Beranda / แฟนตาซี / Undisclosure / หนูน้อยผมแดง

Share

หนูน้อยผมแดง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-26 11:06:23

เบ็กกี้พยายามจะหยุดเรมี แต่สายไปแล้ว สองคนนั้นเดินตรงมา เด็กสาวเดาว่า พวกเขาน่าจะอายุประมาณราว ๆ สิบเจ็ดสิบแปด เธอก้มหน้างุดและเลือกที่จะแอบอยู่ข้างหลังเพื่อนใหม่

“มีอะไรให้ช่วยไหม” หนุ่มผมแดงถามพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ส่วนเด็กสาวคนนั้นทำสีหน้าแบบเดียวกัน จนกระทั่งเบ็กกี้เห็นดวงตาสีน้ำเงินของเธอ สาวร่างเล็กตัวสั่นสะท้านขึ้นมาทันที

มันเป็นดวงตาคู่เดียวกับที่เธอเห็นในความฝัน  ดวงตาที่แสนน่ากลัว ใช่ มันมีขอบสีน้ำเงินเข้ม ส่วนในม่านตาเป็นสีน้ำทะเลลึกที่เหมือนมีแสงส่องประกายระยิบระยิบอยู่ข้างใน ใบหน้านี้ด้วย ถึงแม้ในความฝันภาพจะไม่ชัด แต่มันเหมือนกับวงหน้างามที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ความฝันที่ทำให้ครอบครัวของเบ็กกี้ตัดสินใจส่งเธอไปยังสถานบำบัดทางจิต เพราะเด็กสาวเอาแต่กรีดร้องทุกคืน พวกเขาบอกว่าเธอเกิดมาพร้อมกับคำสาปซาตาน ไม่บริสุทธิ์ เต็มไปด้วยบาปกำเนิดมากกว่ามนุษย์ทั่วไป มันเป็นเพราะว่าเธอมักจะฝัน และความฝันจะกลายเป็นจริงอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากฝันเรื่องดี พวกเขาคงเปรียบเธอเหมือนนักบุญ แต่เมื่อมันเป็นเรื่องร้าย เธอจึงถูกเปรียบเหมือนลูกปีศาจ คำสาปที่เธอไม่เคยอยากได้ แล้วยังดวงตาสีน้ำเงินที่จ้องเธออยู่ตอนนี้อีก แม้จะมีแสงอบอุ่นคล้ายแสงแดดออกมาจากดวงตาคู่นั้น แต่เธอรู้ดีว่ามันจะกลายเป็นไอเย็นในวันหนึ่ง เบ็กกี้ไม่กล้าคุยกับคนคนนี้

“ไม่ต้องกลัวพวกเราหรอก แล้ว...มีอะไรให้พวกเราช่วยเหรอ” สาวหน้าสวยถามเสียงอ่อนโยน น้ำเสียงฟังแล้วดูจริงใจ แต่เบ็กกี้ยังไม่เชื่อใจอยู่ดี เพราะความอ่อนหวานส่วนใหญ่ล้วนเป็นกับดัก เด็กสาวผมสีทองแดงไม่ยอมพูด ดังนั้น เรมีจึงคว้าแขนเธอแล้วอธิบายให้พวกเขาฟังแทน ทั้งสองคนไม่ได้แสดงท่าทีปรามาส แต่ยินดีที่จะช่วย

“ฉันว่า เพื่อนของเราคนนึงช่วยเธอได้” สาวตาน้ำเงินแนะนำชื่อคนคนนั้น เบน

แม้เรมียังคงจับมือเธออยู่ แต่ความสนใจเบี่ยงเบนไปทางสาวอีกคน ทั้งสองเดินตามวัยรุ่นสองคนนี้เพื่อไปหาบุคคลที่ว่า คนที่จะตัดสายรัดบ้านี้ออกได้ และเรมีก็เอาแต่เดินจ้องด้านหลังของเด็กสาวคนนั้นไม่วางตา ส่วนพวกข้างหน้าเอาแต่คุยกันในเรื่องที่พวกเขาไม่รู้เรื่อง

“ถ้าจะมีใครข่มความปากร้ายของเวดได้ล่ะก็ ฉันขอเสนอชื่อ เบน” หนุ่มผมแดงพูด “จำตอนนั้นได้ไหม ที่เวดหาเรื่องก่อน แล้วเบนตอกกลับว่า “มีจุดแดงบนเสื้อฉันเหรอไงวะ จะว่าไปฉันไม่เคยใส่สีแดงเลยนะ ทำไมนายชอบหาเรื่องฉันจัง” ตั้งแต่วันนั้น พอเพื่อนพวกเราหัวเสียทีไร ฉันเห็นภาพเขากลายร่างทุกที”

สาวหน้าสวยหัวเราะเบา ๆ “ฉันขอเปลี่ยนคำว่า ปากร้าย เป็นช่างจิกกัดและเสียดสีแทนดีกว่า เขาเก่งเรื่องแบบนี้ เวดสู้ไม่ได้เลย”

“เออ จะว่าไป ตั้งแต่ตอนนั้นที่สนามบาส เธอพูดอะไรกับเขา เขาถึงหยุดทำตัวงี่เง่าในที่สุด”

“พูดไปตามความจริง”

“แต่ก็ดีแล้วนะ พวกเธอสองคนไม่ได้ทะเลาะกันอีกแล้ว”

“เชื่อเถอะ ฉันเนี่ย ดีใจที่สุดแล้ว”

เบ็กกี้กับเรมีได้แต่เงียบ หนุ่มสาวทั้งสองพาพวกเขาไปยังสระว่ายน้ำ มีวัยรุ่นสามสี่คนอยู่ในสระ เธอเห็นสาวผมสีบลอนด์ทองแหวกว่ายอยู่ในนั้นด้วยชุดบิกินี่ แต่พอเดินเข้าไปใกล้ ๆ จึงเห็นว่ามันเป็นลายลูกไม้ หญิงสาวสวมชุดชั้นในต่างหาก เบ็กกี้มองไปยังคนอื่น ๆ พวกคนหนุ่มส่วนใหญ่สวมกางเกงขาสั้น มีเพียงหนุ่มผมแดงและสาวหน้าสวยที่สวมชุดปกติ เธอตะโกนเรียกชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม พอเขาผุดขึ้นมาจากน้ำ เบ็กกี้จึงได้เห็นใบหน้าหล่อน่าหลงใหลที่สุดเท่าที่เธอเคยพบ เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่งดงาม เหนือกว่าพวกผู้ชายหน้าโง่ในโรงเรียน ดวงตาของเขาสีเหมือนอัญมณีที่เรียกว่าอำพัน เบ็กกี้ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อเขาเดินตรงมา ช่วงบนเปลือยเปล่า ตัวเปียกไปทั้งตัว

เธอเริ่มรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง คนพวกนี้เหมือนกับแก๊งอันธพาลในโรงเรียนที่เธอเคยเจอ พวกกลุ่มมนุษย์ที่ปกครองโรงเรียน นิสัยไม่ดี และชอบกลั่นแกล้งคน

“น้องสาวของนายเหรอ ออสโล่” คนที่ชื่อเบนถามเด็กหนุ่มผมแดง “มีอะไรให้ฉันช่วยเหรอ แบมบี้ของฉัน”

แบมบี้ของฉัน เขาเรียกสาวสวยแบบนั้น นัยน์ตาคมคู่นั้นจับจ้อง ‘แบมบี้’ ราวกับหมาป่าหมายขย้ำเหยื่อ

เหยื่อของเขาทำหน้านิ่ว กอดอกแน่น “หยุดเรียกฉันว่าแบมบี้ได้แล้ว”

“ถ้างั้น ที่รักเป็นไง”

“ชื่อฉันก็มี”

“ไม่รู้ ๆ”

พอเขาหันหน้ามา เบ็กกี้รีบจ้องเท้าตัวเองทันที เธอไม่กล้ามองหน้าเขา เพราะชายหนุ่มมีไอบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกตัวเล็กลง อาจเป็นรังสีกดดันที่แผ่ออกมารุนแรงกว่าคนอื่น เขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนเห็นพลูทักซ์ในร่างโตกว่า ดูดีกว่า หล่อเหลากว่า

“นายช่วยเอาไอ้สายรัดข้อมือออกจากแขนเด็กคนนั้นได้ไหม” คนที่ถูกเรียกว่าแบมบี้ถาม

“แลกกับอะไรล่ะ ล้อเล่นน่า แต่ถ้าเธอจริงจัง ฉันก็อยากจะทำการแลกเปลี่ยนนะ”

พูดเสร็จเขาก็ดึงแขนเธอมาดูทันทีแบบไม่ถนอม เบ็กกี้รู้สึกชาวาบไปทั่วตัวเมื่อดวงตาคู่นั้นกำลังอ่านตัวอักษรบนสายรัด เบนเงยหน้ามองเธอแล้วทำสีหน้าประหลาด บวกกับสายตาที่จ้องทะลุไปถึงข้างในจนบรรยากาศอึดอัดเกินกว่าปกติ เขาเหมือนคิดอะไรอยู่ ไม่นานนัก สายรัดที่ว่าหลุดออกจากแขน เหมือนมันถูกตัดขาดด้วยพลังงานลึกลับบางอย่าง เด็กสาวรีบก้มลงเก็บของยัดใส่กระเป๋ากระโปรง กะว่าจะไปทิ้งที่อื่น

“ขอบคุณแล้วยัง” ชายหนุ่มทวง เขาเอียงคอ จ้องหน้าเอาเรื่อง

“ขอ...ขอบคุณค่ะ” เสียงของเธอสั่นซะไม่มี

พอเขาถอนสายตาออกไป เธอจึงค่อยหายใจสะดวกขึ้น

“เอาล่ะ เสร็จงานแล้ว เธอถอดเสื้อเล่นน้ำกันเถอะ” เขาชวนสาวที่ตัวเองชอบ แถมไม่ชวนเปล่า ยังโอบไหล่เธอด้วย “นะ แบม...อเล็กซิส พอใจแล้วยัง”

“ฉันไม่เล่นหรอก แล้วอย่าทำแบบนี้” เธอตอบแล้วจับแขนเขาออกจากไหล่ตัวเอง ท่าทางเหมือนเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ สรุปแล้ว คนนี้ชื่อ อเล็กซิส สินะ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status