน่า เธอบ้าไปแล้ว” เบนปิดหูทั้งสองข้างราวกับว่าคำพูดของเธอทำให้เขาเจ็บปวดมาก “โบรแมนซ์ ให้ตายเถอะ ทำไมพวกผู้หญิงสมัยนี้ชอบอะไรแบบนี้กันนะ”

“เพราะความรักไม่เกี่ยวกับเพศ เฮ้อ แต่ไม่มีใครฟังฉันเลย...”

“เห็นไหม” อเล็กซ์ดึงหูฟังออกจากหูราวกับมีคนกดปุ่มอารมณ์เดือด “ฉันสงสัยเหมือนกัน นายชอบกวนใจเสมอเลย แถมแย่งแฟนของฉันประจำ ก็รู้นะว่าฉันมันหล่อฮอตขนาดนี้ แต่เพื่อนรัก ฉันรักนายแบบน้องชายนะ”

“อย่ามา ฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ถ้าฉันเป็นแล้วจะนอนกับพวกผู้หญิงทำไมวะ แม่ง นายก็รู้ว่าฉันชอบนอนกับพวกเธอจะตาย และฉันก็อยากนอนกับเธอด้วย” เขาหันมาหาอเล็กซิส เด็กสาวกอดอก ส่ายหน้าช้า ๆ เขาจึงหันไปหาเพื่อนสนิทอีก “การที่ฉันนอนกับผู้หญิงของนายน่ะ มันมาจากจุดประสงค์ดี ฉันบอกนายเป็นล้านรอบแล้ว”

“นี่ ขอโทษที่แทรกนะ แต่พวกนายคุยกันเสียงดังมาก อีกอย่างนะเบน ไม่เป็นไรหรอกหากนายจะชอบทั้งสองอย่าง”

“ใจกว้างจริง ๆ แบมบี้” เบนสูดหายใจเข้าลึกๆ เห็นได้ชัดว่าเขาหงุดหงิดมาก จึงเอาแต่ตะโกนเถียงอเล็กซ์ใหญ่ เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาละทิ้งบุคลิกแบบคุณชายผู้สูงศักดิ์ไปจนหมด

ถ้าให้พูดด้วยความสัตย์ เสน่ห์ของเบนเพิ่มขึ้นเวลาที่เขาเป็นตัวของตัวเอง เวลาที่เขาปิดโหมดนักล่ากับโหมดปีศาจร้าย เบนเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสนุกโดยที่ไม่ต้องพยายาม แม้ว่าเขามักจิกกัดหรือเสียดสีคนก็ตาม แต่พอได้ยินการใช้คำที่แสนสร้างสรรค์ก็เหมือนเป็นการลับทักษะการใช้คำให้กับตัวเธอเองด้วย

“ฉันชอบนายมุมนี้นะ” เธอบอกเขาไปตามตรง ขณะเดียวกัน สองคนนั้นก็ยังแข่งกันลับฝีปากปะทะกันไม่หยุด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่พอพ่อหนุ่มคาสโนว่าปรายตามองพร้อมรอยยิ้มพราย อเล็กซิสจึงต้องรีบแก้ “ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน ฉันชอบเวลานายเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่เจ้าชาย หรือหมาป่าบ้าบอ”

“เหรอ เธอรู้ได้ยังไงว่านี่คือตัวตนของฉัน เธอคิดว่านี่คือตัวตนของฉันแล้วเหรอ บางทีเรามาช่วยค้นหาคำว่า ‘ตัวตนที่แท้จริง’ กันดีกว่าไหม”

“หุบปากไปเลยน่า” อเล็กซิสจับผมสีน้ำตาลเข้มที่ปรกหน้าผากของเขา “แล้วทำไมนายต้องใส่เจลตรงนี้ด้วย”

“หยุด อย่ายุ่งกับผมฉัน” เขาโวยวาย

อเล็กซ์ได้ทีทันที “หมอนี่เอาผมบังหน้าผากกว้าง ๆ ของตัวเองไว้น่ะ พอเบนกลายเป็นชายวัยกลางคน หัวเขาก็จะล้านเอง” แถมยังย้ำด้วยน้ำเสียงร่าเริง อีกครั้งที่พวกเขาสู้กัน เบนปรี่จะเข้าไปต่อย อเล็กซ์จึงจับล็อกคอ แล้วทั้งคู่ก็อยู่ในลักษณะเหมือนกำลังเล่นมวยปล้ำ คนอื่นที่เดินผ่านเริ่มหันมามองด้วยความสนใจ

“นี่ หยุด หยุด หยุด พวกเขาเป็นแบบนี้ประจำแหละ” เธอรีบบอกเด็กหนุ่มสองคนที่กำลังจะวิ่งเข้ามาช่วย “เฮ้ย หยุดได้แล้ว เดี๋ยวลูกของฉันพัง” เด็กสาวพยายามแทรกเข้าไปเอาเครื่องเล่นของตัวเองคืน “นี่ คนอื่นกำลังมองนะ พวกเขาคิดว่าพวกนายสู้กันจริง ๆ ก็สู้กันจริง ๆ...โธ่เว้ย”

สุดท้ายเธอจับศีรษะทั้งสองชนกันดังโครม “โทษทีที่ต้องทำแบบนี้”

อเล็กซ์ถอนตัวออกมาจนได้ เขาถอนหายใจยาวจากนั้นสวมหูฟังกลับไปใหม่ ทว่าใบหน้าคนขี้เซาฉายความพอใจอยู่ลึก ๆ ส่วนเบนนั้นจัดผมให้เข้าที่ ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ทั้งหมดเหนื่อยกับการพูดแหย่กัน เถียงกัน ผลักกัน และไล่เตะกันแล้ว ทั้งสามนั่งพักริมขอบทางเดิน คนที่ผ่านมามองคนทั้งสามราวกับเป็นพวกตัวประหลาด คงนึกสงสัยว่าทำไมพวกคนเพี้ยนถึงมานั่งเกะกะตรงนี้ อเล็กซิสยังเห็นเด็กสาวหน้าอกทรงโตยิ้มเหยียดให้ด้วย

“อีกสามวันเอง พวกเราจะไปที่ไหนนะ” เบนพูดขึ้น ทุกคนคงถามตัวเองแบบนี้ทั้งนั้น

“นายควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับชีวิตที่ไม่ต้องการคำตอบนะ” เธอว่า

“ไม่ใช่เธอเหรอที่ชอบตั้งคำถาม”

“บางที วันนั้นเราอาจจะได้รับคำตอบ” อเล็กซ์เดา

“ขอให้เป็นคำตอบที่ดีละกัน” เธอชูกำปั้นขึ้น

“ขอให้เป็นคำตอบที่ดี” อีกสองคนพูดแบบเดียวกันแล้วชนกำปั้นกับเธอเหมือนกับเวลาชนแก้วไวน์

“หวังว่าสิ่งที่เรารอจะไม่ใช่โกโดต์[1]นะ”

เมื่อเธอกล่าวประโยคนั้นจบ อีกสองคนถอนหายใจตาม

[1] โกโดต์ ตัวละครจาก Waiting for Godot วลาดิมีร์และเอสทรากอนรอคอยตัวละครที่ชื่อ โกโดต์ทั้งเรื่อง แต่ตอนจบโกโดต์ก็ยังไม่มา ซึ่งเปรียบเสมือนการรอคอยที่ไม่สิ้นสุด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status