เมื่อนั้นเขาเห็นประกายสีน้ำเงินกระจายออกเหมือนพลุเล็ก ๆ กลางอากาศ บางครั้งจะมีแสงนี้ขึ้นเหมือนกับว่ามีบางสิ่งปะทะกัน กำแพงของเขตไม่ได้มีแต่แผ่นคอนกรีตที่สร้างไว้สูง หากแต่ยังมีกำแพงล่องหนที่คอยดักจับวัตถุไม่พึงประสงค์กลางอากาศด้วย เขาลดสายตาลงมองเบื้องล่าง เสียงไซเรนและทหารยังเคลื่อนกำลังพลอยู่เรื่อย ๆ
“พวกเขามาตั้งมั่นที่นี่...ในเดอะวาล” เอมอนบอก สายตามองลงข้างล่าง ก่อนจะถอนหายใจแรง “เราคงบุกศูนย์บัญชาการกลางไม่ได้แล้ว แต่เราช่วยให้นอร์ธและเครสเตอร์ทะลุมาเดอะ วาลได้ อย่างน้อย พวกเขาจะพาอาวุธเข้ามา”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “เรา?” หากจะว่าใครช่างตื๊อที่สุด คงหนีไม่พ้นเจ้าน้องหัวดื้อคนนี้
“มันสมองของลูไม่ได้มีแค่นี้ และใช่ พวกเรารู้ว่าถ้าไม่ทำแบบนี้ เซนถูกประหารชีวิตแน่ ในเมื่อแผนเอไม่ได้ผล ก็ต้องแผนบี บีไม่ได้ผล ก็ต้องซี ฉันขอแค่...” เอมอนวางมือบนไหล่เขา “ได้โปรดเถอะ”
แม้จะมีกฎห้ามไม่ให้ผู้ใดออกจากอาคาร แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าเส้นทางปลอดโปร่งจึงรีบเดินทางไปหากลุ่มเมลิสซ่า แม้เพียซและริงโก้ไม่
ยามนี้เหล่าตัวอย่างการทดลองเริ่มปีกกล้าขาแข็ง พลังของกลุ่มเสี่ยงพัฒนาไปจนคิดว่าจะต่อกรกับทางการได้เองเขาประจักษ์ชัดตั้งแต่ไมเคิลกับอเล็กซิสรอดออกมาจากกองเพลิงนั้น ทว่าแสตนเนอร์ไม่ใช่ชนชั้นผู้ทรงปัญญา เขาเป็นแค่ทหารชั้นน้อยที่ได้มาดูแลเดอะ วาลใต้นายใหญ่อีกที แต่นายใหญ่แทบไม่สนใจทอยซิตี้แล้ว ดูเหมือนเอไลโตจะเริ่มมองว่า เอชโอวันก็อาจเป็นแค่กลุ่มอาการพิเศษหนึ่ง บวกกับปัญหาชายแดนในนิวโฮปเริ่มทวีความรุนแรง ความสำคัญของทอยซิตี้ลดลงมาก อย่างน้อยคัดกรองกลุ่มเสี่ยงจากนิวโฮปไม่ให้เป็นภัยก็พอจะมีแต่ทรอยที่รู้ว่าหากตัวเองเป็นแสตนเนอร์ควรจะทำอย่างไร แต่เขาเลือกนิ่งเฉยหากแนะนำไป อเล็กซิสกับไมเคิลจะถูกจับไปนอนบนเขียง นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เด็กสองคนนี้จะอยู่ในสถานะนั้นได้ต่อเมื่ออยู่ในมือของเขาเอง ผลผลิตของเขามีหรือจะส่งให้คนอื่น ซีโนฮอฟมองผลผลิตทั้งสองเป็นเพียงกลุ่มเสี่ยงทั่วไป และทรอยก็ยินดีเช่นนั้น เขาไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้น้ำพุอมตะ ถ้าเขาไม่ได้ คนอื่นก็ไม่มีวันได้“หมอทรอย” นางพยาบาลวิ่งเข้ามาหน้าตื่น “เราจะทำยังไงดีคะ พวกเราก็ถือว่าเป็นเจ้า
สำหรับบลู ห้านาทีนานเกินไป มันเหมือนกับสักชั่วโมงหนึ่งได้กว่าที่ร่างกายของเขาจะขยับได้เหมือนเดิม เขาขยับนิ้ว สะบัดแขนสะบัดขาจนแน่ใจว่าพลังของเดสซิเรไม่มีผลต่อร่างกายตัวเองอีกต่อไปก็คว้าอาวุธที่น้องชายทิ้งไว้ เวลาผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง สองชั่วโมง ด้านในยังนิ่ง จนใกล้สี่ทุ่ม พวกเขาเห็นทหารสิบนายเคลื่อนพลออกมาในชุดเต็มยศ แต่คนทั้งหมดกลับเดินเข้าไปในในตัวเมือง ไม่มีนักโทษหรือใครออกมาไม่รอแล้วโว้ย พลันคอเสื้อของเขาถูกดึง บลูโดนริงโก้เหวี่ยงไปข้างหลังก่อนที่ขาของเขาจะพ้นขอบกำแพงที่ซ่อน เพื่อนตัวตึกยืนจังก้าราวกับเป็นผู้รักษาความปลอดภัยเสียเอง “ถ้าพวกนั้นไม่ออกมา ฉันก็ให้นายเข้าไปไม่ได้”“แต่น้องชายฉันอยู่ในนั้น”“เอมอนบอกว่าถ้าไม่มีใครออกมาให้พวกเรากลับ”“แล้วแกจะทิ้งพวกเขาไว้เหรอวะ”“บลู” โอลิแวนวางมือบนไหล่ของเขา “ริงโก้พูดถูก ถ้านายบุ่มบ่ามเข้าไปตอนนี้ ตายอย่างเดียว ต่อให้เอมอนรอดไม่รอด นายตายก่อนจะรู้เสียอีก”เขากระทืบเท้าแล้วหันไปชกกำแพง ความเจ็บปวดสะเทือนไปถึงกระดู
แผนของริงโก้คือดักปล้นทหาร ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินแต่อาวุธและเครื่องคลุมกาย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทุบหัวทหารสักคนแล้วลากเข้าถ้ำ แต่พวกเขามีเดสซิเร ความเป็นผู้หญิงดึงดูดความสนใจพวกผู้ชายได้ดีนัก ต่อให้คนพวกนี้จะซ่อนอารมณ์ภายใต้หน้ากากแต่ก็ยังเป็นมนุษย์ แม้เธอจะเพี้ยน แต่นั่นเป็นมุมที่พวกเขารู้จัก ในสายตาคนทั่วไป เดสซิเร ดัลคาคือสาวสวยในระดับที่กระดิกนิ้ว ผู้ชายก็อาจแจ้นตามมา ใบหน้ารูปไข่มีแก้มนิด ๆ เมื่อโปรยยิ้มน้อย ๆ เธอดูเหมือนเด็กสาววัยแรกแย้ม หากแต่ดวงตาอัลมอนด์สองสีรับกับคิ้วโก่งให้อารมณ์ยั่วยวนโดยไม่ต้องอวดอวัยวะส่วนใด เดสซิเรวิ่งเข้าไปหาทหารสองนายที่กำลังเดินตรวจอยู่ ทั้งสองอยู่ในชุดบอดี้สูทและอาวุธครบมือ“ฉันเห็นคนกลุ่มหนึ่งวิ่งออกจากตึก” เธอบอก สีหน้าร้อนรน “พวกเขาถืออะไรบางอย่างในมือ ไม่รู้อะไร ฉันมองไม่ทัน”ทหารนายหนึ่งตีคางตัวเองเบา ๆ หมวกนิรภัยหดกลับไป “แน่ใจหรือ”“แน่ใจ” เธอพยักหน้าพร้อมกับทำเสียงหวานให้ดูอ่อนแอ “ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรแบบไหน แต่สองเขตข้าง ๆ เป็นแบบนี้ ฉันยังอยากนอนหลับสบาย”
ห้องรวมของพวกเมลิสซ่าต่างกับห้องรวมของกลุ่มเทอร์เนอร์ลิบลับ มันเต็มไปด้วยของกินเล่นและเหล้าเบียร์ ข้าวของระเกะระกะจนเขานึกสงสัยว่านี่คือห้องรวมของพวกผู้หญิงจริงหรือนี่ บลูเข้าใจว่าไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนจะรักความสะอาด (เขาเคยเข้าห้องสาวนอร์ธคนหนึ่งแล้วพบว่าเป็นรังหนูดี ๆ นี่เอง) แม้แต่เพียซยังนิ่วหน้าแล้วหันไปเบะปากเหมือนจะอ้วกกับโอลิแวน ลิเดียไม่เชื้อเชิญหรือหาที่นั่งให้แต่อย่างใด พวกเขาจึงยืนเก้ ๆ กัง ๆ หาจุดที่ตัวเองสบายใจ บลูเลือกยืนข้างหน้าต่าง ด้านหน้าตึกยังว่างเปล่าไม่มีพลทหารวิ่งไปมา พวกเขาจะมาเป็นช่วง ๆ หรือบางทีก็มาเป็นขบวน ขณะนั้น ควันทางเครสเตอร์หาได้จางลง มันผสมกับทางฝั่งนอร์ธ หมอกที่เริ่มลงจัดไม่ใช่เพราะอากาศ แต่มาจากควัน6:54 PMบลูเหลือบมองเอมอน น้องชายมีเหงื่อผุดขึ้นเป็นเม็ดบนใบหน้า เอมอนดูกังวลกว่าใคร เขาพอเข้าใจอยู่ เพราะทั้งนอร์ธและเครสเตอร์วุ่นวายน่าดู ทว่าเดอะ วาลกลับปกติดี นั่นหมายความว่าเขาทำงานพลาดหรืออาจจะกำลังโทษตัวเองว่าไร้น้ำยาเมลิสซ่ากับแคโรลีนหายไปหลายชั่วโมง ลิเดียเองก็เดินเข้าเดินออกในห้องเป็นว่าเล่น เพียซขอเวลาไป
เมื่อนั้นเขาเห็นประกายสีน้ำเงินกระจายออกเหมือนพลุเล็ก ๆ กลางอากาศ บางครั้งจะมีแสงนี้ขึ้นเหมือนกับว่ามีบางสิ่งปะทะกัน กำแพงของเขตไม่ได้มีแต่แผ่นคอนกรีตที่สร้างไว้สูง หากแต่ยังมีกำแพงล่องหนที่คอยดักจับวัตถุไม่พึงประสงค์กลางอากาศด้วย เขาลดสายตาลงมองเบื้องล่าง เสียงไซเรนและทหารยังเคลื่อนกำลังพลอยู่เรื่อย ๆ“พวกเขามาตั้งมั่นที่นี่...ในเดอะวาล” เอมอนบอก สายตามองลงข้างล่าง ก่อนจะถอนหายใจแรง “เราคงบุกศูนย์บัญชาการกลางไม่ได้แล้ว แต่เราช่วยให้นอร์ธและเครสเตอร์ทะลุมาเดอะ วาลได้ อย่างน้อย พวกเขาจะพาอาวุธเข้ามา”ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “เรา?” หากจะว่าใครช่างตื๊อที่สุด คงหนีไม่พ้นเจ้าน้องหัวดื้อคนนี้“มันสมองของลูไม่ได้มีแค่นี้ และใช่ พวกเรารู้ว่าถ้าไม่ทำแบบนี้ เซนถูกประหารชีวิตแน่ ในเมื่อแผนเอไม่ได้ผล ก็ต้องแผนบี บีไม่ได้ผล ก็ต้องซี ฉันขอแค่...” เอมอนวางมือบนไหล่เขา “ได้โปรดเถอะ”แม้จะมีกฎห้ามไม่ให้ผู้ใดออกจากอาคาร แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าเส้นทางปลอดโปร่งจึงรีบเดินทางไปหากลุ่มเมลิสซ่า แม้เพียซและริงโก้ไม่
3:32 PMเดอะ วาลควันสีดำปกคลุมไปทั่วเขต มันลอยมาจากฝั่งเครสเตอร์ หากมองจากบนดาดฟ้าจะเห็นแสงสีเหลืองส้มได้อย่างชัดเจน ทว่าแสงและควันยังไม่น่าตื่นตระหนกเท่ากับเสียงปะทะจากฝั่งนั้น ฟังดูก็รู้ว่าไม่ใช่งานรื่นเริงแต่อย่างใด พลทหารในเดอะวาลวิ่งวุ่นกันภายในทั้งยังประกาศไม่ให้ผู้ใดออกจากตึกที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า กิจกรรมต่าง ๆ หยุดชะงัก แต่ละคนเดินวนไปวนมา บ้างถกเถียงถึงสถานการณ์กับเพื่อนบ้าน บ้างชะโงกหน้าคุยกับเพื่อนบ้านตึกข้าง ๆ บ้างวิ่งขึ้นมาถามบลูว่าเกิดอะไรขึ้น จะรู้ได้ไงวะ จนบ่ายโมง สัญญาณเตือนภัยดังลั่นมาจากทางฝั่งนอร์ธ จากนั้นหิมะสีขาวในเขตเดอะ วาลก็กลายเป็นเทาขุ่นจนบางคนถึงกับไม่อาจอยู่ติดห้องได้อีกต่อไปนอร์ธและเครสเตอร์กำลังจะกลายเป็นราซาหรือเปล่า“ไม่เหมือนกับครั้งที่แล้วนะ ตอนเช้าเครสเตอร์ ตอนบ่ายนอร์ธ นี่ก็เย็นแล้วแต่เสียงยังไม่เบาลงเลย” เพียซเดินไปเดินมา มือสองข้างกุมแนบอก กลุ่มบลูนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นรวม ยกเว้นเอมอน ริงโก้พยักพเยิดให้บลูไปตาม ซึ่งเขาก็คิดแบบนั้นอยู่แล้วบลูเปิดประตูออกไปแล้ววิ่งขึ้นบันได เมื่อมาถึงหน