Home / แฟนตาซี / Undisclosure / ผู้เข้าบำบัดกลุ่มสุดท้าย

Share

ผู้เข้าบำบัดกลุ่มสุดท้าย

last update Last Updated: 2025-02-26 10:49:55

เบ็กกี้เป็นเด็กใหม่ของที่นี่ เธอเพิ่งมาถึงหอพักแห่งนี้ยังไม่ครบวันเลยด้วยซ้ำ พอได้ยินว่ามีประกาศข่าวใหม่ เธอเห็นแต่ละคนรีบวิ่งไปที่โทรทัศน์จอยักษ์ เด็กสาวร่างเล็กเดินไหลไปตามกระแสมนุษย์ มือข้างซ้ายกุมข้อมือข้างขวาเอาไว้ เธอเดินค้อมตัว มองซ้ายมองขวาเหมือนกับมีคนกำลังจับผิดอยู่ และถ้าหากเธอทำอะไรผิดแปลกไป ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ เธอจะโดนลงโทษ เมื่อเดินมาถึงข้างหน้าจอทีวี เด็กสาวแหงนหน้ามองข้อความที่เขียนบนนั้น

กำหนดการเคลื่อนย้ายผู้พักอาศัยจะมีขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 3012 กรุณาทิ้งสัมภาระไว้ที่ห้อง และมารวมตัวกันเพื่อรอสัญญาณที่ห้องโถงในเวลา 18 นาฬิกา

หมายเหตุ: ห้ามพกกระเป๋าสัมภาระ

“เคลื่อนย้ายเหรอ หมายความว่าพวกเราต้องย้ายที่อยู่งั้นเหรอ” เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเธอพูดขึ้น เขามีผมสีแดงเช่นกัน แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยกระ เขามากับเพื่อนสาวคนหนึ่ง พอพูดจบ ทั้งสองก็พากันขยับมาข้างหน้า เบ็กกี้จึงมองเห็นแต่แผ่นหลัง เธอไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อย แต่เป็นเด็กสาวที่ร่างเล็กเหมือนเด็กน้อย แม้อายุครบสิบห้าปีเมื่อสองเดือนก่อน แต่เธอหาได้ตัวสูงขึ้นมากกว่าเดิมไม่ ที่สำคัญ ไซส์มินิแบบเบ็กกี้ไม่ได้ทำให้เธอดูน่ารักเหมือนผู้หญิงร่างเล็กคนอื่น และแทนที่จะดึงดูดเพื่อน กลับกลายเป็นว่าเธอมีออร่าดึงดูดพวกอันธพาลแทน ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ในโรงเรียน สถานพักฟื้น หรือแม้แต่ที่นี่ คนพวกนี้ชอบเข้าหาเธอเสมอ

“ถ้าต้องย้ายที่อยู่ แล้วไปไหนต่อ...ย้ายทำไม อุ๊ย ขอโทษจ้ะ” เด็กสาวที่โตกว่ารีบพูด เพราะเธอเผลอเอาศอกมากระแทกคนที่อยู่ข้างหลัง “ขอโทษจริง ๆ ฉันไม่เห็นเธอ”

ใช่สิ เบ็กกี้ไม่เคยอยู่ในสายตาใครอยู่แล้ว และเธอคุ้นชินกับความรู้สึกนี้ดี สาวน้อยพยักหน้าน้อย ๆ “ไม่เป็นไรหรอก” ทว่าเสียงที่ตอบกลับไปเบาเหมือนเสียงกระซิบ เบ็กกี้แอบมองด้านข้างของเด็กสาวคนนั้น เพียงแค่เห็นเสี้ยวหน้า เธอยังรู้สึกว่าคนข้างหน้ามีโครงหน้าที่สวยมาก สาวน้อยได้แต่เม้มปาก เด็กผู้หญิงทุกคนล้วนอยากมีใบหน้าแบบนั้น เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพระเจ้าถึงเกลียดชังเธอนัก แทนที่จะมอบมันสมองอันปราดเปรื่อง รูปลักษณ์ที่งดงาม หรือ ความรักจากผู้อื่น อย่างใดอย่างหนึ่งก็ยังดี พระเจ้ากลับมอบคำสาปมาให้แทน ท่านรักบุตรธิดาไม่เท่ากัน เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าคือตัวอย่างของบุตรธิดาที่พระเจ้ารักยิ่งกว่าคนอื่น

คนส่วนใหญ่ในนี้ต่างรู้จักค่าหน้าค่าตากันดีแล้ว พวกเขาจับกลุ่มกันและเป็นเพื่อนกัน เบ็กกี้มองไปรอบกาย มีคนอยู่ในนี้มากกว่าร้อยคน นับว่าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เธอไม่เคยผูกมิตรกับใครเลยและไม่เก่งเรื่องนี้ด้วย อาจเป็นเพราะว่า บ้านเกิดของเธอคือเมืองแคสติโมเนีย ซึ่งเป็นเขตหนึ่งในรัฐโลน อัลเลย์ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องสังคมวัฒนธรรมคร่ำครึ เคร่งครัด และสุดโต่ง แคสติโมเนียเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญแบบเมือง ทั้งประเพณีและการใช้ชีวิตจึงต่างจากผู้คนในเมืองใหญ่ คนนอกมักมองว่าชาวแคสติโมเนียนเป็นมนุษย์ดึกดำบรรพ์ ผู้ซึ่งปราศจากมันสมองที่พัฒนาแล้ว ครอบครัวของเบ็กกี้มีสมาชิกทั้งหมดแปดคนกับฝูงแกะอีกหนึ่งฝูง ผู้คนที่นั่นเคร่งครัดในหลักศาสนาอย่างจริงจัง รวมทั้งพ่อแม่ของเธอด้วย และเธอเป็นตัวประหลาดประจำหมู่บ้าน เพราะเหตุนี้ พวกแกะจึงเป็นเพื่อนเพียงกลุ่มเดียว อีกเหตุผลหนึ่งที่เบ็กกี้ไม่มีเพื่อน นั่นคือเธอสามารถทำให้คนรำคาญได้เสมอ ดังนั้นการอยู่ห่างจากคนอื่นจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด

เพราะตัวเล็ก เธอจึงสามารถแทรกออกมาจากกลุ่มคนที่อัดแน่นราวกับปลากระป๋องได้อย่างง่ายดาย ด้วยความที่ไม่เข้าใจข้อความบนจอทีวีเลยแม้แต่นิดเดียว เธอจึงหันมาจดจ่ออยู่กับปัญหาของตัวเอง นั่นคือเจ้าสายรัดข้อมือที่ติดมาตั้งแต่อยู่ในสถานรักษา มันทำจากพลาสติกเหนียวทนทาน เธอเคยพยายามใช้มีดในห้องอาหารตัดแล้ว แต่มันไม่คมพอ หากไม่นับนิสัยขี้อาย การที่เธอไม่กล้าขอให้ใครช่วยก็เพราะกลัวว่าหากคนมองเห็นสายรัดอันนี้ พวกเขาจะมองเธอด้วยสายตาที่แปลกไป ของสิ่งนี้ทำให้เธออับอายจนไม่กล้ามองหน้าใคร

ไม่มีทางเอาออกแล้วล่ะ สาวน้อยถอดใจ ฉันคงต้องอยู่กับแกไปตลอดชีวิต เธอไม่รู้หันหน้าไปทางไหนดี ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่เธอไม่ใช่คนช่างสำรวจเท่าไร

“เบ็กกี้ อยู่ที่นี่เองเหรอ” เด็กหนุ่มดวงตาสีน้ำตาลช็อกโกแลตยืนขวางไว้ พวกเขารู้จักกันมาก่อน ไม่นานนักหรอก และมันไม่น่าประทับใจเลย ทำไมเขามีกลุ่มเพื่อนเป็นของตัวเองทั้ง ๆ ที่พวกเขายังอยู่ที่นี่ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง พวกเจ้าหน้าที่บอกว่ากลุ่มเบ็กกี้เป็นกลุ่มสุดท้าย “ฉันบอกเพื่อน ๆ ว่า เธอมาจากสถานบำบัดอะไรสักอย่าง พวกเขาอยากรู้ว่ามันเป็นสถานที่แบบไหน”

เขารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นสถานที่แบบไหน เขารู้อยู่เต็มอก เด็กหนุ่มคนดังกล่าวสวมเสื้อเชิ้ตสีครีมสะอาดสะอ้าน ในขณะที่เบ็กกี้สวมชุดกระโปรงที่เคยเป็นสีขาวแต่ตอนนี้กลายเป็นสีเหลืองสกปรก อันที่จริงมันไม่ใช่เสื้อผ้าของเธอด้วยซ้ำ แต่เป็นชุดคนไข้ต่างหาก รองเท้าหนังของเขาไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ตรงกันข้ามกับรองเท้าทรงบัลเล่ต์สีเขียวเก่า ๆ ของเธอ เขาคงเป็นลูกคุณหนูจากครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง พลูทักซ์ นั่นคือชื่อของคนคนนี้ ไม่ทันไร เด็กหนุ่มคว้าแขนข้างขวาของเธอ

“ปล่อย!” เธอพยายามดึงแขนกลับ แต่เขาบีบข้อมือเล็กจนเจ็บ คนนิสัยไม่ดีจงใจอ่านตัวอักษรบนสายรัดเสียงดัง “เบ็กกี้ ควินน์ สถานพักฟื้นจิตเวชเมืองแคสติโมเนีย เขตสาม โอ้โห พวกนายได้ยินไหม ยัยนี่เป็นคนไข้จิตเวช”

เบ็กกี้ปิดหน้าตัวเอง อีกส่วนก็พยายามดึงมือกลับออกมา พลูทักซ์คงชอบเห็นเธอร้องไห้งอแง

“อย่าทำแบบนี้”

“ยัยบ้า”

“เธอเป็นบ้าเหรอ เธอมีโรคทางสมองหรือเปล่า”

“เปล่า เป็นบ้าต่างหาก นี่คนไข้โรคจิตนะ”

“มันก็เหมือนกันป่ะวะ มันแปลว่าเธอป่วยทางสมองไม่ใช่เหรอ”

“เป็นบ้าถือว่าเป็นโรคด้วยเหรอ”

“ปล่อยเธอซะ ไอ้พวกเด็กเกเร!”

เบ็กกี้เห็นเด็กหนุ่มสวมเสื้อสเวตเตอร์สีเขียวเดินปรี่เข้ามาช่วย เขาสูงกว่าพลูทักซ์ไม่เท่าไร และไม่ถือว่าเป็นคนสูง น่าจะอายุมากกว่าพวกเบ็กกี้ประมาณสองสามปี เด็กหนุ่มผลักหัวโจกจอมรังแกออกไป เด็กสาวรีบหลบหลังเขา

“ฉันพูดกับเธอ ไม่ใช่กับนายสักหน่อย”

“นี่คือการรังแก โตได้แล้วไอ้หนู”

เด็กคนนั้นดึงเธอออกไปจากที่นั่น เธอเหลือบมองผมสีวอลนัทของเขาแล้วอดฉงนไม่ได้ที่มันตั้งตรงเรียงกันสวยงาม ส่วนผมด้านข้างถูกไถเรียบ เธอคุ้น ๆ ว่ามันเรียกว่าทรงโมฮอว์ก เบ็กกี้ได้ยินเสียงพลูทักซ์ตะโกนด่าเด็กหนุ่มไล่หลัง

พลูทักซ์โตกว่าเธอปีหนึ่ง เขาอายุสิบหก ทั้งสองมาถึงในเวลาเดียวกัน เด็กหนุ่มแนะนำตัวและนั่งร่ายยาวชีวิตของตัวเองจนเธอเกือบหลับ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาเป็นคนน่ารักพอใช้ได้และอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทว่าเมื่อเขาเห็นข้อความบนสายรัดข้อมือ ท่าทีก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขากลายเป็นปีศาจอันธพาลที่แสนน่าเกลียด ทำตัวเหมือนพวกหัวโจกในโรงเรียนไม่มีผิด

เด็กหนุ่มที่เพิ่งช่วยเธอหยุดเดินและหันมาคุยกับเธอ “ฉันชื่อ เรมี เธอชื่อเบ็กกี้ใช่ไหม”

สาวน้อยพยักหน้าช้า ๆ พอมองใกล้ ๆ จึงเห็นว่าเขายังเด็กมาก อาจจะอายุใกล้กับเธอด้วยซ้ำ แต่มีบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาโตกว่า อาจเป็นเพราะบุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่

“เธอไม่ต้องกลัวฉันหรอก พอดี ฉันเพิ่งมาถึงที่นี่เมื่อวานนี้เอง พอจะบอกได้ไหมว่าที่นี่มีไว้ทำอะไร แล้วข้อความบนจอหมายความว่าอะไร”

“ฉันไม่รู้เหมือนกัน...คือ ฉันก็เพิ่งมาถึงเมื่อวาน” เด็กสาวตอบ เธอก้มหน้า กลัวว่าจะทำให้เขาไม่พอใจที่เธอไม่รู้อะไรเลย

“ไม่เป็นไร ๆ ถ้าอย่างนั้นเธอคงเป็นพวกกลุ่มสุดท้ายแน่ ๆ ฉันมาตอนเช้าของเมื่อวานน่ะ” เขาเล่า แต่เหมือนปลอบมากกว่า เรมีพิจารณาสายรัดบนมือของเธอ เขาพยายามจะดึงมันออกโดยไม่ปริปากหรือทำสีหน้าตัดสินแต่อย่างใด ทว่าผลลัพธ์เหมือนเดิม พลาสติกเหนียวเกินไป แต่เบ็กกี้ก็ยังรู้สึกดีที่เขาไม่พูดอะไรเหมือนคนอื่น

“เหนียวจริง ๆ...เอางี้ เฮ้ พวกนาย ใช่แล้ว พวกนายนั่นแหละ ช่วยพวกเราหน่อยได้ไหม” เขาเรียกหนุ่มผมแดงกับสาวหน้าสวยที่เธอเจอตรงหน้าห้องอาหาร

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status