Home / แฟนตาซี / Undisclosure / ความฝันของเบน

Share

ความฝันของเบน

last update Last Updated: 2025-03-06 11:56:16

ม้าเหล็กสีแดงพุ่งทะยานรอบภูเขา เด็กหนุ่มวัยละอ่อนผู้มีดวงตาสีอำพันคุมบังเหียนลูกรักคันใหม่ โมเดลรุ่นล่าสุดที่กลุ่มบริษัทโวลคอฟเรียกมันว่า สปีดโบลท์ ความเร็วในระดับที่สื่อทุกแขนงยกยอว่ามันเป็นเทพเจ้าสายฟ้า นวัตกรรมใหม่ที่ไม่ว่าเจ้าไหนก็ตามไม่ทัน คงไม่แปลกนักหากโวลคอฟจะเป็นผู้นำธุรกิจยานยนต์อันดับหนึ่ง พ่อเป็นคนมอบของขวัญชิ้นนี้ให้เขาเอง นั่นเพราะว่าเบนเป็นลูกคนโปรด

เท้าข้างขวากระทืบคันเร่งเพิ่มระดับความเร็วจนเข็มมาตรวัดหมุนไปยังเลขที่สูงขึ้น สูงขึ้น แม้มันยังไม่ถึงระดับสูงสุด อันเนื่องจากยังมีผู้โดยสารอีกสองคนซึ่งก็คืออเล็กซ์และนาตาเลียนั่งอยู่ ทว่าความเร็วระดับนี้สามารถทำให้ผู้โดยสารทั้งสองหวั่นไหวพอสมควร นาตาเลียยืนกรานจะนั่งด้วย เพราะเด็กหนุ่มทั้งสองอายุแค่สิบห้าปีเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเบนกำลังฝ่าฝืนกฎหมายการจราจร แต่ด้วยฐานะทางสังคมที่จัดว่าอยู่ในระดับชนชั้นสูงของชนชั้นสูงอีกที ไม่มีสิ่งใดที่ต้องกังวล ถ้าตำรวจกล้าเรียกให้เขาหยุด ก็เพียงแค่จ่ายเงินปิดปากสักก้อน ต่อให้รู้นามสกุลหรือไม่รู้ พวกตำรวจจะเดินออกไปเอง ยิ้มร่าพร้อมกับเงินจำนวนหนึ่งสำหรับจ่ายหนี้ต่าง ๆ หรืออาจจะพอรับประทานมื้อหรูสักครั้งในชีวิต อย่างไรก็ตาม แม้เบนชี้แจงเหตุผลไป นาตาเลียยังคงรั้นจะตามมา เธอเป็นผู้หญิงแบบนี้ นิสัยดีแต่ขี้ห่วง หญิงสาวนั่งอยู่เบาะหลัง ส่วนอเล็กซ์นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับ เด็กหนุ่มซิ่งลูกรักไปตามเส้นทางโดยมีจุดมุ่งหมายคือรีสอร์ตที่ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาเมืองไมโล บ้านพักของพวกเขาตั้งอยู่สูงสุด เหนือกว่าบ้านของครอบครัวอื่น เบนกำลังจะพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายภายในไม่กี่นาที

“เบน นายช่วยลดความเร็วลงหน่อยสิ” อเล็กซ์เตือน เขาแกล้งทำเป็นเด็กดีต่อหน้าเธอ ถ้าอยู่กันสองคน เชื่อเถอะ หมอนี่จะพูดให้เขาเหยียบระดับแม็กซ์

“ยังไหวอยู่ใช่ไหม แนท” เขาถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างหลัง

“อื้อ สบายดีจ้ะ” เธอตอบเสียงเบา ไม่อาจปกปิดความกลัวไว้ได้ อย่างไรก็ตาม เบนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เขาถือว่าเธอตอบแล้ว ดังนั้นเขายังคงความเร็วเท่าเดิม

“อย่าห่วงน่า ฉันจะบินโฉบไปถึงที่หมายภายในไม่กี่วินาทีนี้แหละ จับที่นั่งกันดี ๆ ล่ะ วู้”

 อย่าทำแบบนั้น

“หา อะไร”

อเล็กซ์มองหน้าเขา “อะไรของนาย”

“เมื่อกี้นายพูดอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า นี่ ลดความเร็วลงซะ”

“แนท เมื่อกี้คุณพูดอะไรเหรอ”

“เปล่านะจ๊ะ”

อย่าทำตัวงี่เง่าน่า ลดความเร็วลงซะ ไอ้เวรเอ๊ย นายต้องได้ยินเสียงฉันสิ!

แต่เบนไม่ได้ยินเสียงตัวเขาเอง การขับรถด้วยความเร็วระดับนี้ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าครองโลก เขาควบเจ้าม้าเหล็กเยี่ยงจอมเผด็จการ ลงแส้ให้มันเร่งฝีเท้าหนักกว่าเก่า แต่โชคไม่ดีเลย เจ้าม้าเหล็กเลือกที่จะพยศ ก่อนที่มันจะทันพุ่งทะยานขึ้นสู่ยอดเขากลับแฉลบลงข้างทางตกลงสู่ทะเลเบื้องล่าง โชคดีที่เขาไม่ได้เปิดหลังคา แต่ถุงลมนิรภัยทำงานเกินหน้าที่ มันตีกระแทกจนศีรษะชนเข้ากับพนักที่นั่งอย่างแรง เด็กหนุ่มสลบไปพักหนึ่ง

มันเป็นเหตุการณ์ที่เขาพยายามไม่ให้มันเกิดอยู่หลายครั้ง แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ เขาเห็นภาพนี้ซ้ำไปซ้ำมา

“อเล็กซ์...เบน...อเล็กซ์...เบน”

เบนในความทรงจำนั่งอยู่ในรถ และเขาอยู่ในตัวของเบนคนนั้นอีกที กระจกข้างหน้ารถมีรอยร้าว น้ำค่อย ๆ ไหลเข้ามาข้างในห้องผู้โดยสาร เบนสูดหายใจเฮือกใหญ่เพื่อเร่งสติให้ตื่นเต็มที่ เพียงกะพริบตา ถุงลมนิรภัยที่ยึดตัวเขาไว้แตกออก เขาปลดเข็มขัด พอหันไปทางอเล็กซ์กลับเห็นภาพที่น่าสยดสยอง ถุงลมนิรภัยฝั่งเพื่อนรักนั้น นอกจากจะไม่ช่วยปกป้องแล้ว ยังเป็นตัวกั้นไม่ให้เขาดึงร่างเพื่อนออกมาได้ อเล็กซ์น่าจะถูกกระแทกหลายรอบ เพราะดันซวยเมื่อรถพลิกคว่ำและแรงกระแทกนั้นกลับไปตกอยู่ที่ฝั่งของเขามากกว่าฝั่งคนขับ ดังนั้นประตูเหล็กจึงยุบเข้ามาข้างใน เกือบบี้ร่างของเขา นอกจากนั้น ถุงลมที่ทำงานตามหน้าที่ได้ตรึงร่างของอเล็กซ์ไว้แน่น ทายาทแห่งโวลคอฟบาดเจ็บสาหัสและไม่มีสติแล้ว เบนเหลือบมองรอยร้าวบนกระจก เขารู้ว่าตัวเองต้องรีบช่วยเพื่อนออกมาก่อนที่รถจะดำดิ่งลงไปลึกกว่านี้ และน้ำจะทะลักเข้ามาจนทุกอย่างสายเกินไป

“แนท!” เมื่อเขาหันหลังดูคนข้างหลัง หนุ่มน้อยหมดสภาพร้องออกมาดังลั่นด้วยความตกใจ ช่วงร่างของเธอถูกโครงเหล็กบีบอัดเช่นเดียวกับอเล็กซ์ แต่ในสภาพที่แย่กว่าและไม่มีทางช่วยออกมาได้ หญิงสาวไม่มีทางรอดแน่นอน

“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เอาแบบนี้ ผมขอโทษ แนท ผมขอโทษ”  ริมฝีปากของเขาสั่นระริก สติของเบนใกล้กระเจิดกระเจิง

“ช่วย...เขา...ช่วย...อเล็กซ์” เธอยังพอมีแรงฝากฝัง ทั้ง ๆ ที่ใบหน้าสวยหวานบัดนี้มีแต่เลือดชโลมแทนแป้ง

เขาเพ่งสติไปที่เพื่อน ชิ้นส่วนโลหะค่อย ๆ แยกออกจากกัน ถุงลมฟีบลง ร่างอเล็กซ์นอนพับราวกับตุ๊กตาถูกทิ้งขว้าง เบนดึงตัวเพื่อนออกมาได้ก็จริง แต่เพราะเหตุนี้ทำให้น้ำเข้ามามากขึ้น

เขาเอื้อมมือไปจับแขนนาตาเลีย แต่เธอจากเขาไปแล้ว ดวงตายังคงเบิกกว้างเหมือนต้องการดูให้แน่ใจว่าอเล็กซ์จะปลอดภัย แนทไม่หายใจอีกแล้ว ดวงตาสีฟ้าคู่นั้น เธอเป็นโวลคอฟคนเดียวที่มีดวงตาสีฟ้า บัดนี้มันว่างเปล่า

“แนท ได้โปรด อยู่กับผม อยู่กับพวกเรา” เธอไม่ขยับเขยื้อน ไม่แม้แต่ส่งเสียง หน้าอกของเธอนิ่ง ไม่มีสิ่งใดขยับ เธอตายแล้ว...ตายจริง ๆ “ได้โปรดเถอะ แนท หายใจสักนิด” โลหะที่อัดร่างเธออยู่นั้นเคลื่อนตัวออกจากกัน แต่วิญญาณของเธอไม่ยอมกลับมา

“อย่าทำแบบนี้  ตื่นเถอะ ผมจะช่วยคุณออกมา” เขาเรียกเธอ ใช้พลังเท่าที่จะทำได้ช่วยเธอเหมือนกับที่เขาช่วยอเล็กซ์ แต่ขณะนั้น อเล็กซ์หายใจแผ่วเบาอยู่ข้างตัวแถมยังอยู่ในลักษณะผิดธรรมชาติ เขารู้ว่าตัวเองไม่มีเวลาพอ ไม่มีเวลาช่วยเธออีกแล้ว มิเช่นนั้น อเล็กซ์คงตามเธอไปอีกคน ระดับน้ำสูงขึ้นทุกจังหวะหายใจ

ผมขอโทษ ผมช่วยคุณไม่ได้เลย

“แนท ผมขอโทษ” เด็กหนุ่มดึงร่างนั้นเข้ามาหาตัวเอง จรดฝีปากลงบนริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยน มันยังอุ่นอยู่เลย “ผมขอโทษ” เด็กหนุ่มร่ำไห้ราวกับดวงใจถูกบดขยี้ไปพร้อมกับตัวรถ เบนมองไปที่กระจกหน้ารถ ทันใดนั้น มันปริแตกออกทันที น้ำทะลักเข้ามา แต่ทำให้เขาสามารถพาอเล็กซ์ออกไปได้ มือข้างหนึ่งกอดเพื่อนไว้แน่น เบนพาตัวเองและเพื่อนออกจากซากเหล็ก ร่างของคนทั้งคู่ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่นาตาเลีย ร่างของเธอจมลงไปเรื่อย ๆ พร้อมกับลูกรักสีแดง ทั้งสองถูกฝังอยู่ใต้พื้นทะเล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    เพื่อนหายไป

    เปล่า ไมเคิลแน่ใจว่าอเล็กซ์ไม่ได้รู้สึกแบบเขา อีกฝ่ายเข้าใจไปอีกอย่าง ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะพูดกับอเล็กซิสเดี๋ยวนี้ บางที...มันอาจเป็นพลังของเธอ แต่ทำไมอเล็กซ์ไม่รู้สึก หรือเพราะเขายังไม่ได้สู้ เขายังไม่ได้ใช้พลัง แล้วพลังของอเล็กซิสเป็นแบบไหนกันแน่ เพิ่มพลังให้คนอื่นงั้นหรือ หรือปลดล็อกให้อีกฝ่ายรู้จักใช้พลังของตัวเอง“บรรยากาศไม่ดี” อาคุสะพูดขึ้น“กลับไปดูพวกเทสซ่าก่อนกันเถอะ” อเล็กซิสตบไหล่แฟนหนุ่มสองสามทีเพื่อให้เขาออกไปจากตัว “ถ้าพวกมันแห่ไปที่นั่น ทุกคนแย่แน่” ทั้งหมดพยักหน้า เด็กสาวกำลังจะขยับเท้าก็หันมาไมเคิล “ไว้อธิบายว่าเมื่อกี้นายทำอะไร” เธอยกมือตีหน้าผากตัวเองแต่ก่อนจะไปไหนได้ ทั้งหมดได้ยินเสียงกรีดร้อง...*****เทสซ่าไม่เคยยินดีเท่านี้มาก่อนที่ได้เจอพวกบลูในเวลานี้ เธอผล็อยหลับไปเมื่อไรไม่รู้ แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกที ก็มีมนุษย์รูปร่างคล้ายหุ่นยนต์สองตนตรงเข้ามา ทีแรกเธอคิดว่าพวกเขาต้องการจะสังหารฝ่ายต่อต้าน แต่ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขามาเพื่อลักพาตัวโคดี้เด็กหนุ่มผมบลอนด์ยังนอน

  • Undisclosure    สัมผัสพิเศษ

    “หาเองสิวะ” เขาตะโกน ทว่าไม่ทันระวังเพราะมันดาปาอาวุธกลับมา เมื่อหันหน้ากลับไปก็เห็นรอยเท้าเต็มหน้ากระแทกเข้าที่หน้า ร่างของเขากระเด็นกระแทกกำแพงตึก ไมเคิลส่ายหัว มึนไปมันหมด อเล็กซิสวิ่งเข้ามาช่วยพยุงตัวขึ้น“พวกมันไม่บอก อย่าเสียเวลา” เขาได้ยินดังนั้นคิ้วขมวดกันทันที เดี๋ยว... กลายเป็นว่าพวกเขาทั้งหมดจำต้องรั้งพวกมันให้สู้กับตัวเอง ไม่อย่างนั้นพวกเทสซ่าแย่แน่ เขาไม่รู้ว่ามีกลุ่มอื่นตามหาโคดี้อีกหรือไม่ และถ้าเป็นแบบนั้นก็ยิ่งไม่สามารถปล่อยให้พวกมันไป พอเห็นเขายืนได้ อเล็กซิสตัดสินใจค่อย ๆ เดินตรงไป มือยังยิงปืนไม่หยุด “เก็บไฟแช็ก” เธอสั่งเขา “ห้ามทำมันหายเด็ดขาด”“อย่าไป” เขาร้อง แต่เธอไม่ฟัง อเล็กซิสหยิบดาบของไมเคิลขึ้นมาอีกข้างแล้วโถมตัวใส่มันแล้วไมเคิลเห็นดังนั้นรีบตะครุบไฟแช็กแล้วจุดมันขึ้น“อเล็กซิส” เขาร้องเมื่อเห็นเธอบ้าบิ่นจะสู้กับมันตัวต่อตัว พลันร่างเธอก็กระเด็นล้มไปทางเรมีที่กำลังรับมือกับอีกตัวคู่กับอาคุสะ อเล็กซ์สบถอะไรบางอย่าง แล้วจัด

  • Undisclosure    โคดี้อยู่ไหน

    เฒ่าทรอยนอนฟุบลงกับพื้นจนหน้าคลุกไปกับหิมะสกปรกบนพื้น ไม่มีใครคิดช่วยให้เขาลุกขึ้นมา และถ้าใครทำแบบนั้น ไมเคิลจะเป็นคนกระชากคอออกมาเอง เด็กหนุ่มยืนพักหอบหายใจ กว่าจะพาทรอยออกมาได้ยากลำบาก หุ่นยนต์ถูกตั้งโปรแกรมให้กำจัดใครก็ตามที่อยู่ในสถานะเจ้าพนักงานของทอยซิตี้ ก่อนหน้านี้ เขาขอให้ฟีบี้รีเซตพวกมันใหม่เป็นหน่วยทหารแทน แต่เพราะเธอยืมพลังมาจากโคดี้ ประสิทธิภาพของมันไม่แน่ไม่นอน เมื่อเซตได้ตัวหนึ่งก็ต้องเซตตัวอื่น เธอไม่สามารถทำได้ทีเดียว พอทำงานซ้ำไปซ้ำมา หญิงสาวก็เริ่มหมดความอดทน ฟีบี้บอกว่าเธอไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องชีวิตเจ้าหน้าที่ แต่เพื่อสานงานของโคดี้และเพื่อปกป้องพวกเราทุกคนต่างหาก ศูนย์กลางของทอยซิตี้คือ เดอะ วาล และถ้าหากเจาะเข้าไปยังศูนย์บัญชาการได้ พวกทหารจะแพ้ราบคาบ นั่นคือสิ่งที่เธอบอก แต่ไมเคิลเข้าใจว่ามันคือการคาดเดามากกว่า และเขาก็รู้ว่าเธอไม่ได้คิดขึ้นเอง แต่มันมาจากลูไมเคิลเดินตรงไปแล้วดึงคอเสื้อทรอยขึ้นมาอีก คราวนี้เขาลากเข้าไปในตึกของเมลิสซ่า ที่พักเก่าของตนกับเรมี ตอนนี้แทบไม่มีใครอยู่ในตึกแล้ว ประชากรในเดอะ วาลบางส่วนที่ไม่อยากต่อสู้ก็อพยพไปยังเขตอื่น เนื่อง

  • Undisclosure    ในเงามืด

    ขณะนั้นริงโก้ตัดสินใจอุ้มเอมอนขึ้นมาคนเดียว เพียซจึงอุ้มเดสซิเรตามมา เบลินดาเห็นพวกเขาเดินตรงมาก็ลุกขึ้น เธอส่งขวดน้ำดื่มให้อย่างรู้งาน ระหว่างนั้นเพียซก็เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากประตูเปิด พวกเขาก็บุกเข้าไปข้างในเพื่อหาตัวเอมอนกับเดสซิเร ทั้งสองถูกจับสวมกุญแจมือ อาวุธโดนยึดหมด แต่เดสซิเรและเอมอนก็ทำให้กำลังพลภายในนั้นปั่นป่วนไปมาก พวกเขาเจอศพทหารหลายราย คงเป็นฝีมือของทั้งสอง ตอนไปถึง หญิงสาวยังพอมีสติจึงเล่าว่า ทั้งคู่พยายามหาห้องควบคุม แต่ภายในมีระบบเชื่อมต่อกับชุดสูทที่เอมอนสวม เพียงย่างก้าวไปในส่วนที่เป็นสำนักงาน หน้ากากจึงถูกปลดออกอัตโนมัติ ทั้งสองจึงต้องสู้และพยายามจะออกมา ทว่าก็สู้จำนวนคนและอาวุธไม่ได้ จากนั้นจึงถูกจับทรมาน อาจเป็นโชคดีในโชคร้ายของเดสซิเรที่ไม่มีแผนอะไรอยู่แล้ว บวกกับพลังพิเศษที่ทำให้พวกนั้นไม่อาจสัมผัสหรือเข้าใกล้ได้มากนัก ส่วนเอมอนนั้นแย่หน่อยเพราะพอรู้แผนของลูคร่าว ๆ แต่ไม่ได้ปริปากออกไปเลย ดังนั้นเขาจึงโดนซ้อมหนักที่สุด“แล้ว...ทำไมพวกเธอมานั่งอยู่ตรงนี้” โอลิแวนถาม “พวกอเล็กซิสล่ะ ฉันได้ยินกว่าทั้งกลุ่มเข้าไปในเขตเธอไม่ใช่หร

  • Undisclosure    คลำหาทาง

    ไมเคิลสบตากับเรมี อีกครั้งที่พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเธอวางแผนอะไรกัน“ฉันต้องการคำอธิบาย ตั้งแต่เช้า พวกเราวุ่นจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยังไม่นับเรื่องที่พวกเธอทำโดยไม่บอกก่อน”ฟีบี้กลอกตา เธอไม่ได้มีท่าทีสำนึกหรืออ่อนข้อลงแบบเทสซ่า แต่กลับยักไหล่ไม่สนใจ แม้บุคลิกหญิงสาวจะเป็นแบบนี้ และปกติก็ไม่มีใครถือสา (ยกเว้นเทสซ่า) แต่เวลานี้ เขาอดฉุนไม่ได้“ทำไมฉันต้องบอกพวกนายด้วย โต ๆ กันแล้ว อีกอย่างก็ใช่ว่าฉันจะรู้ก่อนหน้าอะไรนักหนา ถ้าไม่ใช่เพราะโคดี้ ฉันก็อาจจะนั่งทำหน้าโง่เหมือนพวกนายนี่แหละ” อาคุสะทำเสียงจุ๊ ๆ แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามปรามเรื่องคำพูด เธอยักคอไปมาอย่างกวนประสาท “เฮ้อ เอาเป็นว่าตอนนี้โคดี้ต้องพัก ส่วนฉันก็ยืมพลังเขามาใช้ จะพยายามเปิดไอ้ประตูยักษ์นั่น” พูดจบก็ถูมือ“ฟีบี้...” อเล็กซิสพูดขึ้น “ฉันเดินผ่านศูนย์อนามัย...เห็นศพพยาบาลเต็มไปหมด ยังไม่รวมเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ไม่ใช่ทหารอีก...”หญิงสาวเงียบไปเมื่อเจอคำถามนี้ เทสซ่าก็เม้มปากแน่น เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นทั้งสองมองหน้ากันอย่างเข้า

  • Undisclosure    มุ่งหน้า

    11:45 PM หน้าประตูเขตเครสเตอร์ - เดอะ วาลกระแสไฟฟ้าแผ่กระจายเป็นวงกว้าง มันส่งแรงต้านผลักก้อนคอนกรีตชิ้นโตหล่นกลับลงมบนพื้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไมเคิลทึ่งที่โคดี้สามารถป้อนชุดคำสั่งพิลึกพิลั่นให้กับหุ่นพิฆาต หรืออันที่จริงคือ ใครจะคิดว่าเขาจะป้อนคำสั่งแบบนั้นในเวลารีบเร่งเช่นนี้ ทุกครึ่งชั่วโมงจะมีหุ่นสองสามตัวเดินกลับมาปาก้อนหินหนักขึ้นไป กำแพงกั้นเขตแน่นหนาจนแม้แต่พวกมันข้ามไปไม่ได้ จึงใช้วิธีนี้เช็กดูว่าระบบรักษาความปลอดภัยของทอยซิตี้สั่นคลอนแล้วหรือยัง จะว่าเป็นเพราะระบบถูกออกแบบมาดีก็ว่าได้ ถ้าหากไม่ใช้เพราะโคดี้มีพลังพิเศษ ไมเคิลไม่เห็นหนทางเลยว่าพวกเขาจะออกไปได้ ต่อให้เครสเตอร์และนอร์ธพังทลายเพียงใด มันก็ยังไม่ลามไปถึงอีกฝั่งที่ถือว่าเป็นศูนย์กลาง และเมื่อนั้น ถ้าหากพวกเขาจะล้างศัตรู ก็อาจปล่อยระเบิดลงมาลูกเดียว แบบที่เคยเกือบล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปเมื่อหลายพันปีก่อนยุคก่อนหายนะ...พี่สาวฝาแฝดเคยเล่าให้เขาฟังเข้าเที่ยงคืนกว่าแล้วหรือ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น อเล็กซิสจะกินอะไรแล้วหรือยัง เขานั่งนับวันแล้วเหงื่อตก พวกเขาทำปฏิทินเช็กความถี่ว่าอะวีซีจะออกฤ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status