“นายจะกลับมาเดินได้ ไม่งั้นพวกเขาไม่รักษานายหรอก” อเล็กซิสกุมมือเพื่อนแน่น ความเงียบขรึมของเขาใช่ว่าทำให้เธอสบายใจ บางทีอาจเป็นเพราะว่าเขาไม่รู้จะจัดการความรู้สึกไหนก่อนดี ระหว่างเสียใจและโกรธแค้น เสียขาเหมือนเสียอนาคต ขณะที่ตนเองเพิ่งผ่านเหตุการณ์เสียเพื่อนมา แม้แต่ตัวอเล็กซิสยังไม่รู้ว่าตนเองควรจัดการหรือแสดงอารมณ์ออกมาแบบไหน
“เธอผ่านมาได้ยังไง” เวดชำเลืองมองเด็กหนุ่มอีกคน “นายยังพูดไม่ได้อีกเหรอ ฉันว่าฉันเคยเห็นนายพูดนะ"
อเล็กซิสยิ้มน้อย ๆ “ถ้าไม่สนิทจะไม่พูด เดี๋ยววันหลังคงเปิดปากพูดมากขึ้น”
ไมเคิลเลิกคิ้วขึ้นแล้วหรี่ตามอง อเล็กซิสกางมือออก ยักไหล่ขึ้น ฉันไม่ได้พูดผิดสักหน่อย
“พวกเราออกมาจากทางออกสาม...อเล็กซ์เล่าอะไรหรือเปล่า”
เวดส่ายหน้า “เขาไม่ได้บอกว่าอยู่กับเธอ ฉันรู้แค่เบ็กกี้อยู่กับเธอ โนเอล และเบน...” เวดเหมือนนึกขึ้นมาได้ว่าเบนก็ไม่รอดเหมือนกันแต่ไม่พูดต่อ “พอดีฉันฟังจากเทสซ่ามาอีกทีด้วย ทุกคนที่ออกมา ถ้าไม่บาดเจ็บก็...ไม่พูดไม่จา ซึม ประมาณนั้น มินนี่เองก
“พ่อจะไปไหนเหรอคับ” เด็กชายผมสีทองสว่าง ใบหน้ารูปไข่ ดวงตาสีฟ้าสดใสจ้องมองเขาผ่านแว่นตากลมกรอบใส เขาวิ่งเข้ามาในห้องขณะที่คาเลบจัดกระเป๋า“พ่อต้องเข้าเมืองหลวงสองสามวัน พรุ่งนี้ชาร์ลีไปอยู่กับคุณนายเจสเซ่นส์หนึ่งวันนะ วันต่อมาไบรซ์ก็มารับกลับแล้ว”“เจสซี่ไม่กลับมาเหรอครับ อาทิตย์นี้เขาก็ไม่กลับ นานแล้วนะครับ” สีหน้าเด็กชายหมองลงอีกครั้ง “ทำไมไม่มีใครอยากอยู่บ้านเลย แล้วอีกไม่นานเราจะย้ายบ้านอีก พ่อแน่ใจแล้วเหรอครับ”คาเลบปิดกระเป๋าแล้วอุ้มตัวเขาขึ้นมาบนเตียง “ใช่ลูก ลูกจะมีเพื่อนใหม่ เราอาจจะไม่มีสวนหลังบ้าน แต่ในเมืองมีสนามเด็กเล่นที่กว้างกว่า บ้านของเราอยู่ห่างจากมหาลัยของพี่ไบรซ์ไม่นานมาก ไม่แน่ พ่ออาจจะพาชาร์ลีไปดูด้วย”แต่สีหน้าของเขาดูไม่ยินดีนัก “ผมไม่อยากไป ผมมีเพื่อนแล้ว”ผู้เป็นพ่อถอนหายใจ “แล้วลูกจะปรับตัวได้ เรากลับมาหาพวกเขาได้นะ”ชาร์ลีพยักหน้าน้อย ๆ แว่นตาไหลลงเล็กน้อย เขาจึงขยับให้เข้าที่ ชาร์ลีคลานเข้ามากอดเขาไว้ “บ้านเงียบมากเลยครับ ก่
“เธอไปซานโบซ่า วันต่อมาคาเลบทำเรื่องย้ายโรงพยาบาล ทั้งครอบครัวจะย้ายไปอยู่เมืองอื่น เธอทำอะไร จูน เธอไปพูดอะไร แล้วเจสซี่ไปไหน ฉันโทรหาไบรซ์ก็ไม่ยอมพูด ได้แต่บอกว่ามันไม่เหมือนเดิมตั้งแต่อเล็กซิสไปแล้ว มันอะไรกัน เธอทำอะไร ยัยบ้า อี...โอ๊ย ฉันนึกหาคำด่าไม่ออกแล้ว!”เพี๊ยะ!เป็นทีของจูนบ้าง แม้เธอจะตัวเล็ก แต่เอโลดี้นั้นเตี้ยกว่า เธอไม่ได้ยั้งมือ อีกฝ่ายจึงล้มนั่งบนโซฟา แก้มแดงพอกัน หรืออาจจะมากกว่า เพราะจูนทุ่มแรงเอาคืนไม่มียั้งจริง ๆ เธออยากทำมานานแล้วด้วยซ้ำ“บุกรุกบ้านคนอื่น ทำร้ายเจ้าของบ้าน ปากไม่มีซิปยืนด่าปาว ๆ ฉันแจ้งตำรวจจับเธอได้” ทำไมเธอพูดคล้ายกับเจสซี่นะ แต่จูนเพิ่งนึกได้ว่าเอโลดี้บอกอะไร “เดี๋ยวนะ คาเลบย้ายบ้านเหรอ”เอโลดี้หันหน้ามา แววตามีแต่ความเกลียดชัง จูนมองตอบด้วยสายตาแบบเดียวกัน แปลกดีเนอะ ผู้หญิงสามารถเกลียดกันได้ทั้งที่เจอหน้าครั้งแรก ทั้งสองเกลียดกันตั้งแต่แรกพบ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ยิ่งอีนี่ชอบนั่งเกาะแกะอเล็กซิส เธอยิ่งไม่ชอบ แต่มันกลับกลายเป็นว่าจูนดูเหมือนมีเพื่อนเพิ่มข
กระดาษที่เสียบไว้ตรงประตูยังอยู่ที่เดิม พอเปิดประตูออกไป ข้าวของในห้องไม่มีการเคลื่อนย้าย จูนเช็กกระดาษที่เสียบประตูทุกบานเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครแอบเข้ามา เธอกลายเป็นคนหวาดระแวง แม้แต่ยามนอนยังต้องพกเครื่องช็อกไฟฟ้าไว้ข้างตัว นอกจากจะไม่มีเจสซี่ให้กอดแล้ว ยังกลัวว่าจะมีคนบุกเข้ามา เธอไม่กลับไปนอนที่บ้านเพราะแม่ อย่างน้อยพวกเขาไม่ได้ไปหาครอบครัวเธอ ไม่สิ ครอบครัวของแม่ เธอไม่ได้เกลียดพ่อเลี้ยงที่มีตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเลย แต่ก็ไม่ได้รัก แม่ใช้ชีวิตของแม่ ส่วนเธอใช้ชีวิตของเธอ คงจะดีกว่าถ้าเธอห่างจากพวกเขา แล้วมันก็ดีต่อตัวเธอด้วย และใช่ ชีวิตของผู้หญิงที่หวาดกลัวทุกสิ่ง หวาดกลัวว่าเจสซี่จะเป็นอะไรไป หวาดกลัวว่าพวกมันจะกลับมาทำร้ายเธอ หวาดกลัวว่าพวกมันจะยุ่งกับครอบครัวของแม่เธอทิ้งตัวลงบนโซฟา มันเป็นวันที่หนักหน่วง เพราะมัวแต่คิดเรื่องเจสซี่จึงไม่มีสมาธิซ้อมละคร ถึงขนาดที่ผู้กำกับให้ครูสอนการแสดงมาชี้แนะ จูนโมโหจึงเหวี่ยงออกไป เลยโดนไล่ให้กลับมาไตร่ตรองพฤติกรรมของตัวเอง“ถ้าคุณไม่ปรับปรุงตัว ผมคงต้องหาโอฟีเลียคนใหม่จริง ๆ แล้ว” การได้
“หนูรักน้อง และคิดถึงน้อง แต่ตอนนี้หนูอิจฉาน้อง เจสซี่โดนจับแล้วพ่อยังจะไปอีกเหรอ ที่มาของอเล็กซิส เพื่ออะไร...พ่อจะทิ้งบ้านเพื่อหาครอบครัวที่แท้จริง เพื่อ! ก็พวกเรานี่ไงครอบครัว! อะไร ๆ ก็อเล็กซิส แล้วหนูกับชาร์ลีล่ะ” คำพูดของไบรซ์วนเวียนอยู่ในหัว ทั้งน้ำตาของเธอ ไบรซ์ไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายนัก แต่หลังจากเขาบอกเธอเรื่องเจสซี่และตระกูลฮาร์ต ลูกสาวก็ระเบิดอารมณ์ออกมา เธอทนมาพอแล้ว ไบรซ์เพิ่งยี่สิบเอ็ด เป็นนักศึกษา การเรียนก็คร่ำเครียดแล้วยังต้องทำหน้าที่แม่ ที่ผ่านมาเธอบ่นบ้างแต่ก็ไม่เคยใช้อารมณ์ อย่างมากก็โกรธเจสซี่ที่คบกับจูน จนพี่ชายถูกจับ ความอดทนของเธอก็หมดลงเธอพูดถูก เขาสนใจเธอกับชาร์ลีน้อยลง โดยเฉพาะเมื่อเบียนน่าจากไป คาเลบไม่อาจเป็นประภาคารที่คอยส่องแสงสว่างให้เรือน้อยใหญ่ในทะเล เขาดับแสงลงแบบนี้แล้วเด็ก ๆ จะเดินทางถูกได้อย่างไรใบลาถูกฉีกทิ้งลงถังขยะ คาเลบรู้ว่าตัวเองไม่ได้รักลูกคนไหนมากกว่ากัน ไม่เลย แต่การกระทำอาจทำให้ลูกคนใดคนหนึ่งน้อยใจได้ แม้การตามหาตระกูลฮาร์ตไม่ได้เกี่ยวข้องกับเอชโอวัน แต่เขารู้ว่าในเวลานี้คงมี
เขาเข้าใจความหมายของเธอ แต่ยังส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไปไกลขนาดนั้นไม่ได้ แต่ฉันจะฝึกให้มากกว่านี้ บางที พวกเราอาจจะกลับบ้านได้โดยไม่ต้องพึ่งยาน ไม่ต้องเสี่ยงกับอาวุธของใครก็ตาม หรือถ้ามันอันตรายมากนัก ฉันจะพาครอบครัวของฉัน ของทุกคนมาหาพวกเรา”รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของแต่ละคน ยกเว้นอเล็กซ์ที่ยังไม่พอใจกับการแสดงโชว์เมื่อครู่ เพราะมันมีผลข้างเคียงสำหรับคนที่โดยสารไปด้วย เช่นอเล็กซิสที่แม้อาการจะทุเลาแล้ว แต่เธอยอมรับว่าการเดินทางเมื่อครู่ทรมานที่สุด อาการเวียนหัวคลื่นไส้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เธอไม่เคยเมารถหรือเมาเรือเลย แต่แค่เคลื่อนย้ายฉับพลันแทบอ้วก“วันหลังห้ามวิ่งไปกอดใครแบบนั้นอีกนะ” อเล็กซ์ว่า นั่นเป็นเรื่องรองแล้วตาบ้า! “นายต้องถามเจ้าตัวก่อน ไม่งั้นครั้งหน้า ฉันช็อกนายตายแน่”“ถ้าจับฉันได้นะ” เฟร็ดหัวเราะใส่หน้าแล้วหายวับไป ทิ้งให้อเล็กซ์เตะอากาศ“แต่ข่าวดีมากเลยนะ” ฟีบี้ว่า “พวกเราอาจจะได้กลับบ้านจริง ๆ แล้ว”อเล็กซิสเป่าปาก เธอยืนได้แล้ว แม้จะยังมึนนิดหน่
เขาจับมือเธอที่หน้าอกตัวเอง สัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อด้านในที่กำลังเต้นอยู่ อเล็กซิสรู้สึกว่าใจเธอเต้นแรงไปด้วย พวกเขาอยู่ด้วยกันก็จริง แต่ไม่บ่อยนักที่อเล็กซ์จะมีอาการเหมือนคนละเมอเพ้อ และมันก็ทำให้เขาน่ารักขึ้นมาก“ฉันพยายามบอกให้เขาวิ่งตามเธอไป แต่หมอนั่นขี้ขลาด”“เขา...ตัวนายอีกคนไม่ตามฉันไปเหรอ” ทำไมต้องเสียดายด้วยนะเขาส่ายหน้า “ฉันหวังว่าพรุ่งนี้เขาจะตามเธอไป” พูดจบสายตาพลันจริงจังขึ้นมา ราวกับตัวเขาอีกคนในฝันมีชีวิต โลกอีกใบนั้นอาจมีจริง แต่แล้วดวงตาชายหนุ่มลดลงจดจ่ออยู่กับมือของเธอที่เขาจับอยู่ สีหน้าเศร้าหมองลง ความฝันทำให้เขาเป็นถึงขนาดนี้เลยหรือ“อเล็กซ์...”“มันเหมือนจริงมาก เจ้านั่นก็ยังเหมือนเดิม พูดมาก” เขาเล่าต่อ “แล้วจากนั้นเบนที่ฉันรู้จักจริง ๆ ก็ดึงฉันออกไปจากโลกนั้น แล้วมันก็เหมือนฝันเก่า ๆ พวกเราคุยกัน ฉันถามหมอนั่นว่าเมื่อกี้มันคืออะไร มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า หมอนั่นบอกว่า นายอยากให้มันเป็นจริงไหม ฉันบอกว่าอยาก เพราะนายยังมีชีวิตอยู่” เบ้าตาของเขา