Home / แฟนตาซี / Undisclosure / การเฝ้ารอ

Share

การเฝ้ารอ

last update Last Updated: 2025-03-01 11:27:26

พวกเพื่อนต้อนรับเบ็กกี้อย่างอบอุ่น (แก้ตัวจากครั้งแรก) โดยเฉพาะเทสซ่า เพื่อนสาวคนนี้มีนิสัยแบบนี้แหละ ออกหน้าลุยใส่ทุกคนที่คิดร้ายต่อเพื่อนตัวเอง และเมื่อสาวน้อยผมแดงกลายเป็นเพื่อนก็ละอคติซึ่งกันและกัน ความบาดหมางก็จบลง สิ่งเดียวที่อเล็กซิสสอนให้เบ็กกี้คุ้นเคยไว้ก็คือมุกตลกเจ็บแสบของเวดกับเบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาแท็กทีม

ในห้อง อเล็กซิสนั่งค้นหาเครื่องเล่นซีดีที่อเล็กซ์ขอยืม

เขาจะชวนฉันอีกไหม

เด็กสาวเขกศีรษะตัวเองเบา ๆ อยู่หลายที พอแล้วกับคำถามมากมายในหัว เธอรื้อหาเครื่องเล่นที่ว่าต่อ มันอยู่ลึกสุดใต้กระเป๋า เพราะตั้งแต่มาถึงที่นี่ อเล็กซิสไม่ได้หยิบใช้เลย โดยเฉพาะช่วงที่ยังหมกมุ่นกับความคิดตัวเอง แม้แต่อัลบั้มรูปครอบครัวและเพื่อนที่ตอนแรกอยู่ข้างบน ตอนนี้ลงไปอยู่ก้นกระเป๋าเช่นกัน แน่นอนว่าเธอคิดถึงพวกเขาจะแย่แต่กลัวที่จะเปิดดูภาพเหล่านั้น เพราะถ้าเธอเปิดดู ความรู้สึกสูญเสียก็จะกลับมาเล่นงานอีก

พอนึกถึงข้อกำหนดการเคลื่อนย้าย แม้มีคำสั่งห้าม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอต้องนำเอาของพวกนี้ไปด้วยให้ได้ อย่างน้อยเธอยังได้พกพวกเขาไปด้วย อเล็กซิสได้แต่ภาวนาในใจ อีกแค่สามวันเท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้น และครั้งนี้ความกลัวได้ส่งผลต่อจิตใจประมาณหนึ่ง มันเป็นความกลัวที่จะต้องย้ายไปยังสถานที่ที่ไม่รู้จักอีกรอบ

ใครบางคนเคาะประตู “อเล็กซานเดอร์ โวลคอฟ มาหาคุณ” เสียงสังเคราะห์ของมนุษย์เพศชายดังเป็นสัญญาณแทนกริ่ง เขาต้องมาเอาเครื่องเล่นแน่นอน เธอคว้าอุปกรณ์ เดินไปกดปุ่มเปิดจากนั้นบานประตูเลื่อนไปทางซ้าย อเล็กซ์ยืนอยู่ข้างหน้า ส่วนเบนยืนกอดอกอยู่ฝั่งตรงข้าม

 “พวกผู้หญิงมักให้ผู้ชายรอเสมอ” หนุ่มเจ้าเสน่ห์แซว พออเล็กซิสมีโอกาสได้คุยกับเบนบ่อยขึ้น เขาก็แสดงเจตนาอย่างโจ่งแจ้ง ถึงแม้ว่าดวงตาแววโรจน์ของเบนจะมีอิทธิพลกับเธอเหมือนกับที่มันมีผลต่อผู้หญิงคนอื่น ทว่ามันไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหวไปได้มากกว่าชื่นชมรูปลักษณ์ของเขา เธอยังคงฝันถึงเดวี่ เพียงแต่ความถี่นั้นน้อยลง ไม่ว่าจะรักเพื่อสนุกหรือตามหารักอันเป็น

นิรันดร์ เธอไม่หลงเหลือความศรัทธาในด้านไหนเลย

เด็กสาวเลือกที่จะไม่สนใจเบน แต่หันไปบ่นอีกคนแทน “ไม่เห็นต้องรีบเลย ฉันเพิ่งกลับมาถึงห้องเอง” เธอส่งเครื่องเล่นซีดีให้อเล็กซ์

“คาร์เมนนะ”

“อื้อ แผ่นอยู่ในเครื่อง”

จากนั้นเขาเสียบหูฟังแล้วหลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัว แต่กระนั้น เขาไม่ได้กลับไป เป็นเบนที่เดินเข้ามาคุย

“พวกเราเจอคาร์เมนบ่อย ๆ” เขาเอ่ยถึงนักร้องคนโปรดของเธอ คาร์เมนโด่งดังด้วยสไตล์การร้องและบทเพลงอันมีเอกลักษณ์เฉพาะ ดนตรีของเธอเป็นแนวบัลลาดย้อนยุค บางครั้งผสมอาร์แอนด์บีและแรป แต่สไตล์ ‘คาร์เมน’ น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดในการบรรยายลักษณะดนตรีของเธอ

“ฉันเคยเจอเธอครั้งหนึ่ง จัดคอนเสิร์ตเล็ก ๆ ในเมือง” อเล็กซิสเล่าประสบการณ์ของตัวเอง ระหว่างนั้นก้าวขาออกมาจากห้องก่อนที่จะปล่อยให้เบนเข้ามา ประตูปิดสนิท หากไม่ใช่เจ้าของห้องจะเปิดไม่ได้ “ไม่มีออโต้จูน ไม่มีแดนเซอร์ เธอเป็นคนที่น่าทึ่งมาก ๆ”

“เธออ่านใจฉันเก่งจริง ๆ” นายน้อยจากเมืองหลวงยิ้มเจ้าเล่ห์ “เอาเถอะ รู้ไว้ว่าอเล็กซ์เป็นเด็กของคาร์เมน เข้าใจความหมายของฉันใช่ไหม” เบนว่า “พวกเราเจอเธอในส่วนวีไอพีเลานจ์ของพ่อฉันอยู่หลายครั้งหลายครา เธอชอบไปที่นั่น ถ้าเธอเป็นแฟนคลับของคาร์เมน น่าจะรู้จักทุกเพลง”

“แน่สิ” พวกเขาเดินคุยกันไปอย่างไม่รู้จุดหมาย มีอเล็กซ์เดินตามข้างหลัง

“เลานจ์ที่ว่า ชื่อ ลิแบลลูล (Libellule)” เบนกระซิบเบา ๆ แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

เลานจ์นั้นเหมือนชื่อเพลงหนึ่งของคาร์เมน

“ฉันรู้ว่ามันเป็นสถานที่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเลานจ์ของนาย ครอบครัวนายทำธุรกิจอะไรเหรอเบน”

เขาไม่ตอบคำถามล่าสุด แต่เพียงยิ้มมุมปากจากนั้นเริ่มร้องเพลงให้ฟัง

You saw me sitting alone in Libellule, Weak and fragile, under the neon moon. Sweet love, you returned my youth and healed my wound. My midnight eyes, you forget our night in June. เธอคิดว่าหนุ่มในเพลงคนนั้นคือใครล่ะ คนที่มีดวงตาเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน”

เสียงร้องของเขาไม่เลวเลย เขามีพรสวรรค์

อเล็กซิสหันหน้าไปหาอเล็กซ์และเขาหรี่ตามองกลับ เธอจึงเข้าใจ เด็กสาวหยุดเดินแล้วจ้องเบนอย่างเอาเรื่อง “นายชอบยัดความคิดบ้า ๆ ใส่หัวฉันตลอดเลย”

“ใช่ ไอ้หมอนี่ชอบปลูกฝังความคิดแย่ ๆ ให้คนอื่นอยู่เรื่อย” อเล็กซ์สนับสนุนความเห็นนั้น นั่นหมายความว่าเขายังไม่ได้หลุดไปอยู่ในโลกของคาร์เมนเต็มตัว เพราะได้ยินบทสนทนาทั้งหมด

เบนโอบไหล่เธอ “คิดว่ามุกจะใช้ได้ผลซะอีก เธอดูซื่อจนน่าจะเชื่อง่าย ๆ ฉันรู้นะว่าเธอเบื่อคลับแล้ว ทำไมไม่หาที่อื่นที่พวกเราจะใช้เวลาด้วยกันก่อนย้ายที่ เราสองคน...”

เธอดึงแขนเขาออกแล้วไม่สนใจคำชวนนั้น “ซื่อเหรอ” ใบหน้าแฝงรอยยิ้มเยาะ “นี่พวกนาย การที่ฉันอายุอ่อนกว่าไม่กี่ปี ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รู้อะไรเลยสักหน่อย แล้วนายมาหาฉันเพื่อถามคำถามนี้ซ้ำไปซ้ำมาแค่นั้นเหรอ”

“รู้ ๆ ถ้าเธอไม่สบายใจ ถ้าอย่างนั้นสามคนไหม อ้อ” เบนยักไหล่ “ฉันหมายถึง ฉันกับเธอ และ...เทสซ่า?”

อเล็กซิสเหวี่ยงขาเตะหมายสั่งสอนเบน แต่เจ้าหมาป่าจอมกวนกระโดดหนีพร้อมกับหัวเราะสำราญใจ

“นายนี่มัน...” เธอไม่แน่ใจว่าควรจะใช้คำไหนดี ก็เลยหยุดพูดดื้อ ๆ ถ้าพ่อรู้จักเพื่อนใหม่แต่ละคนละก็...

เธอวิ่งไล่เขา อยากจะเตะและต่อยให้ความถือดีของเจ้าตัวกระเด็นออกไปบ้าง ส่วนคู่กรณีเอาแต่หลบและหัวเราะอย่างเดียว “ฉันเป็นอะไร พูดมาสิแบมบี้ ฉันอยากฟังนะ”

“นายมันดื้อด้าน โอหัง แถมยังหลงตัวเองด้วย”

ชายหนุ่มทั้งสองระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น

“เธอไม่จำเป็นต้องใช้คำสุภาพกับหมอนี่หรอก บ้ากาม ไอ้ลูกหมา สารเลว สัตว์นรก” อเล็กซ์เชียร์

เบนทำเสียงกรอดผ่านไรฟันแต่กลับพูดเสียงหวานกับเธอ “แบมบี้ของฉัน เธอรู้จักเลือกใช้คำได้ดีแล้วล่ะ แต่คุณหนูขอรับ จะเคร่งครัดกับตัวเองเกินไปไหม” จากนั้นเขาร้องเพลงขึ้นด้วยทำนองเดียวกับ ลิแบลลูล แต่เปลี่ยนเนื้อเพลงเป็น “Why don’t you let me heal your wound and teach you womanhood?

อเล็กซิสหัวเราะเสียงใส เธอหยุดไล่เตะเบนทันที พวกเขาคิดว่าฉันยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอสินะ “นายนี่มันหัวไวดี แต่ชอบใช้ในทางผิด ฉันให้สิบคะแนนสำหรับการดึงเอาเพลงของคาร์เมนมาใช้ แต่เหลือศูนย์คะแนน เพราะฉันไม่ชอบความหมายนั้น”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    นาฮีมานา

    เสียงที่ไม่ได้ยินร่วมเดือน “เธอจะตื่นเมื่อไร” เขาถามนาฮีมานาอีกฝ่ายถอนหายใจ “จิตวิญญาณพักผ่อนอยู่ชั่วคราว รอเวลาสักนิดเธอก็จะตื่นขึ้นมา คอยเรียกก็แล้วกัน”เมื่อได้ยินดังนั้น เขาจึงช้อนแขนอุ้มร่างเธอขึ้นมา แต่ก็หยุดหันไปทางซากต้นไม้ “มันเกิดอะไรขึ้น อะวีซีมีพิษร้ายขนาดนี้เชียวหรือ” ไมเคิลงุนงง นี่คือสิ่งที่อยู่ในตัวอเล็กซิสงั้นหรือดวงตาสีน้ำตาลเข็มมองซากนั้นด้วยสีหน้าปลงตก “ความเจ็บปวดของเด็กคนนี้ มันรับไปแทน” สายตาทอดมองอย่างอาลัยอาวรณ์ “ถึงมันพูดไม่ได้ ร้องขอความปรานีไม่ได้ ก็ยังถือว่าชีวิตหนึ่ง ตื่นจากจำศีลไม่นาน ฉันก็พรากชีวิตเขาแล้ว”ฉับพลัน เขาบังเกิดความรู้สึกผิดกับต้นไม้“ขอบคุณนะมานา ขอบคุณจริง ๆ” อเล็กซ์โพล่งออกมา ไมเคิลนึกขึ้นได้จึงก้มตัวลงแทนคำพูด หญิงสาวส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นอะไร“คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงดูเหมือน รู้...” เทสซ่าถามขึ้น ไมเคิลนึกขอบคุณ เพราะเขาอยากรู้เหมือนกัน หลายครั้งเวลาจะพูดอะไร หญิงสาวผู้มีพลังรักษาก็มักจะเอ่ยดักก่อ

  • Undisclosure    คลายเวทให้เจ้าหญิง

    ย่างเข้าสู่กลางเดือนมีนาคม หิมะเบาบางลงมาก ทว่าพวกเขายังคงประสบปัญหาขาดเสบียง เทสซ่าเสนอให้กลับไปทอยซิตี้ เพราะหลายคนมีปัญหากับรสชาติอาหาร ไมเคิลกลับเป็นคนเดียวที่รู้สึกเฉย ๆ เขาชอบกินก็จริงแต่ก็ไม่ได้พิถีพิถันกับเรื่องพวกนี้มาก ในเมื่อไม่มีก็คือไม่มี ชายหนุ่มแปลกใจที่เพื่อนแต่ละคนล้วนโวยวายร่ำร้องให้อาหารรสชาติดีขึ้น พอมองย้อนกลับไปจึงพบว่า ถ้าไม่นับอิสรภาพอันจำกัดและชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป ไม่เคยมีใครประสบปัญหาขาดของอุปโภคและบริโภค (ไม่นับด่านทดลองสิบวัน) ดังนั้นข้อเสนอของเทสซ่าจึงมีแต่เสียงสนับสนุน หากแต่การกลับไปยังทอยซิตี้ไม่ต่างจากกลับไปลานประหารกลุ่มเซนเสนอว่าจะกลับไปเอง เพราะพวกเขาเป็นผู้เริ่มก็อยากรับผิดชอบเท่าที่จะทำได้ สุดท้ายเทสซ่าไปด้วย หนึ่งเพราะเธอเสนอความคิดนี้ และสองเธอไม่ต่างจากเซนพวกเขารอคอยเพื่อนด้วยความกระวนกระวาย โดยเฉพาะมินนี่ที่ได้แต่รอพี่สาวกลับมา โชคดีที่พวกเขากลับมาก่อนเวลาเสียอีก และได้ของจำเป็นกลับมามากมายเทสซ่าเล่าว่าไม่เจอศพสักราย ทางการอาจขนกลับไปหมดแล้ว เพราะมีหลายพื้นที่ถูกปิดและข้าวของบางอย่างถูกขนย้ายออกไป ดังนั้นเป

  • Undisclosure    เป็นเพราะดวงตา

    ไมเคิลจำได้ว่าเคยระวังไม่ให้อเล็กซิสอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะหลอกเธอ อาศัยช่วงที่อเล็กซิสยังได้รับผลข้างเคียงจากยาระงับอะวีซีแล้วฉวยโอกาสทำลายเธอ แต่ตอนที่อเล็กซิสหลบเทสซ่าไปหาเบ็กกี้ก็โชคดีที่มีคนคนนี้ช่วย จะว่าไปบลูก็ช่วยพวกเขาหลายครั้ง และเขาเป็นเจ้าของหอที่ดูแลลูกบ้านได้ดี ทว่าคาใจก็คือคาใจ“คุณชอบเธอใช่ไหม”บลูหันขวับแล้วจ้องหน้าเขานิ่ง หากตอบว่าใช่ ไมเคิลก็ไม่แปลกใจ อเล็กซิสเนื้อหอม เขารู้ดี ทว่าคู่สนทนากลับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน“ดีจริง วันนี้นายทำให้ฉันหัวเราะได้มากกว่าวันอื่น หนุ่มน้อย ฉันรู้ว่านายหวงพี่สาว ที่ผ่านมาก็ชอบจ้องจับผิดฉัน รู้นะ” พูดจบก็ทำหน้าขึงขังล้อเลียนไมเคิล“ก็คุณพยายามล่อลวงเธอ”อีกฝ่ายหรี่ตา นิ้วชี้หน้าอกตัวเอง “ฉันเนี่ยนะ เฮ้ ดูน่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ”ไฟบนหิมะขยายเป็นลูกเบ้อเริ่ม“เฮ้ ใจเย็นสิ ฉันไม่เคยล่อลวงพี่สาวเธอ โอเค อืม พวกเราเคยจูบกันสักสองครั้ง ครั้งแรกฉันจงใจแกล้งเด็กนั่น อีกครั้ง...ตอนนั้นมันค่อนข้างแปลกหน่อย ๆ เหมือน

  • Undisclosure    อนุสรณ์สถาน

    เย็นวันนั้น ไมเคิลปลีกตัวออกจากห้องอีกครั้ง วัน ๆ ได้แต่นอนและนั่ง ชีวิตน่าเบื่อไม่น้อย เขาตามหาเทสซ่ากับเรมีก็พบว่าเพื่อนสาวออกไปสำรวจพื้นที่รอบ ๆ กับกลุ่มเซนแล้ว น่าอิจฉาชะมัด ส่วนเรมีตัวติดกับโคดี้เพื่อศึกษาระบบในนี้ นาฮีมานายืนกรานว่าทุกคนต้องเรียนรู้เทคโนโลยีไว้ อย่างน้อยถ้าเกิดมีระเบิดอีก พวกเขาจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรโดยไม่พึ่งพลังของโคดี้แต่ไม่มีใครอยากเจอระเบิดอีกหรอก แม้ว่ามันจะเป็นระเบิดรักษาสิ่งแวดล้อมก็ตามตึกของกลีถูกสร้างมาเพื่อหลบซ่อนสายตาคนจริง ๆ รอบข้างจึงรายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ต้นไม้เหล่านี้สูงตระหง่าน ไม่ว่าจะเดินไปทางก็มีแต่สีขาวโพลน หิมะสูงถึงข้อเท้า ไมเคิลมองไปรอบ ๆ มีไฟส่องทางเดินแค่เพียงห้าสิบเมตรจากตัวตึก เทสซ่าบอกว่าคนในนี้ก็ช่วยกันสร้างงานชิ้นหนึ่งขึ้นมา เนื่องจากไมเคิลเฝ้าอเล็กซิสตลอดจึงไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพราะหญิงสาวไม่ได้เฉลย แต่แววตาคู่งามยามพูดถึงสิ่งนั้นกลับแฝงด้วยความเศร้า คิดดังนั้นจึงเดินไปตามทางดังกล่าว มีแสงไฟสลัวให้เห็นราง ๆ เขาลอดผ่านกิ่งไม้แช่แข็ง ต้นตอของแสงมาจากกองไฟขนาดใหญ่ มันตั้งอยู่ตรงกลางก้อ

  • Undisclosure    ทำความเข้าใจ

    ห้องพักส่วนใหญ่จะอยู่ชั้นบน กลุ่มที่อยู่มาก่อนย้ายเตียงพยาบาลมาแทนเตียงนอน มันมีจำนวนไม่เยอะ เมื่อมีคนเข้ามาเพิ่ม พวกเขาก็สละเตียงให้คนเจ็บ และเมื่อคนเจ็บหายดี พวกผู้หญิงก็ได้สิทธิก่อน หากเพราะไมเคิลไม่อาจอยู่ห่างอเล็กซิสได้ เขาคงช่วยคนอื่นจัดของแล้วก็หาเสบียง เสบียงเป็นหัวข้อที่ทุกคนกังวลมากที่สุด เพราะจำนวนคนมีมากและอากาศยังหนาวเย็น การหาอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่มีใครเคยล่าสัตว์ ไมเคิลรู้ดีว่าหน้าที่เหล่านี้เหมาะกับเขามากแค่ไหน แต่ด้วยข้อจำกัดจึงได้แต่แนะนำไป อย่างน้อยทุกคนล้วนจับอาวุธได้อย่างคล่องแคล่ว ปัญหาก็คือ หาเหยื่อและเครื่องปรุงเขาเปิดประตูห้องเข้าไป ฝาแฝดของเขายังคงนอนนิ่งเหมือนเดิม แต่คนที่นั่งเฝ้าอยู่มองด้วยสายตาคาดคั้นครั้งนี้เขาอธิบายแบบที่นาฮีมานาว่า สีหน้าของอเล็กซ์จึงคลายกังวลลง แต่ไม่ว่าอย่างไร การที่พวกเขาเห็นเธอนอนแบบนี้ไม่ได้ทำให้ดีใจได้สุดยาระงับความเจ็บปวดที่พวกเขามีก็เหลือเพียงห้าเข็มเท่านั้น ตั้งแต่อเล็กซิสนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา อเล็กซ์เข้มงวดกับไมเคิลมากที่สุด หากเขาไปไหนไกลก็จะรีบตามหา ไม่ใช่ว่าเขาไม่ห่วงอเล็กซิส แต่การอยู่ติดกับเ

  • Undisclosure    เจ้าหญิงนิทรา

    ตึกหกชั้นตั้งโดดอยู่ในป่าทึบ มีต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลนอำพรางสายตา ฉากเบื้องหลังคือภูเขาหิมะตั้งตระหง่าน อาคารนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบุรุษวิปริตผู้หนึ่งด้วยจุดประสงค์อันวิปลาสแต่กลับกลายเป็นที่หลบภัยชั้นยอด เนื่องจากมันไม่ใช่ที่พักแรม ผู้อาศัยอยู่ก่อนจึงจัดวางเฟอร์นิเจอร์ใหม่ แบ่งพื้นที่ใหม่เพื่อให้ดูน่าอยู่มากขึ้น แต่กลิ่นอายของสถานทดลองทางวิทยาศาสตร์ยังคงอยู่ แม้อยู่ห่างจากทอยซิตี้ก็ใช่ว่าไกลเกินเอื้อม ผู้รอดชีวิตจึงยังคงหลงอยู่ในดินแดนอันแสนลึกลับดังเดิมร่างของฝาแฝดนอนหายใจแผ่วเบา หากมองเพียงสีหน้าคงเหมือนเจ้าหญิงที่กำลังติดกับดักในห้วงนิทรา เมื่อเลื่อนสายตาลงมาจะเห็นว่าเธอยังคงสวมชุดเดิมจากวันนั้น ของเหลวสีแดงคล้ำแห้งกรังเกาะติดกาย มีองครักษ์สองนายประกอบคอยดูแลตลอดเวลาราวกับกลัวแม่มดใจร้ายมาขโมยร่างอเล็กซิสยังคงสภาพดังเดิมแม้ผ่านไปหลายวัน ไม่ตาย ไม่ฟื้น และเขาไม่อาจอยู่ห่างจากเธอได้เกินครึ่งวันอย่าจากฉันไป เธอสัญญาแล้วนะ เขาพูดกับเธอผ่านความคิดในหัว หวังว่าพวกเขาจะสื่อถึงกันได้พวกเขารอ รอ รอจนไมเคิลตัดสินใจไปขอร้องนาฮีมานาอีกครั้ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status