Home / แฟนตาซี / Undisclosure / ความฝันของเบน

Share

ความฝันของเบน

last update Last Updated: 2025-03-06 11:56:16

ม้าเหล็กสีแดงพุ่งทะยานรอบภูเขา เด็กหนุ่มวัยละอ่อนผู้มีดวงตาสีอำพันคุมบังเหียนลูกรักคันใหม่ โมเดลรุ่นล่าสุดที่กลุ่มบริษัทโวลคอฟเรียกมันว่า สปีดโบลท์ ความเร็วในระดับที่สื่อทุกแขนงยกยอว่ามันเป็นเทพเจ้าสายฟ้า นวัตกรรมใหม่ที่ไม่ว่าเจ้าไหนก็ตามไม่ทัน คงไม่แปลกนักหากโวลคอฟจะเป็นผู้นำธุรกิจยานยนต์อันดับหนึ่ง พ่อเป็นคนมอบของขวัญชิ้นนี้ให้เขาเอง นั่นเพราะว่าเบนเป็นลูกคนโปรด

เท้าข้างขวากระทืบคันเร่งเพิ่มระดับความเร็วจนเข็มมาตรวัดหมุนไปยังเลขที่สูงขึ้น สูงขึ้น แม้มันยังไม่ถึงระดับสูงสุด อันเนื่องจากยังมีผู้โดยสารอีกสองคนซึ่งก็คืออเล็กซ์และนาตาเลียนั่งอยู่ ทว่าความเร็วระดับนี้สามารถทำให้ผู้โดยสารทั้งสองหวั่นไหวพอสมควร นาตาเลียยืนกรานจะนั่งด้วย เพราะเด็กหนุ่มทั้งสองอายุแค่สิบห้าปีเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเบนกำลังฝ่าฝืนกฎหมายการจราจร แต่ด้วยฐานะทางสังคมที่จัดว่าอยู่ในระดับชนชั้นสูงของชนชั้นสูงอีกที ไม่มีสิ่งใดที่ต้องกังวล ถ้าตำรวจกล้าเรียกให้เขาหยุด ก็เพียงแค่จ่ายเงินปิดปากสักก้อน ต่อให้รู้นามสกุลหรือไม่รู้ พวกตำรวจจะเดินออกไปเอง ยิ้มร่าพร้อมกับเงินจำนวนหนึ่งสำหรับจ่ายหนี้ต่าง ๆ หรืออาจจะพอรับประทานมื้อหรูสักครั้งในชีวิต อย่างไรก็ตาม แม้เบนชี้แจงเหตุผลไป นาตาเลียยังคงรั้นจะตามมา เธอเป็นผู้หญิงแบบนี้ นิสัยดีแต่ขี้ห่วง หญิงสาวนั่งอยู่เบาะหลัง ส่วนอเล็กซ์นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับ เด็กหนุ่มซิ่งลูกรักไปตามเส้นทางโดยมีจุดมุ่งหมายคือรีสอร์ตที่ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาเมืองไมโล บ้านพักของพวกเขาตั้งอยู่สูงสุด เหนือกว่าบ้านของครอบครัวอื่น เบนกำลังจะพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายภายในไม่กี่นาที

“เบน นายช่วยลดความเร็วลงหน่อยสิ” อเล็กซ์เตือน เขาแกล้งทำเป็นเด็กดีต่อหน้าเธอ ถ้าอยู่กันสองคน เชื่อเถอะ หมอนี่จะพูดให้เขาเหยียบระดับแม็กซ์

“ยังไหวอยู่ใช่ไหม แนท” เขาถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างหลัง

“อื้อ สบายดีจ้ะ” เธอตอบเสียงเบา ไม่อาจปกปิดความกลัวไว้ได้ อย่างไรก็ตาม เบนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เขาถือว่าเธอตอบแล้ว ดังนั้นเขายังคงความเร็วเท่าเดิม

“อย่าห่วงน่า ฉันจะบินโฉบไปถึงที่หมายภายในไม่กี่วินาทีนี้แหละ จับที่นั่งกันดี ๆ ล่ะ วู้”

 อย่าทำแบบนั้น

“หา อะไร”

อเล็กซ์มองหน้าเขา “อะไรของนาย”

“เมื่อกี้นายพูดอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า นี่ ลดความเร็วลงซะ”

“แนท เมื่อกี้คุณพูดอะไรเหรอ”

“เปล่านะจ๊ะ”

อย่าทำตัวงี่เง่าน่า ลดความเร็วลงซะ ไอ้เวรเอ๊ย นายต้องได้ยินเสียงฉันสิ!

แต่เบนไม่ได้ยินเสียงตัวเขาเอง การขับรถด้วยความเร็วระดับนี้ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าครองโลก เขาควบเจ้าม้าเหล็กเยี่ยงจอมเผด็จการ ลงแส้ให้มันเร่งฝีเท้าหนักกว่าเก่า แต่โชคไม่ดีเลย เจ้าม้าเหล็กเลือกที่จะพยศ ก่อนที่มันจะทันพุ่งทะยานขึ้นสู่ยอดเขากลับแฉลบลงข้างทางตกลงสู่ทะเลเบื้องล่าง โชคดีที่เขาไม่ได้เปิดหลังคา แต่ถุงลมนิรภัยทำงานเกินหน้าที่ มันตีกระแทกจนศีรษะชนเข้ากับพนักที่นั่งอย่างแรง เด็กหนุ่มสลบไปพักหนึ่ง

มันเป็นเหตุการณ์ที่เขาพยายามไม่ให้มันเกิดอยู่หลายครั้ง แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ เขาเห็นภาพนี้ซ้ำไปซ้ำมา

“อเล็กซ์...เบน...อเล็กซ์...เบน”

เบนในความทรงจำนั่งอยู่ในรถ และเขาอยู่ในตัวของเบนคนนั้นอีกที กระจกข้างหน้ารถมีรอยร้าว น้ำค่อย ๆ ไหลเข้ามาข้างในห้องผู้โดยสาร เบนสูดหายใจเฮือกใหญ่เพื่อเร่งสติให้ตื่นเต็มที่ เพียงกะพริบตา ถุงลมนิรภัยที่ยึดตัวเขาไว้แตกออก เขาปลดเข็มขัด พอหันไปทางอเล็กซ์กลับเห็นภาพที่น่าสยดสยอง ถุงลมนิรภัยฝั่งเพื่อนรักนั้น นอกจากจะไม่ช่วยปกป้องแล้ว ยังเป็นตัวกั้นไม่ให้เขาดึงร่างเพื่อนออกมาได้ อเล็กซ์น่าจะถูกกระแทกหลายรอบ เพราะดันซวยเมื่อรถพลิกคว่ำและแรงกระแทกนั้นกลับไปตกอยู่ที่ฝั่งของเขามากกว่าฝั่งคนขับ ดังนั้นประตูเหล็กจึงยุบเข้ามาข้างใน เกือบบี้ร่างของเขา นอกจากนั้น ถุงลมที่ทำงานตามหน้าที่ได้ตรึงร่างของอเล็กซ์ไว้แน่น ทายาทแห่งโวลคอฟบาดเจ็บสาหัสและไม่มีสติแล้ว เบนเหลือบมองรอยร้าวบนกระจก เขารู้ว่าตัวเองต้องรีบช่วยเพื่อนออกมาก่อนที่รถจะดำดิ่งลงไปลึกกว่านี้ และน้ำจะทะลักเข้ามาจนทุกอย่างสายเกินไป

“แนท!” เมื่อเขาหันหลังดูคนข้างหลัง หนุ่มน้อยหมดสภาพร้องออกมาดังลั่นด้วยความตกใจ ช่วงร่างของเธอถูกโครงเหล็กบีบอัดเช่นเดียวกับอเล็กซ์ แต่ในสภาพที่แย่กว่าและไม่มีทางช่วยออกมาได้ หญิงสาวไม่มีทางรอดแน่นอน

“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เอาแบบนี้ ผมขอโทษ แนท ผมขอโทษ”  ริมฝีปากของเขาสั่นระริก สติของเบนใกล้กระเจิดกระเจิง

“ช่วย...เขา...ช่วย...อเล็กซ์” เธอยังพอมีแรงฝากฝัง ทั้ง ๆ ที่ใบหน้าสวยหวานบัดนี้มีแต่เลือดชโลมแทนแป้ง

เขาเพ่งสติไปที่เพื่อน ชิ้นส่วนโลหะค่อย ๆ แยกออกจากกัน ถุงลมฟีบลง ร่างอเล็กซ์นอนพับราวกับตุ๊กตาถูกทิ้งขว้าง เบนดึงตัวเพื่อนออกมาได้ก็จริง แต่เพราะเหตุนี้ทำให้น้ำเข้ามามากขึ้น

เขาเอื้อมมือไปจับแขนนาตาเลีย แต่เธอจากเขาไปแล้ว ดวงตายังคงเบิกกว้างเหมือนต้องการดูให้แน่ใจว่าอเล็กซ์จะปลอดภัย แนทไม่หายใจอีกแล้ว ดวงตาสีฟ้าคู่นั้น เธอเป็นโวลคอฟคนเดียวที่มีดวงตาสีฟ้า บัดนี้มันว่างเปล่า

“แนท ได้โปรด อยู่กับผม อยู่กับพวกเรา” เธอไม่ขยับเขยื้อน ไม่แม้แต่ส่งเสียง หน้าอกของเธอนิ่ง ไม่มีสิ่งใดขยับ เธอตายแล้ว...ตายจริง ๆ “ได้โปรดเถอะ แนท หายใจสักนิด” โลหะที่อัดร่างเธออยู่นั้นเคลื่อนตัวออกจากกัน แต่วิญญาณของเธอไม่ยอมกลับมา

“อย่าทำแบบนี้  ตื่นเถอะ ผมจะช่วยคุณออกมา” เขาเรียกเธอ ใช้พลังเท่าที่จะทำได้ช่วยเธอเหมือนกับที่เขาช่วยอเล็กซ์ แต่ขณะนั้น อเล็กซ์หายใจแผ่วเบาอยู่ข้างตัวแถมยังอยู่ในลักษณะผิดธรรมชาติ เขารู้ว่าตัวเองไม่มีเวลาพอ ไม่มีเวลาช่วยเธออีกแล้ว มิเช่นนั้น อเล็กซ์คงตามเธอไปอีกคน ระดับน้ำสูงขึ้นทุกจังหวะหายใจ

ผมขอโทษ ผมช่วยคุณไม่ได้เลย

“แนท ผมขอโทษ” เด็กหนุ่มดึงร่างนั้นเข้ามาหาตัวเอง จรดฝีปากลงบนริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยน มันยังอุ่นอยู่เลย “ผมขอโทษ” เด็กหนุ่มร่ำไห้ราวกับดวงใจถูกบดขยี้ไปพร้อมกับตัวรถ เบนมองไปที่กระจกหน้ารถ ทันใดนั้น มันปริแตกออกทันที น้ำทะลักเข้ามา แต่ทำให้เขาสามารถพาอเล็กซ์ออกไปได้ มือข้างหนึ่งกอดเพื่อนไว้แน่น เบนพาตัวเองและเพื่อนออกจากซากเหล็ก ร่างของคนทั้งคู่ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่นาตาเลีย ร่างของเธอจมลงไปเรื่อย ๆ พร้อมกับลูกรักสีแดง ทั้งสองถูกฝังอยู่ใต้พื้นทะเล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status